คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : Hidden Truth l V X You Part 1 (100%)
Hidden Truth Part 1
Paring: Yandere! Kim Taehyung x Fem! reader
Genre: Thriller, Angst, Slight smut
Warnings: Slight Dub-Con, Unprotected Sex, Yandere Behavior,
Mention of blood, drugs and death
This chapter
contains sexual scene, who is under 18 years please be discretionary in reading
เพราะรักคือการเห็นแก่ตัว
หญิงสาวพยายามลืมตาขึ้นช้า
ๆ โดยที่รู้สึกว่ามันช่างหนักอึ้ง ก่อนจะเริ่มขยับตัวอย่างลำบาก
ที่แขนเรียวมีสายน้ำเกลือและสายอื่น ๆ เยอะจนยุ่งเหยิง ร่างของตัวเองที่กำลังนอนอยู่บนเตียง
และกลิ่นของยาที่ตีกัน ภาพที่เห็นตรงหน้าทำให้สติมึนงงไปหมด
ไม่สามารถนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้าได้
“ฟื้นแล้วเหรอ”
เธอหันไปมองตามเสียงก็พบกับชายหนุ่มที่เดินเข้ามาใกล้เตียงของคุณ
ชายหนุ่มคนนั้นถือวิสาสะจับมือซีดขาวของคุณ สายตาของเขาที่ส่งผ่านมาให้คุณดูแปลกประหลาด
คุณมองกลับไปที่เขา สมองประมวลผลเกี่ยวกับเรื่องของชายตรงหน้า
แต่หากมันไม่มีอะไรหลงเหลือในหัวของคุณเลย
“คุณเป็นใครเหรอคะ”
สายตาของอีกฝ่ายก็เปลี่ยนไปแทบจะในทันที คล้ายจะดูผิดหวังแต่ก็ไม่แน่ใจนัก
“จำเราไม่ได้เหรอ”
ชายหนุ่มเอ่ยถามอีกครั้ง คุณพยักหน้าตอบกลับอย่างซื่อ ๆ
คนที่ยืนอยู่ข้างเตียงช๊อคอ้าปากค้าง ก่อนจะกดกริ่งเรียกพยาบาลเข้ามา
หลังจากตอบคำถามหลายข้อของคุณหมอ
พยาบาลหลายคนต่างยืนล้อมเตียงคุณไว้ บางข้อทำให้คุณสับสน
และบางข้อที่คุณพยายามนึกเท่าไหร่ก็ไม่สามารถจำมันได้ โดยมีสีหน้ากังวลของผู้ชายที่ชื่อ
แทฮยอง คอยจ้องมองคุณอยู่ห่างๆ
คุณหมอเจ้าของเคสสรุปสั้นๆ
ให้คุณและเขาฟังว่า คุณมีอาการภาวะเสียความจำ
โดยความจำที่หายเป็นความทรงจำที่เกี่ยวกับผู้ชายตรงหน้าคุณ
และเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ในขณะที่คุณยังสามารถจำ คนในครอบครัว
หรือเพื่อนสนิทได้ สาเหตุมาจากอุบัติเหตุที่คุณประสบเมื่อสามวันก่อน
เพราะสิ่งนั้นเลยเป็นที่มาของการที่คุณไม่สามารถจำคู่หมั้นของตัวเองได้
หลังจากที่คุณหมอเจ้าของไข้จากไป
คุณพยายามขอติดต่อครอบครัวจากคนที่เป็นคู่หมั้นของคุณ แต่ทว่าอีกฝ่ายปฏิเสธพร้อมทั้งบอกให้คุณพักผ่อนก่อน
คุณที่แทบจะช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ เลยทำได้แค่นอนพักผ่อนบนเตียงคนไข้
โดยที่ไม่พูดอะไรกับแทฮยองอีก
ชายหนุ่มดูเป็นห่วงคุณ
แต่คุณกลับรู้สึกแปลก ไม่ชอบมาพากลบางอย่างในตัวชายหนุ่มคนนี้
สัญชาตญาณบอกคุณให้ระวังเขา แต่คุณไม่รู้ว่าเหตุผลหรือที่มาของความรู้สึกนี้คือสิ่งใดเช่นกัน
อาจจะเพราะเขากลายเป็นคนที่คุณจำไม่ได้ในตอนนี้ก็ไม่แน่ใจ
เสียงเปิดประตูทำให้คุณคืนสติกลับมาจากภวังค์หันไปมองหญิงสาวในชุดเดรสรัดรูปสีแดงที่อยู่หน้าประตู
คุณที่จำอะไรไม่ได้มองคนมาใหม่อย่างมึนงง นาทีนั้นมีรอยยิ้มเหี้ยมเกรียมกลับมาที่คุณ
ก่อนจะแผดเสียงหัวเราะไปทั่วทั้งห้อง
ยังไม่ทันได้ทำอะไรต่อชายหนุ่มที่เฝ้าคุณวิ่งไปคว้าตัวหญิงสาวมาใหม่พยายามผลักหล่อนออกไปข้างนอก
โดยที่มีเสียงของหญิงสาวคนนั้นกร่นด่าคุณ สาปแช่งและสมน้ำหน้าไปด้วย
ยิ่งทำให้คุณไม่เข้าใจมากกว่าเดิม
ทุกอย่างดูวุ่นวายขึ้นเมื่อมีบุรุษพยาบาลเข้ามาชาร์ทตัวเธอไว้
ในที่สุดสถานการณ์ก็สงบลงหลังจากผู้หญิงคนนั้นและคู่หมั้นของคุณออกไปจากห้องพักฟื้นสักพักนึงชายหนุ่มก็กลับมาที่ห้องตามเดิม
คุณถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทันที แต่ชายหนุ่มดูไม่สนใจที่จะตอบคุณนัก คุณรู้แค่เพียงว่าอีกฝ่ายเป็นคนที่ไม่ค่อยชอบคุณ
แม้จะไม่ค่อยพอใจกับคำตอบของแทฮยองนัก
แต่คุณก็พยักหน้ารับคำและขี้คร้านเกินกว่าจะถามต่อ
ชายหนุ่มอยู่กับคุณแทบจะ
24 ชั่วโมง
คุณไม่เคยเห็นแทฮยองออกไปข้างนอกนาน ๆ สักครั้ง มีบางครั้งที่รับโทรศัพท์บ้าง
แต่โดยปกติเขาจะทำงานที่โซฟาปลายเตียงเสมอ คุณเคยถามเรื่องงานของเขาอยู่บ้าง
อีกฝ่ายก็ตอบว่าเป็นธุรกิจส่วนตัว
ทว่าเมื่อคุณถามถึงงานของตัวเอง
เขากลับตอบว่าคุณเคยทำงาน แต่หลังจากประสบอุบัติเหตุแทฮยองได้ลาออกให้คุณแล้ว
คุณไม่เคยเห็นใครมาเยี่ยมเลยนอกจากแทฮยองที่มาเฝ้าในห้องตลอด
คุณพยายามถามแทฮยองแต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะพยายามบอกปัดคุณตลอด
มันทำให้คุณรู้สึกไม่ดีเท่าไหร่นักกับการที่ต้องอยู่คู่หมั้นตลอดทั้งวัน
คุณที่ไม่มีแม้กระทั่งมือถือ
ได้แต่นอนพักผ่อนบนเตียง
บางครั้งคุณบ่ายเบี่ยงความเอาใจใส่ของแทฮยองเพราะความเบื่อ แม้ชายหนุ่มจะรู้ แต่ไม่ว่าคุณจะทำอะไรอีกฝ่ายจะรีบเข้ามาช่วยเสมอ
ถึงอย่างนั้นก็ไม่ทำให้คุณรู้สึกดีขึ้นเลย
คุณรู้สึกตัวเหมือนกำลังโดนขังในกรง
“ในมือคุณน่ะ
อะไร” คุณทักเขา ขณะที่ชายหนุ่มเดินมาที่ข้างเตียง
ผ่านมาหลายวันแล้ว เคราะห์ดีที่คุณไม่มีบาดแผลฉกรรจ์
อาการของคุณดีขึ้น จนคุณหมอบอกว่าคุณน่าจะออกจากโรงพยาบาลได้อีกไม่กี่วัน
หากแต่เรื่องความจำที่หายไปยังไม่กลับมาสักที
คุณได้รับคำแนะนำว่าอาจจะต้องใช้เวลาอยู่กับแทฮยองให้มากขึ้น
เพื่อกระตุ้นความทรงจำเดิมให้กลับมา
ที่ผ่านมาคุณกับแทฮยองได้ใช้เวลาด้วยกันมากจนคุณรู้สึกอึดอัด
แม้ว่าเขาจะพยายามช่วยเหลือ เอาใจใส่คุณขนาดไหนก็ตาม มีบ้างที่เขาเล่าเรื่องของตัวหรือเรื่องที่คุณได้ใช้เวลาอยู่กับเขาก่อนหน้านี้ให้ฟังบ้าง
แต่คุณก็ไม่รู้สึกสนิทสนมกับเขาขึ้นมาเลย
“แหวนหมั้นของเรา...”
เขาพูด คุณมองไปที่แหวนเงินกลมเกลี้ยงในมือของชายหนุ่ม แทฮยองค่อย ๆ
จับมือของคุณก่อนสวมมันเข้าไปที่นิ้วนางข้างขวา
“ทำไมเพิ่งเอามาให้สวมล่ะ”
คุณถาม ดูเขามีสีหน้าตกใจนิดหน่อยก่อนจะพูดขึ้น
“คุณถอดมันออก
ก่อนเกิดอุบัติเหตุ” น้ำเสียงของแทฮยองดูนิ่งขึ้น ยกมือที่เพิ่งสวมแหวนขึ้นจูบแผ่วเบาทีละข้อนิ้ว
ในใจคุณรู้สึกแปลกประหลาด ไม่เชิงว่าอยากปฏิเสธการจูบของเขา แต่คุณก็รู้สึกไม่ดีเท่าไหร่นัก
“โอ๊ย!”
พลันในหัวก็ปวดแปล๊บขึ้นมา แทฮยองพยายามถามว่าเกิดอะไรขึ้น
แต่ความปวดนั้นมันแล่นริ้วไปทั้งร่างจนคุณไม่สามารถทำอะไรได้ ชายหนุ่มกดกริ่งเรียกพยาบาลเข้ามาดูอาการของคุณทันที
ภาพบางภาพในสมองก็แล่นกลับมาคืนมาเป็นฉาก
ๆ มันเป็นภาพที่คุณใช้ชีวิตอยู่กับอีกฝ่าย สวมแหวนวงนั้นให้กับคุณ
และภาพที่คุณมองเห็นไฟจากรถยนต์พุ่งเข้าหาตัวก็แสงวาบนั้นก็หายไป
พยาบาลเข้ามาในห้องหลังจากนั้นไม่กี่นาที
ความปวดค่อย ๆ คลายลงทีละนิด คุณบอกปัดความช่วยเหลือของพยาบาล
เพราะคิดว่าตัวเองไม่น่าเป็นห่วงแล้ว ขณะที่แทฮยองอยากให้ดูอาการเสียหน่อย
จนคุณต้องปฏิเสธอย่างหนักแน่นอีกครั้ง เขาถึงยอมให้พยาบาลออกไป
“โอเคจริง
ๆ ใช่ไหม” แทฮยองถามย้ำอีกครั้ง คุณพยักหน้าช้า ๆ ชายหนุ่มเดินกลับมาที่ข้างเตียงอีกรอบ
จากภาพที่แล่นมาในหัวเมื่อสักครู่
เหมือนจะลดความคลางแคลงใจของคุณที่มีตั้งแต่วันแรกลงไปได้บ้าง
อย่างน้อยความทรงจำยังยืนยันในสิ่งที่เขาพูดมากได้
“เมื่อกี๊เกิดอะไรขึ้นเหรอ”
คู่หมั้นหนุ่มถามด้วยความเป็นห่วงเป็นใย กุมมือที่วางบนเตียงอย่างนุ่มนวล จนคุณรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นของเขา
“เหมือนความจำมันกลับมาน่ะ”
คุณยอมพูดหลังจากตัดสินใจว่าจะพูดเรื่องนี้กับคนฟังดีไหม
ท่าทีของแทฮยองดูกระตือรือร้นขึ้นอย่างน่าแปลกใจ
ดวงตาคมกริบดูลุกโพลงไปด้วยความอยากรู้
“เห็นอะไรเหรอ”
แทฮยองยิ้มค้างจ้องมามองที่คุณจนดูน่ากลัวพิกล คุณหวาดกลัวมันจนต้องหลบตา
ดูเหมือนชายหนุ่มจะรู้ตัวก่อนจะเปลี่ยนท่าทีให้อ่อนโยนขึ้น
“เห็นตอนที่อยู่ด้วยกัน
สวมแหวนให้ แล้วก็...อยู่บนเตียง”
คุณรู้สึกอยากตบปากตัวเองที่พูดเรื่องน่าอายแบบนั้น
แต่นั่นก็ทำให้คนฟังยิ้มกว้างในทันทีที่จบประโยค
“ดีใจจัง
ความจำเริ่มกลับมาแล้วนะ” ฝ่ามือใหญ่ของชายหนุ่มลูบกลุ่มผมบนศรีษะของคุณ
ยิ้มตอบกลับให้อีกฝ่ายอัตโนมัติ
ในที่สุดคุณก็ได้ออกจากโรงพยาบาลกลับไปอยู่ที่บ้าน
แผลทั้งหมดเหลือทิ้งไว้แต่เพียงรอยจาง ๆ
และความทรงจำที่ตั้งแต่วันนั้นก็ยังไม่สามารถจำอะไรได้อีก คุณคิดว่าหลังจากออกจากโรงพยาบาลคงอาจจะได้ออกไปพบผู้คนบ้าง
ไม่ต้องทนอุดอู้อยู่บนเตียงคนป่วยอีก
แต่มันไม่ได้เป็นไปตามนั้นเมื่อมาถึงสิ่งที่แทฮยองเรียกว่าบ้าน
ห่างไกลและลึกลับ
นั่นคือคำนิยามของบ้านหลังนี้
มันอยู่ห่างไกลจากเมืองค่อนข้างมาก ลึกเข้าจนถึงในป่า ทางเข้าค่อนข้างซับซ้อนจนคุณเองรู้สึกแปลกใจ
มีเพียงบ้านหลังนี้หลังเดียวเท่านั้นที่ตั้งเด่นตระหง่านอยู่ใจกลางกลุ่มต้นไม้สูงใหญ่ในป่านั้น
มันเป็นบ้านไม้ที่ค่อนข้างใหญ่โต มีทุกอย่างพร้อมในนั้น
รวมทั้งสวนหลังบ้านที่ถูกตกแต่งมาอย่างดี มันเงียบ สงบ จนทำให้คุณรู้สึกกลัว
แทฮยองบอกว่ามันเป็นคำขอของคุณหลังจากที่แต่งงานกันแล้ว
แต่พอคุณประสบอุบัติเหตุเขาเลยคิดว่าควรย้ายมาตั้งแต่ตอนนี้
เพราะเขาอยากใช้เวลากับคุณ
เลยตัดสินใจย้ายข้างของทั้งหมดจากคอนโดที่อยู่ด้วยกันที่นี่
เมื่อคุณมาถึงมันก็เสร็จสมบูรณ์พร้อมอยู่แล้ว
คุณรู้สึกแปลก ๆ
กับคำบอกเล่าของหนุ่มคู่หมั้น และค่อนข้างไม่พอใจที่ไม่ได้สิ่งที่ตนเองหวังตามต้องการ
คุณอยากออกไปเจอโลกภายนอกมากกว่าจะต้องมาอยู่ในที่ห่างไกลความเจริญเหมือนกับห้องคนไข้ในโรงพยาบาลขนาดนี้
แม้ว่ามันจะเป็นคำขอของคุณเองก็ตามที
คุณพยายามขอร้องแทฮยองให้กลับเข้าไปในเมืองแต่ก็ไม่เป็นผล
เขาเอาแต่พูดว่าเรื่องนี้เป็นคำขอของคุณจะเปลี่ยนใจได้อย่างไร
คุณรู้สึกเครียดจนอยากอยู่คนเดียว
ชายหนุ่มตามใจคุณเมื่อพาคุณขึ้นมาถึงห้องนอนที่มีเตียงคิงไซส์ขนาดใหญ่ตั้งอยู่กลางห้อง
คุณทิ้งตัวลงบนเตียงกว้าง กลิ่นของเครื่องใช้ต่าง ๆ ทำให้คุณรู้สึกคุ้นเคยเป็นอย่างดี
คุณไล่มองเฟอร์นิเจอร์ในห้องจนไปถึงชั้นหนังสือที่อยู่ปลายเตียง
คุณลุกเดินเข้าไปใกล้มัน
อย่างน้อยที่นี่ก็ยังมีหนังสือให้คุณอ่านแก้เบื่อบ้าง
คุณมองหนังสือที่เรียงรายในชั้นอย่างสนอกสนใจ มันมีตั้งแต่หนังสือทำอาหาร จิตวิทยา
จนไปถึงนิยาย คุณรู้สึกคุ้นเคยกับหนังสือประเภทนี้อย่างประหลาด
รู้สึกผ่อนคลายทันทีที่ได้จับ อาจจะตัวตนในอดีตของคุณเป็นคนชอบอ่านนิยายก็ได้
คุณถึงดีใจ
คุณสะดุดตากับในกับหนังสือเล่มนึงสันหนังสือของมันค่อนข้างโดดเด่นกว่าเล่มอื่น
ๆ ในชั้นนั้น ก่อนจะหยิบหนังสือเล่มนั้นขึ้นมาไว้ในมือ
‘the metamorphosis:
Franz Kafka.’
หน้าปกของหนังสือดูลึกลับและน่ากลัวอย่างประหลาด
ดูอ่านปกหลังของหนังสืออย่างตั้งใจ เนื้อหาของมันค่อนข้างแปลกประหลาด
และน่าสนใจเป็นอย่างมากจนคุณต้องเปิดอ่านหน้าแรก
มีบางสิ่งเขียนอยู่หนังสือและมีรูปที่ถูกฉีกคั่นไว้อยู่
แด่ ผู้ชายที่ชั้นรัก
คนโกหกหลอกลวง
คิมแทฮยอง
รูปที่คั่นหนังสือเป็นรูปของคุณกับชายหนุ่มที่ถูกฉีกแยกออกจากกัน
หัวของคุณปวดแปลบขึ้นมาอีกครั้ง ภาพตรงหน้าค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นภาพในอดีต
คราวนี้เป็นภาพที่คุณปารูปบางอย่างใส่แทฮยองในร้านอาหาร ตะโกนด่าทอจนคนในร้านหันมามองคุณเป็นตาเดียว
พร้อมกับมองไปที่ผู้หญิงที่นั่งอยู่ตรงข้ามชายหนุ่ม คุณจำได้ทันทีว่าเป็นคนเดียวกับคนที่คุณเคยเจอที่โรงพยาบาล
ก่อนคุณจะล้มและภาพทั้งหมดก็ดับวูบ
คุณลืมตาตื่นขึ้นช้า ๆ
ก็พบว่าตนเองอยู่ในห้องนอนที่เดิม และฟ้าข้างนอกมืดลงแล้ว มองไปข้างเตียงก็พบกับชายหนุ่มคู่หมั้นกำลังอ่านหนังสืออยู่
คุณพยายามลุกขึ้นจากเตียง แทฮยองที่รู้ว่าคุณตื่นแล้วรีบเข้ามาหาทันที
“โอเคไหม”
เขาพูดก่อนจะช่วยพยุงให้ลุกนั่งบนเตียงกว้าง คุณพยักหน้าเบาๆ
ความทรงจำก่อนที่จะหมดสติก่อนหน้านี้กลับมาทีละนิด คุณตัวแข็งเกร็งทันทีที่นึกเรื่องเมื่อตอนบ่ายออกทั้งหมด
ภาพเหตุการณ์นั้นมันทำให้คุณปวดหน่วง โกรธแค้นชายหนุ่มตรงหน้าเป็นอย่างมาก
ภาพตรงหน้าจะเป็นอย่างอื่นไปได้อย่างไร นอกจากเขานอกใจคุณ แต่ถ้าไม่ได้รักคุณ
แทฮยองจะกลับมาดูแลคุณในฐานะคนรักทำไม
ใบหน้าเคร่งเครียดไม่รู้ตัวของคุณเรียกความสนใจจากชายหนุ่ม
“เป็นอะไรหรือเปล่า?
” เขาถามเรียกคุณให้กลับมาจากภวังค์ คุณส่ายหน้าเบาๆ
โดยที่ก้มหน้าไม่มองตาของแทฮยองอย่างปกติ ชายหนุ่มทราบได้ถึงความผิดปกติทันที
แทฮยองนิ่งบรรยากาศภายในห้องดูเปลี่ยนไปโดยฉับพลัน
ชายหนุ่มถือวิสาสะจับมือของคุณแน่น
“ถามว่าเป็นอะไร”
เสียงทุ้มแต่หากว่ามันเย็นจนทำให้คุณขนลุก คุณเงยหน้ามองตาของชายหนุ่มที่บัดนี้ มันแข็งกร้าว
เย็นเยียบจนทำให้คุณสั่น
“ปะ...เปล่า
ไม่เป็นไรค่ะ” มือของแทฮยองเหมือนไม่รู้ว่ากำลังให้ข้อมือของคุณร้าว จนคุณนิ่วหน้า
“แล้วทำไมถึงสลบลงไป”
“…” คุณนิ่งไม่รู้จะตอบอย่างไรดี
แต่คุณไม่อยากพูดถึงเรื่องความทรงจำของคุณตอนนี้ สถานการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ความไว้ใจในตัวของเขาเป็นศูนย์
“ความทรงจำกลับมาแล้วเหรอ”
คำพูดของเขาทำให้ดวงตาของคุณสั่นระริก
เสียงหัวใจเต้นระรัวด้วยความกลัวว่าความจริงจะถูกเปิดเผย
“ไม่ใช่นะ”
คุณยังคงปฎิเสธแต่หากในสมองกลับทำงานอย่างหนักเพื่อโกหกอีกฝ่าย “เดินทางไกลมันเลย
ปวดหัวแล้ววูบไปแค่นั้นแหละ” คุณมองสายตาเย็นยะเยือกกลับด้วยความกลัว
แต่หากมันเป็นการทำให้อีกฝ่ายเชื่อ คุณก็พร้อมจะทำ
“ขอบคุณนะคะ”
ก่อนจะค่อย ๆ ฝืนคลี่ยิ้มหวานให้ชายหนุ่มที่นั่งบนเตียงกว้างเช่นกัน ฝ่ามือของแทฮยองคลายออกช้า
ๆ ก่อนจะเอ่ยคำขอโทษที่เขาลืมตัวบีบมือคุณ
“ถ้างั้น
คืนนี้ขอนอนเลยนะคะ” คุณขออนุญาตนอนก่อน
รู้ตัวดียังไงก็ไม่สามารถหนีการนอนด้วยกันได้ในคืนนี้
และได้ถึงเช้าวันพรุ่งนี้เร็วขึ้น
“เดี๋ยว...กินยาก่อนนะ”
คุณแปลกใจเล็กน้อยที่เห็นยา เพราะตั้งแต่ออกจากโรงพยาบาลคุณไม่จำเป็นต้องกินยา
“ยาอะไรคะ”
“วิตามินน่ะ”
แทฮยองพูดด้วยท่าทีสบายขึ้น บรรยากาศดูไม่น่ากลัวเหมือนเดิม
เขาหยิบถ้วยใส่ยาจากหัวเตียงเทใส่ในมือคุณ
คุณมองเม็ดยาสี่ห้าเม็ดบนมือก่อนจะมองหน้าของคู่หมั้นหนุ่มที่กำลังยิ้มอย่างอ่อนโยนที่ดูต่างจากตอนเมื่อสักครู่ลิบลับ
คุณคิดว่าอย่างน้อยพวกวิตามินอาจจะทำให้ความทรงจำของตัวเองกลับมาไวขึ้น
จึงรับมันกรอกเข้าไปในปาก ดื่มน้ำที่ได้รับมาจากเขาตามลงไป
“ขอเปลี่ยนชุดนอนได้ไหมคะ” คุณขออนุญาตแทฮยองเปลี่ยนเสื้อผ้า
ชายหนุ่มรู้ว่าคุณยังไม่ชินกับการเปิดเผยเนื้อตัวให้เขาเห็นเหมือนเมื่อก่อน
เขาพนักหน้าตอบรับ ก่อนจะปล่อยคุณไว้ในห้องนอนคนเดียวอีกครั้ง
คุณรู้สึกโล่งอกทันทีหลังจากที่ประตูห้องนอนปิดลง
ก่อนจะเดินตรงไปที่ตู้เสื้อผ้าที่อยู่ข้างๆ ประตูห้องน้ำที่อยู่ในห้องนอน
คุณประหลาดใจเล็กน้อย เสื้อผ้าของคุณที่อยู่ในตู้ทั้งหมดมันดูค่อนข้าง...ใหม่
มันไม่มีร่องรอยการสวมใส่ หรือยับเลยแม้แต่นิดเดียว
แม้แต่สไตล์ของเสื้อผ้าในตู้ก็ยังทำให้คุณสับสน
มันดูค่อนข้างขัดกับสิ่งที่แทฮยองเล่าให้ฟังโดยสิ้นเชิง
ครั้งหนึ่งในโรงพยาบาลชายหนุ่มบอกกับคุณว่าคุณชอบอะไรที่เรียบง่าย ทะมัดทะแมง
ไม่ฉูดฉาด ดูสุภาพมากกว่าจะตามแฟชั่น แต่ในตู้นั้นมีแต่ชุดสำหรับผู้หญิง
คุณพยายามไล่ความคิดแปลก ๆ ออกจากหัว
ก่อนจะหยิบชุดนอนซาตินสีน้ำเงินที่อยู่ในนั้นขึ้นมาเปลี่ยนแล้วกลับไปนอน
คุณวางหัวลงบนที่หมอน
ทิ้งตัวลงบนที่นอน แต่ในหัวก็ยังหยุดคิดเรื่องคำถามกับสิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัวไม่ได้
ทำไมชายหนุ่มต้องดูแลคุณทั้งที่นอกใจ เสื้อผ้า
หรือแม้กระทั่งอารมณ์ที่เปลี่ยนไปมาเหมือนพายุของแทฮยอง
ไม่นานตาของคุณกลับรู้สึกหนักขึ้น...
หญิงสาวรู้สึกเบาหวิวมันคล้ายกับอยู่ในฝันแต่ทว่าสัมผัสวาบหวามที่ได้รับเหมือนกับว่าเป็นของจริงชายหนุ่มกำลังค่อย
ๆ ดันตัวตนที่ร้อนรุ่มเข้ามาในร่าง
เสียงทุ้มครึมครางยามเมื่อแกนกายของตัวเองอยู่ในจุดลึกล้ำในร่างของเธอ
เรียวแขนวาดโอบรอบลำคอแกร่งแน่น
ใบหน้าสวยเชิดขึ้นอย่างต้องการระบายความต้องการรับบนหมอนที่กำลังอิง
เสียงลมหายใจกอปรกับเสียงครางทุ้มดังขึ้นข้างหูของเธอ ก่อนร่างกายคนบนร่างจะขยับเคลื่อนตัว
ผลักดันตัวตนที่เกร็งเครียดโจนจ้วงเข้าไปในร่างของเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่า
เสียงครางของหญิงสาวสั่นพร่ายามเมื่อตัวตนของอีกฝ่ายเข้ามาลึกที่สุดในร่าง
ความร้อนจากร่างกายของทั้งสองแทบหลอมละลายเป็นหนึ่งเดียวกันบนเตียงกว้าง
จนในที่สุดห้วงอารมณ์ที่อัดอั้นก็ระเบิดออก
คลื่นแห่งความต้องการซัดถาโถมเข้าสู่ร่างของหญิงสาวในตอนท้าย
คุณตื่นขึ้นยามแสงอาทิตย์ส่องตา ขยับตัวอย่างขี้เกียจก่อนรับรู้ว่าร่างของตัวเองเหมือนก้อนตะกั่ว ทุกการเคลื่อนไหวบ่งบอกว่าร่างทั้งร่างกำลังกรีดร้อง มันปวดเกร็งตามเนื้อตัวไปเสียหมด คุณนิ่วหน้าด้วยความปวดเมื่อย ลำตัวไปจนถึงขาเรียวก็เมื่อยขบด้วยเช่นกัน
แต่ความรู้สึกนึงที่ไหลผ่านเข้ามาในร่างคือความรู้สึกร้อนวูบวาบอย่างประหลาด
อาจจะเป็นเพราะคุณคิดถึงเรื่องความฝันเมื่อคืน มันเป็นฝันประหลาดราวกับเกิดขึ้นจริง
คุณสำรวจเนื้อตัวของตัวเองอย่างละเอียดอีกครั้งก็ไม่พบความผิดปกติ
เสื้อผ้ายังอยู่บนตัวครบ ไม่มีร่องรอยตามร่างกาย หากแค่ไม่มีแทฮยองอยู่บนเตียงนั้น
คุณอยู่คนเดียวในห้อง
คุณรีบลุกขึ้นจากเตียงแม้ว่าค่อนข้างจะทุลักทุเลอยู่บ้าง
แต่คุณสามารถยืนและเดินลงไปที่ชั้นล่างได้สำเร็จ จนได้พบกับคู่หมั้นหนุ่มที่กำลังทำอาหารเช้าอยู่ด้านล่าง
คุณเดินไปทักอีกฝ่ายในทันที
“อรุณสวัสดิ์ค่ะ”
“นั่งก่อนสิ
กำลังจะเสร็จแล้วล่ะ” แทฮยองหันมายิ้มตอบคุณ
ใบหน้าที่สวมแว่นของชายหนุ่มดูเป็นเรื่องปกติสำหรับไปแล้ว
ดูชายหนุ่มจะตั้งใจทำเป็นพิเศษ คุณนั่งลงบนเก้าอี้สำหรับโต๊ะอาหารอย่างว่าง่าย
คุณรู้สึกเหมือนหัวตัวเองทำงานอย่างหนักจนแทบระเบิด
“เมื่อคืนคุณได้เข้าไปนอนในห้องไหม”
คุณเอ่ยถามแทฮยอง
ขณะที่มือของอีกฝ่ายกำลังเทของที่อยู่ในกระทะลงบนจานเตรียมเตรียมไว้ก่อนหน้า
“ผมมัวแต่เคลียร์งานที่ห้องทำงานเลยนอนอยู่ข้างล่าง
มีอะไรหรือเปล่า” ชายหนุ่มบอกด้วยเสียงเรียบเฉย และเขายังอยู่ชุดเดียวกับเมื่อวาน
คุณสันสนและมึนงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ในหัวพยายามหาคำตอบกับเรื่องตรงหน้า ทำไมคุณถึงฝันถึงเรื่องที่เหมือนจริง
คุณปวดเมื่อยไปทั้งร่าง แต่ไม่สามารถหาสรุปของสาเหตุได้
ไม่มีสิ่งใดพิสูจน์ได้ว่าเรื่องในฝันนั้นเกิดขึ้นจริง
คุณปลอบใจตัวเองว่าแค่คิดไปเอง และคุณกังวลในตัวคนตรงหน้ามากเกินไปจนฝันประหลาด
“แค่ไม่เห็นคุณที่ห้องน่ะค่ะ”
คำตอบของคุณแทฮยองยักไหล่ ก่อนจะเสิร์ฟอาหารเช้าลงบนโต๊ะ มันเป็นแค่ไส้กรอก ไข่ดาว
และแฮมทอดอย่างง่าย ๆ ชายหนุ่มนั่งบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามคุณ
ก่อนจะลงมือทานอาหารเช้าอย่างเงียบ ๆ ด้วยกัน
“คุณแทฮยองปกติเป็นคนทำอาหารเหรอคะ?
” คุณถามเพื่อเปลี่ยนเรื่อง กลัวเขาจะคาดคั้นคุณแบบเมื่อคืนอีก
“ปกติคุณทำ
ว่าแต่ฝีมือผมใช้ได้ไหม” เขาถามก่อนจะทานต่อ
“รสชาติใช้ได้อยู่ค่ะ
ยังงี้สาว ๆ ต้องติดตรึมแน่เลย” คุณหัวเราะเบา ๆ
ก่อนจะรู้สึกเหมือนตัวเองหลุดพูดอะไรที่ไม่ดีออกไป
ดูได้จากท่าทีที่นิ่งทันทีของอีกฝ่าย
“ผมมีคุณแค่คนเดียว”
น้ำเสียงนั่นเย็นยะเยือกเน้นย้ำทุกคำในประโยคจนคุณต้องกลืนน้ำลาย
ดวงตาคมจ้องเขม็งมาทางคุณ คุณหลบตาทันทีที่รู้สึกไม่ปลอดภัย
โกหก! คำพูดนั้นลอยขึ้นในหัวฉับพลัน
“คุณคิดว่าผมมีคนอื่นเหรอ”
น้ำเสียงบ่งบอกอารมณ์ที่ไม่พอใจของอีกฝ่ายทำให้คุณร้อนลน
คุณสัญญากับตัวเองว่าจะไม่ยอมบอกเขาเด็ดขาด ถึงเหตุการณ์เมื่อวาน
“ทะ...ทำไมคุณต้องอารมณ์เสียด้วย
มันก็แค่คำพูดของคนที่ความจำเสื่อมนะ” คุณเฉไฉพยายามขึ้นเสียงใส่อีกฝ่ายบ้าง
เพื่อกลบเกลื่อนสิ่งที่อยู่
“คุณทำตัวแปลกอย่างนี้ตั้งแต่เมื่อวานแล้วนะ”
เขาเริ่มรู้สึกว่าคุณเปลี่ยนไปมากขึ้นทุกที
และมันแทบจะต่างจากตอนที่อยู่โรงพยาบาลโดยสิ้นเชิง
“คุณก็เหมือนกันนั่นแหละ” คุณตอกกลับคุณจ้องตาของเขากลับเสริม คุณยอมให้เขารู้เรื่องนี้ไม่ได้
หลังจากที่จ้องตากันได้สักพักแทฮยองเป็นสายหลบสายตาก่อนจะถอนหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน
ก่อนสูดลมหายใจเข้าวางส้อมและมีดในมือลง
“ผมขอโทษที่หาเรื่องนะ
ขอโทษจริง ๆ ” น้ำเสียงทุ้มเปลี่ยนไปลิบลับในคราวนี้มันฟังอ่อนโยนนุ่มนวลผ่อนคลายลง
ดึงมือของคุณที่อยู่บนโต๊ะมากุมไว้เบา ๆ จนคุณเริ่มสับสน
“แต่ขอร้อง...อย่าไปจากผมอีกเลยนะ” ประโยคนั้นสั่นพร่าจนคุณใจสั่น
น้ำตาไหลอาบแก้มบนใบหน้าหล่อเหลาทันทีที่สบตาเข้า
ตัวของชายหนุ่มแล้วสะเทิ้นอย่างหนักเพราะแรงสะอื้น
“คุณแทฮยองชั้นไม่ได้ไปไหนเลยนะคะ”
คุณพูด ก่อนจะเอามืออีกข้างมากุมมือของเขาไว้เหมือนกัน
คุณรู้สึกทำตัวไม่ถูกที่อีกฝ่ายจู่ ๆ ก็ร้องไห้
“สัญญากับผมได้ไหมว่าคุณจะไม่ไปไหน”
คุณสงสัยว่าทำไมอีกฝ่ายถึงขอแบบนี้ มันดูยึดติดเกินไปหรือเปล่านะ?
“ได้ค่ะ”
คุณพยักหน้า ชายหนุ่มลุกจากโต๊ะ หันคุณมาทางเขาก็จะโอบกอดคุณไว้แน่น หัวของแทฮยองซบที่ไหล่ของคุณ
คุณได้ยินแค่คำว่าขอบคุณซ้ำไปซ้ำมา แม้ว่ามันจะปนกับเสียงสะอื้นแต่ก็ยังชัดเจน
คุณรับปากเขาได้เฉพาะตอนนี้เท่านั้น
เมื่อคุณรู้ความจริงทั้งเรื่องนอกใจ และทำไมเขายังดูแลคุณ คุณบอกกับตัวเองว่าจะหนีไปให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้
100% Loaded
10%: การพักไม่มีอยู่จริงค่ะทุกคน แวะมาเปิดหัวใหม่
เอาใจคนโหวตแทฮยอง เห็นจองกุกนำโด่ง ไม่แน่ใจว่าจะพลิกโผ แต่จริงๆวางโครงเรื่องนี้ไว้สักพักนึงแล้ว
เรื่องนี้น่าจะพยายามให้จบก่อนเลิฟมิชชั่นนะคะ
50%: คิดว่าจากส่วนที่เสริมเข้ามาทุกคนน่าจะประติดประต่อเรื่องได้เพิ่มขึ้น
บางคนอาจจะได้โครงเรื่อง แต่อยากจะให้ได้อ่านจริงคือบทสรุปของเรื่องค่ะ 55555
เดี๋ยวมาต่อนะคะ อาจจะอาทิตย์หน้า
100% : มีเเต่ปมเต็มไปหมดเลยเนอะ ตอนนี้คนเขียนก็เริ่มสับสนเเล้วเหมือนกันค่ะ 5555 กลายเป็นว่ามีเรื่องให้เขียนเรื่อยๆเลยต้องขอเพิ่มพาร์ท ส่วนเลิฟมิชชั่นรอกันก่อนนะสัญญาว่าจะเขียนหลังจากเคลียร์เรื่องนี้จบจ้า
ความคิดเห็น