คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : (M) Together l Jin x You (100%)
Title: Together
Paring: Soft dom! Kim
Seokjin x Fem! reader
Genre: Smut, Fluff
Warning : Dry humping,
Unprotected Sex, Fingering
This chapter contains
sexual scene, who is under 18 years please be discretionary in reading
“เหะๆ
อย่าเงียบซี่ โกรธเหรอ”
เสียงหัวเราะแห้งของคุณไม่อาจเรียกรอยยิ้มจากชายหนุ่มที่กำลังขับรถอยู่ได้ หากแต่ไม่มีเสียงพูดคุยใดเกิดขึ้นบนรถยนต์คันนั้นตั้งแต่ออกจากที่ทำงาน
จนใกล้ถึงที่พักของคุณ
ต้นเหตุผลและเรื่องราวที่เกิดขึ้นมาจากอาทิตย์ก่อน
เป็นต้นตอของที่มาของผ้าพันแผลตามที่แขนและขาเรียวของผู้โดยสารที่นั่งอยู่ข้างเขา
ตลอดอาทิตย์ที่แล้วในฐานะคนรัก
ด้วยความที่ทำงานคนละที่ ชายหนุ่มแทบจะไม่ได้มีโอกาสเจอหน้าคุณเลย
ทำให้ไม่รู้คนรักของเขาแอบไปเป็นพลเมืองดีที่ไปช่วยผลักเด็กออกจากรถที่กำลังจะชนขณะที่กำลังข้ามถนน
ทำให้ได้แผลมาเต็มตัว
แต่ที่น่าหงุดหงิดคงเป็นเรื่องที่คุณเก็บเรื่องนี้เงียบไว้ไม่ยอมเล่าให้เขาฟังเลยจนถึงวันนี้ที่มารู้ด้วยตัวเอง
เพราะคุณไม่สามารถกลับห้องได้ขณะที่ฝนตกหนักอยู่ในตอนนี้ เลยวานเขาให้มาช่วยรับคุณ
“…” ซอกจินยังคงเงียบจากเรื่องราวที่เกิดขึ้น
จนใจคอของอีกคนเริ่มไม่ดี จนกระทั่งถึงห้องพัก
ต่างฝ่ายต่างไม่พูดอะไรจนกระทั่งหญิงสาวเป็นฝ่ายพูดออก
“ขอโทษค่ะ”
คุณรู้สึกเสียใจจริง ๆ ก่อนจะค่อยๆ เดินนั่งลงบนโซฟาอย่างลำบากลำพัง
เมื่อตระหนักได้ว่า เธอผิดเองที่ไม่ยอมบอกอะไรเขาเลย
ที่ผ่านมาเธอคิดว่าเป็นเรื่องเล็กน้อยเท่านั้น และไม่อยากให้อีกฝ่ายเป็นกังวล
จากการที่คิดแบบนี้กลายเป็นว่าคุณไม่ได้คิดถึงซอกจินเลย
“รู้ใช่ไหมว่าโกรธ”
ชายหนุ่มที่ไม่ได้พูดอะไรเลยก่อนหน้าเอ่ยปาก คนบนโซฟาพยักหน้ารับ
วางตัวเองลงบนโซฟาข้างคุณ
“แค่ไม่ได้อยากทำให้เป็นห่วง”
“แล้วก็เลยตัดสินไม่บอกอะไรเลยเหรอ”
น้ำเสียงตัดพ้อยิ่งทำให้หญิงสาวใจเสียกว่าเดิม น้ำใส ๆ เริ่มคลอเต็มหน่วยตา
“ก็อาทิตย์ที่แล้วคุณยุ่ง
เราก็เลยไม่อยากให้มาคอยดูแลเราเท่านั้นเอง” ก่อนคุณจะปล่อยโฮออกมา
สะอึกสะอื้นจนน่าสงสาร แต่คนที่นั่งข้างๆ ก็ยังไม่ยอมปลอบสักพักนึง
จนสุดท้ายก็อดใจอ่อนไม่ได้
“คุณก็ทำให้ผมโกรธตัวเองเหมือนกันที่ไม่ได้มีเวลาดูแลเลย”
ก่อนซอกจินจะพูดต่อ ก็ยอมเอื้อมมือไปปาดน้ำตาบนหน้าของคนที่กำลังร้องไห้
“ตอนเห็นแผลรู้ไหมว่าใจหล่นวูบเลยนะ”
“มันเจ็บใจ
ที่ไม่ได้ดูแลคุณเลย ไม่อยากให้เจ็บเลย ถึงจะเจ็บก็อยากอยู่ใกล้ ๆ
ดูแลให้ดีกว่าไม่ยอมพูดอะไรเลย” คนฟังสะอื้นฮัก
จนซอกจินต้องดึงคนปล่อยโฮมาใกล้ซบลงกับบ่ากว้าง
“อย่าทำแบบนี้อีกนะ”
คนพูดเอ่ยราบเรียบ แต่ยังใช้มือลูบกลุ่มผมอีกฝ่ายอย่างเบามือ
คุณไม่เคยเห็นซอกจินนิ่งเงียบขนาดนี้มาก่อน เพราะปกติที่อยู่ด้วยกันชายหนุ่มเป็นคนอารมณ์ดี
ใจเย็น และยังเป็นเฮฮาด้วย นี่จึงถือว่าเป็นการทะเลาะกันครั้งแรกตั้งแต่คบกันมา
“คราวหลังมีอะไรต้องบอกนะ” คุณพยักหน้ารับกับบ่ากว้างนั้นอย่างรวดเร็ว
“เราไม่ได้อยากเป็นภาระให้คุณ”
“แต่เราเป็นแฟนกันก็ต้องดูแลกันใช่ไหม
ไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวแล้วนะ” ฝ่ามือหนาของคนพูดจับใบหน้าของคุณกว่ามาเผชิญหน้าตรง
ดวงหน้านั้นยังคงเปรอะเปื้อนน้ำตา
“เข้าใจแล้วค่ะ”
คุณเอ่ยขึ้นเบาๆ ในขณะร่างยังสะท้านไม่หาย
“หรือจะย้ายไปอยู่ด้วยกันเลย”
คำพูดนั่นทำให้คุณชะงัก ซอกจินไม่เคยพูดเรื่องทำนองนี้มาก่อนเลย คุณมองหน้าเขาด้วยความตะลึงงัน
แม้ว่าจะเคยคิดเรื่องพวกนี้มาบ้างเพราะทั้งสองคนต่างก็คบกันมาสักระยะนึงแล้ว
แต่คุณก็ไม่เคยนึกมาก่อนว่าอีกฝ่ายจะเป็นคนพูดเอง นั่นเลยแทบจะเรื่องที่ให้ความสำคัญลำดับท้ายๆ
ของความสัมพันธ์นี้
“หมายถึง?”
คุณเอ่ยถามด้วยความไม่แน่ใจนัก
“หมายถึงเราลองย้ายมาอยู่ด้วยกันดีไหม”
ซอกจินขยายความ
“เราไม่เคยพูดเรื่องนี้กันมาก่อนเลยนะ
แล้วอีกอย่างไม่คิดว่าคุณจะเป็นคนพูดเอง” หญิงสาวยังอึ้งไม่หายหลังจากได้คำตอบ
“ทำไม
เพราะไม่เคยพูดกันเลยเหรอ” ชายหนุ่มถามกลับ
“แค่ความรู้สึกมันบอกแบบนั้นก็เลยพูดออก ไม่คิดว่าจะทำให้ตกใจขนาดนี้”
“งั้น...แล้วมันบอกว่าอะไรอีกล่ะคะ”
ซอกจินนึกสักครู่ก่อนจะพูดขึ้น
“ช่วงนี้เราไม่มีเวลาอยู่ใกล้กันเลย
แล้วตอนนี้เราก็คบมากันระยะนึงแล้ว แค่อยากใช้เวลาอยู่ด้วยกันสองคนมากกว่าเดิม”
คนฟังหน้าแดงระเรื่ออย่างบอกไม่ถูก อาการคล้ายว่าจะเขินก็ไม่เชิง
“อย่าเอาแต่เงียบสิ”
ชายหนุ่มทัก คนที่อ้ำอึ้งอยู่นาน
“แล้วจะให้พูดอะไรล่ะ”
คุณหน้างอ
“แค่สองคำ
อยาก กับ ไม่อยาก” ซอกจินทิ้งตัวเลือกไว้ให้คุณที่ยังเคว้งคว้างนึกภาพตัวเองอยู่ด้วยกันกับเขาไม่ออก
คุณคิดภาพตัวเองใช้ชีวิตอีกฝ่ายไม่ออก
เพราะว่าอยู่คนเดียวมาโดยตลอด อีกทั้งคิม ซอกจินยังเป็นแฟนคนแรกเสียด้วยซ้ำ
การอยู่ตัวคนเดียวก็มีความสุขดี แต่ถ้าลองอยู่ด้วยกันจริงก็จะได้เรียนรู้ศึกษากันและกันได้มากกว่าเดิม
แต่อีกใจนึงก็กลัวขึ้นมา
“ยังไม่อยากใช่ไหม”
คนหันมาสบตาอีกครั้ง แปลกที่คุณคิดว่าอีกฝ่ายอาจจะผิดหวังแต่ก็เปล่า
“แค่อยากลองคิดดูก่อนน่ะค่ะ
มันก็เรื่องใหญ่อยู่นะ อีกอย่างเราก็ไม่อยากให้ใครดูแล” คนฟังขมวดคิ้วเข้ม
คุณยิ่งลนลาน “หมายถึงว่าไม่อยากเป็นภาระใคร”
“ไม่พูดคำนี้แล้วนะ
อยู่ด้วยกันอันนั้นไม่ใช่ภาระซักหน่อย” คนดุปรายตาเบาๆ
พร้อมฝ่ามือที่ยีผมของคนข้างตัวไม่แรงนัก จนคนโดนดุต้องหลบตา
“ที่สำคัญที่สุดที่อยากให้ย้ายมาอยู่ด้วยกันเพราะผมอยากแต่งงานกับคุณนะ”
ดวงตาของคุณเบิกโพลง
“เพิ่งคบกันได้ปีเดียวเอง”
คุณอึ้งที่เขาคิดเรื่องอนาคตไกลกว่าคุณซะอีก
“แต่เราก็เข้ากันได้ดีไม่ใช่เหรอ”
“มันก็ใช่...”
หญิงสาวถอนหายใจอย่างคิดหนัก
“ถ้าลองใช้ชีวิตคู่แล้วเข้ากันไม่ได้ขึ้นมาก็เป็นปัญหานะคะ”
“แต่ไม่ว่ายังไงถ้าคบกันก็ต้องลองมาอยู่ด้วยกันอยู่ดีนะ”
แม้ว่าคุณจะรู้สึกเหมือนกำลังบ่ายเบี่ยง แต่แค่อยากให้แน่ใจว่าเราสองคนจะใช้ชีวิตไปได้จนตลอดรอดฝั่ง
“งั้น
คืนนี้กับพรุ่งนี้ทั้งวันลองอยู่ที่นี่ด้วยกันก่อนดีไหมคะ” คุณเสนอ
แม้ว่ามันจะได้สุดโต่งอย่างที่อีกฝ่ายคิดไว้ แม้ว่าจะเคยค้างคืนกับอีกฝ่ายมาบ้าง
อย่างเช่นตอนไปเที่ยวด้วยกันหรือเกิดเหตุฉุกเฉินทำให้กลับบ้านไม่ได้
แต่นั่นก็น้อยมาจนแทบนับครั้งได้ “ถ้ามันเวิร์คเราก็ค่อยๆ ขยายเวลา
จนแน่ใจว่าสามารถอยู่ด้วยกันได้”
แม้ว่าจะดูทุลักทุเลอยู่บ้างแต่คุณก็คิดว่าควรพบกันครึ่งทางดีกว่า
คืนนี้จึงจบลงด้วยการที่ซอกจินมาค้างที่ห้องของคุณ
ยังดีที่คุณยังมีชุดที่เคยยืมเขาต้องที่ไปค้างห้องอยู่บ้าง เลยทำให้พอมีชุดที่ซอกจินพอจะใส่นอนได้
แต่คุณก็ไม่ได้คิดว่าชายหนุ่มจะมีโอกาสได้ใช้ที่ห้องของคุณเร็วขนาดนี้
คุณอาบน้ำจนเสร็จก็รีบออกมาเพื่อให้ซอกจินได้ใช้ต่อ
คุณค่อนข้างเกร็งพอสมควรเพราะชายหนุ่มจะใช้ข้าวของของคุณในห้องน้ำ
คุณไม่แน่ใจว่าทุกอย่างจะโอเคสำหรับเขาไหม
ไม่นานอีกฝ่ายก็ออกมาพร้อมชุดที่คุณเตรียมให้
ได้กลิ่นหอมของสบู่ที่คุณใช้ประจำลอยออกมาจากในห้องน้ำ
ชายหนุ่มเช็ดผมที่ยังไม่แห้งดีสักพัก ก่อนจะผึ่งผ้าเช็ดตัวไว้หน้าห้องน้ำ
คุณนอนลงหันเข้าหาเตียงคิงไซส์ในห้องนอนของตัวเอง
ซึ่งปกติไม่เคยมีใครมานอนอีกฝั่งจนกระทั่งคืนนี้ ไม่นานซอกจินทิ้งตัวลงฝั่งตรงข้าม
หัวทุย ๆ ของอีกฝ่ายซบลงกับหมอนนุ่มจ้องมองคุณที่มองเขาโดยไม่พูดอะไร
“สบู่ใช้ได้ไหมคะ”
คุณเอ่ยถาม
“ใช้ได้สิ
ทำไมล่ะ”
“ก็เห็นชอบทักว่าไม่ค่อยหอม”
เอาจริง ๆ น่าจะเพราะคุณชอบกลิ่นหอมเย็นของเมนทอลแบบสบู่ผู้ชาย
ที่ห้องของคุณเลยมีแต่ของที่มีกลิ่นแบบนั้น
ซึ่งไม่ใช่กลิ่นหอมหวานละมุนแบบที่เขาชอบ
ชายหนุ่มโน้มตัวเข้าหาคุณมันใกล้จนคุณกลัวว่าเขาจะได้ยินเสียงหัวใจของคุณที่เต้นอย่างไม่มีเหตุผล
ก่อนชายหนุ่มผละออกไป
“เอาเป็นว่าเริ่มหอมแล้ว
แต่เดี๋ยวซื้อสบู่มาเปลี่ยนให้ดีกว่า ไม่สิยังไงก็ต้องย้ายไปอยู่ด้วยกันอยู่แล้วนี่....”
คุณทำตาโต ไม่ใช่คุณแน่ ๆ ที่พูดว่าจะไปอยู่ด้วย
“หยุดเลยค่ะ
หยุด ๆ ๆ” คุณทั้งส่ายหัวโบกมือไปมา โดยที่ซอกจินยังไม่หยุดพูด
“แต่ก็อยากให้ย้ายไปอยู่ด้วยจริง
ๆ นะ” คราวนี้ชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง คว้ามือของคุณที่มากุมเอาไว้ คุณยอมรับว่าหวั่นไหวต่อคำพูดและการกระทำของเขามาก
คุณมองนัยน์ตากลมโตของอีกฝ่ายนิ่ง ก่อนจะเปลี่ยนมาคว้ามือที่เคยกอบกุมไว้แทน
ยกมันไปที่แนบกับแก้มบนใบหน้าของซอกจิน ชายหนุ่มทำหน้าประหลาดใจทันทีไม่รู้ว่าสาเหตุของการกระทำนั้นคืออะไร
“แค่อยากทำ
แต่ไม่ชอบให้ใครจับหน้าไม่ใช่เหรอ” แม้ว่าจะเป็นรายละเอียดเล็กน้อย
แต่คุณก็พยายามใส่ใจในตัวอีกฝ่าย แม้ระยะเวลาที่คบกันอาจจะไม่ได้ยาวนานนัก
แต่หากเป็นเรื่องพวกนี้คุณคิดว่าคุณเองก็จำเรื่องพวกนี้ได้ไม่น้อยเลย
“ขอบคุณนะคะที่ยอมรอ”
คุณพูดตามความรู้สึกภายในลึกๆ คุณเขยิบตัวเข้าไปชิดร่างสูงใหญ่ของอีกฝ่าย
ใช้ความกล้าที่มีอยู่ในตัวทั้งหมด ก่อนจะโน้มลงจูบที่ริมฝีปากของซอกจินแผ่วเบา
ปล่อยให้ร่างกายทำตามความต้องการของตัวเอง
ชายหนุ่มนิ่งไปครู่นึงก่อนจะบดเคล้าริมฝีปากของคุณกลับ
ซอกจินรับสัมผัสนั้นของคุณด้วยความเต็มใจ จูบไร้เดียงสาของคุณทำให้เขารู้สึกดี
บดเบียด เคล้าคลึงริมฝีปากอย่างนึกสนุก
ทั้งคุณและเขาต่างติดใจในรสสัมผัสนั้นจนไม่มีใครยอมถอนจูบออก
จากความติดใจจึงเป็นความลุ่มหลงได้ไม่ยาก
รสจูบของซอกจินเริ่มรุนแรงขึ้นจนคุณตามไม่ทัน รับสัมผัสนั้นด้วยหัวใจที่เต้นระรัว
เสียงอืออึงเริ่มดังมาจากลำคอ ความรุนแรงของรสจูบเริ่มทำให้คุณหายใจไม่ออก
ชายหนุ่มส่งเรียวลิ้นของตัวเองเข้ามาในโพรงปากเป็นสัญญาณเตือนการเพิ่มระดับความต้องการจากภายใน
บางสิ่งที่รุกล้ำเข้ามาทำให้สติของคุณเริ่มหาย
มึนงง จนไม่สามารถอธิบายได้
คุณค่อนข้างตกใจเพราะไม่เคยรับสัมผัสที่ดูดดื่มเช่นนี้มาก่อน
ซอกจินรับคุณเข้าไปวงแขนรัดรึง แต่ไม่ได้ทำให้อึดอัดจนเกินไป
ฝ่ามือปะป่ายสัมผัสเนื้อตัวของคุณผ่านชุดนอนที่ใส่อยู่
คุณที่เริ่มจะหมดลมหายใจเป็นฝ่ายผละจากอีกฝ่ายก่อน ทันทีที่ถอนจูบออกคุณทั้งคู่ก็หอบหายใจ กอบโกยอากาศเข้าปอดให้มากที่สุด แต่ไม่ทันไรชายหนุ่มก็ไล่จูบไปทั่วใบหน้าด้วยความรักใคร่ ก่อนกดน้ำหนักลงที่หน้าผากของคุณอย่างเนิ่นนาน
“ขอโทษ
แผลที่แขนโอเคไหม” คำกระซิบแผ่วเบา เสียงของซอกจินแหบพร่าปะปนด้วยห้วงความรู้สึกบางอย่าง
ตัวคุณสั่นระริกจากรสจูบดูดดื่มเมื่อสักครู่
รัดรึงอ้อมกอดแน่นก็จะคลายออกด้วยความเสียดาย เขาเผลอลืมตัวสัมผัสคุณมากเกินจนแทบถลำลึก
เกรงว่ามันจะทำให้คุณรู้สึกไม่ดีต่อเขา
“มะ..เป็น.ไ..รค่ะ”
คุณที่พยายามควบคุมสติให้นิ่งละล่ำละลักพูดขึ้น ก่อนหน้าจะใบหน้าจะขึ้นสีแดงฝาด
เพราะสัมผัสรุ่มร้อนที่แนบต้นขาของตัวเอง
คุณไม่ได้ไร้เดียงสาขนาดที่จะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของซอกจิน
แต่ก็อายเกินกว่าจะพูดมันออกมา
ซอกจินที่รู้สึกตัวเมื่อคุณรู้ปล่อยคุณออกจากอ้อมกอด หยัดตัวจะลุกขึ้นยืน
แต่คุณรั้งเขาไว้เสียก่อน
“จะ...ไปไหนคะ”
คุณถาม
ส่วนล่างของชายหนุ่มปวดหนึบจากอารมณ์ปั่นป่วนที่ก่อตัวขึ้น
เขาไม่อยากเอาเปรียบคุณด้วยการถือสิทธิ์ของความเป็นคนรัก กอดจูบโดยที่คุณไม่ยินยอม
“ขอยืมห้องน้ำหน่อยนะ” คุณดึงมือของซอกจินทันทีที่พูดจบ
เขาหันมามองที่คุณอย่างสงสัย คุณส่ายหน้าไปมาไม่ยอมให้เขาไป
“ถ้าจะทำอย่างนั้น
เรายินดี” คุณพูดโดยที่ก้มหน้าหลุบตาซ่อนความอายจากคำพูดของตัวเอง
“รู้ตัวหรือเปล่า
ว่าพูดอะไรออกมา” น้ำเสียงของซอกจินนิ่งจนน่ากลัว
คุณเงยขึ้นมาสบตาเขาแม้ว่าจะใช้ความกล้าอยู่มาก พยักหน้าอย่างหนักแน่น
สถานการณ์ดูเครียดกว่าที่คุณคิดไว้มาก แต่ก็เป็นห่วงเขามากที่ยังทรมานอยู่
“ถึงจะเจ็บ
ก็ไม่เป็นไรหรอก” คำพูดน่าอายเอ่ยออกไปแบบนั้นทั้งที่ใจยังสั่นระรัว
แต่สิ่งเดียวที่คุณต้องการคือ ทำให้เขามีความสุข
กับเรื่องพวกนี้นี่ถือเป็นครั้งแรกของพวกคุณ
เลยทำให้อดประหม่าไม่ได้
CUT : READAWRITE
100% Loaded
100%: แวะกลับมาเขียนเรื่องนี้ให้เสร็จก่อน
ดองไว้นานเกิน หนีไปเขียนเรื่องอื่นต่อล่ะ 5555
ความคิดเห็น