ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รักของฉันกะนาย(ขี้)เก็ก

    ลำดับตอนที่ #1 : การเริ่มต้นที่เลวร้าย

    • อัปเดตล่าสุด 20 เม.ย. 49


    อะไรน่ะ ยัยโบนัส “ เพื่อนสาวทักฉันเสียงสูง เพราะไม่เข้าใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้า

    ด้วยความที่อยากรู้อยากเห็นของเราสองคน ฉันกะเตยเลยเดินเข้าไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น เมื่อเดินเข้าไป ฉันแทบช็อกกับภาพเบื้องหน้า

    “ รถชน ! ฉันร้องเสียงหลง ฉันวิ่งเข้าไปหาเขาคนนั้นที่ถูกรถชนโดยลืมเตยไปซะสนิท

    “ เฮ้ย โบนัส รอฉันด้วยสิ “ เตยร้องเรียกฉันเพราะไว้เข้าใจว่าฉันกำลังทำอะไร

    ฉันก็ไม่เข้าใจตังเองเหมือนกันว่าทำไมเมื่อเห็นผู้ชายคนนี้ฉันถึงต้องรีบวิ่งเข้ามาช่วยเขา

    “ เตยเรียกแท็กซี่ “ ฉันบอกให้เตยเรียกรถเพื่อพานายคนนี้ไปโรงพยาบาล

    “ เออ เดี๋ยวเรียกให้นะ “ เตยทำตามที่ฉันบอก โดยไม่ถามเหตุผล ( ก็เห็นๆอยู่ )

    # โรงพยาบาลสิราจิต #

    เมื่อฉันและเตยพาเขามาส่งโรงพยาบาลเราสองคนก็รีบกลับบ้าน ระหว่างทางเตยถามฉันว่า

    “ ทำไมแกถึงรีบเข้าไปช่วยนายนั้นด้วยละ “ ฉันตกใจกับคำถามแค่ไม่กี่คำของเตย จึงรีบตอบกลับไปว่า

    “ ก็เขาโดนรถชนเราต้องเข้าไปช่วยซิ “ ฉันตอบอย่างโล่งอก เพราะคิดว่าเตยจะไม่ถามอะไรอีก ผิดคาด!! เตยกลับถามฉันอีกครั้ง

    “ คนอื่นมีตั้งเยอะทำไมไม่ให้เขาช่วยละ “ เซ้าซี้จริงยัยคนนี้นี่

    “ เออ บอกก้อได้ ความจริงฉันก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมต้องไปช่วยนายนั้น เอาเถอะน่า ช่วยไปแล้วน่า แล้วอีกอย่างเขาไม่เห็นเราซะหน่อย ถือว่าวันนี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้นละกัน “ ฉันตอบเตยไปซะหมดไส้หมดพุง

    “ แน่ใจนะแก “ เตยถามด้วยความสงสัย

    “ แน่ใจ “ ฉันก็ตอบกลับไปด้วยความมั่นใจเหมือนกัน

    # โรเรียนเอสทีว่า #

    หลังจากเหตุการณ์วันนั้นมา 2 อาทิตย์ ฉันและยัยเตยไม่มีใครพูดถึงเรื่องนั้นอีกเลย อ๋อ ลืมแนะนำตัวไปเลย

    ฉันชื่อ โบนัส เป็นสาวไฮสคูล ปี 2 มีนิสัย กวน ๆ น่าตานะหรอ ก็สวยนะสิถามได้ ( ชมตัวเองไปป่าวเนี่ย ) และอีกอย่างฉันนะแสบไม่ปันใครเลยละ เพื่อนฉันนะหรอก็ยัยเตยไง ยัยเตยนะก็สวยไม่แพ้ฉันหรอ ยัยนี่นะมีนิสัยห้าวชนิดที่ว่า ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้เลย ด้วยความห้าวของเตยจึงไม่มีใครกล้ามาจีบ ฉันก็เลยพลอยไปด้วย เพราะทุกคนคิดว่าถ้ามาจีบฉันเดี๋ยวต้องตายก่อนวัยอันควรนะซิ เพราะเหตุนี่เราสองคนถึงได้อยู่เป็นโสดถึงทุกวันนี้

    ระหว่างที่ฉันนั่งคิดอะไรเพลิน ฉันหันไปเห็นผู้หญิงวัยกลางคนกำลังยืนยิ้มหน้าบานอยู่หน้าห้อง อาจารย์ สายชล

    อาจารย์ สายชล แกเป็นครูฝ่ายปกครองและเป็นครูที่ปรึกษาของฉันเองแหละ แกนะดุจนไม่มีใครกล้าทำผิดกฎของโรงเรียนเลยละ ด้วยความดุของแก เด็กๆในโรงเรียนจึงเรียกแกว่า เจ๊สายไงละ

    “ นี่นักเรียนเงียบได้แล้วนะจ๊ะ “ เจ๊สายพูดขึ้นจึงทำให้ในห้องเกิดความเงียบขึ้นชั่วขณะ

    “ เจ๊สายมาแปละแหะ วันนี้ “ เตยหันมากระซิบกับฉัน

    “ ว่างั้นแหละ “ ฉันกระซิบกลับไป

    “ นักเรียนจ๊ะวันนี้ครูมีเพื่อนใหม่มาแนะนำให้รู้จักนะ เข้ามาสิจ๊ะ “ ประโยคหลังเจีสายหันไปพูดกะใครคนนึงที่ยืนอยู่หน้าห้อง

    “ สงสัยเป็นผู้ชายแหง เจ๊แกถึงได้ยิ้มหน้าบานแบบนี้ “ ยัยเตยหันมากระซิบกับฉันอีกครั้ง

    “ ใครกันนะที่ทำให้เจ๊แกยิ้มได้ “ ฉันถามกลับไปด้วยความสงสัย

    “ แนะนำตัวเลยจ๊ะ คิมหันต์ “ เจ๊สายหันไปพูดกับนักเรียนใหม่

    เมื่อนายคิมหันต์อะไรนั้นเดินเข้ามา ฉันและเตยต่างทำหน้าเหวอใส่กัน แต่ไม่มีใครปลิปากพุดอะไรสักคำ

    แน่นอนฉันและเตยจึงกลับมาทำตัวให้เป็นปกติอีกครั้ง

    แต่ทำไมวันนี้ฉันถึงรู้สึกไม่ถูกชะตากับนายนั้นเอาซะเลย

    “ ไม่จำเป็น “ นายนั้นพูดออกมาด้วยน้ำเสียบเย็นชา

    นายกล้าพูดแบบนี้กับเจ๊สายหรอเนี่ย สงสัยจะไปธรรมดาซะแล้วนะนายจอมหยิ่ง

    เจ๊สายคงตกใจกับคำพูดของนายนั้นจึงพูดขึ้นมาว่า “ สงสัยจะเขินนะ เอาเป็นว่าค่อยไปทำความรู้จักกันเองละกันนะจ๊ะนักเรียน “

    นายนั้นเลือกที่นั่งที่ว่างข้างหลังฉันกะเตย อ๋อฉันลืมบอกไปนะว่านายนี่หล่อมากเลยละจึงทำให้เด็กผู้หญิงในห้องพานกันอิจฉาฉันกะเตยที่มีนายนั้นมานั่งอยู่ข้างหลัง แต่ไม่มีใครรับรู้เลยว่าใจจิงแล้วฉันอยากจะลุกขึ้นไปด่าด้วยซ้ำ บังอาจที่อื่นมีตั้งเยอะเยอะดันมานั่งข้างหลังฉันเดี๋ยวเถอะ แต่ฉันก็ทำไม่ได้อย่างที่คิดได้แต่นั่งเงียบๆ

    “ ติ้ง ต่อง “ สัญญาณหมดคาบเรียนดังขึ้น ฉันนึกดีใจ และอยากจะขอบคุณเสียงออดนั้นดังๆเพราะเป็นมันเป็นเสียงสวรรค์สำหรับวันนี้ที่หมดคาบเรียนของเจ็สาย หุหุ

    “ นักเรียนทำความเคารพ ขอบคุณคุ ขอบคุณครับ “ สิ้นเสียงขอบคุณจากนักเรียน เจ๊สายแกก็เดินออกไปอย่างเร่งรีบ หลังจากนั้นเราก็เรียนต่อกันอีก 3 คาบก็ถึงเวลาพัก ฉันและเตยจึงต้องรีบวิ่งไปที่โรงอาหาร เพราะเวลาพักนักรียนจะเต็มโรงอาหาร จะเบียดกันยิ่งกว่าปลากระป๋อง 10 ตัวรวมอยู่ในกระป๋องเดี๋ยวเลยนะเนี่ย( เว่อร์ไปป่าว )

    # โรงอาหาร #

    อะไรน่ะ ยัยโบนัส “ เพื่อนสาวทักฉันเสียงสูง เพราะไม่เข้าใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้า

    ด้วยความที่อยากรู้อยากเห็นของเราสองคน ฉันกะเตยเลยเดินเข้าไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น เมื่อเดินเข้าไป ฉันแทบช็อกกับภาพเบื้องหน้า

    “ รถชน ! ฉันร้องเสียงหลง ฉันวิ่งเข้าไปหาเขาคนนั้นที่ถูกรถชนโดยลืมเตยไปซะสนิท

    “ เฮ้ย โบนัส รอฉันด้วยสิ “ เตยร้องเรียกฉันเพราะไว้เข้าใจว่าฉันกำลังทำอะไร

    ฉันก็ไม่เข้าใจตังเองเหมือนกันว่าทำไมเมื่อเห็นผู้ชายคนนี้ฉันถึงต้องรีบวิ่งเข้ามาช่วยเขา

    “ เตยเรียกแท็กซี่ “ ฉันบอกให้เตยเรียกรถเพื่อพานายคนนี้ไปโรงพยาบาล

    “ เออ เดี๋ยวเรียกให้นะ “ เตยทำตามที่ฉันบอก โดยไม่ถามเหตุผล ( ก็เห็นๆอยู่ )

    # โรงพยาบาลสิราจิต #

    เมื่อฉันและเตยพาเขามาส่งโรงพยาบาลเราสองคนก็รีบกลับบ้าน ระหว่างทางเตยถามฉันว่า

    “ ทำไมแกถึงรีบเข้าไปช่วยนายนั้นด้วยละ “ ฉันตกใจกับคำถามแค่ไม่กี่คำของเตย จึงรีบตอบกลับไปว่า

    “ ก็เขาโดนรถชนเราต้องเข้าไปช่วยซิ “ ฉันตอบอย่างโล่งอก เพราะคิดว่าเตยจะไม่ถามอะไรอีก ผิดคาด!! เตยกลับถามฉันอีกครั้ง

    “ คนอื่นมีตั้งเยอะทำไมไม่ให้เขาช่วยละ “ เซ้าซี้จริงยัยคนนี้นี่

    “ เออ บอกก้อได้ ความจริงฉันก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมต้องไปช่วยนายนั้น เอาเถอะน่า ช่วยไปแล้วน่า แล้วอีกอย่างเขาไม่เห็นเราซะหน่อย ถือว่าวันนี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้นละกัน “ ฉันตอบเตยไปซะหมดไส้หมดพุง

    “ แน่ใจนะแก “ เตยถามด้วยความสงสัย

    “ แน่ใจ “ ฉันก็ตอบกลับไปด้วยความมั่นใจเหมือนกัน

    # โรเรียนเอสทีว่า #

    หลังจากเหตุการณ์วันนั้นมา 2 อาทิตย์ ฉันและยัยเตยไม่มีใครพูดถึงเรื่องนั้นอีกเลย อ๋อ ลืมแนะนำตัวไปเลย

    ฉันชื่อ โบนัส เป็นสาวไฮสคูล ปี 2 มีนิสัย กวน ๆ น่าตานะหรอ ก็สวยนะสิถามได้ ( ชมตัวเองไปป่าวเนี่ย ) และอีกอย่างฉันนะแสบไม่ปันใครเลยละ เพื่อนฉันนะหรอก็ยัยเตยไง ยัยเตยนะก็สวยไม่แพ้ฉันหรอ ยัยนี่นะมีนิสัยห้าวชนิดที่ว่า ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้เลย ด้วยความห้าวของเตยจึงไม่มีใครกล้ามาจีบ ฉันก็เลยพลอยไปด้วย เพราะทุกคนคิดว่าถ้ามาจีบฉันเดี๋ยวต้องตายก่อนวัยอันควรนะซิ เพราะเหตุนี่เราสองคนถึงได้อยู่เป็นโสดถึงทุกวันนี้

    ระหว่างที่ฉันนั่งคิดอะไรเพลิน ฉันหันไปเห็นผู้หญิงวัยกลางคนกำลังยืนยิ้มหน้าบานอยู่หน้าห้อง อาจารย์ สายชล

    อาจารย์ สายชล แกเป็นครูฝ่ายปกครองและเป็นครูที่ปรึกษาของฉันเองแหละ แกนะดุจนไม่มีใครกล้าทำผิดกฎของโรงเรียนเลยละ ด้วยความดุของแก เด็กๆในโรงเรียนจึงเรียกแกว่า เจ๊สายไงละ

    “ นี่นักเรียนเงียบได้แล้วนะจ๊ะ “ เจ๊สายพูดขึ้นจึงทำให้ในห้องเกิดความเงียบขึ้นชั่วขณะ

    “ เจ๊สายมาแปละแหะ วันนี้ “ เตยหันมากระซิบกับฉัน

    “ ว่างั้นแหละ “ ฉันกระซิบกลับไป

    “ นักเรียนจ๊ะวันนี้ครูมีเพื่อนใหม่มาแนะนำให้รู้จักนะ เข้ามาสิจ๊ะ “ ประโยคหลังเจีสายหันไปพูดกะใครคนนึงที่ยืนอยู่หน้าห้อง

    “ สงสัยเป็นผู้ชายแหง เจ๊แกถึงได้ยิ้มหน้าบานแบบนี้ “ ยัยเตยหันมากระซิบกับฉันอีกครั้ง

    “ ใครกันนะที่ทำให้เจ๊แกยิ้มได้ “ ฉันถามกลับไปด้วยความสงสัย

    “ แนะนำตัวเลยจ๊ะ คิมหันต์ “ เจ๊สายหันไปพูดกับนักเรียนใหม่

    เมื่อนายคิมหันต์อะไรนั้นเดินเข้ามา ฉันและเตยต่างทำหน้าเหวอใส่กัน แต่ไม่มีใครปลิปากพุดอะไรสักคำ

    แน่นอนฉันและเตยจึงกลับมาทำตัวให้เป็นปกติอีกครั้ง

    แต่ทำไมวันนี้ฉันถึงรู้สึกไม่ถูกชะตากับนายนั้นเอาซะเลย

    “ ไม่จำเป็น “ นายนั้นพูดออกมาด้วยน้ำเสียบเย็นชา

    นายกล้าพูดแบบนี้กับเจ๊สายหรอเนี่ย สงสัยจะไปธรรมดาซะแล้วนะนายจอมหยิ่ง

    เจ๊สายคงตกใจกับคำพูดของนายนั้นจึงพูดขึ้นมาว่า “ สงสัยจะเขินนะ เอาเป็นว่าค่อยไปทำความรู้จักกันเองละกันนะจ๊ะนักเรียน “

    นายนั้นเลือกที่นั่งที่ว่างข้างหลังฉันกะเตย อ๋อฉันลืมบอกไปนะว่านายนี่หล่อมากเลยละจึงทำให้เด็กผู้หญิงในห้องพานกันอิจฉาฉันกะเตยที่มีนายนั้นมานั่งอยู่ข้างหลัง แต่ไม่มีใครรับรู้เลยว่าใจจิงแล้วฉันอยากจะลุกขึ้นไปด่าด้วยซ้ำ บังอาจที่อื่นมีตั้งเยอะเยอะดันมานั่งข้างหลังฉันเดี๋ยวเถอะ แต่ฉันก็ทำไม่ได้อย่างที่คิดได้แต่นั่งเงียบๆ

    “ ติ้ง ต่อง “ สัญญาณหมดคาบเรียนดังขึ้น ฉันนึกดีใจ และอยากจะขอบคุณเสียงออดนั้นดังๆเพราะเป็นมันเป็นเสียงสวรรค์สำหรับวันนี้ที่หมดคาบเรียนของเจ็สาย หุหุ

    “ นักเรียนทำความเคารพ ขอบคุณคุ ขอบคุณครับ “ สิ้นเสียงขอบคุณจากนักเรียน เจ๊สายแกก็เดินออกไปอย่างเร่งรีบ หลังจากนั้นเราก็เรียนต่อกันอีก 3 คาบก็ถึงเวลาพัก ฉันและเตยจึงต้องรีบวิ่งไปที่โรงอาหาร เพราะเวลาพักนักรียนจะเต็มโรงอาหาร จะเบียดกันยิ่งกว่าปลากระป๋อง 10 ตัวรวมอยู่ในกระป๋องเดี๋ยวเลยนะเนี่ย( เว่อร์ไปป่าว )

    # โรงอาหาร #

    ฉันร้องเสียงหลง ฉันวิ่งเข้าไปหาเขาคนนั้นที่ถูกรถชนโดยลืมเตยไปซะสนิท

    “ เฮ้ย โบนัส รอฉันด้วยสิ “ เตยร้องเรียกฉันเพราะไว้เข้าใจว่าฉันกำลังทำอะไร

    ฉันก็ไม่เข้าใจตังเองเหมือนกันว่าทำไมเมื่อเห็นผู้ชายคนนี้ฉันถึงต้องรีบวิ่งเข้ามาช่วยเขา

    “ เตยเรียกแท็กซี่ “ ฉันบอกให้เตยเรียกรถเพื่อพานายคนนี้ไปโรงพยาบาล

    “ เออ เดี๋ยวเรียกให้นะ “ เตยทำตามที่ฉันบอก โดยไม่ถามเหตุผล ( ก็เห็นๆอยู่ )

    # โรงพยาบาลสิราจิต #

    เมื่อฉันและเตยพาเขามาส่งโรงพยาบาลเราสองคนก็รีบกลับบ้าน ระหว่างทางเตยถามฉันว่า

    “ ทำไมแกถึงรีบเข้าไปช่วยนายนั้นด้วยละ “ ฉันตกใจกับคำถามแค่ไม่กี่คำของเตย จึงรีบตอบกลับไปว่า

    “ ก็เขาโดนรถชนเราต้องเข้าไปช่วยซิ “ ฉันตอบอย่างโล่งอก เพราะคิดว่าเตยจะไม่ถามอะไรอีก ผิดคาด!! เตยกลับถามฉันอีกครั้ง

    “ คนอื่นมีตั้งเยอะทำไมไม่ให้เขาช่วยละ “ เซ้าซี้จริงยัยคนนี้นี่

    “ เออ บอกก้อได้ ความจริงฉันก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมต้องไปช่วยนายนั้น เอาเถอะน่า ช่วยไปแล้วน่า แล้วอีกอย่างเขาไม่เห็นเราซะหน่อย ถือว่าวันนี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้นละกัน “ ฉันตอบเตยไปซะหมดไส้หมดพุง

    “ แน่ใจนะแก “ เตยถามด้วยความสงสัย

    “ แน่ใจ “ ฉันก็ตอบกลับไปด้วยความมั่นใจเหมือนกัน

    # โรเรียนเอสทีว่า #

    หลังจากเหตุการณ์วันนั้นมา 2 อาทิตย์ ฉันและยัยเตยไม่มีใครพูดถึงเรื่องนั้นอีกเลย อ๋อ ลืมแนะนำตัวไปเลย

    ฉันชื่อ โบนัส เป็นสาวไฮสคูล ปี 2 มีนิสัย กวน ๆ น่าตานะหรอ ก็สวยนะสิถามได้ ( ชมตัวเองไปป่าวเนี่ย ) และอีกอย่างฉันนะแสบไม่ปันใครเลยละ เพื่อนฉันนะหรอก็ยัยเตยไง ยัยเตยนะก็สวยไม่แพ้ฉันหรอ ยัยนี่นะมีนิสัยห้าวชนิดที่ว่า ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้เลย ด้วยความห้าวของเตยจึงไม่มีใครกล้ามาจีบ ฉันก็เลยพลอยไปด้วย เพราะทุกคนคิดว่าถ้ามาจีบฉันเดี๋ยวต้องตายก่อนวัยอันควรนะซิ เพราะเหตุนี่เราสองคนถึงได้อยู่เป็นโสดถึงทุกวันนี้

    ระหว่างที่ฉันนั่งคิดอะไรเพลิน ฉันหันไปเห็นผู้หญิงวัยกลางคนกำลังยืนยิ้มหน้าบานอยู่หน้าห้อง อาจารย์ สายชล

    อาจารย์ สายชล แกเป็นครูฝ่ายปกครองและเป็นครูที่ปรึกษาของฉันเองแหละ แกนะดุจนไม่มีใครกล้าทำผิดกฎของโรงเรียนเลยละ ด้วยความดุของแก เด็กๆในโรงเรียนจึงเรียกแกว่า เจ๊สายไงละ

    “ นี่นักเรียนเงียบได้แล้วนะจ๊ะ “ เจ๊สายพูดขึ้นจึงทำให้ในห้องเกิดความเงียบขึ้นชั่วขณะ

    “ เจ๊สายมาแปละแหะ วันนี้ “ เตยหันมากระซิบกับฉัน

    “ ว่างั้นแหละ “ ฉันกระซิบกลับไป

    “ นักเรียนจ๊ะวันนี้ครูมีเพื่อนใหม่มาแนะนำให้รู้จักนะ เข้ามาสิจ๊ะ “ ประโยคหลังเจีสายหันไปพูดกะใครคนนึงที่ยืนอยู่หน้าห้อง

    “ สงสัยเป็นผู้ชายแหง เจ๊แกถึงได้ยิ้มหน้าบานแบบนี้ “ ยัยเตยหันมากระซิบกับฉันอีกครั้ง

    “ ใครกันนะที่ทำให้เจ๊แกยิ้มได้ “ ฉันถามกลับไปด้วยความสงสัย

    “ แนะนำตัวเลยจ๊ะ คิมหันต์ “ เจ๊สายหันไปพูดกับนักเรียนใหม่

    เมื่อนายคิมหันต์อะไรนั้นเดินเข้ามา ฉันและเตยต่างทำหน้าเหวอใส่กัน แต่ไม่มีใครปลิปากพุดอะไรสักคำ

    แน่นอนฉันและเตยจึงกลับมาทำตัวให้เป็นปกติอีกครั้ง

    แต่ทำไมวันนี้ฉันถึงรู้สึกไม่ถูกชะตากับนายนั้นเอาซะเลย

    “ ไม่จำเป็น “ นายนั้นพูดออกมาด้วยน้ำเสียบเย็นชา

    นายกล้าพูดแบบนี้กับเจ๊สายหรอเนี่ย สงสัยจะไปธรรมดาซะแล้วนะนายจอมหยิ่ง

    เจ๊สายคงตกใจกับคำพูดของนายนั้นจึงพูดขึ้นมาว่า “ สงสัยจะเขินนะ เอาเป็นว่าค่อยไปทำความรู้จักกันเองละกันนะจ๊ะนักเรียน “

    นายนั้นเลือกที่นั่งที่ว่างข้างหลังฉันกะเตย อ๋อฉันลืมบอกไปนะว่านายนี่หล่อมากเลยละจึงทำให้เด็กผู้หญิงในห้องพานกันอิจฉาฉันกะเตยที่มีนายนั้นมานั่งอยู่ข้างหลัง แต่ไม่มีใครรับรู้เลยว่าใจจิงแล้วฉันอยากจะลุกขึ้นไปด่าด้วยซ้ำ บังอาจที่อื่นมีตั้งเยอะเยอะดันมานั่งข้างหลังฉันเดี๋ยวเถอะ แต่ฉันก็ทำไม่ได้อย่างที่คิดได้แต่นั่งเงียบๆ

    “ ติ้ง ต่อง “ สัญญาณหมดคาบเรียนดังขึ้น ฉันนึกดีใจ และอยากจะขอบคุณเสียงออดนั้นดังๆเพราะเป็นมันเป็นเสียงสวรรค์สำหรับวันนี้ที่หมดคาบเรียนของเจ็สาย หุหุ

    “ นักเรียนทำความเคารพ ขอบคุณคุ ขอบคุณครับ “ สิ้นเสียงขอบคุณจากนักเรียน เจ๊สายแกก็เดินออกไปอย่างเร่งรีบ หลังจากนั้นเราก็เรียนต่อกันอีก 3 คาบก็ถึงเวลาพัก ฉันและเตยจึงต้องรีบวิ่งไปที่โรงอาหาร เพราะเวลาพักนักรียนจะเต็มโรงอาหาร จะเบียดกันยิ่งกว่าปลากระป๋อง 10 ตัวรวมอยู่ในกระป๋องเดี๋ยวเลยนะเนี่ย( เว่อร์ไปป่าว )

    # โรงอาหาร #

    บังอาจที่อื่นมีตั้งเยอะเยอะดันมานั่งข้างหลังฉันเดี๋ยวเถอะ แต่ฉันก็ทำไม่ได้อย่างที่คิดได้แต่นั่งเงียบๆ

    “ ติ้ง ต่อง “ สัญญาณหมดคาบเรียนดังขึ้น ฉันนึกดีใจ และอยากจะขอบคุณเสียงออดนั้นดังๆเพราะเป็นมันเป็นเสียงสวรรค์สำหรับวันนี้ที่หมดคาบเรียนของเจ็สาย หุหุ

    “ นักเรียนทำความเคารพ ขอบคุณคุ ขอบคุณครับ “ สิ้นเสียงขอบคุณจากนักเรียน เจ๊สายแกก็เดินออกไปอย่างเร่งรีบ หลังจากนั้นเราก็เรียนต่อกันอีก 3 คาบก็ถึงเวลาพัก ฉันและเตยจึงต้องรีบวิ่งไปที่โรงอาหาร เพราะเวลาพักนักรียนจะเต็มโรงอาหาร จะเบียดกันยิ่งกว่าปลากระป๋อง 10 ตัวรวมอยู่ในกระป๋องเดี๋ยวเลยนะเนี่ย( เว่อร์ไปป่าว )

    # โรงอาหาร #

    แฮ่กๆๆ…. โฮ้ ขนาดวิ่งมาแล้วยังไม่ทันอีกหรอแน่ “ เตยบ่นออกมาทั้งที่ยังหอบอยู่

    “ เตยเมื่อกี้นะ ^_^ ที่บ้านแกเขาเรียกว่าวิ่งหรอ ฉันเห็นช้ายิ่งกว่าเต่าวิ่งอีกนะ “ ฉันสวนเตยไป แย่าหาว่าฉันว่าเพื่อนเลยนะ ก็มันจริงนี่น่า ถ็าไม่เชื่อเดี๋ยว slow ให้ดูเลย

    “ เออน่า ฉันก็ว่าเร็วแล้วนะ ช่างเหอะ รีบไปต่อคิวดีกว่าเดี๋ยวคนจะเยอะกว่านี้ “เตยพูดตัดบทหมดเลยจึงทำให้ฉันสวนกลับไปไม่ได้ จึงได้แต่ทำตามที่เตยบอก

    “ พลั่ก…. “ เสียงอะไรน่ะ ทำไมมันรู้สึกเสียวสันหลังขึ้นมาอย่างนี้ก็ไม่รู้ เหมือนมีอะไรเย็นๆ มาอยู่บนหลังฉันนะ

    0_0 หันไปดูดีกว่า ( คงไม่ใช่ผีหรอกนะ )

    “ เฮือก….. “ ฉันสูดหายใจเต็มปอดก่อนที่จะหันไปดู

    “…. “ โห่ นึกว่าผี นายจอมหยิ่งนะเอง

    “ มะ…มีอะ…อะไรหรอ “ ฉันถามเสียงสั่น เพราะกลัวว่าเขาจะรู้เรื่องวันนั้นไงละ

    “ ฉันจะมาเลี้ยงข้าวเป็นการขอบขุณ “ เขาจะมาเลี้ยงข้าวขอบคุณเรื่องอะไรกันนะ หา หรือว่าเขารู้เรื่องทั้งหมด ไม่น๊าเขาสลบอยู่นี่นา เฮ้ย!! เขาต้องรู้แน่เลย เอานา เขาไม่รู้ เขาไม่รู้ ท่องไว้ โบนัส ท่องไว้ ทำเป็นไม่รู้เรื่องดีกว่า

    “ ขอบคุณ……ขอบคุณฉันเรื่องอะไรหรอ “ ฉันทำทีว่าไม่รู้เรื่อง ( มารยาจัง อิอิ )

    “ โอ้ย…. ยัยบ๊องฉันไม่มีเวลาให้กับคนอย่างเธอมากนะ อย่ามาทำเป็นไม่รู้เรื่องเลยดีกว่า บอกว่าเลี้ยงก็เลี้ยงสิ “ น่ากลัว ( ตายแหละ ) เขาชักฉุนแล้วสิ ฮ่าๆๆๆๆ สมน้ำหน้า เมื่อกี้เขาว่าเรานี้นา หัวเราะเพลินไปหน่อย แฮะๆๆ

    “ แล้วใครใช้ให้นายมาเสียเวลากับคนอย่างฉันละ นายจอมหยิ่ง “ อยากว่าฉันดีนัก รู้จัก โบนัส น้อยไปซะแล้ว

    “ อะไรนะ!!!!.. ว่าใครนายจอมหยิ่งฮะ “ เขาคงโกรธจริงๆแล้วสินะ เชอะ ใครจะไปยอมละ

    “ จะให้ว่าใครละ…. นายนั้นแหละ “ ฉันตอบนายจอมหยิ่งไปโดยไม่กลัวเขาเลยสักนิด

    “ กล้าลองดีกับฉันใช่มั้ย ด้ายยยย “ เขาตะคอกใส่หน้าฉัน

    เอาจริงหรอเนี่ย ชักปอดแล้วแฮก ยัยเตยช่วยด้วย!! หายไปไหนนะยัยเพื่อนตัวดี กลับมาต้องว่าซะให้เข็ด ทำกล้าๆไปก่อนละกัน

    “ แล้วจะทำไม “ ฉันรวบรวมความกล้าที่เหลืออยู่ในตัว ก่อนที่จะตอบออกไปอย่างนั้น

    แฮ่กๆๆ…. โฮ้ ขนาดวิ่งมาแล้วยังไม่ทันอีกหรอแน่ “ เตยบ่นออกมาทั้งที่ยังหอบอยู่

    “ เตยเมื่อกี้นะ ^_^ ที่บ้านแกเขาเรียกว่าวิ่งหรอ ฉันเห็นช้ายิ่งกว่าเต่าวิ่งอีกนะ “ ฉันสวนเตยไป แย่าหาว่าฉันว่าเพื่อนเลยนะ ก็มันจริงนี่น่า ถ็าไม่เชื่อเดี๋ยว slow ให้ดูเลย

    “ เออน่า ฉันก็ว่าเร็วแล้วนะ ช่างเหอะ รีบไปต่อคิวดีกว่าเดี๋ยวคนจะเยอะกว่านี้ “เตยพูดตัดบทหมดเลยจึงทำให้ฉันสวนกลับไปไม่ได้ จึงได้แต่ทำตามที่เตยบอก

    “ พลั่ก…. “ เสียงอะไรน่ะ ทำไมมันรู้สึกเสียวสันหลังขึ้นมาอย่างนี้ก็ไม่รู้ เหมือนมีอะไรเย็นๆ มาอยู่บนหลังฉันนะ

    0_0 หันไปดูดีกว่า ( คงไม่ใช่ผีหรอกนะ )

    “ เฮือก….. “ ฉันสูดหายใจเต็มปอดก่อนที่จะหันไปดู

    “…. “ โห่ นึกว่าผี นายจอมหยิ่งนะเอง

    “ มะ…มีอะ…อะไรหรอ “ ฉันถามเสียงสั่น เพราะกลัวว่าเขาจะรู้เรื่องวันนั้นไงละ

    “ ฉันจะมาเลี้ยงข้าวเป็นการขอบขุณ “ เขาจะมาเลี้ยงข้าวขอบคุณเรื่องอะไรกันนะ หา หรือว่าเขารู้เรื่องทั้งหมด ไม่น๊าเขาสลบอยู่นี่นา เฮ้ย!! เขาต้องรู้แน่เลย เอานา เขาไม่รู้ เขาไม่รู้ ท่องไว้ โบนัส ท่องไว้ ทำเป็นไม่รู้เรื่องดีกว่า

    “ ขอบคุณ……ขอบคุณฉันเรื่องอะไรหรอ “ ฉันทำทีว่าไม่รู้เรื่อง ( มารยาจัง อิอิ )

    “ โอ้ย…. ยัยบ๊องฉันไม่มีเวลาให้กับคนอย่างเธอมากนะ อย่ามาทำเป็นไม่รู้เรื่องเลยดีกว่า บอกว่าเลี้ยงก็เลี้ยงสิ “ น่ากลัว ( ตายแหละ ) เขาชักฉุนแล้วสิ ฮ่าๆๆๆๆ สมน้ำหน้า เมื่อกี้เขาว่าเรานี้นา หัวเราะเพลินไปหน่อย แฮะๆๆ

    “ แล้วใครใช้ให้นายมาเสียเวลากับคนอย่างฉันละ นายจอมหยิ่ง “ อยากว่าฉันดีนัก รู้จัก โบนัส น้อยไปซะแล้ว

    “ อะไรนะ!!!!.. ว่าใครนายจอมหยิ่งฮะ “ เขาคงโกรธจริงๆแล้วสินะ เชอะ ใครจะไปยอมละ

    “ จะให้ว่าใครละ…. นายนั้นแหละ “ ฉันตอบนายจอมหยิ่งไปโดยไม่กลัวเขาเลยสักนิด

    “ กล้าลองดีกับฉันใช่มั้ย ด้ายยยย “ เขาตะคอกใส่หน้าฉัน

    เอาจริงหรอเนี่ย ชักปอดแล้วแฮก ยัยเตยช่วยด้วย!! หายไปไหนนะยัยเพื่อนตัวดี กลับมาต้องว่าซะให้เข็ด ทำกล้าๆไปก่อนละกัน

    “ แล้วจะทำไม “ ฉันรวบรวมความกล้าที่เหลืออยู่ในตัว ก่อนที่จะตอบออกไปอย่างนั้น

    ก็ทำอย่างนี้ไง “ เมื่อเขาพูดจบ ฉันรู้สึกใจเต้นผิดจังหวะ เขากำลังทำอะไรนะ ใบหน้าเรียวยาวรับกับริมฝีปากที่ได้รูปกำลังเลื่อนเข้ามาใกล้ฉันทุกที่ นิ้วมืออันเรียวยาวเลื่อนขึ้นมาเรียงรายกันอยู่บนใบหน้าของฉัน ใกล้แล้ว ใกล้และ เขากำลังจะจูบฉันหรอเนี่ย ไม่ละจูบไปแล้ว ฉันดิ้นสุดฤทธิ์ แต่ก็ไม่ทำให้ช่างตรงหน้าสะทบสะท้านแม้แต่น้อย สุดท้ายเขาก็ยอมปล่อยฉันเอง

    “ เพียะ…… “ มือมือหนึ่งใช้แรงเวี่ยงเขาไปที่หน้าของชายคนนึงอย่างเต๋ม มือนั้นของฉันเองแหละ ฉันตบหน้าเขาเข้าไปอย่างจัง ก่อนจะวิ่งหนีไป โดยไม่ได้ยินเสียงเรียกของเพื่อนรักเลยสักนิด ตอนนี้ทำไมรู้สึกหูอื้อจนไม่ได้ยินเสียงคนรอบข้างแม้แต่น้อย ระหว่างทางที่ฉันกำลังอยู่นั้นก็มีผู้หญิงรูปร่างสูงผอมกับเพื่อนอีก สองคนมายืนขวางหน้าฉัน จึงทำให้ฉันต้องแบรคกะทันหัน อ๋อ ยัยเปิ้ล นั้นเอง เปิ้ลนะเขาเป็นลูกคนใหญ่คนโต เล่นเส้นก๋วยเตี๋ยวซะจนที่ดรงเรียนทุกคนยอมเขาหมดแระ ยกเว้นฉันกเตย เขาถึงได้เกลียดฉันกะเตยมากไงละ อ้อ ยังมีอีกคนคงจะไม่ยอมก้มหัวให้เปิ้ลแน่คิดเองสิว่าใคร เรายืนจ้องหน้ากันนานพอสมควรเลยละ เพราะทำไงเตยที่วิ่ง (ช้าสุดขีด ) ตามมาทัน พอมาถึงเตยก็เป็นคนทำลายความเงียบระหว่างฉันกับเปิ้ล

    “ มีอะไรกันหรอ…….แฮ่กๆๆ “ เตยถามแล้วมองหน้าฉันกับเปิ้ลสลับกัน

    “ มีอะไรนะ หรอจะมาตักเตือนคนที่ไม่รู้ที่สูงที่ต่ำนะสิ “ เปิ้ลตอบเตยไปอย่างนั้น ว่าใครนะที่สูงที่ต่ำ ช่างเหอะไม่อยากมีเรื่องอะ

    “ มีอะไรอะละ ว่ามา “ ฉันทำเสียงแข็ง

    “ จะมีอะไรอีกละ ก็เรื่องที่เธอไปจูบกับสุดหล่อของฉันไงละจำไว้นะเขาไม่ได้สนใจเธอหรอกที่เขาทำไปเพราะต้องการเอาชนะเธอต่างหากละ “ คำตอบของเปิ้ลคลายความสงสัยของฉันกับเตยได้เป็นอย่างดีเลยละ เปิ้ลพูดถึงยัยจอมหยิ่งนะเอง ฉันก็ไม่ได้พิศวาทอะไรในตัวเขาแม้แต่น้อย อยากยุ่งตายแหละ 0_0 แต่เห็นเปิ้ลหวงขนาดนี้เล่นซะหน่อยจะเป็นไร

    “ นายจอมหยิ่งนะหรอ เขามาบอกว่าเขาชอบฉันยะ และจะมาคบกับฉัน แต่ฉันไม่ยอมเขาเลยทำอย่างที่เธอเห็นไง “ ฉันปั้นน้ำเป็นเก่งใช่มั้ยละ ( ว่าตัวเองซะงั้น ) ต้องแกล้งซะให้เข็ด ยัยเตยที่ยืนฟังอยู่นานก็พูดขึ้น

    “ แต่ถ้าเธอหวง ฉันจะให้ไอนัสไปเป็นแฟนกับนายนั้นดีกว่า ดีมั้ย โบนัส “ อะไรของเตยวะ พุดเองเออเองหมดเลย แต่เออออไปกับด้วยดีกว่า

    “ ฉันจะกลับไปตอบตกลงกับเขาเดี๋ยวนี้แหละ ไปละนะ “ ฉันพูดจบก็ไม่รีรอ แกล้งทำทีเดินกลับไปที่โรงอาหาร แต่เปิ้ลก็พูดขึ้นว่า

    “ งั้นมาพนันกัน 3 เดือนใครได้คิมหันต์เป็นแฟน คนที่แพ้ต้องเลิกยุ่งกับคิมหันต์โดยสิ้นเชิง “ อะไรกันเนี่ยฉันไม่ได้เอาจริงซะหน่อย ไม่น่าไม่แกล้งยัยเปิ้ลตั้งแต่แรกเลย แต่ต้องตกลง ไม่งั้นถึงว่าฉันยอมแพ้เปิ้ลนะสิ

    “ ตกลง 3 เดือน “ ฉันตอบตกลงไปอย่างไม่เต็มใจนัก พูดจบฉันกับเตยก็เดินกลับไปที่ห้องทันที ไม่สิ แทบจะวิ่งมาด้วยซ้ำ

    “ โบนัสแกพูดอะไรออกไปนะ “ ฉันยังไม่ทันจะหย่อนตูดลงนั่งบนเก้าอี้ เสียงห้าวๆของยัยเตยก็ผ่านเข้ามาในโสนประสาทหูของฉัน แต่ฉันไม่ตกใจเลยสักนิด ทำไมนะหรอ เพราะฉันรุ้อยู้แล้วนะสิว่าจะเจอคำถามแบบนี้

    “ จะให้ทำไงได้ละ ก็ยัยเปิ้ลมันท้าฉันนะ แกก็รู้นิว่าฉันเกลียดการพ้ายแพ้ “ ฉันตอบยัยได้ไป คงจะทำให้เตยคลายความสงสัยลงได้บ้างละนา

    “ เออ…..ตามใจแกเหอะ แต่ระหว่างจะเจอดีนะ เตือนแล้วนะ “ เตยมาแปลกแหะ ปกติยัยนี่จะขี้สงสัยนี่นา ช่างเหอะ สงสัยจะเข้าใจนะ

    “ หัวหน้าบอกชั้น “ เสียงเจ๊สายบอกให้นายเป้หัวหน้าห้องบอกฉัน แต่เสียงของเจ๊แกไม่ใช่บ่งบอกเวลาหมดคาบอย่างเดียวแต่ยังบ่งว่าเวลาเรียนของวันนี้หมดลงแล้ว @_@ ดีใจจัง

    “ กลับบ้านกันเถอะโบนัส ไ เสียงห้าวๆของเพื่อนสาวดังมาแต่ไกล คงไม่ต้องบอกหรอกนะว่าเสียงใคร ( ที่จิงขี้เกียจผิดตางหาก อิอิ )

    “ ก็กำลังไปอยู่นี้ไงละ เรียกอยู่ได้ “ ฉันตะโกนออกไป แกล้งทำเป้นรำคายนิดหน่อย แต่ที่จริงแค่แกล้งเตยนะ

    “ พลั่ก… “ ระหว่างที่ฉันกำลังวิ่งไปหายัยเตย ฉันก็วิ่งไปชนกับอะไรบางอย่าง ซึ่งฉันรู้สึกว่าสิ่งที่ฉันชนนั้นมันใหญ่และอบอุ่นซะไม่มี ฉันเหลือบตาขึ้นดุว่าสิ่งนั้นคืออะไร แต่ก้ต้องตกใจ เพราะ เมื่อกี้มันคือหลังบของนายขี้เก็กนะเอง ( เปลี่ยนชื่อให้ไม่ซ้ำแต่ละวัน ) ตายละ ดันไปหลงเสเน่ห์แผ่นหลังของนายนี้เข้าจนได้ โธ่ โบนัส นะ โบนัส

    “ อยากกอดฉันก็ไม่บอก ติดใจละสิ “ หลงตัวเองซะไม่มี พูดออกมาได้ว่าฉันติดใจ ก็แค่ติดใจแผ่นหลังของนายเอง เห้ย!! คิดอะไรนะฉัน

    “ หลงตัวเองชะมัด ฉันบังเอิญวิ่งชนนายต่างหากละ คงคิดละสินะ ว่าฉันอยากจะกอดนายนะ ฝันไปเถอะยะ “ ฉันตอบนายขี้เก็กนั้นไปด้วยท่าทางเยิ่อหยิ่ง ( ว่าแต่คนอื่น ตัวเองก็หยิ่งเหมือนกันนั้นแหละ ฮ่าๆๆ )

    “ ก็แล้วไป ไปก่อนนะ บ๊ายบายจะที่รัก ฮ่าๆๆ “ นายนั้นพูดเหมือนกับว่าไม่อยากจะอยู่เห็นหน้าฉันอีกแล้วแหละ

    เฮ้ย เดี๋ยวนะ เมื่อกี้นายนั้นพูดว่าอะไรนะ ที่รัก ที่รัก ใช่ปะ ฝากไว้ก่อนเถอะจะเอาคืนให้สาสม แต่ก้ดีแล้นี้น๊าจะได้ไม่เหนื่อยเรื่องที่ไปพนันกับยัยเปิ้ลไว้

    “ ไม่ต้องไปสนใจคนแบบนั้นหรอ กลับบ้านกันเถอะเตย “ ฉันตะโกนบอกเตยไปยังกับว่าเมื่อกี้ไม่มีอะเกิดขึ้น

    “ เออ…ไ..ป..ไป “ ยัยเตยมีทีท่าว่าจะงงว่าฉันกำลังทำอะไรอยู่

    ก็ทำอย่างนี้ไง “ เมื่อเขาพูดจบ ฉันรู้สึกใจเต้นผิดจังหวะ เขากำลังทำอะไรนะ ใบหน้าเรียวยาวรับกับริมฝีปากที่ได้รูปกำลังเลื่อนเข้ามาใกล้ฉันทุกที่ นิ้วมืออันเรียวยาวเลื่อนขึ้นมาเรียงรายกันอยู่บนใบหน้าของฉัน ใกล้แล้ว ใกล้และ เขากำลังจะจูบฉันหรอเนี่ย ไม่ละจูบไปแล้ว ฉันดิ้นสุดฤทธิ์ แต่ก็ไม่ทำให้ช่างตรงหน้าสะทบสะท้านแม้แต่น้อย สุดท้ายเขาก็ยอมปล่อยฉันเอง

    “ เพียะ…… “ มือมือหนึ่งใช้แรงเวี่ยงเขาไปที่หน้าของชายคนนึงอย่างเต๋ม มือนั้นของฉันเองแหละ ฉันตบหน้าเขาเข้าไปอย่างจัง ก่อนจะวิ่งหนีไป โดยไม่ได้ยินเสียงเรียกของเพื่อนรักเลยสักนิด ตอนนี้ทำไมรู้สึกหูอื้อจนไม่ได้ยินเสียงคนรอบข้างแม้แต่น้อย ระหว่างทางที่ฉันกำลังอยู่นั้นก็มีผู้หญิงรูปร่างสูงผอมกับเพื่อนอีก สองคนมายืนขวางหน้าฉัน จึงทำให้ฉันต้องแบรคกะทันหัน อ๋อ ยัยเปิ้ล นั้นเอง เปิ้ลนะเขาเป็นลูกคนใหญ่คนโต เล่นเส้นก๋วยเตี๋ยวซะจนที่ดรงเรียนทุกคนยอมเขาหมดแระ ยกเว้นฉันกเตย เขาถึงได้เกลียดฉันกะเตยมากไงละ อ้อ ยังมีอีกคนคงจะไม่ยอมก้มหัวให้เปิ้ลแน่คิดเองสิว่าใคร เรายืนจ้องหน้ากันนานพอสมควรเลยละ เพราะทำไงเตยที่วิ่ง (ช้าสุดขีด ) ตามมาทัน พอมาถึงเตยก็เป็นคนทำลายความเงียบระหว่างฉันกับเปิ้ล

    “ มีอะไรกันหรอ…….แฮ่กๆๆ “ เตยถามแล้วมองหน้าฉันกับเปิ้ลสลับกัน

    “ มีอะไรนะ หรอจะมาตักเตือนคนที่ไม่รู้ที่สูงที่ต่ำนะสิ “ เปิ้ลตอบเตยไปอย่างนั้น ว่าใครนะที่สูงที่ต่ำ ช่างเหอะไม่อยากมีเรื่องอะ

    “ มีอะไรอะละ ว่ามา “ ฉันทำเสียงแข็ง

    “ จะมีอะไรอีกละ ก็เรื่องที่เธอไปจูบกับสุดหล่อของฉันไงละจำไว้นะเขาไม่ได้สนใจเธอหรอกที่เขาทำไปเพราะต้องการเอาชนะเธอต่างหากละ “ คำตอบของเปิ้ลคลายความสงสัยของฉันกับเตยได้เป็นอย่างดีเลยละ เปิ้ลพูดถึงยัยจอมหยิ่งนะเอง ฉันก็ไม่ได้พิศวาทอะไรในตัวเขาแม้แต่น้อย อยากยุ่งตายแหละ 0_0 แต่เห็นเปิ้ลหวงขนาดนี้เล่นซะหน่อยจะเป็นไร

    “ นายจอมหยิ่งนะหรอ เขามาบอกว่าเขาชอบฉันยะ และจะมาคบกับฉัน แต่ฉันไม่ยอมเขาเลยทำอย่างที่เธอเห็นไง “ ฉันปั้นน้ำเป็นเก่งใช่มั้ยละ ( ว่าตัวเองซะงั้น ) ต้องแกล้งซะให้เข็ด ยัยเตยที่ยืนฟังอยู่นานก็พูดขึ้น

    “ แต่ถ้าเธอหวง ฉันจะให้ไอนัสไปเป็นแฟนกับนายนั้นดีกว่า ดีมั้ย โบนัส “ อะไรของเตยวะ พุดเองเออเองหมดเลย แต่เออออไปกับด้วยดีกว่า

    “ ฉันจะกลับไปตอบตกลงกับเขาเดี๋ยวนี้แหละ ไปละนะ “ ฉันพูดจบก็ไม่รีรอ แกล้งทำทีเดินกลับไปที่โรงอาหาร แต่เปิ้ลก็พูดขึ้นว่า

    “ งั้นมาพนันกัน 3 เดือนใครได้คิมหันต์เป็นแฟน คนที่แพ้ต้องเลิกยุ่งกับคิมหันต์โดยสิ้นเชิง “ อะไรกันเนี่ยฉันไม่ได้เอาจริงซะหน่อย ไม่น่าไม่แกล้งยัยเปิ้ลตั้งแต่แรกเลย แต่ต้องตกลง ไม่งั้นถึงว่าฉันยอมแพ้เปิ้ลนะสิ

    “ ตกลง 3 เดือน “ ฉันตอบตกลงไปอย่างไม่เต็มใจนัก พูดจบฉันกับเตยก็เดินกลับไปที่ห้องทันที ไม่สิ แทบจะวิ่งมาด้วยซ้ำ

    “ โบนัสแกพูดอะไรออกไปนะ “ ฉันยังไม่ทันจะหย่อนตูดลงนั่งบนเก้าอี้ เสียงห้าวๆของยัยเตยก็ผ่านเข้ามาในโสนประสาทหูของฉัน แต่ฉันไม่ตกใจเลยสักนิด ทำไมนะหรอ เพราะฉันรุ้อยู้แล้วนะสิว่าจะเจอคำถามแบบนี้

    “ จะให้ทำไงได้ละ ก็ยัยเปิ้ลมันท้าฉันนะ แกก็รู้นิว่าฉันเกลียดการพ้ายแพ้ “ ฉันตอบยัยได้ไป คงจะทำให้เตยคลายความสงสัยลงได้บ้างละนา

    “ เออ…..ตามใจแกเหอะ แต่ระหว่างจะเจอดีนะ เตือนแล้วนะ “ เตยมาแปลกแหะ ปกติยัยนี่จะขี้สงสัยนี่นา ช่างเหอะ สงสัยจะเข้าใจนะ

    “ หัวหน้าบอกชั้น “ เสียงเจ๊สายบอกให้นายเป้หัวหน้าห้องบอกฉัน แต่เสียงของเจ๊แกไม่ใช่บ่งบอกเวลาหมดคาบอย่างเดียวแต่ยังบ่งว่าเวลาเรียนของวันนี้หมดลงแล้ว @_@ ดีใจจัง

    “ กลับบ้านกันเถอะโบนัส ไ เสียงห้าวๆของเพื่อนสาวดังมาแต่ไกล คงไม่ต้องบอกหรอกนะว่าเสียงใคร ( ที่จิงขี้เกียจผิดตางหาก อิอิ )

    “ ก็กำลังไปอยู่นี้ไงละ เรียกอยู่ได้ “ ฉันตะโกนออกไป แกล้งทำเป้นรำคายนิดหน่อย แต่ที่จริงแค่แกล้งเตยนะ

    “ พลั่ก… “ ระหว่างที่ฉันกำลังวิ่งไปหายัยเตย ฉันก็วิ่งไปชนกับอะไรบางอย่าง ซึ่งฉันรู้สึกว่าสิ่งที่ฉันชนนั้นมันใหญ่และอบอุ่นซะไม่มี ฉันเหลือบตาขึ้นดุว่าสิ่งนั้นคืออะไร แต่ก้ต้องตกใจ เพราะ เมื่อกี้มันคือหลังบของนายขี้เก็กนะเอง ( เปลี่ยนชื่อให้ไม่ซ้ำแต่ละวัน ) ตายละ ดันไปหลงเสเน่ห์แผ่นหลังของนายนี้เข้าจนได้ โธ่ โบนัส นะ โบนัส

    “ อยากกอดฉันก็ไม่บอก ติดใจละสิ “ หลงตัวเองซะไม่มี พูดออกมาได้ว่าฉันติดใจ ก็แค่ติดใจแผ่นหลังของนายเอง เห้ย!! คิดอะไรนะฉัน

    “ หลงตัวเองชะมัด ฉันบังเอิญวิ่งชนนายต่างหากละ คงคิดละสินะ ว่าฉันอยากจะกอดนายนะ ฝันไปเถอะยะ “ ฉันตอบนายขี้เก็กนั้นไปด้วยท่าทางเยิ่อหยิ่ง ( ว่าแต่คนอื่น ตัวเองก็หยิ่งเหมือนกันนั้นแหละ ฮ่าๆๆ )

    “ ก็แล้วไป ไปก่อนนะ บ๊ายบายจะที่รัก ฮ่าๆๆ “ นายนั้นพูดเหมือนกับว่าไม่อยากจะอยู่เห็นหน้าฉันอีกแล้วแหละ

    เฮ้ย เดี๋ยวนะ เมื่อกี้นายนั้นพูดว่าอะไรนะ ที่รัก ที่รัก ใช่ปะ ฝากไว้ก่อนเถอะจะเอาคืนให้สาสม แต่ก้ดีแล้นี้น๊าจะได้ไม่เหนื่อยเรื่องที่ไปพนันกับยัยเปิ้ลไว้

    “ ไม่ต้องไปสนใจคนแบบนั้นหรอ กลับบ้านกันเถอะเตย “ ฉันตะโกนบอกเตยไปยังกับว่าเมื่อกี้ไม่มีอะเกิดขึ้น

    “ เออ…ไ..ป..ไป “ ยัยเตยมีทีท่าว่าจะงงว่าฉันกำลังทำอะไรอยู่

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×