ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    i have a son i have a daughter ah~ what the ------

    ลำดับตอนที่ #28 : Ereipio

    • อัปเดตล่าสุด 3 มี.ค. 59


    Application

    Ordinary 

     

    "ข้าย่อมคิดเสมอว่าสิ่งที่ข้าทำมันถูก เพราะข้าไม่ชอบที่จะต้องคอยลังเลว่าอะไรถูกผิดตลอดเวลา"

     

    บทตัวละคร :: คนรู้จัก//เปลี่ยนก็ได้

    ชื่อ-นามสกุล ::  มิลาทริค คาซเตอร์(Miratrik Kasther)

    ชื่อเล่น ::มิลาทริค

    บ้านเกิด :: โคลัสน่า

    อายุ :: 18

     ลักษณะนิสัย ::

    สำหรับคนที่ได้พบครั้งแรกแล้วเขาก็ไม่ต่างจากเทพบุตร ผู้มีรอยยิ้มที่มุมปากชวนมอง แต่หากได้พูดคุยแม้เพียงครั้งเดียว คุณจะอยากขอยาแก้ไมเกรนโดยด่วน เพราะเจ้าตัวนั้น เพี้ยน ซื่อบื้อ(โครตๆ) และพูดไม่รู้เรื่องซักนิด ชอบพูดวกไปวนมา แถมยังคิดเองเออเองซะด้วย เผลอๆบางทีอาจเปลี่ยนเรื่องไปซะดื้อๆแถมพล่ามแต่ละทีไร้แก่นสารสุดๆ จนทำคนอื่นเขากุมขมับกันเป็นแถบ แล้วยิ่งเจ้าตัวเป็นคนที่ชอบพูดตรงๆ ตรงแบบไม่ผ่านกระบวนการคิดใดๆทั้งสิ้น ก็ทำให้คนได้ยินเท้ากระตุกยิกๆ แต่ก็ทำร้ายไม่ลง เพราะเจ้าตัวจะทำหน้าซื่อๆเหมือนกับว่า ข้าทำอะไรผิดหรอ?’  และเอียงคอมองมาอย่างสงสัย ก็อดใจอ่อนไม่ได้ ความสามารถในการรับรู้ความรู้สึกของคนอื่นเป็นศูนย์ ต่อให้คนๆนั้นจะทำหน้ายักษ์เหมือนอยากเขมือบหัวใครซักคนอยู่ แต่ถ้าเจ้าตัวไม่รับรู้ก็คือไม่รับรู้ บางทีอาจเดินเข้าไปถามเรียบๆออย่าง เจ้าปวดท้องหรือ?’ …ทำให้อยากเชือดคนจริงๆ แต่ถึงจะรับรู้ความรู้สึกไม่ค่อยเป็นแต่ก็มีบางกรณีที่ทำให้เขารู้ตัว อย่าง น้ำตา เลือด เสียงกรีดร้อง

              นอกจากนี้สมองเขายังมีปัญหาอีกมาก อย่างรสนิยมความสวยความงาม อะไรที่คนปกติเห็นว่าสวย อะไรที่เห็นว่าไม่สวย เขาจะมองเห็นกลับกันทั้งสิ้น! และยังคิดว่าสิ่งที่ตัวเองเห็นหรือคิดถูกต้องที่สุดด้วย บางทีก็ไปพูดแสดงความเห็นแบบตรงๆ จนเขาได้ประเคนถีบมาจริงๆ(แต่หลบได้) อย่าง สายตาเจ้ามีปัญหาหรอ?ทำไมถึงบอกว่านางสวยเล่าแต่ก็มีอยู่อย่างที่เจ้าตัวมองแล้วเป็นปกติ นั้นคือตัวเอง กับดอกไม้บางชนิด

               

    ชอบสร้างปัญหา แม้เขาจะไม่คิดว่ามันเป็นปัญหาตรงไหนก็ตาม แต่ด้วยความที่เขาเป็นพวกไม่อยู่กับที่ จึงมักผลุบโผล่ๆไปหาอะไรที่น่าสนใจทำอยู่เสมอ แต่ก็อย่างว่า ถ้าเป็นคนสติดีๆก็คงไม่มีอะไร แต่... เคยมีคนที่อาศัยอยู่แถวๆโบสถ์ กำลังง่วนกับการหาผงซักฟอกเพื่อเอามาซักผ้า ก่อนจะเห็นเขาถือถุงผงซักฟอก ดีที่ถุงนั่นมีสัญลักษณ์บอกไว้จึงดูออกว่าเป็นของตนแต่มันดูแฟบมากเหมือนไม่มีอะไรอยู่เลย จึงเอ่ยเรียกเพื่อต่อว่า แต่พอเจ้าตัวหันมา แทนที่จะสำนึกในสิ่งที่ตัวเองทำ กลับขมวดคิ้วไม่พอใจก่อนเอ่ยตอบมาประมาณว่าอ๊า! เจ้า! อยู่นี่เอง คนไร้ความรับผิดชอบ!’ ...หลังจากฟังเจ้าตัวพูดจบก็ต้อง งงน่ะสิ แต่ก็รู้อยู่แล้วว่าเขาเป็นประเภทพูดไม่รู้เรื่องจึงถามเข้าประเด็นต่อทันที ว่า... นายเอาผงซักฟอกชั้นไปทำไมหา? อย่าเอาของคนอื่นไปโดยที่เขาไม่อนุญาตเซ่หลังจากนั้นก็ได้รับการตอบรับกลับมาแบบที่เล่นเอาสำลัก คนไร้ความรับผิดชอบ ตัวเองปล่อยให้สัตว์เลี้ยงหิวแท้ๆ ยังมาโทษข้า ข้าแค่เอาอาหารไปให้พวกมันกินเท่านั้น อืม...พวกมันคงหิวมาก ข้าเอาให้พวกมันกินแล้ว มันก็ส่งเสียงประหลาดๆออกมาเหมือนอยากกินอีก(?) ข้าเลยเทใส่ปากพวกมันทั้งหมด กินเสร็จก็นอนหลับปุ๋ยอย่างสบายใจ(?)เลยล่ะ เจ้าไม่ต้องขอบคุณข้าหรอกนะ ...ว่าแต่อาหารสัตว์เลี้ยงเขาเรียกกันว่า ผงซักฟอกหรอ?’ แม้ว่าสุดท้ายเหล่าสัตว์เลี้ยงผู้น่าสงสารจะปลอดภัยเพราะส่งหมอทัน แต่จากเหตุการณ์ ณ ตอนนั้น ฮีก็กลายเป็นที่สะพรึงแก่ผู้ที่อยู่โดยรอบ แต่เพราะเจ้าตัวมีใบหน้าที่หล่อเกินคนและฟีโรโมนอันพุ่งพล่านคอยหลอกล่อให้คนมาติดกับ(ซวย)เป็นระยะ

               เป็นประเภทที่อาฆาตรุนแรง จนบางทีให้ความรู้สึกแตกต่างจากเวลาปกติ คนๆนั้นถ้าไม่ตายก็เลี้ยงไม่โต แต่ก็แค่แปปเดียว หรือบางทีช่วงเวลาก็ทำให้ความอาฆาตลดลงอย่างฮวบฮาบ อย่าง1ชั่วโมงก่อนอยากเชือดทิ้งผ่านไปซักพัก ดันลืมและกลายเป็นคนแปลกหน้า ก็นะ เขามันไม่ใช้พวกที่ชอบเก็บอะไรมาใส่ใจนี่นา

              เป็นคนที่รักเพื่อนพ้องมาก ถึงมากที่สุด เวลาเจอใครรู้จักจะพุ่งเข้าใส่ทันที ถ้าถูกใจใครแล้วจะติดคนนั้นหนึบมาก โดยเฉพาะคนที่คุยกับเขาได้นานเกิน1ชั่วโมง เขาค่อนข้างประทับใจมากทีเดียว เพราะปกติแล้วคุยแค่2-3คำก็เดินหนีไปเลย...

              เห็นอย่างงี้แต่เขาก็เป็นพวกใฝ่เรียนใฝ่รู้เหมือนกัน เป็นหนอนหนังสือที่ชอบคลุกตัวอยู่กับการอ่านมาก เวลาที่ได้อ่านเจ้าตัวจะใจจดใจจ่อกับมันจนแถบตัดขาดจากโลกภายนอก ...ซึ่งถือเป็นเรื่องดี ดังนั้นเขาจึงมักถูกชวนไปห้องสมุดหรือเอาของขวัญเป็นหนังสืออย่างหนาราวพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานขนาดปาหัวหมาตายมาให้เขาอ่าน ส่วนที่ว่าทำไมต้องให้อ่าน ...แน่นอนว่าต้องเป็นเพราะอยากให้เขาหุบปาก และไม่ก่อปัญหา แล้วอีกอย่างคือเวลาเจ้าตัวอ่านหนังสือจะดูเป็นเด็กดีน่ารักมาก  แต่มันก็นน่ารักไม่นานหรอก เนื่องจากเขาค่อนข้างฉลาด เรียนรู้ไว จำนวนหน้าหนังสือจึงลดลงอย่างรวดเร็วทุกที อ่านเสร็จก็ไปหาอะไรเล่นเหมือนเดิม  ถึงบอกว่าเขาเรียนรู้จากในหนังสือได้ไว แต่หนังสือที่เขาอ่านส่วนใหญ่จะเป็นพวกการต่อสู้ มนต์ดำ คำสาปอะไรเทือกๆนี้ เพราะฉะนั้นถึงจะเห็นว่าเขาอ่านหนังสือเยอะก็ใช่ว่าจะรู้เรื่องรอบตัวนะ ดูตัวอย่างผงซักฟอก...

     เขามีฝีมือการทำอาหารที่ค่อนข้าง...เอ่อ จะบอกว่าอาหารคงไม่ได้ น่าจะเรียกว่าขีปนาวุธหรือไม่ก็ตั๋วไปทัวร์ยมโลกแบบไปไม่กลับ ความจริงทักษะการทำอาหารของเขาดีมากพวกการใช้มีดการแล่อะไรพวกเนี่ย แต่ทักษะการปรุงอาหารน่ะสิ เพราะเขายึดหลักความรู้สึกล้วนๆ แถมไม่ชิมอีกตังหาก อะไรที่คิดว่าน่าจะอร่อยก็ใส่ๆไป อะไรที่มันสวยๆ(?)ก็ใส่ แต่สมองเขามันปกติที่ไหน แถมสายตาก็... ทุกการทำอาหาร(หรอ)ของเขา เขาจะใส่ทุกอย่าง(ที่ขวางหน้า)แบบจัดเต็ม และดูเหมือนเขาจะมั่นใจในฝีมือการทำอาหารของตัวเองมากทีเดียว   มีอยู่ครั้งนึงดูเหมือนเขาจะไม่ค่อยพอใจอาหารที่คนในโบสถ์ทำไว้สำหรับพิธีกรรมเท่าใดนัก เพราะเขาได้ยินว่ามันเป็นงานสำคัญดังนั้นอาหารมันต้องสวยๆ(?)และดูน่ากินกว่านี้ เขาจึงขออาสาเข้าครัวเอง ซึ่งนั้นถือเป็นครั้งแรก(และครั้งสุดท้าย)ในเข้าครัวทำอาหารของเขา คนที่รู้จักเขาดีก็แอบสะพรึงและพยายามห้าม แต่พอเห็นท่าทางฮึกเหิม มั่นใจเกินร้อยของเขาแล้ว...ก็พากันชิ่งหนีกันไปในทันที เพราะดูรูปการแล้วคงห้ามไม่ได้ ในตอนแรกเขาโชว์ทักษะการหั่นผักได้อย่างสวยงามจนอดชื่นชมไม่ได้ แต่ทันทีที่เขาหยิบ วัตถุดิบที่เขาสุดแสนจะมั่นใจ(สำหรับเขา)ขึ้นมา ผู้คนที่อยู่โดยรอบพลันกรีดร้องอย่างโหยหวน พร้อมถามว่าเขาเอาอะไรมา แน่นอนว่ายืดอกตอบด้วยน้ำเสียงสุดแสนจะร่าเริง มันคือวัตถุดิบที่ข้าภาคภูมิใจมาก ความจริงแล้วตัวมันเล็กกว่านี้ แต่ข้ากลัวว่ามันจะไม่พอกิน ก็เลยทดลองทำให้มันตัวใหญ่ขึ้น เจ้านี้น่ะสุดยอดมากเลยนะ ตัวมันในตอนนี้ตัดแบ่งให้คนได้ทั้งงานเลย พอข้าตัดมันครึ่งนึง มันก็กลายเป็นสองตัว แค่ตัดมันไปเรื่อยๆซักพักมันก็กลับมาตัวใหญ่เหมือนเดิมแล้วผู้เคราะห์ร้ายโดยรอบมองสิ่งมีชีวิตรูปร่างยาวๆขนาดพอๆกับเด็ก3ขวบกำลังขยับดุกดิกชวนคลื่นไส้ แต่ยังไม่ทันที่จะเอ่ยให้เขาเอามันไปทิ้งเถอะ เขาก็ลงมือ ตัดแบ่ง วัตถุดิบให้พอกับจำนวนคนทันที แต่เมื่อเขารัวปังตอไปได้ซักพักดูเหมือนจะมีบางอย่างดึงดูดความสนใจของเขาไป ก่อนจะโยนปังตอทิ้งและวิ่งดุ๊กๆออกไปทั้งอย่างนั่น โดยทิ้งหายนะไว้เบื้องหลัง...

    ลักษณะการพูดจา :: เรียกตัวเองว่า ข้า เรียกคนอื่นว่าเจ้า น้ำเสียงร่าเริงตลอดเวลา เขาเป็นพวกไม่ค่อยจดจำอะไรจึงมักจำชื่อคนอื่นไม่ได้ หากจะคุยกับใครที่ไม่ชอบขี้หน้า นอกจากทำหน้าเหม็นเบื่อใส่แล้ว ยังใช้สรรพนามเรียกแทนที่พึลึกสุดๆ อย่าง หน้าวอก คนเฮงซวย หัวใหญ่(จริงๆคือเถิก)

    ตัวอย่างการพูดการจา:

    ที่ที่ไม่ธรรมดางั้นหรอ... พวกเขา มักบอกว่าข้าไม่ปกติ แสดงว่าข้าเองก็ไม่ธรรมดาสินะ เช่นนั้นที่นี้ก็เหมาะสมกับข้าที่สุดแล้ว”

    เจ้าพูดถึงข้าหรอ...ถึงจะดูทะแม่งๆ แต่เจ้ากำลังชมข้าอยู่สินะ เจ้าเป็นคนดีจริงๆ”

    ข้าคิดว่าตัวเองเป็นคนที่มีโชคลาภมาก เพราะ พวกเขา มักบอกเสมอว่า ข้าดูดโชคของพวกเขาไปเยอะจนแทบไม่เหลือ ดังนั้นตอนนี้ข้าก็ต้องมีโชคอยู่มากใช่ไหม?”

    ข้าก็คือข้าไงเล่า ...แล้วเมื่อกี้เจ้าถามว่าอะไรนะ? อะไรปากกา?”

    “อ๋า เจ้าเฮงซวยนั่นโผล่มาอีกแล้ว... ทำหน้าเหมือนกินนมบูดแล้วไม่มีห้องน้ำให้เข้าแบบนั่นแล้วจะเสนอหน้ามาทำไม”

    “ทำไมข้าต้องเสียเวลาด้วย พวกนั่นหน้าตาดีตรงไหน? ทำไมพวกเจ้าถึงต้องมายืนดูแบบนี้”

    “นี่ๆๆ พวกมันน่ารักมากใช่มั้ย? เจ้าชอบมันสินะ งั้นข้าจะเอาให้เจ้าอีกสัก10-20ตัวล่ะกัน//อุ้มหนอนยักษ์มาให้”

    “จ เจ้า เลือดไหลนี่นา...เจ็บมากไหม? ทนหน่อยนะ...อา ข้าไม่มีพลังในการรักษานี่นา...อืมม ข้าเคยได้ยินคำพูดที่ว่า ลบคูณลบเป็นบวก ถ้าเช่นนั้นหากข้าสร้างแผลให้เจ้าเพิ่มมันจะดีขึ้นมั้ย?

    “อย่าร้องเลยนะ ข้าจะแก้แค้นให้เจ้าเอง...ข้าจะเอาหัวของมันมาให้เจ้า ดังนั้น เจ้าแค่หยุดร้องแล้วยิ้มรอหัวของมันก็พอ”

    รูปร่างหน้าตา ::ชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งสมส่วน มีกล้ามเนื้อบ้างพอประมาณ  อยู่ในระดับที่ดูดีมากทีเดียว แต่ก็คงไม่เท่ากับใบหน้าของเขา ทีใครเห็นก็คงบอกได้แค่ว่า ทั้งหล่อล่มเมือง หล่อแบบวัวหายควายล้อม เอ้ย ล้ม ทั้งสวยสง่างดงามจนสาวๆเห็นแล้วอยากไปผูกขอตายใต้ต้นผักกาด จนอยากจะเอ่ย สาปแช่งในความลำเอียง (แต่ถ้าได้รู้นิสัย...) นัยน์ตาเรียวสีฟ้าเทาหม่นหมองเล็กน้อย แต่ก็ดูมีเสน่ห์ เรือนผมสีดำสนิทนุ่มลื่นละต้นคอ คลอเคลียกับใบหน้าเรียวงดงามบางส่วน ผิวขาวจัดอมชมพูหน่อยๆเหมือนคนไม่ค่อยโดนแดด แต่งกายด้วยชุดลุ่มล่ามแต่ก็ดูดี(มั้งนะ)

    ส่วนสูง/น้ำหนัก :: ส่วนสูง176เซน น้ำหนัก 58

    ประวัติ ::  เมื่อก่อนมิลาทริคเป็นเด็กเร่ร่อนไม่รู้ที่มาที่ไปได้รับบาดเจ็บจนมาสลบอยู่หน้าโบสถ์แห่งหนึ่ง คนในโบสถ์ที่มาพบเด็กชายเนื้อตัวเต็มไปด้วยเลือด เลือดไหลที่ศีรษะและดวงตาจนน่าหวาดหวั่นจึงรีบนำมารักษาจนหายเป็นปกติ แต่คงมีแค่บาดแผลที่ปกติ...นั่นเพราะดูเหมือนสมองของเขาจะไม่ปกติ...นับตั่งแต่ที่มาอาศัยอยู่ในโบสถ์เขาก็ทำให้คนในโบสถ์และคนละแวกนั่นปวดหัวไปตามๆ ด้วยนิสัยเพี้ยนๆที่เล่นเอายาลดไมเกรน(?)ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า แต่ถึงอย่างนั้นเจ้าตัวก็เป็นที่เอ็นดูเหมือนกันนะ(มั้งนะ) นอกจากนิสัยที่แปลกๆ ดวงตาของเขาก็แปลกเช่นกัน เดิมทีในตอนแรกดวงตาของเขาเป็นสีฟ้าใสแต่ ตอนนี้มันกลับกลายเป็นฟ้าหม่นหมองแต่กระนั้นมันก็ยังคงงดงามและน่าพิศวง ดังนั้นพวกเขาจึงตั้งชื่อว่า มิลาทริค กระจกเงาที่เต็มไปด้วยกลลวง... ปัจจุบันคนในโบสถ์ออกความเห็นว่าจะอัญเชิญแนะนำให้เขาออกไปท่องโลกกว้างหาอะไรที่มีประโยชน์ทำ โดยคำแนะนำสุดท้ายคือหากเจอหมอให้ไปพบหมอ...เพราะพวกเขาเชื่อว่าบางทีมิลาทริคอาจหายกลายเป็นคนปกติได้

    ชอบ ::อะไรที่มันน่าสนใจ, เรื่องสนุกๆ, มีคนมาเล่นเป็นเพื่อน, ของกินอร่อยๆ, ดอกคอสมอส, การต่อสู้(เห็นงี้แต่ชอบสู้เหมือนกันนะเออ ...แต่ชอบเล่นมากกว่า),ทดสอบพลัง,อ่านหนังสือ

    ไม่ชอบ/เกลียด ::ความเงียบ การอยู่คนเดียว น้ำตา/พวกน่าหมั่นไส้ พวกคนเลว

    แพ้/กลัว :: ----/เสียงกรีดร้อง

    เพิ่มเติม :: เป็นประเภทความสามารถเยอะแต่ไม่ใช้ หรือไม่ก็ทำให้คุณค่าดูลดลง อย่างเอาโคมไฟมาใช้แทนอาวุธ เพราะเขาคิดว่ามันน่าสนุกดี

              เวลาอ่านหนังสือจะเงียบๆนิ่งๆนั่งจุมปุ๊กอยู่กับที่ไม่ไปไหน ใครเข้ามาลูบหัว จิ้มหน้า กอดก็ไม่ว่าอะไร หรือถ้ามีคนมาสะกิดจนเขารู้ตัวจะแค่เงยหน้ามองตาแป๋วแล้วก้มกลับไปอ่านเหมือนเดิม เพราะงั้นเขาในตอนนี้ถึงดูน่ารักมาก  แต่  ห้ามไปดึงหนังสือออกจากเขาเด็ดขาด นางถีบ...

              ที่สรรพนามของเขาออกแนวโบราณๆข้าๆเจ้าๆแบบนี้เพราะ เขามักจะโดนคนในโบสถ์จับมานั่งฟังบทสวดบ่อยๆ แต่แทนที่เขาจะบรรลุ(?)  เนื้อหาพวกนั่นกลับไม่เข้าหัวเข้าสักนิด แต่ที่กรอกหูเขาดูเหมือนจะมีแต่สรรพนามโบราณเก่ากึกสมัยพระเจ้าเหา(?) เขาจึงติดมาพูดในชีวิตประจำวันจนถึงตอนนี้แล...

             ถึงจะบอกว่าเขาเข้าครัวแค่ครั้งเดียว แต่ก็มีบางครั้งที่เขาแอบ ตกแต่ง อาหารที่คนอื่นทำเสร็จแล้วให้มันดูสวยขึ้น(?) เช่นราดน้ำหมึกลงบนไอติมวานิลลา หรือปรุงอาหารให้รสดีขึ้น... อย่างต้มจืดบางทีเขาก็ตักเกลือใส่เพิ่มซักครึ่งถ้วยจนมันขุ่นขาว ให้ความรู้สึกเข้มข้น(สำหรับเขาอีกนั้นแหละ)

              เพราะโดยรวมแล้วเขาดูซื่อมาก และนิสัยหลายๆอย่างกลบนิสัยส่วนนึงไป ความโหดร้ายและอัมหิต อะไรถูกอะไรผิดไม่ค่อยอยู่ในหัว มันจะเผยออกมามากที่สุดในตอนที่เขา ชำระล้าง

    *รูปอิมเมจที่มีอะไรแดงๆเหมือนปานกลางหน้าผากนั่นไม่ใช่ปานนะคะ พอทีคนในโบสถ์แนะนำให้นางวาดเอาไว้แก้เคล็ด(?) ...แต่เป็นเคล็ดที่ส่งผลต่อคนรอบข้างมากกว่าน่ะนะ และที่แนะนำก็ไม่ได้มีแค่วาดด้วย อาจมียันต์แปะหน้าผาก(?) สายสินพันหัว(!?) หรือธูปเสียบผม(!!?)//จริงๆ พวกที่แนะนำนางมาไม่ได้บอกวิธีใช้ นางจึงทำตามความรู้สึก...*

     

    คุยกับผปค.นิดหน่อย

    -สวัสดีค่ะ แผ่นกระดาษเองค่ะ (ใครฟระ //แววเสียงจากนักอ่าน...) คำถามแรกเลยนะคะ ทำไมถึงมาสมัครคะ?

    ::สนใจ... มันน่าสนใจดีอะ เนื้อเรื่องดูเข้มข้นดี แล้วมีก็ชอบแนวนี้ด้วย...แต่ทำไมลูกข่อยนิสัยเพี้ยนๆก็ไม่รู้ หวังว่ามันจะเข้ากันได้...

    - สมัครแล้วอย่าลืมกลับมาเช็คด้วยนะคะ

    ::ตอนนี้เช็คจนมือหงิกแล้วค่ะ อูยย<<<แต่ยังคงทำหน้าที่สตอกเกอร์หน้าเว็บดังเดิม

    -ถ้าไม่ติดบทที่ต้องการเสียใจไหมเอ่ย?

    ::เสียใจแหละ แต่ก็นะ นิสัยเพี้ยนไม่เข้าพวกสุดๆ

    -อยากให้ลูกๆ มีคู่ไหมคะ? ถ้าอยากมีเอาเพศไหนดีเอ่ย บอกได้เลยค่ะ จะเป็นหญิง ชาย ทอม(?) กระเทย(?) ได้หมดค่ะ

    :: อยากให้เป็นช ค่ะ แต่ถามก่อน ใครมันจะกดนางลง? ขอคนที่คุยได้เกิน10ประโยคก่อนดีดว่าค่ะ ถถถ

    หมดคำถาม...ขอบคุณที่มาสมัครนะคะ ฝันดีผีหลอกค่----สัญญาณขาดหาย

     


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×