ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Someday ซักวัน...ฉันจะทำให้นายเป็นเกย์!!! [Dooseob]

    ลำดับตอนที่ #2 : 01 : ฉันยังว่างอยู่นะ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 775
      1
      27 ม.ค. 56

    1

    ฉันยังว่างอยู่นะ

     
     

    ใครไม่ใช่เกย์...ใครทนเกย์ไม่ได้...อย่าหวังจะได้ออกไปซิงๆ
                    “...”
                    “เข้าใจป่ะเบ่บี๋?”

                    เงิบ... เงิบสิครับ ดูไอ้ตัวเตี้ยหน้ากลมนี่พูดสิครับ พูดมาได้ไม่อายปากเลยครับ = =

                            ดังนั้น ยอมตกลงเข้ามาเช่าห้องกับฉันซะ เรื่องง่ายๆเซ็นชื่อไว้ แล้วก็เอาของเข้ามาได้เลย สั้นๆ แค่นั้นจบ โอเค๊? โอเคนะ งั้นออกไปได้ละ พรุ่งนี้ค่อยกลับมานะ ฉันจะนอนโยซอบตัดบทพูดเสร็จสรรพ ก่อนจะหยิบแก้วน้ำของผมไปโยนลงซิงค์ล้างจาน ใช้ปลายนิ้วเท้ากดปิดพัดลม เสยหน้าม้าเล็กน้อย เดินไปเปิดทีวีและนั่งลงที่โซฟาอย่างกับผมไม่มีตัวตนในห้องอีกต่อไป

                    อ...เอ่อ... เฮ่ยเดี๋ยวดิ! ฉันยังไม่ได้บอกเลยว่าจะตกลงเช่าห้องน่ะ

                    เอ๊า! งั้นถ้าอยากออกไปเผชิญชะตากรรมกับเกย์นางอื่นก็เชิ๊ญ ฉันไม่รั้ง แต่ถ้าโดนขโมยซิงไม่รับประกันความปลอดภัย นั่น...วกเข้าเรื่องนี้อีกแล้ว... นึกถึงเมื่อกี๊แล้วก็ขนลุกไม่หาย

                    เอ้อ เผื่อนายจะยังไม่รู้ เดี๋ยวนี้เคะบางคนก็ชอบเล่นสลับที่เหมือนกันนะ

                    ฮะ?”

                    ก็...เวลาอย่างว่าไง... เป็นฝ่ายถูกกระทำตลอดมันก็ไม่สนุกอ่ะนะ คึๆๆๆว่าแล้วก็หัวเราะเจ้าเล่ห์ ไม่ได้สงสารคุณกูที่ยืนกลืนน้ำลาย

    เอือกอยู่ตรงนี้เลยแม้แต่น้อย

                    เพราะฉะนั้น...ถ้านายคิดจะไม่เช่าห้องอยู่กับฉันจริงๆ โยซอบลุกขึ้นจากโซฟาที่หันหลังให้ผมอยู่และเดินมายืนข้างๆผม มือข้างหนึ่งจับไหล่ผมและบีบสองสามครั้ง ก่อนร่างเล็กจะเขย่งขึ้นมากระซิบเข้าที่ข้างหูผมเบาๆ ประโยคที่ทำผมแทบจะลงไปกราบเท้าขอเปลี่ยนคำพูดทันที

     

                    เตือนสามคำ... ระ วัง ตูด

     

                    “ซู๊ด...เฮ่อ~” ผมสูดหายใจลึกๆก่อนจะดันประตูกระจกของหอและก้าวเท้าเข้าไปในหอพักที่เพิ่งจะเข้ามาเมื่อวานไปหยกๆ...และคงต้องมาอยู่ไปอีกนานเลยล่ะคราวนี้

                    หลังจากได้รับคำแนะนำจากคุณเจ้าของห้อง ผมก็ยอมตกลงเซ็นชื่อลงสัญญาเช่าห้องเสร็จสรรพ แล้วมันก็ช่วยผมได้อย่างที่คิด เพราะขากลับคนตัวเล็กอุตส่าห์ (ขอใช้คำว่าอุตส่าห์เพราะกว่าจะยอมลุกออกมาได้นี่ทำผมแทบจะกราบแทบเท้า) ลุกออกมาจากโซฟาที่ไม่รู้จะนั่งไปทำไมนักหนามาส่งผมถึงหน้าประตูหอแถมยังรอส่งขึ้นแท็กซี่ให้ด้วย เลยรอดเงื้อมมือเหล่าหนุ่มหน้าหวานที่มองตามผมหน้าหันตอนเดินสวนที่โถงทางเดินหอพักไปได้หวุดหวิด

                    และตอนนี้ผมก็กลับมาที่หอสีม่วงวิ้งค์ๆนี่อีกครั้ง พร้อมสัมภาระครบครัน นึกแล้วก็เคืองป๊ากะม๊าไม่ได้ เมื่อวานนะ พอผมกลับไปบอกป๊ากะม๊าว่าจะออกมาพักที่หอนี่ ป๊ากะม๊าก็ดีใจใหญ่ แถมยังให้คนใช้ในบ้านไปเก็บของในห้องนอนยัดลงกระเป๋ามาให้ซะสะอาดเอี่ยมอย่างกับห้องนั้นไม่เคยมีใครเข้ามาใช้งาน พอขนกระเป๋าขึ้นรถให้เสร็จก็จัดการถีบส่งผมขึ้นรถตรงมาที่นี่ทันที

     

                    ซารางแฮโยอ่ะป๊ากะม๊า รักที่สุดในเลิศหล้าปฐพี=______,=

     

                    “อ๊ะ! มาอยู่ใหม่เหรอฮะ?” เสียงหวานที่เหมือนจะตั้งใจดัดให้แหลมเล็กดังขึ้นทำให้ผมเงยหน้าจากจอมือถือฉลาดที่กดโทรออกหา

    โยซอบติดแต่ไม่รับซักทีขึ้นไปมองที่มาของเสียง ก่อนจะเจอผู้ชายตัวเล็กหน้าหวานคนนึงยืนพิงผนังอีกฝั่งของทางเดินและมองผมมาด้วยสายตาแทะโลมอย่างปิดไม่มิด

                    คือผมเป็นผู้ชายนะ รู้ตัวครับว่าหล่อ ไม่ต้องมองกันเยิ้มขนาดนั้นก็ได้ ขนลุก TT[]TT!!!

                    “อ่อ ครับๆเพิ่งย้ายมาใหม่

                    “ผมชื่อเควินนะฮะ...แล้วคุณล่ะ?”

                    ด...ดู...จุนครับยุนดูจุน ผมบอกชื่อตัวเองออกไปส่งๆก่อนจะเอื้อมมือไปเคาะประตูห้องของโยซอบรัวหวังว่าเจ้าของห้องจะเปิดประตูออกมารับซักที

                    อยู่ห้องนี้หรอฮะ?”

                    อ...ครับ ผมพยักหน้าตอบแล้วยกยิ้มตอแหลที่สุดที่ชีวิตนี้จะทำได้ ก็สถานการณ์ตอนนี้มันน่ายิ้มตรงไหนล่ะโถ่TT^TT

                    พอดีจัง ผมเองก็อยู่ห้องตรงนั้นเอง ห้องที่มีกรอบรูปน่ะฮะ ร่างบางแกล้งขยับตัวบิดไหล่เล็กน้อยให้แขนเสื้อกล้ามตัวบางตกลงไปกองอยู่ที่แขน แขนอีกข้างก็ชี้ไปทางประตูห้องที่สามนับจากประตูทางเข้า

     

                    เฮ้ยเดี๋ยวนะ...กรอบรูป...กรอบรูป!!!

     

                    “เฮ๊อะ!!!” ผมหลุดร้องออกมาเสียงดังจนคนตรงหน้าตกใจและรีบถลาตัวเข้ามาแปะนู่นแปะนี่ตามร่างกายของผมพลางถามว่าเป็นอะไรรึเปล่า แถมยังแอบเบียดตัวเข้ามาชิดกับผมเป็นระยะๆอย่างจงใจ ยุนดูจุนสิจะอ้วกให้ได้ในเร็ววัน

                    เป็นอะไรฮะ? ไม่สบายรึเปล่า? เข้าไปนั่งพักที่ห้องเควินก่อนดีมั้ยฮะ?” พอหาโอกาสได้ร่างบางก็เอ่ยถามประโยคชักเชิญขึ้นมาทันที ผมหยุดแหกปากและมองหน้าอีกคนตาโต ถึงขนาดจะลากเข้าห้องเลยเหรอวะ? เคะสมัยนี้มันวิบัติอะไรกันไปหม๊ดดดดดดด

                    ม...ไม่เป็นไรหรอกครับ เดี๋ยวผมก็เข้าห้องผมแล้ว

                    แต่โยจังก็ยังไม่ออกมาเปิดประตูนี่ฮะ ไปอยู่กับเควินก่อนก็ได้น่า

                    อย่าดีกว่าครับ รบกวนเปล่าๆ

                    แหมๆ ไม่ต้องมาปฏิเสธหรอกฮะ ถึงดูจุนจะไม่เคยลอง...แต่

    เควินน่ะ เด็ดนะจะบอกให้ เควินออกแรงดึงผมเข้าไปใกล้ๆ ยกมือลูบไปมาเหนือเข็มขัดของผมก่อนจะยกยิ้มยั่ว ไม่วายกัดปากตัวเองอีกนิด

     

                    ให้ตายเถอะ...กรูจะอ้วก= =

     

                    “ค...คือ...ไม่ใช่อย่างนั้นนะครับ คือผมก็ไม่ได้รังเกียจคุณอ่ะนะ...แต่คือ…”

                    คืออะไรหรอฮะ?”

                    คือผม...ผมไม่ใช่...ก

                    ปัง!

                    “สามี!!! มาทำอะไรอยู่ตรงนี้หรอ โยรอตั้งนานแน่ะ ก่อนผมจะพูดจบประตูข้างหลังก็เปิดออกเสียงดังตามมาด้วยเสียงสูงของเจ้าของห้อง โยซอบหันมายิ้มใส่ผมซะกว้างแทบฉีกถึงหู หันไปฉุดแขนผมออกจากมือเหนียวๆของเควินและดึงผมเข้าไปจูบ

     

                    จูบ...จูบ...จูบจริงๆ!!! จูบ!!!!!

     

                    “อื้อ

                    ถ้ายังไม่อยากให้ความลับแตกก็ตามน้ำไปก่อนน่า มือเล็กหยิกสีข้างผมเบาและผละริมฝีปากออกมากระซิบเบาๆให้ได้ยินกันสองคน มือทั้งสองข้างเลื่อนมาจับท้ายทอยผมไว้และกดหัวลงแนบจูบกับเขาให้ชิดขึ้น ส่งเสียงครางเบาๆให้ดูสมจริงๆขึ้น ผมก็เลยต้องยกมือลูบเอวของอีกคนตอบไปเบาๆ...ตามน้ำไงตามน้ำ= =”

                    “รู้มั้ยตัวเอง เมื่อคืนโยคิดถึงยุนดูจนนอนไม่หลับทั้งคืนเลย...ข้างเตียงมันโล่ง~” ผละออกมายิ้มให้ผมบางๆและไล้นิ้วไปมาที่ต้นคอของผมพลางดัดจริตเสียงพูดและแอ๊บหน้ากระแดะสุดขีด ทำเอาผมแทบกลั้นหัวเราะไม่อยู่

                    น...นี่ นี่มันยังไงกันแน่เนี่ย?” เสียงของบุคคลที่สามที่ยืนเงียบมานานดังขึ้น โยซอบหันไปยิ้มหวานให้เควินก่อนจะดึงแขนผมเข้าไปควงหลวมๆ

                    อ้อ เควิน นี่แฟนฉันเองดูจุน รู้จักกันรึยัง?”

                    รู้แล้วล่ะ...นี่ดูจุน เป็นแฟนกับโยจังจริงๆหรอ?”

                    อ...อืมๆ ใช่ครับ

                    หึ... ร่างบางยกยิ้มมุมปาก ก่อนจะก้าวขาเข้ามาใกล้ขึ้นก้าวนึง

                    วันหลังก็ช่วยบอกให้กระจ่างแจ้งด้วยนะครับ เปลืองเนื้อเปลืองตัวชิบหาย...ขออนุญาตินะโยจัง ใบหน้าและน้ำเสียงไร้เดียงสาหายไปในพริบตา และก่อนผมจะได้พูดอะไรไปมากกว่านี้ เควินก็หันไปถามอะไรบางอย่างกับโยซอบ เมื่อโยซอบพยักหน้าตอบยิ้มๆ กำหมัดหนักก็ลอยมาชนดั้งโด่งๆของผมเข้าอย่างจัง

                    โอ๊ย!! ทำอะไรเนี่ย? ผมเจ็บนะคุณ

                    นี่โทษฐานที่ทำให้ฉันเสียเวลา มีเจ้าของแล้วก็บอกดิวะ ไม่ใช่มีเจ้าของธรรมดา แฟนเป็นเพื่อนสนิทฉันอีกต่างหาก เหอะ!” เควินจิ๊ปากใส่ผมอีกครั้งก่อนจะหันกลับไปยิ้มหวานให้โยซอบที่ยืนกลั้นหัวเราะอยู่ข้างหลัง

                    ไปก่อนนะโยจัง จุ๊บ~” กอดและหอมแก้มกันครั้งสองครั้ง ก่อนร่างเล็กผมทองจะเดินหายเข้าไปในห้องที่มีกรอบรูป และทันทีที่ประตูนั่นปิดลงโยซอบก็หยุดหัวเราะออกมาดังลั่นอย่างกับชาตินี้ไม่เคยดูหนังตลก

                    กร๊ากกกกกกก เห็นนั่นป่ะ โหย เควินขึ้นเลยอ่ะ โอยขำ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ สะใจว่ะ โยซอบปล่อยหัวเราะออกมาเรื่อยๆ แขนสองข้างยกกุมท้องเมื่อเริ่มปวดท้อง เหอะ ดี! หัวเราะเยาะดีนัก เอาให้ปวดท้องขี้ไม่ออกไม่สามวันเลยนะ ชิส์

                    นี่ ถึงนายเป็นเจ้าของห้องก็เถอะ จะเข้ามั้ยห้องน่ะ ไม่เข้าฉันจะล็อคนายทิ้งไว้นอกห้องเนี่ยแหละ

                    ไม่เป็นไรฉันไปอยู่ห้องคนอื่นก็ได้

                    เหอะ ก็ได้ผมยักคิ้วก่อนจะดึงประตูปิดปัง

                    เห้ย! เอาจริงเหรอวะ? เปิดประตูนะ เปิดดดดดดด

                    ไม่เปิด อยู่ข้างนอกไปนั่นแหละไม่ต้องเข้ามาเลยนะ

                    เออว่ะ...นึกขึ้นได้

                    “...”

                    ฉันมีกุญแจ~” เสียงของโยซอบดังขึ้นที่อีกฝั่งของประตูทำเอาผมเงิบ แล้วที่กรูทำมานี่เพื่ออะไรวะครับ?

                    “...”

                    เอ๊ะ! แต่ฉันว่าฉันไม่เข้าห้องดีกว่า...

                    “...?”

                    ฉันจะไปเรียกยูควอนมาอยู่เป็นเพื่อนนายแทนดีมะ? ยูควอนนา~

                    เอ้ย! ยอมละจ้ะยอมๆๆๆ เชิญเข้าเลยครับคุณนาย ผมผิดไปแล้วTT^TT” เมื่อโยซอบเอ่ยชื่อใครที่ไหนขึ้นมาอีกก็ไม่รู้ก็ทำผมเข่าอ่อนไปซะอย่างนั้น คงไม่ได้จะไปเอาเคะหื่นระดับเทพแล้วเควินเมื่อก๊บังเอิญเป็นขั้นเบบี๋อะไรประมาณนี้ขึ้นมาหรอกนะ โอย...ชีวิตในหอนี้มันข่างน่ากลัว

                    จะมาแหยมกับยังโยซอบแห่งหอเนเวอร์แลนด์ยังเร็วไปสามร้อยหกสิบห้าขุมจ้ะสุดหล่อ โฮะๆๆๆๆโยซอบเดินเข้ามาหัวเราะเยาะใส่ผมลูกใหญ่ก่อนจะเดินไปนั่งลงที่โซฟาตัวเดิม ให้ตายเถอะเดี๋ยวก็ตูดบานเข้าซักวัน

                    โอ๊ย!” ผมร้องออกมาเบาๆเมื่อเผลอยกมือจับจมูกของตัวเองแล้วก็นึกขึ้นได้ว่าโดนต่อยเข้าไปเต็มแรงเมื่อกี๊ อย่างน้อยที่โดนต่อยมามันก็สอนผมอย่างนึงนะ

     

                    มันสอนให้ผมรู้ว่าเกย์เองก็หมัดหนักไม่น้อยไปกว่าชายแท้...ให้ตายเถอะเจ็บดั้ง=..=

     

                    “เหอะ สมควรจะโดน บอกแล้วว่าอยู่ที่นี่น่ะต้องระวังซิง ทำเป็นหูทวนลมแล้วเป็นไง เกือบโดนปล้ำแล้วป่ะล่ะ

                    ไม่ต้องมาพูดเลย ก็ฉันจะไปรู้มั้ยล่ะว่าเควินอะไรนั่นจะแรงได้ขนาดนี้

                    ก็แล้วทำไมไม่บอกไปล่ะว่ามีแฟนแล้วไรงี้ โง่แท้ๆ แล้วยังจะไปบอกเค้าอีกว่าไม่ใช่เกย์ นี่ถ้าฉันเปิดประตูออกไปช้ากว่านี้อีกนิด โอย ไม่อยากนึกสภาพนายตอนนี้เลย...โยซอบว่าแล้วส่ายหัวเบาๆ ก่อนจะลุกไปหยิบไอติมในตู้เย็นมานั่งกินต่อ

                    แล้วใครใช้ให้นายออกมาช้าอย่างงี้ล่ะ? ถ้านายยอมรับโทรศัพท์แล้วออกมารับฉันแต่แรกมันก็คงไม่เกิดเรื่องหรอกว้อย

                    ย่าห์ ไม่ต้องโวยวายเลยนะ มองนาฬิกาดิ๊

                    ฮะ?” ผมเลิกคิ้วงงๆเพราะตามการเปลี่ยนเรื่องปุบปับของคนตัวเล็กบนโซฟาไม่ทัน แต่ก็ก้มลงมองนาฬิกาบนข้อมิอตามอยู่ดี

                    เจ็ดโมงเก้า

                    ถูก!

                    แล้ว...?”

                    ก็ฉันบอกแล้วไงว่าฉันตื่นเจ็ดโมงเช้า นายอยากโง่มาเร็วเองทำไม นี่ก็บุญแค่ไหนแล้วที่ฉันไม่เอาเรื่องที่นายมาทำเสียงเอะอะหน้าห้องก่อนฉันตื่นน่ะ โยซอบพูดหน้าตาเฉยพลางแกว่งเท้าไปมา ให้ตายเถอะ ผมอยากฆ่าแม่งทิ้งจริงๆหมั่นไส้= =”

                    “ว่าแต่...จะยืนแดกลมอยู่ตรงนั้นอีกนานมะ? ยืนเฉยๆสัมภาระในมือนั่นมันไม่บินเข้าห้องนอนไปเองหรอกนะ

                    เออๆ ครับๆผมกระแทกเสียงใส่เล็กน้อยก่อนจะเดินเข้าห้องนอนที่เปิดประตูไว้

                    ใช้คอมมอนเซนส์หน่อยดิยุนดุจุน ห้องที่ไม่มีคนอยู่ฉันจะเปิดประตูทิ้งไว้ทำไมวะ? นู่นๆห้องนั้นแลยนู่น โยซอบเกยคางขึ้นมาบนพนักพิงโซฟาก่อนจะชี้ไปที่ประตูห้องอีกห้อง ผมก็จัดการลากสัมภาระเข้าห้องแล้วไปขลุกจัดของอยู่ในนั้นจนบ่ายนั่นแหละ

     

                    ก๊อกๆ

                    “ครับ?” ผมขานกลับไปเมื่อมีเสียงเคาะประตูดังขึ้น ไม่รอให้ผมเดินไปเปิดประตู คนข้างนอกก็ไขประตูห้องนอนเข้ามาซะก่อน ให้ตายมารยาทมีมั้ยวะครับ???

                    หยุดเลยนะ ก่อนจะโวยวายว่าฉันไม่มีมารยาท ฉันจะมาถามว่าจะกินข้าวเที่ยงมั้ย ฉันสั่งพิซซ่ามา แต่ถ้าไม่กินก็โอเคนะ ไม่เป็นไร

    โยซอบยกนิ้วชี้หน้าห้ามปากผมเอาไว้ก่อนจะร่ายมายาวเหยียด ผมนั่งอึ้งแดกอยู่บนเตียงอีกซักพักก่อนจะเดินตามกลิ่นพิซซ่าออกมาแต่โดยดี

                    โหย สามถาด จะบ้าเรอะอยู่กันสองคนนะไม่ใช่จัดปาร์ตี้

                    ก็สามถาดเองนิ ปกติฉันก็กินเท่านี้ได้ ไหนจะเก็บไว้เป็นอาหารวันอื่นได้ด้วย ตู้เย็นกะไมโครเวฟก็มีครบจะกลัวอะไร เอ๊อ~” โยซอบพูดหน้าตาเฉย ก่อนจะหยิบพิซซ่าใส่จาน บีบซอสเสร็จสรรพ และแน่นอน...เดินกลับไปแช่ที่โซฟาต่ออีกรอบ

                    นี่ถามจริงเถอะ จะนั่งอะไรนักหนาไอ้โซฟานั้นน่ะ ตูดบานตาย

                    เรื่องของฉัน ง่ายๆสั้นๆ ยุนดูจุนหมดคำถามแล้วจ้า= =

                    “เออ ฉันใช้เงินในกระเป๋าตังค์นายจ่ายไปนะ พอดีมันตกอยู่แล้วของฉันอยู่ในห้อง แต่ก็ไม่เยอะหรอก พันกว่าๆเอง ก็นะ ซีฟู๊ดด้วยมันก็เลยแพง แต่ประโยคที่โยซอบเอ่ยตามออกมานี่สิ ทำผมแทบเขวี้ยงถาดพิซซ่าใส่หัวให้สีม่วงในเลือดมันหลุดออกไปให้หมดเลย แต่ติดอย่างเดียว นี่มันตังค์ผม คิดได้ดังนั้นผมก็ส่ายหัวทิ้งโมหะในจิตออกไป อย่างน้อยบ้านผมก็คงไม่เดือดร้อนกับเงินแค่นี้อยู่แล้วอ่ะนะ

     

                    “หืม?” โยซอบหันมามองหน้าผมเล็กน้อยเมื่อผมเดินไปยืนเท้าเอวอยู่ข้างๆ

                    เถิบดิ๊

                    อะไร? ฉันนั่งอยู่ก่อนนะ

                    ก็ห้องนี้มันไม่มีโต๊ะกินข้าว จะให้ฉันนั่งพื้นกินข้าวรึไง?”

                    ความคิดดีนะ ไม่ต้องห่วงฉันถูพื้นสะอาด

                    เห้ยยยย นั่งด้วยเด้ น้าาาาา เมื่อใช้ไม้โหดไม่ได้ก็ต้องยอมกราบเท้าอ้อนวอนอีกครั้งนี่แล...ทำไมคนตัวเล็กแค่นี้แต่ผมยอมมันมากกว่าม๊ากับป๊าผมซะอีกวะครับTT^TT

                    “แค่นี้ก็จบโยซอบหลุดยิ้มกว้างจนเห็นลักยิ้ม ก่อนจะกระเถิบก้นไปอีกเล็กน้อย ผมทิ้งตัวนั่งลงบ้างก่อนจะยกขาไขว่ห้างตามความเคยชิน

                    ไขว่ห้างขาใหญ่นะจะบอกให้

                    นั่งเยอะๆขาใหญ่นะจะบอกให้

                    เรื่องของฉันเหอะ

                    เออ เหมือนกันโยซอบเงียบไปเมื่อสรรหาคำมาเถียงไม่ออก ก่อนจะหันไปนั่งกอดเข่ากินพิซซ่าต่อ ผมยกยิ้มอย่างผู้ชนะก่อนจะนั่งดูทอมแอนด์เจอร์รี่บนจอทีวีบ้าง

                    นี่ บางทีฉันอาจจะกวนส้นหรืออารมณ์รุนแรงไปหน่อย ก็อดทนหน่อยแล้วกันนะ

                    ฮะ?” ผมหันไปมองซีกหน้าด้านข้างของโยซอบที่อยู่ดีๆก็พูดอะไรที่ดูเป็นคนดี๊คนดีขึ้นมาซะงั้น

                    ก็ฉันเป็นพวกปากหมาหน่อยน่ะ คิดไรก็พูด บางทีก็ไม่ได้ตั้งใจหรอก ถ้าทนไม่ได้ก็ย้ายออกได้นะ ฉันไม่รั้งนายไว้หรอก อยู่ไปก็ลำบากเปล่าๆ

                    เห้ยๆๆ ฉันไม่ได้ว่าอะไรนี่ เราก็เข้ากันได้นะ ปากหมาทั้งคู่ ฮะๆๆๆๆ

                    แต่ก็อย่าทำดีกับฉันให้มากนักจะดีกว่านะ

                    อ...อ่าวยังไง?”

                    หวังว่านายจะยังไม่ลืมว่าฉันเป็นเพศอะไรและชอบแบบไหน

                    “...”

                    ถ้ามีผู้ชายหน้าตาดีๆมาทำดีด้วยมากๆ...

                    “...”

                    ระวัง...ฉันอาจจะเป็นคนพรากเวอร์จิ้นนายซะเองไม่รู้ด้วย

                    “...” อึ้ง...แดก...เลยครับ... ผมกลืนน้ำลายอึกใหญ่ก่อนจะมองใบหน้าของโยซอบที่ยังคงมองทีวีแต่ก็มีสีหน้าจริงจังอย่างเห็นได้ชัดนั่นเงียบๆ พูดไม่ออกกันไปข้าง

                    กินหมดยัง? ล้างจานดิ๊

                    เหอ?” จู่ๆโยซอบก็หันมาทำหน้ากวนส้นแล้วยื่นจานเปื้อนซอสมะเขือเทศในมือให้ผม สุดท้ายเพราะกลัวจะโดนถีบตูดโด่งออกมาจากห้องหลังจากอยู่มาได้ไม่กี่ชั่วโมงผมจึงต้องจานนั่นมาแต่โดยดี

                    “ครับๆ ล้างครับล้างโยซอบหัวเราะเบาๆก่อนจะหมุนตัวกลับไปนอนพิงกับที่วางแขนข้างหนึ่งดูการ์ตูนต่อไป

     

     

                    ล้างเสร็จแล้วนะ...อ้าว ผมเดินกลับไปที่โซฟาเพื่อจะนั่งลงที่เดิม แต่พอกลับไปถึงคนตัวเล็กก็นอนแผ่ซะเต็มโซฟา แถมยังหลับปุ๋ยไปซะแล้ว ทำตัวเป็นเด็กเล็กๆไปได้กินแล้วนอน

                    เอ้ยๆ ถ้าจะนอนก็ไปนอนที่เตียงดีๆดิ

                    งื้อ~” มีเพียงเสียงงึมงำตอบกลับมาทำให้ผมรู้ว่าไอ้คนตัวเล็กบนโซฟานี้คงหลับลึกปลุกยากซะแล้วล่ะ= =

                    “เฮ่อ~” ผมถอนหายใจ ก่อนจะสอดมือสองข้างลงใต้ตัวโยซอบแล้วจัดการยกเขาขึ้นมา จากนั้นก็เอาไปหย่อนไว้บนเตียงของเจ้าตัว

     

                    ให้ตายเถอะ...ห้องนอนหมอนี่...เอสเจ ดงบัง บีสท์ เอ็มแบล็ค ชายนี่ เต็มผนังเลยพี่ นี่ผมอยู่ในห้องนอนหรือคอนเสิร์ตเอ็มเน็ทวะครับ?

     

                   

                    “หลับให้สบายนะครับคุณชายผมพูดกัดไปลอยๆ (ถึงคนที่โดนกัดจะไม่รู้ตัวก็เหอะ) ก่อนจะห่มผ้าห่มให้ร่างเล็กและเดินกลับออกมานั่งโซฟาดูทวีต่อ...

     

                    จะว่าไป...โซฟานี่นุ่มตูดดีจังเนอะ=w=

     

     

                    ‘ครืดผมหันไปปิดน้ำฝักบัวลง ก่อนจะจัดการพันผ้าเช็ดตัวและเดินไปเปิดลิ้นชักหายาสีฟันที่โยซอบบอกผมไว้ว่าอยู่ในนี้ แต่สิ่งที่ผมเจอกลับมีเพียง...

                    ย่าห์!!! ยังโยซอบ ไหนบอกว่ายาสีฟันอยู่ในลิ้นชักไง ทำไมฉันเจอแต่...แต่...ถุงยาง=///=” ผมเปิดประตูห้องน้ำออกไปโวยวายทันทีเมื่อเปิดลิ้นชักมาก็เจอแต่กล่องกระดาษหลากสี แถมยังมีซองพลาสติกหลากสีหลากกลิ่นอย่างกับชั้นขายถุงยางที่เซเว่น

                    เอ๊า! มีถุงยางเก็บไว้แล้วมันผิดตรงไหน เผื่อฉุกเฉินไงโยซอบตอบพลางยักไหล่ไม่สนใจก่อนจะตักไอติมถ้วยในมือกินต่อไป

                    แล้วฉันจะใช้ยาสีฟันที่ไหนแปรงฟันล่ะ?”

                    มันก็อยู่ในลิ้นชักนั่นแหละน่าหาดีๆ

                    คือเข้าใจหน่อยดิ้ ฉันไม่สามารถไปคุ้ยกองถุงยางสายรุ้งนั่นได้หรอกนะ แค่เห็นก็ขนลุกแล้วTT^TT” ผมตัดสินใจใช้มุขอ้อนวอนอย่าง

    ทุกครั้ง แล้วมันก็ได้ผล โยซอบวางถ้วยไอติมลงกับโต๊ะข้างหน้าและยันตัวลุกขึ้นด้วยสีหน้าเบื่อโลกเต็มสตรีม

                    เฮ้อ เป็นผู้ชายแท้ๆ จะอะไรนักหนากับถุงย...พรวดดดโยซอบบ่นพึมพำก่อนจะเงียบไปเมื่อเงยหน้าขึ้นมาป๊ะหน้าผมเข้า

                    กลับเข้าห้องน้ำไป!

                    ฮะ?”

                    ก...กลับเข้าไป...ไป...ใส่เสื้อมาซะ!!

                    ฮะ???”

                    ถ้ายังไม่อยากเสียซิงให้ฉันคืนนี้ก็กลับเข้าไปใส่เสื้อซะ!!!” ผมก้มลงมองตัวเอง ก่อนจะหน้าแดงขึ้นมาเมื่อนึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้แต่งตัวก่อนออกมา ผมเลยแจ้นกลับเข้าห้องน้ำไปตามระเบียบ

     

     

                    โอเค ฉันแต่งตัวละ ทีนี้มาช่วยฉันหายาสีฟันหน่อยดิ...กร๊ากกกก ผมเดินอ้อมไปยังหน้าโซฟาเพื่อเรียกโยซอบมาช่วยหาหลอดยาสีฟันที่ตามหา แต่ก็หลุดหัวเราะออกมาอย่างช่วยไม่ได้เมื่อเห็นโยซอบนอนแผ่หมดสภาพอยู่บนโซฟา ที่รูจมูกสองข้างมีทิชชู่อุดอยู่และมีสีแดงของเลือดให้เห็นอยู่แพลมๆ ส่วนเจ้าตัวก็นอนประคบน้ำแข็งไว้บนตาและดั้งจมูก พูดได้คำเดียวว่าหมดสภาพ

                    ไม่ต้องมาขำเลย ใครใช้ให้นายแก้ผ้าออกมาอย่างนั้นวะ!?!” คนตัวเล็กโวยวายโดยที่มือข้างหนึ่งก็ยังจับถุงน้ำแข็งไว้ อีกข้างก็ทุบโซฟาอย่างอารมณ์เสีย

                    ใจเย็นๆสิพ่อคุณ แล้วนี่ถึงขนาดเลือดกำเดาไหลเลยเหรอเนี่ย? ฉันหุ่นดีชิม้า~

                    เออหุ่นนายแม่งโคตรเซ็กซี่ พอใจยัง! แล้วนี่วันหลังอย่ามาถอดเสื้อให้ฉันเห็นนะ ฉันเป็นโรคแพ้ซิกซ์แพ็ค=..=” ร่างบางยกถุงน้ำแข็งออกจากหน้าก่อนจะหันมาทำหน้ากวนส้นใส่ผมเหมือนเคย

                    “เหอะ พูดไปนู่น ในห้องนอนก็เห็นมีรูปผู้ชายเปลือยกายแปะอยู่ยังกะฮาเร็มเลยไม่ใช่รึไงครับพี่?”

                    ห...เห้ย!! นายเข้าไปในห้องนอนฉันมาเรอะ?

                    อะโถ่ ก็แล้วถ้าฉันไม่เข้าไปแล้วนายจะไปนอนอยู่บนเตียงตัวเองได้ไงวะครับ?”

                    ก็ปกติฉันก็เดินละเมอจากโซฟามาที่เตียงเองบ่อยออกนี่นา...เฮ้ยนั่นไม่ใช่ประเด็น!

                    พรืด...อ...อ่าฮะ แล้วประเด็นคือ?” ผมถึงกับหลุดหัวเราะเมื่อโยซอบพูดเรื่องละเมอเดิน โอ๊ยฮาว่ะ!

                    “ฉันแค่ไม่ชอบให้ใครเข้าห้องนอน ถ้าไม่ใช่แฟนฉันห้ามเข้าห้องฉัน ฉันถือ โอเคนะ? วันหลังปล่อยฉันไว้ที่โซฟานี่แหละ เดี๋ยวฉันก็ละเมอเดินกลับไปเอง...แล้วจะเอามั้ยยาสีฟัน?” เมื่อผมพยักหน้าตอบโยซอบก็

    ลุกขึ้นและเดินมาที่ประตูห้องน้ำ ผมเองก็เบนตัวหลบให้เจ้าของห้องเข้าไปหยิบยาสีฟันออกมาให้

                    โยซอบทิ้งตัวนั่งลงบนพื้นห้องน้ำก่อนจะเปิดลิ้นชักเจ้าปัญหานั่นออกมา ล้วงมือลงไปในกองถุงยางกองยักษ์นั่นอยู่ซักพัก คลำไปคลำมาก็หยิบหลอดยาสีฟันยี่ห้อดังออกมาได้ในที่สุด

                    วันหลังจะเอาอะไรก็บอกไว้ก่อนฉันจะได้เอาให้ โอเค๊? ฉันไปดูทีวีต่อล่ะ โยซอบยื่นหลอดยาสีฟันให้ผมก่อนจะหันไปสั่งจมูกสองสามครั้งให้ทิชชู่ในจมูกทั้งสองข้างหลุดลงไปในถังขยะ และเดินกลับไปยังที่นั่งที่เดิม

     

     

                    หลังจากกลับเข้าไปจัดการแปรงฟันอะไรให้เรียบร้อย ผมก็เดินกลับออกมาที่โถงนั่งเล่นอีกครั้ง โยซอบเงยหน้าขึ้นมามองผมก่อนจะกระเถิบไปนั่งที่เบาะตัวหนึ่งและเว้นที่ไว้ให้ผมนั่งข้างๆอย่างตอนเย็น ผมทิ้งตัวนั่งลงก่อนโยซอบจะเป็นฝ่ายเปิดประเด็นพูดขึ้นมาก่อน

                    เหนื่อยหน่อยนะอยู่กับเกย์น่ะ ฮะๆๆพูดขึ้นมาลอยๆแล้วหยิบ

    ป๊อปคอร์นใส่ปาก มาแล้วๆกลับมาแล้ว ยังโยซอบเวอร์ชั่นจริงจัง

                    ก็...อืม กับนายน่ะไม่เท่าไหร่หรอก แต่กับคนอื่นๆในหอ ถึงจะยังไม่เจอก็เถอะ...

                    รับรองได้เลยว่านายอาจตาย

                    อึก... คำพูดฉะฉานของโยซอบทำเอาผมช็อค เมื่อเห็นผมเงียบไปโยซอบก็หันหน้ามามองหน้าผมก่อนจะหลุดหัวเราะออกมา

                    ไม่ต้องกลัวหรอกน่า ถ้านายทำตามที่ฉันแนะนำนายอยู่ที่นี่ได้สบายๆจนจบออกไปหาเมียได้แบบซิงๆเลย คอนเฟิร์ม ยกนิ้วโป้งให้ผมอย่างมั่นใจก่อนจะหันไปคุ้ยๆอะไรซักอย่างในชั้นวางของเตี้ยๆข้างโซฟา

    ซักพัก และกลับมานั่งพร้อมสมุดบางๆในมือ

                    อ่ะ ฉันให้ว่าแล้วก็ยื่นมาให้ผมยิ้มๆ ผมพยักหน้าขอบคุณก่อนจะรับมาอ่าน...แค่ปกก็ทำผมปลื้มแทบตายแล้วเหอะเอาจริงๆ

     

    วิธีการอยู่รอดในดงเกย์สำหรับยุนดูจุน

    โดย ผู้เชี่ยวชาญยังโยซอบ

     

                    ตอนนายจัดของอยู่ในห้องมันเบื่อๆฉันเลยนั่งเขียนมาให้ หวังว่าจะช่วยนายได้นะ

                    ก...กร๊ากกกกก เฮ้ย เอาจริงอ่ะ? ไม่คิดเลยว่านายจะลงทุนทำให้ขนาดนี้

                    ย่าห์! ต้องหัวเราะใส่กันด้วยหรอวะ? งั้นเอากลับมานี่เลยมา

    โยซอบพองแก้มน้อยใจก่อนจะดึงสมุดในมือผมคืน

                    เปล่าๆๆ แค่หัวเราะเพราะไม่คิดว่านายจะมานั่งใส่ใจฉันขนาดนี้เท่านั้นเอง ฉันซาบซึ้งมากเลย จริงๆนะ ขอบใจมากผมยิ้มให้คนข้างหน้าก่อนจะจับไหล่บางถูไปมาสองสามครั้งเป็นการขอบคุณ โยซอบดูจะใจเย็นลงนิดนึงผมจึงกลับมานั่งดีๆและเปิดคู่มือ(?)ของโยซอบขึ้นอ่าน

                    ข้อแรก การอยู่แบบไม่โดนจีบ อย่าให้เค้ารู้ว่าเราไม่ใช่เกย์จะดีที่สุด ทำตัวเนียนๆไป

                    อ่า อันนี้โอเค

                    ข้อสอง การอยู่ในนี้ได้อย่างปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นต์ คือการเป็นคนมีเจ้าของแล้ว และเจ้าของต้องเป็นผู้ชาย ย้ำว่าผู้ชาย และห้ามให้ใครรู้ว่ายังเวอร์จิ้น เกย์น่ะเห็นใครหล่อๆซิงๆมันเอาหมดแหละ              

                    เฮือก...ผมลอบกลืนน้ำลายกับกฏข้อนี้ ตายล่ะ...ผมทั้งโสดทั้งซิงเลยนะเว้ยเฮ้ยTT[]TT

                    ข้อสาม ถ้ามีเกย์วิ้งค์ให้ตอนเดินสวน อย่าทำเป็นไม่เห็นหรือทำหน้ากลัวอะไรทั้งสิ้น ให้ยิ้มตอบแล้วบอกว่าฉันไม่เอาแล้วพวกนั้นก็จะเดินหนีไปเอง

                    พรึ่บผมปิดหนังสือลงก่อนจะถอนหายใจ โยซอบหันมามองผมก่อนจะถามขึ้นมา

                    หนังสือฉันมันแย่ขนาดนั้นเลยเหรอ?” ร่างเล็กมองผมตาแป๋ว ท่าทางจะเริ่มน้อยใจขึ้นมาซะแล้วล่ะสิ

                    เปล่าหรอก มันแค่เยอะมากเลยน่ะ...ฉันจะจำได้หมดหรอเนี่ย?”

                    เอาไว้ใช้เวลาอยู่คนเดียวนั่นแหละ อยู่กับฉันก็ไม่ต้องห่วงอะไรหรอกผมยิ้มให้กับสิ่งที่โยซอบพูด จริงๆเค้าก็ไม่ใช่คนนิสัยแย่อะไรนักหรอก แค่ปาก...หมาไปหน่อย= =

                    “เฮ้อ~ ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ยากจังเลยนะการอยู่กับเกย์เนี่ย= = ไม่มีอะไรสั้นๆทำตามง่ายๆบ้างเลยเหรอ?”

                    จริงๆมันก็มีวิธีนึงนะ ง่ายๆเลย แล้วนายจะอยู่ที่นี่สบายๆ

                    อะไรอ่ะ?”

                    ก็...

                    “...?”

                    เป็นเองซะเลยไง... มาเป็นเกย์เหมือนฉันโยซอบว่าพลางหันมายิ้มเจ้าเล่ห์ใส่ผม ร่างเล็กเขยิบก้นเข้ามาชิดผมมากขึ้นก่อนจะยกมือจับคางผมยึดเอาไว้

     

                    ฉันเอง...ก็ยังว่างอยู่นา~

     





     

    สวัสดีจ้า~ ไรเตอร์หายไปนานมากเลย
    สารภาพว่าเพราะตันจากโอเอ็มบี แล้วพอไปลงฟิคในบ้านบีสทืมันก็ไม่ได้มาลงที่นี่เลย
    เรื่องนี้ลงในบ้านบีสท์เมื่อนานมาแล้ว (ก็ไม่นานเท่าไหร่หรอก) แล้วก็เอามาลงที่นี่อีก
    เพราะฉะนั้นไม่ตันหรอกค่ะ เพราะมันจบไปแล้ว ฮุฮิ แล้วก็สนุกแน่นอน รับประกันจากคนในบ้าน 5555
    ยังไงก็ฝากรักเรื่องนี้ให้มากๆนะคะ ขอโทษอีกครัง้ที่หายไปกับเรื่องก่อน
    สัญญาว่าจะรีบลงให้จบคร้าบ -3-




    รักคนเม้น 0.<


     

     

    © Tenpoints !
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×