ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Dooseob's House!!!

    ลำดับตอนที่ #21 : [OS] I still love you ยังไงฉันก็รักนาย

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 414
      0
      8 ต.ค. 55

    © Tenpoints!



    เพลงประกอบจ้า => I still love you






    “ดูจุนนา...ฉันเอาข้าวเที่ยงมาให้แหละ”
    ร่างบางในชุดพละวิ่งเข้ามาทางประตูห้องเรียนก่อนจะยื่นกล่องข้าวลายน่ารัก
    ให้คนข้างหน้าทั้งรอยยิ้มกว้างเช่นทุกๆวัน





    ถึงแม้จะรู้ว่าสิ่งที่จะเกิดขึ้นก็คงเป็นเหมือนเดิมก็ตาม...





    “ฉันบอกกี่ครั้งแล้วว่าไม่กิน!! ไม่มีสมองคิดหรือไง??”
    ร่างสูงตบโต๊ะเสียงดังและลุกขึ้นยืน
    ตาคมจ้องคนตัวเล็กกว่านิ่ง แต่ดูเหมือนอีกคนจะชินซะแล้วล่ะ...




    ก็โดนเกลียดมาแต่ไหนแต่ไรแล้วนี่..





    “ต..แต่วันนี้...ฉันทำของโปรดของดูจุนนามาด้วยนะ...
    ทงคัตสึนี่ไง...ไม่ลองดูหน่อยร..”

    ‘เคร้งงงง’

    “อึก..”
    ร่างเล็กยังไม่ทันพูดจบกล่องข้าวก็ถูกปัดตกลงไปบนพื้น
    จนไม่เหลือชิ้นดี อาหารหน้าตาน่ากินกองกับพื้นอย่างน่าเสียดาย
    เช่นเดียวกับคนที่ตั้งหน้าตั้งตาคอยเวลาที่จะเอามันมาให้
    ที่ได้แต่จ้องของบนพื้นทั้งน้ำตาที่เริ่มรื้น






    “หึ...ต่อให้เป็นของที่ฉันชอบ
    ถ้านายเป็นคนที่ทำฉันก็ไม่กินหรอกนะ มันขยะแขยง...”
    ร่างสูงแสยะยิ้มก่อนจะใช้เท้าเขี่ยอาหารข้างโต๊ะออกไปไกลๆ
    พร้อมกับก้มลงพูดกับคนตัวเล็กที่นั่งยองเก็บของบนพื้นตัวสั่นเสียงเรียบ












    “รู้แล้วก็หัดเจียมซะมั่ง...ยังโยซอบ”






     



    ‘ตึก...ตึก...’
    ร่างบางเดินถือกล่องข้าวพังๆไปตามทางเดินด้วยหน้าตาล่องลอย
    ตากลมโตยังบวมแดงจากการร้องไห้เมื่อตอนเที่ยง
    กระชับกระเป๋าเป้บนไหล่ขึ้นเล็กน้อยก่อนจะถอนหายใจเบาๆ


    “อ้าว นั่นโยซอบนี่ โยซอบบบบ!!“
    เสียงเรียกจากอีกทางของทางเดินเรียกสติของร่างบางกลับมา
    ก่อนเจ้าของชื่อจะหันไปมองต้นเสียง


    “อ..อ่อ เซโฮ มีอะไรรึเปล่า?”
    ถามเสียงเบาพลางยิ้มเจื่อน ก่อนจะโบกมือกลับให้ร่างสูงที่วิ่งเข้ามาหา


    “นี่...เรื่องเมื่อตอนเที่ยง..นายไม่เป็นไรแน่นะ?”
    “อ..อืม ไม่เป็นไรหรอก...ชินแล้วล่ะ”
    “นาย..ไม่ตัดใจจากมันไปซักทีล่ะ นายก็รู้..ว่ายิ่งนายรักมัน..นายก็ยิ่งเจ็บนะ
    ถึงดูจุนจะเป็นเพื่อนสนิทฉันก็เถอะ..
    แต่เห็นมันทำแบบนี้กับนายฉันยังเจ็บแทนเลย...”
    เซโฮพูดอย่างเป็นห่วง ก่อนจะตบบ่าโยซอบเบาๆเป็นเชิงปลอบใจ




    “ไม่รู้สิ...ฉันเองยังไม่เข้าใจตัวเองเลย...”




    “แต่ฉันว่า...การจะให้ฉันเลิกรักดูจุน...”




    “มันยากกว่าการอดทนให้ดูจุนทำร้ายจิตใจอย่างนี้ซะอีกนะ...”
    โยซอบพูดพบางยิ้มเศร้า
    ตาทั้งสองมองไปบนฟ้าที่เมฆเริ่มตั้งเค้าอย่างไร้จุดหมาย
    ทำเอาเซโฮที่ยืนอยู่ข้างๆก็อดสงสารไม่ได้


    “นี่ อย่าซึมอย่างนั้นสิ ยังโยซอบที่ยิ้มได้กับทุกเรื่องไปอยู่ไหนซะแล้วล่ะ?
    นายไม่ยิ้มอย่างนี้ฉันรู้สึกเหมือนคุยอยู่กับโยซอบตัวปลอมเลยรู้มั้ย?”
    หลังจากเห็นอีกคนเงียบไป เซโฮก็หาเรื่องมาคุยแทน
    ก่อนจะยกมือทั้งสองขึ้นดันมุมปากโยซอบขึ้นเบาๆ


    “เฮ้ๆๆ ไม่เอานะ ยิ้มแล้วๆๆ ฮะๆๆๆ”
    ด้วยความที่เป็นคนบ้าจี้ร่างเล็กเลยหลุดหัวเราะออกมา
    ก่อนจะยอมยิ้มออกมาซะเห็นลักยิ้มบนแก้มใส


    “อ่า..อย่างนี้สิค่อยเหมือนยังโยซอบที่ฉันรู้จักหน่อย..เนอะ”
    ร่างสูงยิ้มตามเมื่อเห็นคนข้างหน้ายิ้มออก
    ก่อนจะจับไหล่ทั้งสองข้างของร่างเล็กและยิ้มให้อย่างจริงใจ


    “ย่า เซโฮ อยู่ไหนวะ? อ้าว อยู่นี่เองเหรอ?”
    เสียงทุ้มที่คุ้นหูดังมาจากทางสนามบาส
    ก่อนจะปรากฏร่างสูงสมส่วนในชุดเสื้อแขนกุดของทีมโรงเรียน
    ที่กึ่งเดินกึ่งวิ่งเข้ามาใต้ทางเดิน



    “แล้วนี่...หึ..นึกว่าใคร”
    หันมามองคนที่เพื่อนตัวเองยืนคุยอยู่ด้วยก็ยกยิ้มหยัน





    “พอฉันไม่เอาเข้าหน่อย...ก็หันไปหาเพื่อนฉันแทนแล้วหรือไง?”
    ร่างสูงหุบยิ้มลงและจ้องหน้าอีกคนนิ่ง
    ร่างเล็กก็ได้แต่ยืนเงียบอย่างไม่เชื่อหู

    “เฮ้ย ดูจุน คราวนี้มันจะเกินไปแล้วรึเปล่าวะ?
    ฉันเป็นคนเดินมาหาเค้าเอง แล้วเราก็ไม่ได้คุยอะไรอย่างนั้นกันซักหน่อย”
    เซโฮยกแขนกั้นไม่ให้ดูจุนเดินเข้าไปใกล้โยซอบ
    ที่เริ่มมีน้ำตารื้นที่ขอบตาอีกครั้งได้มากกว่านี้
    ก่อนจะพูดเสียงเรียบพอกัน หวังจะให้เพื่อนรักใจเย็นลง




    “เหอะ...ถึงขนาดทำให้เพื่อนฉันเดินเข้าหา...”






    “ยั่วเก่งนักนี่...ที่แท้...นายก็แค่คนใจง่ายคนนึงเท่านั้นนี่เองสินะ...”







    ร่าน
    ร่างสูงว่าสั้นๆด้วยสีหน้ารังเกียจ
    แต่มันกลับทำให้ความพยายามในการกลั้นน้ำตาของยังโยซอบหมดลงในทันที...




    คำดูถูกอีกแล้วสินะ...


    “อ..อึก...”
    ร่างบางมองหน้าคนที่ตัวเองรักทั้งน้ำตา
    ในใจก็ได้แต่บอกตัวเองซ้ำไปซ้ำมาว่าคงหูฝาดไปเอง...




    ก็แค่หลอกตัวเองทั้งนั้น






    “ย...ย่ายุนดูจุน!! ไม่แรงไปหรอวะ?
    ฉันเห็นโยซอบก็รักนายมาคนเดียวตั้งแต่ประถม
    แถมนายไล่เค้าแค่ไหนเค้าก็ไม่ยอมเลิกรักนาย
    โยซอบรักนายมากขนาดนี้...นายยังว่าอย่างนี้ได้ยังไงวะ?”




    “พูดตามตรงเลยว่ะ...”





    “วันนี้...ฉันเห็นนายเลวที่สุดที่เคยเป็นเพื่อนกันมาเลย..”
    เซโฮพูดใส่ดูจุนด้วยสีหน้าผิดหวัง
    ก่อนจะดึงแขนบอบบางของอีกคนให้เดินตาม





    “ด..เดี๋ยวเซโฮ...”
    เอ่ยขึ้นหลังจากเดินผ่านดูจุนไปซักพักด้วยเสียงสั่น
    ซึ่งเจ้าของชื่อก็ยอมหยุดลงแต่โดยดี



    “ดูจุนนา...”




    “ฉันขอโทษนะ...ที่ทำให้นายไม่พอใจ”




    “แต่ว่า...ดูจุน...ไม่ใช่คนเลวหรอกนะ...”




    “ฉันต่างหากที่เลว...ที่ไม่ยอมไปจากชีวิตนายซักที...”





    “อย่าโกรธเซโฮเลยนะ...”





    “อย่าให้ฉันต้องเป็นคนเลว..ที่ทำให้เพื่อนแตกแยกกันเลย...”
    พูดเสียงสั่นพลางยกมือข้างที่ไม่โดนจับขึ้นปาดน้ำตา
    ก่อนจะจับแขนเซโฮเบาๆให้ปล่อยตัวเองและวิ่งออกไปจากทางเดิน
    พร้อมๆกับฝนสายใหญ่ที่ซัดเทลงมา...





    ราวกับจะช่วยบดบังน้ำตาของยังโยซอบ...





    ผู้ที่มีรอยยิ้มให้ยุนดูจุนเสมอ...






    ผู้ที่วันนี้...ปล่อยให้ดูจุนเห็นน้ำตามาถึงสองครั้ง...






    อ่อนแอเกินไปแล้ว...หัวใจของยังโยซอบ






    โดนทำร้ายจนทนไม่ไหวอีกแล้ว...




    “ถ้าฉันเลิกยุ่งกับดูจุน...ดูจุนจะเกลียดฉันน้อยลงรึเปล่า..?”
    หยุดวิ่งลงเมื่อห่างออกมาไกลพอสมควร
    มือเล็กยกขึ้นปิดหน้าตัวเองไว้ซักพัก
    ก่อนจะลดมือลงพร้อมรอยยิ้มหวานบนใบหน้า




    “ไม่ได้...ดูจุน..เกลียดคนร้องให้ง่ายไม่ใช่รึไง?”
    พยักหน้ากับตัวเองก่อนจะออกเดินข้าๆ



    “วันนี้ดูจุนอาจจะแค่อารมณ์เสียที่แมนยูแพ้เมื่อคืนก็ได้...”






    “หรือไม่...กล่องข้าวที่เอามาให้อาจจะแบ๊วเกินไป”






    “หรือดูจุนจะไม่ด้ชอบทงคัตสึแล้วนะ?”






    “พรุ่งนี้...ลองทำกล่องใหม่ไปก็ด้เนอะยังโยซอบ...”




    “บางที...ฮึก...ดูจุน..อาจจะ..ฮึก...อาจจะ
    เลิกเกลียดเรา...ฮึก..เข้าซักวันก็ได้นะ..ยังโยซอบ...”
    ขาเล็กก้าวไปอย่างเชื่องช้า พร้อมกับน้ำตาที่ไหลลงมาอย่างไม่รู้ตัว



    ร่างบางเดินยิ้มไปหัวเราะไปอย่างกับคนบ้า...
    แต่ความเจ็บตอนนี้...มันทำให้เรื่องนี้เป็นเรื่องเล็กไปแล้วล่ะ..






    “หึ...ไม่หรอก...ต่อให้ทำอะไรแค่ไหน...”





    “ดูจุนก็ยังเกลียดนายอยู่ดีแหละ...นายโง่ยังโยซอบ...”




    “ไม่ได้ยินรึไง...”




    “ดูจุนบอกให้นายเจียมซะบ้าง...”




    “ดูจุนบอกว่านายมันร่าน ยังโยซอบ!!! เค้าเกลียดนาย
    ไม่รู้รึไง ฮึก...ฮืออออออออ”
    รอยยิ้มค่อยๆหุบลงไปและแทนที่ด้วยน้ำตาที่ไหลลงมามากขึ้นๆ
    จนผสมกับน้ำฝนที่เปียกไปทั่วคนตัวเล็กในชุดพละตัวบางจนเปียกซก






    “ทำไม...นายถึงได้รักเค้าขนาดนี้...ยังโยซอบ...”
    ขาทั้งสองหยุดเดินและพิงลงกับต้นไม่ข้างทางต้นหนึ่ง
    ก่อนจะค่อยย่อตัวลงนั่งอย่างหมดแรง
    ปล่อยให้น้ำตาไหลต่อไปจนกว่าจะไม่มีเหลืออีก





    จะได้กลับมายิ้มให้ดูจุนได้เหมือนทุกๆวัน...





    ก็ทำแบบนี้มาตลอด...




    มีต้นไม้ต้นนี้เป็นเพื่อนมาเสมอ...




    ต้องคอยซ่อนความเจ็บปวดอยู่เสมอ...




    ถึงยังไงซะอีกคนก็ไม่ได้สนใจอะไรอยู่แล้ว...



    แต่ก็ไม่อยากให้รู้อยู่ดีล่ะ..ว่าอ่อนแอขนาดไหน...





    “หืม?”
    ร่างเล็กหยุดร้องไห้ไปซักพักก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองด้านบน
    เมื่อความรุ้สึกของเม็ดฝนบนร่างกายหยุดลง


    “ด..ด..ดูจุน..นา?”
    เอ่ยเสียงแหบอย่างไม่เชื่อตัวเองเมื่อเห็นใบหน้าของคนที่ตัวเองรัก
    ก่อนจะหมดสติไปซะอย่างนั้น...










    “อ..อือ..ที่นี่...ที่ไหน?”
    ร่างเล็กพูดเสียงเบาพลางหรี่ตาขึ้นปรับกับแสงไฟด้านบน


    ‘แกร่ก’
    เสียงๆหนึ่งจากไม่ไกลนักเรียกให้ร่างบางหันไปมอง
    ก่อนจะยิ้มออกมาเมื่อเห็นใครอีกคนที่วางกะละมังสีอ่อน
    ลงกับโต๊ะอ่านหนังสือหน้าประตูไม้สีเข้ม




    นี่คงเป็นห้องนอนของดูจุนนาสินะ...




    และเตียงที่เรานอนอยู่..ก็คงเป็นเตียงของดูจุนด้วยใช่มั้ย?






    “ด..ดูจุนนา..ดูจุนนาจริงๆหรอ?”
    “อย่าเรียกฉันด้วยชื่อสนิทสนมแบบนั้น
    ฉันไม่ชอบ บอกกี่ครั้งแล้วจำไม่ได้รึไง??”
    ร่างสุงเอ่ยเสียงเรียบเอนไปทางตะโกน
    ทำเอาโยซอบหุบยิ้มมองหน้าดูจุนอย่างไม่เข้าใจ...



    “ดูจุน...ช่วยฉันมาเหรอ?”
    ถามเสียงแผ่วลงและยิ้มบางๆ
    ร่างสูงยกยิ้มหยันจนคนตัวเล็กใจหาย ก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้ไม้ใกล้ตัว




    “ฝันเฟื่องเกินไปรึเปล่า...ฉันก็แค่ไม่ใช่คนเลวพอจะทิ้งคนๆนึง
    นอนหนาวตายอยุ่ข้างถนนได้หรอกนะ”




    “ไม่รู้รึไงว่าฉันไม่ชอบคนขี้แย...มันน่าสมเพช”
    “อึก..”
    คำพูดของดูจุนทำให้โยซอบจุกขึ้นมาซะให้ได้...



    “ม..ไม่..ค..คือ”
    “และนายก็คงรู้ว่าฉันไม่ชอบคนชอบแก้ตัว...”





    “ไหนๆนายก็ตื่นแล้ว...ออกไปจากบ้านฉันได้แล้ว”
    “ด..เดี๋ยว ฟังก่อน”
    “เราไม่มีความสัมพันธ์อะไรที่ฉันจะต้องมานั่งปรับความเข้าใจกับนาย
    ดังนั้น...ย้ายตัวน่ารังเกียจๆของนายออกไปจากบ้านของฉันได้แล้ว....”
    ร่างสูงกดเสียงพูดให้ต่ำลง
    และจ้องมาที่คนตัวเล็กบนเตียงอย่างจริงจัง



    “อ..อือ ก็ได้...งั้นฉัน..ป..ไปนะ”
    ร่างเล็กกลั้นน้ำตาเต็มความสามารถ
    ก่อนจะยันตัวลุกขึ้นจากเตียงช้าๆด้วยเรี่ยวแรงที่แทบจะไม่มี
    ฝืนยิ้มให้กับคนข้างหน้าราวกับตัวเองไม่เป็นไรอีกครั้ง
    ก่อนจะค่อยๆลากร่างกายของตัวเองออกมาอย่างยากลำบาก



    “ชิ...จะสำออยไปถึงไหนวะ?”
    ร่างสุงจิ๊ปากอย่างไม่พอใจเมื่อคนตัวเล็กเดินช้าซะเหลือเกิน
    ก่อนจะลุกขึ้นคว้าข้อมือเล็กแน่นให้เดินตามมา
    และทั้งสองก็มาถึงหน้าประตูบ้านของดูจุนหลังจากนั้นไม่นาน




    “ออกไปซะ..และหวังว่านายจะเลิกยุ่งกับชีวิตฉันซักทีนะ”
    เอ่ยเสียงเรียบและปิดประตูใส่หน้าอีกคนดังปัง





    น้ำตาใสๆหลดลงมาจากขอบตาแดงๆเป็นครั้งที่นับไม่ถ้วน





    กี่ครั้งแล้วนะ..ที่ร้องไห้ให้กับผู้ชายชื่อยุนดูจุน...





    ไม่รู้ว่ากี่ครั้งแล้ว...แต่ก็ไม่เคยจำซักทีล่ะนะ...





    “นี่..ดูจุนนา...นาย..เกลียดฉันมากขนาดนั้นเลยเหรอ?”





    “ฉันมัน..น่ารังเกียจขนาดนั้นเลยเหรอ..ในสายตาของนาย..ฮึก..”





    “ฉันทำอะไรผิดเหรอ...นายถึงไม่เคยมองเห็นความรักของฉันเลย...”





    “บอกได้มั้ย..ว่าทำไม..ฉันถึงไม่เคยได้รับแม้แต่สายตาเป็นมิตรจากนายเลย...”






    “แล้วฉันต้องทำยังไงเหรอ...นายถึงจะเลิกเกลียดฉันแบบนี้?”
    ร่างบางถามเสียงแผ่วผ่านทางบานไม้บานใหญ่
    หวังว่าอีกคนจะยังอยู่ตรงนั้น...ฟังเขาพูดอยู่อีกด้านจองประตู..




    “นายมันใจร้าย...ทำไมนายต้องทำร้ายจิตใจกันด้วยล่ะดูจุนนา..”




    “รู้มั้ยว่าเวลาที่นายต่อว่าฉัน..ไม่ว่าจะแรงแค่ไหน..”





    “ที่ฉันยิ้มตอบกลับไป....ก็ไม่ได้หมายความว่าฉันไม่รู้สึกอะไรเลยหรอกนะ...”





    “ฉันเองก็มีหัวใจนะ....”





    “เจ็บเป็น...เศร้าเป็น...และที่สำคัญ...ฉันเองก็ท้อเป็น”




    “แต่ฉันคงโง่เอง...”




    “ที่ต่อให้นายใจร้ายกับฉันแค่ไหน...ฉันก็ยังรักนาย”




    “เป็นคนโง่...ที่หลงรักนายจนโงหัวไม่ขึ้น...”





    “แต่ตั้งแต่นี้ไป...ฉันคงต้องตัดใจจริงๆแล้วล่ะ...”






    “ฉันจะหายไปจากชีวิตของดูจุนนะ...อย่างที่ดูจุนต้องการ...”






    “ถ้าฉันทำแบบนี้...นายคงหายเกลียดกันใช่มั้ย?”





    “หวังว่า..จะเป็นอย่างนั้นนะ...”







    “ฉันไปล่ะ...”






    “ฉันรักนายนะ..ดูจุนนา...”
    มือเล็กกำแน่นและแตะลงบนบานประตูอีกครั้ง
    ร่างบางถอนหายใจเฮือกใหญ่และกลับมายิ้มบางๆเป็นโยซอบที่แข็งแรง





    ยังโยซอบ...ควรจะเริ่มต้นชีวิตใหม่เสียที...





    “ฮึก...ลาก่อน...ดูจุน...”
    หันไปยิ้มให้บ้านหลังใหญ่เบื้องหลังอีกครั้ง
    ก่อนจะค่อยเดินกลับบ้านตัวเองท่ามกลางสายฝนเช่นเคย
    ขาที่ไม่มีแรงอยู่แล้ว...ดูจะยิ่งหมดแรงยิ่งกว่าเดิม...












    ‘เอี๊ยดดดดดดด’
    ‘โครม!!!’







    ‘ตึกๆๆๆ’


    “โยซอบ!! ยังโยซอบ ฟื้นสิ โยซอบ!!!!”
    เสียงฝีเท้าวิ่งของใครคนหนึ่งดังขึ้น
    ตามมาด้วยเสียงเรียกคุ้นหูเลือนๆทำให้ร่างบางปรือตาขึ้นอย่างยากลำบาก
    แต่ก็ปรากฏรอยยิ้มบางๆขึ้นบนใบหน้าหวานที่บัดนี้เปื้อนไปด้วยเลือดสีแดงสดเป็นทาง
    เมื่อเห็นใบหน้าของคนที่รักที่สุดอยู่ข้างหน้า...





    ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเป็นห่วง...





    ไม่ใช่ใบหน้ารังเกียจเขาเหมือนที่ผ่านๆมา





    “นาย..มาได้ยังไง?”
    ถามเสียงเบาๆ มือเล็กยกขึ้นลูบใบหน้าหล่อเหลาของคนข้างหน้าให้รู้ว่าไม่ด้ฝันไป






    “ฉันคง..ไม่ได้ใกล้ตายจนฝันไปเองหรอกใช่มั้ย...”
    ถามทั้งน้ำตา...ทั้งๆที่ร่างกายเจ็บไปหมด
    เจ็บเหมือนจะตายซะตรงนี้...แต่ทำไมถึงรู้สึกใจพองโตอย่างนี้ก็ไม่รู้...







    “ไม่โยซอบ...นายจะไม่ตายนะ..ได้ยินใช่มั้ย?
    นายแค่โดนรถชนนิดหน่อย...เดี๋ยวรถพยาบาลก็จะมา...
    แล้วนายก็จะรอดไง...เข้าใจมั้ย โยซอบอา?”
    ร่างสูงถามทั้งน้ำตามือหนาจับใบหน้าเล็กของอีกคนไว้แน่น
    ราวกับกลัวว่ามันจะหายไป





    “ท..ทำไม? ดูจุน..เกลียดฉันไม่ใช่หรอ?”




    “ดูจุนไม่ได้...อยากให้ฉันออกไปจากชีวิตหรอกหรอ?”
    โยซอบเอ่ยถามอย่างสงสัย พลางจ้องตาคมอย่าไม่เข้าใจ
    ร่างสูงทำเพียงส่ายหน้าและก้มลงกอดร่างบางข้างหน้าเบาๆ




    “ไม่โยซอบ...ฉันไม่อยากให้นายไปไหนทั้งนั้น...
    ดังนั้น...นายต้องอยู่กับฉันนะ...เข้าใจใช่มั้ยโยซอบ?”
    ดูจุนพูดอย่างเอาแต่ใจ ก่อนจะลูบผมเปื้อนเลือดของคนตัวเล็กเบาๆ




    “แต่ฉันว่า...ฉันไม่ไหวแล้วล่ะ..ด..ดูจุน...”
    ร่างบางพูดเสียงเบา
    เขารู้ตัวดี...ว่าตัวเขาเอง...คงไม่รอดไปได้นานกว่านี้เท่าไหร่นักหรอก...




    ไหนจะเลือดที่ไหลออกมาไม่หยุดจนรู้สึกได้





    แถมยังหมดแรงซะจนลืมตาแทบไม่ขึ้น...





    เจาจะต้อง...จากดูจุนไปจริงๆใช่มั้ย?...





    หรือเพราะเขากำลังจะตาย...พระเจ้าเลยส่งดูจุนมาปลอบใจเขารึเปล่า?





    “ไม่...นายจะไม่ไปไหนทั้งนั้นโยซอบ!!! ฮึก...”




    “ฉันมันเลว ฉันปฏิเสธความรักของนายมาตลอด...ฉันขอโทษยังโยซอบ...”




    “นี่..ดูจุนนา...ฉันขอถามอย่างนึงได้มั้ย?”
    “อ..อืม”
    “นายจะช่วย...โกหกให้ฉันรู้สึกดีหน่อยได้มั้ย...”





    “โกหก...ว่านายไม่ได้เกลียดฉัน...ให้ฉันฟังซักครั้งได้มั้ย?”
    คำถามจางร่างบางข้างหน้าทำเอาดูจุนกลั้นน้ำตาต่อไปไม่ไหว




    ร่างสูงพยักหน้ารัวทั้งน้ำตา
    ก่อนจะยิ้มกว้างและลูบใบหน้าหวานของร่างเล็กในอ้อมกอดเบาๆ





    “ฟังนะ..โยซอบ...”




    “ฉันไม่ได้เกลียดนาย..ไม่เคยเกลียดเลยซักครั้ง...”





    “ฉัน...รักนาย..โยซอบอา...”
    “อ..อึก..ข..ขอบคุณ..นะ”
    ยิ้มให้คนที่ตนรักที่สุดอีกครั้ง
    ก่อนร่างเล็กจะหมดลมหายใจไปทั้งใบหน้ามีความสุข





    มีความสุข...ที่อย่างน้อย...





    ดูจุนก็ไม่เกลียดจนไม่ยอมโกหกให้เขาสบายใจ...





    แค่นี้เขาก็จากไปอย่างสบายใจแล้วล่ะ...





    “โยซอบ...ไม่โยซอบ!!!! อย่าทำอย่างนี้สิ...ฉันรักนายจริงๆนะ..ฮึก...”
    ร่างสูงยังคงกอดร่างไร้วิญญาณในอ้อมกอดแน่น
    น้ำตาไหลลงมาไม่หยุด พร้อมๆกับเสียงเรียกชื่อคนตัวเล็กซ้ำไปซ้ำมา





    เพียงแค่หวังว่า...คนๆนี้จะตื่นขึ้นมาอีกครั้ง...







    สองปีก่อน


    “นี่ดูจุน...นาย...ชอบโยซอบรึเปล่าวะ?”
    “หืม? อะไรนะ”
    ร่างสูงหันไปมองเพื่อนรักเหวอๆเมื่ออยู่ดีๆก็โดนเรียกขึ้นมา


    “ก็คนที่นั่งข้างๆนายไง...คนที่ชวนนายคุยบ่อยๆอ่ะ”
    “อ..อ่อ ป..เปล่านี่..ทำไมวะ?”
    ร่างสูงตอบเสียงตะกุกตะกัก....



    ก็ไม่ใช่ว่าไม่ชอบหรอกนะ...



    ก็...น่ารักดี...



    “ฉันว่า...ฉันชอบเค้าเข้าซะแล้วว่ะ...”
    “ฮ...อ่าฮะ...ล..แล้ว?”
    “ฉันจะจีบเค้า...เฮ้ย แต่คนนี้นายห้ามแย่งนะ”
    “อ...อืม สัญญาๆ”
    พยักหน้าตอบไปส่งๆอย่างนั้น ทั้งๆที่ในใจก็แอบค้าน





    ยอมรับไป...เพราะไม่รู้เรื่องที่จะเกิดขึ้นไง...




    ไม่รู้...ว่าจะมาตกหลุมรักคนตัวเล็กอารมณ์ดีคนนี้เข้าหมดใจ...





    ไม่รู้...ว่าจะต้องมาคอยทำร้ายจิตใจคนตัวเล็กนี่
    ทั้งๆที่ในใจอยากจะขอโทษซักร้อยล้านครั้ง




    ไม่รู้...ว่าอีกคนจะยอมทนให้เขาทำร้ายจนเจ้บได้ขนาดนี้





    ไม่รู้...ว่าอีกคนจะจากเขาไป...เพราะคำพูดของเขาเอง...










    “ฮ...ฮึก...ฉันขอโทษ..โยซอบอา...ขอโทษ..ขอโทษจริงๆ...”






    “ฉัน...รักนายนะ...”




    THE END




    อีกซักนิดแล้วกัน...


    ‘กริ๊งงงง’

    “ยินดีต้อนรับคร้าบบบบบ”
    เสียงพนักงานในร้านดังขึ้นอย่างพร้อมเพรียงก่อน
    ร่างบางในชุดนักเรียนและผ้ากันเปื้อนพนักงานจะหันไปหยิบ
    เมนูและสมุดจากอีกฟากของเคาน์เตอร์มาในมือ


    “เดี๋ยวผมไปรับออเดอร์ให้เองฮะ”
    ตะโกนบอกเจ้าของร้านก่อนจะเดินไปยังโต๊ะ
    ที่มีลูกค้าคนใหม่นั่งกางเมนูรออยู่ก่อนแล้ว



    “สวัสดีครับ รับอะไรดีครับ?”
    คนตัวเล็กยกยิ้มและถามลูกค้าอย่างร่าเริง
    นี่ล่ะ...บุคลิกที่เรียกลูกค้าประจำและทิปหนักๆได้ดีเหลือเกิน






    เพราะยังโยซอบไม่ชอบอ่อนแอให้ใครเห็นมาแต่ไหนแต่ไร





    “ผมขอเจอพนักงานที่ชื่อ...โยซอบได้รึเปล่า?”
    ร่างสูงในเสื้อสูทเหมือนพนักงานบริษัทตำแหน่งหรู
    ถามเสียงเรียบ ตาก็ยังจ้องไปที่เมนูอยู่เหมือนเดิม



    “ถ้าคุณลูกค้าถาทถึงยังโยซอบล่ะก็...
    คนนั้นผมเองล่ะครับ...”
    ตอบงงๆแล้วชี้หน้าตัวเองตาแป๋ว
    ร่างสูงได้ยินดังนั้นก็ลดเมนูในมือลงและมองหน้าคนข้างหน้าอย่างไม่เชื่อสายตา






    “โยซอบ...นาย...นายจริงๆด้วย”
    ร่างสูงพูดเสียงเบา แววตาคมทั้งสองเริ่มสั่นไหวจนคนตัวเล็กใจวูบ






    ทำไมถึงรู้สึก...แปลกๆ..?



    “อ..เอ่อ เรารู้จักกันด้วยเหรอครับ?”
    ถามอย่างสุภาพพอดีๆ ไม่ให้ทำร้ายจิตใจอีกคนจนเกินไป
    ร่างสูงข้างหน้านิ่งไปซักพักก่อนจะถอนหายใจและยิ้มมุมปากเล็กน้อย




    “นั่นสินะ...คงแค่...ชื่อเหมือนหน้าคล้ายเฉยๆล่ะมั้ง...
    ไม่ต้องตกใจนะ...เธอแค่หน้าเหมือนคนที่ฉันรู้จักเฉยๆน่ะ ฮ่ะๆ”
    ร่างสูงสะบัดมือไปมาให้คนตัวเล็กไม่ตกใจไปมากกว่านี้
    ร่างเล็กพยักหน้ารับ ก่อนจะหยิบผ้าในมือขึ้นมายื่นให้คนข้างหน้า




    “รับไปเถอะครับ...เคยมีคนสอนผมไว้...”






    “ว่าอย่าอ่อนแอให้ใครเห็น...”
    ร่างบางพูดและยิ้มหวาน
    ร่างสูงมองหน้าอีกคนนิ่งและปล่อยน้ำตาไหลลงมาตามใบหน้าหล่อเหลาช้าๆ




    “ง...งั้นหรอ...ขอบใจนะ...”
    “อ..ครับ”
    โยซอบเกาหัวงงๆแต่ก็พยักหน้าตอบไปตามมารยาท




    “แล้วคุณลูกค้าจะรับอะไรดีครับ?”
    “นี่โยซอบ...เธอรู้มั้ยว่าทำไมฉันถึงอยากเจอเธอนัก?”
    “ครับ?”
    ร่างสูงถามขึ้นมาขณะที่ยังคงอ่านเมนูในมือไปเรื่อยเปื่อย



    “ฉันเคยมีเพื่อนคนนึงล่ะ...”




    “เราเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่ประถม”




    “จนวันนึง..เพื่อนคนนึงก็มาสารภาพรักกับฉัน”




    “แต่เพื่อนสนิทของฉันอีกคนเองก็ชอบเพื่อนคนนี้...”




    “ฉันเลยต้องยอมเลือกที่จะไม่รับรักเพื่อนคนนี้...”






    “ซ้ำร้าย..ฉันยังคอยต่อว่าและทำร้ายเพื่อนคนนี้เสมอ...”





    “แต่ไม่รู้ทำไม...เพื่อนคนนี้ถึงไม่ยอมเลิกรักฉันซักที...”





    “จนวันนึง..เค้าก็มาจากฉันไป...”




    “โดยที่ยังไม่รู้เลยว่า...คำว่ารักของฉัน...ไม่ใช่แค่คำโกหก...”
    เรื่องที่ร่างสูงเล่าให้ฟังทำเอาคนตัวเล็กพูดไม่ออก






    คุ้น...ทำไมถึงรู้สึกคุ้นจัง





    “เพื่อนคนนั้น..ชื่อยังโยซอบ...”




    “แล้วเค้าก็หน้าเหมือนเธอมาก...”




    “พอฉันรู้ว่ามีพนักงานที่นี่ชื่อยังโยซอบ...
    ฉันก็เลยมาหานี่ล่ะ...”




    “แล้วก็น่าแปลกนะ...
    ที่เธอหน้าตาเหมือนเพื่อนคนนั้นเมื่อสิบเจ็ดปีก่อนเหลือเกิน..”
    ร่างสูงจ้องตาอีกคนจนโยซอบต้องหลบแววตาน่าสงสารนั่นมาก่อน



    “นี่...ลองทายดูได้มั้ย..ว่าฉันชอบทานอะไร?
    ถ้าเธอทายถูกฉันก็เอาอันนั้นแหละ”
    “ค..ครับ?”
    เบิ่งตาถามอีกครั้งเมื่อร่างสูงถามอะไรแปลกๆ
    ก่อนคนถามจะหัวเราะกับท่าทางน่ารักๆนั่นเล็กน้อย



    “ลองดูเถอะน่า”
    “ย..อย่าเลยครับ...ผมไม่รู้หรอก...”



    “แค่ลองดูหน่อย..ไม่ได้เลยเหรอ?”
    “ผ..ผมไม่รู้หรอกครับคุณลูกค้า...ขอโทษนะครับ...”
    “อ่า...ฉันคงขอมากเกินไปจริงๆ...ขอโทษด้วยแล้วกัน”
    ร่างสูงยิ้มเศร้าก่อนจะยันตัวลุกขึ้นและจัดการเสื้อสูทกับเนคไทให้เข้าที่




    “ยังไง..ฉันก็ดีใจที่เจอนายนะ...ยังโยซอบ”
    วางเงินไว้บนโต๊ะและเดินเข้ามาประชิดตัวร่างเล็ก
    ก่อนจะยิ้มให้บางๆและยกมือลุบใบหน้าหวานที่คุ้นตาอีกครั้ง
    และเดินผ่านคนตัวเล็กไปทางประตูที่เพิ่งเข้ามาไม่ถึงสิบนาที





    ทางด้านรโยซอบก็ได้แต่ยืนนิ่งอยู่อย่างนั้น...




    “ทำไมกัน...เรื่องพวกนั้น..”




    “เสียงนั้น...”




    “แถมยัง...สัมผัสนั่น...”





    “ทำไมมัน..คุ้น..อึก...”
    สองมือเล็กยกขึ้นกุมหัวทั้งสองข้างและยู่หน้าอย่างเจ็บปวด
    ร่างเล็กทรุดลงนั่งบนเก้าอี้อย่างหมดแรง
    ภาพที่เห็นทั้งมัวทั้งหมุนไปหมด...






    “ม..ไม่...เดี๋ยว...”
    รวบรวมแรงที่มีลุกขึ้นและวิ่งตามคนตัวสูงเมื่อสักครู่ออกไปนอกร้าน





    “เดี๋ยวผมมานะครับเจ้าของร้าน!!”
    ตะโกนทิ้งท้ายไว้ก่อนจะเร่งฝีเท้าขึ้นเรื่อยๆหวังว่าจะตามคนๆนั้นไปให้ทัน






    “เดี๋ยว..เดี๋ยวครับคุณลูกค้า...คุณดูจุน!!!”
    เสียงเรียกชื่อจากด้านหลังตามมาด้วยเสียงหอบทำให้ขายาวทั้งสองหยุดลงอัตโนมัติ
    ร่างสูงหันไปมองเจ้าของเสียงใสนั้นอย่างไม่เชื่อหู ก่อนจะยิ้มออกมาทั้งน้ำตา



    “จำได้แล้ว...เมนูโปรดของคุณ...”
    ร่างบางยันแขนลงกับเข่าอบ่างหมดแรง
    ก่อนจะระบายยิ้มสวยที่ร่างสูงเคยได้เห้นบ่อยๆในอดีต
    และพูดพลางหอบไปทั้งรอยยิ้ม





    “ทงคัตสึ...สินะครับ...”














    จบจริงๆ!!!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×