คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : [SF] พิสูจน์ (ปิ้นซึง)
ณ ดาดฟ้าร.ร.XXX
“นี่ซึง มึงเกลียดกูป่ะวะ?”
“เปล่านี่”
“แล้วมึงชอบกูมั้ย?”
“ถ้ากูไม่ชอบมึงกูคงต่อยหน้ามึงแหกตั้งแต่ตะกี๊แล้วล่ะ”
“แล้วมึงรักกูมั้ย?”
“คำตอบเหมือนตะกี๊”
“งั้นมึงกะกูมาเป็นแฟนกันเถอะ”
“ฮะ!!!!!!!!”ผมตะโกนลั่น ดีนะที่มีแค่เราสองคนนั่งอยู่บนดาดฟ้านี่ ไม่งั้นอายชาวบ้านเค้าตาย อ้อ ผมลืมแนะนำตัวไปใช่มั้ย สวัสดีครับ ผมชื่อจางฮยอนซึง เรียนอยู่มัธยมปลายปีสุดท้ายแล้ว ไอ้คนข้างๆผมนี่ก็เหมือนกัน มันชื่อยงจุนฮยอง ผู้ที่ช่างติสท์และตรงไม่มีใครเกิน หมอนี่มันเป็นเพื่อนสนิทตั้งแต่สมัยเด็กแล้วล่ะนะ ถึงจะดูท่าทางไม่น่าเป็นเพื่อนกับผมได้เลย เอ๊ะ ตะกี๊ถึงไหนแล้วนะ...เออ ถึงไหนแล้วหว่า?
“เงียบอย่างนี้กูจะถือว่ามึงตอบตกลงละกัน”
“ง่ะ...ฮะ??”เออใช่ ตะกี๊ไอ้ห้อยมันขอผมเป็นแฟนนี่หว่า โอ่ยตายๆๆๆๆ มัวแต่แนะนำตัว ทำไอ้ห้อยพูดเองเออเองไปแล้วววว
“นั่นไง ไม่ปฏิเสธด้วย งั้นก็มา”มันอ้าแขนออกพร้อมขยับตัวเข้าใกล้ผม
“อะไรวะเนี่ย?”
“กอดไง แฟนกันก็ต้องกอดกันดิ”ว่าแล้วมันก็คว้าผมเข้าไปกอดแล้วเอาคางมาเกยที่ไหล่ผมไว้ ดีนะที่ผมยังถือข้าวกล่องอยู่ตัวเราก็เลยไม่ใกล้กันมาก แต่ว่า...ทำไมใจผมถึงเต้นแรงขนาดนี้ฟระ???
“เหวยๆๆๆ ไม่อ๊าววววว”ผมดิ้นและสะบัดตัวให้แขนที่เหนียวแน่นยังกะหนวดปลาหมึกนี่หลุดออกไป แต่ดูจะไม่มีผลเลย
“อยู่นิ่งๆสิ เราเป็นแฟนกันแล้ว ทำแบบนี้มันไม่ผิดหรอก ไม่ต้องอายๆ โอ๋ๆๆ”ว่าแล้วมันก็ลูบหัวผมเบาๆ
“ว้อยยยยย ไอ้แสดดดดด กรูยังไม่ได้ตอบคกลงเลยว่าจะเป็นแฟนมึง อย่าเออออไปเองดิวะ”
“อ่าว ก็มึงบอกเองว่าไม่ได้เกลียดกู มึงชอบกู แถมยังรักกูอีกต่างหาก”
“ก็ไม่ได้เกลียดแล้วก็รักแบบรักเพื่อนไงครับ ไม่ได้รักแบบน้านนนนน”
“อ่ะหรอ แต่มึงก็ไม่ได้ปฏิเสธนิ”
“แว๊กกกกกกก แล้วมึงเกิดกินยาหลอนประสาทอะไรขึ้นมาถึงมาขอกูเป็นแฟนเนี่ยฮะ?!?”ใช่ๆๆ เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่คลอดออกมาจากท้องหม่าม้า เป็นบ้าอะไรอยู่ดีๆมาขอกรูเป็นแฟน ตั้งตัวไม่ทันกันเลยทีเดียว มันค่อยๆผละตัวออกแล้วจับไหล่ผมทั้งสองข้างเบาๆ
“อืมมมม...ก็เมื่อคืนกูนอนใช่มะ”
“อือฮึ”
“แล้วกูฝันถึงมึง”
“อ่าฮะ”
“แล้วกูก็ตื่น”
“อ่าฮะ”
“แล้วกูก็รู้สึกตัวว่า”
“ว่า...?”
“มันไม่ใช่ฝันธรรมดาน่ะสิ...”
“ฮ...ฮะ?”ผมเงียบแล้วมองหน้ามัน ตอนนี้มันหน้าแดงมากแล้วก็หลบตาผมไปทางอื่น เอ๊ะฝัน...ที่ไม่ธรรมดา...
“หรือว่า?!?”
“อ...อืม นั่นล่ะ แล้วกูก็เลยรู้สึกตัวว่า...กูรักมึงเข้าซะแล้ว”มันจ้องตาผมด้วยดวงตาคมๆของมัน นี่จะบอกรักหรือจะไถตังค์กรูเนี่ยTT^TT
“ฮ...เฮ้ย แต่ค่ฝันป...นั่นแหละ ฝันถึงฉันแล้วเป็นแบบนั้น...ก็ไม่ได้หมายว่านายจะรักฉันซะหน่อยนี่วะไอ้ห้อย”
“ตอนแรกฉันก็คิดว่าไม่ใช่เหมือนกันน่ะแหละ”
“ตอนแรก...อย่าบอกนะว่ามึงเป็นแบบนี้มาหลายครั้งแล้ว..?”
“ใช่...แต่พอในฝันฉันไม่มีนายฉันก็ไม่เป็นนะ”
“ชะ...”ผมมองหน้ามันอึ้งๆ มันก็ยังจ้องตาผมไม่เลิก
“แล้วแค่เรื่องนี้มันจะทำให้มึงมั่นใจได้ยังไงว่ามึงรักกู เรื่องแบบนี้กูไม่เอามาเล่นด้วยนะเว้ย”
“แล้วใครบอกว่ากูเล่นล่ะ กูก็บอกแล้วว่ากูรักมึง กูรู้ตัวเองดีน่า”มันเริ่มขึ้นเสียงใส่ผมเล็กน้อย
“แล้วอะไรทำให้มึงมั่นใจนักหนาล่ะ ถ้าน่าเชื่อถือกูจะยอมเป็นแฟนกับมึง” เอ่อ...อย่ามองว่าผมเล่นกับความรู้สึกของมันนะ ผมเองก็ไม่ได้รู้สึกไม่ดีอะไรกะมัน แล้วเท่าที่รู้จักกันมามันก็ดูแลผมดี คบกันไปก็ไม่เสียหายนี่นะ ถ้ามันรักผมอย่างที่พูดจริงๆ
“ก็เวลากูอยู่ใกล้มึงกูใจเต้นแรง เวลาเดินแยกกันเวลากลับบ้าน กูต้องหยุดมองมึงเข้าบ้านก่อนกูถึงจะเข้าบ้าน เวลามึงยิ้มให้กูแล้วกูจะลืมเรื่องแย่ๆทุกอย่าง เวลากูไม่ได้เจอมึงกูจะกระวนกระวายคิดถึงมึง แล้วเวลากูเห็นมึงถอดเสื้อ...กูจะมีอารมณ์”ประโยคสุดท้าย มันยื่นหน้าเข้ามากระซิบเบาๆที่ข้างหูของผม อึ้งสิครับอึ้ง ร้อยวันพันปีไม่ยักเคยเห็นท่าทางแบบนี้ของมันเลย...แต่ถึงเรื่องที่มันพูดจะน่าอาย...ก็ทำให้ผมรู้สึกดีแปลกๆนะ...ผมโรคจิตป่ะเนี่ย
“ดูอย่างตอนนี้สิ...ใจกูเต้นแรงจนจะไม่เป็นจังหวะแล้ว”แล้วมันก็จับมือข้างขวาของผมไปวางที่หน้าอกข้างซ้ายของมัน
ตึกๆ ตึกๆ
เต้นเร็วโคด...แปลว่าไม่ใช่แค่ผมใช่มั้ยที่เป็น... ผมหลบตามันเล็กน้อยเมื่อเริ่มรู้สึกร้อนๆที่หน้า หน้าผมคงกำลังแดงอยู่ เสียลุคหมดแล้วๆ
“เป็นไง...แค่นี้มากพอจะยืนยันได้รึยัง”มันจับคางผมให้หันไปมองหน้ามันก่อนจะใช้มือสองข้างดึงเอวของผมให้เราเข้าไปใกล้กันมากกว่าเดิม
“ม...มั้ง”
“งั้นเราเป็นแฟนกันแล้วนะ”
“...”ผมเหล่มองพื้น รู้สึกได้ถึงสายตาของมันที่ยังมองมาไม่เลิก
“ไม่ตอบอีกแล้ว...แปลว่าไม่ปฏิเสธสินะ”มันพูดเบาๆ ก่อนจะค่อยๆขยับหน้าเข้าใกล้กับผมมากขึ้นจนจมูกเราแตะกัน
“ขอนะ...จูบแรกของนาย...”จุนฮยองกระซิบเบาๆก่อนจะประทับริมฝากหนาลงมาที่ริมีปากของผม ใจผมเริ่มเต้นเร็วระส่ำระส่ายไม่เป็นจังหวะกับสัมผัมนุ่มนวลที่มันมอบให้อย่างๆค่อยๆ เมื่อเห็นว่าผมเริ่มเคลิ้มตามร่างสูงก็ค่อยๆดันลิ้นเข้ามา ทำให้จากจูบธรรมดากลายเป็นเฟรนช์คิส ถึงผมจะไม่ชินและพยายามหันหน้าหนีนิดหน่อยในตอนแรก แต่มันก็จับหน้าผมไว้แล้วค่อยๆจูบให้ช้าลงจนผมปรับตัวได้แล้วจูบตอบกลับไป เราจูบกันอยู่เนิ่นนานมาก แล้วไม่มีท่าทางจะเลิกเพราะต่างคนก็ต่างไม่ได้คิดที่จะผละตัวออกมาก่อน...ผ่านไปซักพัก มือของจุนฮยองก็เริ่มเปลี่ยนที่จากที่เอวผมมาที่เนคไทแล้วค่อยๆคลายมันให้หลวม ถอดสูทของผมออกลถอดกระดูมเสื้อของผมีละเม็ดๆ ผมก็ไม่ได้ขัดขืนอะไร...เอ่อ ก็...อารมณ์มันพาไปนี่นา ให้หยุดตอนนี้...ก็ไม่ทันซะแล้วล่ะนะ...ตอนนี้ทั้งร่างกายและใจของผม...ต่างเห็นพ้องกันว่า...ไม่อยากให้จุนฮยองหยุดเรื่องที่ทำอยู่เลย...และยังเรียกร้องมากขึ้นเรื่อย...แบบนี้...เค้าเรียกว่าความรักรึเปล่านะ
“ติ๊งต่อง ติ๊งต่อง”
เสียงกริ่งหมดเวลาพักเที่ยงดังขึ้นทำให้จุนฮยองผละตัวออกจากผมช้าๆ น้ำใสยืดเป็นทางยาวระหว่างปากผมและปากของคนข้างหน้า มันยกมือขึ้นปาดออกแล้วยกมืออีกข้างมาเช็ดปากให้ผมบ้าง ผมก็ได้แต่ยืนหน้าแดงไม่กล้าพูดอะไร
“ไปเรียนกันเถอะ”จุนฮยองก้มลงหยิบสูทของผมที่พื้นขึ้นมาปัดฝุ่นออก ก่อนจะติดกระดุมเสื้อของผมกลับ จัดเนคไท แล้วยัดเสื้อนักเรียนใส้กางเกงให้ผม
“ไม่ต้องทำขนาดนี้ก็ได้โว้ย ฉันก็ทำเองได้”ผมเอ็ดคนข้างหน้าเล็กน้อย ผมก็ไม่ใช่เด็กๆแล้วนะ อีกอย่าง...ถ้ามันล้วงลงไปลึกกว่านั้น...มันอาจจะเจอ...
“คนเป็นแฟนกันก็ต้องทำแบบนี้สิ ไม่ต้องอายหรอกน่า”ว่าแล้วมันก็จัดกันยัดเสื้อผมใส่กางเกงต่อ จนมันล้วงลงไปลึกกว่าเดิมเล็กน้อย...
“เอ่อ...ซึง...นี่นาย...แล้ว...เหมือนกันเหรอ...”เขาถามผมแบบอึ้งๆแต่สีหน้าก็แฝงแววเจ้าเล่ห์
“อ...อะไรล่ะ ไปๆๆ ไปเรียนได้แล้ว”
“คาบต่อไปเรียนอะไรอ่ะ?”
“ภาษาอังกฤษมั้ง ไปเถอะๆ”ผมพูดรัวๆ ก่อนจะคว้าข้อมือจุนฮยองแล้วออกเดินไปยังประตูทางลง
“หมับ”แต่ก่อนจะเดินไปได้ไกลจุนฮยองก็เอามืออีกข้างมาคว้าเอวของผมไว้แล้วเหวี่ยงไปที่นังเบาๆแล้วเอื้อมมือไปล็อกประตูทางออก
“ฉันเก่งแล้วล่ะวิชานี้...มาโดดเรียนกันดีกว่าเนอะ^^”
มันพูดให้ผมก่อนจะสานต่อเรื่องที่เราค้างไว้เมื่อกี๊ ว๊ากกกกกกกกกกกก อะไรกันเนี่ยยยยยยย วันแรกก็จัดหนักแล้ว ผมคิดถูกหรอเปล่านะที่ไม่ปฏิเสธมันเนี่ยTT^TT
อะชะๆ ไรเตอร์รู้นะว่าหลายๆคนกำลังมองหาNC มันมาแน่นอนค่ะ..แต่ยังไม่ใช่ในตอนนี้ แต่ก็อีกไม่นานหรอกนะคะ ฮุๆๆๆ
เม้นกันหน่อยละกันนะคะว่าอยากอ่านNC ของคู่ไหนมากที่สุด ขอบคุณค่า
ความคิดเห็น