คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : [06]ความจำเป็น (ตอนยาวอุ่นกวาง)
“เอ่อ...ดงอุน...คือฉัน”
“อืม ฉันรู้ นายคิดกับฉันแค่เพื่อน แต่ฉันถามจริงๆเถอะกีกวัง ตอนนั้นนายบอกเลิกกับฉันทำไม ฉันดูแลนายไม่ดีพอ ฉันทำอะไรไม่ถูกใจนาย นายคิดว่าฉันมีชู้ นายรักคนอื่นแล้ว หรือนายไม่เคยรักฉันเลย???”ดงอุนกดไหล่ร่างเล็กไว้แน่น น้ำตาใสๆเริ่มไหลออกมาจากตาทั้งสองข้างของร่างสูงอย่างช้าๆ จริงๆเขาเป็นคนร้องไห้ยากมาก แต่คงเป็นเพราะสถานการณ์บวกกับฤทธิ์เหล้า เขาเลยอัดอั้นไม่อยู่จริงๆ
“ฮ...เฮ้ ดงอุน... อย่าซีเรียสสิ...เอ่อ...นายไม่ได้ทำอะไรผิด แล้วฉันก็ไม่ได้เข้าใจนายผิด...แต่ว่า”
มันจะทำให้เราไม่ได้เจอกันอีกน่ะสิ...
ประโยคสุดท้ายกีกวังไม่ได้พูดออกไป เขาไม่อยากให้พ่อลูกต้องมีเรื่องกันเพราะเขา ถึงจะอยากพูดออกไปให้ร่างสูงเลิกเข้าใจผิดเขาก็เถอะ มันดูเห็นแก่ตัวเกินไป
“แต่อะไร...กีกวัง?”
“แต่ว่า...ฉันว่าอย่างนายน่ะควรจะมีแฟนเป็นสาวสวยๆ ไม่ควรจะเป็นเพศเดียวกันอย่างฉัน แล้วฉันเองก็ยังไม่พร้อมที่จะมีความรักด้วย”
“คำก็ผู้หญิงสองคำก็ผู้หญิง ก็ในเมื่อฉันเลือกแล้วที่จะรักนาย ใครมันจะมาห้ามฉันได้ล่ะ? ขนาดฉันพยายามมาตั้งนานก็ยังห้ามตัวเองไม่ได้เลย!!!”ร่างสูงมองหน้าร่างบางอย่างไม่เข้าใจ ในเมื่อกีกวังเองก็ไม่ได้ปฏิเสธ แต่ทำไมเขาถึงไม่เปิดใจรับความรักจากเขาเลย
“แล้วที่นายบอกว่าไม่พร้อมน่ะ...ฉันรอได้ ไม่ว่าจะอีกกี่ปีกี่ชาติ ฉันก็รอได้ จนกว่าจะถึงวันที่นายรักความรักจากฉัน กีกวัง!!!”
“ดงอุน...ฉัน...”กีกวังมองหน้าร่างสูงอย่างเศร้าๆ เขาเองก็ยังทำใจไม่ได้ และเขาเองก็อยากกลับไปคบกับดงอุนไม่น้อย เขาอยากจะพูดเรื่องทั้งหมดออกไป แต่อีกใจก็รู้ว่ามันไม่สมควร เขาสับสนจนพูดอะไรไม่ออก ได้แต่อ้าปากพะงาบๆ ร่างสูงก็มองอย่างถอดใจ เขาคงทำให้กีกวังกลัวสินะ...
“ก๊อกๆ ฮยองงงงง ข้างในนั่นกีกวังฮยองหรือเปล่าเอ่ย ผมมีร์เองๆ”
เสียงขัดจังหวะของเพื่อนใหม่ดังขึ้นที่หน้าต่างรถ ร่างสูงจึงต้องปล่อยร่างบางมานั่งกุมขมับตัวเองอย่างอารมณ์เสีย ส่วนกีกวังก็ลดกระจกรถลงแล้วยิ้มเศร้าๆโบกมือทักทายรุ่นน้องอย่างเป็นมิตร
“อ้าว คุณดงอุนก็อยู่ด้วย สวัสดีครับ”มีร์ทักดงอุนที่ยังไม่เงยหน้ามามองตัวเอง ร่างสูงหันไปพยักหน้าให้เล็กน้อย ก่อนจะกลับมาพิงที่นั่งตัวเองเหมือนเดิม มีร์มองดงอุนงงๆ ตอนอยู่ที่ผับยังดูมีความสุขอยู่เลยนี่หว่า
“แล้วนี่กำลังจะกลับบ้านแล้วหรอ?”กีกวังถามมีร์พลางยิ้มให้บางๆ
“ครับฮยอง พอดีรถรอบสุดท้ายมันหยุดวิ่งไปแล้ว ผมเลยต้องเดินกลับบ้านเอง”
“แถวนี้มันอันตรายนะ เดินคนเดียวไม่กลัวเอ่อ...โดนทำมิดีมิร้ายอะไรบ้างหรอ”
“ไม่หรอกฮะ จริงๆเวลาคนในร้านเยอะๆแล้วต้องกลับดึกๆ ผมก็กลับทางนี้ตลอด ไม่เห็นเคยเจออะไรนะ”
“ถึงอย่างนั้นก็เถอะ...ฉันว่าฉันไปกับนายดีกว่า อพาร์ตเมนท์ฉันก็ไปทางนี้เหมือนกัน”
“แห่ย...จะดีหรอครับ แค่นี้ผมก็มาขัดจังหวะทั้งสองคนแล้ว ให้มาขโมยตัวกีกวังฮยองไปเดี๋ยวคุณดงอุนจะโกรธเอาได้”
“ดงอุนไม่โกรธหรอกน่า จริงมั้ย?”กีกวังหันไปถามร่างสูงที่นั่งก้มหน้าเงียบ
“อ...อืม”ดงอุนพยักหน้าแล้วพูดเบาๆ
“เห็นมั้ย ป่ะ ไปกันเถอะ”ว่าแล้วกีกวังก็ปลดเข็มขัดนิรภัยก่อนจะเปิดประตูรถ
“หมับ”
“หือ?”ร่างสูงคว้ามือร่างบางไว้ก่อนที่ร่างบางจะก้าวลงจากรถ
“ฉันอาจจะกลับไปที่ห้องดึกหน่อยนะ...หรืออาจจะไม่กลับ...”ร่างสูงมองหน้าร่างบางแล้วพูดเบาๆ เผยให้เห็นคราบน้ำตาและตาที่แดงเล็กน้อย ร่างบางเห็นก็รู้สึกผิดมากกว่าเดิม
ที่ก้มหน้าตะกี๊นี้...นายร้องไห้อยู่สินะ...
“อื้ม”กีกวังยิ้มให้ร่างสูงก่อนจะก้าวออกจากรถไป ดงอุนปล่อยข้อมือกีกวังอย่างไม่ค่อยเต็มใจ กีกวังปิดประตูรถลง แล้วดงอุนก็ขับรถออกไปอย่างรวดเร็ว
“ฮยองทะเลาะอะไรกันรึเปล่าครับ?”มีร์ถามขึ้นมาอย่างเป็นห่วง(เพิ่งจะรู้เรอะ=..=) กีกวังส่ายหน้าก่อนจะออกเดิน
“ไปกันเถอะ คืนนี้ไปค้างห้องฉันมั้ย?”
“ได้หรอครับ”
“ได้สิ ไปกันๆ ไปดูหนังกันฉันเพิ่งเหนังใหม่มา...”ทั้งสองออกเดินทางกลับไปยังอพาร์ตเมนท์ของกีกวัง แต่ร่างบางก็ยังคงหันไปมองที่ถนนที่รถของเพื่อน(?)รักเพิ่งแล่นออกไปอย่างเป็นห่วง
ทำไมฉันสังหรณ์ไม่ดีเลยนะ...
กีกวังส่ายหัวเล็กน้อย ก่อนจะหันไปคุยกับมีร์ต่อ แต่หาได้รู้ไม่ว่า สิ่งที่เค้ารู้สึก...กำลังจะเป็นจริง
(ดงอุน พาร์ท)
ผมกดคันเร่งเกือบมิดออกมาจากที่จอดทันทีที่กีกวังปิดประตู พอขับรถเล่นไปเรื่อยๆก็เริ่มสร่างเมาผมเลยจอดรถเข้าข้างทางซักที่นึงแล้วนั่งคิดถึงเรื่องที่เฟิ่งผ่านไปเมื่อกี๊...ผมทำให้กวางกลัวรึเล่านะ แต่มันก็ทนไม่ไหวแล้วนี่นา...อย่างที่น่าจะรู้กันแล้วว่าผมกับกวางเคยคบกันเมื่อสองปีก่อน ผมเคยเป็นผู้ชายเจ้าชู้คบสาวไม่เลือกหน้า แต่พอผมเข้าวง Da Best มาแล้วได้เจอกับกวาง ทุกอย่างมันก็เปลี่ยนไป ผมหลงรักกวางจนถอนตัวไม่ขึ้น แล้วผมก็ขอเขาเป็นแฟนซึ่งกวางก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไร เราก็รักกันดี ผมก็ดูแลเขาเท่าที่ทำได้ กวางก็น่ารักกับผมตลอด ไมคิดว่าวันนึงเค้าจะบอกเลิกกับผม เขาบอกว่าเขาอยากเป็นแค่เพื่อนกับผม...ผมก็ต้องตอบตกลงล่ะนะ ตอนนั้นผมก็เข้าใจดีว่ากวางคงจะไม่พร้อมจะมีความรัก ถึงจะทำใจยาก...ไม่สิ ทำใจไม่ได้เลยต่างหาก
“ถ้าตอนนั้นฉันไม่ยอมปล่อยให้นายเลิกกับฉันล่ะกวาง...”
ผมฟุบลงกับพวงมาลัยรถก่อนจะถอนหายใจ
ตั้งแต่เราเลิกกันมา กวางจะคอยพูดนู่นพูดนี่ให้ผมไปรักผู้หญิงอยู่ตลอด แถมยังคอยหาผู้หญิงสวยๆมาเจอผม แนะนำให้ผมรู้จัก ผมก็รู้ล่ะนะว่าเขาคงอยากให้ผมลงเอยกับผู้หญิงแบบคนปกติ แล้วลืมเขาไปให้ได้ แต่มันทำไม่ได้นี่หว่า ผมก็ไม่รู้หรอกนะว่าเขายังรักผมอยู่บ้างมั้ย แต่ก็อยากจะคิดไปเองว่าที่เขาทำไปเพราะรักและเป็นห่วงผม หลอกตัวเองเนอะ ฮะๆ ถึงจะอย่างงั้นก็เถอะ กวังเป็นคนมีเหตุผลมากพอ ถึงจะไม่รู้ว่าทำไมแต่ดูจากท่าทางแล้ว กวังต้องมีอะไรบางอย่างปิดบังผมอยู่แน่ๆ เพราะฉะนั้น...ผมต้องกลับไปง้อซะแล้วไม่งั้นคงได้ค้างคาแบบนี้อีกนาน ว่าแล้วผมก็สตาร์ตรถเตรียมยูเทิร์นกลับอพาร์ตเมนท์แต่ก่อนจะได้ออกรถ
“이젠 너는 내옆에 없잖아
อีเจน นอนึน แนยอเพ ออบจันนา
คุณไม่ได้อยู่เคียงข้างผมอีกต่อไปแล้ว
그게 사실이야 믿고 싶지않아
คือเก ซาซีลียา มิดโก ชิพจีอันนา
นี่คือความจริง ผมไม่อยากจะเชื่อมัน
돌아와 달라고 수 없이 얘기해봐도
โทลาวา ทัลราโก ซู ออบซี แยกีแฮบวาโด
ถึงแม้ผมจะอ้อนวอนให้คุณกลับมากี่ครั้งต่อกี่ครั้ง
지금이 거짓말여야해
ชีกือมี คอจิดมัลยอ ยาแฮ
ทั้งหมดนี้ต้องไม่ใช่ความจริง ”
เสียงริงโทนโทรศัพท์ของผมดังขึ้น จะเป็นกวางหรือเปล่านะ...?
“พ่อ”
อ่า...ผู้ชายคนนี้โทรหาผม ปกติเขาก็ไม่อยากจะยุ่งกับลูกอย่างผมหรอกนะ แต่คราวนี้โทรมาหาเอง มีเรื่องอะไรรึเปล่าเนี่ย
“สวัสดีครับ”
(ดงอุน แกอยู่ไหน)เหอะ พูดเสียงห้วนเหมือนเดิมสินะพ่อผม
“อยู่แถวๆอพาร์ตเม้นท์ผมครับ มีอะไรครับ”
(คืนนี้แกไม่ต้องกลับไปนอนอพาร์ตเมนท์นั่นเลยนะ แล้วกลับมานอนที่บ้าน)
“ทำไมล่ะครับ?”
(ไม่ต้องถามมาก รู้แค่ว่าต้องมาก็พอ แค่นี้ล่ะ)
“สวัสดี..”
(ตี๊ดๆๆ)
นั่นไง วางสายก่อนผมสวัสดีตลอดพ่อผม เขาคงไม่พอใจที่มีลูกชายแบบผมล่ะนะ ก็ตระกูลผมเป็นชายชาติตำรวจกันมาตั้งแต่รุ่นปู่ทวด มีแต่ผมนี่ล่ะที่อยากจะเป็นนักดนตรี แถมยังชอบเพศเดียวกันอีกต่างหาก ทำยังไงได้ ผมก็ไม่ได้อยากจะเกิดมาในครอบครัวแบบนี้สักเท่าไหร่หรอก
ณ บ้างตระกูลซน
“แกร๊ก”
“อ้าว ดงอุน มาแล้วหรอจ๊ะลูก เป็นยังไงบ้างเอ่ยยยย”เสียงแม่เลี้ยงที่แสนจะแสบหูดังมาตั้งแต่ผมเปิดประตูเข้าไปในบ้านคนยิ่งอารมณ์ไม่ดีอยู่ ได้ยินเสียงแหลมทิ่มหูอย่างนี้แล้วยิ่งอยากฆ่าโว้ย ว่าแต่พ่ออยู่ที่ไหนเนี่ย ปกติจะเกาะติดกันอย่างกับปาท่องโก๋
“สวัสดีครับคุณนาย”
“ฉันบอกกี่ครั้งแล้วว่าให้เรียกว่าแม่!!”นั่นไง พูดถึงปั๊บก็มา
“ขอโทษครับ งั้น...สวัสดีครับ...ม...แม่”ผมเรียกออกไปอย่างไม่เต็มใจ ไม่ใช่ว่าผมรังเกียจหรอกนะ เค้าเป็นคนที่พ่อผมรักทั้งทีคงเกลียดไม่ได้ แต่ผมแค่ไม่เข้าใจว่าพ่อลืมแม่ได้ยังไงภายในแค่ไม่กี่เดือน แถมยังให้ผมเรียกว่าแม่อีกต่างหาก ผมคงเรียกไม่ได้หรอก...ก็แม่น่ะเป็นคนที่ผมรักที่สุด รักมากกว่าที่ผมรักกวางด้วยซ้ำ และแม่ก็เป็นคนๆเดียวที่คอยเลี้ยงดูผมมาตลอดจนแม่จากผมไปเมื่อปีที่แล้ว
“ดงอุน นี่ ซนดงอุน แกไม่ฟังที่ฉันพูดเลยใช่มั้ย”เสียงพ่อตะคอกผมทำให้ผมเลิกเหม่อ คนที่ผมเหม่อถึงก็คืคนที่พ่อเคยรักนะเว้ยครับ
“ขอโทษครับ ว่าแต่พ่อเรียกผมมามีอะไรล่ะครับ ปกติไม่ยักเคยจำได้ว่าผมเป็นลูก”
“จะมากเกินไปแล้วนะไอ้ลูกเลว!!”พ่อเงื้อมมือขึ้นจะตบหน้าผม แต่ก็ชะงักไป
“ไม่ได้ๆ ฉันยังทำอะไรไม่ได้จนกว่าจะพรุ่งนี้เช้า”พ่อพูดออกมาก่อนจะเดินฟึดฟัดขึ้นห้องตัวเองไป
“อะไรวะเนี่ย”ผมพึมพำกับตัวเอง แล้วเดินเข้าไปในห้องนอนที่ไม่ได้เข้าไปเกือบปี
ผมทิ้งตัวลงนอนกับเตียงแล้วหยิบรูปแม่ข้างหัวนอนมาดู มองกี่ครั้งแม่ผมก็ยังสาวยังสวยเสมอ...
“ผมคิดถึงแม่จัง... ช่วยไปบอกกวังให้ผมหน่อยนะว่าผมไม่กลับบ้าน เดี๋ยวจะตามไปง้อ อิๆ”ผมพูดกับรูปของแม่ก่อนจะหลับไป
เช้าวันต่อมา
วันนี้พ่อให้แม่บ้านเรียกผมตื่นแต่เช้าแถมยังจัดให้ใส่สูทซะเนี๊ยบ ผมก็ไม่อยากจะใส่หรอกนะ แต่ถ้าขัดเดี๋ยวคงโดนเฉ่งอีก มล่ะขี้เกียจมีเรื่องกับพ่อ สุดท้ายก็ลงเอยด้วยการที่ผมมานั่งอยู่โต๊ะกินข้าวที่โถงบ้าน แล้วจะจัดอาหารอะไรหลายอย่างก็ไม่รู้ ฉลองวันพิเศษอะไรกันหว่า...?
“แกร๊ก”เสียงประตูดังขึ้น ผมเลยหันไปมอง
“สวัสดีครับ คุณยุน”พ่อหันไปยิ้มให้แขกที่มาเยือนก่อนจะโอบไหล่ผมให้หันหลังแล้วดึงไปชิดตัว
เหอะ ทีนี้ล่ะเป็นครอบครัวอบอุ่นขึ้นมาเลยนะ
“สวัสดีครับคุณลุง”ผมลุกขึ้นโค้งสวัสดีคุณลุงยุนที่ยืนยิ้มให้อย่างเป็นมิตรอยู่หน้าประตู ถ้ายังเดาไม่ถูก...คนนี้ล่ะ พ่อยายโบราที่ผมเจอที่ผับ
“แล้วนี่ลูกสาวยังมาไม่ถึงหรอครับ”
“อ่อ กำลังขับรถมาน่ะ ไปทำรายงานที่บ้านเพื่อน”
“อุบ..”ผมเกือบหลุดหัวเราะ ทำรายงานบ้านไหนเค้าทำที่ผับกันมั่งฟระ คุณลุงยุนหันมามองมแบบงงๆ แล้วพ่อก็หันมามองผมดุๆก่อนจะหยิกที่สีข้างแรงๆ
“โอ๊ย”ผมไม่ได้สำออยนะ แต่พ่อผมหยิกแรงมากๆและไม่ยอมปล่อย
“นี่เพราะแกทำฉันขายหน้า จำไว้ด้วย”พ่อกระซิบผมเบาๆก่อนหันไปยิ้มให้คุณยุนต่อ พระเจ้า...
“มาแล้วค่าๆ สวัสดีค่าคุณอา”โบราวิ่งเข้ามาทางประตูบ้านในชุดเดรสสีขาวและรัดผมเรียบร้อย อือหือเนียนได้อีก
“สวัสดีจ่ะหนูโบรา ไม่ได้เจอกันมาแค่สามปีสวยขึ้นจนจำไม่ได้เลยนะเรา”พ่อหันไปคุยกับโบราอย่างถูกปาก เหอะ สลับลูกกันเลยมั้ยครับ?
“ว่าแต่พ่อเรียกผมกับครอบครัวคุณลุงยุนมามีอะไรรึเปล่าครับ”ผมถามเสียงเรียบ ก็ไม่เข้าเรื่องซะที ผมจะรีบกลับไปง้อกวางว้อย
“ใช่ค่ะๆ มีเรื่องอะไรรึเปล่าคะพ่อ? หนูต้องไปทำงานต่อนะคะ เดี๋ยวส่งไม่ทันอาจารย์จะว่าเอา”
“งั้นฉันจะเข้าเรื่องเลยแล้วกันนะ”
“ดงอุน!”พ่อหันมามองหน้าผมด้วยสายตาจริงจัง
“ครับ?”
“แกกับหนูโบราจะต้องแต่งงานกัน ภายในเดือนนี้”
“คะ???/ครับ???”ผมกับโบราอุทานเสียงดังลั่นบ้านพร้อมกันแล้วมองหน้าพ่อตัวเองอย่างไม่เข้าใจ
“นี่มันอะไรกันครับ มาบังคับให้ผมแต่งงาน พ่อก็รู้ว่าผมมี”
“มีคนที่แกรักแล้ว ฉันรู้ แต่ฉันไม่สน แกต้องแต่งกับคนที่เพรียบพร้อมและเหมาะสมกับตระกูลเราที่สุด นั่นก็คือหนูโบรา”พ่อพูดเสียงเรียบ แล้วตักอาหารมาทานเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“ก็ผมไม่แต่ง เราสองคนไม่ได้รักกันซักหน่อย!!!”ผมตะโกนเถียงพ่อเสียงดังโดยไม่ได้อายคนอื่นในห้อง ผมลุกขึ้นตบโต๊ะแล้วหันไปหาคุณลุงที่นั่งอยู่ตรงข้าม
“ผมไม่ได้รังเกียจหรือว่าคิดอะไรไม่ดีอะไรครอบครัวคุณลุงหรอกนะครับ แต่ผมไม่ชอบให้ใครมาบังคับ ยิ่งเรื่องความรักแล้วล่ะก็...ผมจะไม่ยอมให้ใครมาตัดสินใจแทนผมเด็ดขาด”
“หนูก็มีแฟนแล้วเหมือนกันนะพ่อ พ่อเองก็รู้”โบราเสริมผมขึ้นมาอีกคน
“ใจเย็นๆก่อนดงอุน โบรา ฟังฉันนิดนึงนะ”คุณลุงยิ้มให้ผมแล้วพูดอย่างใจเย็น ทำเอาผมชะงักไปเลย
“เรื่องการแต่งงานนี่...มันเป็นความต้องการของแม่ของลูก...และแม่ของดงอุน ตอนที่ทั้งสองคน...คลอดพวกเธอออกมา”
“อึก”เมื่อได้ยินคำว่าแม่ ผมก็ล้มลงนั่งกับเก้าอี้โดยอัตโนมัติ
“หึ”พ่อหัวเราะเย้ยผมในลำคอเบาๆ
“ขอร้องล่ะนะ ถือว่าเพื่อภรรยาของฉัน และแม่ของเธอ”คุณลุงมองหน้าผมอย่างอ้อนวอน
“แล้วอีกอย่าง โบรา...”
“ค..คะ?”โบราที่อาการไม่ต่างจากผมในตอนนี้ หลังจากได้ยินเรื่องแม่ที่เสียไปแล้วตอบอย่างสะอื้นๆ
“เรื่องแฟนของลูกน่ะ...เลิกกับเขาไปเถอะ คนนั้นเค้าไม่มีอะไรเทียบกับดงอุนได้เลยนะลูก”
“แต่หนู...”
“อยู่ๆกันไปเดี๋ยวก็รักกันเองน่ะแหละ ดูอย่างฉันกับแม่ของดงอุนสิ”พ่อพูดขึ้นมาหลังจากเงียบไป หึ พ่อเคยรักแม่ด้วยหรอ?
“แต่ว่า...”ผมแย้ง
“ไม่มีแต่ เรื่องงานแต่งและเรื่องอื่นๆ ฉันกับคุณยุนจะจัดการเอง เธอสองคนแค่ไปไหนด้วยกันบ่อยๆ แล้วก็ทำความรู้จักกันไว้ให้ดีก็พอ และแกน่ะ ย้ายออกมาจากอพาร์ตเมนท์เล็กๆนั่นกลับมาอยู่ที่นี่ แล้วก็เลิกยุ่งกับพวกคนต่ำๆที่พวกแกเรียกว่าวงดนตรีนั่นได้แล้ว โดยเฉพาะคนที่ชื่อกีกวังนั่น ฉันรังเกียจ”
“พ่อมีสิทธิอะไรกับชึวิตผม?!?”ผมตะโกนเสียงดังกว่าเดิม ทำเอาคุณลุงกับโบรามองผมอย่างอึ้งๆ
“อย่าลืมว่ามันเป็นสิ่งที่แม่แกต้องการ แกจะทำให้แม่ตัวเองผิดหวังงั้นเหรอ?”
“...”
“อ...เอ่อ สรุปว่าจะเอายังไงกันคะ หนูต้องไปแล้ว ต้องไปเลิกกับแฟน”โบราถามแทรกขึ้นมา ก่อนจะย้ำเสียงในประโยคสุดท้าย เธอยกนิ้วขึ้นปาดน้ำตาตัวเองออกจนอายไลน์เนอร์หลุดออกมาเล็กน้อย เธอเองก็คงไม่ได้เครียดไปน้อยกว่าผม คุณลุงหันไปมองโบราด้วยสายตาติเล็กน้อย แล้วโบราก็เงียบไป
“ดงอุนเธอว่ายังไง...?”
“ถ้าแกปฏิเสธ ก็อย่าหวังจะได้เจอไอ้กีกวังอะไรนั่นอีกเลยทั้งชาติ แล้วอย่าวังว่ามันจะได้มีชีวิตอย่างมีความสุขเลย”พ่อพูดเสียงเบาพอให้เราได้ยินกันแค่สองคน ผมหันไปมองพ่ออย่างไม่เข้าใจ
“กีกวัง ไม่เกี่ยวอะไรด้วยเลยนะพ่อ”
“แล้วไง ก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของแกล่ะนะ”พ่อยักคิ้วให้ผมอย่างท้าทาย
“ก็ได้...ผมจะแต่งงานกับโบรา”ผมพูดเสียงสั่น น้ำตาเริ่มไหลลงมาอย่างห้ามไม่ได้ ผมก้มหน้าลงมองตักตัวเองไม่ให้คนอื่นได้เห็น
ขอโทษนะกีกวัง...แต่นี่...เพื่อนาย...ฉันคง..กลับไปหานายอย่างที่ตั้งใจไว้ไม่ได้แล้วล่ะ
“ถ้าแกตอบอย่างงี้แต่แรกก็จบ”พ่อขยับปากพูดกับผมเบาๆโดยที่หน้ายังยิ้มให้กับทางครอบครัวยุนอยู่
“แล้วหนูโบราล่ะจ๊ะ?”
“หนูคง...ปฏิเสธไม่ได้ใช่มั้ยล่ะคะ...ก็แม่อยากให้หนูทำแบบนี้นี่นะ”โบรายิ้มเศร้า
“งั้นก็ตามนี้ เตรียมตัวเข้างานแต่งงานกันได้เลย อีกไม่นานหรอก”
“งั้นถ้าไม่มีอะไรแล้ว...ผมไปเก็บของก่อนนะครับ”ผมลุกขึ้นแล้วออกมาจากบ้านโดยไม่หันกลับไปบอกลาใคร ตอนนี้ในหัวของผมมันว่างเปล่าไปหมด...แต่มีเพียงคนคนเดียวเท่านั้นที่ผมนึกถึง...
รอฉันหน่อยนะ กีกวัง!!!
เฮลโล่วเอฟเวอรี่วัน ไรเตอร์ขอโทษนะคะดองไปหลายวัน
คิดถึงกันบ้างมั้ยเอ่ย?(รีดเดอร์:ไม่!!! 555)
อ่านแล้วอาจจะมึนๆอึนๆ ช่วยเม้นแล้วก็แนะนำกันด้วยนะคะ^^
แถมๆ
"ก็ในเมื่อฉันเลือกแล้วที่จะรักนาย ใครมันจะมาห้ามฉันได้ล่ะ?"
ไรเตอร์ชอบประโยคจังเลย รีดเดอร์ทุกคนคิดเหมือนกันมั้ย? 55
ความคิดเห็น