ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Ex-Lover (มันจบไปแล้ว...) [Fic BEAST]

    ลำดับตอนที่ #6 : [06]ความจำเป็น (ตอนยาวอุ่นกวาง)

    • อัปเดตล่าสุด 25 ก.ค. 55


     "ฉันแน่ใจ...ก็ในเมื่อฉันยังรักนายอยู่...แล้วจะให้ฉันไปรักคนอื่นลงได้ยังไงกันล่ะ ลีกีกวัง!?!"ดงอุนตะโกนลั่นรถด้วยสีหน้าจริงจัง ทำเอากีกวังผงะไปชั่วครู่

    “เอ่อ...ดงอุน...คือฉัน”

    “อืม ฉันรู้ นายคิดกับฉันแค่เพื่อน แต่ฉันถามจริงๆเถอะกีกวัง ตอนนั้นนายบอกเลิกกับฉันทำไม ฉันดูแลนายไม่ดีพอ ฉันทำอะไรไม่ถูกใจนาย นายคิดว่าฉันมีชู้ นายรักคนอื่นแล้ว หรือนายไม่เคยรักฉันเลย???”ดงอุนกดไหล่ร่างเล็กไว้แน่น น้ำตาใสๆเริ่มไหลออกมาจากตาทั้งสองข้างของร่างสูงอย่างช้าๆ  จริงๆเขาเป็นคนร้องไห้ยากมาก แต่คงเป็นเพราะสถานการณ์บวกกับฤทธิ์เหล้า เขาเลยอัดอั้นไม่อยู่จริงๆ

    “ฮ...เฮ้ ดงอุน... อย่าซีเรียสสิ...เอ่อ...นายไม่ได้ทำอะไรผิด แล้วฉันก็ไม่ได้เข้าใจนายผิด...แต่ว่า”

     

    มันจะทำให้เราไม่ได้เจอกันอีกน่ะสิ...

     

    ประโยคสุดท้ายกีกวังไม่ได้พูดออกไป เขาไม่อยากให้พ่อลูกต้องมีเรื่องกันเพราะเขา ถึงจะอยากพูดออกไปให้ร่างสูงเลิกเข้าใจผิดเขาก็เถอะ มันดูเห็นแก่ตัวเกินไป

    “แต่อะไร...กีกวัง?”

    “แต่ว่า...ฉันว่าอย่างนายน่ะควรจะมีแฟนเป็นสาวสวยๆ ไม่ควรจะเป็นเพศเดียวกันอย่างฉัน แล้วฉันเองก็ยังไม่พร้อมที่จะมีความรักด้วย”

    “คำก็ผู้หญิงสองคำก็ผู้หญิง ก็ในเมื่อฉันเลือกแล้วที่จะรักนาย ใครมันจะมาห้ามฉันได้ล่ะ? ขนาดฉันพยายามมาตั้งนานก็ยังห้ามตัวเองไม่ได้เลย!!!”ร่างสูงมองหน้าร่างบางอย่างไม่เข้าใจ ในเมื่อกีกวังเองก็ไม่ได้ปฏิเสธ แต่ทำไมเขาถึงไม่เปิดใจรับความรักจากเขาเลย

    “แล้วที่นายบอกว่าไม่พร้อมน่ะ...ฉันรอได้ ไม่ว่าจะอีกกี่ปีกี่ชาติ ฉันก็รอได้ จนกว่าจะถึงวันที่นายรักความรักจากฉัน กีกวัง!!!

    “ดงอุน...ฉัน...”กีกวังมองหน้าร่างสูงอย่างเศร้าๆ เขาเองก็ยังทำใจไม่ได้ และเขาเองก็อยากกลับไปคบกับดงอุนไม่น้อย เขาอยากจะพูดเรื่องทั้งหมดออกไป แต่อีกใจก็รู้ว่ามันไม่สมควร เขาสับสนจนพูดอะไรไม่ออก ได้แต่อ้าปากพะงาบๆ ร่างสูงก็มองอย่างถอดใจ เขาคงทำให้กีกวังกลัวสินะ...

     

    “ก๊อกๆ ฮยองงงงง ข้างในนั่นกีกวังฮยองหรือเปล่าเอ่ย ผมมีร์เองๆ”

    เสียงขัดจังหวะของเพื่อนใหม่ดังขึ้นที่หน้าต่างรถ ร่างสูงจึงต้องปล่อยร่างบางมานั่งกุมขมับตัวเองอย่างอารมณ์เสีย ส่วนกีกวังก็ลดกระจกรถลงแล้วยิ้มเศร้าๆโบกมือทักทายรุ่นน้องอย่างเป็นมิตร

    “อ้าว คุณดงอุนก็อยู่ด้วย สวัสดีครับ”มีร์ทักดงอุนที่ยังไม่เงยหน้ามามองตัวเอง ร่างสูงหันไปพยักหน้าให้เล็กน้อย ก่อนจะกลับมาพิงที่นั่งตัวเองเหมือนเดิม มีร์มองดงอุนงงๆ ตอนอยู่ที่ผับยังดูมีความสุขอยู่เลยนี่หว่า

    “แล้วนี่กำลังจะกลับบ้านแล้วหรอ?”กีกวังถามมีร์พลางยิ้มให้บางๆ

    “ครับฮยอง พอดีรถรอบสุดท้ายมันหยุดวิ่งไปแล้ว ผมเลยต้องเดินกลับบ้านเอง”

    “แถวนี้มันอันตรายนะ เดินคนเดียวไม่กลัวเอ่อ...โดนทำมิดีมิร้ายอะไรบ้างหรอ”

    “ไม่หรอกฮะ จริงๆเวลาคนในร้านเยอะๆแล้วต้องกลับดึกๆ ผมก็กลับทางนี้ตลอด ไม่เห็นเคยเจออะไรนะ”

    “ถึงอย่างนั้นก็เถอะ...ฉันว่าฉันไปกับนายดีกว่า อพาร์ตเมนท์ฉันก็ไปทางนี้เหมือนกัน”

    “แห่ย...จะดีหรอครับ แค่นี้ผมก็มาขัดจังหวะทั้งสองคนแล้ว ให้มาขโมยตัวกีกวังฮยองไปเดี๋ยวคุณดงอุนจะโกรธเอาได้”

    “ดงอุนไม่โกรธหรอกน่า จริงมั้ย?”กีกวังหันไปถามร่างสูงที่นั่งก้มหน้าเงียบ

    “อ...อืม”ดงอุนพยักหน้าแล้วพูดเบาๆ

    “เห็นมั้ย ป่ะ ไปกันเถอะ”ว่าแล้วกีกวังก็ปลดเข็มขัดนิรภัยก่อนจะเปิดประตูรถ

    “หมับ”

    “หือ?”ร่างสูงคว้ามือร่างบางไว้ก่อนที่ร่างบางจะก้าวลงจากรถ

    “ฉันอาจจะกลับไปที่ห้องดึกหน่อยนะ...หรืออาจจะไม่กลับ...”ร่างสูงมองหน้าร่างบางแล้วพูดเบาๆ เผยให้เห็นคราบน้ำตาและตาที่แดงเล็กน้อย ร่างบางเห็นก็รู้สึกผิดมากกว่าเดิม

     

    ที่ก้มหน้าตะกี๊นี้...นายร้องไห้อยู่สินะ...

     

    “อื้ม”กีกวังยิ้มให้ร่างสูงก่อนจะก้าวออกจากรถไป ดงอุนปล่อยข้อมือกีกวังอย่างไม่ค่อยเต็มใจ กีกวังปิดประตูรถลง แล้วดงอุนก็ขับรถออกไปอย่างรวดเร็ว

    “ฮยองทะเลาะอะไรกันรึเปล่าครับ?”มีร์ถามขึ้นมาอย่างเป็นห่วง(เพิ่งจะรู้เรอะ=..=) กีกวังส่ายหน้าก่อนจะออกเดิน

    “ไปกันเถอะ คืนนี้ไปค้างห้องฉันมั้ย?”

    “ได้หรอครับ”

    “ได้สิ ไปกันๆ ไปดูหนังกันฉันเพิ่งเหนังใหม่มา...”ทั้งสองออกเดินทางกลับไปยังอพาร์ตเมนท์ของกีกวัง แต่ร่างบางก็ยังคงหันไปมองที่ถนนที่รถของเพื่อน(?)รักเพิ่งแล่นออกไปอย่างเป็นห่วง

     

    ทำไมฉันสังหรณ์ไม่ดีเลยนะ...

     

    กีกวังส่ายหัวเล็กน้อย ก่อนจะหันไปคุยกับมีร์ต่อ แต่หาได้รู้ไม่ว่า สิ่งที่เค้ารู้สึก...กำลังจะเป็นจริง

     

    (ดงอุน พาร์ท)

    ผมกดคันเร่งเกือบมิดออกมาจากที่จอดทันทีที่กีกวังปิดประตู พอขับรถเล่นไปเรื่อยๆก็เริ่มสร่างเมาผมเลยจอดรถเข้าข้างทางซักที่นึงแล้วนั่งคิดถึงเรื่องที่เฟิ่งผ่านไปเมื่อกี๊...ผมทำให้กวางกลัวรึเล่านะ แต่มันก็ทนไม่ไหวแล้วนี่นา...อย่างที่น่าจะรู้กันแล้วว่าผมกับกวางเคยคบกันเมื่อสองปีก่อน ผมเคยเป็นผู้ชายเจ้าชู้คบสาวไม่เลือกหน้า แต่พอผมเข้าวง Da Best มาแล้วได้เจอกับกวาง ทุกอย่างมันก็เปลี่ยนไป ผมหลงรักกวางจนถอนตัวไม่ขึ้น แล้วผมก็ขอเขาเป็นแฟนซึ่งกวางก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไร เราก็รักกันดี ผมก็ดูแลเขาเท่าที่ทำได้ กวางก็น่ารักกับผมตลอด ไมคิดว่าวันนึงเค้าจะบอกเลิกกับผม เขาบอกว่าเขาอยากเป็นแค่เพื่อนกับผม...ผมก็ต้องตอบตกลงล่ะนะ ตอนนั้นผมก็เข้าใจดีว่ากวางคงจะไม่พร้อมจะมีความรัก ถึงจะทำใจยาก...ไม่สิ ทำใจไม่ได้เลยต่างหาก

    “ถ้าตอนนั้นฉันไม่ยอมปล่อยให้นายเลิกกับฉันล่ะกวาง...”

    ผมฟุบลงกับพวงมาลัยรถก่อนจะถอนหายใจ

    ตั้งแต่เราเลิกกันมา กวางจะคอยพูดนู่นพูดนี่ให้ผมไปรักผู้หญิงอยู่ตลอด แถมยังคอยหาผู้หญิงสวยๆมาเจอผม แนะนำให้ผมรู้จัก ผมก็รู้ล่ะนะว่าเขาคงอยากให้ผมลงเอยกับผู้หญิงแบบคนปกติ แล้วลืมเขาไปให้ได้ แต่มันทำไม่ได้นี่หว่า ผมก็ไม่รู้หรอกนะว่าเขายังรักผมอยู่บ้างมั้ย แต่ก็อยากจะคิดไปเองว่าที่เขาทำไปเพราะรักและเป็นห่วงผม หลอกตัวเองเนอะ ฮะๆ ถึงจะอย่างงั้นก็เถอะ กวังเป็นคนมีเหตุผลมากพอ ถึงจะไม่รู้ว่าทำไมแต่ดูจากท่าทางแล้ว กวังต้องมีอะไรบางอย่างปิดบังผมอยู่แน่ๆ เพราะฉะนั้น...ผมต้องกลับไปง้อซะแล้วไม่งั้นคงได้ค้างคาแบบนี้อีกนาน ว่าแล้วผมก็สตาร์ตรถเตรียมยูเทิร์นกลับอพาร์ตเมนท์แต่ก่อนจะได้ออกรถ

    이젠 너는 내옆에 없잖아 
    อีเจน นอนึน แนยอเพ ออบจันนา 
    คุณไม่ได้อยู่เคียงข้างผมอีกต่อไปแล้ว 
    그게 사실이야 믿고 싶지않아 
    คือเก ซาซีลียา มิดโก ชิพจีอันนา 
    นี่คือความจริง ผมไม่อยากจะเชื่อมัน 
    돌아와 달라고 없이 얘기해봐도 
    โทลาวา ทัลราโก ซู ออบซี แยกีแฮบวาโด 
    ถึงแม้ผมจะอ้อนวอนให้คุณกลับมากี่ครั้งต่อกี่ครั้ง 
    지금이 거짓말여야해 
    ชีกือมี คอจิดมัลยอ ยาแฮ 
    ทั้งหมดนี้ต้องไม่ใช่ความจริง 

    เสียงริงโทนโทรศัพท์ของผมดังขึ้น จะเป็นกวางหรือเปล่านะ...?

    “พ่อ”

    อ่า...ผู้ชายคนนี้โทรหาผม ปกติเขาก็ไม่อยากจะยุ่งกับลูกอย่างผมหรอกนะ แต่คราวนี้โทรมาหาเอง มีเรื่องอะไรรึเปล่าเนี่ย

    “สวัสดีครับ”

    (ดงอุน แกอยู่ไหน)เหอะ พูดเสียงห้วนเหมือนเดิมสินะพ่อผม

    “อยู่แถวๆอพาร์ตเม้นท์ผมครับ มีอะไรครับ”

    (คืนนี้แกไม่ต้องกลับไปนอนอพาร์ตเมนท์นั่นเลยนะ แล้วกลับมานอนที่บ้าน)

    “ทำไมล่ะครับ?”

    (ไม่ต้องถามมาก รู้แค่ว่าต้องมาก็พอ แค่นี้ล่ะ)

    “สวัสดี..”

    (ตี๊ดๆๆ)

    นั่นไง วางสายก่อนผมสวัสดีตลอดพ่อผม เขาคงไม่พอใจที่มีลูกชายแบบผมล่ะนะ ก็ตระกูลผมเป็นชายชาติตำรวจกันมาตั้งแต่รุ่นปู่ทวด มีแต่ผมนี่ล่ะที่อยากจะเป็นนักดนตรี แถมยังชอบเพศเดียวกันอีกต่างหาก ทำยังไงได้ ผมก็ไม่ได้อยากจะเกิดมาในครอบครัวแบบนี้สักเท่าไหร่หรอก

     

    ณ บ้างตระกูลซน

    “แกร๊ก”

    “อ้าว ดงอุน มาแล้วหรอจ๊ะลูก เป็นยังไงบ้างเอ่ยยยย”เสียงแม่เลี้ยงที่แสนจะแสบหูดังมาตั้งแต่ผมเปิดประตูเข้าไปในบ้านคนยิ่งอารมณ์ไม่ดีอยู่ ได้ยินเสียงแหลมทิ่มหูอย่างนี้แล้วยิ่งอยากฆ่าโว้ย ว่าแต่พ่ออยู่ที่ไหนเนี่ย ปกติจะเกาะติดกันอย่างกับปาท่องโก๋

    “สวัสดีครับคุณนาย”

    “ฉันบอกกี่ครั้งแล้วว่าให้เรียกว่าแม่!!”นั่นไง พูดถึงปั๊บก็มา

    “ขอโทษครับ งั้น...สวัสดีครับ...ม...แม่”ผมเรียกออกไปอย่างไม่เต็มใจ ไม่ใช่ว่าผมรังเกียจหรอกนะ เค้าเป็นคนที่พ่อผมรักทั้งทีคงเกลียดไม่ได้ แต่ผมแค่ไม่เข้าใจว่าพ่อลืมแม่ได้ยังไงภายในแค่ไม่กี่เดือน แถมยังให้ผมเรียกว่าแม่อีกต่างหาก ผมคงเรียกไม่ได้หรอก...ก็แม่น่ะเป็นคนที่ผมรักที่สุด รักมากกว่าที่ผมรักกวางด้วยซ้ำ และแม่ก็เป็นคนๆเดียวที่คอยเลี้ยงดูผมมาตลอดจนแม่จากผมไปเมื่อปีที่แล้ว

    “ดงอุน นี่ ซนดงอุน แกไม่ฟังที่ฉันพูดเลยใช่มั้ย”เสียงพ่อตะคอกผมทำให้ผมเลิกเหม่อ คนที่ผมเหม่อถึงก็คืคนที่พ่อเคยรักนะเว้ยครับ

    “ขอโทษครับ ว่าแต่พ่อเรียกผมมามีอะไรล่ะครับ ปกติไม่ยักเคยจำได้ว่าผมเป็นลูก”

    “จะมากเกินไปแล้วนะไอ้ลูกเลว!!”พ่อเงื้อมมือขึ้นจะตบหน้าผม แต่ก็ชะงักไป

    “ไม่ได้ๆ ฉันยังทำอะไรไม่ได้จนกว่าจะพรุ่งนี้เช้า”พ่อพูดออกมาก่อนจะเดินฟึดฟัดขึ้นห้องตัวเองไป

    “อะไรวะเนี่ย”ผมพึมพำกับตัวเอง แล้วเดินเข้าไปในห้องนอนที่ไม่ได้เข้าไปเกือบปี

    ผมทิ้งตัวลงนอนกับเตียงแล้วหยิบรูปแม่ข้างหัวนอนมาดู มองกี่ครั้งแม่ผมก็ยังสาวยังสวยเสมอ...

    “ผมคิดถึงแม่จัง... ช่วยไปบอกกวังให้ผมหน่อยนะว่าผมไม่กลับบ้าน เดี๋ยวจะตามไปง้อ อิๆ”ผมพูดกับรูปของแม่ก่อนจะหลับไป

     

    เช้าวันต่อมา

     

    วันนี้พ่อให้แม่บ้านเรียกผมตื่นแต่เช้าแถมยังจัดให้ใส่สูทซะเนี๊ยบ ผมก็ไม่อยากจะใส่หรอกนะ แต่ถ้าขัดเดี๋ยวคงโดนเฉ่งอีก มล่ะขี้เกียจมีเรื่องกับพ่อ สุดท้ายก็ลงเอยด้วยการที่ผมมานั่งอยู่โต๊ะกินข้าวที่โถงบ้าน แล้วจะจัดอาหารอะไรหลายอย่างก็ไม่รู้ ฉลองวันพิเศษอะไรกันหว่า...?

    “แกร๊ก”เสียงประตูดังขึ้น ผมเลยหันไปมอง

    “สวัสดีครับ คุณยุน”พ่อหันไปยิ้มให้แขกที่มาเยือนก่อนจะโอบไหล่ผมให้หันหลังแล้วดึงไปชิดตัว

    เหอะ ทีนี้ล่ะเป็นครอบครัวอบอุ่นขึ้นมาเลยนะ

    “สวัสดีครับคุณลุง”ผมลุกขึ้นโค้งสวัสดีคุณลุงยุนที่ยืนยิ้มให้อย่างเป็นมิตรอยู่หน้าประตู ถ้ายังเดาไม่ถูก...คนนี้ล่ะ พ่อยายโบราที่ผมเจอที่ผับ

    “แล้วนี่ลูกสาวยังมาไม่ถึงหรอครับ”

    “อ่อ กำลังขับรถมาน่ะ ไปทำรายงานที่บ้านเพื่อน”

    “อุบ..”ผมเกือบหลุดหัวเราะ ทำรายงานบ้านไหนเค้าทำที่ผับกันมั่งฟระ คุณลุงยุนหันมามองมแบบงงๆ แล้วพ่อก็หันมามองผมดุๆก่อนจะหยิกที่สีข้างแรงๆ

    “โอ๊ย”ผมไม่ได้สำออยนะ แต่พ่อผมหยิกแรงมากๆและไม่ยอมปล่อย

    “นี่เพราะแกทำฉันขายหน้า จำไว้ด้วย”พ่อกระซิบผมเบาๆก่อนหันไปยิ้มให้คุณยุนต่อ  พระเจ้า...

    “มาแล้วค่าๆ สวัสดีค่าคุณอา”โบราวิ่งเข้ามาทางประตูบ้านในชุดเดรสสีขาวและรัดผมเรียบร้อย อือหือเนียนได้อีก

    “สวัสดีจ่ะหนูโบรา ไม่ได้เจอกันมาแค่สามปีสวยขึ้นจนจำไม่ได้เลยนะเรา”พ่อหันไปคุยกับโบราอย่างถูกปาก เหอะ สลับลูกกันเลยมั้ยครับ?

    “ว่าแต่พ่อเรียกผมกับครอบครัวคุณลุงยุนมามีอะไรรึเปล่าครับ”ผมถามเสียงเรียบ ก็ไม่เข้าเรื่องซะที ผมจะรีบกลับไปง้อกวางว้อย

    “ใช่ค่ะๆ มีเรื่องอะไรรึเปล่าคะพ่อ? หนูต้องไปทำงานต่อนะคะ เดี๋ยวส่งไม่ทันอาจารย์จะว่าเอา”

    “งั้นฉันจะเข้าเรื่องเลยแล้วกันนะ”

    “ดงอุน!”พ่อหันมามองหน้าผมด้วยสายตาจริงจัง

    “ครับ?”

    “แกกับหนูโบราจะต้องแต่งงานกัน ภายในเดือนนี้”

    “คะ???/ครับ???”ผมกับโบราอุทานเสียงดังลั่นบ้านพร้อมกันแล้วมองหน้าพ่อตัวเองอย่างไม่เข้าใจ

    “นี่มันอะไรกันครับ มาบังคับให้ผมแต่งงาน พ่อก็รู้ว่าผมมี”

    “มีคนที่แกรักแล้ว ฉันรู้ แต่ฉันไม่สน แกต้องแต่งกับคนที่เพรียบพร้อมและเหมาะสมกับตระกูลเราที่สุด นั่นก็คือหนูโบรา”พ่อพูดเสียงเรียบ แล้วตักอาหารมาทานเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

    “ก็ผมไม่แต่ง เราสองคนไม่ได้รักกันซักหน่อย!!!”ผมตะโกนเถียงพ่อเสียงดังโดยไม่ได้อายคนอื่นในห้อง ผมลุกขึ้นตบโต๊ะแล้วหันไปหาคุณลุงที่นั่งอยู่ตรงข้าม

    “ผมไม่ได้รังเกียจหรือว่าคิดอะไรไม่ดีอะไรครอบครัวคุณลุงหรอกนะครับ แต่ผมไม่ชอบให้ใครมาบังคับ ยิ่งเรื่องความรักแล้วล่ะก็...ผมจะไม่ยอมให้ใครมาตัดสินใจแทนผมเด็ดขาด”

    “หนูก็มีแฟนแล้วเหมือนกันนะพ่อ พ่อเองก็รู้”โบราเสริมผมขึ้นมาอีกคน

    “ใจเย็นๆก่อนดงอุน โบรา ฟังฉันนิดนึงนะ”คุณลุงยิ้มให้ผมแล้วพูดอย่างใจเย็น ทำเอาผมชะงักไปเลย

    “เรื่องการแต่งงานนี่...มันเป็นความต้องการของแม่ของลูก...และแม่ของดงอุน ตอนที่ทั้งสองคน...คลอดพวกเธอออกมา”

    “อึก”เมื่อได้ยินคำว่าแม่ ผมก็ล้มลงนั่งกับเก้าอี้โดยอัตโนมัติ

    “หึ”พ่อหัวเราะเย้ยผมในลำคอเบาๆ

    “ขอร้องล่ะนะ ถือว่าเพื่อภรรยาของฉัน และแม่ของเธอ”คุณลุงมองหน้าผมอย่างอ้อนวอน

    “แล้วอีกอย่าง โบรา...”

    “ค..คะ?”โบราที่อาการไม่ต่างจากผมในตอนนี้ หลังจากได้ยินเรื่องแม่ที่เสียไปแล้วตอบอย่างสะอื้นๆ

    “เรื่องแฟนของลูกน่ะ...เลิกกับเขาไปเถอะ คนนั้นเค้าไม่มีอะไรเทียบกับดงอุนได้เลยนะลูก”

    “แต่หนู...”

    “อยู่ๆกันไปเดี๋ยวก็รักกันเองน่ะแหละ ดูอย่างฉันกับแม่ของดงอุนสิ”พ่อพูดขึ้นมาหลังจากเงียบไป หึ พ่อเคยรักแม่ด้วยหรอ?

    “แต่ว่า...”ผมแย้ง

    “ไม่มีแต่ เรื่องงานแต่งและเรื่องอื่นๆ ฉันกับคุณยุนจะจัดการเอง เธอสองคนแค่ไปไหนด้วยกันบ่อยๆ แล้วก็ทำความรู้จักกันไว้ให้ดีก็พอ และแกน่ะ ย้ายออกมาจากอพาร์ตเมนท์เล็กๆนั่นกลับมาอยู่ที่นี่ แล้วก็เลิกยุ่งกับพวกคนต่ำๆที่พวกแกเรียกว่าวงดนตรีนั่นได้แล้ว โดยเฉพาะคนที่ชื่อกีกวังนั่น ฉันรังเกียจ”

    “พ่อมีสิทธิอะไรกับชึวิตผม?!?”ผมตะโกนเสียงดังกว่าเดิม ทำเอาคุณลุงกับโบรามองผมอย่างอึ้งๆ

    “อย่าลืมว่ามันเป็นสิ่งที่แม่แกต้องการ แกจะทำให้แม่ตัวเองผิดหวังงั้นเหรอ?”

    “...”

    “อ...เอ่อ สรุปว่าจะเอายังไงกันคะ หนูต้องไปแล้ว ต้องไปเลิกกับแฟน”โบราถามแทรกขึ้นมา ก่อนจะย้ำเสียงในประโยคสุดท้าย เธอยกนิ้วขึ้นปาดน้ำตาตัวเองออกจนอายไลน์เนอร์หลุดออกมาเล็กน้อย เธอเองก็คงไม่ได้เครียดไปน้อยกว่าผม คุณลุงหันไปมองโบราด้วยสายตาติเล็กน้อย แล้วโบราก็เงียบไป

    “ดงอุนเธอว่ายังไง...?”

    “ถ้าแกปฏิเสธ ก็อย่าหวังจะได้เจอไอ้กีกวังอะไรนั่นอีกเลยทั้งชาติ แล้วอย่าวังว่ามันจะได้มีชีวิตอย่างมีความสุขเลย”พ่อพูดเสียงเบาพอให้เราได้ยินกันแค่สองคน ผมหันไปมองพ่ออย่างไม่เข้าใจ

    “กีกวัง ไม่เกี่ยวอะไรด้วยเลยนะพ่อ”

    “แล้วไง ก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของแกล่ะนะ”พ่อยักคิ้วให้ผมอย่างท้าทาย

    “ก็ได้...ผมจะแต่งงานกับโบรา”ผมพูดเสียงสั่น น้ำตาเริ่มไหลลงมาอย่างห้ามไม่ได้ ผมก้มหน้าลงมองตักตัวเองไม่ให้คนอื่นได้เห็น

     

    ขอโทษนะกีกวัง...แต่นี่...เพื่อนาย...ฉันคง..กลับไปหานายอย่างที่ตั้งใจไว้ไม่ได้แล้วล่ะ

     

    “ถ้าแกตอบอย่างงี้แต่แรกก็จบ”พ่อขยับปากพูดกับผมเบาๆโดยที่หน้ายังยิ้มให้กับทางครอบครัวยุนอยู่

    “แล้วหนูโบราล่ะจ๊ะ?”

    “หนูคง...ปฏิเสธไม่ได้ใช่มั้ยล่ะคะ...ก็แม่อยากให้หนูทำแบบนี้นี่นะ”โบรายิ้มเศร้า

    “งั้นก็ตามนี้ เตรียมตัวเข้างานแต่งงานกันได้เลย อีกไม่นานหรอก”

    “งั้นถ้าไม่มีอะไรแล้ว...ผมไปเก็บของก่อนนะครับ”ผมลุกขึ้นแล้วออกมาจากบ้านโดยไม่หันกลับไปบอกลาใคร ตอนนี้ในหัวของผมมันว่างเปล่าไปหมด...แต่มีเพียงคนคนเดียวเท่านั้นที่ผมนึกถึง...

     

    รอฉันหน่อยนะ กีกวัง!!!


    เฮลโล่วเอฟเวอรี่วัน ไรเตอร์ขอโทษนะคะดองไปหลายวัน
    คิดถึงกันบ้างมั้ยเอ่ย?(รีดเดอร์:ไม่!!! 555)
    อ่านแล้วอาจจะมึนๆอึนๆ ช่วยเม้นแล้วก็แนะนำกันด้วยนะคะ^^

    แถมๆ



     


    "ก็ในเมื่อฉันเลือกแล้วที่จะรักนาย ใครมันจะมาห้ามฉันได้ล่ะ?"

    ไรเตอร์ชอบประโยคจังเลย รีดเดอร์ทุกคนคิดเหมือนกันมั้ย? 55


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×