ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Dooseob's House!!!

    ลำดับตอนที่ #4 : [OS] เธอมีเวลาฟังแค่ไหน

    • อัปเดตล่าสุด 30 ก.ค. 55


    ก่อนอ่านจิ้มฟังด้วยน้าาาา >>>>http://www.youtube.com/watch?v=0LqhC-wgVz4



























     มีคำเป็นพันที่เก็บไว้ มีความในใจไว้ให้เธอ 

     

     

    “ดูจุน!!!! ยุนดูจู๊นนนนนนนน”เสียงใสที่ดังมาแต่ไกลดังขึ้นข้างหลัง เรียกให้ร่างสูงที่เดินฟังเพลงอยู่ดึงหูฟังออกข้างหนึ่งและหันกลับไปมองยิ้มๆ ก่อนร่างเล็กเจ้าของเสียงเรียกจะวิ่งเข้ามาหา

    “แหกปากมาแต่ไกลมีอะไรวะไอ้โย”ถามไปยิ้มไป มือข้างหนึ่งก็เล่นหัวคนตัวเล็กกว่าที่ยืนหอบแฮ่กๆอยู่ข้างหน้า

    “ถามมาได้ ก็ไอ้ไอโฟนที่ฟังอยู่นั่นน่ะของฉันไม่ใช่ของนาย หยิบไปไม่ดูเลยจริงๆ”ร่างเล็กปัดมือหนาออกแล้วมองค้อนๆ ก่อนจะจัดทรงผมตัวเองให้เข้าที่แล้วบ่นงุบงิบ

    “ก็แล้วใครหว่าบอกให้ซื้อเคสคู่เพราะคุ้มดีน่ะฮะ คล้ายกันขนาดนี้แถมยังมาตั้งวอลรูปเดียวกะฉันอีก ไม่ให้จำสลับกันได้ไงวะไอ้เตี้ย? ไม่ใช่เตี้ยธรรมดานะ เตี้ยแล้วยังงกอีกตะหาก”

    “ฮึ่ย คำก็เตี้ยสองคำก็เตี้ย เดี่ยวคอยดูเหอะ ซักวันฉันจะสูงนำนายให้ดูไอ้ดำ”

    “อู๊ววววววววว พูดอย่างงี้มาตั้งแต่ประถมแล้วยังไม่เห็นจะทำได้ซักที แล้วโทษทีเถอะ ถึงฉันจะดำแต่ก็สาวติดนะว้อย ไม่เหมือนใครบางคน โฮะๆๆๆๆ”ร่างสูงพูดเย้ยพลางยักคิ้วกวน คนตัวเล็กที่โดนพาดพิงก็จิ๊ปากออกมาเล็กน้อยเมื่อเถียงต่อไม่ถูก

    “เออๆ หัวเราะเข้าไป ซักวันฉันมีแฟนก่อนนายนะฉันจะหัวเราะเยาะนายข้ามวันข้ามคืนให้ดูเลย แล้วจะเอาป่ะมือถืออ่ะ วันหลังก่อนหยิบไปก็ช่วยเบิ่งตาดูสีสะดือของแพนด้าน้อยมันด้วยล่ะ”ร่างเล็กเบะปากงอนๆแล้วหยิบไอโฟนเคสลายหมีแพนด้าสะดือจุ่นสีดำออกมายื่นให้อย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก

    “ฮะๆ แต๊งกิ้วๆ ครั้งหน้าฉันจะรอบคอบกว่านี้ละกัน เออ แล้วนี่จะกลับบ้านยังเนี่ย ถ้าจะกลับแล้วจะได้กลับด้วยกัน”มือหนารับมือถือของตัวเองมาก่อนจะคืนของที่หยิบสลับมาให้เจ้าของ

    “ก็ใกล้แล้วล่ะ เหลือลงสีงานต่ออีกนิดนึง คงไม่เกินสิบห้านาที จะรอป่ะล่ะ?”

    “อืม... ก็ได้นะ ไหนๆวันนี้ก็ไม่มีธุระอะไรต้องไปทำต่ออยู่แล้ว”

    “โอเค งั้นฉันไปทำงานต่อก่อน นายจะไปรอในห้องด้วยกันมั้ย?”

    “เดี๋ยวฉันตามเข้าไปละกัน เอาของไปวางก่อน”

    “เคๆ งั้นฉันไปก่อนล่ะนะ”ร่างบางโบกมือหวัดๆ แล้วหมุนตัววิ่งกลับห้องศิลปะไป

    ร่างสูงมองตามแผ่นหลังเล็กจนเจ้าตัววิ่งหายไปตรงทางแยก ก่อนจะก้มมองหมีแพนด้าบนเคสมือถือของตัวเองแล้วอมยิ้มออกมาคนเดียวเงียบๆ

     

     

    ก็เพราะน่ารักแบบนี้ไง... ใครๆถึงได้หลงรักนาย

     

     

     

     

    เก็บมันมานานรอแค่เพียงวันเวลา วันที่เธอจะรับรู้ 

     

     

    แอ๊ด....

    “ขออนุญาตครับ”

    “ถ้าไม่ให้จะเข้ามาป่ะล่ะ”เสียงใสออกมาจากในห้องทันทีที่ร่างสูงแง้มประตูออก

    “ไม่ได้ขอนายนิ”ดูจุนเปิดประตูออกและเดินล้วงกระเป๋ามานั่งลงข้างๆคนตัวเล็กที่นั่งระบายสีอยู่ตรงแสตนด์วาดรูป

    “มีฉันนั่งหัวโด่อยู่คนเดียว ถ้าไม่ได้ขอฉันแล้วนายขอหมาที่ไหนวะฮะ”ร่างเล็กถามติดหัวเราะโดยที่ตาก็ยังได้ละออกมาจากภาพวาด

    “เค้าเรียกว่ามารยาทว้อย เผื่อมีคนอื่นอยู่ในห้องนอกจากนายไง แล้วนี่งานวิชาอาจารย์ปาร์คหรอ”ร่างสูงกระเถิบตัวเข้าไปใกล้กับคนตัวเล็ก ท่อนแขนยาวถูกยกขึ้นวางพาดกับไหล่แคบอย่างที่ทำเป็นปกติ แต่คราวนี้อีกคนกลับบิดไหล่หนีเล็กน้อยแล้วหันมามองเขานิ่ง

    “มีอะไรป่ะวะ”ดูจุนถามเสียงเบา รอยยิ้มบนมุมปากหุบลงพร้อมแขนบนที่ลดลงมาจับขอบเก้าอี้ของอีกคนไว้แทน

    “ม...ไม่มีอะไรหรอก ก็มันตกใจนี่หว่าอากาศเย็นๆ อยู่ดีๆก็วางแขนมา มันก..ก็ต้องมีข..ขนลุกกันบ้าง”โยซอบสะบัดมือไปมาแล้วแก้ตัวรัวๆ...โกหกไม่เนียนเหมือนเคยล่ะนะ

    “เอ้อๆ สงสัยฉันจะฮอต โดนตัวแกเลยขนลุก ฮ่าๆๆๆ”โยซอบยิ้มนิดๆแล้วหันกลับไประบายสีต่อ

    “แล้วนี่งานอะไรอ่ะ รูปฉันไม่ใช่หรอเนี่ย”ร่างสูงมองรูปวาดสีน้ำของเด็กผู้ชายที่โดนแต่งหน้าทาปากสีชมพูแปร๊นที่ไม่เข้ากับหน้าแมนๆนั่นแม้แต่น้อย...น่าสมเพชชิบ= =

    “ก็อาจารย์เค้าให้วาดรูปเวลาที่จำได้ดีที่สุดอ่ะ เลยวาดนายตอนนั้น ใครจะลืมลงมั่งวะ ฮะๆๆๆ”ร่างเล็กหัวเราะสะใจเมื่อนึกถึงเรื่องในวันนั้น

    “เออขำเข้าไป งั้นต้องเจอนี่”ร่างสูงหยิบพู่กันจุ่มสีแดงไปป้ายเข้าที่แก้มขาวเป็นทาง

    “ย่าห์!!!! มานี่เลยๆๆ”โยซอบหันไปคว้าพู่กันจุ่มสีดำขึ้นมาชูเตรียมจะป้ายไปหน้าอีกคนบ้าง แต่ร่างสูงกลับลุกและเขยิบหนีทัน ร่างเล็กลุกขึ้นแล้ววิ่งไล่ดูจุนไปแต่ด้วยความยาวของขาที่แตกต่างทำให้วิ่งตามอีกคนแทบไม่ทัน

    “ฮ่าๆๆๆ วิ่งไม่ทันหรอกไอ้เตี้ย.. เว้ยยยยย!!!”ดูจุนหันหลังมาหัวเราะเยาะใส่คนขาสั้นที่วิ่งตามและชะลอความเร็วลง แต่ร่างเล็กที่วิ่งมาเต็มสปีดกลับหยุดวิ่งไม่ทันทั้งสองคนเลยล้มลงไปกองกับพื้นทั้งคู่

    “อ...โอยยยย นี่นายไปกินไรมาเนี่ย หนักเป็นบ้าล...”คำพูดถูกกลืนลงคอไปกลางคันเมื่อตาคมสบเข้ากับตากลมๆของอีกคนที่นอนเกยอยู่บนตัวของเขา ทั้งสองคนจ้องตากันเงียบอยู่อย่างนั้นไม่มีใครขยับหรือพูดอะไร

     

     

     

    มีเพียงเสียงหายใจ...

     

     

     

    และเสียงหัวใจที่เต้นเร็วขึ้น...แต่กลับเป็นจังหวะเดียวกันอย่างน่าแปลก

     

     

     

    “ฉ...ฉันไปล้างหน้าก่อนแล้วกัน น..นายไปรอข้างนอกเลยก็ได้นะฉันคงไม่ทำงานต่อแล้ว”ร่างเล็กหลบตาไปก่อนและพูดขึ้นมาเสียงเบา ก่อนจะลุกขึ้นและเดินออกจากห้องศิลปะไป

     

     

     

     

     

    ฉันขอคิดเข้าข้างตัวเองได้มั้ย...ว่านายก็คิดเหมือนกัน...?

     

     

     

    ฉันก็ไม่รู้ว่าเมื่อไร ที่ฉันจะได้พูดคำเหล่านั้น 

     

     

    “เฮ้ยๆๆๆ ช้าๆหน่อยดิจะตกแล้ววววววว”ร่างเล็กโวยวายพออยู่ดีๆร่างสูงเร่งความเร็วของจักรยานขึ้น แถมตรงนั้นยังเป็นทางลาดทำให้จักรยานมันวิ่งเร็วซะลมตีจนลืมตาไม่ได้ แขนเล็กๆตวัดขึ้นโอบเอวคนข้างหน้าไว้แน่นพลางซุกหน้าลงกัลแผ่นหลังกว้าง

     

    ตึกตัก ตึกตัก

     

     

    ตายๆๆๆ มาเต้นแรงไรตอนนี้วะ???

     

     

    “เอี๊ยดดดดดดดดดดดดด”จักรยานถูกเบรกกระทันหันจนทั้งคนขี่ทั้งคนซ้อนแทบหน้าคว่ำ อ้อมกอดที่ลำตัวก็ถูกกระชับแน่นขึ้นเพราะกลัวตก

    “เล่นบ้าอะไรเนี่ยไอ้ดำ ใจจะวายตาย”โยซอบโวยวายแล้วตีลงที่ต้นแขนร่างสูงข้างหน้า

    “ก็กะจะแกล้งให้นายแต๋วแตกแบบเมื่อกี๊อ่ะแหล่ะ ฮ่าๆๆๆๆๆ”ดูจุนหันกลับไปหยิกแก้มป่องๆของคนตัวเล็กเล่นและหัวเราะเสียงดัง

    “อย่าเหยกเด้ เด๋วโหมดหล่อแล้วสาวม่วยชว้อบบบบ”ร่างเล็กพูดเสียงยานคางแทบฟังไม่ออกเพราะโดนหยิกแก้มไว้พลางส่ายหัวไปมาให้มือเหนียวๆทั้งสองข้างหลุดออกจากหน้าตัวเองได้ซักที แต่เหมือนจะไม่ได้ช่วยอะไรเลย

    “ไม่มีคนชอบนายก็ดีดิ เดี๋ยวฉันมีคู่แข่ง”

    “ฮ..ฮะ?!?

    “อ..เอ่อ หมายความว่า เดี่ยวนายจะมีแฟนก่อนฉันไง เอ้อออออ”

    “โด่ว เรื่องนั้นไม่ต้องห่วง มันเป็นจริงแน่ๆ ฮ่าๆๆๆๆๆ”

    “คร้าบบบบบบบ เจ้าชู้ตัวพ่อ”

    “แน่น้อนนนนนน แล้วนี่จะพาฉันกลับบ้านได้ยังเนี่ย”

    “เออๆ เกาะแน่นๆล่ะ”

    “อย่าเล่นแบบเมื่อกี๊อีกนะ ไม่งั้นฉันถีบนายตกจักรยานแล้วขี่กลับเองเลย”

    “พูดยังกะขี่เป็นงั้นล่ะวะ สามช้อยังขี่ไม่ได้เลย กร๊ากกกก”

    “ชัท อัพ แอนด์ ไดรฟ์ไปเลยไอ้ด๊ามมมมมมม”

     

     

     

     

     

    ที่ฉันไม่อยากให้นายเป็นแฟนกับใคร...ฉันคิดอย่างงั้นจริงๆนะโยซอบ

     

     

     

    คำที่บรรยายร้อยเรื่องราววันดีๆ ที่เรามี กันและกัน 

     

     

    “อ่ะถึงแล้ว เชิญเสด็จครับคุณชาย”

    “ทำงานได้ดีมากคุณสารถี”ร่างเล็กตบไหล่คนตัวสูงสองครั้งก่อนจะค่อยๆกระโดดลงจากที่นั่ง

    “กินข้าวเสร็จอย่าหนังท้องตึงหนังตาหย่อนแล้วลืมทำการบ้านก่อนนอนล่ะไอ้เตี้ย”

    “เออออ พูดอย่างกับฉันเคยทำ ฉันไม่ใช่เด็กๆแล้วนะอีลุง”

    “เอ๊ะ แล้วใครหว่ามาปั่นการบ้านตอนเช้าเกือบทุกวัน”

    “เหอะหุบปากไปเลย ปากเสียแบบเนี้ยระวังเถ๊อะ จะไม่มีใครเอาเป็นแฟน”

    “ปากนายเองก็ไม่ได้ดีไปกว่าฉันหรอกไอ้เตี้ย”

    “เออๆ สรุปเราก็ปากหมาพอกันแหละ ไม่แปลกหรอกที่จะทนกันได้ จริงป่ะ?”ทั้งสองคนมองหน้ากันซักพัก ก่อนจะหัวเราะเสียงดังออกมาพร้อมกัน

    “กลับบ้านไปได้แล้วไป”

    “เดี๋ยวก็กลับน่า นายเข้าบ้านไปก่อนไป เกิดมีใครมาแอบดักฉุดนายฉันจะได้บอกเค้าว่าให้ไปฉุดคนอื่น เสียแรงตายเลยฉุดไปซะเหนื่อยแต่ได้ไอ้อ้วนเตี้ยกลับบ้าน กร๊ากกกกกกก”

    “อ..อ..ไอ้...เขรี้ย!!!! ฮ..เฮ้ยยยย”โยซอบสบถดังลั่นแล้วถีบจักรยานของดูจุนไปครั้งนึง แต่ดูจะใส่แรงเยอะไปหน่อยจักรยานเลยหงายล้มลงไปกับพื้นถนน ดูจุนก็ไม่พ้นหงายลงไปตามจักรยานที่ตัวเองนั่งอยู่ แต่โยซอบก็คว้าข้อมือหนาไว้ได้ทันพอดีและดึงคนตัวสูงเข้าหาตัว ด้วยความที่น้ำหนักของดูจุนไม่ใช่น้อยๆทำให้โยซอบออกแรงมากเกิน ดูจุนเลยโผเข้าหาตัวเขาจนหน้าและลำตัวทั้งสองคนชิดกัน

    “อ..เอ่อ..ย...โยซอบ ฉ..ฉัน”ดูจุนจ้องตาโตสองข้างที่สั่นระริกด้วยความตกใจไม่กระพริบแล้วลอบกลืนน้ำลายดังเอือก

    “ด..ดูจุนนา”ร่างเล็กพูดขึ้นเสียงแผ่ว...มือเล็กยกขึ้นแตะแผ่นอกกว้างและดันออกเบาๆ แต่เขากลับไม่ขยับแม้แต่น้อย

    “ด..เดี๋ยวโยซอบ...ฉัน..คือฉัน...”ดูจุนจับข้อมเล็กทั้งสองข้างไว้เบาๆ นัยน์ตาคมจ้องลงไปในดวงตากลมใสทั้งสอง พยายามสื่อความรู้สึกออกไปผ่านสายตา

    “โครกกกกกกกกก”

    “เออะ=[]=

    “อุ๊บ...ฮ่าๆๆๆๆ โหย แค่จะบอกว่าหิวนี่ต้องอินขนาดนี้เลยเหรอวะอีลุง”โยซอบกุมท้องหัวเราะเสียงดังแล้วกระโดดไปมา

    “ม...ไม่ใช่อย่างงั้นนะ..คือ”ดูจุนมองคนตัวเล็กหน้าเหวอแล้วโบกมือปฏิเสธแต่ดูท่าทางอีกคนจะหัวเราะจนลืมสิ่งรอบข้างไปแล้ว

    “มาๆๆ ถ้าหิวก็มากินข้าวบ้านฉันก่อนก็ได้ ดีเหมือนกันนายจะได้อยู่สอนการบ้านฉันต่อด้วย”ร่างเล็กกวักมือเรียกเพื่อนสนิทก่อนจะหมุนตัวเข้าบ้านไป ร่างสูงพยักหน้าหงึกๆก่อนจะเอาจักรยานไปจอดในที่จอดหน้าบ้านแล้วเดินตามคนตัวเล็กเข้าไป

     

     

     

     

    อุตส่าห์มีโอกาสดีๆแล้วมั้ย...ไอ้กระเพาะทรยศ!!!

     

     

     

    อยากจะระบายให้เธอรู้ 

     

    “รบกวนหน่อยนะคร้าบบบบบบบบบบ”ดูจุนตะโกนลั่นบ้านอย่างคุ้นเคยก่อนจะถอดรองเท้าวางไว้หน้าตู้เหมือนอยู่บ้านตัวเอง

    “เชิญเลยจ้าดูจุนนา วันนี้น้าทำสตูว์เนื้อดูจุนกินได้มั้ยเอ่ย”

    “อู๊ย มีอะไรให้กินหมอนี่ก็กินได้หมดแหละ”

    “เฮ่ยๆ อย่าเหมาฉันรวมกับนายเดะโยซอบ อ้อคุณน้า ไม่ต้องห่วงนะครับผมไม่เลือกกิน”

    “ก็คือกินไม่เลือกเหมือนกันแหละน่า แบร่!!”โยซอบแลบลิ้นใส่ร่างสูงที่เพิ่งเดินตามเข้ามาในห้องอาหารแล้วนั่งลงที่เก้าอี้ตัวประจำ

    “เอ๊ะโยก็ ไปแซวเพื่อนเค้าอย่างงั้นทำไมล่ะลูก ไม่น่ารักเลยนะ”

    “ไม่เป็นไรครับคุณน้า...ฮึก ผมรู้ครับ..ว่าโยซอบไม่ได้ตั้งใจ...ทำให้ผม...ปวดจ๊ายยยยยยย ฮื๊ออออออTT TT”ดูจุนปิดหน้าสะอื้นก่อนจะแกล้งปล่อยโฮออกมา แบบที่เด็กประถมดูก็ยังรู้เลยว่าจริงเขาหัวเราะอยู่ด้วยซ้ำ

    “ชัทอัพ แอนด์ อีท ซะยุนดูจุน ถ้ายังไม่อยากเจอช้อนส้อมบินล่ะก็”โยซอบหน้ามุ่ยแล้วง้างส้อมในมือขึ้นคล้ายกับจะเขวี้ยง แต่พอหันมาเจอแม่ตัวเองมองสายตาดุๆอยู่ก็ลดลงแล้วกินข้าวในจานตัวเองต่อไป ดูจุนยิ้มอย่างผู้ชนะก่อนจะหันไปขยิบตาอย่างรู้กันให้แม่ของโยซอบ และเดินไปนั่งลงข้างๆคนตัวเลกที่ก้มหน้าก้มตากินไม่สนใจเขาเลย

    “อ้อ ดูจุนจ๊ะอยากได้อะไรเป็นของฝากจากอเมริกามั้ยเอ่ย”

    “แกร่ก”แม่ของโยซอบถามขึ้นตอนที่เอาข้าวมาวางให้กับดูจุน คนตัวเล็กวางช้อนส้อมลงบนจานแล้วหันมามองหน้าแง่ตัวเองเชิงเหมือนจะไม่ให้ถาม แต่หญิงสาวคงไม่ทันสังเกตุ

    “เอ๋ น้าจะไปไหนกันหรอครับ?”

    “อ้าว โยยังไม่ได้บอกดูจุนหรอจ๊ะ ว่าครอบครัวเราจะไป..”

    “ผมอิ่มแล้วครับ!!!”ก่อนหญิงสาวจะได้พูดต่อให้จบนร่างบางก็ลุกพรวดขึ้นจากเก้าอี้แล้วเดินตึงตังขึ้นห้องนอนไปทันที

    “เฮ้อ ลูกคนนี้นี่เป็นอะไรก็ไม่รู้ สงสัยตื่นเต้นที่จะเดินทางมั้ง ฮะๆ”

    “ว่าแต่...ครอบครัวคุณน้าจะไปไหนกันหรอครับ โยซอบไม่เห็นเล่าให้ผมฟังเลย”

    “ออ... คือพวกเราจะไปอเมริกากันน่ะจ้ะ แล้วไม่มีกำหนดกลับซะด้วย แปลกจังแฮะทำไมโยไม่บอกดูจุนนะทั้งๆที่เป็นเพื่อนสนิทกันแท้ๆ”

    “แล้วจะไปกันวันไหนหรอครับ”

    “ก็...อาทิตย์หน้าเนี่ยแหละจ้ะ เที่ยงบินบ่ายสาม ดูจุนก็อย่าลืมมาส่งด้วยล่ะ”

    “ค..ครับ งั้นเดี๋ยวผมขอตัวไปง้อเจ้าเด็กน้อยคนนั้นก่อนแล้วกันนะครับ”

    “ไม่กินข้าวให้อิ่มก่อนละจ๊ะ”

    “น้าก็รู้นี่ครับว่าเด็กอย่างโยซอบน่ะ...ยิ่งทิ้งให้งอนนานจะยิ่งง้อยาก”

    “นั่นสินะ ฮะๆๆ งั้นก็ตามสบายเถอะจ้ะ”ดูจุนพยักหน้าให้แม่โยซอบเล็กน้อยและเดินตามร่างบางเข้าห้องนอนไป

     

    “ก๊อกๆ... เข้าไปนะไอ้เตี้ย”ไม่มีเสียงอะไรตอบกลับมา ร่างสูงเปิดประตูออกแล้วเดินเข้าไปในห้อง แล้วก็ต้องยิ้มออกมากับภาพที่เห็น โยซอบกำลังนอนคลุมโปงอยู่บนเตียงจนผ้าห่มนูนขึ้นมาเป็นรูปคน ปลายผมสีเข้มโผล่ออกมาจากปลายด้านบนของผ้าห่มเล็กน้อย

    “ขอโทษนะที่ไม่ได้บอก...แม่คงเล่าให้นายฟังแล้วใช่มั้ย?”เสียงอู้อี้ดังมาจากใต้ผ้าห่ม แต่เจ้าตัวก็ยังคงนอนงุดอยู่อย่างเดิม

    “ฉันไม่โกรธหรอกน่า...แต่ทำไมนายถึงไม่อยากบอกฉันอ่ะ”ร่างสูงเดินลงไปนั่งลงตรงปลายเตียง ก่อนจะคลานขี้นไปนอนข้างๆคนตัวเล็กกว่า

    “ก็...เดี๋ยวนายจะร้องไห้โยเยแล้วไม่ให้ฉันไปไง”

    “อือหือ คิดได้ไงวะ นี่ถึงนายไม่อยู่ซักปีฉันก็ไม่คิดถึงนายหรอกว้อย ไอ้เตี้ย”ว่าแล้วก็จี้เข้าตามตัวคนใต้ผ้าห่มจนคนตัวเล็กดิ้นแด่วๆเป็นปลาโดนน้ำร้อน

    “พูดแบบนี้ เดี๋ยวรอฉันไม่อยู่จริงแล้วนายจะอยูไม่ได้คอยดู....เฮือก! เหวยๆๆ แอ้ก!!”ร่างบางพูดก่อนจะโผล่หัวออกมานอกผ้าห่ม แล้วก็ต้องชะงักไปเมื่อใบหน้าของเขากับดูจุนอยู่ห่างกันไปไม่ถึงคืบ ด้วยความตกใจโยซอบจึงกลิ้มตัวหนีไปอีกทางแล้วตกจากเตียงในที่สุด

    “กร๊ากกกกกกกกก ฮ่าๆๆๆๆๆๆ เพิ่งรู้นะว่านอกจากเตี้ย งก เบ๊อะแล้วเนี่ย นายยังเป้นพวกซาดิสม์ชอบทำร้ายตัวเองด้วย”

    “ช้าททท อ้าพพพพพ แย๊กกกกกกกกกก”โยซอบคว้าหมอนข้างรูปคุณโธมัสใบโปรดตีดูจุนที่นอนขำกลิ้งอยู่บนเตียงไปไม่ยั้ง แต่มันไม่ได้ทำให้ดูจุนเจ็บเลยซักนิด...มันยิ่งทำให้หัวเราะหนักขึ้นด้วยซ้ำ

    “โอ๊ยๆๆๆๆ เจ็บจังเลยอ่ะ ฮ่าๆๆๆ ชอบเล่นงี้ใช่ป่ะ งั้นมานี่เลยไอ้เตี้ย”มือหนาสองข้างคว้าหมอนข้างไว้และดึงให้อีกคนล้มลงมานอนบนเตียงด้วยกันโดยไม่ต้องออกแรงมากนัก ทั้งสองคนหหัวเราะไปหอบไปอยู่ซักพักจนหยุด ก่อนดูจุนจะหมุนตัวนอนตะแคงและเริ่มเปิดประเด็นคุยขึ้นมาก่อน

    “นี่ไอ้เตี้ย ก่อนไปอเมริกาอยากไปเที่ยวไหนป่ะ เดี่ยวโชเฟอร์ยุนดุจุนจะพาไป รอบนี้พิเศษไม่คิดค่าตอบแทนด้วย เอามะ”

    “อืม...ฉันไม่มีที่ไหนอยากไปเป็นพิเศษหรอก แต่มีเรื่องอยากทำมากกว่า”

    “อะไรอ่ะ?”โยซอบไม่ตอบแต่หมุนตัวตะแคงไปอีกทางแทน จากซีกหน้าขึ้นสีชมพูจางๆเล็กน้อยที่ดูจุนมองเห็นก็ทำให้เขารู้ว่าคนตัวเล็กคงกำลังอายอยู่ล่ะมั้ง

    “ฮั่นแน่!! เงียบอย่างนี้ อย่าบอกนะว่า...จะแก้ผ้าเดินทงแดมุน??”

    “อ..ไอ้บ้า ไม่ใช่ซะหน่อย .//////.”ร่างเล็กหมุนตัวกลับมาเผชิญหน้ากับร่างสูงก่อนจะหลุบหน้าลงต่ำเมื่อสบกับสายตาคมจากอีกคนเข้า

    “แล้วนายอยากทำอะไรล่ะ”

    “น..นายรู้แล้วอย่าบอกใครนะ”

    “อืมๆ สัญญาด้วยเกียรติลูกผู้ชายเลย”

    “คือฉัน...แอบชอบคนๆนึงอยู่... ชอบมานานแล้ว”

    “อึก...อ..อืม แล้ว?”รอยยิ้มบนใบหน้าหล่อเหลาหายไปทันทีที่คำว่า ชอบหลุดออกมาจากปากคนตัวเล็ก

    “แล้วก่อนฉันจะไป...ฉันก็อยากจะบอกให้เค้ารู้ตัวก่อนเดินทาง”

    “อ..อืม แล้วคนที่นายชอบเป็นใครอ่ะ เผื่อฉันจะช่วยได้ไง”ฝืนยิ้มถามออกไปอย่างนั้น... จริงๆก็แค่อยากรู้ว่าคนๆนั้นเป็นใครเท่านั้นแหละ

    “..บอกไม่ได้ คนๆนั้นเป็นคนที่นายรู้จักดี เดี๋ยวนายจะเผลอทำให้เค้ารู้ตัว”

    “ฉันล่ะอยากเห็นจริงจริ๊งงง ว่าคนที่นายชอบจะหน้าตาแบบไหน คงไม่ใช่อาแก่พุงพลุ้ยที่ชอบเสนอเลี้ยงไอติมฟรีให้นายหรอกนะ”

    “ไม่ซะหน่อยเหอะ คนที่ฉันชอบนะ ทั้งหล่อ ทั้งใจดี อบอุ่น สูง มีน้ำใจ เสียสละ อารมณ์ขัน แถมยัง...”

    “หยุดพูดเรื่องนี้เถอะ!!!”ดูจุนพูดเสียงเรียบและดึงท้ายทอยเล็กเข้ามาประกบริมฝีปากลงกับริมฝีปากของอีกคน ร่างเล็กร้องออกมาเล็กน้อยด้วยความตกใจแต่ก็ไม่ได้ขัดขืนอย่างที่ควรจะทำ

    ดูจุนดันไหล่เล็กให้แนบลงกับพื้นเตียง ก่อนจะขึ้นนอนคร่อมร่างบางช้าๆ       ลิ้นอุ่นสอดเข้าหาความหวานในโพรงปากของอีกคนช้าๆอย่างอ่อนโยนแต่กลับให้ความรู้สึกต้องการและทำให้โหยหาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆอย่างบอกไม่ถูก

    “อ...อือ”โยซอบครางออกมาเบาๆและแตะไหล่ดูจุนเบาๆเพื่อบอกว่าหายใจไม่ออก ร่างสูงผละตัวออกและจ้องตาคู่สวยของคนตัวเล็กภายใต้ตัวของเขาเองนิ่ง ไม่พูดอะไร..ไม่สิ...ไม่มีใครกล้าพูดอะไรมากกว่า

    “ด..ดูจุน..คือ..”

    “ฉ..ฉันขอโทษนะ อ..เอ่อ ลืมมันไปซะเถอะ... ฉ..ฉันไปก่อนนะ บาย”ดูจุนพูดเสียงเบา ก่อนจะคว้ากระเป๋าของตัวเองออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว

     

     

     

     

    นี่ฉันทำอะไรลงไปเนี่ย...ยุนดูจุน?!?

     

     

    ว่าเธอ และเธอเท่านั้น 

     

    “ไปถึงแล้วก็ส่งอีเมล์กลับมาบอกกันมั่งนะซอบอา”

    “ฉันไม่ลืมแน่นอนกวังอา ฉันจะส่งเมล์ให้ทุกคนด้วย”

    “ว่างๆก็กลับมาเยี่ยมกันมั่งนะ”

    “แน่อยู่แล้วซึงอา ถ้าพวกนายไปอเมริกาก็ไปหาฉันด้วยละกัน”

    “เหอะ ตังค์ไปเกาะเจจูยังไม่มี จะอะไรกับไปอเมริกาวะ”จุนฮยองที่ยืนเงียบมานานพูดขึ้น ทำให้ได้รับสายตาพิฆาตจากแฟนสุดสวย(?)ไปเรียบร้อย

    “แล้วนี่...ไอ้ดูจุนมันไม่มาหรอ..โอ๊ย ตีฉันทำไมอ่ะดาร์ลิ้ง”

    “หุบปากไปเลยนายน่ะ”ฮยอนซึงจัดการเอ็ดคนปากห้อยไปอีกครั้ง ก่อนจะหันมายิ้มให้เพื่อนสนิทที่หุบยิ้มไปหน้าเจื่อน

    “เอ่อ...คือ...”

    “ไม่เป็นไรซึงอา... อ้อ นี่ก็บ่ายสองกว่าแล้วเกทคงเปิดแล้วฉันไปล่ะนะทุกคน”

    “มาๆๆๆๆ มากอดกันครั้งสุดท้ายหน่อย”กีกวังยิ้มทั้งน้ำตาและทุกคนก็กอดกันกลมราวกับจะไม่ได้เจอกันอีก

    “โยจ๊ะ ไปได้แล้วจ้ะ”

    “ครับแม่ ไปแล้วครับ”ร่างเล็กตะโกนตอบแม่ที่อยู่ห่างไปสองสามเมตรก่อนจะลากกระเป๋าใบโตตามไป โดยไม่ลืมหันหลังกลับมามองด้านหลังอีกครั้ง...เผื่อจะเจอกับคนๆนึง

     

     

     

    ได้ใจของฉันตั้งแต่แรกเจอ 

     

     

    “โว้ย บ่ายสองครึ่งแล้ว ไม่ทันแน่ๆ พี่โชเฟอร์ครับ เร็วกว่านี้ไม่ได้จริงๆหรอครับ”

    “ไม่ได้แล้วน้อง นี่รถข้างหน้าก็ติดมากด้วย”

    “งั้น... พี่จอดตรงนี้เลยแล้วกันครับ นี่ค่ารถครับไม่ต้องทอน”ร่างสูงยัดธนบัตรใบละหมื่นวอนสองใยลงในมือโชเฟอร์ก่อนจะเปิดประตูลงจากรถและออกวิ่งเต็มสปีด

     

     

     

    ขอให้ทันด้วยเถอะ...โยซอบ

     

     

     

     

     

    2.45PM

     

    “บ่ายสองสี่สิบห้า...จะทันมั้ยวะเนี่ย”ร่างสูงดูนาฬิกาที่ข้อมือก่อนจะสบถอย่างอารมณ์เสีย ตอนนี้เขามาถึงสนามบินแล้ว ไม่รู้ว่าทำไปได้ยังไง แต่ก็วิ่งไม่ลืมหูลืมตามาเกือบสามกิโลตั้งแต่ที่ลงจากแท็กซี่ มีเป้าหมายเพียงอย่างเดียว...

     

     

     

    เจ้าเด็กตัวเตี้ยที่ไม่ได้เจอหน้ากันมาเป็นอาทิตย์ตั้งแต่วันนั้น...และอาจจะไม่ได้เจอกันอีกเลยก็ได้น่ะสิ

    “ตรู๊ดดดดด ตรู๊ดดดดดดด”เสียงรอสายของคนปลายสายยังคงดังต่อเนื่องจนเขาเริ่มปวดหัว อยากจะเขวี้ยงมือถือเครื่องหรูลงบนพื่นให้แตกไปข้าง

    “โธ่เว้ยยยย!!! ทำไงดีวะ...เออ จริงด้วย!!

     

     

     

     

     

    “เฮ้อ...”ร่างเล็กถอนหายใจพลางก้มลงกอดกระเป๋าเป๋ใบโตแล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่ ทำให้คนเป็นแม่หันมามองอย่างเป็นห่วง

    “แน่ใจนะลูก..ว่าอยากไปน่ะ ถ้าไม่อยากไปก็ไม่เป็นไรนะ”

    “ย..อยากไปสิครับแม่ ทำไมผมจะไม่อยากล่ะ ผมก็แค่..ง่วงนิดหน่อย เมื่อคืนตื่นเต้นก็เลยไม่ได้นอนน่ะฮะ”

    “โอเค ถ้าลูกว่าอย่างงั้นก็อย่างงั้นละกันเนอะ งั้นเราไปกันเถอะลูกใกล้เวลาขึ้นเครื่องแล้ว”

    “ครับ”โยซอบยิ้มบางๆให้คนเป้นแม่และลุกขึ้นจัดแจงสะพายกระเป๋า ก่อนจะออกเดินตามครอบครัวไป

     

    “ยังโยซอบ นี่ยังโยซอบนายได้ยินฉันมั้ย?”เสียงจากลำโพงประชาสัมพันธ์ทำให้เขาต้องหยุดเดินกระทันหัน

     

     

     

     

     

    “ฉันไม่รู้หรอกนะ... ว่านายจะยังอยู่ในสนามบิน หรือว่าขึ้นเครื่องไปแล้ว...”

     

     

     

     

     

     

    “แต่ถ้านายยังอยู่ในสนามบินล่ะก็... ช่วยหยุดฟังฉันซักหน่อยนะ...”

     

     

     

     

     

    “ฉันรู้..ว่านายมีคนที่ชอบแล้ว และนายก็คงไม่มองฉันมากกว่าเพื่อนสนิทคนนึงไปได้”

     

     

     

     

     

    “แต่ในเมื่อเราอาจจะไม่ได้เจอกันแล้ว...ฉันก็อยากจะให้นายได้รับรู้ความในใจของฉัน”

     

     

    แต่เธอมีเวลาฟังแค่ใหน 
    เรื่องราวความในใจที่ล้นเอ่อ 
    ว่าเธอ และเธอเท่านั้น 
    ได้ใจของฉันตั้งแต่แรกเจอ 

    แต่เรามีเวลาเพียงแค่นี้ 
    อาจไม่พอให้พูดอะไรให้โดนใจของเธอ 
    หากเธอไม่มีเวลา จะอยู่กันนานๆ 
    ก็อยากจะบอกสั้นๆ ว่าฉันนั้นรักเธอ 

     

     

    น้ำตาใสๆหยดลงจากดวงตากลมโตทั้งสองข้างทันทีที่เสียงทุ้มจากลำโพงจบลง มือเล็กกำพาสปอร์ตและตั๋วเครื่องบินในมือแน่น ขาสองข้างหมดแรงที่จะก้าวเดินต่อ ทำให้เขาได้แต่ยืนอยู่กับที่ปล่อยให้ตัวเองร้องไห้อยู่อย่างนั้น

     

     

     

    “เดี๋ยวฉันจะไปหา... อย่าเพิ่งเดินไปไหนนะโยซอบ...”แล้วเสียงประกาศก็หยุดไป โยซอบได้แต่ยืนอยู่อย่างนั้น ใจนึงก็แอบหวังว่า...จะได้เจอคนที่ตอนนี้เขาอยากเจอมากที่สุดอีกซักครั้งก่อนไป

     

     

     

     

     

     

     

    “โยลูก... ได้เวลาขึ้นเครื่องแล้วนะ... ไปกันมั้ยลูกเดี๋ยวไม่ทันนะ”

    “ต..แต่”

    “แม่รู้ลูกว่าโยอยากอยู่รอเค้า...แต่กว่าเค้าจะหาโยเจอ... มันอาจจะเลยเวลาขึ้นเครื่องไปแล้วก็ได้นะ”

    “ค.ครับ ป..ไปก็ได้”มือเล็กยกขึ้นปาดน้ำตาลวกๆก่อนร่างบางจะฝืนตัวก้าวเดินออก พยายามทำให้มันช้าที่สุดเผื่อเขาจะมาทัน ในใจก็สวดมนต์ขอพร...ให้คนๆนั้นหาเขาเจอเร็วๆ

     

     

     

     

     

     

    “ไอ้เตี้ย!!!!

     

     

     

     

     

    เสียงตะโกนที่ดังขึ้นไม่ไกลนักจากข้างหลังทำให้ทั้งตัวของเขาแข็งทื่อ ขาที่ตั้งใจจะเดินต่อหยุดลงดื้อๆ ผู้คนรอบตัวหยุดเดินตามๆกัน ก่อนจะแหวกตัวออกราวกับเบิกทางให้คนที่ตะโกนเรียกเขาหาเขาเจอพร้อมๆกับเสียงคุยที่เงียบไปทันทีราวกับในที่นั้นเหลือเพียงตัวเขา...และคนๆนั้น

     

     

     

    “แฮ่กๆ ค..คิดว่า จะมาไม่ทันซะแล้ว แฮ่กๆ”ร่างสูงวิ่งเข้ามาหยุดอยู่ข้างหลังและหมุนตัวเขาให้เผชิญหน้ากับตัวเอง เขาหอบเล็กน้อยเพราะวิ่งมาเหนื่อย รอยยิ้มอบอุ่นที่คุ้นเคยถูกส่งมาให้ร่างเล็กใจกระตุกเล่นอย่างที่เป็นบ่อยๆ

    “ฮึก.. คิดว่านาย..จะไม่มาซะแล้ว”

    “ขอโทษนะ..รถมันติดมาก ฉันเลยต้องลงแท็กซี่แล้ววิ่งมา”มือหนาปาดน้ำตาบนแก้มใสและขอบตาของคนตัวเล็กเบาๆก่อนจะดึงร่างบางมากอดหลวมๆ

    “เมื่อกี๊...ได้ยินเสียงฉันป่ะ”

    “ใครๆเค้าก็ได้ยินกันหมด ใครไม่ได้ยินก็หูหนวกแล้ว ฮึก...”

    “งั้นนายก็รู้แล้วใช่มั้ย...ว่าฉัน..รักนาย”

    “อ..อืม”

    “แล้วนาย ไม่โกรธฉันหรอ...”

    “ไม่โกรธหรอก.. ”

    “แล้วเรื่องที่นายอยากทำล่ะ...ทำไปยัง”

    “ยังเลย”

    “อ้าว ไหงงั้นล่ะ”

    “ก็คนที่ฉันชอบ...มันหายหัวไปไหนก็ไม่รู้เป็นอาทิตย์ แล้วก็เพิ่งจะโผล่หน้ามาเมื่อกี๊นี้นี่นา”

    “ฮ..ฮะ อย่าบอกนะว่า??”

    “ฉันชอบนาย...ไม่สิ..ฉันรักนาย ..ยุนดูจุน...อื้อ”ริมฝีปากบางถูกปิดลงทันทีที่พูดเสร็จ รสหวานของจูบยังคงไม่จางลงจากคราวก่อน...แต่กลับทวีคูณขึ้นหลายเท่า ทั้งสองยังคงแลกความหอมหวานกันไปมาจนลืมคนรอบข้างที่มองมาด้วยความยินดี

    “โยจ๊ะ...”เสียงหญิงสาวที่คุ้นหูดังขึ้นทำให้ทั้งสองต้องผละออกจากกัน

    “แม่...คือว่า...โย...”

    “อ๊ะๆ ไม่ต้องทำหน้าเศร้าขนาดนั้นหรอกจ้ะ พ่อแม่เข้าใจ...”

    “แต่..อเมริกา..”นิ้วเรียวของผู้เป็นแม่ยกขึ้นแตะลงที่ปากสีชมพูเข้มเล็กน้อยจากจูบเมื่อซักครู่ทำให้ร่างเล็กหยุดพูดไป หญิงสาวส่ายหน้ายิ้มๆและเช็ดน้ำตาออกจากตาแดงๆของลูกชายตัวน้อย

    “ถ้าลูกไม่อยากไป...ก็ไม่ต้องไปก็ได้จ้ะ”

    “ต...แต่”

    “อ๊ะๆ พวกเราไม่โกรธหรอกจ้ะ ถ้าโยไปแล้วจะเสียใจ...โยก็อยู่ที่นี่เถอะ เดี๋ยวพวกแม่ไปถึงแล้วจะติดต่อกลับมา โอเคมั้ย?”

    “ค...ครับ งั้น...ผมอยู่ได้มั้ย”โยซอบมือคนเป็นแม่ตาฉ่ำ พลางสูดน้ำมูกเป็นเด็กๆ

    “ได้สิจ๊ะลูกแม่   อ๊ะ เค้าเรียกขึ้นเครื่องแล้วแม่ไปก่อนนะ...ดูจุนจ๊ะ”

    “ค...ครับ?”

    “ดูแลเจ้าตัวเล็กดีๆนะ เราเองก็เป็นเด็กดีด้วยนะโย”

    “ครับคุณน้า/อ..อื้ม”

    “งั้นแม่ไปนะจ๊ะ”

    “สวัสดีครับ/บ๊ายบายฮะแม่”

     

     

     

     

     

    “ทีนี้เอาไงกันต่ออ่ะ...เฮ้ย ไอ้เตี้ย”

    “อะไรเอาไงต่อ ก็กลับบ้านอ่ะดิ”

    “ไม่ใช่..หมายถึงเรื่องของเราอ่ะ”

    “หา???”

    “ก็...เราเป็นแฟนกันยัง?”

    “ม...มั้ง”

    “เฮ้ อย่ามั้งดิ คือแบบ ฉันต้องการความมั่นใจอ่ะ”

    “อ...เออ เป็นว้อยเป็นพอใจมั้ย”

    “พอใจเป็นอย่างยิ่งเลยครับแฟนครับ ฮ่าๆๆๆๆ”

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    THE END

    จบแล้ววววววววววววว

    คือมันเป็นฟิคสั้นที่โคตรจะยาวอ่ะนะ จะแยกพาร์ทก็ไม่ได้เพราะมันต้องฟังเพลง 555

    ใครที่อ่านจนจบมาได้ถือว่าอดทนมาก ขอบคุณนะคะ

     

    ถ้าเรามีผิดพลาดอะไรก็เม้นท์ไว้ด้วยนะคะ ขอบคุณค่า^^




    แถมๆๆ

     

    เคสมือถือคู่ที่โยกะลุงใช้ ถึงจะเป็นแค่ตัวประกอบแต่เราชอบอ่ะ><







    แก้คำผิด&Re-write 3/6/55

    © Tenpoints !
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×