คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : [SF] Neighbor 1
ไม่รู้เป็นอะไรเกิดอยากให้โยแก่กว่าลุงบ้าง
เลยตัดสินใจแต่งฟิดเรื่องนี้
ดังนั้นมันเลยเป็นฟิคสดไร้พล็อต
แต่ก็มาจากใจไรเตอร์นะ กระซิกๆTT^TT
ไปอ่านกันเลยดีกว่า
“ติ๊ก ติ๊ก ติ๊ก ติ๊ก”
“สาม... สอง... หนึ่ง...”
“แกร๊ก ปึก ตึง โครม!!!”
“เฮ้ออออ ตรงเวลาตลอดสินะ= =”ผมถอนหายใจเบาๆและหยิบหูฟังรุ่นเก็บเสียงดีขั้นเทพราคาแบบที่ทำให้คนปกติกัดก้อนเกลือกินได้ขึ้นมาใส่อย่างที่ทำทุกวัน รอรับสถานการณ์ที่กำลังจะตามมาในอีกไม่ถึงนาที
“อะ.. อ๊าส์ ร..แรงอีกสิ อื้มมมม”นั่นไง พูดถึงก็มาอีกแล้ว
ผมส่ายหน้าอย่างหน่ายๆและลุกขึ้นจากโต๊ะทำงาน ก่อนจะเปิดรามยอนที่ใส่น้ำไว้ครบสามนาทีพอดีกิน
อ๊ะๆ อย่าเพิ่งเข้าใจผืดไป ผมไม่ได้นั่งกินรามยอนไปฟังเสียง.. เอ่อ นั่นแหละไปเพื่อความบันเทิงหรอกนะ ไม่ใช่โรคจิต แค่ฟังมาทุกวันมาหลายเดือนจนชินซะแล้วมั้ง... (แต่ผมก็ไม่ได้ด้านชานะครับทุกคน อย่าเพิ่งเข้าใจผิดไป)
ถ้าจะถามว่าทำไมถึงได้ยินเสียงพวกนี้ทุกคืนน่ะ...ผมไม่รู้หรอก รู้แค่คุณเพื่อนบ้านที่อยู่ข้างๆกันมาเฉียดปีเต็มทีที่ไม่เคยเห็นหน้ามักจะกลับบ้านมาตอนเที่ยงคืนเป๊ะๆยังกะซินเดอเรลล่า แล้วก็...ทำเรื่องพวกนั้นเกือบทุกวัน..ไม่สิ ถ้าไม่นับเสาร์อาทิตย์กับวันหยุดราชการก็ทุกวันนั่นแหละนะ
“ชางซอนชิ อีกนิดเดียว อึก ช..ชางซอน..ชิ”เสียงกรีดร้องแหบพร่าที่ดังมาจากห้องข้างๆตรงผ่านพูฟังราคาแพงเข้าโสตประสาทหูข้างซ้ายและขวาของผมอย่างชัดเจน โอย..ไม่ใช่ผมจะตายด้านอะไร ได้ยินเสียงแค่นี้ก็ทำเอาขนลุกแล้ว
ว่าแต่...เปลี่ยนไปอีกแล้วสินะชื่อคู่นอนของคุณเพื่อนบ้าน รู้สึกเมื่อวานจะยังเป็นจุนซูอยู่เลย
เอ๊ะ!
แล้วผมจำได้ไงวะ=[]=
มายก็อด ตารางธาตุที่นั่งเรียนอยู่ทุกวันผงยังจำได้ไม่ถึงเจ็ดตัว แต่ดันมาจำเรื่องแบบนี้ได้เนี่ยนะ แว้กกกกกกกกกก
หลังจากงุดหัวในหมอนใบเบ้อเริ่มข้างตัวไล่เรื่องบ้าบอพวกนั้นออกจากหัวอยู่ซักพักผมก็กลับมานั่งนิ่งๆมองเหม่อไปยังวิวเมืองโซลยามกลางคืนนอกหน้าต่าง
“ทำไมคืนนี้ถึงหลายรอบกันจังวะห้องข้างๆเนี่ย เดี๋ยวกรูตาแพนด้าไปโรงเรียนขึ้นมาจะทำไงวะ”ถึงปากจะบ่นอย่างนั้นก็เถอะ... ไม่ใช่กรูเองหรอกเรอะที่โง่ไม่นอนไปซะตั้งแต่ก่อนคุณเพื่อนบ้านจะกลับมาน่ะ!?!
หลายวันผ่านไป
“ก๊อกๆ เอ่อ...ขอโทษนะครับ เจ้าของห้องอยู่มั้ยครับ”เสียงเคาะประตูตามมาด้วยเสียงใสของใครไม่รู้ดังเข้ามาในหู ปลุกให้ผมตื่นขึ้น ผมจัดทรงผมที่ยุ่งเหยิงจากนิสัยนอนคว่ำหน้าของผมเล็กน้อย ก่อนจะลากตัวเองที่ยังลืมตาได้ไม่เต็มดวงไปเปิดประตูห้อง
“มีอะไรครับ-..-?”ผมปรือตาขึ้นอีกเล็กน้อยและถามคนหน้าประตูให้สุภาพที่สุด แต่พอเห็นร่างเล็กที่ยืนอยู่หน้าห้องตาผมก็โตขึ้นมาทันทีโดยไม่รู้ตัว
ชายหนุ่มร่างบาง เจ้าของผิวขาวเนียนและหน้าตาน่ารักในเสื้อเชิร์ตสีขาวตัวโคร่ง ที่คอมีรอยแดงซึ่งไม่ต้องบอกก็รู้ว่ามาจากอะไรอยู่ประปราย ผมทรงตื่นนอนที่ได้รับการจัดทรงลวกๆและริมฝีปากแดงเจ่อเผยอออกเล็กน้อยที่น่าจะมาจากกิจกรรมเมื่อคืน ทำเอาผมกลืนน้ำลายเอือกใหญ่
อย่าบอกนะว่าสุดฮอตคนนี้คือเพื่อนข้างห้องกรูอ่ะ=.,=!!!
“เอ่อ..คือ รบกวนเวลานอนรึเปล่าครับ เช้าวันเสาร์ซะด้วย...”ร่างบางถามเสียงอ้อนพลางมองตาผมแป๋ว คือถ้าแต่งตัวปิดร่องรอยกิจกรรมบริหารระบบสูบฉีดเลือดนั่นมาซักหน่อยผมคงคิดว่าเป็นเด็กที่โรงเรียนมาถามการบ้านซะมากกว่าอ่ะนะ
“ไม่เป็นไรครับ ยังไงผมก็ตื่นมาแล้ว แล้วมีอะไรจะให้ช่วยรึเปล่า?.
“เอ่อ คือ หลอดไฟห้องผมมันพัง แล้วผมเปลี่ยนไม่ถึงเลยจะมาขอให้ช่วยเปลี่ยนให้หน่อยน่ะครับ”
“อ่า... ได้ครับ งั้นก็”ผมพยักหน้านิดนึง ก่อนจะเพยิดหน้าไปทางประตูห้องของสุดฮอต(ขอเรียกอย่างงี้ไปก่อนละกัน พอดีไม่รู้ชื่อ^[+++]^)เชิงจะสื่อว่าให้เปิดประตูรอ
“อ่อ ง..งั้นแป๊บนึงนะครับ”สุดฮอตพยักหน้ารับรู้และเดินไปเปิดประตูก่อนจะหันมามองผมด้วยแววตาไร้เดียงสานั่นแวบหนึ่งแล้วเข้าห้องไป โดยไม่ลืมแง้มประตูห้องทิ้งไว้เล็กน้อย
ไม่กี่นาทีผ่านไป
“รบกวนหน่อยนะครับ”ผมพูดเสียงดังพอจะให้คนที่อยู่ในห้องนอนได้ยิน ก่อนจะเปิดประตูห้องและเข้าไปโดยไม่รอเสียงตอบรับ
“อยู่ในห้องนอนครับ เข้ามาได้เลย”โอ้ววววว อยากกรีดร้อง สุดฮอตเรียกผมเข้าห้องนอน...ถึงจะคนละจุดประสงค์ก็เถอะ= =
“เข้าไปล่ะนะครับ”ว่าแล้วก็เปิดประตูห้องนอนเข้าไป แล้วก็เจอกับร่างบางกำลังจัดผ้าห่มที่น่าจะเพิ่งปูใหม่
“ขอโทษนะครับ ห้องนอนเละเทะไปหน่อย แต่ผมทำความสะอาดแล้วล่ะ”สุดฮอตหันมายิ้มบางให้ผมเล็กน้อย
อ๊ากกกกกกก ใจละลาย>////<
“ห้องหอมจังนะครับ ใช้สเปรย์กลิ่นเดียวกันเลย ฮะๆๆ”ผมสูดกลิ่นดอกลาเวนเดอร์อ่อนๆที่น่าจะมาจากสเปรย์ขวดสีฟ้าบนโต๊ะเครื่องแป้งเล็กน้อยแล้วพูดขึ้น ก็ไม่รู้จะชวนคุยเรื่องอะไรน่ะนะ
“อืม ผมชอบกลิ่นดอกลาเวนเดอร์น่ะ มัน...มีสเน่ห์...แบบบอกไม่ถูก”สุดฮอตหันมามองผมด้วยสายตาอ้อยอิ่งแบบคนนอนไม่พอ พลางพูดเสียงแผ่ว.. ยั่วอารมณ์เด็กหนุ่มวัยกำลังโตอย่างผมได้ดีทีเดียวเชียว=..=
“น..นั่นสินะครับ”
“อ้อใช่ หลอดไฟกับบันได!!”ร่างบางดีดนิ้วดังเป๊าะ ก่อนจะหายไปนอกห้องนอนซักครุ่และกลับมาพร้อมอุปกรณ์เปลี่ยนหลอดไฟครบเซ็ท
“โหย เต็มมือไปหมดเลย เรียกผมไปช่วยหยิบก็ได้นะครับ คุณ..เอ่อ”
“โยซอบครับ ยังโยซอบ แต่ไม่เป็นไรหรอกครับแค่ปลุกคุณมาแต่เช้าอย่างนี้ก็รบกวนจะแย่แล้ว... แถมเมื่อคืนคงทำคุณนอนดึกน่าดู...” โยซอบ(สุดฮอต)ตอบพลางยิ้มสวย ก่อนจะพึมพำประโยคสุดท้านเสียงเบาแบบที่(คาดว่า)ผมไม่ได้ยิน
“ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมอยู่มาหลายเดือนแล้ว ชินแล้วล่ะ”
“=///////=!!!”โยซอบหันมามองผมอย่างตกใจ ใบหน้าขาวตอนนี้ขึ้นสีแดงระเรื่อ ขี้อายขนาดนี้ไม่น่าเชื่อเลยว่าจะ..เอ่อ..ช่างมันเถอะ
“อ.เอ่อ ขอโทษครับ พูดอะไรที่ไม่ควรออกไปซะแล้วสินะ แหะๆ”ผมกัวหัวตัวเองและหัวเราะเจื่อน
“ยังไงก็ขอโทษด้วยนะครับ.. ว่าแต่คุณชื่ออะไรหรอ? อยูข้างๆกันมาเกือบปีแล้วแต่ยังไม่เคยเจอกันเลย วันแรกที่คุณย้ายเข้ามาผมก็ไม่ได้ออกไปทำต้อนรับเลย”
“ตื่นแล้วแต่ลุกไม่ไหวสินะครับ ฮะๆๆๆ”
“TT[]TT ง่ะ.. อ..เอ่อ ไม่นะ คือ” โยซอบไม่ได้ตอบอะไร ไม่สิ เรียกว่าตอบไม่ถูกจะดีกว่า ได้แต่อ้าปากพะงาบๆ ดูจากสีหน้าแล้วคงใกล้ร้องไห้เต็มทน ก็นะเจอคำถามอย่างงี้เข้าไปซะ
“ล้อเล่นน่ะครับ อ่อใช่ ผมชื่อยุนดูจุน ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ”
“ล..แล้ว คุณดูจุนทำงานอะไรหรอครับ? เห็นออกจากบ้านแต่เช้าแถมกลับเร็วด้วย”
“ทำงานอะไรกันคุณ ผมเพิ่งอายุ 17เองนะ”
“จริงอ่ะ!!! งั้นก็อยู่ม.ห้าเองอ่ะดิ???”
“ครับ... แหมถ้าจะเชื่อออกหน้าออกตาขนาดนี้เนอะ แต่ก็อย่างว่าล่ะ ผมหน้าแก่มาแต่ไหนแต่ไรแล้วอ่ะนะ เฮ้อชีวิต”
“แต่ถึงจะหน้าแก่... ดูจุนก็ถือว่าเป็นคนที่หน้าตาหล่อมากเลยน้า ในสายตาผมน่ะ”
.
.
.
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดด
ขอตุ๊ดแตกหน่อยเถอะ ได้ยินมั้ยทุกคน เมื่อกี๊สุดฮอตชมว่าผมหล่อด้วย
ไม่ใช่หล่อธรรมดาด้วยนะ หล่อมาก ด้วย ภูมิใจว้อยยยยยยยยยยยย!!!
“อ..เอ่อ ดูจุน ดูจูนนนนนนน”โยซอบเรียกสติผมที่ยังหลุดไปเนเล่นอยู่พลางโบกมือเล็กไปมา
“ค..ครับ ขอโทษนะครับ สงสัยยังง่วงๆอยู่”
“ขอโทษด้วยนะที่รบกวนแต่เช้าเลย”โยซอบพูดขึ้นมาน้ำเสียงรู้สึกผิดสุดขีด แต่ที่น่าตกใจกว่านั้นคือการพูดที่ดูเป็นกันเองขึ้น คงเห็นว่าผมไม่ได้อายุมากอย่างที่เค้าคิดล่ะมั้ง
“ไม่หรอกครับ อย่าคิดมากเลย แล้วโยซอบล่ะเรียนที่ไหนหรอ?”เค้าเป็นกันเองมา ผมก็ต้องเป็นกันเองกลับไปตามมารยาทอ่ะนะ 555 จากที่ดูโยซอบคงอายุไม่ห่างจากผมเท่าไหร่ อย่างมากก็ปีหนึ่งปีสองได้ล่ะมั้ง
“โหย เรียนอะไรกัน ฉันอายุ23แล้วนะ ทำงานแล้วด้วย”
“ฮะ!?!”
“ไหงทำหน้างั้นล่ะ?”
“ผมคิดว่าคุณจะเรียนม.ปลายอยู่เหมือนกันซะอีก หน้าเด็กแถมยังตัวเล็กขนาดนี้”
“จริงหรอ *0* ดีใจจังมีคนชมว่าหน้าเด็ก แต่เรื่องตัวเล็กนี่ผมไม่ค่อยจะยินดีรับเท่าไหร่อ่ะนะ”
“ฮะๆ แล้วคุณทำงานอะไรหรอครับ?”
“ไม่ต้องเรียกผมว่าคุณก็ได้นะ เรียกโยซอบเฉยๆก็ได้ แต่ถ้ารู้สึกแปลกๆก็เรียกฮยองแล้วกัน..นั่งก่อนสิ สงสัยเราคงได้คุยกันอีกยาว”
“ครับ...โยซอบ”ผมพูดชื่อของเขาไปอายๆ ไม่ได้เขินที่เรียกชื่อนั่นหรอกนะ แต่เพราะรอยยิ้มพราวกับประโยคที่ชวนให้ผมนั่งลง’บนเตียง’นั่น แถมยังสภาพของโยซอบตอนนี้มันทำให้ผมกำลังคิดไกล!!!
“ฉันเป็นสถาปนิกน่ะ เลยไม่ค่อยต้องออกไปทำงานนอกบ้านเท่าไหร่ อย่างที่ว่าไป มันก็เลยทำให้ฉันมีเวลาในสำหรับ..One night stand อย่างที่นายได้ยินน่ะแหละ... เอ่อ..คุยแบบกันเองได้ใช่มั้ย ฉันชอบคุยแบบนี้กับคนเด็กกว่ามากกว่า”
“ด..ได้ครับ แต่ว่า ตรงไปมั้ย..?”
“หืม?”
“ไอ่ One night stand เนี่ยไม่กลัวผมเข้าใจผิดหรอ”
“ก็ดูจุนดูเป็นคนเชื่อถือได้ แล้วก็ดูเป็นคนห่วงใยคนอื่นมากเกินที่จะเอาเรื่องแบบนี้ไปบอกใคร ฉันคิดว่าบอกไปก็คงไม่ได้เป็นเรื่องแย่ อีกอย่างเราก็เป็นเพื่อนบ้านกัน ถ้านายเข้าใจผิดว่าฉันเป็นพวกเปลี่ยนแฟนรายวันขึ้นมามันก็ไม่ดีจริงมั้ย?”
“อ่อ...”
“แล้วดูจุนล่ะเคยมั้ย?”
“ห..หืม!?!”
“ก็รู้ๆกันอยู่ว่าฉันหมายความว่ายังไง”ร่างบางถามพลางยิ้มกริ่มอย่างรู้ทัน ก่อนจะยื่นหน้ามาใกล้ผมที่หน้าแดงและพยายามหลบตาเขาอยู่ทีละนิดๆ
เดี๋ยวพ่อจับกดคาเตียงขึ้นมาไม่รู้นะว้อยยยยยยยย
“อ..เอ่อ..คือ”
“OH My God อย่าบอกนะว่าไม่เคยจริงๆน่ะ??? หล่อๆแบบดูจุนฉันคิดว่าจะเชี่ยวชาญแล้วซะอีก แถมยังบอกว่าไม่รู้สึกอะไรกับเสียงจากห้องฉันด้วย”
“ไม่ได้บอกว่าไม่รู้สึกซะหน่อย... บอกว่าชินแล้วเฉยๆตะหากครับถ้าพูดให้ถูก”ผมเถียงออกไปเสียงดัง แต่รู้สึกมันจะยิ่งส่งเสริมให้ภาพพจน์ของผมดูแย่ลงไปกว่าเดิมซะอีก
“อุ๊บ.... ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ ดูจุนนี่น่ารักจังเลยน้า เสียดายจังฉันน่าจะเกิดช้ากว่านี้อีกซักห้าหกปี”โยซอบลงไปนอนขำกับเตียงนุ่มและกลิ้งตัวไปมา ไม่รู้จะขำอะไรนักหนา...แต่ให้อภัยได้ ก็หัวเราะแล้วน่ารักขนาดนี้=.,=
“เอาล่ะๆ ผมเปลี่ยนหลอดเลยดีกว่า เดี๋ยวเที่ยงผมต้องไปเรียนพิเศษ”
“อืม หลอดอยู่บนโต๊ะ แล้วก็บันได... ใช้ได้เลยนะไม่ต้องเกรงใจ”โยซอบว่าทั้งที่ยังนอนอยู่บนเตียงครึ่งตัว ตาก็มองหลอดไฟบนเพดาน
ผมก็ไม่อยู่เฉย ลุกไปจัดการเปลี่ยนหลอดไฟ ระหว่างนั้นโยซอบก็ถามนู่นถามนี่ของผมไปเรื่อย ทั้งเรียนสายอะไร โตขึ้นอยากเป็นอะไร แถมยังเสนอตัวสอนเลขให้อีกด้วย เห็นอย่างนี้เคยเข้ารอบสุดท้ายการแข่งขันเลขระดับเอเชียมาแล้วนะเนี่ย!!!
“อ่า.. เสร็จแล้วครับ เอ่อ ช่วยรับหลอดไฟหน่อยได้มั้ยครับ เดี๋ยวผมจะลงบันได”โยซอบหันมาพยักหน้าให้ผมเล็กน้อยก่อนจะเดินมาเอื้อมมือรับหลอดไฟจากผม แต่ด้วยความสูงจากพื้นของผม และความสูงเหมือนเด็กน้อยของโยซอบทำให้เขาต้องเขย่งและยืดแขนขึ้นซะสุดเอื้อม ส่งผลให้ปลายเสื้อเชิ้ตตัวโคร่งลอยสูงขึ้น โผล่ปลายกางเกงบ็อกเซอร์ตัวสั้นสีน้ำเงินเข้มออกมาเล็กน้อย
.
.
.
เซ้กซี่ชิ*หายเลยเว้ย=.,=
“เอ่อ... ดูจุนนา เฮลโลลลลล”
“ค..ครับ?”
“หลอดไฟ”
“อ่อ”ผมยื่นหลอดไฟให้โยซอบก่อนจะรีบบอกลาเจ้าตัวและเผ่นกลับห้องทันที
“โอ๊ย... ฮอตชิบหาย”ผมยืนพิงประตูพลางหอบแฮ่กๆ มือข้างขวาก็จับหน้าอกซ้ายที่ก้อนเนื้อข้างในเต้นแรงจนจะหลุดออกมาอยู่แล้ว
“ก๊อกๆ”เสียงเคาะประตูดังขึ้นมาพร้อมกับความรู้สึกสั่นเมื่อประตูถูกเคาะที่ปะทะเข้าที่หลังผมอย่างจังซะจนตกใจ ผมแง้มประตูออกไปเล็กน้อย(ขี้เกียจมองแคทอาย) แต่ก็ไม่เจอใคร เห็นก็แต่แผ่นอะไรบางอย่างสีชมพูสะท้อนแสงปิดอยู่ห่างจากระยะสายตาไปนิดนึง
“เอาวะ” ผมถอนหายใจนิดนึงแล้วเอื้มแขนออกไมทางร่องประตูที่แง้มไว้เท่าที่แง้มได้เพราะคล่องโซ่อยู่ ตะปปประตูอยู่ซักพักก็คว้าโพสท์อิทสีแสบตาแผ่นนั้นมาได้
ยินดีที่ได้รู้จักนะดูจุนนา
มีอะไรก็มาเคาะเรียกได้นะฉันทำงานที่บ้าน
อ้อ ส่วนนี่เบอร์โทรฉัน มีอะไรก็โทรมาปรึกษาได้นะ
XXX-XXXXXXX
เพื่อนบ้านที่จะเป็นเพื่อนสนิทอีกไม่นาน
ยัง โยซอบ;D
“....”ผมได้แต่ยืนอ่านกระดาษสีแสบตาแผ่นนั้นซ้ำไปซ้ำมาหลายรอบ ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม
.
.
.
.
แต่มันก็ทำให้ผมอมยิ้มอยู่คนเดียวไปได้ทั้งวันเลยล่ะ
ความคิดเห็น