ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Kagero II FanFic -Girl in blood- ( Yuri)

    ลำดับตอนที่ #2 : Past2 HIDE

    • อัปเดตล่าสุด 8 มี.ค. 50


    ฉันเฝ้ารอการกลับมาของเรเชีย    เกลือบ2ชั่วโมงแล้วที่นางตามเอด้าออกไปนอกปราสาทลับแห่งนี้      ไม่รู้สินะ  แต่ฉันเป็นกังวลมาก    ฉันกลัว ถ้าเรเชียไม่กลับมา  ถ้านางไม่กลับมา.......

     

    เสียงฝีเท้าของผู้มาเยือนที่ไม่ได้รับเชิญก้าวเข้ามาภายในปราสาท  คงจะเป็นทหารของคาตาริน่าอีกตามเคย   แต่เสียงฝีเท้าคู่นั่นไม่อาจดึงความสนใจให้ฉันหันไปมอง   ถ้าร่างนั้นเดินตรงเข้ามาหมายจะจับตัวฉันละก็คงจะมีดวงวิญญาณสังเวยให้ราชันย์มืดเพิ่มขึ้น

     

    ท่านอลิเซีย!!”

    เสียงของ  ลอร์ดเจส!!!  เพื่อความแน่ใจฉันรีบหันไปมอง   ชายที่อยู่ตรงหน้าคือลอร์ดเจส  ขุนนางหนุ่มผู้มีฝีมือดาบอันเป็นเลิศ บ่อยครั้งที่ฉันได้รับดารปกป้องจากชายหนุ่มผู้นี้    

     

    ท่านอลิเซีย  กลับไปที่ปราสาทเถอะครับ  ท่านหัวหน้าองค์รักษ์กำลังเข้าไปเจรจากับท่านอุปราช

    เมื่อลอร์ดเจสเอ่ยถึง อุปราชโฮซอนไนผู้มีความเที่ยงธรรมสูง  ดูเหมือนฉันพอจะมีทางได้กลับไปที่ปราสาทอยู่บ้าง 

    แต่เรเชียยังไม่มาเลย  ฉันไม่อยากกลับไปโดยปราศจากเรเชีย

     

    ข้ากับท่านหัวหน้าองค์รักษ์จะหาวิธีทางช่วยท่านให้ได้

    คำพูดอันหนักแน่นของลอร์ดเจสทำให้ฉันรู้สึกดีขึ้นจากสภาพที่เลวร้าย  แต่เรื่องราชันย์มืดกับร่างทรงก็ยังไม่กระจ่างแจ้ง   หากยังคอยแต่หลบซ่อนอยู่แต่ภายในปราสาทลับแห่งนี้ไม่มีความปลอดภัยเลย  เรเชียก็จะมีอันตรายไปด้วย   บางทีการที่ฉันกลับไปเพื่อขอคำปรึกษาจากอุปราชโฮซอนไนอาจจะเป็นสิ่งที่ควรทำ

     

    กลับไปที่ปราสาทเถอะครับ  เจ้าหญิง

    ลอร์ดเจสย่อตัวลงเล็กน้อยเป็นท่าแสดงความเคารพที่กระทำทุกครั้งต่อฉันในฐานะเจ้าหญิงผู้สูงศักดิ์

     

    เจ้าหญิง!!! อย่าเข้าใกล้ลอร์ดเจสนะคะ  ท่านผู้นั่นมาเพื่อจับตัวเจ้าหญิงไปให้ท่านคาตาริน่า!!”

    เสียงของเรเชียร้องห้ามฉันเอาไว้   นางมีอาการหอบจนร่างกายสั่นเล็กน้อย   แววตาสีทับทิมของนางส่อประกายไม่ไว้วางใจลอร์ดเจสอย่างรุนแรง  น่าแปลกทั้งเรเชียเชื่อถือและวางใจลอร์ดเจสด้วยความหนักแน่นมาตลอด 

    แต่เวลานี้  นางไม่เหลือความรู้สึกนั้นอีกแล้ว

     

    ไม่ต้องเป็นกังวลไปหรอก  ข้าจะรีบกลับมาให้ไวที่สุด   เรเชียเจ้ารออยู่ที่นี่เถอะนะ

     

    ...........

    เรเชียไม่พูดอะไรออกมาได้แต่พยักหน้ารับคำสั่งของฉัน   นางมีสีหน้าเศร้าทันที   ถ้าเป็นไปได้ฉันก็ไม่อยากอยู่ห่างจากนางเลย    แต่จะให้นางมีอันตรายเพราะฉันคงไม่ดีแน่  

     

                        มาคิดดูแล้วระยะทางที่ฉันเดินเท้ามาพร้อมกับลอร์ดเจส ระยะทางจากปราสาทลับไปถึงปราสาทไม่ได้ไกลเท่าที่คิด  เพียงเดินลัดเลาะผ่านชายป่าที่มีต้นไม้ขึ้นเบาบางก็เห็นกำแพงอิฐสีแดงอ่อนของพระราชวังแล้ว

     เวรยามรักษาความปลอดภัยของทหารที่ควรจะทำหน้าที่อยู่ตรงประตูทางเข้าพระราชวังหายไป   ไม่เพียงแต่เวรยามทหารที่หน้าทางเข้าปราสาท   ภายในเต็มไปด้วยความเงียบงันราวกับเป็นปราสาทร้าง  ไม่มีทหาร  ไม่มีขุนนาง   หรือสิ่งที่เรเชียบอกจะเป็นความจริงชายผู้นี้คิดจะจับตัวฉันไปส่งให้คาตาริน่า 

     

    ท่านอลิเซีย  รออยู่ตรงนี้ก่อนนะครับ ข้าจะเข้าไปตามท่านหัวหน้างองค์รักษกับท่านอุปราช

    ฉันถูกทิ้งไว้ตามลำพัง  ทุกอย่างภายในปราสาทดูผิดปกติเกินไปตอนนี้ฉันเริ่มไม่มั่นใจในตัวลอร์ดเจสแล้ว  

    ก่อนที่ลอร์ดเจสจะกลับมาพร้อมกำลังทหารฉันต้องรีบหนีออกจากปราสาทแห่งนี้ 

     

                  ภายในปราสาทเงียบจนอดคิดไม่ได้ว่า  ผู้คนได้หายสาปสูญไปจนหมดสิ้น    มันเงียบเสียจนทำให้ฉันรู้สึกกลัว

    อะ!!”

    แขนขวารู้สึกเจ็บขึ้นมาอีกแล้ว   เจ้าสิ่งแปลกประหลาดปรากฏขึ้นมาพันธนาการแขนขวาของฉันอีกครั้ง  ฉันแน่ใจในบริเวณแห่งนี้จะต้องมีใครบางคนอยู่ใกล้ๆ  นี่เป็นความต้องการจากราชันย์มืดเพื่อให้ฉันฆ่าคนผู้นั้นสังเวยดวงวิญญาณ   

     

    ท่านอลิเซีย

    จอมเวทย์หญิงประจำราชสำนักที่ทำหน้าที่รับใช้ท่านพ่อปรากฏกายให้ฉันเห็น   นอกจากท่านอาจารย์บารันแล้วฉันแทบจะไม่เคยได้พบเห็นเหล่าจอมเวทย์ในราชสำนักเลย

     

    เจ้าเป็นใคร

     

    ขออภัย ข้ามีนามว่า มิสเทอร์ ข้านำสารจากท่านบารันมาแจ้งท่าน

    นางก้มตัวลงทำความเคารพ   ฉันพยายามใช้มือซ้ายจับแขนขวาเอาไว้ไม่ให้ยกขึ้นมาจนถูกมิสเทอร์จ้องสิ่งที่พันธนาการแขนขวาของฉัน

     

    ท่านอลิเซีย  ตอนนี้ท่านกลายเป็นร่างทรงของราชันย์มืดไปเสียแล้ว

    นางบอกเมื่อเห็นสิ่งที่พันแขนขวาของฉัน

     

    ทำไมถึงต้องเป็นข้า!!!”

    ไม่เข้าใจเลย  ทำไมราชันย์มืดถึงเลือกตัวฉันให้เป็นร่างทรง

     

    ท่านบารันกับข้าและจอมเวทย์ในราชสำนักได้ลงอาคมผนึกประตูทางเข้าปราสาทลับในป่าเอาไว้เพื่อป้องกันมิให้ผู้ใดได้เข้าไป

     

    อาคมผนึก  หรือจะเป็น.......

    ความรู้ที่ร้อนราวกับถูกไฟแผดเผาเมื่อสัมผัสประตูไม้บานนั้น  คือพลังของเขตอาคมผนึกสินะ

     

    การที่ท่านทำลายอาคมผนึกและใช้พลังของราชันย์มืดฆ่าผู้คนด้วยพลังสร้างกับดักมรณะ  เป็นเครื่องหมายยืนยันว่า  ท่านอลิเซียคือร่างทรงของ ราชันย์มืดอย่างแน่นอน

     

    ข้าควรจะทำอย่างไรดี

    นี่ฉันจะต้องใช้มือขวาฆ่าคนเพื่อสังเวยดวงวิญญาณแก่ราชันย์มืดต่อไปอีกนานแค่ไหนกัน

     

    ตอนนี้ท่านบารันเดินทางไปยังปราสาทลับแล้ว ข้ากับจอมเวทย์ที่เหลือจะช่วยท่านบารันสะกดวิญญาณราชันย์มืดลงอีกครั้ง  ข้าอยากให้ท่านอลิเซียกลับไปร่วมพิธีในห้องแห่งการผนึกด้วย

     

     

    ถ้าทำพิธีแล้ว ข้าจะได้เป็นอิสระจากการเป็นร่างทรงใช่ไหม

    สิ่งนี้อาจจะเป็นความหวังสุดท้ายของฉัน 

     

    ข้าไม่อาจรับรองผลได้ แต่ก็พยายามทำจนสุดความสามารถ

    คำตอบของนางทำให้ฉันรู้สึกเจ็บปวดเหลือเกิน   ตอนนี้ความเจ็บปวดของแขนขวาเริ่มเบาลงแต่สิ่งที่พันรัดรั้งก็ยังไม่หายไป  อีกไม่นานฉันคงจะต้องใช้มือข้างนี้ฆ่าผู้คนสังเวยในฐานะร่างทรง   ถ้าพบเรเชียในสภาพแบบนี้ฉันอาจจะฆ่าเรเชียเพื่อสังเวยด้วยหรือเปล่านะ      ไม่มีทางซะหรอก!!    ต่อให้ต้องฆ่าคนสังเวยราชันย์มืดจนหมดปราสาทฉันก็ไม่มีทางฆ่าเรเชีย   เพราะนางคือแสงสว่างสุดท้ายที่ฉันหลงเหลืออยู่ภายใต้ความมืดมน

     

     

                ฉันพยายามเดินลากขาที่หนักหน่วงใช้มือซ้ายทาบกำแพงเพิ่มแรงพยุงกายเอาไว้  ตั้งแต่เริ่มใช้พลังของราชันย์มืดฆ่าสังเวยผู้คน  ฉันรู้สึกเหนื่อยล้าราวกับใช้ร่างกายทำงานหนัก  เสียงสนทนาของคนคู่หนึ่งที่อยู่เบื้องหน้าทำให้ฉันหยุดเดินและก้มตัวลงนั่งหลบไม่ให้บุคคลทั้งสองเห็น

     

    เอาละข้าจะจ่ายให้เจ้าตามสัญญา  แล้วเจ้าก็ออกไปจากอาณาจักรแห่งนี้ซะ  เอด้า

    เสียงที่มีอำนาจของขุนนางผู้หนึ่งเอ่ยขึ้น  เสียงของเค้าช่างคุ้นเคยเสียจนฉันต้องแอบมองผ่านหลังกำแพง 

    ชายผู้นั้นคือ ลอร์ดฟีเนแกน เป็นองค์รักษ์ของคาตาริน่า  ยิ่งไปกว่านั้นหญิงสาวที่ยืนสนทนาอยู่กับเค้าคือเอด้า 

     

    ถ้าพี่จะหยุดตอนนี้ยังทัน  พลังของราชันย์มืดน่ากลัวกว่าตำนานที่เล่าลือมากนัก

    นางเอ่ยเตือนด้วยความหวังดี เพราะ ตอนที่พบกับเอด้าครั้งแรกนางได้เห็นฉันที่ใช้พลังของราชันย์มืดกำลังฆ่าคน

     

    เงินที่ข้าไปไม่พอหรือไง  รีบออกไปซะก่อนที่มีใครมาพบเข้า

     

    พี่ชายข้าจะไม่ไปจากทีนี่จนกว่าพี่จะยอมหนีออกจากอาณาไปพร้อมกับข้า

    จากบทสนทนาที่ฉันได้ยิน เอด้ากับลอร์ดฟีเนแกนต้องมีความสัมพันธ์แบบพี่น้องอย่างแน่นอน  เหมือนคนทั้งคู่กำลังปกปิดความลับบางอย่างเอาไว้  เพราะในปราสาทไม่เคยมีใครร่วงรู้เรื่องความเป็นพี่น้องของทั้งสอง

     

    หึ...ข้าไม่ไปไหนจนกว่าจะได้พลังราชันย์มืดมาจากเจ้าหญิงอลิเซีย

    อะไรกัน! มีคนตามล่าฉันเพิ่มขึ้นอีก1คนแล้ว  แถมยังเป็นลอร์ดฟีเนแกนเป็นผู้มีฝีมือเชิงดาบที่แข็งแกร่งรองจากท่านขุนพล เฮอร์แซ็กผู้ซึ่งเป็นองค์รักษ์ประจำตัวท่านพ่อ 

     

    งั้นข้าจะเปิดโปงถึงแผนการที่ท่านให้ข้าลอบปลงพระชนพระราชาโอราฟต่อเจ้าหญิงอลิเซีย

    ........!!!!!!    ฉันได้ยินไม่ผิดใช่ไหม   มีดที่ปักกลางหลังของท่านพ่อเป็นฝีมือของนาง  เอด้าได้รับการว่าจ้าง

    จากลอร์ดฟีเนแกนผู้เป็นพี่ชายให้ลอบปลงพระชนท่านพ่อ  !!!!

     

    ก็แล้วแต่เจ้า

    ท่าทางลอร์ดฟีเนแกนจะไม่เป็นร้อนใจ  ถึงไม่ต้องรอให้เอด้ามาบอก ฉันก็รู้เรื่องทั้งหมดแล้ว   เรื่องนี้คาตาริน่าจะต้องมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยแน่ๆ

     

    จึก....................

     

    เสียงดาบอันแหลมคมที่เสียบทะลุเนื้อหนังของมนุษย์ทำให้ฉันต้องเงยหน้าขึ้นมอง  ภาพเบื้องหน้าคือลอร์ดฟีเนแกนใช้ดาบซาเบียร์ซึ่งเป็นอาวุธประจำกายแทงกับเข้ากับแผ่นหลังของเอด้า    ร่างกายที่สั่นเท่าของนางล้มลงทันใดหลังจากปลายดาบซาเบียร์โดนดึงออก   ฉันอดทนรอให้ลอร์ดฟีเนแกนเดินออกจากห้องโถงแล้วจึงรีบตรงเข้าไปหาร่างของเอด้าที่นอนหายใจรวยรินอยู่บนพื้น

     

    จ..เจ้าหญิงอลิเซีย......

    โชคดีที่นางยังมีสติหลงเหลือพอจะพูดคุยกับฉันได้

     

    ท่านคงจะได้ยินเรื่องที่ข้าคุยกับพี่ชายหมดแล้วสินะ

    ฉันพยักหน้าเบาๆ   นี่เป็นเพิ่งเรื่องแรกที่ฉันได้รับรู้ยังมีเรื่องราชันย์มืดและร่างทรงที่ฉันยังไม่ได้รับความกระจ่าง

     

    เจ้าหญิง ท่านช่างน่าสงสารเหลือเกิน......

    นั่นเป็นประโยคสุดท้ายที่ฉันได้ยินจากริมฝีปากของนาง  เอด้าสิ้นใจลงอย่างกะทันหัน   

     

    อา  เจ้าหญิงอลิเซีย.

    เสียงของลอร์ดฟีเนแกนที่ดังขึ้น   ทำให้ฉันต้องผละออกจากร่างอันไร้วิญญาณของเอด้า

     

     

    ลอร์ดฟีเนแกน!!!”

    ฉันพยายามลุกขึ้นปลายเท้าก้าวถอยหนีเป็นอัตโนมัติ  ใบหน้าอันแสนคมเข้มของลอร์ดฟีเนแกนมีสีหน้าเคร่งเครียดจนฉันรู้สึกกลัว   ปลายดาบซาเบียร์ที่ยังมีคราบเลือดติดอยู่ถูกชี้มาหาฉัน 

     

     

    ข้าต้องการพลังราชันย์มืดจากท่าน  ฉะนั้นตายเสียเถอะเจ้าหญิง

    อา  แบบนี้ไม่ดีแน่!!!  เจ้าสิ่งที่พันรั้งแขนขวาของฉันเริ่มออกแรงบีบรัดคล้ายกับบังคับให้ฉันยกมือขวาขึ้น  

    ฉันรู้ถึงฝีมือในการใช้ดาบอันเยี่ยมยอดของลอร์ดฟีเนแกนเป็นอย่างดี  การเคลื่อนไหวของเค้ารวดเร็วเกินกว่าที่ฉันจะใช้พลังสร้างกับดักมรณะ     ฉันพยายามวิ่งหนีให้พ้นจากคมดาบที่เฉียบบาง  แต่ท่วงท่าการเคลื่อนไหวของลอร์ดฟีเนแกนรวดเร็วยิ่งนักจนบางครั้งปลายดาบซาเบียร์เฉียดฉวัดร่างกายของฉันไป

     

     

                        ยิ่งวิ่งก็ยิ่งรู้สึกเหนื่อย  ฉันวิ่งเหมือนคนไร้ทิศทาง จากห้องโถงท้องพระโรงขนาดใหญ่ สู่ห้องรับรองอาคันตุกะต่างเมือง  ซึ่งมีประตูทะลุไปสู่ห้องแสดงภาพมันคือทางตัน  ที่ทำให้ฉันถูกลอร์ดฟีเนแกนไล่มาจนมุม

     

     

    เอาล่ะเจ้าหญิง...ถึงเวลาเอ่ยลากันแล้ว

    ร่างที่ดูน่ากลัวของลอร์ดฟีเนแกนค่อยๆเดินเข้ามาใกล้  ดาบซาเบียร์ในมือของเค้าถูกกระชับให้แน่นขึ้น  มันพร้อมที่จะสับร่างของฉันออกเป็นเสี่ยงๆ   ฉันถอยหลังหนีจนแผ่นหลังสัมผัสกับผนังอิฐอันเย็นยะเยือก   แขนขวารู้สึกเจ็บปวดจนต้องยกขึ้น

     

    .............จึก             ......................จึก                 ................................จึก

     

     

    ลูกธนู3ดอกพุ่งมาจากทางด้านหลังตรงเข้าปักลอร์ดฟีเนแกนอย่างแม่นยำ   ทำให้เค้าชะงัดลดดาบซาเบียร์ในมือลง

    ยังไม่ทันที่ลอร์ดฟีเนแกนจะดึงลูกธนูที่ปักร่างกายออก  บริเวณพื้นที่เค้ายืนอยู่เกิดประกายไปพวยพุ่งแผดเผาร่างของลอร์ดฟีเนแกน  ร่างกายที่ติดไฟล้มตัวลงบนพื้นพยายามถูไถกับพรมที่ปูทับพื้นไม้ไปมา   แต่ทุกอย่างสายไปแล้ว   ฉันมองเห็นใบมีดของกิโตยินขนาดใหญ่ที่หล่นลงมาจากเพดานฟันร่างของลอร์ดฟีเนแกนออกเป็น2ส่วน แยกระหว่างศีรษะจนถึงช่วงท้องให้กระเด็นไปไกล จากร่างกายท่อนล่างตั้งแต่เอวจรดปลายเท้า   สีแดงของเลือดสาดเทกระจายเป็นวงกว้าง

     

    .............ฮ่า...........ฮ่า.............ฮ่า.....  ฆ่าเข้าไป ฆ่าเข้าไป

     

     ฉ...ฉัน  ฆ่าลอร์ดฟีเนแกนไปแล้ว แต่สิ่งที่ฉันทำกลับสร้างความพึงพอใจให้กับราชันย์มืดในฐานะร่างทรง 

    ฉันกำลังทำอะไรลงไปกันแน่   จะต้องเป็นร่างทรงฆ่าคนสังเวยราชันย์มืดอีกนานแค่ไหนกัน  ยิ่งได้สัมผัสกลิ่นคาว ได้ยินเสียงหวยหวนยามใกล้ตายของเหล่าผู้คนที่ถูกฆ่า   มันยิ่งทำให้จิตใจของฉันสั่นคลอนทีละน้อย 

     

    จนนึกกลัวว่า         ซักวัน ฉันอาจจะพึงพอใจกับการได้ฆ่าคนเพื่อสังเวยให้ราชันย์มืด!!!!!

     

    ...................................................................................................................................................

    ..................................................................................................................................................

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×