ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Kagero II FanFic -Girl in blood- ( Yuri)

    ลำดับตอนที่ #5 : ตอนพิเศษ Love or Betray (เรเชีย Side)

    • อัปเดตล่าสุด 11 มี.ค. 50


      ตั้งแต่จำความได้ฉันมีเพียงแม่เท่านั้น   ส่วนพ่อแม่มักจะบอกเสมอว่าท่านจากไปอยู่ที่ไกลแสนไกล

    แต่ฉันก็อยากเฝ้าค้นหาความจริงเสมอมา     ฉันชื่อเรเชีย   ปีนี้ครบรอบอายุ18พอดี  ชีวิตของฉันกับแม่แสนเรียบง่ายพวกเราแม่ลูกมีร้านขายดอกไม้เล็กๆในตลาด  ทุกเช้าฉันจะมีหน้าไปเปิดร้านรับจัดดอกไม้หรือนำดอกไม้ไปส่งตามที่ต่างๆในเมือง   ถึงจะเป็นลูกสาวร้านดอกไม้แต่ฉันไม่มีเพื่อนเยอะมากมายหรอกนะ   เพราะสีผมสีเทาที่ดูแปลกประหลาดของฉันกับนัยน์ตาสีแดงที่ผู้คนหวาดกลัวทำให้ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ฉันเลย    สีผมนี้ฉันได้รับเป็นมรดกตกทอดมาจากแม่   แต่ฉันก็ภูมิใจกับสีผมที่มี   

    ทั้งที่ฉันน่าจะได้มีชีวิตเป็นหญิงสาวขายดอกไม้ตลอดไป แล้วความจริงบางอย่างที่ฉันไม่เคยจะรับรู้ก็ถูกเปิดเผยออกมาจากแม่ซึ่งล้มป่วยลงกะทันหัน

    "เรเชีย "

    เสียงของแม่ดูอ่อนแรงลงไปมาก  ท่านหมอที่มารักษาบอกให้ฉันเตรียมใจเอาไว้  ฉันรู้ว่าวันนี้จะต้องมาถึงเข้าซักวัน

    "เรเชียอยู่นี่จ๊ะ"

    มือของแม่เย็นลงทีนิดจนฉันรู้สึกใจหาย

    "รับสิ่งนี้แล้วไปเข้าเฝ้าพระราชาโอราฟ  ท่านผู้นั่นคือพ่อของลูก"

    แม่ยื่นแหวนเงินวงหนึ่งใส่มือของฉัน   ฉันเคยเห็นแม่สวมมันเอาไว้ตลอดเวลา  ถึงจะดูเก่าคร่ำคร่าแต่ก็เป็นแหวนอันล้ำค่าและมีตราของราชวงศ์ประดับเอาไว้

    "แหวนวงนี้คือสิ่งที่พระราชามอบเอาไว้ก่อนที่จะเนรเทศพวกเราออกมา"

    เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสำหรับฉันแล้วยังคงจำอะไรไม่ได้  ตอนฉันเป็นเด็กฉันจะถูกฝากเอาไว้กับป้าเสียเป็นส่วนใหญ่ ส่วนแม่ต้องเข้าออกระหว่างปราสาทของราชวงศ์และบ้าน   จนในที่สุดแม่ก็ออกมาอยู่ที่บ้านกับฉันเพียงลำพัง

    "แม่ต้องการให้เรเชียทำอะไรหรือจ๊ะ"

    "....ทำลายราชวงศ์...ทำลายพระราชาโอราฟ"

    น้ำเสียงของแม่ชิงชังเครียดแค้นเมื่อเอ่ยถึงพระราชาผู้ยิ่งใหญ่แห่งอาณาจักร

    "เจ้าฟังแม่ให้ดี  พระราชาคิดจะคืนชีพราชันย์มืด เจ้าจงไปทำลายความหวังของพระองค์  หากได้ครอบครองพลังของราชันย์มืดจงทำลายอาณาจักรให้พินาถสิ้น"

    สิ้นสุดคำพูดแม่ก็หัวเราะด้วยเสียงที่น่ากลัวและสิ้นใจไปในที่สุด ทิ้งฉันเอาไว้ทั้งไม่เข้าใจอะไรเลย  

    ...........ร้านดอกไม้ในตลาดจำเป็นต้องปิดไป  ฉันได้รวบรวมเงินตราที่มีอยู่มุ่งหน้าเข้าไปสู่อาณาจักร เดินทางไปยังปราสาท   เพื่อเข้าเฝ้าพระราชาโอราฟ  

    การเข้าไปภายในไม่ยากอย่างที่คิดไว้ทุกอย่างง่ายดายเมื่อฉันแสดงแหวนเงินให้ทหารเห็น    นายทหารเดินนำพาให้ฉันมาคอยอยู่กลางสวนในปราสาท  และที่นี้เองที่ทำให้ฉันได้พบกับเจ้าหญิงอลิเซีย......ครั้งแรก

    เด็กหญิงตัวเล็กๆคอยวิ่งตามขุนพลหนุ่มที่ทำการฝึกซ้อมเพลงดาบ   ชายหนุ่มผู้นั้นมีสีหน้าหนักใจเล็กน้อยดูท่าทางเค้าจะไม่ค่อยได้ฝึกปรือฝีมือเพราะต้องคอยดูแลไม่ให้เจ้าหญิงจับต้องอาวุธ  ภาพที่เห็นทำให้ฉันอดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้   ท่าทางฉันจะหัวเราะดังเกินไปเจ้าหญิงน้อยเลยวิ่งตรงมาหาฉัน  จะว่าไปแล้วเจ้าหญิงก็น่าจะมีอายุราวๆ13ปีเห็นจะได้  แต่อากัปกริยาช่างเหมือนเด็กที่ซุกซนยิ่งนัก    ชายเสื้อของฉันโดนมือเล็กดึงรั้งจนฉันต้องก้มลงสบเข้ากับแววตาสีฟ้าอ่อน

    "ข้าชอบสีผมของเจ้าจัง...."

    รอยยิ้มที่น่ารักไร้เดียงสาถูกส่งผ่านใบหน้าอันน่ารักราวกับตุ๊กตาฉันยิ้มและก้มตัวลงนั่ง    เจ้าหญิงน่ารักและงดงามสมคำเล่าลือในหมู่ปวงชนเสียจริง   

    "อา ไม่ได้นะครับเจ้าหญิง"

    ขุนพลหนุ่มเดินมาดึงเจ้าหญิงออกห่างจากฉัน  เค้าโค้งเล็กน้อย

    "ขอโทษนะครับ  ท่านคงจะเป็นอาคันตุกะของพระราชา"

    ฉันพยักหน้าเบาๆ  จะว่าไปก็คงจะใช่ ก็ฉันมารอพบพระองค์อยู่   ไม่นานนายทหารที่หายไปก็กลับมาและเดินนำฉันเข้าไปในปราสาท   ทหารพาฉันไปยังห้องรับรอง ปล่อยให้ฉันอยู่เพียงลำพัง   

    …..ฉันนั่งรอพระราชาอยู่นานจนในที่สุดท่านก็มาพบ

    "หึ..หึ....ช่างเหมือนแม่ของเจ้าไม่ผิดเลย ทั้งสีผม  สีตา"

    พระราชาผู้นี้คือพระราชาโอราฟที่ปกครองอาณาจักร   และเป็นบิดาของฉันด้วยสินะ....  ฉันวางแหวนเงินเอาไว้ให้พระองค์ได้ทอดพระเนตร

    "ข้าจำได้  ข้ามอบมันให้กับนางไปเองแล้วนางเป็นอย่างไรบ้าง"

    "แม่ตายแล้ว"

    เมื่อได้ฟังคำตอบของฉันพระองค์ก็นิ่งไป ยกมือขึ้นให้ผู้ติดตามออกไปด้านนอกและปิดประตู  ราวกับสิ่งที่จะสนทนากับฉันเป็นความลับ

    "ถ้าเช่นนั้นข้าจะให้สิ่งที่เจ้าต้องการ  เจ้าต้องการอะไร"

    เมื่อได้ข้อเสนอที่พระราชามอบให้ ฉันก็นึกถึงสิ่งที่แม่ได้ขอร้องเอาไว้  คำขอร้องครั้งสุดท้าย 

    จงทำลายอาณาจักร  จงทำลายพระราชาโอราฟ

    "ขอให้เรเชียได้ทำหน้าที่เป็นสาวใช้ประจำตัวเจ้าหญิงด้วยเถอะค่ะ"

    ฉันย่อตัวลงถวายความเคารพต่อพระราชา   ใช่แล้วการที่ฉันจะสืบเรื่องราชันย์มืดได้นั้นจำเป็นจะต้องอยู่ภายในปราสาทแห่งนี้  หากได้เป็นสาวใช้ประจำตัวเจ้าหญิงก็จะกระทำการได้โดยง่าย    พระราชาไม่ขัดข้องอะไร

    มันง่าย  ง่ายมากจนฉันเผยรอยยิ้มออกมา

    .........เมื่อจบการเข้าเฝ้ามีสาวใช้ในปราสาทผู้หนึ่งเดินนำฉันไปยังด้านในเพื่อแนะนำงานและนำชุดสาวใช้สีดำสนิทมาให้ฉันเปลี่ยนใส่จากนั้นนางก็นำไปพบกัน เจ้าหญิงอลิเซียที่สวนภายในปราสาท 

    "มาร์ทาธนางเป็นใครกัน"

    เสียงใสของเจ้าหญิงเอ่ยถามสาวใช้ผู้นั้นด้วยความปิติ 

    "นางคือเรเชีย  จะคอยรับใช้พระองค์ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปค่ะ"

    สาวใช้ผายมือมาทางฉันไม่นานนางก็เดินแยกจากไป  ทิ้งให้ฉันได้อยู่เพียงลำพังกับเจ้าหญิงน้อย

    "มานี่เถอะ...มานี่เถอะ"

    มือน้อยๆดึงรั้งให้ฉันเดินตามไป  เจ้าหญิงพาฉันไปยังลานกว้างซึ่งเหล่าขุนพลมากมายกำลังฝึกปรือเพลงดาบด้วยความขันแข็ง

    "ลอร์ดเจส   ลอร์ดเจส  เจ้าดูสินางเป็นสาวใช้ของข้าล่ะ"

    พระองค์ดึงมือฉันให้ขุนพลหนุ่มผู้หนึ่งได้เห็น  เฮ้อ...ช่างเหมือนเด็กยามดีใจเมื่อได้ของเล่นถูกใจก็ไม่ปาน

    แล้วเจ้าหญิงก็พาฉันไปวิ่งเล่นรอบปราสาทจนฉันแทบจะเดินตามไม่ไหว   เหมือนกับพระองค์อยู่ผู้เดียวมาเนิ่นนานพอมีสาวใช้ประจำกายทำให้พระองค์ได้เล่นสนุกกับฉัน   หากจะนึกย้อนไปถึงเรื่องที่พระราชาเป็นพ่อของฉัน 

    เจ้าหญิงอลิเซียก็คงจะเปรียบเสมือนน้องสาวของฉันไปด้วย  ทว่าส่วนลึกของจิตใจฉันรู้ชิงชังพระองค์   หากไม่มีเจ้าหญิงอลิเซีย  บางทีผู้ยืนอยู่ในตำแหน่งเจ้าหญิงของราชวงศ์คงจะเป็นฉัน..........

    ปราสาทแห่งนี้กว้างใหญ่มาก  จนฉันอดกังวลไม่ได้ว่าควรจะเริ่มสืบเรื่องของราชันย์มืดอย่างไรดี     

    เจ้าหญิงอลิเซียเองอยู่ใกล้ฉันตลอดเวลาจนยากที่ฉันจะหาทางปลีกตัวไปสืบเรื่องราว   ฉันไม่เคยเห็นพระราชาและราชินีทรงใส่พระทัยกับเจ้าหญิงเลยซักนิด   จากที่ได้มีโอกาสพูดคุยกับท่านเจสและท่านหัวหน้าองค์รักษ์  เจ้าหญิงมักจะอยู่เพียงลำพังเสมอพระองค์ทรงเอาแต่ใจไม่มีสาวใช้ผู้ไหนจะอยู่ปรนนิบัตรพระองค์ได้ถูกใจ   น่าแปลกที่เจ้าหญิงทรงถูกพระทัยในตัวฉัน    นับเป็นเรื่องดีทำให้ฉันเริ่มวางแผนการณ์ได้ง่ายขึ้น   

    .....นางสนมคาตาริน่านางเป็นพระสนมของพระราชาและมีความขัดแย้งต่อราชินีเอรีน   ต่อไปภายหน้านางจะต้องก่อการอันใหญ่หลวงเป็นแน่    ส่วนพระราชาโอราฟนั้นเหมือนมีความลับบางอย่างปกปิดเหล่าขุนนางเอาไว้   เรื่องนี้ทำให้ฉันต้องการที่สืบให้ได้ บางทีอาจจะเป็นเรื่องของราชันย์มืด   ฉันใช้เวลายามราตรีเมื่อเจ้าหญิงบรรทมก็ลอบออกไปจากปราสาทพยายามไล่ติดตามเหล่าจอมเวทย์ในพระราชสำนักออกไปแต่ก็พลัดหลงเส้นทางจนไม่พบอะไรและต้องจำยอมกลับปราสาทมาก่อนฟ้าสาง    

    ...ยิ่งย่างก้าวเข้าสู่ฤดูฝน  ทำให้การลอบออกนอกปราสาทยามวิกาลกระทำได้ยากยิ่ง    หลายคืนที่ฉันพลาดโอกาสเมื่อสายฝนได้เทกระหน่ำลงมา  และอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้ฉันต้องอยู่กับเจ้าหญิงอลิเซีย……

    "เรเชีย  ข้านอนไม่หลับ.."

    เจ้าหญิงไม่ยอมบรรทมหนำซ้ำยังมาปลุกฉันที่ห้องเล็กให้ตื่นไปด้วย  

    พระองค์โผเข้ากอดฉันเมื่อเสียงได้ยินเสียงฟ้าร้องนอกหน้าต่าง

     "ข้ากลัวเสียงฟ้าร้อง"

    วินาทีนั้นฉันรู้สึกอยากจะโอบกอดเจ้าหญิง....อยากจะปลอบไม่ให้พระองค์หวาดกลัวไปมากกว่านี้   เหมือนภายในจิตใจเกิดความคิดที่ขัดแย้งกัน    สุดท้ายก็ต้องยอมไปที่ห้องของพระองค์อย่างเลี่ยงไม่ได้

    "เรเชีย...เจ้าต้องอยู่ข้างๆข้านะ"

    ฉันยิ้มออกมา    เจ้าหญิงมักจะพูดเช่นนี้เสมอก่อนบรรทม พระองค์ให้ฉันจับมือเอาไว้ราวกับกลัวว่าฉันจะทอดทิ้งพระองค์ไป

    "เรเชียจะอยู่ข้างๆเจ้าหญิงค่ะ"

    "เรเชีย  ข้าอยากให้เจ้าสัญญากับข้าว่าอยู่เคียงข้างตลอดไป จะอยู่ที่นี้ด้วยกันตลอดไป"

    พอได้ยินประโยคฉันก็....ไม่รู้จะให้คำตอบเจ้าหญิงยังไงเลย   มันเป็นไปไม่ได้ที่ฉันจะอยู่เคียงท่านได้ตลอด

    หากเมื่อใดที่ฉันค้นพบเรื่องราวของราชันย์มืดแล้วละก็  เมื่อนั้นฉันจะเริ่มต้นทำลายสิ่งสำคัญของพระองค์

    "ทำไมเจ้าถึงไม่ตอบข้า...."

    สีหน้าของเจ้าหญิงเริ่มแสดงความเอาแต่ใจออกมา  ทำให้ฉันรู้สึกผิดในสิ่งที่ต้องปิดบังพระองค์เอาไว้

    แล้วฉันก็ตัดสินใจพูดออกมา

    "เรเชียสัญญาว่าจะอยู่เคียงข้างท่านตลอดไป ท่านอลิเซีย"

    เจ้าหญิงยิ้มแล้วพระองค์ก็เข้าบรรทมโดยให้ฉันจับมือเอาไว้เหมือนเช่นทุกครั้ง

    …….  ฉันยอมรับนะว่าเกลียดเจ้าหญิง  แต่ฉันก็รักเจ้าหญิงด้วย  มันยากที่จะเข้าใจเหลือเกิน ทำไมฉันถึงรู้สึกเช่นนี้

    ทุกอย่างดำเนินผ่านไปจนเข้าสู่วันแห่งความโหดที่ฉันถูกตราบาปประทับ    มันคือเช้าวันหนึ่งในฤดูหนาวที่พระราชาเสด็จออกไปพร้อมราชินีโดยมีนางสนมคาตาริน่าติดตามไปด้วยพร้อมกับเหล่าจอมเวทย์ในพระราชสำนัก    

    ...ฉันแอบสะกดรอยตามไปจนพบปราสาทลับของราชวังศ์ในป่า  แอบลอบเข้าไปจนถึงห้องแห่งหนึ่งซึ่งพระราชาให้เหล่าจอมเวทย์สร้างอาคมรายล้อมก้อนศิลาขนาดใหญ่

    …….ท่านต้องการสิ่งใด.....พระราชาโอราฟ.......

    เสียงที่ดังก้องไปทั่วจะต้องออกมาจากศิลาก้อนนั้นเป็นแน่  มันช่างเป็นเสียงที่ชวนขุนลุกเสียจริง

    "ข้าต้องการพลังของเจ้าราชันย์มืด    พลังอันยิ่งใหญ่"

    ราชันย์มืด...ก้อนศิลาอันใหญ่โตที่ถูกโซ่ตรวนตรึงแน่นหนาคือราชันย์มืดงั้นหรอ!!!!

    …..ท่านโอราฟท่านลืมไปแล้วหรือ  เมื่อ10ปีก่อนข้าสูญเสียพลังไปแล้ว......

    "จะต้องทำเช่นไรเจ้าถึงจะมอบพลังให้ข้า"

    .....ข้าต้องการร่างทรง.....เพื่อสังเวยวิญญาณมนุษย์ให้กับข้า......

    "หากเช่นนั้นข้าจะจัดหามาให้เจ้าในเร็ววัน"

    .....จะต้องเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของท่านเท่านั้นท่านโอราฟ.........

    "ฮ่า....ฮ่า......ฮ่า......ข้าจะยกเจ้าหญิงอลิเซียกับเรเชียให้เป็นร่างสังเวยแก่เจ้า....."

    …………แล้วสิ่งที่ข้าจะได้รับตอบแทนล่ะ ท่านโอราฟ...........

    "เจ้าจะได้อิสระเพื่อแลกเปลี่ยนกับพลังของเจ้า"

    ตุบ.............

    ฉันล้มลงไปเมื่อรู้สึกอ่อนแรงลงที่ขาทั้งสอง    มันหมายถึงตัวฉันกับเจ้าหญิงอลิเซีย   

    "มีคนลอบฟัง ทหารไปจับตัวมันมาอย่าให้หนีไปได้"

    อา  พลาดเสียแล้ว......ฉันพยายามวิ่งหนีออกมาจนกระทั้งถึงชายป่า ทั้งที่เห็นกำแพงปราสาทอยู่ไม่ไกล  แต่ฉันก็โดนนายทหารติดเกราะ2นายมาดักเอาไว้

    "เจ้าคือสาวใช้ประจำกายของเจ้าหญิงนี่นา....."

    "เจ้าคงจะรู้ดีใช่ไหมการลอบฟังสิ่งสำคัญยอมมีโทษถึงตาย  ฉะนั้นยอมกลับไปกับพวกข้าแต่โดยดี"

    ไม่นะ.....!!!  ฉันยังไม่ได้ทำสิ่งที่แม่ขอร้องเอาไว้ก่อนตายเลย  

    ..........เริ่มการสังเวยวิญญาณให้ข้าเสีย .................

    "อ๊ากกกกกกกก.........................."

    นายทหารติดเกราะล้มลงเพราะถูกบางสิ่งดึงรั้งที่ปลายเท้าไว้  ส่งผลให้นายทหารอีกผู้หนึ่งมีสีหน้าหวาดกลัว

    "ป..ปีศาจ...!!!"

    อา มือขวาของฉันยกขึ้นตั้งแต่เมื่อไรกัน  ตอนนี้ปลายนิ้วกำลังชี้ไปชายผู้นั้นอยู่

    เอาเลยฆ่ามัน...ฆ่ามัน.......

    เสียงแหบแห้งอันน่าขนลุกกำลังดังก้องในหัว.....ฉันสะบัดหน้าไปมา  นี่มันจะต้องเป็นเรื่องโกหก โกหกแน่ๆ

    "นางปีศาจ ตายซะ.....!!!"

    ปลายดาบที่แหลมคมกำลังพุ่งตรงมา     มันรวดเร็วเกินกว่าที่ฉันจะหลบพ้น!!!

    อา...........!!!

    จึก.........จึก.........จึก.............

    ร่างที่สวมทับไปด้วยเกราะเหล็กล้มลงต่อหน้าฉัน  เลือดสีแดงไหลทะลักออกมา บนร่างของทหารยามมีลูกธนู3อันปักติดอยู่   ไม่นานทั้งกับดักหมีที่โผล่ขึ้นมาจากพื้นดิน  และลูกธนูค่อยๆสลายหายไปอย่างรวดเร็ว

    ฉันเป็นทำ.....เป็นคนสิ่งที่น่ากลัวเช่นนี้......

    "ม่ายยย!!!!!!!!!!"

    …………………………………………………………………………………………………………………

                     ...ฉันไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำว่าวิ่งกลับมาถึงปราสาทเมื่อไร   พอลืมตาตื่นขึ้นมาก็พบตัวเองนอนอยู่ในสวนของปราสาทเสียแล้วโดยมีเจ้าหญิงอลิเซียดึงรั้งชายเสื้อให้ฉันได้สติ

    "เรเชียเจ้าเป็นอะไรไป...!?!"

    "..เรเชีย..ไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ"

    ฉันรีบลุกขึ้นพยายามทำสีหน้าให้เป็นปกติที่สุด....หากสิ่งที่ได้พบเมื่อครู่คือความจริง  เจ้าหญิงอลิเซียเองจะต้องมีพลังปีศาจแบบที่ฉันมีเป็นแน่    ยิ่งมีข่าวการสิ้นพระชนกะทันหันของราชินีเอรีนเกิดขึ้นทำให้ฉันมั่นใจว่า

    พระนางถูกใช้เป็นเหยื่อสังเวยให้แก่ราชันย์มืดไปแล้ว  ไม่นานนางสนมคาตาริน่าก็ขึ้นเป็นราชินี

    ทุกอย่างคงจะเป็นตามที่ นางวางแผนเอาไว้     แล้วฉันก็เริ่มวางแผนการณ์ซึ่งมันจะต้องเสียเวลาอยู่บ้าง    ถ้าแผนที่วางไว้สำเร็จฉันก็จะทำตามสิ่งที่แม่ขอไว้ก่อนตายได้......     เจ้าหญิงอลิเซียช่างน่าสงสารยิ่งนักทำให้ฉันกลายเป็นที่พึ่งพิงทางใจของพระองค์   ทุกอย่างกำลังเป็นไปตามแผน

    ................ทว่า  4ปีต่อมา   ในวันที่ฉันติดตามเสด็จเจ้าหญิงและพระราชาโอราฟไปยังสุสานราชวงศ์  ได้เกิดเรื่องไม่คาดฝัน เมื่อพระราชาถูกลอบปลงพระชนต่อหน้าฉัน  มันคือแผนการณ์ของราชินีคาตาริน่าแถมพระนางยังเรียกให้ทหารมาเตรียมจับเจ้าหญิงไป  

    ฉันไม่ยอมให้เป็นเช่นนั้นเด็ดขาด   ถึงจะข้ามขั้นตอนที่ฉันวางแผนเอาไว้ก็ตาม    ฉันตัดสินใจพาเจ้าหญิงไปที่ปราสาทลับของราชวงศ์  เพื่อเริ่มต้นความพินาถของราชวงศ์

    เพื่อส่งเจ้าหญิงให้เข้าไปภายในปราสาทลับฉันจำยอมต้องเสี่ยงอันตรายด้วยการเบนความสนใจของพวกทหารให้ออกห่างเจ้าหญิง   และมันก็ง่ายดายยิ่งนัก เพราะฉันฆ่าทหารพวกนั้นด้วยพลังของราชันย์มืด     ฉันรีบวิ่งกลับไปที่ปราสาทลับระหว่างได้พบกับเอด้าซึ่งนางมาตรวจสอบเรื่องราชันย์มืดโดยบังเอิญนางได้บอกเล่าถึงความชั่วร้ายกับแผนการของราชินีคาตาริน่าออกมาก     ทำให้ฉันเริ่มแผนการขั้นต่อไป ด้วยการกลับไปที่ปราสาทและเริ่มสังหารเหล่าขุนนางที่เจ้าหญิงไว้ใจจนหมดสิ้น........

    ทุกอย่างดำเนินจนมาถึงจุดสิ้นสุด ที่ฉันกำลังจะชนะ......เหลือเพียงเจ้าหญิงอลิเซียเท่านั้น

    "ท่านอลิเซียปลอดภัยดีนะคะ"

    ฉันเห็นเจ้าหญิงที่ผู้น่าสงสารล้มลงอยู่บนพื้น....ทำให้ฉันต้องเข้าไปประคองให้พระองค์ลุกขึ้นมา

    ……….อีกแค่หนึ่งเดียวข้าก็จะเป็นอิสระแล้ว.......   

    เสียงของราชันย์มืดดังขึ้นอีกครั้ง ซึ่งฉันรู้เป็นอย่างดีว่าเหลือดวงวิญญาณที่ต้องสังเวยอีกเพียงหนึ่งเดียว

    "ท่านได้ยินแล้วใช่ไหม  อีกแค่หนึ่งเดียวราชันน์มืดก็จะคืนชีพ"

    ฉันรู้เจ้าหญิงจะต้องได้ยินเสียงนี้เช่นกัน

    "เรเชียรักท่านมากนะ  ท่านอลิเซีย....."

    .เอาล่ะฉันจะบอกความรู้สึกที่มีต่อเจ้าหญิงเป็นครั้งสุดท้ายแล้วกัน

    "ฉะนั้นตายเพื่อเรเชียเสียเถอะ  ท่านอลิเซีย"

    แต่ฉันก็ไม่ลืมความรู้สึกเกลียดชิง  ฉะนั้นจะต้องฆ่าเจ้าหญิง  

    จึก......................

    ทั้งที่เล็งเอาไว้อย่างดีแต่ฉันแทงพลาดไปจนได้  ไม่รู้ทำไมมือของฉันเริ่มสั่นขึ้นมา   แต่คราวนี้จะไม่พลาดแน่

    ก่อนที่ฉันจะตวัดใบมีดอีกครั้งเจ้าสิ่งอันแสนน่ากลัวก็ปรากกฎพันธนาการแขนขวาของเจ้าหญิงเอาไว้ 

    มันคือเครื่องหมายแห่งพลังของราชันย์มืด..............

    ความกดดันอันมหาศาลนี้ทำให้ฉันต้องรีบผละออก และเริ่มคิดแผนใหม่ขึ้นมา  ฉันไล่ต้อนเจ้าหญิงด้วยกับดักนานาชนิด  สร้างความหวาดกลัวให้พระองค์จนในที่สุดฉันก็ไล่ต้อนเจ้าหญิงให้จนมุม

    "เรเชีย...เจ้าต้องถูกใครบงการอยู่ใช่ไหม เรเชีย!!!"

    ท่านช่างใสซื่อเสียจริง  ยังคงปักใจว่าฉันเป็นผู้บริสุทธิ์

    "เจ้าหญิง  ท่านยังไม่เข้าใจสินะ...."

    "ทุกอย่างเป็นแผนที่เรเชียวางเอาไว้แล้ว   เรเชียตั้งใจพาท่านมาที่นี่"

    "ไม่จริงใช่ไหม.....!!"

    "ที่เรเชียอยู่ข้างกายท่าน  ก็เพราะไม่อยากให้ใครชิงลงมือจัดการท่านไปก่อน   ท่านจะต้องตายด้วยมือของเรเชีย"

    ใช่มันคือความจริงที่ฉันเข้ามาที่นี้  และถึงเวลาแล้วที่จะทำสิ่งนี้สำเร็จ

    แกร๊ก!!!!!

    "..อ....อึก....."

    ฉันใช้กับดักหมีเพื่อสกัดไม่ให้เจ้าหญิงได้เคลื่อนไหว

     "หากไม่ยอมตอบโต้  ท่านจะโดนสังเวยแก่ราชันย์มืดนะเจ้าหญิง"

    ดูท่าทางเจ้าหญิงไม่คิดจะตอบโต้ฉันเลยแม้แต่น้อย  ก็ดีแผนการของฉันจะได้สำเร็วโดยเร็ว 

     "เจ้าหญิง  เรเชียจะบอกความจริงให้ท่านรู้.....ก่อนตาย"

    แต่ก่อนจะถึงเวลานั้นฉันจำเป็นต้องบอกความจริงอันโหดร้ายออกไป

    "ร่างทรงไม่ได้มีแค่ท่านเพียงผู้เดียวหรอกนะ....เมื่อ4ปีก่อนหลังจากท่านเอรีนสิ้นพระชน ท่านโอราฟกับท่าน

    คาตาริน่าได้ร่วมกระทำพันธะสัญญายก ท่านและเรเชียให้เป็นร่างทรงของราชันย์มืด"

    " เรเชียสังเวยคนในปราสาทเพื่อราชันย์มืด"

     "โหดร้ายที่สุด"

    "ก็ไม่ต่างกับสิ่งที่ท่านทำนักหรอก...."

    "เจ้ารีบทำให้มันจบลงไปเถอะ "

    "เจ้าหญิงสิ่งที่ทำให้ท่านอยากจะมีชีวิตอยู่ หายไปไหนเสียแล้วล่ะ"

    ไม่น่าเชื่อเลยจริงๆเจ้าหญิงจะยอมแสดงออกถึงจิตใจที่อ่อนแอและพ่ายแพ้เช่นนี้  ทั้งที่ตลอดเวลาพระองค์พยายามทำให้จิตใจให้เข้มแข็งมาตลอด

     "การที่มีเจ้าอยู่เคียงข้างตลอดเวลาเป็นสิ่งที่ทำให้ข้า อยากจะมีชีวิตอยู่"

    ทำไมกันเล่า…………..!!!!!     ทำไมท่านถึงคิดเช่นนั้นก็เรเชียน่ะเป็นคนชั่ว....เรเชียกำลังจะฆ่าท่านอยู่แล้วนะ

    ท่านอลิเซีย

    "มันสายไปแล้ว  ไม่มีทางที่จะกลับไปเป็นเหมือนเมื่อก่อน  ตายซะเถอะท่านอลิเซีย"

    กึก............!!!!

    บ้าที่สุด  ทำไมฉันถึงทำพลาดทั้งที่กำชับมีดสั้นเอาไว้ในมืออย่างแน่นหนาแล้ว   ทำไมถึงได้พลาด!!!

    "ทำไม...กัน....."

    ฉันก็ไม่รู้คำตอบนั้นเช่นกัน   ถึงจะชิงชังมากแค่ไหน  แต่ฉันก็รักเจ้าหญิง.....

    ..........ฆ่านางซะ........... ฆ่านาง!!!!

    "ไม่!!!"

    จึก............   

    "ในที่สุดก็เป็นแบบนี้.....บ้าสิ้นดี...เลย"

    ในที่สุดแผนการทั้งหมดก็พังทลายลงไม่เป็นท่า  ฉันทำตามสิ่งที่แม่ขอร้องเอาไว้ไม่ได้!!  ลูกธนูที่เสียบอยู่มันช่างสร้างความเจ็บปวดยิ่งนัก  

    "เรเชีย!!"

    "ท่านอลิเซีย....รีบๆทำให้มันจบเถอะ...."

    ฉันพยายามยื่นมีดสั้นให้เจ้าหญิง    คืออาวุธเพียงเดียวที่จะปลิดชีพฉันลงได้  เจ้าหญิงท่านจะรู้สึกเช่นไรตอนที่ได้ลงมือฆ่าฉันกันนะ     แต่ถ้าจะต้องตายฉันก็อยากจะบอกความจริงเกี่ยวกับตัวเองให้เจ้าหญิงได้รับฟัง  เป็นครั้งสุดท้าย

    "แม่ของเรเชียเคยเป็นที่รักของพ่อ  ท่านพ่อของท่าน พระราชาโอราฟ"

    "แม่ของเรเชียเป็นสนมของพระราชา  ทั้งที่พระราชารักพวกเรามาก  แต่พอท่านเกิดมา  เรเชียกับแม่ก็โดนเนรเทศออกไปจากปราสาท  พระราชาให้ความสำคัญกับท่านและท่านเอรีนมาก"

    "ไม่นานแม่ก็ล้มป่วยลง  ก่อนท่านจะจากไป ท่านได้บอกเรื่องราชันย์มืดกับเรเชีย  สิ่งที่ท่านต้องการคือให้เรเชียทำลายราชวงศ์นี้ลง  ทำลายพระราชาโอราฟ"

    " หึ....ช่างบังเอิญยิ่งนักพระราชาใช้เรเชียกับท่านเป็นร่างสังเวยให้ราชันย์มืด  ทำให้แผนการที่วางไว้สำเร็จด้วยดี"

     "แต่แล้วทุกอย่างก็ไม่มีทางเป็นจริง..."

    "ท่านอลิเซีย....เรเชียเกลียดที่ท่านเกิดมา  เกลียดที่ท่านแยกทุกสิ่งไป.."

    "แต่..ว่า....เรเชียก็รักท่าน   เรเชียรักท่านมากนะท่านอลิเซีย    ตั้งแต่ที่ได้พบท่านครั้งแรกเรเชียก็เฝ้าดูท่านมาตลอด  ช่วงเวลานั้นช่างมีความสุขเหลือเกินได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับท่าน"

    หึ....เจ้าหญิงกำลังร้องไห้   การหลั่งน้ำตาของเจ้าหญิงทำเพื่อฉันหรอกหรือ.....ช่างน่าดีใจเหลือเกิน

    "เวลานี้ทุกอย่างจบสิ้นแล้วไม่มีใครหยุดยั้งการคืนชีพของราชันย์มืดได้"

    มันกำลังจะจบสิ้นลงแล้ว....ทุกสิ่งทุกอย่างของฉัน

     "ไปลงนรกพร้อมกันเถอะ ท่านอลิเซีย"

    หากไม่ได้จบชีวิตชีวิตของท่านด้วยมือของฉันเอง  ก็พร้อมจะยินดีถูกท่านปลิดชีพแทน    นั่นคือความปรารถนาครั้งสุดท้าย   

    ท่านอลิเซีย.......  

    เรเชียรักท่าน.......มากนะ.....

    จึก............................................................!!!!!!!!!!!!!!!!!!

    .....................................................................................................................................................................
    ....................................................................................................................................................................

    THE  END..................

    แล้วตอนพิเศษที่เป็นมุมมองของเรเชียก็จนลง   กว่าจะรู้ตัว  แฟนฟิกสั้นๆเรื่องนั้นก็มีจำนวนถึง43หน้า  เป็นครั้งแรกเลยที่เขียนเรื่องสั้นได้เยอะขนาดนี้  ซึ่งใช้เวลาส้นๆเพียง3วัน(เรื่องอื่นใช้เวลาเยอะมาก555)

    ตอนนี้ติดเกมส์คาเกโร่ไปเรียบร้อยแล้ว   พยายามเล่นเพื่อสะสมฉากจบให้ครบ และตารางตัวละครที่ได้ฆ่าไป
    หึ..หึ...  เกมสืนี้รุนแรงไปไหม  ก็อาจจะ  แต่ทว่าถ้าได้เล่นในโหมดสตอรี่แล้วจะรู้สึกเศร้า  รันทดไปกับตัวเอกอย่างเจ้าหญิงอลิเซีย      แล้วที่สำคัญโครงเรื่องของเกมส์นี้โดดเด่นมาก  ทั้งเรื่องภาพ  ระบบ  และสตอรี่
    ทุกอย่างทำออกมาได้ดีทีเดียว   เพราะเป็นทีมเดียวกับทีมสร้างเฟทั่ลเฟรมภาค1  2  3   ซึ่งหากใครได้เคยเล่นเฟทั่ลเฟรมแล้วจะรู้ว่า กราฟฟิกและ โครงเรื่องมีความคล้ายคลึง(ยูริ รันทด  ตัวเอกเศร้าโศก55555)

    ปล.  หลังเรื่องนี้จบก็เริ่มแต่งรักหรือแค้นให้จบแล้วก้อรีไรท์LEDต่อ  ทว่าทุกอย่างจะเริ่มเมื่อรายงานญี่ปุ่นเสร็จแล้วละนะ555555  - -


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×