คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ตอนพิเศษ Love or Betray (เรเชีย Side)
ตั้งแต่จำความได้ฉันมีเพียงแม่เท่านั้น ส่วนพ่อแม่มักจะบอกเสมอว่าท่านจากไปอยู่ที่ไกลแสนไกล
แต่ฉันก็อยากเฝ้าค้นหาความจริงเสมอมา ฉันชื่อเรเชีย ปีนี้ครบรอบอายุ18พอดี ชีวิตของฉันกับแม่แสนเรียบง่ายพวกเราแม่ลูกมีร้านขายดอกไม้เล็กๆในตลาด ทุกเช้าฉันจะมีหน้าไปเปิดร้านรับจัดดอกไม้หรือนำดอกไม้ไปส่งตามที่ต่างๆในเมือง ถึงจะเป็นลูกสาวร้านดอกไม้แต่ฉันไม่มีเพื่อนเยอะมากมายหรอกนะ เพราะสีผมสีเทาที่ดูแปลกประหลาดของฉันกับนัยน์ตาสีแดงที่ผู้คนหวาดกลัวทำให้ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ฉันเลย สีผมนี้ฉันได้รับเป็นมรดกตกทอดมาจากแม่ แต่ฉันก็ภูมิใจกับสีผมที่มี
ทั้งที่ฉันน่าจะได้มีชีวิตเป็นหญิงสาวขายดอกไม้ตลอดไป แล้วความจริงบางอย่างที่ฉันไม่เคยจะรับรู้ก็ถูกเปิดเผยออกมาจากแม่ซึ่งล้มป่วยลงกะทันหัน
"เรเชีย "
เสียงของแม่ดูอ่อนแรงลงไปมาก ท่านหมอที่มารักษาบอกให้ฉันเตรียมใจเอาไว้ ฉันรู้ว่าวันนี้จะต้องมาถึงเข้าซักวัน
"เรเชียอยู่นี่จ๊ะ"
มือของแม่เย็นลงทีนิดจนฉันรู้สึกใจหาย
"รับสิ่งนี้แล้วไปเข้าเฝ้าพระราชาโอราฟ ท่านผู้นั่นคือพ่อของลูก"
แม่ยื่นแหวนเงินวงหนึ่งใส่มือของฉัน ฉันเคยเห็นแม่สวมมันเอาไว้ตลอดเวลา ถึงจะดูเก่าคร่ำคร่าแต่ก็เป็นแหวนอันล้ำค่าและมีตราของราชวงศ์ประดับเอาไว้
"แหวนวงนี้คือสิ่งที่พระราชามอบเอาไว้ก่อนที่จะเนรเทศพวกเราออกมา"
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสำหรับฉันแล้วยังคงจำอะไรไม่ได้ ตอนฉันเป็นเด็กฉันจะถูกฝากเอาไว้กับป้าเสียเป็นส่วนใหญ่ ส่วนแม่ต้องเข้าออกระหว่างปราสาทของราชวงศ์และบ้าน จนในที่สุดแม่ก็ออกมาอยู่ที่บ้านกับฉันเพียงลำพัง
"แม่ต้องการให้เรเชียทำอะไรหรือจ๊ะ"
"....ทำลายราชวงศ์...ทำลายพระราชาโอราฟ"
น้ำเสียงของแม่ชิงชังเครียดแค้นเมื่อเอ่ยถึงพระราชาผู้ยิ่งใหญ่แห่งอาณาจักร
"เจ้าฟังแม่ให้ดี พระราชาคิดจะคืนชีพราชันย์มืด เจ้าจงไปทำลายความหวังของพระองค์ หากได้ครอบครองพลังของราชันย์มืดจงทำลายอาณาจักรให้พินาถสิ้น"
สิ้นสุดคำพูดแม่ก็หัวเราะด้วยเสียงที่น่ากลัวและสิ้นใจไปในที่สุด ทิ้งฉันเอาไว้ทั้งไม่เข้าใจอะไรเลย
...........ร้านดอกไม้ในตลาดจำเป็นต้องปิดไป ฉันได้รวบรวมเงินตราที่มีอยู่มุ่งหน้าเข้าไปสู่อาณาจักร เดินทางไปยังปราสาท เพื่อเข้าเฝ้าพระราชาโอราฟ
การเข้าไปภายในไม่ยากอย่างที่คิดไว้ทุกอย่างง่ายดายเมื่อฉันแสดงแหวนเงินให้ทหารเห็น นายทหารเดินนำพาให้ฉันมาคอยอยู่กลางสวนในปราสาท และที่นี้เองที่ทำให้ฉันได้พบกับเจ้าหญิงอลิเซีย......ครั้งแรก
เด็กหญิงตัวเล็กๆคอยวิ่งตามขุนพลหนุ่มที่ทำการฝึกซ้อมเพลงดาบ ชายหนุ่มผู้นั้นมีสีหน้าหนักใจเล็กน้อยดูท่าทางเค้าจะไม่ค่อยได้ฝึกปรือฝีมือเพราะต้องคอยดูแลไม่ให้เจ้าหญิงจับต้องอาวุธ ภาพที่เห็นทำให้ฉันอดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้ ท่าทางฉันจะหัวเราะดังเกินไปเจ้าหญิงน้อยเลยวิ่งตรงมาหาฉัน จะว่าไปแล้วเจ้าหญิงก็น่าจะมีอายุราวๆ13ปีเห็นจะได้ แต่อากัปกริยาช่างเหมือนเด็กที่ซุกซนยิ่งนัก ชายเสื้อของฉันโดนมือเล็กดึงรั้งจนฉันต้องก้มลงสบเข้ากับแววตาสีฟ้าอ่อน
"ข้าชอบสีผมของเจ้าจัง...."
รอยยิ้มที่น่ารักไร้เดียงสาถูกส่งผ่านใบหน้าอันน่ารักราวกับตุ๊กตาฉันยิ้มและก้มตัวลงนั่ง เจ้าหญิงน่ารักและงดงามสมคำเล่าลือในหมู่ปวงชนเสียจริง
"อา ไม่ได้นะครับเจ้าหญิง"
ขุนพลหนุ่มเดินมาดึงเจ้าหญิงออกห่างจากฉัน เค้าโค้งเล็กน้อย
"ขอโทษนะครับ ท่านคงจะเป็นอาคันตุกะของพระราชา"
ฉันพยักหน้าเบาๆ จะว่าไปก็คงจะใช่ ก็ฉันมารอพบพระองค์อยู่ ไม่นานนายทหารที่หายไปก็กลับมาและเดินนำฉันเข้าไปในปราสาท ทหารพาฉันไปยังห้องรับรอง ปล่อยให้ฉันอยู่เพียงลำพัง
..ฉันนั่งรอพระราชาอยู่นานจนในที่สุดท่านก็มาพบ
"หึ..หึ....ช่างเหมือนแม่ของเจ้าไม่ผิดเลย ทั้งสีผม สีตา"
พระราชาผู้นี้คือพระราชาโอราฟที่ปกครองอาณาจักร และเป็นบิดาของฉันด้วยสินะ.... ฉันวางแหวนเงินเอาไว้ให้พระองค์ได้ทอดพระเนตร
"ข้าจำได้ ข้ามอบมันให้กับนางไปเองแล้วนางเป็นอย่างไรบ้าง"
"แม่ตายแล้ว"
เมื่อได้ฟังคำตอบของฉันพระองค์ก็นิ่งไป ยกมือขึ้นให้ผู้ติดตามออกไปด้านนอกและปิดประตู ราวกับสิ่งที่จะสนทนากับฉันเป็นความลับ
"ถ้าเช่นนั้นข้าจะให้สิ่งที่เจ้าต้องการ เจ้าต้องการอะไร"
เมื่อได้ข้อเสนอที่พระราชามอบให้ ฉันก็นึกถึงสิ่งที่แม่ได้ขอร้องเอาไว้ คำขอร้องครั้งสุดท้าย
จงทำลายอาณาจักร จงทำลายพระราชาโอราฟ
"ขอให้เรเชียได้ทำหน้าที่เป็นสาวใช้ประจำตัวเจ้าหญิงด้วยเถอะค่ะ"
ฉันย่อตัวลงถวายความเคารพต่อพระราชา ใช่แล้วการที่ฉันจะสืบเรื่องราชันย์มืดได้นั้นจำเป็นจะต้องอยู่ภายในปราสาทแห่งนี้ หากได้เป็นสาวใช้ประจำตัวเจ้าหญิงก็จะกระทำการได้โดยง่าย พระราชาไม่ขัดข้องอะไร
มันง่าย ง่ายมากจนฉันเผยรอยยิ้มออกมา
.........เมื่อจบการเข้าเฝ้ามีสาวใช้ในปราสาทผู้หนึ่งเดินนำฉันไปยังด้านในเพื่อแนะนำงานและนำชุดสาวใช้สีดำสนิทมาให้ฉันเปลี่ยนใส่จากนั้นนางก็นำไปพบกัน เจ้าหญิงอลิเซียที่สวนภายในปราสาท
"มาร์ทาธนางเป็นใครกัน"
เสียงใสของเจ้าหญิงเอ่ยถามสาวใช้ผู้นั้นด้วยความปิติ
"นางคือเรเชีย จะคอยรับใช้พระองค์ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปค่ะ"
สาวใช้ผายมือมาทางฉันไม่นานนางก็เดินแยกจากไป ทิ้งให้ฉันได้อยู่เพียงลำพังกับเจ้าหญิงน้อย
"มานี่เถอะ...มานี่เถอะ"
มือน้อยๆดึงรั้งให้ฉันเดินตามไป เจ้าหญิงพาฉันไปยังลานกว้างซึ่งเหล่าขุนพลมากมายกำลังฝึกปรือเพลงดาบด้วยความขันแข็ง
"ลอร์ดเจส ลอร์ดเจส เจ้าดูสินางเป็นสาวใช้ของข้าล่ะ"
พระองค์ดึงมือฉันให้ขุนพลหนุ่มผู้หนึ่งได้เห็น เฮ้อ...ช่างเหมือนเด็กยามดีใจเมื่อได้ของเล่นถูกใจก็ไม่ปาน
แล้วเจ้าหญิงก็พาฉันไปวิ่งเล่นรอบปราสาทจนฉันแทบจะเดินตามไม่ไหว เหมือนกับพระองค์อยู่ผู้เดียวมาเนิ่นนานพอมีสาวใช้ประจำกายทำให้พระองค์ได้เล่นสนุกกับฉัน หากจะนึกย้อนไปถึงเรื่องที่พระราชาเป็นพ่อของฉัน
เจ้าหญิงอลิเซียก็คงจะเปรียบเสมือนน้องสาวของฉันไปด้วย ทว่าส่วนลึกของจิตใจฉันรู้ชิงชังพระองค์ หากไม่มีเจ้าหญิงอลิเซีย บางทีผู้ยืนอยู่ในตำแหน่งเจ้าหญิงของราชวงศ์คงจะเป็นฉัน..........
ปราสาทแห่งนี้กว้างใหญ่มาก จนฉันอดกังวลไม่ได้ว่าควรจะเริ่มสืบเรื่องของราชันย์มืดอย่างไรดี
เจ้าหญิงอลิเซียเองอยู่ใกล้ฉันตลอดเวลาจนยากที่ฉันจะหาทางปลีกตัวไปสืบเรื่องราว ฉันไม่เคยเห็นพระราชาและราชินีทรงใส่พระทัยกับเจ้าหญิงเลยซักนิด จากที่ได้มีโอกาสพูดคุยกับท่านเจสและท่านหัวหน้าองค์รักษ์ เจ้าหญิงมักจะอยู่เพียงลำพังเสมอพระองค์ทรงเอาแต่ใจไม่มีสาวใช้ผู้ไหนจะอยู่ปรนนิบัตรพระองค์ได้ถูกใจ น่าแปลกที่เจ้าหญิงทรงถูกพระทัยในตัวฉัน นับเป็นเรื่องดีทำให้ฉันเริ่มวางแผนการณ์ได้ง่ายขึ้น
.....นางสนมคาตาริน่านางเป็นพระสนมของพระราชาและมีความขัดแย้งต่อราชินีเอรีน ต่อไปภายหน้านางจะต้องก่อการอันใหญ่หลวงเป็นแน่ ส่วนพระราชาโอราฟนั้นเหมือนมีความลับบางอย่างปกปิดเหล่าขุนนางเอาไว้ เรื่องนี้ทำให้ฉันต้องการที่สืบให้ได้ บางทีอาจจะเป็นเรื่องของราชันย์มืด ฉันใช้เวลายามราตรีเมื่อเจ้าหญิงบรรทมก็ลอบออกไปจากปราสาทพยายามไล่ติดตามเหล่าจอมเวทย์ในพระราชสำนักออกไปแต่ก็พลัดหลงเส้นทางจนไม่พบอะไรและต้องจำยอมกลับปราสาทมาก่อนฟ้าสาง
...ยิ่งย่างก้าวเข้าสู่ฤดูฝน ทำให้การลอบออกนอกปราสาทยามวิกาลกระทำได้ยากยิ่ง หลายคืนที่ฉันพลาดโอกาสเมื่อสายฝนได้เทกระหน่ำลงมา และอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้ฉันต้องอยู่กับเจ้าหญิงอลิเซีย
"เรเชีย ข้านอนไม่หลับ.."
เจ้าหญิงไม่ยอมบรรทมหนำซ้ำยังมาปลุกฉันที่ห้องเล็กให้ตื่นไปด้วย
พระองค์โผเข้ากอดฉันเมื่อเสียงได้ยินเสียงฟ้าร้องนอกหน้าต่าง
"ข้ากลัวเสียงฟ้าร้อง"
วินาทีนั้นฉันรู้สึกอยากจะโอบกอดเจ้าหญิง....อยากจะปลอบไม่ให้พระองค์หวาดกลัวไปมากกว่านี้ เหมือนภายในจิตใจเกิดความคิดที่ขัดแย้งกัน สุดท้ายก็ต้องยอมไปที่ห้องของพระองค์อย่างเลี่ยงไม่ได้
"เรเชีย...เจ้าต้องอยู่ข้างๆข้านะ"
ฉันยิ้มออกมา เจ้าหญิงมักจะพูดเช่นนี้เสมอก่อนบรรทม พระองค์ให้ฉันจับมือเอาไว้ราวกับกลัวว่าฉันจะทอดทิ้งพระองค์ไป
"เรเชียจะอยู่ข้างๆเจ้าหญิงค่ะ"
"เรเชีย ข้าอยากให้เจ้าสัญญากับข้าว่าอยู่เคียงข้างตลอดไป จะอยู่ที่นี้ด้วยกันตลอดไป"
พอได้ยินประโยคฉันก็....ไม่รู้จะให้คำตอบเจ้าหญิงยังไงเลย มันเป็นไปไม่ได้ที่ฉันจะอยู่เคียงท่านได้ตลอด
หากเมื่อใดที่ฉันค้นพบเรื่องราวของราชันย์มืดแล้วละก็ เมื่อนั้นฉันจะเริ่มต้นทำลายสิ่งสำคัญของพระองค์
"ทำไมเจ้าถึงไม่ตอบข้า...."
สีหน้าของเจ้าหญิงเริ่มแสดงความเอาแต่ใจออกมา ทำให้ฉันรู้สึกผิดในสิ่งที่ต้องปิดบังพระองค์เอาไว้
แล้วฉันก็ตัดสินใจพูดออกมา
"เรเชียสัญญาว่าจะอยู่เคียงข้างท่านตลอดไป ท่านอลิเซีย"
เจ้าหญิงยิ้มแล้วพระองค์ก็เข้าบรรทมโดยให้ฉันจับมือเอาไว้เหมือนเช่นทุกครั้ง
. ฉันยอมรับนะว่าเกลียดเจ้าหญิง แต่ฉันก็รักเจ้าหญิงด้วย มันยากที่จะเข้าใจเหลือเกิน ทำไมฉันถึงรู้สึกเช่นนี้
ทุกอย่างดำเนินผ่านไปจนเข้าสู่วันแห่งความโหดที่ฉันถูกตราบาปประทับ มันคือเช้าวันหนึ่งในฤดูหนาวที่พระราชาเสด็จออกไปพร้อมราชินีโดยมีนางสนมคาตาริน่าติดตามไปด้วยพร้อมกับเหล่าจอมเวทย์ในพระราชสำนัก
...ฉันแอบสะกดรอยตามไปจนพบปราสาทลับของราชวังศ์ในป่า แอบลอบเข้าไปจนถึงห้องแห่งหนึ่งซึ่งพระราชาให้เหล่าจอมเวทย์สร้างอาคมรายล้อมก้อนศิลาขนาดใหญ่
.ท่านต้องการสิ่งใด.....พระราชาโอราฟ.......
เสียงที่ดังก้องไปทั่วจะต้องออกมาจากศิลาก้อนนั้นเป็นแน่ มันช่างเป็นเสียงที่ชวนขุนลุกเสียจริง
"ข้าต้องการพลังของเจ้าราชันย์มืด พลังอันยิ่งใหญ่"
ราชันย์มืด...ก้อนศิลาอันใหญ่โตที่ถูกโซ่ตรวนตรึงแน่นหนาคือราชันย์มืดงั้นหรอ!!!!
..ท่านโอราฟท่านลืมไปแล้วหรือ เมื่อ10ปีก่อนข้าสูญเสียพลังไปแล้ว......
"จะต้องทำเช่นไรเจ้าถึงจะมอบพลังให้ข้า"
.....ข้าต้องการร่างทรง.....เพื่อสังเวยวิญญาณมนุษย์ให้กับข้า......
"หากเช่นนั้นข้าจะจัดหามาให้เจ้าในเร็ววัน"
.....จะต้องเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของท่านเท่านั้นท่านโอราฟ.........
"ฮ่า....ฮ่า......ฮ่า......ข้าจะยกเจ้าหญิงอลิเซียกับเรเชียให้เป็นร่างสังเวยแก่เจ้า....."
แล้วสิ่งที่ข้าจะได้รับตอบแทนล่ะ ท่านโอราฟ...........
"เจ้าจะได้อิสระเพื่อแลกเปลี่ยนกับพลังของเจ้า"
ตุบ.............
ฉันล้มลงไปเมื่อรู้สึกอ่อนแรงลงที่ขาทั้งสอง มันหมายถึงตัวฉันกับเจ้าหญิงอลิเซีย
"มีคนลอบฟัง ทหารไปจับตัวมันมาอย่าให้หนีไปได้"
อา พลาดเสียแล้ว......ฉันพยายามวิ่งหนีออกมาจนกระทั้งถึงชายป่า ทั้งที่เห็นกำแพงปราสาทอยู่ไม่ไกล แต่ฉันก็โดนนายทหารติดเกราะ2นายมาดักเอาไว้
"เจ้าคือสาวใช้ประจำกายของเจ้าหญิงนี่นา....."
"เจ้าคงจะรู้ดีใช่ไหมการลอบฟังสิ่งสำคัญยอมมีโทษถึงตาย ฉะนั้นยอมกลับไปกับพวกข้าแต่โดยดี"
ไม่นะ.....!!! ฉันยังไม่ได้ทำสิ่งที่แม่ขอร้องเอาไว้ก่อนตายเลย
..........เริ่มการสังเวยวิญญาณให้ข้าเสีย .................
"อ๊ากกกกกกกก.........................."
นายทหารติดเกราะล้มลงเพราะถูกบางสิ่งดึงรั้งที่ปลายเท้าไว้ ส่งผลให้นายทหารอีกผู้หนึ่งมีสีหน้าหวาดกลัว
"ป..ปีศาจ...!!!"
อา มือขวาของฉันยกขึ้นตั้งแต่เมื่อไรกัน ตอนนี้ปลายนิ้วกำลังชี้ไปชายผู้นั้นอยู่
เอาเลยฆ่ามัน...ฆ่ามัน.......
เสียงแหบแห้งอันน่าขนลุกกำลังดังก้องในหัว.....ฉันสะบัดหน้าไปมา นี่มันจะต้องเป็นเรื่องโกหก โกหกแน่ๆ
"นางปีศาจ ตายซะ.....!!!"
ปลายดาบที่แหลมคมกำลังพุ่งตรงมา มันรวดเร็วเกินกว่าที่ฉันจะหลบพ้น!!!
อา...........!!!
จึก.........จึก.........จึก.............
ร่างที่สวมทับไปด้วยเกราะเหล็กล้มลงต่อหน้าฉัน เลือดสีแดงไหลทะลักออกมา บนร่างของทหารยามมีลูกธนู3อันปักติดอยู่ ไม่นานทั้งกับดักหมีที่โผล่ขึ้นมาจากพื้นดิน และลูกธนูค่อยๆสลายหายไปอย่างรวดเร็ว
ฉันเป็นทำ.....เป็นคนสิ่งที่น่ากลัวเช่นนี้......
"ม่ายยย!!!!!!!!!!"
...ฉันไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำว่าวิ่งกลับมาถึงปราสาทเมื่อไร พอลืมตาตื่นขึ้นมาก็พบตัวเองนอนอยู่ในสวนของปราสาทเสียแล้วโดยมีเจ้าหญิงอลิเซียดึงรั้งชายเสื้อให้ฉันได้สติ
"เรเชียเจ้าเป็นอะไรไป...!?!"
"..เรเชีย..ไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ"
ฉันรีบลุกขึ้นพยายามทำสีหน้าให้เป็นปกติที่สุด....หากสิ่งที่ได้พบเมื่อครู่คือความจริง เจ้าหญิงอลิเซียเองจะต้องมีพลังปีศาจแบบที่ฉันมีเป็นแน่ ยิ่งมีข่าวการสิ้นพระชนกะทันหันของราชินีเอรีนเกิดขึ้นทำให้ฉันมั่นใจว่า
พระนางถูกใช้เป็นเหยื่อสังเวยให้แก่ราชันย์มืดไปแล้ว ไม่นานนางสนมคาตาริน่าก็ขึ้นเป็นราชินี
ทุกอย่างคงจะเป็นตามที่ นางวางแผนเอาไว้ แล้วฉันก็เริ่มวางแผนการณ์ซึ่งมันจะต้องเสียเวลาอยู่บ้าง ถ้าแผนที่วางไว้สำเร็จฉันก็จะทำตามสิ่งที่แม่ขอไว้ก่อนตายได้...... เจ้าหญิงอลิเซียช่างน่าสงสารยิ่งนักทำให้ฉันกลายเป็นที่พึ่งพิงทางใจของพระองค์ ทุกอย่างกำลังเป็นไปตามแผน
................ทว่า 4ปีต่อมา ในวันที่ฉันติดตามเสด็จเจ้าหญิงและพระราชาโอราฟไปยังสุสานราชวงศ์ ได้เกิดเรื่องไม่คาดฝัน เมื่อพระราชาถูกลอบปลงพระชนต่อหน้าฉัน มันคือแผนการณ์ของราชินีคาตาริน่าแถมพระนางยังเรียกให้ทหารมาเตรียมจับเจ้าหญิงไป
ฉันไม่ยอมให้เป็นเช่นนั้นเด็ดขาด ถึงจะข้ามขั้นตอนที่ฉันวางแผนเอาไว้ก็ตาม ฉันตัดสินใจพาเจ้าหญิงไปที่ปราสาทลับของราชวงศ์ เพื่อเริ่มต้นความพินาถของราชวงศ์
เพื่อส่งเจ้าหญิงให้เข้าไปภายในปราสาทลับฉันจำยอมต้องเสี่ยงอันตรายด้วยการเบนความสนใจของพวกทหารให้ออกห่างเจ้าหญิง และมันก็ง่ายดายยิ่งนัก เพราะฉันฆ่าทหารพวกนั้นด้วยพลังของราชันย์มืด ฉันรีบวิ่งกลับไปที่ปราสาทลับระหว่างได้พบกับเอด้าซึ่งนางมาตรวจสอบเรื่องราชันย์มืดโดยบังเอิญนางได้บอกเล่าถึงความชั่วร้ายกับแผนการของราชินีคาตาริน่าออกมาก ทำให้ฉันเริ่มแผนการขั้นต่อไป ด้วยการกลับไปที่ปราสาทและเริ่มสังหารเหล่าขุนนางที่เจ้าหญิงไว้ใจจนหมดสิ้น........
ทุกอย่างดำเนินจนมาถึงจุดสิ้นสุด ที่ฉันกำลังจะชนะ......เหลือเพียงเจ้าหญิงอลิเซียเท่านั้น
"ท่านอลิเซียปลอดภัยดีนะคะ"
ฉันเห็นเจ้าหญิงที่ผู้น่าสงสารล้มลงอยู่บนพื้น....ทำให้ฉันต้องเข้าไปประคองให้พระองค์ลุกขึ้นมา
.อีกแค่หนึ่งเดียวข้าก็จะเป็นอิสระแล้ว.......
เสียงของราชันย์มืดดังขึ้นอีกครั้ง ซึ่งฉันรู้เป็นอย่างดีว่าเหลือดวงวิญญาณที่ต้องสังเวยอีกเพียงหนึ่งเดียว
"ท่านได้ยินแล้วใช่ไหม อีกแค่หนึ่งเดียวราชันน์มืดก็จะคืนชีพ"
ฉันรู้เจ้าหญิงจะต้องได้ยินเสียงนี้เช่นกัน
"เรเชียรักท่านมากนะ ท่านอลิเซีย....."
.เอาล่ะฉันจะบอกความรู้สึกที่มีต่อเจ้าหญิงเป็นครั้งสุดท้ายแล้วกัน
"ฉะนั้นตายเพื่อเรเชียเสียเถอะ ท่านอลิเซีย"
แต่ฉันก็ไม่ลืมความรู้สึกเกลียดชิง ฉะนั้นจะต้องฆ่าเจ้าหญิง
จึก......................
ทั้งที่เล็งเอาไว้อย่างดีแต่ฉันแทงพลาดไปจนได้ ไม่รู้ทำไมมือของฉันเริ่มสั่นขึ้นมา แต่คราวนี้จะไม่พลาดแน่
ก่อนที่ฉันจะตวัดใบมีดอีกครั้งเจ้าสิ่งอันแสนน่ากลัวก็ปรากกฎพันธนาการแขนขวาของเจ้าหญิงเอาไว้
มันคือเครื่องหมายแห่งพลังของราชันย์มืด..............
ความกดดันอันมหาศาลนี้ทำให้ฉันต้องรีบผละออก และเริ่มคิดแผนใหม่ขึ้นมา ฉันไล่ต้อนเจ้าหญิงด้วยกับดักนานาชนิด สร้างความหวาดกลัวให้พระองค์จนในที่สุดฉันก็ไล่ต้อนเจ้าหญิงให้จนมุม
"เรเชีย...เจ้าต้องถูกใครบงการอยู่ใช่ไหม เรเชีย!!!"
ท่านช่างใสซื่อเสียจริง ยังคงปักใจว่าฉันเป็นผู้บริสุทธิ์
"เจ้าหญิง ท่านยังไม่เข้าใจสินะ...."
"ทุกอย่างเป็นแผนที่เรเชียวางเอาไว้แล้ว เรเชียตั้งใจพาท่านมาที่นี่"
"ไม่จริงใช่ไหม.....!!"
"ที่เรเชียอยู่ข้างกายท่าน ก็เพราะไม่อยากให้ใครชิงลงมือจัดการท่านไปก่อน ท่านจะต้องตายด้วยมือของเรเชีย"
ใช่มันคือความจริงที่ฉันเข้ามาที่นี้ และถึงเวลาแล้วที่จะทำสิ่งนี้สำเร็จ
แกร๊ก!!!!!
"..อ....อึก....."
ฉันใช้กับดักหมีเพื่อสกัดไม่ให้เจ้าหญิงได้เคลื่อนไหว
"หากไม่ยอมตอบโต้ ท่านจะโดนสังเวยแก่ราชันย์มืดนะเจ้าหญิง"
ดูท่าทางเจ้าหญิงไม่คิดจะตอบโต้ฉันเลยแม้แต่น้อย ก็ดีแผนการของฉันจะได้สำเร็วโดยเร็ว
"เจ้าหญิง เรเชียจะบอกความจริงให้ท่านรู้.....ก่อนตาย"
แต่ก่อนจะถึงเวลานั้นฉันจำเป็นต้องบอกความจริงอันโหดร้ายออกไป
"ร่างทรงไม่ได้มีแค่ท่านเพียงผู้เดียวหรอกนะ....เมื่อ4ปีก่อนหลังจากท่านเอรีนสิ้นพระชน ท่านโอราฟกับท่าน
คาตาริน่าได้ร่วมกระทำพันธะสัญญายก ท่านและเรเชียให้เป็นร่างทรงของราชันย์มืด"
" เรเชียสังเวยคนในปราสาทเพื่อราชันย์มืด"
"โหดร้ายที่สุด"
"ก็ไม่ต่างกับสิ่งที่ท่านทำนักหรอก...."
"เจ้ารีบทำให้มันจบลงไปเถอะ "
"เจ้าหญิงสิ่งที่ทำให้ท่านอยากจะมีชีวิตอยู่ หายไปไหนเสียแล้วล่ะ"
ไม่น่าเชื่อเลยจริงๆเจ้าหญิงจะยอมแสดงออกถึงจิตใจที่อ่อนแอและพ่ายแพ้เช่นนี้ ทั้งที่ตลอดเวลาพระองค์พยายามทำให้จิตใจให้เข้มแข็งมาตลอด
"การที่มีเจ้าอยู่เคียงข้างตลอดเวลาเป็นสิ่งที่ทำให้ข้า อยากจะมีชีวิตอยู่"
ทำไมกันเล่า
..!!!!! ทำไมท่านถึงคิดเช่นนั้นก็เรเชียน่ะเป็นคนชั่ว....เรเชียกำลังจะฆ่าท่านอยู่แล้วนะ
ท่านอลิเซีย
"มันสายไปแล้ว ไม่มีทางที่จะกลับไปเป็นเหมือนเมื่อก่อน ตายซะเถอะท่านอลิเซีย"
กึก............!!!!
บ้าที่สุด ทำไมฉันถึงทำพลาดทั้งที่กำชับมีดสั้นเอาไว้ในมืออย่างแน่นหนาแล้ว ทำไมถึงได้พลาด!!!
"ทำไม...กัน....."
ฉันก็ไม่รู้คำตอบนั้นเช่นกัน ถึงจะชิงชังมากแค่ไหน แต่ฉันก็รักเจ้าหญิง.....
..........ฆ่านางซะ........... ฆ่านาง!!!!
"ไม่!!!"
จึก............
"ในที่สุดก็เป็นแบบนี้.....บ้าสิ้นดี...เลย"
ในที่สุดแผนการทั้งหมดก็พังทลายลงไม่เป็นท่า ฉันทำตามสิ่งที่แม่ขอร้องเอาไว้ไม่ได้!! ลูกธนูที่เสียบอยู่มันช่างสร้างความเจ็บปวดยิ่งนัก
"เรเชีย!!"
"ท่านอลิเซีย....รีบๆทำให้มันจบเถอะ...."
ฉันพยายามยื่นมีดสั้นให้เจ้าหญิง คืออาวุธเพียงเดียวที่จะปลิดชีพฉันลงได้ เจ้าหญิงท่านจะรู้สึกเช่นไรตอนที่ได้ลงมือฆ่าฉันกันนะ แต่ถ้าจะต้องตายฉันก็อยากจะบอกความจริงเกี่ยวกับตัวเองให้เจ้าหญิงได้รับฟัง เป็นครั้งสุดท้าย
"แม่ของเรเชียเคยเป็นที่รักของพ่อ ท่านพ่อของท่าน พระราชาโอราฟ"
"แม่ของเรเชียเป็นสนมของพระราชา ทั้งที่พระราชารักพวกเรามาก แต่พอท่านเกิดมา เรเชียกับแม่ก็โดนเนรเทศออกไปจากปราสาท พระราชาให้ความสำคัญกับท่านและท่านเอรีนมาก"
"ไม่นานแม่ก็ล้มป่วยลง ก่อนท่านจะจากไป ท่านได้บอกเรื่องราชันย์มืดกับเรเชีย สิ่งที่ท่านต้องการคือให้เรเชียทำลายราชวงศ์นี้ลง ทำลายพระราชาโอราฟ"
" หึ....ช่างบังเอิญยิ่งนักพระราชาใช้เรเชียกับท่านเป็นร่างสังเวยให้ราชันย์มืด ทำให้แผนการที่วางไว้สำเร็จด้วยดี"
"แต่แล้วทุกอย่างก็ไม่มีทางเป็นจริง..."
"ท่านอลิเซีย....เรเชียเกลียดที่ท่านเกิดมา เกลียดที่ท่านแยกทุกสิ่งไป.."
"แต่..ว่า....เรเชียก็รักท่าน เรเชียรักท่านมากนะท่านอลิเซีย ตั้งแต่ที่ได้พบท่านครั้งแรกเรเชียก็เฝ้าดูท่านมาตลอด ช่วงเวลานั้นช่างมีความสุขเหลือเกินได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับท่าน"
หึ....เจ้าหญิงกำลังร้องไห้ การหลั่งน้ำตาของเจ้าหญิงทำเพื่อฉันหรอกหรือ.....ช่างน่าดีใจเหลือเกิน
"เวลานี้ทุกอย่างจบสิ้นแล้วไม่มีใครหยุดยั้งการคืนชีพของราชันย์มืดได้"
มันกำลังจะจบสิ้นลงแล้ว....ทุกสิ่งทุกอย่างของฉัน
"ไปลงนรกพร้อมกันเถอะ ท่านอลิเซีย"
หากไม่ได้จบชีวิตชีวิตของท่านด้วยมือของฉันเอง ก็พร้อมจะยินดีถูกท่านปลิดชีพแทน นั่นคือความปรารถนาครั้งสุดท้าย
ท่านอลิเซีย.......
เรเชียรักท่าน.......มากนะ.....
จึก............................................................!!!!!!!!!!!!!!!!!!
.....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
THE END..................
แล้วตอนพิเศษที่เป็นมุมมองของเรเชียก็จนลง กว่าจะรู้ตัว แฟนฟิกสั้นๆเรื่องนั้นก็มีจำนวนถึง43หน้า เป็นครั้งแรกเลยที่เขียนเรื่องสั้นได้เยอะขนาดนี้ ซึ่งใช้เวลาส้นๆเพียง3วัน(เรื่องอื่นใช้เวลาเยอะมาก555)
ตอนนี้ติดเกมส์คาเกโร่ไปเรียบร้อยแล้ว พยายามเล่นเพื่อสะสมฉากจบให้ครบ และตารางตัวละครที่ได้ฆ่าไป
หึ..หึ... เกมสืนี้รุนแรงไปไหม ก็อาจจะ แต่ทว่าถ้าได้เล่นในโหมดสตอรี่แล้วจะรู้สึกเศร้า รันทดไปกับตัวเอกอย่างเจ้าหญิงอลิเซีย แล้วที่สำคัญโครงเรื่องของเกมส์นี้โดดเด่นมาก ทั้งเรื่องภาพ ระบบ และสตอรี่
ทุกอย่างทำออกมาได้ดีทีเดียว เพราะเป็นทีมเดียวกับทีมสร้างเฟทั่ลเฟรมภาค1 2 3 ซึ่งหากใครได้เคยเล่นเฟทั่ลเฟรมแล้วจะรู้ว่า กราฟฟิกและ โครงเรื่องมีความคล้ายคลึง(ยูริ รันทด ตัวเอกเศร้าโศก55555)
ปล. หลังเรื่องนี้จบก็เริ่มแต่งรักหรือแค้นให้จบแล้วก้อรีไรท์LEDต่อ ทว่าทุกอย่างจะเริ่มเมื่อรายงานญี่ปุ่นเสร็จแล้วละนะ555555 - -
ความคิดเห็น