คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : 02 คิมเร มิริน
"....โอ้ย..."
คังวอนหงุดหงิด เธอจะทำอย่างไรดี ในเมื่อป้อนไปแล้วต้มมิได้เข้าปากของเด็กสาวเลย
"แล้วจะป้อนยาไงเล่า"
หญิงสาววางข้าวต้มลง เธอจะจับยากรอกปากยัยเด็กสำออยตรงหน้าเลยดีไหมเนี่ย...แต่ก็ทำไม่ได้
"เธอทำให้ฉันโมโหมากรู้ตัวบ้างไหม"
คังวอนเริ่มหัวเสียหนักขึ้น..คราวนี้หญิงสาวจับยามากำไว้ในมือแล้วยัดใส่ริมฝีปากของเด็กสาวแต่พอกรอกน้ำจากแก้วใสเข้าไปริมฝีปากที่เม้มอยู่ทำให้น้ำไหลหกเลอะเสื้อผ้าของมิริน
"โอ้ยเวรกรรมอะไรของฉันเนี่ย"
หญิงสาวแทบอยากจะร้องกรี๊ด นอกจากจะมีงานป้อนยาแล้วยังแถมงานเปลี่ยนเสื้อให้อีก
"ยัยเด็กบ้านี่ต้องให้ฉันป้อนยาเธอด้วยปากใช่ไหม"
แม้จะพูดไปเพราะโมโหแต่ก็ต้องจำใจทำ ทำให้คังวอนอดคิดไมได้ว่าตั้งแต่ได้เจอมิรินความวุ่นวายและน่ารำคาญใจก็วิ่งเข้ามา หากมิรินป่วยหนักถึงขั้นทรุดเข้าโรงพยาบาลไปก็จะกลายเป็นเรื่องวุ่นวายหนักขึ้นกว่านี้
"ก็ได้ๆจงภูมิใจเลยนะที่ได้ทำแบบนี้กับฉัน"
หญิงสาวยกแก้วน้ำขึ้นจรดริมฝีปากเพื่อตักตวงน้ำ พอควรแล้วจึงจ้องมองเด็กสาวที่หลับสนิทอีกครั้ง ก่อนจะยอมหลับตาค่อยๆประทับริมฝีปากของบนเรียวปากนุ่มของมิริน คังวอนค่อยๆใช้ริมฝีปากและปลายลิ้นแทรกเข้าไป
อย่างะวังเพื่อถ่ายเทน้ำให้มิริน จากนั้นเธอก็ทำแบบเดิมซ้ำอีกถึงสองครั้งเพื่อให้แน่ใจดีว่ามิรินกลืนเม็ดยาลงไปแล้ว
"..แค่กๆ..."
มิรินสำลักเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้คายยาที่อีกคนอุส่าห์ลำบากลำบนป้อนให้ คังวอนส่ายหน้าเซ็งๆ แล้วก็เอาแต่มองร่างของมิรินที่ยังคงไร้สติอยู่เช่นเดิม
"..ก็อกๆ "
คังวอนสะดุ้งหันไปมองที่ประตู ใครกันที่กล้ามารบกวนเธอ ปกติ ทุกคนจะรู้กันดีว่าคังวอนเป็นคนที่มีโลกส่วนตัวสูงมาก ยิ่งตั้งแต่แม่เลี้ยงวัยละอ่อนที่อายุต่างจากเธอไม่กี่ปีย้ายเข้ามาอยู่ร่วมชายคาเดียวกันด้วยแล้วนั้น คังวอนก็ยิ่งเก็บตัวหนักกว่าเดิม เธอเดินไปเปิดประตูด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยพอใจนัก
"....อาหารเย็นค่ะ คุณหนู..."
เมดสาวเพื่อนเล่นตั้งแต่ยังเล็กยกถาดอาหารมาให้ คังวอน เบี่ยงตัวหลบเพื่อให้ เมดสาวได้วางถาดอาหารลงบนโต๊ะกลางห้อง
"คุณหนูไม่ได้ให้ทานอาหารก่อนหรอคะแล้วให้ทานยาอย่างไรคะเนี่ย"
ยูอินยิ้มน้อยๆ และแอบสงสัยว่าคังวอนใช้วิธีไหนกันหนอ
"ช่างเถอะฝากต่อหน่อยได้ไหมฉันอยากไปเดินเล่น"
หญิงสาวรู้สึกเบื่อหน่ายจึงโยนภาระให้ยูอินทันที
"ได้ค่ะแต่ไม่ทานมื้อเย็นก่อนหรอคะ?"
น้ำเสียงของยูอินแฝงด้วยอาการดุ
"รู้แล้วๆแค่นี้พอใจไหม"
คังวอนเดินมาหยิบขนมปังไปแล้วกัดกินทันทีต่อหน้าเมดสาว
"ค่ะ"
ยูอินยิ้มที่คังวอนไม่อยากขัดใจยูอินเป็นเพราะรู้นิสัยอันน่ากลัวของยูอินเป็นอย่างดีนั่นเองว่ายูอินเป็นคนที่แก้แค้นได้น่ากลัวมากหากทำให้เธอโกรธ เพราะเมื่อคราวที่คังวอนปฏิเสธไม่รับอาหารเย็น วันต่อมาอาหารเย็นของหญิงสาวถูกปรุงด้วยสิ่งที่เกลียดทั้งสิ้นทำเอาคังวอนรู้สึกขยะแขยงซุปเห็ดใส่มะเขือเทศไปอีกนานเลย
............................................................................................................................................................................
คังวอนลงไปเดินเล่นในสวนอย่างอารมณ์ดีโดยหลบเลี่ยงทั้งพ่อตัวเองและยัยแม่เลี้ยงโลภสมบัติ
..."เซระเข้าไปร่วมโต๊ะเดี๋ยวนี้"
เสียงชายวัยกลางคนดังขึ้นทำให้หญิงสาวหันไปมอง
"อาหารวันนี้ไม่ถูกปาก"
สายตาที่คมกริบจนแทบจะเชือดเฉือนมองไปทางอินยังที่ควงแขนผู้เป็นบิดา
"เซระ!!"
บิดาขึ้นเสียงสูงใบหน้าเดือดดาล ลูกคนนี้ช่างหยิ่งเชิดทรนงเหมือนมารดามิมีผิด ผู้หญิงที่เขาต้องจำใจแต่งเข้ามาเป็นสะใภ้บ้านคังวอนอีกทั้งหล่อนยังเป็นสาวญี่ปุ่นเสียอีก
"เรื่องนี้ให้แม่ลูกได้พุดคุยกันดีกว่าไหมคะคุณคัง"
อินยังกระซิบเบาๆทำให้ชายวัยกลางคนใจเย็นลงอย่างเห็นได้ชัด
"ขอโทษนะที่ฉันมีลูกไร้มารยาทแบบนี้"
ชายวัยกลางคนถอนหายใจก่อนจะเดินเข้าไปภายในทิ้งให้สองสาวอยู่กันตามลำพัง
"รังเกียจฉันขนาดนั้นเชียวเซระ"
"เธอไม่มีสิทธิ์เรียกชื่อฉัน"
หญิงสาวปรายตามองด้วยความชิงชัง
"ทำเป็นเชิดหน้าไปเถอะอีกหน่อยคุณคังก็จะยกสมบัติให้ฉันแล้วเมื่อนั้นฉันจะไล่แกออกไปเหมือนหมาตัวนึงเลย เซระ"
"ก็ลองดูสิ"
คังวอนยิ้มเยียดยังผลให้อินยังรู้สึกโดนดูถูกด้วยสายตาที่ทิ่มแทง อินยังเดินเข้ามาใกล้ฟาดฝ่ามือลงบนใบหน้าของคังวอน ใบหน้าของหญิงสาวหันไปตามแรงของฝ่ามือแต่เธอกลับมิรู้สึกอะไร
"ผู้หญิงชั้นต่ำ"
คังวอนใช้ปลายนิ้วถูที่แก้มแรงๆแล้วสะบัดหน้าหนีไป ตั้งแต่แม่ผู้แสนใจดีของเธอจากไป ผู้เป็นบิดาก็พาแม่เลี้ยง
คนใหม่เข้ามา จากที่จะเดินเล่นคังวอนก็หมดอารมณ์สุนทรีย์ไปเสียแล้วหญิงสาวเดินกลับเข้าไปในบ้านเพื่อขึ้นไปบนห้องนอน
ทันทีที่คังวอนเดินกลับขึ้นมาบนห้องเธอก็กระแทกตัวนั่งลงที่ปลายเตียงอย่างไม่พอใจ ความรู้สึกน้อยใจค่อยๆประดังเข้ามา พ่อบังเกิดเกล้าแท้ๆยังหลงผู้หญิง คนนั้นอย่างไม่ลืมหูลืมตา ทั้งๆที่ แม่เลี้ยงคนนี้ ก็เป็นเพื่อนที่แสนเลว แล้วทำไม.... คังวอนนึกถึงเพียงเท่านี้ น้ำหยาดหยาดใสก็ไหลลงอาบแก้ม เธอรู้สึกหดหู่ใจเป็นที่สุด
หญิงสาว หันมามองร่างเล็กๆที่ยังคงหลับไม่ได้สติอยู่บนเตียง..
"หลับแบบนั้นคงไม่ต้องคิดอะไรเลยสินะ..."
คังวอน แค่นยิ้มให้กับร่างบางที่ไม่รู้เรื่อง พลันสายตาก็เหลือบไปเห็น กระเป๋าสะพายสีดำใบเล็กที่คงจะเป็นของมิรินวางอยู่ข้างๆ และไม่ต้องสงสัยคนอย่างคังวอนไม่เคยกลัวอะไรหรือเกรงใจ ใครทั้งนั้น เธอหยิบกนะเป๋าใบเล็กขึ้นมาสำรวจภายในทันที
"...คนอย่างยัยนี่จะพกอะไรบ้างนะ.."
คังวอนนึกและลอบยิ้มมุมปาก
"นี่มัน..."
สิ่งที่หญิงสาวเจอคือบันทึกเล่มเล็กหน้าปกสีสันสดใส คังวอนเปิดดูโดยทันทีแม้มันจะเป็นการถือวิสาสะไปบ้างก็ตามที
13/01เห็นพี่เซระที่ห้องสมุด อาเรียกแบบนี้จะดีไหมนะ ท่าทางพี่เขาจะไม่ชอบเท่าไร ดีใจจังที่ได้เจอ แต่ทำไมถึงทำหน้าเศร้าขนาดนั้นด้วยนะ ถึงจะถามไปพี่ก็ไม่ตอบออกมาเหมือนเดิม มีอะไรทุกข์ใจหรอคะ มิรินอยากช่วยพี่นะ
15/01วันนี้เห็นพี่เซระไปที่ชมรมอีกแล้ว ดีจังที่ว่ายน้ำเก่งแบบนั้น ถึงกระนั้นพี่ก็ไม่เคยยิ้มเลย
17/01จะบอกยังไงดีนะว่าชอบ อยากเข้าใกล้มากกว่านี้ มิรินรู้นะพี่เซระกำลังขังตัวเองเอาไว้ในความทุกข์เพียง
ลำพัง ฉันอยากจะช่วยพี่นะ
19/01 ทั้งที่พยายามแล้วแต่พี่เซระก็ไม่ยอมคุยกับฉันเลย แต่ฉันไม่ท้อหรอกนะ
22/01ดีใจจังชมรมว่ายน้ำประกาศรับสมัครผู้จัดการชมรมด้วย ถ้าไปสมัครไว้จะได้ไหมนะ
25/01พี่เซระคะ ทำไมทำหน้าเศร้าอีกแล้วล่ะ ฉันรู้สึกเหมือนพี่มีเรื่องทุกข์ใจและยังพยายามสร้างเกราะกำบังขึ้นมา
เพื่อไม่ให้ใครรู้อีกด้วย แต่ฉันน่ะรับรู้นะคะ แล้วก็อยากจะเป็นคนที่ให้พี่พึ่งพิงในยามท้อใจ
27/01วันนี้ที่ชมรมเรียกตัวฉันไปทำงานเป็นวันแรก...กลางวันเจอพี่เซระที่ห้องสมุด คราวนี้พี่โซระก็ยอมมองฉันแล้ว
ได้ยิ้มให้พี่ด้วยดีใจจัง ฉันอยากบอกให้พี่เซระมากเลยนะคะ ฉัน ชอบ พี่เซระ ค่ะ..
คังวอนปิดไดอารี่ลงเมื่ออ่านจนจบแล้ว
"ยัยนี้รู้ว่าฉันรู้สึกยังไง?"
เธอหัวเราะขำๆน่าแปลกเมื่อครูยังรู้สึกเศร้าอยู่เลย แต่ทำไมตอนนี้น้ำตาถึงจางหายไปพร้อมกับรอยยิ้มกันนะ
"มิรินงั้นหรอ..อยากจะอยู่ข้างๆฉันเตรียมใจมาแล้วใช่ไหม"
คังวอนยิ้มที่มุมปากเล็กน้อยแล้วก้มลงไปมองใบหน้าของเด็กสาวก่อนจะใช้ปลายนิ้วไล้ผมที่ปรกใบหน้าของมิรินเบาๆ
"....เธอยังไม่รู้หรอกว่าจริงๆแล้ว..ฉันน่ะเป็นยังไง..."
คังวอน ยิ้มมุมปาก ชีวิตนี้เธอไม่เคยคิดจะสนใจในเพศเดียวกันเลยแม้แต่น้อย แม้ว่าเธอจะป็อปปูล่า ขนาดว่ามีสาวๆคอยห้อมล้อม คอยส่งดอกไม้และจดหมานรักอยู่ไม่ขาดก็ตามที และสิ่งที่เธอคิดก็คือ มิริน คงจะรวมอยู่ในหนึ่งในพวกนั้น ..
"..ฉันจะทำยังไงกับเธอดีนะ มิริน.."
คังวอนไล้ปลายนิ้วร้อนไปตามใบหน้าหวานช้าๆ มิริน ครางออกมาเบาๆแต่เธอรู้ดีว่าอีกคนคงไม่มีสติหรอก คังวอนตัดสินใจ ปล่อยให้มิรินนอนอยู่ในห้องนอนขอเธอเพียงลำพัง ส่วนตัวเธอเองนั้น ตัดสินใจที่จะนอนที่โซฟาหนังสีดำสนิท แทน
.
แสงแดดสาดส่องเข้าทำให้เด็กสาวขยับกายแผ่วเบาอยู่ในผ้าห่มผืนใหญ่
"คุณมิรินคะตื่นได้แล้วค่ะ"
เสียงเพราะหูที่ไม่คุ้นเคยดังขึ้นเบาๆ ทำให้มิรินลืมตาตื่นขึ้นมา
"อรุณสวัสดิ์ค่ะ นี่เสื้อผ้ากรุณารีบอาบน้ำนะคะ"
ยูอินยื่นชุดนักเรียนรวมไปถึงชิ้นเล็กชิ้นสำคัญทั้ง2ชิ้นนั่นด้วย ทำเอามิรินคว้ามาด้วยอาการหน้าแดง เด็กสาวเข้ามาในห้องน้ำไม่ต้องลำดับเหตุการณ์อะไรมากเธอตากฝนจนจับไข้และได้รุ่นพี่คนสวยช่วยปฐมพยาบาลอีกทั้ง
ยังให้ที่พักพิงด้วย เมื่อคิดแล้วก็อดหน้าแดงไม่ได้ความปลาบปลื้มเกิดขึ้นในใจเด็กสาว เมื่อแต่งตัวเสร็จมิรินก็เดินลงมาชั้นล่าง ซึ่งตอนนี้มีเพียงคังวอนที่นั่งรับประทานอาหารเช้าอยู่เพียงลำพัง
"นั่งลงสิรีบๆหน่อยนะจะสายแล้ว"
เจ้าของบ้านบอกด้วยสีหน้าเรียบเฉย มื้อเช้าผ่านไปด้วยบรรยากาศเงียบสนิททั้งมิรินที่ก้มหน้าก้มตาตลอดกับคังวอนที่เอาแต่นั่งอ่านหนังสือวารสารโดยไม่สนใจอาหารตรงหน้า เมื่อเตรียมตัวร้อยแล้วทั้งคู่ก็ออกจากบ้านทันที คังวอนเลือกที่จะเดินไปขึ้นรถบัสเองโดยปฏิเสธที่จะนั่งรถคันเดียวกับอินยัง อีกทั้งวันนี้มีมิรินมาด้วย
"มิริน"
"คะ"
เด็กสาวหยุดกระทันหันแล้วเงยหน้ามองตามเสียงเรียก
"เธออยากเป็นแฟนของฉันใช่ไหม"
มิรินหน้าแดงขึ้นมาแม้จะพยายามพูดอธิบายก็พูดไม่ออกเอาเสียเลยในสมองคิดอะไรไม่ถูก
"ถ้างั้นตั้งแต่นี้ไปเธอเป็นแฟนของฉันก็แล้วกัน"
มิรินยิ่งอึ้งกว่าเดิมและทำอะไรไม่ถูก
"...พี่คังวอน..."
มิรินอ้ำอึ้ง ไม่รู้จะรู้สึกอย่างไรดี ใจหนึ่งก็แสนจะดีใจ อีกใจก็ไม่อยากเชื่อว่าสิ่งที่ได้ยินนั้นจะเป็นความจริง
"...ทำไม...ก็เธอชอบฉันไม่ใช่หรอไง..."
คังวอนเอ่ยถาม เมื่อมิรินไม่ได้เป็นไปตามที่เธอคิด
"...ตะ..แต่ว่า..พี่คังวอนไม่ได้ชอบฉันนี่ค่ะ"
มิรินกลั้นใจถาม เธอรู้ดีอยู่แก่ใจว่าอีกฝ่ายดูจะไม่ได้มีใจให้เลยด้วยซ้ำแล้วเพราะอะไรล่ะ
"...อย่าถามมากได้มั้ย.. ตกลงจะเป็นหรือไม่เป็น.."
คังวอนฟึดฟัด นึกรำคานคนตัวเล็กช่างสงสัย
"....ฉัน...ฉัน..."
มิรินอ้ำอึ้ง
"...ฉันอะไรล่ะ...ตกลงว่าไง เป็นหรือไม่เป็น..."
คังวอนรีบถามย้ำ...ยัยนี่ก็ดูน่ารักดีเหมือนกันแฮะ...คังวอนแอบนึก แล้วรอดูปฎิกริยาที่จะได้รับจากอีกคน
"....คะ..."
มิริน พยักหน้าน้อยๆ และบทเรียนแรกของคนที่เป็นแฟนกันก็คือ.....
"แล้วก็เลิกเรียกฉันว่าคังวอน เรียกเซระก็แล้วกัน"
"แต่ว่า..."
มิรินท้วงขึ้นเพราะปกติแล้วคังวอนแสนจะเกลียดหากใครเผลอเรียกชื่อที่เป็นญี่ปุ่นของเธอ
"บอกให้เรียกก็เรียกไปเถอะแล้วอย่าถามว่าทำไม รู้ไหมมันน่ารำคาญ"
คังวอนเดินนำไปก่อนโดยไม่คอยอีกคนเลยด้วยซ้ำ รถเมล์ยามเช้าผู้คนไม่เนืองแน่นเหมือนเช่นเย็นวานคังวอนกับมิรินได้เลือกที่นั่งติดหน้าต่าง โดยที่มิรินขอนั่งข้างในติดหน้าต่างเพราะเด็กสาวชอบมองผ่านหน้าต่างเวลารถเคลื่อนที่
"มิรินถึงโรงเรียนแล้วปลุกนะ"
พูดจบคังวอนก็เอนศีรษะไปซบไหล่เล็กทันทีโดยไม่ฟังเสียงจากมิรินเลย
"พี่เซ..ระ"
มิรินได้แต่เรียกชื่อคังวอนแผ่วเบา แม้อยากจะเชื่อจากใจจริงว่าความฝันได้เป็นจริงแล้วแต่อีกใจก็ย้ำเตือนให้กลัวมาตลอด...บางทีเธออาจจะกำลังกลายเป็นของเล่นของคังวอน เซระคนนี้ก็ได้ เมื่อรถถึงที่หมายคังวอนก็ตื่นขึ้นมาพอดีหญิงสาวได้แต่ดึงลากมือของมิรินให้ลงจากรถแล้วเดินเข้าไปภายในโรงเรียน แน่นอนว่ามีสายตานับหลายสิบคู่จับจ้องพวกเธอพร้อมคำพูดต่างๆนาๆซึ่งคังวอนหาสนใจมันไม่ผิดกับมิรินที่ก้มหน้าหนักเข้าไปอีก
"กลางวันฉันจะไปกินข้าวด้วย...เลี้ยงหน่อยนะฉันจะรออยู่ที่ด่านฟ้าของตึกนี้"
คังวอนออกคำสั่งแก่เด็กสาวแล้วชี้มือไปทางตึกสูงกว่า5ชั้นซึ่งเป็นอาคารเรียนรวมของม.ต้นและม.ปลาย มิรินได้ก้มหน้ารับโดยไม่พูดอะไร คังวอนคงไม่รู้ว่าตอนนี้มิรินกำลังถังแตกเพราะรายจ่ายที่มากกว่าทุกเดือน
"..มิรินๆ มากับพี่คังวอนได้ไงน่ะ"
...ยูจีน เพื่อนซี้ย้ำปึกของมิรินเอ่ยถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น
"...ก็..เรื่องมันยาวน่ะ..."
มิรินก้มหน้างุดแล้วลากมือเพื่อนสาวให้รีบเดินไปด้วยกันเพราะตอนนี้มีสายตาหลายสิบคู่กำลังจ้องมาที่เธอ
"...มิรินๆ..."
หือ ใครกันอีกนะที่เรียกเธอ มิรินหันไปมองตามเสียงเรียก ฮีวอนนั่นเอง ฮีวอนเป็นนักศึกษาปีสุดท้ายที่มาฝึกสอนเป็นอาจารย์ วิชาวิทยาศาสตร์ที่ รร ของเธอ อีกทั้งยังเป็นครอบครัวบุญธรรมของเธอด้วย
มิริน ยิ้มทักทาย ฮีวอนใจดีกับเธอมากเธอจึงรักและเคารพเหมือนเป็นพี่ชายคนหนึ่ง
"..ทานข้าวเช้ามาหรือยังครับ"
ฮีวอนยิ้มกว้างเอ่ยถาม
"...เอ่อ...ก็พอทานมาแล้วนิดหน่อยค่ะ..."
มิรินตอบอายๆ
"....เหรอครับ ..."
ฮีวอนยิ้มกลับอายๆเช่นเดียวกัน แต่ทั้งคู่คงไม่ได้สังเกตุหรอกว่าที่ชั้น5 ของตึกฝั่งตรงข้าม ได้มีสายตาคู่คมของคังวอนจ้องมาที่คนทั้งคู่อยู่
เมื่อถึงเวลาพักกลางวัน มิรินก็ไปเข้าแถวเบียดเสียดกับผู้คนหน้าร้านขนมปัง เพราะเงินของเธอมีเพียงพอจะซื้อของแบบนี้ได้เท่านั้น จากนั้นเด็กสาวก็วิ่งขึ้นไปที่ด่านฟ้าอันเป็นจุดนัดหมาย
"มาช้า"
คังวอนตวาดทำเอามิรินสะดุ้ง
"ขอ..โทษค่ะพอดีช่วยพี่ฮิวอนขนของน่ะค่ะ"
มิรินก้มหน้าตอบ แต่คำตอบนั้นชวนน่าโมโหจริงๆ
"ต่อไปก็ไม่ต้องช่วยแล้ว"
"เอ๋"
มิรินเงยหน้าขึ้นมองด้วยความสงสัย
"จำไว้เธอเป็นแฟนฉันต้องมีเวลาให้ฉันคนเดียว ตั้งแต่วันนี้ไปห้ามยุ่งเกี่ยวกับอาจารย์ฮิวอนอีก"
เหมือนคำสั่งปรากาศิษย แต่ว่าฮิวอนก็เป็นเสมือนพี่ชายแท้ๆจะให้ตัดขาดก็คงไม่ดีแน่
"ฉันนับถือพี่ฮิวอนเหมือนพี่ชายน่ะค่ะถ้าไม่พูดเลยจะเป็นการกระด้างกระเดื่อง"
มิรินพูดแผ่วเบา เพียงเท่านั้นคังวอนก็กระชากถึงขนมปังและน้ำผลไม้จากมือของมิรินมา ก่อนจะใช้อีกมือดันมิรินให้ติดกับผนัง
"ฉันเป็นแฟนของเธอแล้วอย่างไหนสำคัญกว่ากัน"
คังวอนกำกล่องน้ำผลไม้เอาไว้แล้วค่อยๆบีบมันแน่นขึ้นจนในที่สุดกล่องน้ำผลไม้ก็ปริแตกน้ำส้มกระเด็นเปื้อนใบหน้าของมิรินรวมถึงเสื้อนักเรียนสีขาวด้วย หญิงสาวขว้างกล่องน้ำผลไม้ลงบนพื้นแล้วใช้ปลายเท้าเยียบลงทันที
"พี่เซ..ระ"
เด็กสาวรู้สึกกลัวขึ้นมาจับใจทำไมช่างรุนแรงได้ถึงเพียงนี้
"เอาไป หมดอารมณ์กินแล้ว"
ส่วนขนมปังในถุงก็ถูกขว้างใส่ใบหน้าของเด็กสาวอย่างไร้ความปราณี
"แล้วก็เย็นนี้ฉันจะไปที่บ้านของเธอ อย่าลืมซะล่ะ"
คังวอนปรายตามองกล่องน้ำส้มที่เธอเป็นคนเยียบแล้วจึงหันไปมองเด็กสาวที่ยืนตัวสั่นเป็นลูกนกเปียกฝน
"คงรู้ใช่ไหมถ้าไม่ทำตามที่บอกจะเป็นไง"
หญิงสาวเดินจากไปเหลือเพียงเด็กสาวอยู่เพียงลำพัง พอคังวอนจากไปมิรินถึงกลับทรุดเข่าลง สาวสวยดุจเทพธิดาแต่กริยานั้นยิ่งกว่ามารร้าย น่ากลัวเหลือเกิน มันคงสายไปแล้วใช่ไหมที่หลงรักปีศาจในคราบนางฟ้าผู้นี้
"...มิริน เป็นอะไรครับ..."
ฮีวอนตกใจเมื่อเห็นสาวน้อยหน้าหวานวิ่งลงมาจากบันได ดาดฟ้า ด้วยน้ำตานองหน้าแถมเสื้อผ้าก็ยังเลอะเประเปื้อนไปด้วยน้ำผลไม้
"...ป่ะ..ป่าวค่ะ...ไม่มีอะไร พี่ฮีวอน อย่าใส่ใจเลยค่ะ..."
มิรินเอ่ยบอกเบาๆ ตอนนี้เธอรู้สึกแย่ที่สุด หรือเธอคิดผิดที่ดันไปหลงรัก คังวอน
.
ความคิดเห็น