ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Kagero II FanFic -Girl in blood- ( Yuri)

    ลำดับตอนที่ #3 : Past3 Real or Lie

    • อัปเดตล่าสุด 9 มี.ค. 50


    เจ้าหญิงผู้น่าสงสารเดินสะเปสะปะไปตามทาง   ภายในปราสาทมีแต่ความเงียบกับกลิ่นคาวเลือดที่ล่องลอยอยู่ในอากาศซึ่งเกิดจากซากศพของนายทหารติดเกราะ2นายที่เจ้าหญิงอลิเซียเพิ่งลงมือฆ่าสังเวยราชันย์มืดไป

    พลังของราชันย์มืดรุนแรงขึ้น   รุนแรงขึ้น   จนเจ้าหญิงสร้างกับดักมรณะได้ในเวลาอันรวดเร็ว   หลังจากสังเวยวิญญาณของลอร์ดฟีเนแกนไป  จิตใจของเธอก็ยิ่งอ่อนแอลง

     

     

     

                              ....ฉันพยายามเดินออกไปจากห้องโถงท้องพระโรง  เวลานี้ฉัน อยากพบเรเชียเหลือเกิน  

     ตั้งแต่เมื่อยังเป็นเด็กนางจะคอยอยู่เคียงข้าง   ดูแลฉัน  ปลอบใจฉันทุกครั้งทีหวาดกลัว   เรเชียเป็นที่พึ่งของฉันเสมอ  ถึงจะเป็นเจ้าหญิงแต่บางครั้งฉันก็ทำตัวเหมือนเด็กเล็กๆออดอ้อนนาง   เมื่อหวนคิดถึงความหลังเก่าๆทำให้ฉันยิ้มออกมาได้

     

    รอยยิ้ม.......    นั่นสินะตั้งแต่ถูกใส่ความให้เป็นผู้สังหารท่านพ่อจนทำให้ต้องหนีไปซ่อนในปราสาทเพื่อหลบหลีกการตามล่า   อา... ฉันแทบจะไม่เคยได้ยิ้มออกมาเลย     ฉันอยากจะเจอเรเชีย   อยากเจอเหลือเกิน.......

     

    ท่านอลิเซีย

    เสียงทุ่มเข้มทำให้ฉันสะดุ้งเฮือก  เสียงของขุนพลเฮอร์แซ็ก!   ชายร่างสูงร่างกายกำยำถูกปกปิดด้วยเครื่องแต่งกายของขุนนาง   หากท่านอาจารย์บารันได้รับการยกย่องดุจดังอาจารย์ของจอมเวทย์  ขุนพลเฮอร์แซ็กเองก็ได้รับการยกย่องดุจดังอาจารย์ของเหล่าองค์รักษ์  เพราะความสามารถในการใช้อาวุธนานาชนิดและฝีมือการรบเลิศยิ่งจึงได้รับแต่งตั้งให้เป็นองค์รักษ์ของท่านพ่อ

     

    เหตุใดท่านจึงยังอยู่ที่อาณาจักรแห่งนี้อีก

    ฉันส่ายหน้าไปมา  ไม่เข้าใจขุนพลเฮอร์แซ็กตั้งใจจะพูดอะไรกับฉันกันนะ 

     

    ท่านโอราฟในตอนนี้ ไม่ได้เห็นอาณาจักรสำคัญอีกต่อไปแล้ว พระองค์ทำทุกอย่างเพื่อคืนชีพราชันย์มืด

     

     

    มันเรื่องอะไรกัน ทำไมข้าไม่รู้อะไรเลย!!!!”

    ฉันรู้สึกปั่นป่วนไปหมด  ขุนนางในปราสาททุกคนรับรู้เรื่องของราชันย์มืดและเรื่องร่างทรง  แต่ฉันไม่เคยรู้อะไรเลยเรื่องทุกอย่างถาโถมเข้ามา  มันมากมายเกินกว่าที่ฉันจะทำความเข้าใจกับมัน

     

    ท่านไม่จำเป็นต้องรู้อะไรไปมากกว่านี้   เพียงแค่ท่านเดินทางออกนอกอาณาจักรทุกอย่างก็จะจบ

    ฉันตรงเข้าไปดึงแขนของขุนพลเฮอร์แซ็กเอาไว้  สิ่งที่ท่านผู้นี้พูดมาฉันไม่เข้าใจอะไรซักอย่าง   ดูเหมือนการดึงรั้งของฉันจะไร้ประโยชน์   ขุนพลเฮอร์แซ็กไม่ได้ใส่ใจเลยเพียงแค่ก้าวเดินไปข้างหน้าก็สามารถสะบัดมือของฉันให้หลุดออกจากตัวเค้าได้ง่ายดาย

     

    ได้โปรดเถอะ  ช่วยเล่าทุกอย่างให้ข้าฟังที

    เสียงวิงวอนของฉันไม่ทำให้จิตใจที่แกร่งดังหินผาอ่อนโอนลงเลยซักนิด   ร่างที่เดินมุ่งไปด้านหน้าทำให้ฉันหมดความพยายามในการดึงรั้งเอาไว้ต้องปล่อยให้ขุนพลเฮอร์แซ็กจากไปโดยที่ตัวฉันไม่ได้คำตอบของเรื่องที่ค้างคา

     

    หากหลบหนีออกไปจากอาณาจักรแห่งนี้  ฉันก็เหมือนทำบาปอันใหญ่หลวงทอดทิ้งประชาชน  ทอดทิ้งอาณาจักร

    ในเวลานี้อาณาจักรกำลังระส่ำระส่าย  คาตาริน่าเองก็ก่อการกฎบอยู่ลับๆ  เหล่าขุนนางที่ฉันไว้ใจช่างยากเย็นนักที่จะมองเห็นผู้ใดในเวลานี้  ฉันเดินออกมาจากปราสาทหากได้กลับไปปรึกษากับเรเชียที่ปราสาทลับ ฉันคงจะคิดหาทางออกได้มากกว่านี้    ก่อนจะเดินมาถึงประตูทางออกสู่ด้านนอกฉันต้องหยุดชะงัก    ผู้ที่ยืนขวางกั้นทางออกคือ  ลอร์ดเจส   ทั่วทั้งร่างมีบาดแผลจากการสู้รบเต็มไปหมดราวเพิ่งผ่านการต่อสู้ที่อันตรายมา

     

    ลอร์ดเจส!!!”

    ทำไมลอร์ดเจสที่ไม่น่าไว้วางใจถึงมีบาดแผลเต็มตัวไปหมด  ไม่นานร่างที่เปรอะไปด้วยโลหิตก็ทรุดลง

     

    ท่านอลิเซียหนีไป.....

    ยังไม่ทันที่ฉันจะเข้าไปใกล้ลอร์ดเจสก็ยกมือห้าม  ด้วยสัญชาติญาณของทหารกล้าบางที ลอร์ดเจสอาจจะรู้ตัวว่ากำลังจะตาย     แต่จะให้ฉันหนีไปโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยงั้นหรอ  ฉันไม่ฟังสิ่งที่ลอร์ดเจสร้องขอกลับเดินตรงเข้าไปประคองร่างจวนเจียนจะไร้สติเอาไว้

     

    เกิดอะไรขึ้น!!!  อุปราชโฮซอนไนกับหัวหน้าองค์รักษ์ล่ะ

     

    ตายแล้ว.....

    เสียงที่เย็นยะเยือกของลอร์ดเจสทำให้ฉันรู้สึกหนาวไปถึงหัวใจ   ฉันสูญเสียผู้ช่วยเหลือไปทีเดียวถึง2คน  และตอนนี้อาจจำลังสูญเสียลอร์ดเจสไปอีก

     

    เรเชีย....นางเป็นฆ่าท่านทั้งสอง

    .............!!!!!!! เหมือนถูกพายุโถมกระหน่ำ เรเชียนะหรอจะเป็นคนทำ  ฉันไม่อาจจะทำใจให้ยอมเชื่อสิ่งที่ลอร์ดเจสพูดได้   ถึงยังไงเรเชียก็คือคนที่ฉันเชื่อใจมากที่สุด

     

    ไม่มีทาง  นางต้องถูกใครบางคนบงการอยู่แน่ๆ

    ฉันรู้ตัวว่ากำลังขึ้นเสียง   พูดด้วยอารมณ์ฉุนเฉียวแบบไม่มีเหตุผลไม่ว่ายังไงเรเชียก็ไม่มีทางทรยศฉันอย่างแน่นอน

     

    เจ้าหญิง .....ท่านเชื่อมั่น........ในตัวนางมาก.........นางก็ใช่สิ่งนี้สร้างแผนการทั้งหมดขึ้นมา.....

    หยุดนะ!!! อย่าพูดแบบนี้ฉันไม่ได้อยากได้ยิน

     

    อัก........

    โลหิตสีแดงพุ่งทะลักออกจากร่างที่บาดเจ็บเจียนตาย   ลูกธนูที่พุ่งมาจากด้านข้างตรงเข้าเสียบศีรษะของลอร์ดเจส   ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วเกินกว่าที่ฉันจะตั้งตัว  เมื่อยกแขนขวาขึ้นเจ้าสิ่งที่พันรั้งกำลังบีบรัดสร้างความทรมาน

    ร่างอันไร้ลมหายใจของลอร์ดเจสค่อยๆทรุดและล้มลงบนพื้น

     

    ฮ่า.....ฮ่า.....ฮ่า.....    ฆ่าอีก  ฆ่าอีก 

    หยุดนะ...!!!  ทั้งที่ข้าไม่ได้ต้องการฆ่าเค้า  ทำไม!!!!”

     

    …… หึ..หึ....สาวน้อย  เจ้ายังไม่รู้สึกสนุกกับพลังที่แสนยิ่งใหญ่ยิ่งนี้อีกหรือ  ไม่มีใครทำร้ายเจ้าได้ ไม่มีใครมาฆ่าเจ้าได้.....

     

    พลังปีศาจแบบนี้ข้าไม่ต้องการ  ไม่ต้องการ!!!!!”

     

    …..เจ้าหนีข้าไม่ได้หรอกเจ้าเป็นร่างทรงของข้า..........

     

    ทำไมต้องเป็นข้า  ผู้คนตั้งมากมายทำไม ถึงเลือกข้า

     

    ........เจ้าถูกสังเวยให้ข้าในฐานะร่างทรงเมื่อ4ปีที่แล้ว   ทุกสิ่งถูกกำหนดมาแล้ว.........

     

    อ...อะไรนะ  เมื่อ4ปีที่แล้ว   ไม่จริงๆ  บอกมานะทำไมฉันถึงโดนสังเวย

     

    ......มันเป็นโชคชะตาแล้วเจ้าจะได้รู้เอง...............

     

               หลังจากนั้นฉันก็ตะโกนกู่ร้องถามราชันย์มืดราวกับคนเสียสติแต่ก็ไม่มีคำตอบอะไร   เหมือนฉันกำลังอยู่ในหนทางที่มืดมน  ไม่มีเสียงสว่าง  ผู้คนที่พอจะบอกความจริงได้ก็พากันล้มตายจากไป  ทั้งที่ไม่อยากจะฆ่าใครแต่แขนขวาของฉันก็สร้างกับดักฆ่าผู้คน  แม้แต่ทหารยามที่พยายามหนีเอาตัวรอด  ฉันก็ยังฆ่าพวกเค้า 

     

    อา.....สีแดงที่ย้อมไปทั่วปราสาทช่างดูสวยงามจริงๆ    กลิ่นคาวเลือดทำให้ฉันรู้สึกว่าหอมหวานตั้งแต่เมื่อไรกัน 

    ฉันเดินกลับเข้าไปในปราสาท ยุติความคิดที่หนีออกไป  ยังมีขุนพลเฮอร์แซ็กอีกผู้หนึ่ง  ชายผู้นั่นจะต้องตอบคำถามไขข้อข้องใจของฉันได้แน่ๆ   

     

    ....เมื่อฉันเดินมาถึงห้องทรมานนักโทษ ประตูโลหะขนาดใหญ่ถูกเลื่อนลงมาปิดทางออก   ฉันรู้ว่ามีใครบางคนอยู่ที่นี่  เพื่อรอคอยการมาปรากฏตัวของฉัน

     

    ช่างเป็นพลังที่ยอดเยี่ยมจริง....เจ้าหญิงอลิเซีย

     

    คาตาริน่า

    ฉันยิ้มเล็กน้อย  ไม่คิดเลยว่าจะได้ผู้หญิงที่เป็นตัวการให้ฉันกับเรเชียต้องหลบหนีอย่างเอาเป็นเอาตาย 

     

    ถ้าเจ้าทำตัวน่ารักกว่านี้  ข้าคงจะเอ็นดูเจ้าไปแล้ว

    นางหัวเราะโบกพัดในมือไปมา   เสียงหัวเราะที่ระคายประสาทหูทำให้ฉันหงุดหงิด

     

    หุบปากนะ...เพราะเจ้าทำให้ข้าต้องไปที่ปราสาท  ทำให้ข้าต้องฆ่าคนด้วยพลังบ้าๆนี่

    ฉันยกแขนขวาขึ้นอย่างไม่ลังเล  นางแค่คนเดียวไร้ซึ่งทหารติดตามคงไม่มีทางจะทำอะไรฉันได้

     

    เจ้าคิดว่ามันง่ายดายขนาดนั้นเชียวหรือเจ้าหญิง  หึ..หึ...

    อีกไม่นานเสียงหัวเราะที่น่ารังเกียจกำลังจะหายไปแล้ว   เพียงแค่นึกถึงลูกธนู ไม่น่านร่างที่ยืนอยู่ก็จะโดนทิ่มแทง

     

    นางไม่ก้าวหนี เพียงแค่สะบัดพัดในมือเบาๆเท่านั้น

     

    ............!!!!!!”

    ลูกธนูที่ควรจะพุ่งเข้าใส่นางกลับกลายเป็นเพียงสายลมที่พัดผ่านคาตาริน่าไป  

     

    พลังของราชันย์มืดคือการสร้างวัตถุขึ้นในอากาศตามใจนึก  พลังของข้าคือการหักล้างพลังของราชันย์มืด เจ้าหญิงเจ้าไม่มีทางฆ่าข้าได้ง่ายๆหรอก

    ….ดูท่าทางนางจะยิ้มด้วยความภาคภูมิใจเหลือเกิน  เป็นครั้งแรกที่ฉันอยากจะฆ่าคนจากความตั้งใจของตัวเอง

    ฉันยอมยืนนิ่งปล่อยให้คาตาริน่าเดินเข้ามา  มือขวายกขึ้น    กับดักหมีที่นายพรานใช้ล่าสัตว์ป่า กลายเป็นเพียงเศษฝุ่นเมื่อคาตาริน่าโบกพัดไปมา  

     

    ...แต่ฉันก็คิดเอาไว้แล้วว่านางจะลบล้างได้ทันท่วงที    

     

    จึก.......................

     

    ไม่มีเวลาให้นางได้กรีดร้องแม้แต่วินาทีเดียว     ใบมีดกิโยตินก็หล่นลงมาตัดศีรษะของนางให้กระเด็นไปไกลห่างจากร่างที่ล้มลง   มือของคาตาริน่าที่ถือพัดยังกะตุกอยู่เลย   ไม่เพียงแค่นั้น แขนทั้งสองข้างและขายังสั่นไปมา

    ทำให้ฉันนึกถึงเวลานักโทษถูกประหาร  เมื่อศีรษะของพวกเค้าหลุดกระเด็นไปจากร่าง  แขน ขายังสั่นไปมา คงเพราะพวกเค้าตายแบบกะทันหัน  ร่างกายกับจิตถูกแยกออกจากกันรวดเร็วทำให้กายยังคงจดจำสิ่งที่จิตสั่งการก่อนตายเอาไว้    ฉันมองดูร่างไร้ซีรษะของคาตาริน่าก่อนจะตัดสินใจเดินออกไปจากห้องทรมานนักโทษ   

     

    ....ที่ปราสาทแห่งนี้คงไม่มีผู้ใดเหลือรอดชีวิตแล้วสินะ   ถึงเวลาที่ฉันควรจะกลับไปหาเรเชียแล้ว 

     

    ฉันเชื่อ  นางจะต้องรอฉันอยู่   ยิ้มต้อนรับฉันเหมือนทุกครั้ง...........

     

    .............................................................................................................................................................................

     

     

           ในระหว่างที่ปราสาทกำลังเกิดความวุ่นวาย  จอมเวทย์บารันและเหล่าจอมเวทย์ในราชสำนักได้เดินทางไปยังปราสาทลับของราชวงศ์เพื่อทำพิธีสะกด วิญญาณของราชันย์มืดอีกครั้ง    ทว่า..........

     

    จ... เจ้าเป็น.....ร่างทรง...ของราชันย์มืด..!!!!”

    ชายชราถอยหลังหนี  เหล่าจอมเวทย์ที่พามาบัดนี้เหลือแต่ร่างไร้วิญญาณ  กลายเป็นเศษซากเนื้อ  หรือเป็นเถ้าธุลีเพราะถูกแผดเผาจากเปลวเพลิง   หากร้ายแรงซักนิดก็คือการถูกสับหั่นจนร่างกาย แยกกระจัดกระจายไปคนละทิศ

    บัดนี้จึงเหลือแต่จอมเวทย์บารันผู้ซึ่งมีอาคมแกร่งกล้าที่สุด    ช่างน่าเศร้าเสียจริง จอมเวทย์ที่ยิ่งใหญ่กำลังกระเสือกหระสนหนีเอาตัวรอดจากหญิงสาวเพียงคนเดียว

     

     

    ....ท่านโอราฟ  ขอประธานอภัย ที่ข้าไร้ความสามารถ

    จอมเวทย์เฒ่ารู้ชะตาชีวิตเมื่อเห็นก้อนหินขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นในอากาศเหนือศีรษะ    มันหล่นลงมาทันทีเมื่อหญิงสาวตวัดฝ่ามือ  

     

    ตึง!!!!!!!!

     

    ก้อนหินขนาดใหญ่แหลกสลายหายไปหลังจากได้บดทับร่างของชายแก่จนเละเทะ  จากร่างกายมนุษย์บัดนี้เป็นเพียงเศษซากกองเนื้อที่ปนเปอยู่ในโลหิตสีแดง    หญิงสาวหัวเราะเบาๆ  นางมองดูประตูสู่ห้องผนึกที่เปิดเชื้อเชิญ

     

    เจ้าหญิงอลิเซียรีบกลับมาเร็วสิคะ เรเชียกำลังรอท่านอยู่

    เรเชียหัวเราะออกมา  สิ่งที่เดิมพันด้วยชีวิตของเธอกำลังจะสิ้นสุด  ผู้รู้ความลับอันดำมืดก็เหลือเพียงไม่กี่คน ตอนนี้หญิงสาวกำลังรอให้เจ้าหญิงอลิเซียผู้เป็นร่างทรงอีกคนมาที่ห้องผนึก  เมื่อนั้นการบูชายันดวงวิญญาณแก่ราชันย์มืดก็จะสำเร็จ

     

    เจ้าหญิง ท่านจะทำอย่างไรเมื่อรู้ความจริงทุกอย่าง  เรเชียอยากเห็นจริงๆ

    รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของหญิงสาว  ดวงตาสีแดงเหม่อมองไปทางประตูไม้บานใหญ่   ก่อนจะเอนกายให้แผ่นหลังภายใต้ชุดสาวใช้สีดำเอนพิงผนังอิฐ

     

     

    ...................................................................................................................................................................................

     

     

     

                 ฉันพยายามวิ่งกลับมาจนถึงปราสาทลับ  บรรยากาศภายในเงียบไม่ต่างจากปราสาทที่เพิ่งหนีออกมาเลย  

    ฉันพยายามเดินลึกเข้าไปในปราสาท เดินหลงวนเวียนอยู่นานจนในที่สุดฉันก็พบ ทางเข้าห้องผนึก

     

    โครม.....!!!

     

    โอ๊ย....

    ฉันเยียบอะไรกันแน่ถึงได้ล้มลงเจ็บขนาดนี้   เมื่อมองดูสิ่งที่อยู่บนพื้นมันคือคทาของจอมเวทย์ที่เปรอะโลหิต

    จริงสิ  มิสเทอร์บอกกับฉันนี่นาว่า ท่านอาจารย์บารันจะพาเหล่าจอมเวทย์มาผนึกราชันย์มืด   แต่คทาที่ฉันเห็นทำให้รู้สึกกลัวขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก      จะต้องเกิดเรื่องอะไรร้ายแรงขึ้นที่นี่แน่ๆ

     

    ท่านอลิเซีย ข้าบอกให้ท่านออกไปจากอาณาจักรนี้ซะ ทำไมท่านยังอยู่อีก

    เสียงของขุนพลเฮอร์แซ็กทำให้ฉันต้องหันไปมอง   ใบหน้าที่หนวดเคราบางๆมองฉันด้วยความโกรธ  

    ฉันรีบลุกขึ้นวิ่งหนีขุนพลเฮอร์แซ็กโดยไม่รอให้ชายผู้นั้นใช้หอกยาวในมือพุ่งมาทางนี้แน่

     

    อย่าเข้าไปท่านอลิเซีย

    ฉันไม่ฟังเสียงร้องห้ามของขุนพลเฮอร์แซ็กและหยุดตามที่เค้าต้องการหรอก   ฉันผลักประตูไม้บานใหญ่เข้าไป

    คงเพราะความรีบร้อนทำให้ฉันถลาล้มลงบนพื้นจนได้       พื้นห้องผนึกแห่งนี้สร้างขึ้นมาจากหินทำให้ฉันเจ็บมากกว่าที่สะดุดคทาของจอมเวทย์เสียอีก  

     

    ทำดีมากอลิเซีย

    ...........เสียงของท่านพ่อ  เป็นไปไม่ได้ท่านพ่อตายไปแล้วนี่นา  ฉันเงยหน้าขึ้นมองผู้ที่ยืนตรงกลางห้อง   ท่านผู้นั่นคือพระราชาโอราฟ  ท่านพ่อของฉัน!!!!  

     

    ท่านพ่อ!!!”

    ท่านหัวเราะเบาๆเอามือทาบกับก้อนศิลาขนาดใหญ่ที่ถูกตรึงด้วยโซ่ตั้งเด่นอยู่กลางห้องผนึกแห่งนี้

     

    อีกไม่นานราชันย์มืดก็จะคืนชีพแล้ว  เจ้าทำได้ดีมาก อลิเซีย

     

    ท่านพ่อนี่มันอะไรกัน  ข้าไม่เข้าใจ!!”

     

     

    เด็กโง่เอ้ย....ที่เจ้าเห็นในสวนมันคัวปลอม ข้ากำลงรอให้เจ้าสังเวยวิญญาณแก่ราชันย์มืด

     

     

    ทำไมถึงต้องเป็นข้า !!!”

     

     

    หึ...เมื่อ4ปีก่อนข้าสังเวยแม่เจ้าให้ราชันย์มืด  แล้วก็ยกเจ้าให้เป็นร่างทรง  ที่พันแขนขวาของเจ้าตอนนี้คือพลังของราชันย์มืด  หากเจ้าฆ่าคนสังเวยอีกไม่นานราชันย์มืดก็จะคืนชีพแล้ว ฮ่า.....ฮ่า.....ฮ่า.......

     

    ฉันรู้สึกจุกจนพูดอะไรออกมาไม่ได้น้ำตาที่น่าจะรินไหลกลับแห้งเหือดไป   ชายผู้นี้คือท่านพ่อที่ฉันเคารพรักมาตลอด  เป็นพระราชาที่ปกครองอาณาจักรด้วยความเที่ยงธรรม   แต่แล้ว....ทำไม  ท่านถึงส่งฉันไปเป็นร่างสังเวยให้ราชันย์มืด  ทำไมละคะ ท่านพ่อ!!!!!!!     ฉันทรุดตัวลงนั่งบนพื้นภาพที่เห็นผ่านนัยน์ช่างดูเลือนลางเหลือเกิน

    ตอนนี้ฉันไม่ได้ยินเสียงพูดของท่านพ่อเลย  ไม่ได้ยินแม้แต่เสียงฝีเท้าของขุนพลเฮอร์แซ็กที่เดินผ่านร่างฉันไป

     

    ………………………………………………………………………………………………………………..

     

     

    ……ขุนพลเฮอร์แซ็กส่ายศีรษะไปมา  พระราชาที่ทรงคุณธรรมเหมือนตายจากใจของชายผู้นี้ไปแล้ว   ตอนนี้พระราชาโอราฟที่ยืนอยู่เป็นเพียงชายแก่ที่ลุ่มหลงอำนาจของมารร้าย  

     

    เจ้าทำได้ดีมาก เฮอร์แซ็ก อีกไม่นานราชันย์มืดก็จะคืนชีพแล้ว  ข้าจะมีพลังอันยิ่งใหญ่อีกครั้ง  ฮ่า....ฮ่า...ฮ่า...

    เฮอร์แซ็กกระชับหอกในมือ   หากไม่ทำสิ่งนี้ก็จะนำภัยมาสู่อาณาจักร  มีหรือขุนพลที่รักความถูกต้องประดุจชีวิตจะยอม  

     

    จึกกกกกกกกก..................................!!!!!!!!!

     

    อ๊ากกกก...........

     

     

    อยากสังเวยมากนักใช่ไหมท่านโอราฟ.....

    เสียงคมเอ่ยอย่างไร้ความปรานีถอนดึงเอาปลายหอกที่แหลมคมออก ทำให้โลหิตสีแดงพุ่งทะลักจากบาดแผล

    เสียงร้องที่ทรมานทำให้เจ้าหญิงอลิเซียได้สติคืนมาอีกครั้ง   เมื่อเห็นภาพผู้เป็นบิดากำลังจะสิ้นใจ

     

    .......!!!!”

    ท่านพ่อกำลังล้มลง  แต่ฉันไม่มีเรี่ยวแรงพอที่จะพยุงกายอีกแล้ว    ท่านพ่อช่างมีความมานะ  ขนาดบาดเจ็บสาหัสท่านก็ยังคลานไปหมายจะแตะก้อนผนึกศิลาขนาดใหญ่ให้ได้  แล้วท่านก็ล้มลง  ดูเหมือนขุนพลเฮอร์แซ็กจะยังไม่บรรลุจุดประสงค์  และเดินมาหาฉัน

     

    ท่านอลิเซีย เพื่ออาณาจักรข้าจำเป็นต้องทำ

    หอกอันแหลมคมกำลังถูกยกขึ้นไม่นานก็ปักลงที่ร่างของฉัน......    อาตอนนี้ไม่มีแรงที่จะยกแขนขวาขึ้นมาเลย

    แม้แต่จะนึกอะไรในสมองรู้สึกสับสนไปหมด.......    ฉันคง...กำลังจะถูกฆ่าแล้วสินะ

     

     

    ครึกกก...................                      

     

      ตูมมมมม!!!!!!

     

     

    เพียงเวลาไม่ถึง5วินาที  ก้อนหินขนาดใหญ่หล่นลงมาจากเพดานทับร่างของขุนพลเฮอร์แซ็กจนแหลกเหลว เพราะขุนพลเฮอร์แซ็กจดจ่ออยู่กับการฆ่าฉันทำให้ไม่ได้ระวังอะไรเลย     แต่ก้อนหินที่หล่นลงมาไม่ใช่ฝีมือฉันแน่ๆ

     

    ใครกัน............!!!!!

     

     

    เสียงฝีเท้าครูหนึ่งกำลังเดินใกล้เข้า  ใกล้มา  จนฉันได้เห็นร่างผู้มาเยือน  

     

    เรเชีย!!!”

    ดีจริงที่นางปลอดภัย   ฉันรู้สึกดีใจเหลือเกิน เรเชียเดินเข้ามาใกล้ฉัน  ทว่า แววตาสีทับทิมแสดงความไม่เป็นมิตรออกมาเลย  รอยยิ้มที่เย็นชาเหมือนไม่ใช่เรเชียที่ฉันเคยรู้จัก

     

    ท่านอลิเซียปลอดภัยดีนะคะ

    นางก้มลงพยุงฉันขึ้นมา  ทำไมถึงรู้สึกอืดอัดแบบนี้ อ้อมกอดที่คุ้นเคยของเรเชียทำให้ฉันรู้สึกกลัวขึ้นมา  

    แต่ฉัน....ก็กอดกระชับตัวนางเอาไว้ทั้งความกลัวและความดีใจ

     

    ……….อีกแค่หนึ่งเดียวข้าก็จะเป็นอิสระแล้ว.......   

     

    เสียงของราชันย์มืดดังก้องอีกครั้ง   ไม่นะ....นี่ราชันย์มืดต้องการให้ฉันฆ่าเรเชียยังงั้นหรอ 

     

    ท่านได้ยินแล้วใช่ไหม  อีกแค่หนึ่งเดียวราชันญ์มืดก็จะคืนชีพ

    เรเชียพูดอะไรออกมา  นางพูดอะไรออกมา!!!!    พอคิดจะผละอออกก็โดนรั้งให้อยู่ในอ้อมกอดที่แน่นสนิท

     

    เรเชียรักท่านมากนะ  ท่านอลิเซีย.....

    เสียงของเรเชียกระซิบแผ่วเบา   ฉัน....ฉัน...สับสนเกินกว่าจะเชื่ออะไรอีกแล้ว  ร่างกายไร้การต่อต้านได้แต่ปล่อยให้เรเชียค่อยๆปล่อยฉันให้เป็นอิสระ   นางหยิบมีดสั้นที่ซ่อนอยู่ในเสื้ออกมา

     

     

    ฉะนั้นตายเพื่อเรเชียเสียเถอะ  ท่านอลิเซีย

     

    จึก.............      

     

    ฉันล้มลงอีกครั้ง  รู้สึกเจ็บปวดที่แขนขวาอย่างแรง   นี่อาจเป็นการจู่โจมพลาดของเรเชีย  นางไม่รอให้ฉันได้มีโอกาสลุกขึ้น  ร่างในชุดดำนั่งคร่อมทับฉันเอาไว้    แววตาสีทับทิมดูโหดร้ายไม่ใสซื่อเหมือนที่ฉันเคยเห็น 

    เธอไม่ใช่เรเชียคนเดิมอีกต่อไปแล้ว       เลือดจากบาดแผลที่ได้รับทำให้สิ่งพันธนาการปรากกฎขึ้นและพันรั้งแขนขวาของฉัน   

     

     

    .......!!!!”

    เรเชียรีบผละออกจากฉันด้วยความตกใจ   ดูเหมือนนางจะหวาดกลัวกับเจ้าสิ่งที่พันแขนของฉันอยู่

    ฉันพยายามใช้มือซ้ายจับรั้งไม่ให้ยกมือขวาขึ้นมา   

     

    …….เอาเลย ฆ่านางซะ.....ฆ่านางซะ.........

     

     

    หยุดนะ....ข้าจะไม่ทำร้ายเรเชียเด็ดขาด

    ถึงเรเชียจะเปลี่ยนไป แต่ฉัน.....ฉัน.....ไม่อยากจะฆ่านาง   

     

     

      ...ถึงจะต้องฆ่าคนสังเวยหมดปราสาท แต่ฉันก็จะไม่ฆ่าเรเชีย..............

     

     

    ..................................................................................................................................
    .....................................................................................................................................

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×