คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ตอนที่ 1
ในห้องนอนเล็กๆ ข้าวของกระจัดกระจายทั่วห้อง มีเตียงแบบคนเดียวนอนวางอยู่มุมห้อง ภายใต้ผ้าห่มสีน้ำเงิน มีชายหนุ่มหน้าตาดี ผมสีน้ำตาลอ่อนและบางทำให้ดูผมสวยเหมือนผู้หญิง ตอนนี้เขาเรียนอยู่ม.6 ชายหนุ่มนี้หลับโดยไม่รู้ว่ามันสายมากแล้ว
“คุมะ! ลูกตื่นยัง นี่มันจะเจ็ดโมงแล้วนะ” เสียงแม่ดังขึ้นมาจากข้างล่าง ทำให้คุมะสะดุ้งตื่น แต่ก็ยังอยู่ในอาการสะลึมสะลืออยู่ และเหลือบไปมองที่นาฬิกา
“เจ็ดโมง! แย่แล้ว สายแน่ๆเลยเรา” คุมะรีบลงจากเตียงพร้อมกับไปหยิบผ้าเช็ดตัวอย่างเร็วและรีบเดินเข้าห้องน้ำไป ไม่ทันถึง 5 นาทีดี คุมะก็เดินออกมาจากห้องน้ำและรีบแต่งตัว เสริมหล่อจนหล่อปิ๊ง
“Ok หล่อแล้ว รับรองวันนี้คาเกะจะต้องหลงรักฉัน ฮ่าฮะฮา” คาเกะคือผู้หญิงที่คุมะนั้นแอบรักอยู่ เขารีบลงบันไดลงมาอย่างเร็ว ก็เห็นโชโกะน้องสาวตัวยุ่งนั่งทานอาหารอยู่ เขาเดินไปนั่งข้างๆเธอ โชโกะเห็นพี่ชายตัวแสบเดินมา เธอก็รีบลุกขึ้นยืน
“แม่คะหนูไปก่อนนะคะ ขี้เกียจรอพี่ชายที่ไม่ได้เรื่อง” โชโกะแลบลิ้นใส่คุมะก่อนที่จะเดินไปใส่รองเท้าที่หน้าประตู คุมะก็แลบลิ้นใส่กลับ
“แหวะ... คุณหนูผู้ได้เรื่องงั้นแหละ คราวหน้าก็อย่าสอบตก แล้วมานั่งร้องไห้ขี้มูกโป่งล่ะ” คุมะพูดเสียดสีโชโกะ เธอได้ยินก็หยิบรองเท้านักเรียนของตัวเองจะปาใส่คุมะ คุมะก็รีบลุกขึ้นยืน
“เลิกกัดกันได้แล้วน่ะ ดูเวลาซิ นี่มัน 7 โมง จะ 20 อยู่แล้วยังไม่ออกจากบ้านอีก” เสียงแม่ทำให้ทั้งคู่สงบลง โชโกะแลบลิ้นปลิ้นตาใส่คุมะอีกครั้ง เขาไม่สนใจก็ลงมานั่งกินต่อ โชโกะลากจักรยานออกจากบ้านแล้วก็ขึ้นไปนั่งเพื่อใช้มันไปโรงเรียน แม่เดินมานั่งที่โต๊ะกินข้าว
“นี่แก จะนั่งกินจนถึงพรุ่งนี้ไหมเหอะ..” แม่พูดกับลูกชายที่ไม่เรื่องคนนี้
“ก็แม่ปลุกผมสายนี่”
“ฉันนี่นะปลุกแกสาย ฉันเรียกแก ตั้งแต่ 6 โมงครึ่งแต่แกไม่ตื่นเอง ฉันเหนื่อยนะ เฮ้อ”
“ผมไปแล้วนะ”
“เออ... รีบๆไป เห็นหน้าแล้วรำคราญ” คุมะเดินไปหอมแก้มแม่ข้างซ้ายก่อนที่จะวิ่งไปลากจักรยานอีกคันเพื่อไปโรงเรียน การหอมแก้มของคุมะทำให้แม่หลุดยิ้มมาเล็กน้อยที่มุมปาก
“เอาละ ปั่นด้วยความเร็วสูงสุดเลยดีกว่า”
อพาร์ทเม็นต์หรูหรา แห่งหนึ่ง ยังมีชายหนุ่มอีกคนที่ไปโรงเรียนสายกับเขาด้วย เคตะชายหนุ่มผู้นอนดึกและตื่นสายอีกคนวิ่งลงบันไดแล้ววิ่งไปที่โรงเรียนเพราะโรงเรียนไม่ได้อยู่ไกลจากอพาร์ทเม็นต์เท่าไร เคตะเป็นชายหนุ่มหน้าตาดี ผมเป็นสีน้ำตาลแดงซอยสั้น สูงโปร่ง วิ่งอย่างเร็วเพื่อให้ถึงโรงเรียนก่อนเวลา 7โมง 35นาที เขาวิ่งมาจนใกล้จะถึงหน้าโรงเรียนก็เห็นคุมะขี่จักรยานมาด้วยความเร็ว
“เคตะหลบไป จะเบรคไม่อยู่แล้ว ไอ้บ้าหลบไป!” คุมะตะโกนสุดเสียง เคตะยังยืนงงอยู่ ทำให้คุมะต้องหักจักรยานหลบ และเสียหลักล้มลง
“แกเป็นอะไรหรือเปล่า? คุมะ” เคตะถาม
“ไม่เป็นไรมั้ง” คุมะตอบแบบกวนๆ
“แกบ้าเปล่าเนี่ยขี่จักรยานยังไง ถึงล้มได้ ฮ่าฮะฮ่า”
“เออ.. ฉันน่ะไม่บ้าหรอก แกแหละบ้า ฉันตะโกนสุดเสียงให้หลบ ยังไม่หลบอีก โอ๊ย.... เจ็บเป็นบ้า ดูซิแล้วฉันจะลุกขึ้นไหวไหมเนี่ย โอ๊ย....”
“มาฉันช่วย” เคตะยื่นมือให้คุมะ พอดีมีผู้หญิง2-3เดินผ่านมาเห็นคุมะเข้า
“ ว๊าย... เธอดูซินั่นคุมะนิ” ผู้หญิงคนหนึ่งบอก
“ใช่ๆ ดูซิ ตกจักรยานเหรอเธอ?” ผู้หญิงเหล่านั้นกำลังกริ๊ดกร๊าดคุมะ เพราะคุมะpopมากในโรงเรียน คุมะเห็น เขารีบลุกขึ้นโดยไม่จับมือเคตะ แล้วก็ปัดก้นของตน
“โธ่..แค่นี้ไม่เจ็บหรอก จิ๊บจ๊อย” คุมะหันไปทางเคตะที่ยืนงงอยู่
“คราวหน้าก็เดินระวังบ้างนะ ดีนะที่ฉันหักหลบทันไม่งั้นนายอาจจะโดนฉันชนแล้ว” คุมะขึ้นไปขี่จักรยานต่อ ปล่อยให้พวกผู้หญิงกริ๊ดถึงความเท่ของตัวเอง เคตะได้แต่ยืนงง
“อะไรวะ? เมื่อกี้มันยังบอกว่ามันจะลุกไหวไหม เจ็บยังโน้นยังนี้อยู่เลย เออ.. ช่างเถอะ” เคตะเดินต่อไป
ส่วนคุมะปั่นจักรยานช้าเพราะเจ็บก้นของตน
“โอ๊ย.. โคตรเจ็บเลยโว๊ย ไอ้บ้าเคตะ” คุมะเห็นยามะเดินอยู่ข้างหน้า ยามะหนุ่มสูงโปร่งผมสีน้ำตาลเข้มอีกคนที่ชอบตื่นสายเป็นที่สุด เขาเป็นชายหนุ่มที่ดูดีตลอดเวลา คุมะปั่นจักรยานเข้าไปหา
“ยามะ...” ยามะหันมา
“เอ้า... คุมะ แกก็มาสายเหรอ?”
“เออ.. แล้วทำไมแกไม่วิ่งว่ะ เห็นไหมคนเขาวิ่งกันใหญ่เพราะอีก 2-3 นาทีโรงเรียนก็จะเข้าแล้ว”
“ขี้เกียจวิ่งว่ะ” คุมะหยุดจักรยาน
“ขึ้นมาซ้อนซิ”
“เออ... ขอบใจ” ยามะขึ้นไปยืนตรงที่เหยียบข้างหลัง
“โอ๊ย.. ทำไมแกตัวหนักอย่างนี้ว่ะ” ยามะหัวเราะออกมา สักพักเคตะก็วิ่งมา
“หนอย.. ปล่อยให้ฉันวิ่งนะไอ้คุมะ เดี๋ยวแกตาย” เคตะพูดกับตัวเองแล้ววิ่งไปที่จักรยานแล้วก็ขึ้นไปซ้อนข้างหน้าทันที
“เอ้า..ไปเลย” เคตะตะโกน ทำให้ทั้งสองงง
“มาจากไหนว่ะ?” ยามะถาม
“ไม่ต้องถาม รีบไปโรงเรียนดีกว่า”
“แกมาปั่นเลยเคตะ” คุมะพูด
“ฉันปั่นไม่ค่อยเป็น พวกแกกล้านั่งเหรอ?” เคตะยิ้ม ยามะก็หัวเราะ
“เออ... คุมะรีบปั่นเร็ว เดี๋ยวสายนะ” ยามะพูด เคตะก็พยักหน้าเห็นด้วย
“แกก็มาปั่นซิ ฉันเจ็บระบมไปทั้งตัว แล้วยังต้องมาแบกหมูอีกสองตัวเนี่ยนะ”
“แกไม่ต้องบ่น รีบปั่นเลย” เคตะพูด คุมะไม่ยอมปั่น สักพักยามะคิดอะไรดีๆออก
“คุมะแกเห็นผู้หญิงที่อยู่ตรงนั้นไหม?” ยามะพูดพร้อมกับชี้ให้คุมะดู
“ไหน?”
“นั่นไง”
“ไม่เห็นมีเลย” เคตะหันมามองยามะ ยามะขยิบตาข้างหนึ่ง
“ใช่......อยู่ตรงนั้นไง” เคตะช่วยเสริมทันที
“มีจริงอ่ะ”
“เออ” ทั้งคู่พูดพร้อมกัน
“ถ้าแกแบกฉันกับเคตะไม่ได้ก็ห่วยแตกว่ะ” ยามะพูดทำให้คุมะฮึดสู้ปั่นจักรยานจนเข้าไปในโรงเรียน
“เฮ้อ...มาทันจนได้” สิ้นเสียงเคตะพูด เสียงออดก็ดังขึ้นเพื่อบ่งบอกว่าจะต้องเข้าเรียนแล้ว
“เฮ้ย.. เดี๋ยวผู้หญิงคนนั้น อยู่ไหนแล้ว” คุมะถามทั้งสองแล้วก็กวาดสายตาไปทั่วโรงเรียน
“เขาคงเข้าโรงเรียนไปแล้วมั้ง” ยามะตอบ
“จริงเหรอ” คุมะยังซักไซ้อยู่
“เออ... รีบไปเหอะ เดี๋ยวจะเข้าห้องเรียนไม่ทัน” เคตะเริ่มเบื่อกับคำถามของคุมะ ทั้งสามวิ่งกันอย่างเร็ว จนถึงห้องเรียน คุมะเปิดประตู พวกเพื่อนที่คุยกันได้ยินเสียงเปิดประตูก็รีบวิ่งไปนั่งที่ของตัวเองทันที คุมะก้าวเท้าข้างขวาเข้ามาพร้อมหน้าตาอันหล่อเหลาของเขา
“โอ๊ย.. นึกว่าอาจารย์มาซะอีก ไอ้บ้าเอ๊ย” ไซมะเพื่อนในห้องคนหนึ่งพูดขึ้น คุมะ ยามะ และเคตะ ทั้งสามเดินไปนั่งที่ของตน โดยที่ไม่สนใจคำพูดของไซมะเลย
เวลาผ่านไปจนพักกลางวัน เพื่อนๆทยอยกันลงไปทานอาหารที่โรงอาหาร
“ไปกินข้าวกันเถอะ” ยามะพูดชวนเคตะที่นั่งข้างๆตน เคตะทำหน้าสงสัยก่อนเอ่ยเรียก
“ยามะ..”
“อะไร” ยามะสงสัยใบหน้าเคตะที่เรียกตน
“ฉันว่าแกไปหาหมอเถอะ”
“หาหมอเรื่องอะไร?”
“ก็ฉันสังเกตตั้งหลายครั้งแล้ว แกจะหายใจเร็ว หน้าก็ซีดๆ เวลาที่แกวิ่งหรือทำอะไรเหนื่อยๆอ่ะ”
“บ้า... แกจะแช่งฉันเหร๊อ? คนเขาเหนื่อยก็เป็นแบบนี้ทุกคนแหละ”
“เฮ้ย! เปล่า... ก็จริงๆนะ อย่างทำอะไร ไม่หนักเท่าไร แกก็ดูเหนื่อยมากกว่าคนอื่นน่ะ”
“เลิกพูดเลย ฉันสบายดีโว๊ย” ยามะพูดพร้อมกับยิ้ม คุมะเดินมาที่โต๊ะของทั้งสองที่เถียงกันไม่ลงตัวสักที
“ไปกินข้าวเถอะ” คุมะพูดชวนอีกครั้ง
“ดี ไปกันเถอะ” ยามะเดินออกจากห้องไปก่อนเลย เคตะได้แต่ถอนหายใจเมื่อเพื่อนไม่ฟังคำจากตน
ทั้งสามเดินมาถึงโรงอาหาร คนในโรงอาหารดูวุ่นวายกันใหญ่เลย
“เฮ้! ทางนี้” บันเพื่อนต่างห้องอีกคนตะโกนเรียก บันเป็นชายหนุ่มตัวไม่สูงนัก ผมสีดำ ใส่แว่น หน้าตาใสซื่อ ดูเป็นคนรักสงบ ทั้งสามเดินไปหาเขา
“เฮ้ย ฉันเห็นคนเยอะแล้วไม่อยากกินแล้วว่ะ?” คุมะพูดขึ้น
“งั้นฉันไปซื้อข้าวก่อนนะ แกไม่กินก็เรื่องของแก แล้วแกล่ะ?” เคตะหันไปถามยามะ
“ฉันขอผ่าน”
“เออ... ทำเหมือนท้องติดกันงั้นแหละ” เคตะเดินไปทันที
คุมะนั่งลงแล้วมองไปรอบๆ เขาก็ต้องสะดุดสายตาเมื่อเจอหญิงที่ตนรักนั่งอยู่โต๊ะตรงข้ามเขา คุมะรีบเอามือลูบผมตัวเอง แล้วหันมาถามบันที่หน้าตรงหน้าของเขา
“เฮ้ย.. หล่อยัง?”
“ความหล่อมันกินไม่ได้หรอกครับ คุมะคุง” บันพูด
“นี่แกจะไปโปรดสัตว์ที่ไหนก็ไปเลย” คุมะโมโหเล็กน้อย
“เออๆ.. หล่อแล้ว” ยามะพูดเพื่อตัดปัญหา
สักพักนิโนะเดินมาที่โต๊ะ บันเงยหน้ามอง นิโนะคุณหนูผู้ร่ำรวย เธอหน้าตาเหมือนกับตุ๊กตาบาร์บี้เลย ผิวพรรณดี และที่สำคัญเป็นฉายาคู่กายเคตะนั่นเอง
“เอ้า นิโนะจัง” บันพูดทำให้ยามะกับคุมะหันไปมองนิโนะพร้อมกัน
“เคตะอยู่ไหน?” เธอถาม
“แหม... มาถึงก็เรียกหาแต่เคตะเลยนะ” คำพูดของคุมะทำให้นิโนะหน้าแดง เธอยิ่งเขินก็ยิ่งน่ารัก
“ซื้อข้าวอยู่” ยามะตอบพร้อมกับชี้ไปที่เคตะยืน
“ขอบใจนะ” นิโนะรีบวิ่งไปหาเคตะที่ยืนรอต่อแถวอยู่ คุมะได้แต่มองภาพเคตะกับนิโนะที่ยืนควงแขนพูดคุยกันอย่างมีความสุข
“เฮ้อ.. อิจฉาคนที่มีคนรักจังโว๊ย..” คุมะพูดแล้วมองไปที่คาเกะ
“ฉันรู้นะเว๊ย ว่าแกมองใครอยู่?”
“เออ..”
“ผมก็มีคนรักนะ” บันพูดขึ้นมา
“แกนี่นะมีคนรัก” คุมะพูด ยามะสงสัยเช่นกัน
“ก็คงเป็นแม่ชีที่ไหนแน่เลย” คุมะแซว
“บ้าเปล่า?” ยามะหัวเราะออกมา
“แล้วใครล่ะ?” ยามะถามขึ้น บันไม่ยอมเอ่ยปากพูด
“ใคร?” ยามะคะยั้นคะยอบัน
“ไม่เอา ผมไม่บอกดีกว่าครับ”
“เอ้า ขี้โกงนี่หว่า” ยามะเซ็งเลย
“แล้วยามะไม่มีคนชอบเหรอครับ?”บันถามยามะกลับ
“ไม่มีมั้ง”
“เอ้า ตกลงมีไหมเนี่ย” คุมะเองเริ่มอยากรู้เรื่องของยามะบ้าง
“ช่างฉันเถอะ เอาตัวแกให้รอดก่อน”
“เออ... ครั้งนี้แกชนะ จำไว้”
“แกช่วยฉันจำด้วยล่ะว่าแกไม่มีทางชนะฉัน” ยามะพูดพร้อมกับยิ้ม คุมะง้างหมัดจะชกยามะ บันรีบเอามือมากันไว้
“ใจเย็นๆ ค่อยๆคุยกันดีกว่าครับ”
“แกล่ะยุ่ง” ทั้งคู่หันมาว่าบันพร้อมกัน
เคตะเดินมานั่งทานอาหารกับนิโนะ เห็นหน้าตาของทั้งสาม
“ทำอะไรกันว่ะ?”
“เอ้า... พวกนายไม่กินข้าวเหรอ?” นิโนะถามพร้อมกับรอยยิ้ม เธอดูช่างน่ารักเหลือเกิน
“ไม่กินครับ ขอบคุณครับ” บันทำตาเยิ้มใส่นิโนะ
“เฮ้ย... แฟนฉันนะเว้ย ใครกล้าแตะ ตาย!” บันทำหน้าจ๋อยทันที
“ก็นิโนะน่ารักนิครับ”
“ฉันรู้แล้ว” เคตะหันไปยิ้มให้นิโนะ
“แล้วคุมะเป็นอะไร?” นิโนะหันมาถาม คุมะเงียบไม่ยอมตอบ
“ไม่ตอบนี่ไม่ได้ยินหรือทำหูทวนลมว่ะ?” เคตะไม่พอใจ
“อย่าเอะไปครับ ยามะพูดไม่เข้าหูนิดหน่อยเอง”
“เฮ้อ... ไอ้สองคนนี้ชอบกัดกันอยู่เรื่อยเลย”
“ยิ่งทะเลาะแปลว่ายิ่งสนิทกันนะ” นิโนะพูดพร้อมกับยิ้มก่อนที่จะลงมือทานอาหาร
มีเด็กผู้หญิงที่อยู่ม.4 เดินมาที่โต๊ะของคุมะ เด็กคนนั้นมองหน้าคุมะที่ไม่ยอมยิ้มเลย
“พี่คุมะขอถ่ายรูปได้ไหมคะ?” เด็กผู้หญิงคนนั้นพูด เสียงเด็กคนนั้นผ่านเข้าหูของเขา คุมะเปลี่ยนสีหน้าทันที
“ได้ซิครับ” คุมะพูดแล้วโพสต์ท่าหล่อๆให้เด็กคนนั้นถ่าย
“ขอบคุณค่ะ” เด็กคนนั้นเดินไปโดยที่ไม่หุบยิ้มเลย ยามะเอื้อมมือไปตบบ่าคุมะ
“แหม.. แกนี่ยังpopอยู่เลยนะ”
“ผมก็หน้าตาดีนะ” บันพูดขึ้นทำให้คุมะหันไปมองบันทันที
“เหอะ.. หน้าตาแกจะดีก็ตอนที่ฉันไม่อยู่เท่านั้นแหละ” คำพูดของคุมะ ทำให้เคตะและยามะหัวเราะอย่างสะใจ
“ผมโกรธแล้ว”
“แกโกรธเป็นด้วยเหรอ บัน” เคตะพูดพร้อมกับหัวเราะไม่ยอมหยุด บันรีบหันไปทางอื่น เขายังไม่หายโกรธเลย
“โอ๋... เลิกโกรธนะ ทำให้จิตใจให้สงบ หายใจลึกๆ” ยามะแหย่บันแต่บันก็เผลอทำตาม
“โธ่! แล้วทำไมผมต้องทำตามที่ยามะบอกด้วยล่ะครับ?” ยามะยิ้มปนกับหัวเราะ
“เอาเถอะน่า...” คุมะพูดเพื่อหยุดการกระทำไร้สาระของทั้งสอง
ทุกคนเดินขึ้นห้องเพื่อจะเรียนในคาบต่อไป
“เออ.. ผมแยกตรงนี้ล่ะกัน” บันพูดพร้อมกับเดินไปทันที
“อืม... งั้นฉันไปก่อนนะ ห้องเรียนฉันอยู่ตรงนี้น่ะ” นิโนะพูดแล้วเธอก็เดินไป
ทั้งสามเดินจนมาถึงห้องของตัวเอง ตลอดทางที่เดินมา ก็จะมีผู้หญิงมองตามตลอดทาง แต่ละคนเดินไปนั่งที่ของตัวเอง เคตะมองหน้ายามะ ใบหน้าของยามะซีดมากและยังหายใจเร็วอีก เคตะรู้สึกกังวลใจกับอาการของยามะ
“ยามะฉันขอเตือนแกนะ ฉันว่าแกไปหาหมอเถอะ” เคตะพูดด้วยความเป็นห่วงเพื่อน
“เอาอีกแล้ว ฉันนึกว่าแกจะเลิกพูดแล้วนะ”
“จะให้ฉันเลิกพูดได้ไง”
“ก็บอกแล้วว่าฉันสบายดี” เคตะถอนหายใจก่อนที่จะหันหน้ากลับไป เรียวเฮหัวหน้าห้อง2
ที่เต็มไปด้วยหมาดผู้นำของห้องก็เดินออกมาหน้าห้อง
“เฮ้... เพื่อนๆ พรุ่งนี้เป็นวันวาเลนไทน์นะ เพราะฉะนั้นจะไม่มีการเรียนในช่วงหลังพักนะ แต่ตอนช่วงก่อนพัก ฉันเชื่อว่าเพื่อนทุกคนคงไม่อยากเรียน ถูกไหม?” เรียวเฮถามคำถามที่ตรงใจทุกคนในห้อง
“ถูก” เพื่อนทั้งห้องตอบเป็นเสียงเดียวกัน
“ดี... แต่ต้องเรียนว่ะ แล้วห้ามโดดด้วย เข้าใจนะ บอกแค่นี้แหละ” เรียวเฮเดินไปนั่งที่ของตัวเอง พวกเพื่อนๆโวยวายกันเสียงดัง
“เฮ้ย... เงียบหน่อย เตรียมการเรียนในคาบต่อไป” เรียวเฮตะโกนขึ้นมาทำให้เสียงของเพื่อนๆเบาลง
ยามะหันไปหาเคตะที่นั่งอยู่ข้างๆตน
“พรุ่งนี้ไม่อยากมาเลย”
“ทำไมล่ะ?”
“มาก็ไม่ได้ช็อกโกแล็ตจากสาวๆอยู่แล้ว”
“อะไร ปีก่อนแกก็ได้เยอะไม่ใช่เหรอ?”
“เออ.. ใช่ แต่ไม่ใช่ช็อกโกแล็ตคนที่รักให้น่ะ ไม่เหมือนแกนิมีแฟนแล้ว” ยามะพูดแบบน้อยใจ
“ช่วยไม่ได้ว่ะ คนมันเสน่ห์แรงกว่าน่ะ”
หลังเลิกเรียนก็มาถึง ยามะที่เกือบจะนอนมาทั้งคาบ ลุกขึ้นมาบิดขี้เกียจ ไซมะเดินมาที่โต๊ะของยามะแล้วเอ่ยถามว่า
“เออ... ได้ข่าวว่ารูมเมทแกคนเก่าเขาย้ายของออกไปแล้วใช่ไหม?”
“เออ..”
“แล้วใครเป็นรูมเมทคนใหม่ของแกอ่ะ”
“ไม่รู้เดี๋ยววันนี้ก็รู้”
“งั้นฉันกลับก่อนนะ” ไซมะพูดแล้วเดินออกไป
“เอ้า.. แล้วรูมเมทคนเก่านายไปไหนล่ะ?” เคตะถาม
“ได้ข่าวว่าไปต่างประเทศ ไปก็ดี บางวันนะ บ้าพูดอังกฤษกับฉันทั้งคืน ไอ้ฉันไม่เก่งอังกฤษอยู่ แต่มันก็ยังมีดีอยู่ตรงที่มันช่วยสอนภาษาอังกฤษให้ฉัน ไม่รู้คนใหม่จะเป็นไง เพราะอีกไม่นาน ก็จะจบอยู่แล้ว ช่างมันเถอะ”
สักพักบันวิ่งมาที่ห้องคุมะ
“เฮ้... นึกว่าทุกคนไปกันแล้วนะครับเนี่ย”
“เออ.. ทีหลังก็หัดมาให้เร็วกว่านี้หน่อย” คุมะพูด
คุมะสะพายเป้สีแดงของตน ยามะหยิบกระเป๋าสีน้ำเงินคู่กาย แล้วทั้งสี่คนเดินออกมาจากห้อง พอเดินลงมาถึงชั้นสอง พวกผู้หญิงจะมองเป็นตาเดียวกัน แล้วก็มีเสียงเล็ดรอดมาว่า
“ดูซิเหมือนF4 เลยเน๊อะ” ทั้งสี่หยุดเดินทันที แล้วมองหาต้นเสียงก่อนที่จะหันมาจ้องตากัน
“F4 เนี่ยนะ” ทั้งสี่พูดพร้อมกันก่อนที่จะต่างคนต่างเดินไปคนละทางจะได้ดูไม่เหมือน F4
เขาทั้งสี่คนเดินลงมาเจอกันข้างล่าง แล้วก็กลับมารวมกลุ่มกันอีกครั้ง
“พวกเราเนี่ยนะ F4” เคตะพูด
“พวกเราหล่อกว่า F4 ตั้ง 100 เท่า” คุมะพูดยกยอตัวเอง
“แล้วพวกเราจะไปไหนกัน?” ยามะถามขึ้น
“ไปหอแกก่อนยามะ”
“เออ..ก็ได้” ยามะเดินนำไป
หอพักของโรงเรียนอยู่ไม่ไกลจากโรงเรียนไม่มากนัก เป็นตึกที่หรูหราทีเดียว พอถึงห้อง ยามะเปิดประตูเข้าไป
“วันนี้มีอะไรบ้าง? รายงานมา” คุมะเปิดการประชุมทันที
“วันนี้ได้ข่าวจากอินทรีย์ขาวว่า พวกเสือดำมาเหยียบถิ่นของเรา” เคตะพูด
“เลิกเถอะน่าเพื่อนๆ เคตะก็ชอบจริงๆเลยนะครับ” บันพูดห้ามการกระทำของทั้งสอง
“มันกล้ามาเหยียบถึงถิ่นเราเลยเหรอ?”
“นี่...หูตึงหรือเปล่าครับ?” ยามะลุกไปหยิบน้ำให้ทั้งสาม
“เฮ้อ... ก็ยังดีที่ยามะไม่เป็นไปกับเขาด้วยน่ะครับ” บันรู้สึกโล่งใจ
“ฉันว่านะ ล่อให้มันเข้ามาแล้วปิดประตูตีแมวดีกว่า” ยามะพูดขึ้นมา บันฟังแทบจะเป็นลม
“เฮ้อ.. ผมคิดว่ายามะจะไม่เป็นไปกับเขาด้วย สงสัยผมจะคิดผิด”
“ไม่ผิดหรอก ฉันแค่ออกความคิดเห็นเท่านั้น แล้วให้คุมะกับพวกลูกน้องจัดการ” ยามะพูดแล้วยกแก้วน้ำขึ้นดื่ม
“เป็นความคิดที่ดี เอาตามนี้ รอให้พวกมันมาเยอะกว่านี้ก่อน แล้วค่อยลงมือ” คุมะพูด
“เสร็จแล้วก็กลับบ้านไปได้แล้ว ห้องฉันจะรกก็เพราะพวกแก แก และก็แกด้วย” ยามะด่าเรียงตัว
“ผมยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะครับ”
“ฉันจะพักผ่อน เข้าใจหรือยัง?”
“เออ... กลับก็ได้ รีบไล่จังน้า~~ ทำเหมือนซ่อนอะไรไว้งั้นแหละ” สายตาอันเจ้าเล่ห์ของคุมะมองไปที่ตู้เสื้อผ้า เคตะก็รีบวิ่งไปเปิดตู้เสื้อผ้าทันที ในตู้เสื้อผ้าไม่มีอะไร มีแต่เสื้อผ้าของยามะ
“งั้นก็ห้องน้ำ” เคตะรีบวิ่งไปดู ก็ไม่มีอะไรอีก ยามะเดินไปตบหัวเคตะอย่างแรง
“จะกลับหรือยัง?”
“กลับแล้ว แค่นี้ต้องตบหัวด้วย”
“ห้องยามะเรียบร้อยขนาดนี้คงไม่มีผู้หญิงหรอกคร้าบ จะมีก็คงเป็นหนังสือโป๊ที่อยู่ใต้เตียง” บันกำลังจะยกเบาะที่นอนขึ้น สายตาอันน่ากลัวของยามะสัมผัสไปถึงขั้วหัวใจขอบันทันที
“อ่ะ... ล้อเล่นครับ” บันยิ้มแย่ะๆ
“เวลา สถานที่เดิมนะ” คุมะย้ำอีกครั้ง
“ตกลงจะไปตีกับพวกเสือดำจริงหรือครับ?”
“เออ...” ทั้งสองหันกลับมาตอบพร้อมกัน
“ผมไม่ไปได้ไหมครับ?”
“ไม่ได้ แกก็ต้องไปด้วยเหมือนกัน ไอ้บัน” ยามะพูด
“เอ้า.. แล้วทำไมผมต้องตีด้วยล่ะครับ?” บันถาม
“เปล่าไม่ได้ให้แกไปตี ให้แกไปโดนตี เดี๋ยวฝ่ายเราจะไม่มีใครบาดเจ็บเลย” คุมะตอบพร้อมกับรอยยิ้มอันเจ้าเล่ห์นั่น
“บ้าหรือเปล่าครับ”
“เออๆ... กลับกันไปได้แล้ว” ยามะเริ่มรำคราญ ต่างคนต่างแยกย้ายกันกลับ
คุมะปั่นจักรยานกลับบ้าน พอถึงบ้าน
“แม่จะด่าไหมเนี่ย?” คุมะคิดในใจ เขาจอดจักรยานแล้วเดินไปเปิดประตู
“กลับมาแล้วครับ” คุมะเห็นแม่ของตนนั่งดูทีวีอยู่
“กลับมาแล้วเหรอ?” แม่ถาม
“ถ้ายังแม่จะได้เห็นหน้าหล่อของผมไหม?”
“เออ... แกต้องขอบใจฉันเพราะฉันให้หน้าหล่อกับแก” คุมะถอดรองเท้าแล้วเดินเข้ามา
“คร้าบบบบ ขอบคุณมากครับ”
“เดี๋ยวเถอะลูกคนนี้ ไปอาบน้ำได้แล้ว”
“คร้าบบบ แม่ไม่ได้กลิ่นอะไรไหม้ๆไหม?”
“อ๋อ... โชโกะทำช็อกโกแล็ตอยู่”
“ทำช็อกโกแล็ต!” คุมะหัวเราะออกมา แล้วรีบวิ่งไปดูที่ครัว ก็เห็นโชโกะตั้งใจทำ
ช็อกโกแลตมาก
“ฮ่าฮ้าฮ่า ทำช็อกโกแล็ตเหรอจ๊ะน้องสาว ใครเอาไปกินมีหวังซวยแน่ๆ” โชโกะหันมาทำตาดุใส่พี่ชายสุดแสบ
“เฮ้ย แปลกว่ะ ทำไมไม่ปาของว่ะ” คุมะคิดแล้วเดินไป
ความคิดเห็น