คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : บทที่ 5-1
บทที่ 5
หลังจากมื้อค่ำผ่านพ้นนีน่าก็รีบขอตัวออกจากวงสนทนาระหว่างชีคฟารีสกับฮาบิบ ดูเหมือนว่าทั้งคู่กำลังพูดถึงเรื่องบ้านเมืองของพวกเขา และที่สำคัญหญิงสาวต้องการหลบหน้าชีคฟารีส
เพราะอะไรน่ะหรือ
ก็เพราะเธอยินยอมให้เขาจูบโดยไม่ขัดขืนต่อต้านอย่างไรละ และเหตุการณ์นั้นก็เกิดขึ้นท่ามกลางเหล่าองครักษ์ของชีคหนุ่มและคนเรือ ถึงแม้ว่าจะไม่มีใครพูดอะไรออกมาให้เธอต้องรู้สึกอับอาย คงเพราะเกรงอำนาจของชีคหนุ่ม แต่แน่นอนว่าพวกเขาเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด
เป็นแบบนั้นแล้วเธอจะสู้หน้าเขาอีกได้อย่างนั้นหรือ
ไม่เลยสักนิด
ร่างบอบบางอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างรวดเร็ว หญิงสาวสวมเสื้อยืดคอกลมแขนสั้นพอดีตัวกับกางเกงผ้านิ่มขายาวกรอมเท้า เท้าเล็กขยับมาที่เตียง หย่อนสะโพกลงนั่งก่อนจะเอนตัวลงนอน แล้วดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมร่างบอบบางเอาไว้ เว้นเพียงศีรษะและลำคอที่โผล่พ้นผ้าห่มออกมาเพียงเท่านั้น ดวงตาคู่สวยสีดำขลับเหลือบมองไปที่เตียงฝั่งตรงข้าม ซึ่งเจ้าของเตียงก็คือชีคฟารีส พอคิดว่าอีกไม่นานเจ้าของเตียงคงจะมา ความร้อนราวกับมีใครมาสุมไฟกองใหญ่อยู่ใกล้ๆ ก็พวยพุ่งมาที่ใบหน้าจนเปลี่ยนพวงแก้มทั้งสองข้างของหญิงสาวเป็นสีแดงจัด ทั้งๆ ที่ร่างสูงสง่าไม่ได้ปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าเลยด้วยซ้ำ หญิงสาวรีบพลิกตัวหันหลังให้เตียงของชีคฟารีสแล้วหันหน้าเข้าหาผนังห้องแทน เรียวปากอวบอิ่มเม้มสลับคลายอย่างครุ่นคิด มาถึงตอนนี้นีน่ายังไม่ทราบว่าเธอควรจะปฏิบัติเช่นไรดีเมื่อต้องอยู่ต่อหน้าชีคหนุ่ม หรือว่าเธอควรจะแกล้งทำเป็นลืมเลือนเรื่องที่เกิดขึ้นดี เพราะดูเหมือนว่าชีคฟารีสเองก็ไม่ได้แสดงทีท่าใดๆ ออกมา เพราะหลังจากที่ขึ้นจากเรือ ร่างสูงสง่าก็ยังคงแสดงสีหน้าเรียบเฉยเช่นเดิม มีแต่เธอเท่านั้นแหละที่หน้าแดงแล้วก็แดงอีก ถูกอาการเคอะเขินเล่นงานอย่างหนักหน่วงจนต้องหลบหน้าหลบตาเช่นนี้
ร่างบอบบางพ่นลมหายใจพรืดใหญ่ออกมา มือทั้งสองข้างกระชับผ้าห่มเอาไว้แน่น ครั้นจะโทร.ไปปรึกษานีเซียว่าเธอจูบกับชีคฟารีคไปแล้วควรต้องทำอย่างไรต่อไปดี มีหวังนีเซียคงได้ร้องลั่นใส่โทรศัพท์จนเธอแก้วหูแตกแน่
‘เอาไงดีนะ’
คิ้วสวยที่พาดเหนือดวงตากลมโตสีดำขลับขยับเข้าหากันอย่างครุ่นคิด หญิงสาวไม่ทันหาทางออกในเรื่องที่กำลังขบคิดได้ เสียงฝีเท้าที่กำลังก้าวเข้ามาในห้อง ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเป็นชีคฟารีส เปลือกตาบางใสจึงรีบปิดเข้าหากันแน่น ทำทีเป็นว่าเธอเข้าสู่ห้วงนิทราไปแล้ว
ครืด…
เสียงเลื่อนบานประตูทำให้นีน่าพลิกตัวหันไปมอง ดวงตาคู่สวยทันเห็นแผ่นกว้างหายเข้าไปในห้องน้ำพอดี หญิงสาวลอบเป่าปากอย่างโล่งอก
‘หยุดฟุ้งซ่านได้แล้วนีน่า ท่านชีคอาจจะลืมไปแล้วก็ได้ว่าเคยจูบเรา’
พอคิดได้แบบนั้นร่าบอบบางก็พลิกตัวกลับมาหันหน้าเข้าหาผนังอีกครั้ง เปลือกตาบางใสค่อยๆ ปิดลง ร่างบอบบางนอนอยู่ในท่าเดิมราวๆ สิบนาที ทว่าไม่อาจพาตัวเองให้เข้าสู่ห้วงนิทราได้ จนกระทั่งเสียงบานประตูถูกเลื่อนดังขึ้นอีกครั้ง ร่างเล็กก็เกร็งเครียด เกิดอาการหายใจไม่ทั่วท้องตอนที่ได้ยินเสียงฝีเท้าเข้ามาใกล้มากยิ่งขึ้น เปลือกตาบางใสยิ่งปิดเข้าหากันแน่น
“นีน่า หลับหรือยัง”
เสียงทุ้มที่ดังอยู่ไม่ไกลนักทำให้นีน่าต้องกลั้นหายใจไปชั่วขณะ ก่อนจะค่อยๆ ผ่อนลมหายใจออกมาแผ่วเบา หญิงสาวจงใจไม่โต้ตอบ ให้เขาคิดเสียว่าเธอหลับไปแล้วน่าจะดีที่สุด เพราะเธอไม่ปรารถนาจะเผชิญหน้ากับเขาเพียงลำพังเช่นนี้
เขาอาจจะลืมเรื่องที่เกิดขึ้นไปแล้ว
แต่แน่นอนว่าเธอไม่ได้ลืม
สู้แกล้งหลับไปเสียแบบนี้น่าจะดีกว่า
“คุณหลับแล้วงั้นเหรอ”
นีน่าคิดว่าการทำแบบนี้จะทำให้เธอเลี่ยงการเผชิญหน้ากับชีคฟารีสได้ แต่ดูเหมือนว่าหญิงสาวจะคิดผิดถนัด เพราะเมื่อเธอจงใจไม่โต้ตอบ ร่างสูงสง่าก็นั่งลงบนเตียงของเธอแล้วเอนตัวลงนอนซ้ำยังยกท่อนแขนแข็งแกร่งวางพาดบนเอวของหญิงสาวเสียดื้อๆ
“ฝ่าบาท!”
นีน่าเรียกคนสูงศักดิ์กว่าอย่างตระหนก ร่างบอบบางรีบหันกลับมามองใบหน้าคมคายอย่างร้อนรน ดวงตาคู่สวยเบิกกว้าง ร่างกายของหญิงสาวเกร็งเครียดไปทั้งร่างเมื่อลมหายใจอุ่นร้อนรินรดลงบนผิวแก้มของเธออย่างพอดิบพอดี
“ผมคิดว่าคุณหลับไปแล้วซะอีก”
“ถะ ถึงหม่อมฉันจะหลับไปแล้ว ฝ่าบาทก็ไม่ควรทำแบบนี้นะเพคะ”
หญิงสาวร้องท้วง ดวงตาคู่สวยเหลือบมองใบหน้าหล่อเหลาที่อยู่ห่างไปเพียงไม่กี่คืบ ดวงตากลมโตไหวระริก ลมหายใจหญิงสาวเริ่มไม่เป็นปกติเมื่อคนตรงหน้าเอาแต่จ้องเธอ และภายใต้สีหน้าเรียบเฉยนั้นเธอรับรู้ได้ว่านัยน์ตาสีน้ำตาลทองคู่นั้นกำลังเปล่งประกายเจิดจ้า และมันก็ส่งผลให้หัวใจของเธอทำงานหนักขึ้นอย่างน่ากังวล
แต่ที่น่ากังวลกว่าการที่เขาไม่ยอมละสายตาจากเธอนั่นก็คือท่อนแขนกำยำยังคงวางพาดอยู่บนเอวของเธอซ้ำยังออกแรงรั้งให้ร่างของเธอเข้าไปแนบชิดกับเรือนกายกำยำมากขึ้น
“ดะ ได้โปรดปล่อยหม่อมฉันเถอะนะเพคะ”
หญิงสาวอ้อนวอนเขา แต่นอกจากเขาจะไม่เมตตาเธอแล้ว ใบหน้าหล่อเหลายังเคลื่อนเข้ามาใกล้มากยิ่งขึ้นจนกระทั่งลมหายใจอุ่นร้อนตกกระทบลงที่ปลายจมูกของเธอ
“กะ ใกล้เกินไปแล้วนะเพคะ”
นัยน์ตาสีน้ำตาลทองฉายแววขบขันกับท่าทางประหม่าของร่างเล็กในอ้อมแขน เรือนกายบอบบางสั่นเทาอย่างน่าเห็นใจ เขาเองก็อยากจะเมตตาเธออยู่เหมือนกัน ทว่ากลิ่นกายหอมละมุนที่เขาเผลอสูดเข้าปอดครั้งแล้วครั้งเล่ามันเรียกร้องให้ร่างกายของเขาไม่อาจละเว้นหญิงสาวได้
“แค่นี้ไม่เรียกว่าใกล้เกินไปหรอกนีน่า”
“...”
“ต้องแบบนี้”
“ฝ่าบาทอื้อ...”
หญิงสาวมีโอกาสร้องท้วงได้เพียงเท่านั้นริมฝีปากได้รูปก็กดลงบนเรียวปากของเธอ ครั้นหญิงสาวจะร้องท้วงใบลิ้นอุ่นร้อนก็สอดแทรกเข้าในโพรงปากของเธอ กวาดชิมความหวานละมุนอย่างเรียกร้องเอาแต่ใจ ลิ้นเล็กที่พยายามจะหดหนีในคราวแรกก็ถูกใบลิ้นร้อนร้ายตามติดตวัดรัดรึง กล้ามเนื้อในอกซ้ายของหญิงสาวเต้นระรัว ลมหายใจก็เริ่มหอบสะท้าน ฝ่ามือเล็กทั้งสองข้างทาบลงบนแผ่นอกแข็งแกร่ง นีน่ารวบรวมเรี่ยวแรงทั้งหมดที่มีพยายามผลักไสเรือนกายสูงใหญ่ให้ออกห่าง ทว่าความพยายามของหญิงสาวก็เป็นได้แค่ความพยายาม เมื่อเรือนกายแข็งแกร่งดุจหินผาไม่แม้แต่จะขยับเขยื้อน ซ้ำร้ายไปกว่านั้นเขายังพลิกตัวขึ้นเหนือร่างของเธออย่างอุกอาจ
“ฝ่าบาท...”
นีน่ามีโอกาสได้ร้องเรียกคนเหนือร่างตอนที่ริมฝีปากหยักสวยยอมผละออกห่างเพื่อให้เธอได้โกยอากาศหายใจเข้าปอด ดวงตาสีดำขลับไหวระริกยามที่สบเข้ากับนัยน์ตาสีน้ำตาลทองที่สาดประกายร้อนแรงเข้าใส่ เพียงครู่เดียวหญิงสาวก็รีบหลบสายตาเพราะไม่อาจทานทนต่อสายตาที่ทำให้จังหวะการเต้นของหัวใจของเธอถี่ขึ้นอย่างน่ากังวล พวงแก้มทั้งสองข้างของหญิงสาวเปลี่ยนเป็นสีแดงจัดอย่างที่เธอไม่สามารถควบคุมได้
“นีน่า ผมไม่เคยปรารถนาผู้หญิงคนไหนมากขนาดนี้มาก่อน”
“...”
“และผมหวังว่าคุณจะไม่ปฏิเสธความปรารถนาของผม”
ความคิดเห็น