คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : บทที่ 4-3
“สวยมาก”
ชีคฟารีสให้คำตอบเธอ ทว่าดวงตาคมกริบไม่ได้จับจ้องไปที่ดวงอาทิตย์ดวงใหญ่ที่กำลังจะลาลับขอบฟ้า แต่ทว่ากำลังจับจ้องอยู่ที่ดวงหน้าหวานซึ้งที่กำลังคลี่ยิ้มกว้าง จนร่างสูงสง่าไม่อาจละสายตาไปจากหญิงสาวได้เลย
และตอนนี้ชีคหนุ่มก็ยอมรับว่ารู้สึกถูกใจความเป็นธรรมชาติของนีน่ามากกว่าผู้หญิงคนอื่นๆ
นีน่าหันมายิ้มให้ชีคหนุ่มอย่างเผลอตัว แต่พอสบเข้ากับดวงตาคมกริบก็เกิดอาการเก้อเขินจนต้องรีบดึงสายตากลับไปที่ดวงตะวันที่ใกล้จะลาลับขอบฟ้าอีกครั้ง ความร้อนพวยพุ่งที่พวงแก้มทั้งสองข้างของหญิงสาวเมื่อรู้ว่าชีคหนุ่มยังคงจับจ้องสายตาอยู่ที่เธอ แต่ถึงกระนั้นเธอก็ไม่อาจหาญพอที่จะเอ่ยปากห้ามปรามเขา จำต้องปล่อยให้คนสูงศักดิ์ใช้สายตามองเธออยู่แบบนั้นตามอำเภอใจ
“กลับกันเลยไหมเพคะ”
หลังจากที่ตะวันลับขอบฟ้าแล้วดวงจันทร์สีเหลืองนวลค่อยๆ ขึ้นมาแทนที่พร้อมๆ กับหมู่ดาวที่สาดส่องประกายระยิบระยับ นีน่าหันมาถามชีคฟารีส ชีคหนุ่มไม่ได้ให้คำตอบในทันที แต่เขายังคงใช้นัยน์ตาสีน้ำตาลทองอร่ามที่ทรงเสน่ห์ทอดมองที่ใบหน้าเนียนใสของหญิงสาว ท่ามกลางบรรยากาศโรแมนติกเช่นนี้ทำให้กล้ามเนื้อในอกซ้ายของนีน่าเต้นถี่ขึ้นเพียงแค่ถูกมองด้วยสายตาเช่นนั้น
“เอ่อ ฝ่าบาทเพคะ”
เมื่อเห็นว่าคนสูงศักดิ์ยังคงนิ่งเฉยไม่ให้คำตอบ เว้นเพียงดวงตาคมกริบที่เป็นประกายเจิดจ้ายามที่มองเธอเท่านั้น แค่นั้นก็เพียงพอแล้วที่ทำให้นีน่ารู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง
“นีน่า คุณรู้ไหมว่าคุณสวยมาก”
“คือหม่อมฉัน…”
นีน่าไม่ทราบว่าเธอควรจะให้คำตอบคนสูงศักดิ์กว่าเช่นไรดี หากเธอจะตอบออกไปว่า ‘หม่อมฉันทราบเพคะ’ จะไม่เป็นคนดูมั่นอกมั่นเกินไปหน่อยหรือ หญิงสาวจึงเลือกหลุบสายตาลงต่ำเลี่ยงการตอบคำถามนั้น แต่ดูเหมือนว่าชีคฟารีสจะไม่ยินยอมให้หญิงสาวได้ทำแบบนั้น เขายกมือข้างหนึ่งขึ้น ใช้ปลายนิ้วเรียวยาวแตะเบาๆ ที่ปลายคางของนีน่า ออกแรงดันเพื่อให้เจ้าของดวงหน้าหวานซึ้งแหงนเงยใบหน้าขึ้นเพื่อจะได้สบสายตากัน
“อย่าหลบสายตาผมเลยนีน่า”
“...”
“คุณรู้ไหมว่าคุณมีดวงตาที่สวยมาก ดวงตาของคุณเหมือนดวงตาของลูกกวาง”
“...”
“รอยยิ้มของคุณก็งดงาม”
“...”
“และเรียวปากของคุณก็ชวนให้ผมอยากลองสัมผัสดูสักครั้ง ผมอยากจะรู้ว่าเรียวปากของคุณจะนุ่มและหวานอย่างที่ผมจินตนาการเอาไว้หรือเปล่า”
ชีคฟารีสไม่ทำแค่เพียงพูดเท่านั้น คนสูงศักดิ์ยังใช้นิ้วหัวแม่มือคลึงริมฝีปากอวบอิ่มของนีน่าอย่างหยอกเย้า นีน่าทราบว่าเธอควรต้องห้ามปรามการกระทำของคนตรงหน้า แต่นอกจากเธอจะไม่สามารถเอ่ยห้ามปรามเขาได้แล้ว ร่างกายของเธอกลับเชื่อฟังปล่อยให้เขาแตะต้องเรียวปากของเธอเล่นตามแต่ใจปรารถนา
“ให้ผมได้ลองใช้ริมฝีปากของผมสัมผัสริมฝีปากของคุณได้ไหมนีน่า”
นีน่าไร้โอกาสปฏิเสธเพราะทันทีที่คนตรงหน้ากล่าวจบริมฝีปากร้อนผ่าวก็แนบลงบนเรียวปากของเธอ ร่างกายของหญิงสาวเกร็งเครียดขึ้นมาฉับพลัน มือทั้งสองข้างที่เคยวางบนหน้าขากำเข้าหากันแน่น กล้ามเนื้อในอกซ้ายของหญิงสาวเต้นถี่รัวตอนที่คนสูงศักดิ์แตะต้องเรียวปากของเธออย่างลึกซึ้ง
ลมหายใจของหญิงสาวเริ่มหอบสะท้านเมื่อชีคหนุ่มพรากลมหายใจไปจากเธออย่างไม่เกรงอกเกรงใจ ก่อนที่จะยอมถอนริมฝีปากร้อนรุ่มออกไปอย่างอ้อยอิ่ง ในขณะที่นัยน์ตาสีน้ำตาลทองอร่ามไม่ได้ละสายตาไปจากดวงหน้าเนียนใสที่เปลี่ยนเป็นสีแดงจัดของหญิงสาวเลย ซ้ำมุมปากได้รูปยังยกยิ้มนิดๆ คล้ายต้องการล้อเลียน
“ริมฝีปากของคุณทั้งนุ่มทั้งหวานอย่างที่ผมเคยจินตนาการเอาไว้จริงๆ ด้วยนีน่า”
ยิ่งเขาพูดแบบนั้นความร้อนก็ยิ่งพวยพุ่งมาที่ใบหน้าของหญิงสาว พวงแก้มทั้งสองข้างของเธอแดงจัด ดวงตาคู่สวยไหวระริกยามที่สบเข้ากับนัยน์ตาคมกริบสีน้ำตาลทองที่ยังคงจับจ้องอยู่ที่ใบหน้าของเธอ ดวงตาคู่สวยหลุบลงต่ำตอนที่ใบหน้าคมคายเคลื่อนเข้ามาใกล้ ทำท่าจะแตะริมฝีปากได้รูปลงบนเรียวปากของเธออีกครั้ง
“ฝ่าบาท เมตตาหม่อมฉันด้วยเพคะ”
ชีคฟารีสยกยิ้มมุมปากกับคำร้องขอของนีน่า ดวงตาคมกริบยังคงจับจ้องอยู่ที่ร่างบอบบางที่กำลังก้มหน้างุด พลางเอ่ยอย่างหยอกเย้า
“จะให้ผมเมตตามอบจุมพิตให้คุุณอีกครั้งหรือว่า…”
“โปรดละเว้นหม่อมฉันด้วยเพคะ”
คราวนี้นีน่ายอมเสียมารยาทเอ่ยแทรกก่อนที่ชีคฟารีสจะทันได้กล่าวจบ คนสูงศักดิ์มองเธออย่างเอ็นดู ก่อนที่ริมฝีปากได้รูปจะขยับบอกอย่างชัดถ้อยชัดคำ
“นีน่า เรื่องที่คุณร้องขอเป็นเรื่องที่ยากมาก แต่ก็เอาเถอะ คราวนี้ผมจะยอมละเว้นไปก่อนก็ได้”
ชีคฟารีสยอมเคลื่อนใบหน้าคมคายออกห่าง มุมปากหยักยกยิ้มนิดๆ แต่แน่นอนว่านีน่าไม่มีโอกาสได้เห็นเพราะมัวแต่ก้มหน้างุด ก่อนที่เสียงทุ้มจะออกปากสั่งคนเรือ
“กลับได้”
“ครับ”
คนเรือพยักหน้ารับแล้วพายเรือมุ่งหน้าไปที่ท่าเรือซึ่งก็คือโรงแรมที่เป็นที่พัก เรือของเหล่าองครักษ์ก็ค่อยๆ เคลื่อนตามเรือของชีคฟารีสกับนีน่าไป ฮาบิบเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด องครักษ์หนุ่มแสดงสีหน้าครุ่นคิด
ท่านชีคไม่เคยแสดงท่าทีอ่อนโยนกับผู้หญิงคนไหนมาก่อน แม้แต่ว่าที่พระคู่หมั้นอย่างท่านหญิงมาฮา ยังไม่เคยได้รับความอ่อนโยนเช่นนี้
เห็นทีงานนี้คงจะได้มีงานเฉลิมฉลองเษกสมรสและคงมีการแต่งตั้งพระชายาเสียแล้วกระมัง
ความคิดเห็น