เรื่องนี้หาพระเอกไม่เจอ (ภาคมนุษย์)
ถูกผิดยังแยกแยะมิได้ กล้าดีอย่างไรถึงชี้นำข้า....เทียนตี้ เทพศัสตรากล่าวด้วยเสียงเกรี้ยวกราด นางมองบุรุษตรงหน้าอย่างเกลียดชัง ภายในก็ชนึกขบคันระคนสมเพชตนที่ครั้งหนึ่งเคยลุ่มหลงบุรุษผู้นี้
ผู้เข้าชมรวม
1,714
ผู้เข้าชมเดือนนี้
19
ผู้เข้าชมรวม
นิยายย้อนยุค ย้อนยุค พระเอกร้าย จีนโบราณ เทพเซียน ดราม่า เกิดใหม่ แก้แค้น โรแมนติก ย้อนเวลา ไหวพริบ ความรัก แม่ทัพ รัชทายาท นางเอกร้ายว่า
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
นิยายเรื่องนี้หนักไปทางรักดราม่านะคะ (แจ้งไว้ก่อนจ้า) อาจมีบทวาบหวิวอยู่บ้างประปราย เนื้อเรื่องเน้นไปทางแก้แค้น เพราะฉะนั้นตัวเอกอย่างหมิงหลันอาจเป็นนางเอกหรือนางร้ายในสายตาคุณก็ได้ เรื่องสถานที่หยิบยกขึ้นมาเลาในเรื่องไม่มีจริงไม่ได้อิงอะไรเลยหวังว่าผู้อ่านจะไม่ถือสานะคะ ตอนนี้เริ่มไล่แก้สำนวนใหม่ปรับเปลี่ยนโครงเรื่องให้กระชับ
๐๐๐๐๐ตัวละครทุกตัวและสถานที่ล้วนสมมติขึ้นมาค่ะ๐๐๐๐๐๐
คำโปรย
สวรรค์สร้างนางขึ้นมาเพื่อเชื่อมเคราะห์กรรมระหว่างจอมมาร มิรัก มิอาจเคียงคู่ มิอาจหลุดพ้น ความหยิ่งทนงของนางจะหลุดจากบัญชาสวรรค์ได้หรือไม่
“ถูกผิดยังแยกแยะมิได้ กล้าดีอย่างไรถึงชี้นำข้า....เทียนตี้”
หมิงหลันประกาศกร้าวดังก้องไปทั่วพื้นพิภพ สายตาที่เต็มไปด้วยความชิงชังจ้องมองบุรุษตรงหน้าอย่างหยิ่งทนง สองมือบางจับดาบแน่นเตรียมฟาดฟันศัตรูที่อยู่ตรงหน้าให้ดับสูญ จิตใจที่แหลกลาญเพราะบุรุษผู้นั้นพลักดันให้นางก่อสงครามกับสวรรค์
“ข้าไม่ได้มีชีวิตอยู่เพื่อท่าน เลือกเอาหากวันนี้ไม่ปล่อยข้าไป.....ก็ยกดาบออกมาหยุดข้า” นางเอ่ยขึ้นก่อนเดินหันหลังจากไป คำกล่าวสุดท้ายที่นางฝากไว้คือคำบอกลาอย่างสันติ คือสิ่งที่นางยอมถอยเพื่อตอบแทนบุญคุณของเขาครั้งสุดท้าย
บุรุษอาภรณ์ขาวยื่นนิ่งงันต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เขาไม่อาจปล่อยวางสตรีที่ตนรักไปได้ แต่ก็ไม่อาจฉุดรั้งนางต่อไปได้อีกเช่นเดียวกัน
“เทียนตี้” เสียงเข้มดังขึ้นท่ามกลางบรรยากาศตึงเครียด เทพสงครามหานตงเอ่ยเรียกพร้อมคุกเข่าคาราวะบุรุษอาภรณ์ขาวตรงหน้า
บุรุษอาภรณ์ขาวค่อยๆปรายตากลับมามองอย่างช้าๆ ดวงตาเยือกเย็นส่งต่อความกดดันให้เทพสงครามจนเขาต้องลดหน้าก้มลง
“ปล่อยหรือ.....ตั้งแต่ที่เจ้าเลือกไปจากข้า.......สงครามได้เริ่มต้นขึ้นแล้วหมิงหลัน” เสียงเย็นยะเยือกเค้นผ่านลำคอด้วยความเครียดแค้น ยามนี้ความสุขุมที่เคยมีเลือนหายไปจนสิ้น บุรุษที่เคยอบอุ่นเริ่มร้อนลุ่มยิ่งกว่าเปลวเพลิงโลกันตร์ เขาเลือกที่จะก่อสงครามกับจอมมารจิ้นสิงอีกครั้ง
ชีวิตที่ถูกกำหนดโดยโชคชะตาแห่งเคราะห์กรรมจะเป็นเช่นไร บุณคุณ ความแค้น ความรัก ความลุ่มหลง เชื่อมโยงชะตาของทั้งสี่ไว้คลายปมที่ไม่มีวันแก้
แนะตัวละคร
ปฐมเทพฮุ่ยเหอ เทพที่สามารถทำนายอนาคตได้อย่างแม่นยำ ความลับสวรรค์ที่เขาล่วงรู้ทำให้หวาดกลัวอนาคตที่กำลังเกิดขึ้น ความเมตตา ความห่วงหา พลักดันให้เขาพยายามเปลี่ยนแปลงอนาคต แม้จะถูกสวรรค์ลงโทษก็ยินยอม ปฐมเทพฮุ่ยเหออายุยืนยาวมากกว่าห้าหมื่นปี รูปทรงอ้วนท้วม ใบหน้ายิ้มแย้มตลอดเวลา สีผิวที่ดำละเอียดกับสีผมที่ขาวโผนดั่งหิมะหนุนส่งความน่านับถือให้เขามากทีเดียว ร่างเติมของเขาเป็นเต่ายักษ์บริวารของเทพแห่งน้ำ นามเสวี่ยนอู่ หลังจากเกิดสงครามระหว่างเทพแห่งไฟและเทพแห่งน้ำ เขาก็หลีทางโลกหลบกายซ่อนตนอยู่บนหุบเขาเหลียงซาน *ปัจจุบันรู้จักในชื่อ เกราะไร้นาม* ก่อตั้งสำนักไร้นามปฏิญาณตนไม่ยุ่งเกี่ยวกับสามภพ มีศิษย์ลูกศิษย์ทั้งหมดสี่คน
ศิษย์เอก หยางเกา บุรุษที่เชื่อมั่นในอุดมคติของตน ความสุขุมที่แฝงได้ด้วยความเยือกเย็นถูกเก็บซ่อนอยู่ในกายไม่มีผู้ใดล่วงรู้ เขาเป็นคนแน่วแน่หากมีจุดประสงค์อันใดต้องฝ่าฟันทำให้สำเร็จ หยางเกาเข้ามาอยู่ในสำนักคนเเรกด้วยการฝากฝังของเทพสวรรค์ชั้นสูงผู้หนึ่ง ต้นกำเนิดของเขายังเป็นปริศนา การดำรงอยู่เรียบง่าย เขาฝักใฝ่ตำราธรรมและกลศึกยุทธศาสตร์ นานวันจึงจมอยู่ในหอคัมถีร์ไม่สุงสิงกับศิษย์ใด ยกเว้นศิษย์น้องเล็กที่แวะเวียนมาหยอกล้อเขาเป็นประจำ ด้วยรูปร่างที่สูงสง่า ดวงตาสีน้ำตาลที่ดูอบอุ่นและรอยยิ้มอ่อน ทำให้รูปลักษณ์ของเขาดูใจดี ดูปลอดภัย เมื่อยามอยู่ใกล้
ศิษย์อันดับสอง เยว่ฉี ถูกขนาดนามว่า สตรีที่งดงามที่สุดในสามภพ ทั้งร่างระหงที่สมส่วนชวนฝัน ทั้งกริยาที่เพียบพร้อมชวนเคลิ้ม ทำให้นางได้ฉายานามนี้มาโดยง่าย เดิมเยว่ฉีเกิดในเผ่าหงส์แดง แต่กลับไร้วาสนา ในยามที่นางเกิดกลับไร้ขนแลดูน่ารังเกลียด เผ่าหงส์แดงยึดถือความเพียบพร้อมยิ่งนักจึงขับไล่นางออกจากเผ่า ความเจ็บปวดในครานั้นส่งผลให้นางมีจิตใจที่อ่อนแอไร้ความเชื่อมั่น ไม่กล้าเผชิญกับเรื่องต่างๆ ปฐมเทพฮุ่ยเหอเวทนาต่อเคราะห์กรรมของนางจึงรับนางเข้าเป็นศิษย์ของตน และพร่ำสอนวิธีปรุงยาจากดอกไม้ให้นาง
ศิษย์อันดับสาม จิ้นสิง ร่างกายกำยำ สีผิวออกคล้ำไม่ขาวผุดผ่องดังคนทั่วไป ใบหน้าคมคายบรับกับดวงตาสีเทาหม่นแลดูชวนหลงไหล เขาเป็นคนดื้อรั้นไม่เชื่อฟังใครง่ายๆ แต่ก็ฉลาดพอที่รู้ว่าเวลาใดควรลุกเวลาใดควรถอย สิ่งที่เขาเชี่ยวชาญที่สุดคือวางค่ายกล เขตอาคมที่เขาสร้างขึ้นล้วนแต่แข็งแกร่งไม่อาจทำลายได้ง่าย อีกทั้งสมองยังเต็มไปด้วยเหล่เหลี่ยม เขาไม่ละอายหากต้องลวงหลอกผู้อื่นเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ตนต้องการ แต่แล้วความเจ็บปวดในอดีตก็ทำให้เขาตั้งสินใจผิดพลาดจนก่อสงครามอันยิ่งใหญ่ขึ้น สงครามในครานี้ไม่เพียงแต่พรากชีวิตผู้คนมากมาก แต่มันยังพรากจิตวิญญาณเสี้ยวสุดท้ายของเข้าไปด้วย
หลังจบศึกจิ้นสิงกลับคืนร่างเดิม รูปร่างของเขาเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง จากผิวที่เคยดำคล้ำก็ขาวซีดไร้เลือด ผมที่ดำขลับก็ถูกแทนที่ด้วยสีเงินมันวาวทั้งหมด เหลือไว้เพียงดวงตาที่ยังคงเป็นสีเทาเพิ่มประกายสีฟ้าแลดูมีชีวิตมากขึ้น
ศิษย์อันดับสี่ หมิงหลัน รูปร่างเล็กกว่ามาตรฐานหญิงทั่วไป ใบหน้าที่ดูอ่อนหวานมักจะทำให้คิดว่านางยังเป็นเด็กอยู่เสมอ ผิวขาวเนียนละออดุจไข่มุกเม็ดงาม ดวงตากลมโตเป็นประกายใสดั่งหยกน้ำ จมูกเรียวเล็กรับกับปากที่อวบอิ่มสีแดงระเรื่อ เครื่องหน้างดงามเหนือสตรีอื่น แต่นิสัยแปลกประหลาดเดาทางยากกับความดื้อรั้นที่ชอบกลั้นแกล้งผู้อื่นจึงไม่มีสหายมากนัก มีเพียงแต่จิ้นสิงที่เป็นเพื่อนเล่นกันตั้งแต่เล็กจนโต หมิงหลันกำเนิดจากปราญหินทั้งห้าของเจ้าแม่หนี่วาส่งผลให้นางสามารถสร้างสรรค์ศัสตราวุธที่มีอนุภาพร้ายกาจออกมาได้อย่างมากมาย
ผลงานอื่นๆ ของ Yah-U ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ Yah-U
ความคิดเห็น