ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Dark Tales นิทานก่อนตาย

    ลำดับตอนที่ #3 : ก่อนการกักบริเวณ(ครึ่งแรก) :: โรงเรียนของเราน่าอยู่?...

    • อัปเดตล่าสุด 19 ส.ค. 55


     

     

    คุณจำความรู้สึกแรกตอนที่เดินเข้าโรงเรียนได้ไหม? 

              แน่นอนว่าหลายคนคงจะต้องรู้สึกตื่นเต้น หรือประหม่า  ผมเองก็เหมือนกัน...


               ผมตื่นเต้นมากๆ ตอนที่ก้าวเท้าข้างนึงข้ามเข้ามาในเขตรั้วโรงเรียน ภาพของเด็กนักเรียนมากหน้าหลายตา หลากบุคลิกนิสัย เดินกันขวักไขว่ทำให้ผมอยากรู้จัก  แต่คุณรู้ไหมคนเรามักจะตื่นเต้นกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ก็ต่อเมื่อมันเป็นครั้งแรกของเราเท่านั้น... คงไม่มีใครตื่นเต้นหากคุณเดินเข้าออกประตูนี้ซ้ำกันทุกวันเป็นรอบที่ร้อยแปด

     

    แต่สำหรับผมกลับตรงกันข้าม...


             เพราะในขณะที่ผมยืนอยู่หน้าทางเข้าของโรงเรียนมัธยมปลายชื่อดัง ผมกลับมีความรู้สึกตื่นเต้นอย่างแปลกประหลาด อาจเป็นเพราะ นี่เป็นครั้งแรกที่ผมกลับมาเข้าเรียนหลังจากต้องนอนโรงพยาบาลเป็นอาทิตย์... แต่อันที่จริงเป็นเพราะผมรู้ดีว่าผมจะต้องกลับมาเจอทุกคนอีกครั้ง

     

    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -


              เผื่อคุณจะจินตนาการไม่ออก โรงเรียนมัธยมปลายฮอลโลเวลล์ คือโรงเรียนสุดไฮโซที่มีตึกเรียนเพียงแค่สองตึกเท่านั้น ตึกแรกเราเรียกว่าตึกกิจกรรมซึ่งมีไว้ทำกิจกรรมสมชื่อ เพราะภายในและโดยรอบประกอบไปด้วยโรงยิม โรงอาหาร โรงละคร หอประชุม โรงเพาะปลูกพันธุ์พืช ห้องคหกรรม  ลานกว้างสำหรับนั่งเล่น สวนดอกไม้ สระว่ายน้ำ สนามบาส สนามบอล สนามวอลเล่ย์ และ ลู่วิ่ง 


             ส่วนตึกที่สอง เราไม่มีชื่อเล่นให้ แต่ทุกคนรู้กันว่าที่นี่คือตึกเรียน ซึ่งประกอบไปด้วยอะไรก็ตามที่ไม่มีอยู่ในตึกแรก และด้วยความสูงเก้าชั้น บวกกับทางเดินที่วกวนจึงทำให้หลายคนหลงได้ง่ายแม้จะเรียนที่นี่มาสามปีแล้วก็ตาม

     - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - 


    กลับมาที่ผมต่อ

     

               สำหรับสิ่งแรกที่ผมสังเกตเมื่อเดินเข้ามาภายในเขตโรงเรียนก็คือการตกแต่งนักเรียนหลายคนกำลังง่วนกับการตกแต่งต้นไม้ ทางเดิน ตึก ด้วยไฟหลากสี และป้ายฟ้าสีดำที่วาดรูปตัวละครแนวผีๆและตัวอักษรที่สีแดงเหมือนเลือด แต่สิ่งที่ทำให้ผมเข้าใจทุกอย่างได้ก็คือฟักทองแกะสลักซึ่งเป็นสัญลักษณ์ประจำวันฮาโลวีน


              โอ้ว!..เจ๋ง วันนี้วันฮาโลวีน!!... ในขณะที่ผมพยายามเปลี่ยนการแต่งตัวให้ธรรมดาเข้ากับคนอื่น แต่วันนี้ทุกคนกลับใส่ชุดแฟนซีมาเดินกันอย่างสบายใจเฉิบ นี่ผมจะไม่มีวันเลิกกลายเป็นตัวประหลาดได้เลยใช่ไหมเนี่ย?

     

    ว่าแล้ววันนี้ผมก็จะแนะนำเกมใหม่ให้กับทุกคน เกนนี้ชื่อเกมว่า
    ถ้านี่เป็นหนังสยองขวัญ....
              วิธีเล่นก็ง่ายๆ แค่คิดดูว่าถ้าเหตุการณ์ที่คุณเจออยู่นี่เป็นหนังสยองขวัญ มันควรจะเป็นยังไง.....? ผมจะยกตัวอย่างให้ดูนะ..


               ผมกำลังอยู่บนทางเดินของตึกเรียน นักเรียนคุ้นหน้าหลายคนเดินไปมาและพูดคุยกันสนุกสนาน ถ้านี่เป็นหนังสยองขวัญละก็ คงจะเปรียบได้เหมือนตอนเริ่มเรื่องของหนัง ที่ตัวเอกเดินเข้ามาในโรงเรียน และจะมีการแนะนำตัวละครเกิดขึ้น เช่นประมาณว่าเพื่อนของตัวเอกมีใครบ้าง นิสัยยังไง บุคลิกยังไง ใครเป็นแฟนใคร ใครไม่ถูกกับใคร และใครแอบชอบใคร  


             ผมเองก็จะขอแนะนำบุคคลที่เรียกว่าเป็นเหล่าเพื่อนผู้ที่ผมรู้จักเขา แต่เขาไม่รู้จักผมเริ่มจาก ผู้หญิงสองคนที่กำลังตกเป็นเป้าสายตาของใครหลายคน ณ ตอนนี้ ทั้งคู่เดินมาด้วยท่าทางมาดมั่น


              คนแรกที่ผมยาวสีบลอนด์ทอง ใส่ชุดเชียร์หลีดเดอร์ และใส่เขี้ยวแวมไพร์ปลอมๆ ชื่อว่า เกล ริบเล่ย์ เกลคือสาวสวยที่ได้รับตำแหน่งดาวโรงเรียนเมื่อปีกลาย เธอเป็นหัวหน้าทีมเชียร์หลีดเดอร์ และเป็นสาวที่หนุ่มๆทุกคนต่างหมายปอง สำหรับเธอแล้วเรื่องกิจกรรมนี่เหละคือสิ่งที่เธอเก่งเป็นที่ 1 แต่ถ้าพูดถึงนิสัย... เกลคือนางพญาผึ้งสุดโหดผู้มีอิทธิพลที่สุดในโรงเรียน ผู้หญิงต่างยกให้เธอเป็นไอคอนในการแต่งตัวและนับถือเธอเป็นหัวหน้ากลุ่ม ส่วนผู้ชายต่างก็ตกเป็นทาสความสวยซ่อนร้าย เพียงแค่เธอบอกว่าต้องการ หนุ่มๆทุกคนก็จะจัดหาให้เธอ (เหมือนคราวที่เธอบอกว่า อยากเห็นไอ้เอ๋อสักคนโดนอัด ไม่กี่ชั่วโมงต่อมา ผมก็ต้องนอนในห้องพยาบาลเนื่องจากโดนรุมทำร้ายต่อหน้าเธอ แต่ทุกคนกลับพูดตรงกันว่าผมแค่เผลอลื่นตกบันใดเฉยๆ....)

     

              ส่วนสาวมั่นอีกคน ผู้ซึ่งมีผมดำตัดสั้น สวมเจ๊กเก็ตและกางเกงยีนส์ แต่งหน้าซีดๆ บนหัวมีที่คาดผมรูปตะปูอันใหญ่คล้ายแฟรงเกนสไตน์ เธอคนนี้มีชื่อว่า เรสซ์ มอริสัน เรสซ์คือสาวห้าวแสนมั่น เธอเป็นอัจฉริยะที่มีสไตล์เท่ๆในการแต่งตัว ความสามารถด้านการร้องเพลงและเล่นเครื่องดนตรีถือเป็นที่หนึ่งในโรงเรียน เธอสามารถเล่นเปียโนเพลงยากๆ ได้ตั้งแต่อายุ 6 ขวบ ทางด้านนิสัย เรสซ์คือคนที่พูดตรง แรง มั่นใจ แต่มีความเป็นผู้นำสูง ที่สำคัญคือเธอไม่ร้ายเหมือนเกล ซึ่งนั่นทำให้ผมชอบเธอ ผมคิดว่าเกลคงจะรู้ดีว่าหากปล่อยให้เรสซ์มีอิทธิพลและเป็นขวัญใจนักเรียนอีกคน เรสซ์จะต้องเป็นคู่แข่งที่จัดการได้ยากแน่ เกลจึงชวนเรสซ์เข้ากลุ่ม เรสซ์เลยเป็นเหมือนบอดี้การ์ดของเกลไปโดยปริยาย

     

    ส่วนคนต่อไปที่ผมจะแนะนำคือ.....

     

    เฮ้!! เด็กออทิสติกไม่มีสิทธิจะมาเดินในโรงเรียนนะเว้ย!”

              ไม่ทันที่จะหันกลับไปดู ฝ่ามือใหญ่ก็คว้าคอเสื้อของผมแล้วดันผมอย่างแรงจนหลังติดกับกำแพง

     

             เจนเซ่น วอโนส หนุ่มฮ็อตประจำโรงเรียน อันที่จริงผมไม่อยากจะเรียกเขาว่าฮ็อตหรอกนะ แต่ทำไงได้ เขาหน้าตาดีจริงๆ ผมสีดำจัดเป็นทรงตั้งเท่ๆ ตาสีฟ้าชวนฝันสำหรับสาวๆ หุ่นดีสุดๆ ได้ข่าวว่าเขาเคยถ่ายแบบให้นิตยาสารด้วย นอกจากนั้นเขายังเป็นตัวแทนนักกีฬาของโรงเรียน ไหนจะการเรียนที่เข้าขั้นสุดยอด แถมนิสัยง่ายๆ ขี้เล่นกับทุกคน ยกเว้นกับผม... หมอนี่มักจะเป็นตัวหาเรื่องประจำ เรียกได้ว่าเป็นคู่ปรับตลอดการของผมเลย แต่จะเรียกคู่ปรับก็ไม่ถูก เพราะผมถูกหมอนี่แกล้งอยู่ฝ่ายเดียวนี่นา เรียกว่าคู่กรรมอาจจะเหมาะสมกว่า! ซึ่งแน่นอนว่าสาวๆทุกคนต่างก็กรี๊ดหมอนี่ ดังนั้นเวลาที่ผมถูกแกล้ง ทุกคนมักจะร่วมด้วยช่วยซ้ำเติมผมเพื่อที่เอาใจเขา

     

    เจนเซ่น.. วันนี้เราไม่ทำแบบนี้สักวันได้ไหม

              ผมเริ่มรู้สึกเจ็บจี๊ดตรงแผลเก่าที่เคยถูกแทง เหล่านักเรียนที่อยู่รอบๆต่างรวมตัวกันมุงเป็นวงกลม รอให้ผมถูกเจนเซ่นอัดเหมือนเคย  ผมมองเขาเงียบๆ แค่เห็นหน้าไฟแค้นที่สั่งสมมานานก็ลุกโชน กระแสจิตอาฆาตแผ่กว้าง และแล้วเจนเซ่นก็กลัวจนตัวสั่นพร้อมกับเข่าอ่อน ปากพร่ำขอโทษขอโพยผมอย่างหวาดผวา...

     

     ซะที่ไหนเล่า..

     

             “อ้อ... วันนี้นายไม่ว่างเหรอ! ฉันขอโทษนะพวก...ฉันเข้าใจว่าการเป็นไอ้ขี้แพ้คืองานที่นายต้องทำทั้งวันว่ะ ถูกมั้ย!!” เจนเซ่นพูดจบเขาก็ออกแรงยกผมสูงขึ้นจนเท้าลอยจากพื้น ในขณะที่เด็กคนอื่นๆ ต่างส่งเสียงเชียร์ให้เขาเตะก้นผมเป็นระยะๆ รวมทั้งเกลที่ปรายตามองผมอย่างดูถูก ส่วนเรสซ์แค่มองหน้าผมเฉยๆ ผมหวังว่าอย่างน้อยเธอคิดจะช่วยผมบ้าง

     

              “รู้มั้ย ฉันว่าทุกคนจะต้องยกย่องฉันแน่ ที่ได้อัดไอ้ฆาตกรโรคจิตอย่างนาย! ฉันได้ยินว่าตำรวจพบลายนิ้วมือของนายบนมีดเล่มนั้นไม่ใช่หรือไงเจนเซ่นเริ่มเงื้อกำปั้นขึ้นและพุ่งมันมาอย่างแรงตรงหน้าท้องผม ทำให้ผมยิ่งกว่าจุกเพราะแผลเก่ายังไม่หายดี ผมพยายามดิ้น แต่ยิ่งได้ยินเสียงของนักเรียนที่หัวเราะเยาะ(โดยเฉพาะเกลที่เสียงดังกว่าเพื่อน) ก็ยิ่งทำให้ผมหมดแรงและอยากหายวับไปจากโลกใบนี้ซะ... นี่เหละคือเหตุผลที่ทำให้ผมรู้สึกแย่เมื่อต้องกลับมาโรงเรียนอีกครั้ง..

     

    คุณวอโนส! ปล่อยคุณฟิตซ์ลงเดียวนี้!”


              โชคดีอะไรอย่างงี้! เสียงสวรรค์ของครูโจเซฟิน ผู้สอนวิชาประวัติศาสตร์สุดเนี๊ยบดังแทรกเข้ามากลางวงทำให้เหล่านักเรียนมุงเงียบลงและสลายตัวอย่างรวดเร็ว


              “ครูโจเซฟิน พวกเราสองคนแค่ล้อเล่นกันเฉ....เจนเซ่นพยายามพูดแก้ตัวโดยที่สีหน้าไม่รู้สึกผิดแม้แต่น้อย


              ไม่ต้องพูดมาก!.... คุณวอโนสและคุณฟิตซ์! คุณสองคนโดนกักบริเวณแบบพิเศษข้อหาทะเลาะวิวาท!!”


               เดี๋ยว!!... อะไรนะ  กักบริเวณ? จะบ้าเหรอผมเป็นฝ่ายถูกแกล้งนะ ไหงมากักบริเวณผมล่ะผมมองหน้าครูด้วยความงุนงง แต่ครูโจเซฟินกลับกำลังมองไปทางอื่นอยู่ 


                “คุณริบเลย์ และคุณมอริสัน คุณสองคนถูกกักบริเวณแบบพิเศษด้วย ข้อหาแต่งกายผิดระเบียบ!”  สิ้นเสียงของครู เกลกับเรสซ์ก็สะดุ้งพร้อมกัน จากนั้นก็ทำหน้าเหยเกก่อนจะมองหน้าผมด้วยความโกรธแค้น เหมือนผมเป็นต้นเหตุที่เรียกครูมายังงั้นเหละ.... พระเจ้า!! ฆ่าผมที!! ทำไมคืนนี้ถึงต้องถูกกักบริเวณกับเจนเซ่น เกล และเรสซ์ด้วย คิดจะฝังผมทั้งเป็นใช่ไหม? คืนนี้ผมควรจะได้ไปงานปาร์ตี้ฉลองฮาโลวีนที่โรงเรียนจัดขึ้นสิ! งานนี้ถือเป็นงานที่ใหญ่ที่สุดของโรงเรียนเลยนะ....

     

             “การกักบริเวณ พวกเธอจะถูกจำกัดพื้นที่ให้อยู่ในห้องสมุดตั้งแต่เวลาหนึ่งทุ่มถึงสี่ทุ่มตรงโดยจะมีครูบรรณารักษ์คอยจับตาดูพวกเธอจนกว่าจะหมดเวลา หมดเวลาเมื่อไหร่ เราถึงจะอนุญาตให้เธอไปเข้าร่วมงานปาร์ตี้ฮาโลวีนคืนนี้ได้!”

     

         หนึ่งทุ่มถึงสี่ทุ่มนี่มันไม่ดึกไปหน่อยเหรอ? ปกติจะกักบริเวณแค่ตอนเย็นนี่นา  แต่จะว่าไป นักเรียนส่วนใหญ่มักจะขออนุญาตผู้ปกครองกลับดึกในคืนปาร์ตี้ฮาโลวีนอยู่แล้ว ครูใช้โอกาสนี้ในการลงโทษไม่ให้พวกเราไปร่วมงานได้สินะ ช่างร้ายกาจยิ่งนัก...

     

            สำหรับคนที่ไม่รู้การกักบริเวณแบบพิเศษของโรงเรียนฮอลโลเวลล์ คือการขังนักเรียนที่ทำผิดกฎระเบียบไว้ในห้องสมุดซึ่งอยู่ชั้นบนสุดของตึก โดยที่คุณครูคิดว่านักเรียนของเขาจะสำนึกผิดและกลับตัวกลับใจเป็นคนดี ไม่ทำผิดต่อไป~…

           
               หากจะพูดให้ละเอียดละก็ โรงเรียนของเรามีระบบเทคโนโลยีไฮเทคมากมาย หนึ่งในนั้นก็คือระบบล็อกประตูอัตโนมัติซึ่งหมายความว่าหากเลยเวลาเลิกเรียนไปสี่ชั่วโมงแล้ว ตึกทั้งตึกจะทำการล็อกประตูอัตโนมัติ ซึ่งจะทำให้นักเรียนเข้ามาไม่ได้ (ออกไปก็ไม่ได้ด้วย) มีแต่ครูและเหล่าบุคลากรเท่านั้น ที่จะมีคีย์การ์ดสามารถใช้เข้าออกตึกได้ตามสะดวก

     

              “เพราะนายแท้ๆเลย ฉันถึงได้อดไปงานฮาโลวีน! นายเตรียมตัวไว้ซะ เพราะสี่ชั่วโมงของนายคืนนี้จะต้องเหมือนตกนรกทั้งเป็นแน่!!” เจนเซ่นขู่ด้วยรอยยิ้มแฝงความอำมหิตก่อนจะเดินไปเข้าชั้นเรียน ปล่อยให้ผมยืนอยู่บนทางเดินตึกคนเดียว

     

              ผมมองไปรอบๆ และพบว่าตัวเองโดดเดี่ยวอีกครั้ง ผู้คนเข้ามาหัวเราะเยาะผมแล้วก็จากไป บรรยากาศเงียบสงัด เสียงลมพัดหวีดหวิวดังแทรกมาเป็นระยะๆ  ตุ๊กตาฮาโลวันที่ติดอยู่บนฝาผนังเหมือนจะกำลังจ้องมองผม และทันใดนั้น เสียงสั่นเตือนข้อความใหม่ของโทรศัพท์ดังขึ้นทำลายความเงียบ ผมรีบล้วงกระเป๋าแล้วหยิบมันขึ้นมาดู บนหน้าจอเตือนว่ามีข้อความที่ยังไม่ได้อ่าน 1 ข้อความ ที่น่าแปลกคือมันไม่บอกเบอร์หรือชื่อผู้ส่ง ผมกดอ่านข้อความด้วยความสงสัย... 
     
    ได้ข่าวว่าเธอถูกแม่เลี้ยงใจร้ายขังไว้อีกแล้วสินะ
    ไม่เป็นไรจ๊ะ
    เดี๋ยวคืนนี้ ฉันจะเสกรถฟักทองและรองเท้าแก้วให้เธอกับเพื่อนๆ เอง
    แล้วเจอกันคืนนี้นะจ๊ะ จุ๊บๆ
    รัก-จากแม่มดใจร้าย

    - - - - - - - - - - - - - - - - - 



    KiT Ta
    ขอขอบคุณธีมสวยๆจากคุณ
    THE'KITTA .ด้วยครับ

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×