คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #23 : Emotions A-Z :: ไรเดอร์ อีเมอร์สัน
A P P L I C A T I O N
(หากไม่ถูกใจเมจนี้)
ชื่อ-นามสกุล : ไรเดอร์ อีเมอร์สัน ll Ryder Emerson
ชื่อเล่น : ไรเดอร์ ll Ryder
อายุ : 18 ปี
เพศ : ชาย
รสนิยมทางเพศ : BL / รับ (ความต้องการส่วนตัวของผปค.เองคร่ะ-- แค่ก!)
สัญชาติ : อังกฤษ
วันเกิด : 1 January
อาชีพ : นักเรียน , พนักงานเสิร์ฟร้านอาหารแห่งหนึ่ง (อาชีพเสริม)
ลักษณะรูปร่างภายนอก : ไรเดอร์ อีเมอร์สัน ชายหนุ่มชาวยุโรปผู้กำเนิดขึ้นภายใต้สกุลอีเมอร์สันเชื้อสายอังกฤษ เขามีรูปร่างสมส่วนตามที่ชายหนุ่มวัย 18 ทั่วไปที่พึงมีราวกับได้รับการปั้นแต่งมาจากพระเจ้าอย่างปราณีต หากแต่ส่วนสูงเพียง 165 เซนติเมตรมันกลับทำให้เขาไม่ได้สูงยาวเข่าดีอะไร แต่ส่วนสูงนี้ก็รับกับน้ำหนัก 55 กิโลกรัมได้อย่างลงตัวทำให้ไม่ดูผมแห้งแรงน้อยจนเกินไปในสายตาของผู้อื่น ผิวพรรณขาวเรียบเนียนราวอิสตรีก็ไม่ปาน สาเหตุมาจากทางบ้านที่เลี้ยงดูราวกับไข่ในหิน ได้รับการบำรุงดูแลรักษามาเป็นอย่างดีด้วยโลชั่นประทินผิวทำให้เนื้อกายของไรเดอร์มีกลิ่นหอมของดอกลาเวนเดอร์อยู่จางๆจนเป็นเอกลักษณ์ ด้วยโครงหน้าเรียวได้รูปออกไปทางหวานทำให้ผู้อื่นเข้าใจผิดว่าเป็นหญิงสาวอยู่บ่อยครั้ง หากแต่เขาได้สนใจไม่ ดวงเนตรเฉียบคมทอประกายแววเฉยชากับทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกใบนี้มีสีนิลแกมเทาที่ไม่บ่งบอกถึงความรู้สึกใดๆนอกเสียจากความเย็นชาที่ถูกส่งผ่านมาทางสายตาเฉียบคมที่ใช้มองผู้อื่น แต่ก็เรียกได้ว่าเขาเป็นคนที่มีดวงตาทรงเสน่ห์คนหนึ่ง เหนือดวงเนตรคู่สวยประดับตกแต่งด้วยขนตาบางโค้งงอนพองามรับกับคิ้วโค้งคันศรได้อย่างลงตัว ช่วยเพิ่มความรู้สึกเย็นยะเยือกให้กับใบหน้าขาวเรียบเนียนออกซีดเป็นธรรมชาติไร้ซึ่งการเติมแต่งใดๆ จมูกโด่งเป็นสันรับกับริมฝีปากบางที่เป็นธรรมชาติตามฉบับของชายหนุ่ม หากแต่ริมฝีปากนี้กลับไม่ยกยิ้มแต่อย่างใด ยังคงเป็นเส้นตรงเรียบเฉยได้กับทุกสถานการณ์ราวกับไร้ความรู้สึก แต่ด้วยปากที่เราะร้ายอยู่พอตัวกลับทำให้ผู้อื่นอยากปิดปากนี้ด้วยริมฝีปากไปเสียให้รู้แล้วรู้รอด หลังจากมองภาพรวมบนใบหน้าจะเห็นได้ชัดว่าเขานั้นมีทั้งความเฉยชาและอ่อนหวานดุจอิสตรีภายในเวลาเดียวกัน ใบหน้าหวานประดับด้วยเส้นเกศาอ่อนนุ่มดุจแพรไหมสีเงินราวกับธารน้ำแข็งอันหนาวเหน็บที่ได้รับการบำรุงรักษามาอย่างดี มีความยาวระต้นคอช่วยเพิ่มความเด่นชัดในเรื่องเพศขึ้นเล็กน้อย เมื่อมองลงมาตั้งแต่ศีรษะจรดเท้าจะเห็นได้ชัดว่าไรเดอร์นั้นเป็นชายร่างเล็กทว่าสมส่วนคนหนึ่งที่มีแขนขายาวพอเหมาะพอควรกับร่างกายทำให้ไม่ดูเก้งก้างจนเกินไป ประสมกับร่างกายที่ไร้รอยตำหนิใดๆทำให้ไรเดอร์ อีเมอร์สันนั้นถือเป็นชายที่น่าทะนุถนอมราวกับหญิงสาวเลยก็ว่าได้
นิสัย : หากกล่าวถึงบุรุษคนหนึ่งนาม ไรเดอร์ อีเมอร์สัน โปรดอย่ามองข้ามเรื่องหน้าตาของเขาเป็นอันขาด เพราะนิสัยที่ท่านจะได้รับรู้ต่อจากนี้ไป คือนิสัยที่ถูกแทนด้วยคำว่า เย็นชา
ประวัติ : ท่ามกลางบรรยากาศอันแสนร่มรื่นของสวนดอกไม้อันถูกแต่งแต้มไปด้วยแสงสุริยันอันอบอุ่นและเหล่าดอกไม้นานาพันธุ์ ศาลาสีขาวสะอาดตาอันตกแต่งไปด้วยดอกไม้ที่พันธนาการโดยรอบเพิ่มความสวยงาม ด้านในมีโต๊ะน้ำชาเล็กๆและร่างของเด็กสาวคนหนึ่งนั่งอยู่ในบริเวณนั้นราวกับกำลังเฝ้ารอคอยบางสิ่งบางอย่าง
"สวัสดีค่ะ ยินดีที่ได้พบนะคะ" เด็กสาวใช้ดวงเนตรสีน้ำเงินประกายทองจ้องมองมายังคุณ พร้อมเดินมาจับมือเพื่อเชื้อเชิญคุณให้เดินเข้ามายังด้านในของศาลาพร้อมรอยยิ้มที่ประดับบนใบหน้า
"ทุกคนที่มายังสถานที่แห่งนี้ ล้วนแต่ต้องการรู้เรื่องราวของไรเดอร์ อีเมอร์สัน คุณเองก็คงเป็นหนึ่งในนั้นด้วยสินะ" เสียงหวานดุจระฆังแก้วเอ่ยขึ้นโดยไม่มีช่องว่างให้คุณตอบแต่อย่างใด มือบางพลางรินชาดอกไม้บานใส่แก้วแล้วนำมาให้คุณอย่างมีมารยาทก่อนนั่งลงในทิศทางตรงกันข้ามของคู่สนทนา
"เรื่องราวของไรเดอร์..อาจน่าเบื่อกว่าที่คุณคิด เพราะฉะนั้นมาดื่มชาไปพลาง ฟังไปพลางน่าจะทำให้การเล่าครั้งนี้มันไม่น่าเบื่อเกินไปจะดีกว่านะคะ" รอยยิ้มที่สดใสไม่แพ้แสงสุริยันยังคงไม่เลือนหายไปจากใบหน้า ก่อนที่ริมฝีปากจะเริ่มขยับบอกเล่าเรื่องราวของ ไรเดอร์ อีเมอร์สัน ขึ้น...
--------------------
[ เรื่องเล่าจากอลิซ - จุดเริ่มต้นของความเปลี่ยนแปลง ]
ยามดวงสุริยันลอยขึ้นเหนือพื้นดิน ปัดเป่าความมืดมิดให้เลือนหาย แผ่ขยายความอบอุ่นให้สรรพสิ่งบนโลกใบสีฟ้าครามนี้อย่างอ่อนโยน ยามเช้าที่อากาศสดใสตระกูลอีเมอร์สันได้ให้ถือกำเนิดทายาทคนแรกขึ้นมา นับเป็นเรื่องน่ายินดียิ่งที่ทารกน้อยมีสุขภาพร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรง ผู้นำตระกูลได้ขนานนามให้ทารกผู้นี้ว่า ไรเดอร์
ในวัยเด็กของไรเดอร์ เขาได้รับความสุขและความรักมากมายจากผู้คนที่ได้พบเห็น นับเป็นช่วงเวลาดีๆที่ถูกจารึกในความทรงจำ แต่ทว่า เมื่อมีความุข ก็ต้องมีความทุกข์ เมื่อได้ในสิ่งที่ต้องการ ก็ต้องมีสิ่งที่ต้องแลกเปลี่ยน ตัวของเขาในวัย 11 ปีนั้นไม่ได้สวยงามอะไรเหมือนกับเทพนิยายปรัมปรา อาจได้รับความรักก็จริง แต่เขาก็ไม่สามารถเลือกทางเดินของตัวเองได้เลย ทางบุพการีได้คาดหวังให้เขามีอาชีพเป็นหมอสืบทอดต่อจากพวกตน แต่ความฝันของเขามันไม่ใช่แบบนั้นเลย ตั้งแต่เด็กแล้วที่เขาไม่ได้ไปโรงเรียนเหมือนกับเด็กคนอื่น ต้องเรียนกับอาจารย์สอนพิเศษแบบตัวต่อตัวที่บ้าน ทำให้เขานั้นไม่มีเพื่อนเลยแม้แต่คนเดียว ถึงกระนั้นสวรรค์ก็ยังคงไม่ทอดทิิ้งเด็กชายคนนี้ ยังดีที่เขามีน้องชายอีก 1 คนที่ห่างกัน 1 ปี ในเวลาว่างเขามักจะอยู่กับน้องชายและเล่นด้วยกันเสมอ ถ้าในชีวิตนี้เขาไม่มีน้องชายสักคน คงมองไม่เห็นแสงสว่างในการนำทางเป็นแน่
"ไรเดอร์ ได้เวลาเรียนแล้วนะจ๊ะ"
"อะ..ครับแม่! พี่ไปก่อนนะ"
"พี่ชาย เรียนเสร็จแล้วะมาเล่นกับผมใช่ไหม?"
"อื้ม! พี่จะกลับมาเล่นด้วยนะ!" มือที่กุมกับอีกฝ่ายให้ความอบอุ่นไม่แพ้ดวงอาทิตย์ที่ฉายแสงลงมาเลยแม้แต่น้อย
....................
แต่แล้ว...เขาก็ไม่สามารถทำตามที่บุพการีคาดหวังไว้ได้...
"ทำไม! ทำไมแกถึงทำให้ฉันผิดหวัง!!" เสียงของหญิงสาววัยกลางคนดังขึ้นภายในทางเดินที่เงียบสงัด มือบางจับไหล่ทั้งสองข้างของลูกชายคนโตพร้อมน้ำตาที่ไหลรินออกมาอย่างผิดหวังที่เขาคนนี้ ไม่สามารถสอบเข้าโรงเรียนมัธยมต้นที่เธอตั้งเป้าหมายไว้ได้
"ม-แม่ครับ...ผม.."
"พอ! ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น!! " เพียงคำพูดนั้นประโยคเดียว มันกลับทำให้กำลังของเขาโดนตัดมากไปกว่าครึ่ง เขาไม่เคยคิดเลยว่าตนเป็นต้นเหตุที่ทำให้คนที่รักมากที่สุดอย่างมารดาต้องเสียน้ำตา ไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองจะเป็นต้นเหตุทำให้ทุกอย่างมันเปลี่ยนไป...
นับแต่นั้นมา ไม่ว่าอะไรก็ผิดแปลกไปเสียหมด เขาที่เคยได้รับการดูแลเป็นอย่างดี เริ่มถูกปล่อยปะละเลย ทั้งที่ไม่เคยได้รับอนุญาตให้ไปรียนที่โรงเรียน แต่ตอนนี้กลับให้ทำตามที่ใจตนต้องการ เขาควรจะมีความสุขที่ได้รับอิสระ แต่มันไม่ใช่เลย เขากลับรู้สึกเหงา...เหงาที่บุพการีเริ่มไม่สนใจ เหงาที่ต้องอยู่เพียงลำพังภายในบ้านที่เคยเป็นสถานที่แห่งความสุข เหงา...ที่น้องชายเริ่มเปลี่ยนไป
"ไรเกอร์ ไปเล่นกันเถอะ~" เด็กหนุ่มวัย 13 ปีเอ่ยเรียกผู้เป็นน้องชายที่กำลังเดินไปยังห้องนอนของอีกฝ่าย แต่สิ่งที่ได้กลับมามีเพียงความเงียบและบรรยากาศที่แปลกไปจากก่อน "ไรเกอร์?"
"........" อีกฝ่ายไม่ตอบอะไรกลับมา มีเพียงดวงตาที่แสดงถึงความผิดหวังออกมาอย่างชัดเจน เขาที่ทนกับดวงตานั้นไม่ไหวจึงตัดสินใจหลบตาไปโดยที่ยังมีความขุ่นมัวใจต่อกัน .........
[ เรื่องเล่าจากอลิซ - บทเพลงอำลาจากสายฝน ความรู้สึกที่ไม่อาจสื่อถึง ]
วันเวลาเดินผ่านไป จากวันเป็นเดือน จากเดือนเป็นปี เด็กหนุ่มได้เติบโตขึ้นเป็นชายหนุ่มที่มีบรรยากาศหนาวเย็นราวกับถ้ำน้ำแข็งรายล้อมอยู่รอบตัวตลอดเวลา อันเป็นผลมาจากทางครอบครัวที่ปล่อยปะละเลย ไม่สนใจใยดีคนที่เปรียบเสมือน'สิ่งไร้ค่า'ของตระกูล เขาเองจึงเลือกที่จะไม่สนใจครอบครัวและสิ่งรอบข้างเช่นเดียวกัน ชายหนุ่มวัย 16 ได้เข้ารับการศึกษาที่โรงเรียนมัธยมปลายธรรมดา ต่างจากน้องชายที่ได้เรียนโรงเรียนมัธยมต้นชื่อดัง เพียงเท่านี้ก็เพียงพอแล้วที่จะสื่อว่า 'ครอบครัวให้ความสำคัญต่อน้องชายเพียงใด'
จะทนอยู่ที่บ้านด้วยความอึดอัดแบบนี้ได้นานเท่าไรนะ...
เสียงความคิดยังคงดังก้องกังวาลในโสตประสาทโดยไม่มีท่าทีว่าจะเลือนหายไปได้ง่ายๆ ร่างบางของชายหนุ่มพลิกตัวไปมาบนเตียงสีขาวสะอาดตาแสนอ่อนนุ่มทว่ามันกลับว่างเปล่าเสียเหลือเกิน เปลือกตาบางปิดลงอย่างแผ่วเบาพร้อมมือที่ทาบลงบริเวณหัวใจราวกับตัดสินใจบางอย่างขึ้นมาได้
"ไม่เอาอีกแล้ว...ถ้าอยู่ที่นี่แล้วอึดอัด...จะทนอยู่ไปทำไม..ไม่อยาก..."
ไม่อยากเห็นแววตาของไรเกอร์ที่มองเราแบบนั้นอีกแล้ว...
รุ่งเช้าของวันถัดมา หยาดน้ำสีใสหยดลงจากฟากฟ้า ตกกระทบหลังคาของบ้านเรือนจนเกิดเป็นเสียงดังไม่ขาดสาย ร่างของชายหนุ่มเร่งเก็บเสื้อผ้าและของใช้ที่จำเป็นลงกระเป๋า เพื่อออกเดินทางไปอาศัยอยู่คนเดียว หากทำเช่นนั้นความอึดอัดทั้งหมดทั้งมวลคงหายไป เขาคิดแบบนั้น ในระหว่างที่เท้ากำลังจะก้าวเดินออกจากบ้าน ก็มีมือคู่หนึ่งมาฉุดรั้งเขาไว้เสียก่อน
"นั่นแกจะไปไหน" เสียงของหญิงสาวที่ดูมีอายุเอ่ยถามพลางมองเขาด้วยสายตาที่ต้องการคำตอบ แต่แปลกนัก ที่สายตาที่เขาใช้มองแม่นั้นกลับว่างเปล่าเสียเหลือเกิน
"...ผมจะไปไหนมันก็เรื่องของผม ไม่เกี่ยวกับคุณ.." ไรเดอร์ใช้มืออีกข้างแกะมืออีกฝ่ายที่จับแขนตนออกอย่างไร้เยื่อใย ก่อนที่จะออกตัววิ่งไปด้านนอกโดยไร้ซึ่งสิ่งกำบังจากสายฝนใดๆทั้งสิ้น
"ไรเดอร์! ไรเดอร์หยุดนะ!! ฉันมีเรื่องต้องบอกกับแก!!" ผู้เป็นน้องทำได้แค่ยืนมองผู้เป็นมารดาที่วิ่งตามพี่ชายของตนไป พลางกำมือแน่นราวกับเจ็บใจบางอย่าง
ทำไมหมอนั่น...ถึงไม่เข้าใจอะไรเลย..
สายฝนยังคงกระหน่ำลงมาอย่างไม่ปราณี ชายหนุ่มวิ่งฝ่ามันมาโดยไม่สนสิ่งใดรอบข้าง แม้เสียงของมารดาที่กำลังตะโกนร้องเรียกชื่อ..เขาก็ไม่สนใจ ไม่แม้แต่จะหันกลับไปมอง และไม่แม้แต่จะคิดหยุดฝีเท้านั้นเลยแม้แต่น้อย
"ไรเดอร์!! รอแม่ก่อน!!"
ไม่! อย่าหยุดนะ..อย่าเชื่อฟังเสียงนั้นนะ!
คำเหล่านี้วนเวียนอยู่ในห้วงแห่งความคิดจนเขาไม่อาจสนใจสิ่งรอบข้างได้อีกต่อไป รู้ตัวอีกครั้งเสียงแตรของรถก็ดังเข้ามาแทนที่ความคิดต่างๆจนหมดสิ้น รภบรรทุกคันใหญ่กำลังมุ่งหน้ามาทางเขาด้วยความเร็วเพราะความลื่นของถนน ชั่ววินาทีนั้นเขาคิดอะไรไม่ได้เลย ในหัวมันขาวโพลนไปหมด ....
ปัง !!!
เสียงรถบรรทุกปะทะเข้ากับบางสิ่งดังก้องไปทั่วบริเวณ เปลือกตาที่ปิดสนิทค่อยๆยกเปิดขึ้นพร้อมมองสำรวจร่างกายของตนเองด้วยคำถามมากมายที่ผุดขึ้นมาในหัว
ไม่เจ็บ...?
ไม่มีแผล...?
ไม่มีเลือด...?
ยังไม่ตาย...?
เสียงหอบหายใจของไรเดอร์ถี่ขึ้นทุกวินาทีก่อนที่มันจะหยุดลงเมื่อสายตาสบเข้ากับร่างอันชุ่มไปด้วยโลหิตประสมกับน้ำบนถนนจนเป็นสีแดงฉานไปทั่วบริเวณ ดวงตาของเขาเบิกโพลงขึ้นพร้อมลมหายใจที่หยุดไปชั่วขณะ ร่างที่นอนอยู่ตรงนั้นควรเป็นเขา แต่ทำไมตอนนี้มันกลับเป็น...
"แม่...." น้ำเสียงอันสั่นเครือถูกเอื้อนเอ่ยออกมาจากปากของชายหนุ่มที่ค่อยๆคลานไปประคองร่างที่หายใจรวยรินเต็มทีขึ้นมากอดไว้ในอ้อมแขน พร้อมหยดน้ำที่เริ่มไหลออกมาจากตาทั้งที่มันไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน...
"ไรเดอร์...ดีที่ลูกปลอดภัย.."
"แม่...ทำไม.."
"แม่เนี่ย...ใช้ไม่ได้เลยนะ..เป็นแม่ที่ไม่ได้เรื่องเลย.."
"ไม่....."
"นานเท่าไรแล้วนะ...ที่ลูกไม่ได้เรียกแม่ว่า 'แม่' เลย...ดีใจจัง.."
"แม่อย่าเพิ่งพูดะไรตอนนี้เลย! ผมจะเรียกรถพยาบาลมาให้เร็วที่สุด!"
"ไม่...ไม่ไหวหรอก.."
"อย่าเพิ่งตัดกำลังใจสิครับ!!"
"แม่ต้องการที่จะขอโทษมาโดยตลอด...ที่จริงแม่ไม่อยากพูดคำว่า'ผิดหวัง'ออกไปเลย แต่ตอนนั้น..อารมณ์มัน.."
"ผมเข้าใจดี...ผมเข้า..ฮึก!...ใจครับ"
"หลังจากนี้ไม่มีแม่อยู่แล้ว...ดูแลตัวเอง..ดูแลน้อง..ด้วย.." สิ้นเสียงเปลือกตาของผู้ที่อยู่ในอ้อมกอดก็ปิดลงพร้อมลมหายใจที่หยุดไปในที่สุด
"แม่ครับ!!!" เสียงกรีดร้องราวกับบ้าคลั่งดังไปรอบบริเวณพร้อมกอดร่างอันไร้วิญญาณนั้นไว้แน่น ทุกอย่างจบลงด้วยความมืดเพราะสติที่เริ่มหลุดลอยไป....
[ เรื่องเล่าจากอลิซ - กลับหวนคืนสู่จุดเริ่มต้น ]
เหตุการณ์ในวันนั้นผ่านล่วงเลยมา 1 ปีแล้ว แต่ความรู้สึกผิดในจิตใจยังคงไม่เลือนหายไปแม้แต่น้อย ความรู้สึกผิดที่เป็น'ต้นเหตุ'ทำให้คนสำคัญต้องจบชีวิตลงนั้นไม่สามารถลบเลือนออกไปได้เลย
"พี่ครับ ถ้ายังไม่ตื่นจะไปเรียนสายเอานะ"
"อึก..." เปลือกตาบางค่อยๆเปิดขึ้นแต่ทว่ากลั[ถูกม่านน้ำตาบดบังทุกสิ่งให้เลือนลาง เขาละเมอร้องไห้อีกแล้ว...
"ยังไม่ลืมอีกเหรอครับ..." ไรเกอร์หย่อนกายลงนั่งบนเตียงของผู้เป็นพี่พลางใช้นิ้วของตนปาดน้ำตานั้นออกอย่างเบามือ พร้อมมองด้วยสายตาที่แสดงถึงความเป็นห่วงออกมาอย่างชัดเจน
"...มันคงเป็นตราบาปติดตัวที่ไม่อาจลบเลือนได้...ไปแล้วล่ะ"
"อย่าพูดด้วยสีหน้าเศร้าสร้อยแบบนั้นสิ ผมไม่ชอบเลย.." มือของผู้เป็นน้องประคองแก้มของเขาขึ้นมาเพื่อให้สบตากับตน แต่ไม่นานหลังจากนั้นขาก็หลบตาไปพร้อมกับลุกขึ้นไปเตรียมตัวสำหรับการเรียนของวันนี้
"ไรเดอร์..."
วันนี้เองก็ผ่านไปเฉกเช่นทุกวัน ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ราวกับการฉายหนังม้วนเดิมซ้ำไปซ้ำมาอย่างไม่มีจุดสิ้นสุด ไปโรงเรียน...เรียนหนังสือ...ทานข้าวกลางวัน...เรียนหนังสือ...กลับบ้าน ไม่มีอะไรเปลี่ยนไปเลย น่าเบื่อ คำๆนี้มักวนเวียนอยู่ในหัวของเขาเสมอ แต่ก็คงทำได้แค่ก้มหน้ายอมรับมันต่อไป.... ภายในมื้อเย็นของวันหนึ่ง
"ไรเกอร์...พี่มีบางอย่างต้องบอกกับนาย.."
"หืม? .. มีอะไร?"
"....พี่ตัดสินใจแล้ว ว่าจะขอย้ายไปอยู่คนเดียว"
ปัง !
เสียงทุบโต๊ะดังก้องทั่วห้องรับประทานอาหารที่เงียบสงัด เป็นผลทำให้ชายหนุ่มสะดุ้งตัวโหยงเล็กน้อยพร้อมมองหน้าน้องชายอย่างไม่เข้าใจกับการกระทำของอีกฝ่าย ใบหน้าของไรเกอร์ราวกับกำลังโกรธอยู่...
"ไรเกอร์...?"
"พี่ไม่อยาก...อยู่กับผมเหรอ?"
"..มันไม่ใช่แบบนั้น ถ้าฉันอยู่ ก็เป็นตัวถ่วงนายเปล่าๆ เป็นพี่ประสาอะไรต้องคอยให้น้องดูแล.."
"ที่ดูแล เพราะว่าผมเต็มใจ ไม่ได้ลำบากอะไรเลยด้วย!"
"พอเถอะ...อย่าทำให้พี่ต้องรู้สึกผิดมากไปกว่านี้.."
"พูดอะไรไม่เห็นจะเข้าใจเลย! คำก็เพราะว่าเป็นพี่...สองคำก็เพราะว่าเป็นพี่...คิดว่าผมอยากได้ยินคำว่าพี่นักหรือไง!"
"อึก..! ปล่อยนะไรเกอร์ พี่เจ็บ!" ไรเดอร์พยายามแกะมือของน้อยชายที่บีบข้อมือของตนไว้ออก แต่มันกลับไม่เป็นผลเอาเสียเลย กลับกัน...มือนั้นบีบแน่นขึ้นไปอีก
"เจ็บเหรอ? พี่แค่เจ็บทางร่างกาย แต่ผมน่ะ...ต้องทนเจ็บที่ใจมากขนาดไหนรู้ไหม? ต้องเจ็บขนาดไหนที่รู้ว่าพี่มองผมเป็นแค่น้อง...."
"นายพูดอะไร พี่ไม่เข้าใจ! เราเป็นพี่น้องกันนั่นคือสิ่งที่ชัดเจนอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ?!"
"เพราะว่าผมน่ะ..!!" คำพูดหลังจากนั้นทำให้ดวงตาของเขาเบิกกว้างขึ้น ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าความรู้สึกที่ได้รับจากอีกฝ่ายตลอดมา มันไม่ใช่ความรู้สึกในฐานะ'น้อง'ที่มีให้กับ'พี่' แต่มันเป็นความรู้สึกที่'มากกว่า'นั้น
"ขอโทษนะ...ไม่ว่าจะยังไง นายก็ยังคงเป็นน้องชายในสายตาของพี่...และมันจะไม่มีวันเปลี่ยน.."
"....งั้นเหรอ...ผมเข้าใจแล้ว...ลืมเรื่องที่ผมพูดไปเถอะนะ..." อีกฝ่ายยอมปล่อยข้อมือของเขาแต่โดยดี ก่อนที่จะเดินขึ้นห้องไปโดยที่ไม่พูดอะไรอีกเลย
จบแบบนี้...มันดีแล้วใช่ไหม...ทุกอย่างกลับสู่จุดเริ่มต้นอีกครั้ง...
--------------------
"แล้วไรเดอร์ก็ได้ออกไปใช้ชีวิตตัวคนเดียวด้วยเงินที่ยังคงเหลือติดตัว โดยอาศัยอยู่ที่อพาร์ทเมนต์แห่งหนึ่งนับแต่อายุ 17 ปีมาจนถึงปัจจุบัน ก็...มีเท่านี้แหละค่ะ" เด็กสาวปิดท้ายด้วยรอยยิ้มพลางวางแก้วชาที่เหลือเพียงเล็กน้อยลงพร้อมมองมายังคุณด้วยแววตาที่แอบแฝงไปด้วยเลศนัยบางอย่าง
"หากรู้เรื่องนี้แล้ว...กรุณาปิดมันไว้เป็นความลับ เพื่อให้ผู้อื่นเข้ามาหาคำตอบมันด้วยตัวเองดีกว่านะคะ" สิ้นเสียงเด็กสาวจึงลุกขึ้นจากเก้าอีกพลางจัดเรือนผมสีสมพูหวานของตนเล็กน้อย ก่อนเดินออกไปจากศาลาแห่งนั้นโดยไม่ลืมทิ้งท้ายไว้ว่า
"หากคุณอยากรู้อะไรเพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลของไรเดอร์หรือคนอื่นๆสามารถมาหาฉันได้ทุกเมื่อ ... ฉันจะรอคุณอยู่เสมอ ลาก่อนค่ะ.."
เรื่องเล่าจากอลิซ
END
ลักษณะการพูด : ไรเดอร์ เป็นคนที่มีน้ำเสียงออกโทนเย็นชาและเรียบเฉย ไม่ว่าเมื่อไรน้ำเสียงก็ไม่แสดงถึงความรู้สึกออกมาเลยแม้แต่น้อย ทั้งๆที่ในตอนนั้นมีความรู้สึกต่างๆอัดแน่นอยู่ภายในใจ แต่ก็ไม่สามารถปลดปล่อยมันออกมาผ่านน้ำเสียงได้ เสียงของไรเดอร์มีความโมโนโทนอยู่เล็กน้อยทำให้คนที่ฟังสามารถเคลิ้มหลับได้ทีเดียว อีกทั้งมันยังไม่ดังและไม่เบาจนเกินไป มักเรียนแทนตัวเองว่า ผม เรียกแทนคนอื่นว่า คุณ เสมอ ถึงแม้จะสนิทหรือไม่สนิทก็ตาม และจะมีหางเสียงต่อท้ายบางประโยคเท่านั้น
ชอบ : อากาศสบายๆ - [ เพราะอากาศกำลังดีไม่ร้อนหรือไม่หนาวเกินไป จะทำให้เขาสบายตัวเป็นอย่างมาก ]
ดวงดาว - [ เพราะมันเปรียบเสมือนยานอนหลับดีๆของเขา ยามใดที่นอนไม่หลับก็จะมาดูดาว ไม่นานหลังจากนั้นก็เริ่มง่วงเอง ]
น้ำมะพร้าว - [ เพราะมีกลิ่นหอมจางๆ เวลาดื่มเข้าไปแล้วมันจะทำให้เธอรู้สึกชื่นใจมากๆ ไม่ได้เอามาล้างหน้านะเฮ้ย!(??) ]
สิ่งเหนือธรรมชาติ - [ เพราะมันคือสิ่งที่วิทยาศาสตร์พิสูจน์ไม่ได้ว่ามีจริงหรือไม่ เขาชอบในการหาคำตอบเป็นที่สุด ]
ไม่ชอบ : อากาศหนาว - [ เพราะมันจะทำให้มือและเท้าชาไปหมด ]
กลัว : กลัวการสูญเสียคนสำคัญ - [ เพราะอดีตยังคงฝังใจ ว่าครั้งหนึ่งเขาเคยเป็นต้นเหตุที่ทำให้บุพการีต้องหมดลมหายใจลง ]
เสียงฟ้าร้องและฟ้าผ่า - [ เพราะในอดีต เขามักจะต้องอยู่เพียงลำพังภายในบ้านยามค่ำคืนที่มืดสนิท คืนใดที่มีเสียงฟ้าร้องฟ้าผ่าก็ไม่สามารถหาคนที่จะปลอบประโลมเขาได้เลย เขาจะรีบนำมือปิดหูพร้อมขดตัวลงทันทีด้วยความกลัว กรณีอยู่ในห้องหรือบ้านเขาจะเจ้าไปหลบในตู้เสื้อผ้า แต่ในบางกรณีอาจเผลอกระโจนกอดคนที่ยู่ใกล้ที่สุดเลยก็มี ]
งานอดิเรก : อ่านหนังสือ , เดินเล่น , ปะทะริมฝีปากกับคนที่เข้ามาหาเรื่อง(?)
Character Interview
อันนี้ให้สวมบทบาทเป็นตัวละครนะคะ
คิดว่าตัวเองเป็นคนยังไง?
"........" ชายหนุ่มผู้เป็นเจ้าของเส้นเกศาสีเงินทอประกายนิ่งเงียบไปชั่วครู่เมื่อได้ฟังคำถามดังกล่าว จู่ๆมีคนมาถามว่า คิดว่าตัวเองเป็นคนยังไง? เขาควรจะตอบกลับไปว่าอะไรล่ะ สิ่งนี้ไม่ได้ถูกกำหนดคำตอบตายตัวในหลักวิชาการเสียหน่อย เวลาเดินผ่านไปอย่างเชื่องช้า ในที่สุดริมฝีปากบางจึงเริ่มขยับพูดขึ้น "..ผมไม่ทราบครับ.." กล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งเช่นยามปกติพลางปิดเปลือกตาลง ก่อนจะมีเสียงเล็ดลอดออกมาอีกครั้ง "แต่ถ้าจะให้พูดจริงๆ ผมคงเป็นคนที่'น่าเบื่อ'อยู่พอตัวเลยล่ะครับ ... ไม่มีอะไรโดดเด่น จะเรียกว่าอากาศก็คงไม่ผิด.."
มีสเป็คคนที่ชอบมั้ย ถ้ามีเป็นยังไง?
: ไรเดอร์ชะงักไปชั่วครู่ คำถามก่อนว่ายากแล้ว คำถามนี้ตอบยากเสียยิ่งกว่า ชายหนุ่มคิดทบทวนกับตนเองสักพัก ตามปกติแล้วเขาควรจะปล่อยผ่านมันไป แต่ทำไม..ทำไมใจถึงสั่งว่าห้ามปฏิเสธในคำถามนี้ "ก็คง...เป็นคนที่เข้ามาเติมสีสันให้ชีวิต..มั้งครับ?"
Talk with writer
สวัสดีจ้าา ชื่อไรเอ่ย?
: ชื่อ อลิซ ค่าาา ถ้าเรียกไม่ถนัด เรียกที่รักก็ได้นะตะเอง(?) .ส่งมินิฮาร์ท
ทำไมถึงมาสมัครเรื่องนี้
: อะแฮ่ม! ตอนแรกนั่งส่องนิยายรับสมัครไปเรื่อยตามประสาคนดองงานค่ะ แต่พอเลื่อนมาเจอเรื่องนี้แล้วคำว่า Yaoi มันกระแทกหน้าค่ะ(?) เลยว่าจะลองปั่นส่งสักหน่อย แม้ตัวละครนี้จะดูกากๆก็ตาม ;;
ถ้าไม่ติดจะให้น้องเป็นตัวประกอบหรือรับกลับคะ?
: หวา...คำถามนี้ตอบยากจังค่ะ ขอ..รับกลับแล้วกันค่ะ ตัวละครที่ตั้งใจปั่นมา ไม่อยากให้เป็นตัวประกอบน่ะค่ะ .กราบ
คอมเม้นโหดนะะ รับได้มั้ย?
: โหดแค่ไหน ใจก็พร้อมเข้มแข็งเพื่อตะเอง #ผิดส์
รับได้มั้ยถ้าไม่ happy ending ในบางตอน
: รับได้แน่นอนค่ะ! เสพ Bad มาเยอะพอควร ตับเราแข็งแกร่ง(?)แล้ว! '^'
มีแนวเรื่องที่ไม่เอาเด็ดขาดมั้ยคะ?
: ไม่มีค่ะ เรารับได้ทุกแนวเยย SM ก็ไม่หวั่-- แฮ่ม!
บางทีเราดองนานมาก คอมเม้นเป็นเหมือนเชื้อเพลิงขับเคลื่อนค่ะ!! เม้นกันเยอะๆนะะะ
: จะเม้นให้รกหน้าบทความเลยค่ะ 555555 .หลบหม้อไห
Good luck!!
ความคิดเห็น