ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สายสัมพันธ์ในเงามืด

    ลำดับตอนที่ #1 : เสียงกระซิบในความมืด

    • อัปเดตล่าสุด 9 ก.ค. 67


    ในยามค่ำคืนที่เงียบสงัดยังมีแสงไฟนีออนส่องออกมาจากตึกสูงในเมือง มันส่องแสงสว่างไปทั่วทั้งเมือง แม้แต่ที่ที่ฉันนั้นได้นั่งเล่นอยู่ในห้องนอนของฉันที่อพาร์ตเมนต์หรูหราแห่งนี้ก็ตาม ฉันมองออกไปนอกหน้าต่างเมื่อไรก็เห็นแต่แสงสว่างตลอดเวลา มันเจิดจ้าสะเหมือนกับตอนเช้าเสียจริงๆ ซึ่งมันดันทำให้ฉันมองเห็นแต่ความว่างเปล่าและรู้สึกถึงความเหงาที่ท่วมท้นภายในใจที่อยากจะได้เห็นสิ่งแปลกใหม่ เหมือนในโลกแห่งเสียงดนตรีที่มีความอิสระ ลึกซึ้ง ระหว่างที่ฉันได้คิดอะไรเรื่อยเปื่อยนั้นเอง ก็ได้ยินเสียงเพลงเบาๆ มาจากวิทยุ มันช่วยทำให้จิตใจของฉันสงบลงเล็กน้อย แต่ความรู้สึกที่ไม่พอใจในชีวิตฉันมันยังคงอยู่ 

    ทันใดนั้นเอง เสียงของดีเจที่ฉันคุ้นเคยก็เริ่มดังขึ้นเมื่อเพลงจบลง 

    ดีเจ: "สวัสดีค่ะ ทุกคน นี่คือรายการเพลงยามค่ำคืนของเรา หวังว่าคุณผู้ฟังทุกท่านจะมีความสุขกับบทเพลงที่เราได้นำเสนอไปนะคะ ตอนนี้เรากำลังจะเปลี่ยนไปยังเพลงถัดไป ซึ่งเป็นเพลงที่ได้รับความนิยมมากในขณะนี้ อย่าลืมส่งข้อความเข้ามาบอกเราว่าคุณอยากฟังเพลงอะไรในช่วงต่อไปนะคะ" 

    เสียงเพลงใหม่เริ่มต้นขึ้น ฉันฟังด้วยความสนใจ แต่ยังคงรู้สึกถึงความว่างเปล่าในใจ เสียงของดีเจดังขึ้นอีกครั้งเมื่อตอนเริ่มเพลง 

    ดีเจ: "และนี่คือเพลง 'Too Sweet' ของนักร้องชายชื่อดังที่กำลังมาแรงในขณะนี้ หวังว่าคุณผู้ฟังจะเพลิดเพลินกับเพลงนี้นะคะ ถ้ามีความคิดเห็นหรือเรื่องราวที่อยากแบ่งปัน ส่งข้อความเข้ามาได้เลยค่ะ เราจะอ่านออกอากาศในช่วงถัดไป" 

    ฉันฟังเพลง 'Too Sweet' ด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย เพลงนี้มีความหมายที่ลึกซึ้งและสะท้อนถึงความรู้สึกของฉันในตอนนี้เลยละ 

    หลังจากที่ฉันฟังรายการวิทยุนั้นเสร็จก็เตรียมตัวจะเข้านอน เพราะนี้ก็ดึกมากสะแล้วด้วยสิ 

    ฉันเริ่มเอนหลังแนบกับเตียงนอนแล้วพยายามขมตาเพื่อให้ตัวเองนั้นนอนหลับ และเจอกับวันต่อไปอย่างเบื่อหน่าย 

    “ติ้ง ติ้ง ติ้ง...” 

    ในขณะที่ฉันพยายามจะนอนหลับ โทรศัพท์มือถือของฉันมันก็ส่งเสียงเตือนว่าได้รับข้อความใหม่ซ้ำๆ จนฉันเริ่มรำคาญจึงได้ลุกขึ้นมาจากเตียงเพื่อเปิดดู ก็พบว่ามันเป็นข้อความที่ฉันไม่คุ้นเคยเอาสะเลย ข้อความนั้นประกอบด้วยภาพของตราสัญลักษณ์แปลกๆที่ฉันไม่เคยพบเห็นที่ไหนมาก่อนเลย พร้อมกับข้อความคำว่า 'เมืองเงา' 

    มิกิ:“เมืองเงา งั้นหรอมันคืออะไรกันแน่นะ” 

    ฉันพูดออกมาลอยๆ แบบไม่ได้คิดอะไรมาก แต่มันทำให้ความอยากรู้ของฉันเพิ่มมากขึ้น นั้นจึงทำให้ฉันตัดสินใจที่จะค้นหาความหมายของข้อความที่ถูกส่งมานี้ 

    ฉันเริ่มค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับ "เมืองเงา" ผ่านทางอินเทอร์เน็ตและแหล่งข้อมูลต่างๆ แล้วจึงพบว่ามันมีเรื่องราวและข่าวลือเกี่ยวกับเมืองเงาที่ถูกลืมเลือน ดูเหมือนว่ามันจะเป็นเมืองที่อยู่ในความมืดและมีผู้คนที่ต้องดิ้นรนเพื่อความอยู่รอด ฉันเริ่มมีความรู้สึกถึงความท้าทายและความตื่นเต้นในการค้นหาความจริงเกี่ยวกับเมืองนี้แล้วสิ 

    ฉันจึงพยายามรวบรวมความกล้าและตัดสินใจที่จะออกเดินทางไปสำรวจเมืองเงาด้วยตัวคนเดียว ฉันจึงเริ่มเก็บสิ่งของที่จำเป็นและออกจากบ้านในยามค่ำคืนนี้เลย ด้วยความรู้สึกตื่นเต้นในใจอย่างเต็มเปี่ยมแต่ก็ยังมีความกลัวในจิตใจอยู่ ฉันได้เริ่มออกเดินทางไปยังขอบเมืองแสง ที่ซึ่งฉันเคยได้ยินว่ามันจะมีทางลับที่นำพาฉันไปสู่เมืองเงาได้ ถ้าฉันจำไม่ผิดพลาดอะนะ 

    เมื่อฉันเดินทางไปถึงสถานที่รกร้างที่ขอบเมืองแสง ฉันก็ได้พบเข้ากับเด็กสาวคนหนึ่ง เธอมีผมสั้นสีเข้มดูทันสมัย ผิวสีเข้มกว่าเล็กน้อย เธอยังสวมเสื้อคลุมยาวสีเข้มพร้อมกับกางเกงขายาวที่ดูทันสมัย ยืนเล่นมือถืออยู่ ซึ่งฉันก็เผลอมองไปที่เธอเพราะความสงสัยว่าทำไมดึกดื่นปานนี้แล้ว ทำไมถึงยังมีคนมายืนเล่นแถวสถานที่รกร้างที่ขอบเมืองแสงได้กัน 

    รินะ: “สวัสดีฉันชื่อ รินะ ไม่มีนามสกุลหรอกเพราะฉันเป็นคนจากเมืองเงา” 

    เด็กสาวคนนั้น เอ๋ยแนะนำตัวเอง ให้กับคนแปลกหน้าทุกคนเลยหรอ ฉันคิดในใจแต่ไม่พูดออกไป และก็นึกต่อว่า ทั้งๆที่เรายังไม่เคยเจอกันเลยแท้ๆนะ แต่ฉันก็ต้องแนะนำตัวเองกลับหรือป่าวนะ เอาเถอะ ไหนๆเด็กสาวคนนั้นก็แนะนำตัวเองมาสะขนาดนี้แล้ว 

    มิกิ: “อ...อะ.. อ่า ฉันชื่อ ซาโต้ มิกิ ซาโต้ เป็นนามสกุลนะ ว่าแต่ทำไมเธ..” 

    รินะ: “สวัสดีนะ มิกิ เธอคงจะเป็นคนที่ได้รับข้อความไปสินะ” 

    อะไรกันนี้พูดแทรกกันงี้เลยหรอ? เธอมีมารยาทไมเนี้ย? 

    มิกิ: “ช... ใช่แล้วละ ฉันน่าจะได้ข้อความจากเธอนะ ว่าแต่เธอเป็นคนส่งมาหรอ?” 

    รินะ: “ใช่แล้ว ฉันเป็นคนส่งตราสัญลักษณ์ และข้อความ เมืองเงา เองแหละ” 

    มิกิ: “.....” 

    มิกิ: “ด.. เดียวนะ เธอเรียกฉันว่า มิกิหรอ ทั้งที่เราไม่ได้สนิทกันเลยนะ เธอควรจะเรียกฉันว่า ซาโต้ สิ” 

    รินะ: “อะ! ขอโทษนะ คุณซาโต้ เผลอทำตัวอย่างนั้นไปสะได้ ฉันเผลอตัวไป” 

    ดูเหมือนว่าเธอจะรู้สึกผิดจริงๆนั้นละ มันแสดงออกมาทางสีหน้าหมดเลย ว่าเธอนั้นรู้สึกมากขนาดไหน นี้แค่ฉันเผลอดุเรื่อง มารยาทในการเรียกชื่อนะเนี้ย ถ้าฉันด่าเธอเรื่องส่งข้อความมาน่ะ ฉันคิดว่าเธอคงเตรียมขุดหลุมแล้วฝังตังเองเลยมั้งเนี้ย แต่จะว่าไปพอมองดูดีๆแล้ว เธอก็น่ารักดีเหมือนกันนะเนี้ย เอะ! นี้ฉันคิดอะไรของฉันอยู่กันเนี้ย 

    มิกิ: “อะๆ เข้าเรื่องได้แล้ว เธอพยายามส่งข้อความแบบนั้นมาทำไมกัน?” 

    รินะ: “ขอโทษค่ะ ขอโทษค่ะ รินะจะเริ่มพูดเลยนะคะ” 

    หลังจากพูดจบ รินะ ก็ได้หันมามองฉันด้วยสายตาที่เริ่มดูจริงจังและลึกซึ้ง ซึ่งมันทำให้บรรยายกาศรอบตัวเริ่มตึงเคลียดแล้วเริ่ม พูดขึ้นมา 

    รินะ: “เมืองเงา...สถานที่แห่งนี้มันเป็นที่ที่ถูกลืมเลือนจากโลกภายนอก ซึ่งผู้คนที่อยู่อาศัยที่แห่งนี่ต้องพยายามดิ้นรนทุกวันเพื่อยังมีชีวิตอยู่” 

    เธอเริ่มต้นเล่าเรื่องราวด้วยเสียงเบา แต่ถึงมันจะเบามันก็เต็มไปด้วยความหนักแน่นเป็นอย่างมาก 

    รินะ: “ชีวิตที่นี่ไม่เคยง่ายต่อการใช้ชีวิตเลย เราแถบไม่มีทรัพยากรเพียงพอเลยแต่ละวัน ที่สำคัญที่นี้ไม่ได้รับสิทธิ์การเข้าถึงเทคโนโลยีใหม่ๆเลย หรือจะเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกที่พวกเธอในเมืองแสงมี บางครั้งเราต้องเสี่ยงชีวิตเพื่อหาน้ำสะอาดและอาหารเพื่อประทั่งชีวิต” 

    รินะหายใจลึกก่อนจะพูดต่อ 

    รินะ: “ตัวฉันเป็นส่วนหนึ่งของทีมที่พยายามจะเปลี่ยนแปลงสิ่งเหล่านี้ค่ะ พวกเราเริ่มพยายามเจาะระบบเพื่อหาข้อมูลและเทคโนโลยีที่สามารถนำมาเพื่อใช้ปรับปรุงชีวิตของเรา แต่เรายังต้องการความช่วยเหลือจากคนที่มีความสามารถและทรัพยากรในเมืองแสงค่ะ” 

    ฉันฟังด้วยความสนใจและเริ่มมีความรู้สึกห่วงใยและได้รู้สึกถึงความยากลำบากที่รินะและชาวเมืองเงา แห่งนี้ต้องเผชิญมาทั้งหมดเพียงแค่การเล่าสั้นๆ ของ รินะ 

    รินะ: “เหตุผลที่ รินะ มาพบ คุณซาโต้ ในคืนนี้” รินะพูดต่อ 

    รินะ: “เพราะ รินะ เชื่อว่า คุณซาโต้ สามารถช่วยพวกเราได้ รินะ นั้นได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับความสามารถและความตั้งใจของคุณซาโต้ ที่จะหาความหมายในชีวิตมาตลอดเลย รินะ คิดว่าพวกเราสามารถร่วมมือกันเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงนี้ได้นะคะ” 

    เสียงของรินะเต็มไปด้วยความหวังและความมุ่งมั่น ฉันรู้สึกถึงความเชื่อมั่นที่เธอมีในตัวฉันและความท้าทายที่รออยู่เบื้องหน้า 

    รินะ: “คุณซาโต้ มิกิ ฉันนั้นต้องการความช่วยเหลือจากคุณนะคะ” รินะกล่าวอย่างหนักแน่น “ช่วยพวกเราเพื่อทำการเปลี่ยนแปลงเมืองเงา และบางทีมันอาจจะเปลี่ยนแปลงชีวิตของคุณซาโต้เองด้วยก็ได้นะคะ” 

    ฉันรู้สึกและสัมผัสได้ถึงแรงบันดาลใจและความกล้าหาญที่พุ่งขึ้นมาในใจ "ฉันจะทำมัน รินะ" ฉันตอบกลับด้วยเสียงที่มั่นคงและหนักแน่น "เราจะร่วมมือกัน และหาทางทำให้เมืองเงาและเมืองแสงเป็นที่ที่ดีกว่านี้ ให้ได้เลย!" 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×