ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ร้าน ณ ดินเเดนโบราณ

    ลำดับตอนที่ #8 : สองเด้ง

    • อัปเดตล่าสุด 17 พ.ค. 67


     

    เพื่อเป็นการถนอมน้ำใจคุณผีที่ช่วยดูแลปลา เธอจึงคิดว่าควรทำเเอ่งเลี้ยงปลาที่นี้เห็นจะดี โดยนำก้อนหินมาวางกั้นเพื่อเป็นที่อยู่ของปลา ไม่ต้องเคลื่อนย้ายให้เสียเวลาและกำลังกาย จะกินตอนไหนก็เดินมาตักได้ และไม่ต้องกลัวขโมยขโจรอีกด้วย ในเมื่อตอนนี้เธอมีบอดี้การ์ดปลาส่วนตัวอยู่ตั้งหนึ่งตน นึกแล้วก็อดขำไม่ไหว ยิงปืนนัดเดียว เอ๊ะ ! ไม่สิ ต้องตกเบ็ดคันเดียวได้ปลาสองตัวต่างหาก

    “ โฮ๊ะ โฮ๊ะ” เสียงหัวเราะได้ดังขึ้นพร้อมด้วยท่าทางเอามือป้องปากที่เห็นได้จากภาพยนตร์ทั่วไป หากสร้างความหวาดหวั่นต่อผู้พบเห็นได้เป็นอย่างดี ผู้ใดมาเจอเข้าคงจับไข้ไปหลายวันแน่นอน

    หลังจากหัวเราะจนเป็นที่พอใจ ตอนนี้เธอจึงหันมาคิดวิธีเพิ่มจำนวนปลาให้มีมากขึ้น นั่นเพราะเธอคิดจะนำไปย่างขายที่ตลาด

    อืม !! เป็นความคิดที่ดี เธอพยักหน้าให้กับตนเองเล็กน้อย เมื่อคล้ายมี   เเบบร่างภายในหัวเล็กๆ เป็นอันเรียบร้อย เธอจึงลงมือสร้างแอ่งลำธารทันที หินขนาดกลางพอเหมาะถูกนำมาวางกั้นเป็นชั้นๆ จัดเรียงล้อมรอบพื้นที่กลางน้ำกลายเป็นแอ่งขนาดย่อมๆ สำหรับฝูงปลา ถึงแม้จะมีการหกคะเมนตีลังกาไปบ้าง  เเต่ก็ถือว่าสำเร็จไปได้ด้วยดี

    ฮ่าๆ ๆ เสียงหัวเราะร่าเริงด้วยความภาคภูมิใจในฝีมือการสรรค์สร้างของเธอดังสะท้อนสู่ป่าข้างเคียง เรียกความใคร่รู้จากเขาได้เป็นอย่างดี หลังจากที่นางรับปากเรื่องปลาย่าง เขาจึงไม่ได้รบกวนนางอีก ปล่อยเวลาให้นางอยู่ตามลำพัง กระทั่งได้ยินเสียงหัวเราะและเห็นท่าทางเหยียบก้อนหินด้วยเท้าข้างเดียวพร้อมมือที่ชูชี้ฟ้าคล้ายกำลังไขว่คว้าสิ่งใดด้วยมือข้างนั้น เขาถึงกับหาคำกล่าวได้ยากไปชั่วขณะ ก่อนจะเอ่ยในเวลาต่อมา พร้อมกับใบหน้าที่ส่ายเล็กน้อย 

    “มิเหมือนผู้ใดๆ” แม้จะกล่าวเช่นนั้น ทว่าเขาคงยังคิดว่านางมิได้ผิดแปลกไปมากเเต่อย่างใด มนุษย์ทุกคนเวลานี้คงเป็นเช่นนาง

    เมื่อพออกพอใจกับผลงานเต็มที่ ก็ได้เวลาบอกลาคุณผี ถึงเธอจะทำเป็นไม่สนใจราวอยู่คนเดียวที่นี้ เเต่กระนั่นเขาก็อาจจะยังไม่ไปไหน

    “ท่าน ท่าน ยังอยู่หรือเปล่า” เธอถามออกไปเพื่อให้แน่ใจว่าคนเฝ้าปลาของเธอไม่ได้หนีหายไปไหนจริงอย่างที่คิด

    “ข้านั่นรักษาสัญญาเสมอ” เสียงคล้อยตามลมแว่วให้ได้ยิน

    แหม่ ! รู้ใจซะด้วย เฮ้ย ! ไม่ใช่สิ แอบอ่านใจกันได้ไงอ่ะ เธอทำหน้าเล่อล่าออกไปเเต่แฝงด้วยอารมณ์คลุกกรุ่นเล็กน้อยโดยไม่ตั้งใจ 

    “เจ้าทำไมมีสีหน้าเช่นนั้น ข้าพูดอันใดผิดไปหรือ”

    ตกลงยังไม่รู้สินะ ฟู่ว ! เธอถอนหายใจอย่างโล่งอก “มะ..ไม่มีอะไรสักหน่อย ข้าก็หน้าอย่างนี้ตลอดท่านคิดไปเองต่างหาก” เธอทำหน้าขึงขังพยายามเเถอย่างแนบเนียน

    “ตอนนี้ข้าทำแอ่งเลี้ยงปลาได้แล้ว ท่านช่วยเติมปลาเพิ่มให้ข้าหน่อยน้า” เธอรีบเปลี่ยนเรื่องและเอ่ยร้องขอความช่วยเหลือจากเขาเเทน

    “เติมปลา ข้าหรือ” เขาถามนางด้วยความสงสัย

    “ใช่เเล้วเจ้าค่ะ ท่านเป็นผู้ดูแลแถวนี้ คงจะคุ้นชินกับพวกมัน หากเป็นท่าน ปลามากมายไม่แคล้วกระโดดลงบ่อด้วยความเต็มใจ” เธอยังคงใช้สกิลการปั้นแต่งคำพูดหว่านล้อมคุณผีอีกครั้ง

    “อืมๆ เจ้าพูดได้น่าฟังยิ่งนัก ได้ เรื่องนี้ข้าจัดการเอง เชื่อมือข้าได้” เขากล่าวอย่างมั่นอกมั่นใจ นางถึงกับขอร้องเขาเชียวน่า 

    อ่า ! ไม่ใช่เห็นแก่กินอย่างเดียวซะเเล้ว นางคิดในใจ อีกอย่างท่าทางน้ำเสียงเช่นนี้เลียนแบบผู้ใดกัน...

    “ขอบใจนะเจ้าค่ะ ท่านเทพ” อ่า ! สบายเเล้วเรา รู้งี้ขอให้ช่วยเรื่องแอ่งปลาด้วยท่าจะดี จะได้ไม่ต้องมอมแมมคล้ายลูกนกตกน้ำเลยเรา

    “งั้น ข้าไปก่อนนะเจ้าค่ะ” รีบกลับไปชำระร่างกายเสียหน่อย เเต่ไม่ทันได้ย่างกายออกจากจุดที่ยื่นอยู่ ชั่วพริบตาแอ่งน้ำที่ปราศจากตัวปลากลับถูกเติมเต็มไปด้วยฝูงปลานับสิบ “ เฮ้ย !” เสียงอุทานด้วยความตกใจของเธอดังก้องลำธารทั้งสาย เพราะความพิเศษของผู้ช่วยชั่วคราว ที่เธอเพิ่งจะแต่งตั้งให้เขา

    “เป็นเช่นไร” เขากล่าวด้วยความภูมิใจ การได้ช่วยผู้อื่นก็ให้ความรู้สึกไม่เลวนัก

    “อ่า ! ท่านมันยอดเยี่ยมจริงๆ เรามาเป็นสหายกันดีหรือไหม ข้าจะเพิ่มปลาย่างให้ท่านจากหนึ่งเป็นสอง ท่านเห็นเป็นเช่นไร” มีเพื่อนอย่างเขา ภายภาคหน้าชีวิตยัยเผ่ยคนนี้จะต้องรุ่งโรจน์แน่นอน หึ หึ ! หากล่อด้วยปลาย่างอีกสักหน่อย             เขาอาจจะตกลงปลงใจกับเธอ อ๊ะๆ ! ไม่ใช่ๆ  ตกลงเป็นสหายกับเธอ เธอคิดอย่างนั้นและบนใบหน้าตอนนี้ก็ได้ประดับไปด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏให้เห็นเด่นชัดเหลือเกิน

    “ข้ามิได้เห็นแก่กินหรอกนะ...สามตัว เป็นอันตกลง” ถึงอย่างไรเขาก็เต็มใจนับนางเป็นสหาย เพิ่มปลาเข้ามาอีกตัวสองตัวจะเป็นไรไป  แม้จะเป็นกลอุบายล่อหลอก เขาก็เต็มใจตกบ่วงนั้นยิ่ง สายตาของเขาเวลานี้ทอประกายมากขึ้นกว่าทุกครา

    สามตัว ตะกระเกินไปแล้ว เจ้าผีตนนี้นิ ถึงจะคิดยังนั้น เเต่คำตอบที่กล่าวออกไปคงมีเพียงเเต่ต้องตกลงก่อนเท่านั่น เมื่อเธอเป็นคนขอสหาย ยังไงก็ต้องเปย์สักหน่อย คนอย่างยัยเผ่ยอ่ะใจๆ อยู่เเล้ว

    “ได้ เเต่ท่านต้องมาทุกครั้งที่ข้าเรียกหา ตกลงหรือไหม” เพียงเเต่การเปย์ของเธอต้องไม่ขาดทุนต่อตนเองนะน่ะ 

    “โฮ๊ะ โฮ๊ะ โฮ๊ะ” เธอเอามือป้องปากเล็กน้อยเพื่อซ่อนเร้นเสียงหัวเราะไม่ให้เขาได้ยินจนปีนขึ้นจากหลุมพรางที่เธอกำลังขุดได้ทันเวลา

    “ทำไมข้าถึงรู้สึกว่ากำลังถูกเจ้าเอาเปรียบอยู่เช่นไรมิรู้... เเต่ในเมื่อเจ้าเป็นสหาย ก็ย่อมได้” จิตวิญญาณเเห่งป่าเช่นเขามิอาจบิดพลิ้วคำสัตย์เช่นไรก็มิอาจทำร้ายจิตใจมนุษย์ได้เช่นนั้น โดยเฉพาะสหายหญิงคนเเรกและคนเดียวของเขา

    หากแม้เขาสังเกตสักนิด คงจะเห็นเธอสะดุ้งน้อยๆ กับคำพูดนั้น อ้าย !    ข้าขอโทษน้า ความจริงเธอเองก็เริ่มรู้สึกดีกับเขาขึ้นมานิดหนึ่งเหมือนกัน เธอขอโทษขอโพยเขาในใจ จะว่าเป็นผีที่แสนดีหรือว่าเชื่อคนง่ายดีล่ะเนี้ย

    เฮ้อ ! เอางี้ล่ะกัน เธอให้สัญญาด้วยเกียรติของเนตรนารีรุ่นเยาว์ที่ผ่านมาหลายสิบปี ว่าเธอจะหลอก เอ้ย ! จะไม่ปล่อยให้คนอื่นหลอกเขาแน่นอน เธอสัญญากับตนเองเป็นมั่นเป็นเหมาะ โดยหากเขารู้คงจะรู้สึกดีใจทั้งน้ำตาก็เป็นได้ เพราะตอนนี้อาจไม่ได้มีเพียงเขาเปรียบเสมือนผีตนเดียวในที่นี่อีกแล้ว เมื่อมีเธอที่หลอกเก่งเสียยิ่งกว่าเขาอยู่ทั้งคน
     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×