ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ร้าน ณ ดินเเดนโบราณ

    ลำดับตอนที่ #2 : ไม่คุ้นตา

    • อัปเดตล่าสุด 18 มิ.ย. 64


            

    “โอ๊ะ !! เจ็บๆ เจ็บๆ ” ความปวดของศีรษะทำให้เธอเริ่มรู้สึกตัว นี้ยังไม่ตายหรอกหรอ แปลว่าตอนนี้เธอคงกำลังนอนอยู่บนเตียงเเล้วฝันไปแน่นอน และที่เจ็บจี๊ดขึ้นสมองก็คงเป็นตกหมอนสินะ ใช่สิ ต้องเป็นเเบบนั้นแน่เลย เธอพยายามหาเหตุผลปลอบใจตัวเองว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นเพียงเเค่ฝันอันพร่ำเพ้อ เธอยังคงนอนอยู่บนเตียงเล็กภายในห้อง

    เเต่แล้วความเป็นจริงเบื้องหน้าก็ได้อธิบายเรื่องราวของตัวมันเอง เมื่อสายตาพร่ามัวชัดเจนขึ้นจุดโฟกัสกลับเป็นเพดานไม้ที่ต่างออกไป แม้บ้านของเธอจะเป็นสวน แต่ไม่ได้สร้างจากเเผ่นไม้แบบนี้สักหน่อย สมองน้อยๆ กำลังเริ่มประมวลผลกับสิ่งที่เห็น ซึ่งพอเคลื่อนสายตาไปอีกด้านก็เห็นเป็นประตูไม้เก่าๆ ผุพังตามกาลเวลา ที่ให้ความรู้สึกไม่คุ้นตาและไม่คุ้นเคย

    “ที่นี้มัน เฮ้ย ! ยัยเพ่ย เเกกำลังอยู่ในฝันอะไรเนี้ย บ้านโทรมๆ หลังย่อมขนาดเล็กกว่าบ้านของเธอมาก ฝัน...ฝันสินะ อีกเดี๋ยวก็ตื่น” เธอยังคงยากจะเชื่อกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

    เเต่มันไม่ได้เป็นอย่างที่คิด เมื่อมีเสียงเรียกดังจากภายนอกเข้ามาให้ได้ยินย้ำเตือนความเป็นจริงมากยิ่งขึ้น “มีคนอยู่ไหม เจ้าของบ้านอยู่หรือไม่” เสียงใครกัน ถึงจะยังงงๆ ต่อเหตุการณ์ที่เป็น เเต่เธอก็เลือกเดินออกไปดูให้แน่ชัดว่าเป็นใครและเกิดอะไรขึ้นกันแน่

    “เอ่อ ดีจ้า มาหาคะ…” คำว่าใครที่เธอกำลังจะพูดถูกกลืนหายไปกับภาพเบื้องหน้าและสำเนียงพูดที่ไม่เหมือนเดิม นี่เธอความรู้สึกช้าไปหรือเปล่า มันไม่ใช่ภาษาของเธอ และผู้หญิงที่ปรากฎในสายตาอยู่ตอนนี้ สวมใส่เสื้อผ้าหยาบสีขุ่นเหมือนชาวบ้านในหนังจีนที่ดูผ่านๆ เป๊ะ “ชิบ ! นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน” เธอสบถถามตัวเอง

    “เเม่นาง เเม่นางน้อย” เมื่อไม่มีเสียงตอบรับหญิงสาวคนนั้นจึงเอ่ยเรียกขึ้นมาอีกครั้ง

    และขณะที่สมองของเธอกำลังเปิดระบบประมวลผลเป็นครั้งที่สองท่ามกลางความสงสัยของผู้อื่น เสียงวิพากษ์วิจารณ์ของชาวบ้านหนึ่งและชาวบ้านสองที่ออกมามุงดูหลังจากมีหญิงนางหนึ่งได้มาตะโกนเรียกหาเจ้าบ้านได้สะท้อนสู่ประสาทรับเสียงของเธอเป็นระยะๆ “นางเป็นอันใดกัน เป็นใบ้หรือเปล่า น่าสงสารจัง ยังสาวอยู่เเท้ๆ เชียว”

    “ถูกหย่าแล้วคงจะรับไม่ได้จนสติเลอะเลือนเเล้วก็เป็นได้ เฮ้อ!!น่าสงสารจริง”

    “แต่ข้าได้ยินมาว่านางเป็นบ้าจึงถูกขับออกมา”

    “แน่หรือ ข้ากลับรู้มาว่า…” เสียงกระซิบกระซาบยังคงเข้มข้นขึ้น ซึ่งแน่นอนทุกคำพูดนั่นมันคือการกล่าวถึงตัวเธอ

    “บ้าน่า !! ใครถูกหย่ากัน เเล้วใครเป็นใบ้หะ ยิ่งไปกว่านั้นใครที่เลอะเลือน การงานไม่มีทำหรือไรเรื่องของพวกป้าก็ไม่ใช่” เธอตะโกนตอกกลับไปจนชาวบ้านพวกนั้นเเยกย้ายกลับบ้านตน จึงค่อยหันกลับมาพูดคุยกับหญิงคนที่อยู่หน้ารั้วไม้บ้านของเธออีกครั้ง และคงจะใช่บ้านของเธอละมั้งนะ

    “ไม่ทราบคุณว่าเป็นใครคะ” เธอยิงคำถามออกไปทันทีเเต่ที่ได้กลับมาคือใบหน้าฉงนต่อคำพูดที่กล่าว อ่อ…ใช่สินะ คงจะเป็นเเบบในหนังอีกล่ะสิ “เอ่อ ท่านเป็นผู้ใดกัน”

    และเมื่อเธอเอ่ยจบ หญิงวัยกลางคนผู้นั้นก็ได้ตอบกลับมาอย่างที่เธอคิดไว้ “ข้ารึ เจ้าเลอะเลือนอย่างที่เขาว่าจริงๆ งั้นหรือ เเล้วเงินที่ยืมข้าไปล่ะ เจ้าจะมีคืนเมื่อใดกัน หากข้าไม่แกล้งเรียกเจ้า เจ้าจะออกมาไหม เเล้วนี่อันใดกัน แกล้งความจำเสื่อมรึ เงินของข้าที่เจ้ายืมไป ถึงเช่นไรเจ้าก็ต้องนำมาคืนให้ครบทุกตำลึง ไม่เช่นนั้นข้าจะเรียนทางการให้จับเจ้านอนคุก” นางกล่าวจนน้ำไหลไฟดับไร้ช่องว่างให้เธอได้เเทรกถามสักประโยค

    “เอ่อ…” ตอนนี้ที่เธอพูดได้คงมีเพียงเท่านี้ จะอะไรซะอีกล่ะ จู่ๆ ก็มีเจ้าหนี้มาทวงหนี้ บ้าไปเเล้ว เธอยังไม่เข้าใจสถานการณ์ที่เป็นอยู่ดี แถมมีเจ้าหนี้โผล่มาอีก ถามก็ไม่ได้ถาม สนุกเเล้วล่ะ ยัยเผ่ยเอ่ย กำจริงๆ

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×