ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ร้าน ณ ดินเเดนโบราณ

    ลำดับตอนที่ #1 : จุดเริ่มต้น

    • อัปเดตล่าสุด 18 มิ.ย. 64


     

    เช้าวันอาทิตย์ของบ้านรื่มรมย์ มรดกตกทอดเพียงหนึ่งเดียวของสองป้าหลาน บ้านสวนสองชั้นมีบริเวณโดยรอบที่ร่มรื่นชมชื่อ เพราะเต็มไปด้วยต้นไม้นานาพันธุ์ที่ส่งเสริมบรรยากาศอันเหมาะต่อการพักผ่อนในวันหยุดเป็นอย่างมาก และเช้าวันนี้ที่อากาศหนาวเย็นจนเกิดหมอกกระจายเต็มท้องฟ้าจึงเอื้ออำนวยแก่การนอนของเธอเป็นที่สุด

    “เพ่ย ตื่นสิ ยัยเพ่ย ตื่นซะที เเกจะนอนกินบ้านกินเมืองอีกนานไหม” เสียงเรียกที่ค่อนข้างจะตะคอกซะมากกว่าปลุกเธอให้ตื่นจากฝัน

    “อือ ป้า ขออีกสิบนาทีนะ” เธอตอบเสียงนั่นกลับไปพร้อมกับพลิกตัวไปอีกด้านเพื่อนอนต่อ

    “สิบนาทีบ้านแกสิ นี่มันสายจนจะเที่ยงเเล้วเนี่ย แกจะนอนไปถึงไหนย่ะ”

    “ห๊า !! จะเที่ยงเเล้ว สายเเล้ว สายเเล้ว ทำไมป้าไม่ปลุกฉันให้เร็วกว่านี้” เธอมีนัดกับเพื่อนว่าจะไปทำรายงาน ยัยมลต้องบ่นฉันตายแน่

    เธอรีบร้อนกระโดดลงจากเตียงวิ่งปรี่เข้าห้องน้ำ “ป้า เดี๋ยววันนี้เพ่ยไปทำรายงานกับเพื่อนนะ” เธอชะโงกหน้าออกมาบอกกล่าวแก่ป้าของเธอแวบหนึ่งและรีบร้อนทำธุระให้เสร็จก่อนที่ยัยมลจะมาลากตัวเธอถึงบ้าน

    “เฮ้อ!!ยัยเด็กบ้านี้” ตั้งเเต่เเม่มันหายไปก็มีเเต่ฉันนี่ล่ะต้องเหนื่อยตลอด แม้ปากจะบ่นไปแต่มืออีกด้านก็ช่วยจัดเตียงให้หลานเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่อย่างใส่ใจ

    หลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จเธอจึงรีบบึ่งขึ้นรถสองแถวหน้าปากซอยไปยังร้านที่นัดหมายกับยัยมลเพื่อนรักเอาไว้ทันที ดีที่รายงานเล่มนี้แยกกันทำเพียงสองคน ไม่อย่างนั้นไอ้พวกบ้านั่นคงได้ตามกันมาเป็นขบวน

    ขณะที่รถออกตัวไปได้ไม่นาน ผ่านบ้านเรือนและต้นไม้ข้างทางที่ปลูกเพื่อลดมลพิษและฝุ่นควัน เธอรู้สึกได้ว่ากำลังเกิดความผิดปกติขึ้นเล็กน้อย บนรถก็มีเธอเป็นผู้โดยสารคนเดียวด้วยสิ พี่คนขับรถสองแถวเมารึเปล่าเนี่ย ทำไมมันวนๆ เเปลกๆ เธอคิดอย่างนั้น

    และจู่ๆ รถที่นั่งอยู่ก็พุ่งเข้าชนกับรถที่สวนมาเข้าอย่างจัง เอี๊ยด!!โครม ร่างของเธอกระเด็นกระโดนออกห่างจากตัวรถมากขึ้นและไกลขึ้นเรื่อยๆ กระทั่งตกลงกลางฟุตบาทถนน แว่วเสียงรถที่วิ่งไปวิ่งมากระทบโสตประสาทหูเริ่มเบาบาง

    น่าขำสิ่งแรกที่ปรากฏวนเวียนภายในหัวตอนลมหายใจกำลังจะหยุดลงกลับเป็นภาพแม่ผู้ให้กำเนิดที่ไม่เคยแม้แต่จะเห็นหน้า ก่อนภาพผู้เป็นที่รักทุกคนของเธอ ทั้งความสุข ความทุกข์และความห่วงใยเอ่อล้นออกมา

    “ป้า ยัยมลและเพื่อนๆ แก๊งมะพร้าวแก้ว เราคงไม่ได้เจอกันอีกแล้วสินะ” ไม่มีคำพูดมากไปกว่านั่นได้อีก เพราะมือที่กำลังไขว่คว้าอากาศของเธอกำลังตกสู่เบื้องล่าง พร้อมด้วยเมฆหมอกที่เริ่มสลายหายไปกอปรกับเเสงร่ำไรของพระอาทิตย์ที่ควรจะเป็นดั่งเช่นทุกวันสาดส่องเข้ามาเเทน

     


     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×