ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Armer\'s King

    ลำดับตอนที่ #1 : 1-มอริส ฟิลโดรา [99%]

    • อัปเดตล่าสุด 2 ม.ค. 49


                    “มอริส” เสียงหนึ่งดังขึ้น

        

        “มอริส ตื่น” เสียงนั้นยังดังขึ้นอีกครั้ง โดยที่เริ่มจะมีความรำคาญปนมาด้วย

        

        “เฮ้ย ตื่นดิวะ!” เจ้าของเสียงนั้นไม่รอช้า มองหาสิ่งของรอบกายแล้วหยิบขึ้นมาปาใส่คนขี้เซาทันที



        โครม!!!



        เจ้าคนขี้เซากระโดดเผลงลุกขึ้นมาทันที นั่งเช็ดเลือดที่ไหลอยู่มุมปากซิบๆเพราะโดนคนปลุกเขวี้ยงหนังสือเล่มใหญ่มาเต็มหน้า พลางตวัดนัยน์ตาสีน้ำตาลที่ยังไม่ตื่นดีมองคนปลุกที่ตอนนี้ยืนยิ้มกริ่มอยู่ที่หน้าประตู

        

        “พ่อบอกให้มาปลุก มีเรื่องจะคุยด้วย” คนปลุกพูดแล้วทำท่าจะเดินออกไปอย่างดื้อๆ

        

        “แล้วพ่อบอกให้ปลุกอย่างนี้หรอไง” คนขี้เซาเริ่มโวยวาย

        

        “อ้าว! ช่วยไม่ได้ แกไม่ยอมตื่นเอง ไปละนะ” พูดตัดบททันทีแล้วเดินออกไป

        

        “พ่อมีเรื่องอะไรอีกละเนี่ย” มอริสบ่นพลางบิดขี้เกียจครั้งใหญ่เพื่อทำลายความเมื่อยล้า

        

        มอริส ฟิลโดรา เด็กหนุ่มอายุ 14ปี มอริสเป็นเด็กหนุ่มที่หน้าตาสดใสร่าเริง ผมสีน้ำตาลตอนนี้ดูยุ่งเหยิงไปหมด  มอริสเป็นลูกของ มาร์คัส ฟิลโดรา คนใหญ่คนโตแห่งเมืองคอริเทีย ผู้ที่ชาวเมืองต่างให้ความเคารพนับถือ เพราะเป็นผู้ที่ใจบุญบริจาคสิ่งของแก่ผู้ยากไร้อยู่บ่อยๆ มาร์คัสเป็นคนรูปร่างท้วมลงพุงเล็กน้อย ใบหน้ากลม ศรีษะล้านแต่แววตาก็แฝงไว้ด้วยความอ่อนโยนเสมอ ส่วนภรรยาของมาร์คัสนั้นได้เสียชีวิตไปแล้วเนื่องจากป่วยเป็นโรคร้ายแรงเมื่อตอนที่มอรีสมีอายุได้2ขวบ ทั้งคู่มีลูกชายสองคน คือแม็กเน็ต ฟิลโดราพี่ของมอริส เพิ่งเรียนจบมาจากโรงเรียนอาร์มเมอร์คิง โรงเรียนเก่าแก่แห่งเมืองพรอนเทอเรีย แม็กเน็ตเป็นคนรูปร่างดี สูงโปร่ง ดูแล้วสง่าผ่าเผย นัยน์ตาสีน้ำตาลที่คนเข้มรับกับใบหน้าเรียวยาวทำให้เป็นคนหน้าตาดีทีเดียว และ  มอริส ลูกชายตัวดีที่ตอนนี้ถึงเวลาเข้าเรียนที่โรงเรียนอาร์มเมอร์คิงแล้ว    

        

        มอริสเดินผิวปากอย่างอารมณ์ดีมาตามโถงทางเดินที่เต็มไปด้วยรูปภาพต่างๆ และ เกียรติบัตรมากมายของพ่อและพี่ ที่ร่วมกันสร้างคุณงามความดีไว้มากมายจนมาหยุดอยู่ที่ประตูไม้สักบานใหญ่บานหนึ่งแล้วเปิดพรวดพราดเข้าไป แต่คนที่อยู่ในห้องก็ไม่ได้เลิกตามาจากกกองหนังสือกองใหญ่บนโต๊ะแต่อย่างใด

        

        “พ่อยังไม่ยินเสียงแกเคาะประตูเลยนะ”ชายคนนั้นตำหนิโดยที่ยังไม่ละสายตาออกมา

        

        “โถ่ พ่อ ไม่เป็นไรหรอกน่าช่างมันเหอะ ว่าแต่พ่อมีเรื่องอะไรหละ” มอริสพูดแล้วเดินมาทั่งที่เก้าอี้ตรงข้ามโต๊ะของชายผู้เป็นพ่อ

        

        มาร์คัส ฟิลโดรา พ่อของมอริส เป็นชายอายุ ประมาณ 40ปี การแต่งตัวดูภูมิฐาน ดูเป็นคนที่น่านับถือ  นันย์ตาสีน้ำตาลตอนนี้กำลังมองไปที่ลูกชายตัวดีตรงหน้า ที่ส่งสายตาล้อเลียนมาอยู่

        

        มาร์คัสถอนหายใจน้อยๆแล้วพูด “ตามที่เราตกลงกันไว้ ปีนี้แกจะต้องไปเข้าโรงเรียนอาร์มเมอร์คิง แกต้องออกเดินทางพรุ่งนี้”

        

        “โหย ไว้ปีหน้าก็ได้มั้งพ่อ ไม่ต้องรีบหรอกน่า” มอริสกล่าวอย่างขี้เกียจเป็นที่สุด

        

        “เฮ้ย! ไอ้ลูกคนนี้ นับวันยิ่งขี้เกียจขึ้นทุกที ไม่ได้ ไม่ได้ พรุ่งนี้ต้องออกเดินทาง” มาร์คัสส่ายหน้าแล้วทำเป็นไม่สนใจกับสายตาอ้อนวอนของคนเป็นลูกโดยการหันกลับไปสนใจกับหนังสือตรงหน้าต่อ

        

        “แต่พ่อ ผมไปไม่เป็นหนิ พ่อกล้าปล่อยให้ลูกสุดที่รักคนนี้เดินทางไกลๆคนเดียวได้ลงคอหรอ” เจ้าคนเดินทางไม่เป็นส่งสายตาอ้อนวอนไปให้ผู้เป็นพ่อ

        

        “งั้นพรุ่งนี้ให้พี่แกไปด้วย พ่อจะฝากของให้พี่แกไปส่งที่โรงเรียนด้วย ไปเตรียมของได้ละไป” มาร์คัสพูดตัดบทแล้วโบกมือไล่มอริสออกไป

        

        มอริสเดินออกมาอย่างเสียดายที่ใช้แผนอ้อนวอนไม่สำเร็จ จำใจต้องเดินไปเก็บเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋าอย่างลวกๆแล้วเดินลงไปกินข้าว



                                                                             ++++++++++



        ในเช้าวันต่อมาพี่ชายที่แสนดีก็เข้ามาปลุกน้องสุดที่รักอย่างเคยแล้วก็ต้องปลุกด้วยวิธีเดิมๆอย่างเคย



        โครม!!!



        “โอ๊ย ปลุกดีๆไม่เป็นแล้วหรือไงหา!!”

        

        “เออนะ ก็ตื่นแล้วไม่ใช่หรอ ลุกได้แล้ว” แม็กเน็ตกล่าวอย่างอารมณ์ดีเช่นเคย

        

        “แล้วมาปลุกทำไมอะ มีเรื่องไรอีกหรอ” มอริสทำหน้าตาเหรอหรา

        

        “ไม่ต้องทำเป็นลืมเลย เราต้องออกเดินทางไปเมืองพรอนเทอเรียตอนนี้เลย ไม่อยากไปค้างแรมที่เมืองอื่น” แม็กเน็ตพูดแล้วหันไปมองนาฬิกา

        

        “เออ เออ เดี๋ยวตามลงไป” มอริสกล่าวด้วยความรำคาญพลางลุกขึ้นไปเอาของ

        

        “เร็วๆนะ เอาของลงไปเองด้วยอย่าชักช้าละ” แม็กเน็ตกล่าวก่อนจะเดินออกไปจากห้อง

        

        “เร็วๆนะ เอาของลงไปเองด้วยอย่าชักช้าละ บรา บรา บรา” มอริสล้อเลียนก่อนจะจัดการเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วหิ้วกระเป๋าตามลงไป

        

        ที่หน้าบ้านตอนนี้พ่อกำลังยืนคุยกับแม็กเน็ตอยู่ มอริสก็เดินปึงปังผ่านไป แล้วเอาของวางไว้ข้างเกวียน

        

        “ไม่ไปไม่ได้หรอ ผมคิดถึงพ่ออะ” มอริสอ้อนวอนด้วยสายตาน่าสงสาร

        

        “เดินทางดีๆนะ สอบให้ได้ด้วยละ” พ่อบอกแล้วหันไปคุยแม็กเน็ตต่อ ทิ้งให้คนติดพ่อยืนทำปากขมุบขมิบ แล้วก็ต้องจำใจโยนของขึ้นเกวียนเสียงดังเพื่อประชด

        

        “ฝากความคิดถึงถึงท่านอาคิลิสด้วยนะ” มาร์คัสกล่าวพลางตบใหล่ลูกชายเบาๆ โดยไม่ได้สนใจลูกชายอีกคนที่ยืนโกรธกระฟัดกระเฟียดอยู่หน้าเกวียน

        

        “ครับพ่อ” แม็กเน็ตยิ้มรับแล้วเดินมาขึ้นเกวียน

        

        “มอริส” พ่อเรียก

        

        “ฮะ”

        

        “พยายามสอบให้ได้นะ คนตระกูลเราไม่เคนมีใครสอบตกนะ” พ่อฝากชื่อเสียงของตระกูลไว้กับคนที่ไม่สนใจเรื่องชื่อเสียงของตระกูล

        

        “เออน่า พ่อไม่ต้องห่วงหรอก” มอริสตอบปัด พลางกระโดดขึ้นไปนั่งบนเกวียนข้างๆแม็กเน็ตที่นั่งรออยู่ก่อนแล้ว

        

        “ไปแล้วนะพ่อ!”แม็กเน็ตตะโกนบอกพ่อ ในขณะที่ล้อเกวียนค่อยๆหมุนอย่างช้าๆ

        

        “เออ โชคดีนะ!” พ่อตะโกนกลับพลางโบกมืออำลาแล้วมองเกวียนแล่นห่างออกไปช้าๆจนลับสายตาไป



                                                                              ++++++++++



        เกวียนแล่นตามทางที่คดเคี้ยวมาเรื่อยๆผ่านเมืองต่างๆ บางทีก็จอดแวะซื้อของกินตามทางจนเวลาเย็น เกวียนก็แล่นมาถึงหน้ากำแพงเมืองขนาดใหญ่ ที่กำแพงเมืองมีป้ายติดไว้ว่า



                                                                   ยินดีต้อนรับสู่เมืองพรอนเทอเรีย

                                                      ในวันที่ 25 สิงหาคม จะมีการทดสอบวัดความสามารถ

                                                                        เพื่อเข้าเรียนที่โรงเรียน

                                                                               อาร์มเมอร์คิง

                                                                          ตั้งแต่เวลา 12.00 น.

                                  จึงขอเชิญผู้ที่สนใจเข้าสอบลงทะเบียนได้ที่โรงเรียนอาร์มเมอร์คิงตั้งแต่เวลานี้เป็นต้นไป




        







        “แล้วนี่เราต้องไปทำอะไรก่อนละเนี่ย” มอริสถาม

        

        “ก็เดี๋ยวแกก็ไปลงทะเบียนก่อน แล้วฉันก็จะเอาของไปให้ท่านอาคิลิสหน่อย” แม็กเน็ตชี้แจง

        

        “แล้วท่านอาคิลง อาคิลิสเนี่ย ใครอะ”

        

        “ก็เป็นผู้อำนวยการโรงเรียนอาร์มเมอร์คิงเนี่ยแหละ”

        

        “หรอ! แล้วนี่ไปรู้จักกะเค้าได้ไงละเนี่ย” มอริสถาม พลางเบิกตาโต

        

        “ก็พ่อเค้ารู้จักกัน ก็เลยฝากของเล็กๆน้อยๆมาให้ ก็แค่นั้นแหละ” แม็กเน็ตตอบในขณะที่เกวียนแล่นมาถึงหน้าโรงเรียนพอดี

        

        โรงเรียนอาร์มเมอร์คิง เป็นโรงเรียนขนาดใหญ่ ตัวโรงเรียนเป็นปราสาทที่ดูเก่าแก่มากพอสมควรที่มีธงของโรงเรียนติดอยู่ทั่วทุกมุมเพื่อต้อนรับนักเรียนที่จะมาสอบ ล้อมรอบไปด้วยหอคอยอีกสี่หอคอยที่มีธงติดอยู่ที่ยอดเช่นกัน ดูแล้วน่าเกรงขาม ธงของโรงเรียนเป็นรูปหนังสือปกสีเลือดหมูเล่มหนึ่งที่มีรูปกงจักรอยู่ที่ปก พื้นหลังของธงเป็นสีแดง ซึ่งเป็นสีประจำโรงเรียน ตัวธงปักอยู่ตามกำแพงโรงเรียนโดยรอบ ประตูปราสาทเป็นประตูไม้บานใหญ่ที่ตอนนี้เปิดอ้าเพื่อต้อนรับเหล่าว่าที่นักเรียนปีหนึ่ง ที่ตอนนี้ยืนอยู่ประปรายตามบริเวณประตู



        “เดี๋ยวฉันจะไปหาท่านอาคิลิสนะ แล้วแกก็ไปเซ็นชื่อตรงโน้น แล้วเดี๋ยวมาเจอกันที่นี่” แม็กเน็ตบอกพลางชี้ไปที่โต๊ะรับสมัครที่ตั้งอยู่ภายในปราสาท

        

        “อืม ไปเหอะ แล้วเจอกัน” มอริสตอบแล้วเดินเข้าไปที่โต๊ะรับสมัครนักเรียนที่มีชายหญิงนั่งกันอยู่ประมาณ 4-5คน

        

        “สวัสดีจ๊ะ มาสมัครสอบใช่มั้ยจ๊ะ นั่งลงตรงนี้เลยนะจ๊ะ” คนพูดเป็นผู้หญิงตัวเล็กคนหนึ่ง น่าจอายุประมาณ 30ปี เธอเป็นคนแต่งหน้าจัดพอสมควร เธอพูดทักทายอย่างอารมณ์ดีแล้วจัดแจงส่งใบสมัครมาให้มอริสที่กำลังนั่งลงที่เก้าอี้ข้างๆ ผู้ชายคนหนึ่งที่ส่งยิ้มมาให้มอริสอย่างชื่นบาน

        

        “หวัดดีฉันชื่อ ลีโอ แอมเบอไนท์ ยินดีที่ได้รู้จัก” ลีโอกล่าวทักทายพลางยื่นมือมาอย่างยิ้มแย้ม

        

        “มอริส ฟิลโดรา ยินดีที่ได้รู้จัก” มอริสตอบแล้วยื้นมือไปจับตอบอย่างยินดีที่อย่างน้อยก็มีเพื่อนแล้วคนนึง

        

        ลีโอ เป็นคนรูปร่างสมส่วน ท่าทางจะเป็นนักรบ เพราะดูจากกล้ามที่เป็นมัดๆ และมีริ้วรอยจากคมดาบอยู่บ้างแต่ดูเป็นคนน่าคบ อาจจะเป็นเพราะว่ายิ้มแย้มอยู่ตลอดเวลา ลีโอมีนันย์ตาสีดำขลับ ผมสีดำถูกหวีเรียบอย่างเป็นระเบียบท่าทางจะเป็นคนมีระเบียบอยู่พอสมควร

        

        เมื่อผู้หญิงคนนั้นเห็นว่าทักทายกันเสร็จแล้วจึงยื่นใบสมัครมาให้ “เอ้า กรอกชื่อของเธอลงตรงนี้นะจ๊ะ”

        

        “ขอบคุณครับ” มอริสรับแบบฟอร์มมาแล้วกรอกข้อมูลลงไป พอเสร็จแล้วก็ส่งกลับไปให้เธอ

        

        “เธอเป็นน้องของ แม็กเน็ตหรอจ๊ะ” เธอพูดหลังจากที่มองไปที่นามสกุลของมอริส    

        

                    “ครับ” มอริสตอบอย่างสงสัยว่ารู้จักพี่ของเข้าได้อย่างไร

        

        เมื่อเห็นมอริสมีสีหน้าสงสัย เธอจึงอธิบายเพิ่มเติม “ฉันเคยเป็นศาสตราจารย์ประจำชั้นปีของพี่เธอนะ ครูชื่อ เทลิซ่า ฟาราเวล จ๊ะ อนนี้เป็นผู้ช่วยท่านอาคิลิส ผู้อำนวยการโรงเรียนน่ะจะ”

        

        “อ๋อ! ครับสวัสดีครับ ผม มอริส ฟิลโดราครับ” มอริสกล่าวแล้วยื่นมือไปจับกับศาสตราจารย์ตามมารยาท แล้วลุกขึ้นไปหาลีโอที่ยืนรออยู่ที่ประตูปราสาท ซึ่งแม็กเน็ตก็กำลังเดินลงมาพอดี

        

        “พี่แล้วเราจะพักที่ไหนกันหรอ” มอริสถามในขณะที่แม็กเน็ตเดินมาถึง

        

        “ก็เดี๋ยวไปหาที่พักกันต่อ” แม็กเน็ตตอบแล้วหันไปมองลีโอที่รอจังหวะแนะนำตัวอยู่

        

        เมื่อเห็นแม็กเน็ตหันมาให้ความสนใจลีโอจึงยื่นมืออกไปทันที “หวัดดีครับ ผมชื่อ ลีโอ แอมเบอไนท์คับ”     

        

                    “อืม ฉันแม็กเน็ต พี่ของไอ้หมอนี่แหละ แล้วนายพักที่ไหนละ ไปหาที่พักด้วยกันมั้ย” แม็กเน็ตจับมือกับลีโอแล้วถามต่อ

        

         “ไม่มีครับ” ลีโอตอบ



                     “งั้นเดี๋ยวไปหาที่พีกด้วยกันก็ได้ ไป!” แม็กเน็ตพูดแล้วเดินนำไปที่เกวียนของตัวเอง ส่วนลีโอก็เดินไปขึ้นม้าที่ยืนอยู่แถวๆนั้น              



        เมืองพรอนเทอเรีย เป็นเมืองที่ผู้คนพลุกพล่านพอสมควร โดยเฉพาะในช่วงที่โรงเรียนอาร์มเมอร์คิง มีการรับสมัครนักเรียนด้วยแล้ว ที่พักนั้นเลยกลายเป็นเรื่องยากขึ้นมาทันที ทั้งสามคน ต้องเทียมเกวียนไปเรื่อย พอเจอโรงแรมแล้วก็ลงไปถาม ในตอนนี้ถามมาแล้ว เกือบ10แห่งแต่ก็ไม่มีห้องว่างซักที จนในที่สุดก็เจอโรงแรมหนึ่ง มีห้องว่างเหลือพอดี แม็กเน็ตจึงจัดการจองห้องพักขนาด3คนแล้วก็นำเกวียนกับม้าของลีโอฝากไว้กับโรงแรมและสั่งอาหารขึ้นไปบนห้องด้วยเพราะตอนนี้เป็นเวลาค่ำแล้ว แม็กเน็ตขี้เกียจพาเด็กๆออกไปกินข้างนอก

        

        เมื่อขึ้นมาถึงบนห้อง ก็พบว่าเป็นห้องที่ดูดีพอสมควร เครื่องประดับห้องถูกจัดไว้อย่างเป็นระเบียบ ระเบียงของห้องหันออกไปทางนอกเมือง ทำไห้เห็นวิวของทุ่งหญ้าเขียวขจีไปตลอดทาง



                    “ขอบคุณนะครับที่ให้ผมพักด้วย” ลีโอกล่าวขอบคุณแม็กเน็ตที่ใจดีให้เขาพักด้วย เพราะว่าลีโอเดินทางมาคนเดียวไม่มีที่พักเหมือนกัน



                    กรี้ง!!!



                   “อาหารมาส่งคราบ!” เสียงของชายคนหนึ่งดังขึ้นมาจากหน้าประตู

        

        “อืม ไม่เป็นไรหรอก” แม็กเน็ตกล่าวก่อนที่จะเดินออกไปรับอาหารที่สั่งเอาไว้

        

        “เออ พี่ แล้วเห็นบอกว่ามีสอบเข้าอะ เค้าสอบเกี่ยวกับอะไรกันอะ” มอริสถามถึงข้อสงสัยที่สงสัยมานานแต่ไม่มีโอกาสซักที

        

        “ไม่รู้หรอก เพราะเค้าจะเปลี่ยนบแบบทดสอบทุกปีแหละ แต่ส่วนปีที่ฉันสอบนะ เค้าให้บุกขึ้นไปเอาธงบนปราสาทที่จะมีแค่60ใบ แล้วก็ต้องกลับออกมาพร้อมธง ก็ถือว่าสอบผ่าน พี่ก็เลยปล่อยให้มันขึ้นไปเอาธงกันก่อน แล้วก็ดักเก็บมันตรงประตูแหละ เป็นไงฉลาดมั้ย ฮ่า ฮ่า ฮ่า” แม็กเน็ตเล่าแล้วก็หัวเราะด้วยความภาคภูมิใจกับแผนการของตนเอง ปล่อยให้รุ่นน้องทั้งสองคนนั่งมองหน้ากันอย่างเอือมระอา

        

        “โห แล้วงั้นมันไม่สู้กันเลือดสาดเลยหรอ” มอริสถามอย่างตื่นเต้น ในขณะที่ลีโอมีตาเป็นประกายอย่างตื่นเต้นที่จะได้สู้

        

        “มันก็มีบ้างอะแหละ แต่ไม่ต้องห่วงหรอกเพราะ ท่านอาคิลิสเค้าลงอาคมป้องกันการตายไว้แล้ว เออ ว่าแต่ลีโอ นายใช้อะไรในการต่อสู้หรอ” แม็กเน็ตพูดแล้วหันมาถามลีโอ

        

        “ผมใช้ดาบครับ มันเป็นวิชาที่สืบทอดมาตั้งแต่บรรพบุรุษของผมแล้ว” ลีโอบอกพลางยืดอกขึ้นเล็กน้อยด้วยความภาคภูมิใจ

        

        “เออ ว่าแต่นายเหอะมอริส นายใช้อะไรสู้อะ เวทย์หรือดาบหรือธนู” ลีโอหันมาถามมอริส

        

        “ฉันใช้ดาบได้บ้างนิดหน่อยอะ แต่ส่วนใหญ่จะใช้มีดสั้น” มอริสว่าแล้วหยิบมีดคู่กายมาควงเล่นอย่างคล่องแคล่ว

        

        “เอ้าวันนี้นอนกันก่อนเหอะ แล้วพรุ่งนี้ไปเที่ยวในเมืองกัน” แม็กเน็ตพูดแล้วปิดไฟทันที



                                                                                    +++++++++

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×