อาวุธสงคราม

ลำดับตอนที่ #12 : ขิปนาวุธ แตโปดอง-2

แตโปดอง-2 ขีปนาวุธพิสัยไกลของเกาหลีเหนือ ถูกพัฒนามาจาก แตโปดอง-1 เกาหลีเหนือได้นำมาทดลองยิงทดสอบเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2549 แต่ประสบความล้มเหลว ขีปนาวุธตกในทะเลญี่ปุ่น ทางทิศตะวันออกของคาบสมุทรเกาหลี หลังจากยิงขึ้นมาจากฐานยิงได้ 40 วินาที

ผู้เชี่ยวชาญทางทหารเปิดเผยว่า ขีปนาวุธ แตโปดอง 2 นั้น ยังสามารถบรรทุกหัวรบขนาด 1,000 กก. ได้อีกด้วย สามารถพัฒนาให้ยิงได้ไกลขึ้นถึง 6,700 กม. ไกลพอที่จะเล็งเป้าหมายรัฐอะแลสกา และอาจรวมไปถึงเกาะฮาวายของสหรัฐ ทั้งนี้แหล่งข่าวของสหรัฐและเกาหลีใต้ระบุตรงกันว่า เกาหลีเหนือกำลังพัฒนาแตโปดอง 2 ให้สามารถบรรทุกหัวรบขนาดเล็ก เพื่อให้ยิงไปได้ไกลกว่า 10,000 กม. หวังโจมตีเป้าหมายชายฝั่งตะวันตกของสหรัฐ สำหรับแตโปดอง 2 เป็นขีปนาวุธรุ่นถัดต่อมาจากแตโปดอง 1 ที่มีพิสัยการยิงไกล 2,000 กม. โดยเกาหลีเหนือทดสอบการยิงแตโปดอง 1 ข้ามประเทศญี่ปุ่นไปตกในมหาสมุทรแปซิฟิกเมื่อปี 2541 จุดกระแสการประท้วงจากทั่วโลก

โทรทัศน์ท้องถิ่นของญี่ปุ่น เอ็น 21 นิอิงาตะ รายงานว่า มีผู้โทรศัพท์เข้าไปที่สถานี บอกว่า เห็นท้องฟ้ากลายเป็นสีแดงเจิดจ้าอย่าง ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน บริเวณชายฝั่งด้านทิศตะวันตกของญี่ปุ่น แต่ก็ไม่มีข้อพิสูจน์สิ่งผิดปกติดังกล่าว ส่วนสำนักข่าวเกียวโดรายงานด้วยว่า มีหญิงชราวัย 74 ปี อาศัยอยู่บนเกาะซาโดะในจังหวัดนิอิงาตะทางตอนเหนือของประเทศ กล่าวว่า ออกจากบ้านเวลาประมาณตี 4 ตามเวลาท้องถิ่น เห็นท้องฟ้าฝั่งตะวันตกของเกาะซาโดะกลายเป็นสีแดงเจิดจ้านานประมาณ 5 นาที แต่ทางตำรวจบอกว่า การทดสอบยิงขีปนาวุธของเกาหลีเหนือนั้นยิงตอนสว่างดวงอาทิตย์ขึ้นแล้ว แต่ที่ชาวบ้านเห็นเป็นสีแดงเจิดจ้าตอนเช้ามืดนั้นน่าจะเป็นการเข้าใจผิด เห็นแสงตะวันเป็นแสงเจิดจ้า

สื่อมวลชนของเกาหลีเหนือไม่ได้รายงานข่าวเรื่องการทดลองยิงขีปนาวุธของเกาหลีเหนือแต่อย่างใด ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวของญี่ปุ่นที่ประจำอยู่ที่กรุงเปียงยางในเกาหลีเหนือ รายงานว่าสถานีโทรทัศน์ของเกาหลีเหนือไม่มีโปรแกรมออกอากาศในตอนเช้าวันพุธ และสถานีวิทยุรายงานข่าวแต่เพียงว่า นายคิม จอง อิล ผู้นำเกาหลีเหนือได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมโรงงานผลิตยางรถยนต์ในประเทศเท่านั้น อย่างไรก็ตามโทรทัศน์ของญี่ปุ่นรายงานด้วยว่า เจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศของเกาหลีเหนือเปิดเผยว่า สิทธิในการทดสอบการยิงขีปนาวุธนั้นเป็นของประเทศอธิปไตย และไม่มีใครสามารถเข้ามาแทรกแซงในโครงการขีปนาวุธของเกาหลีเหนือได้

ต่อมา กองบัญชาการเสนาธิการทหารร่วมของกองทัพเกาหลีใต้ แถลงว่า กองทัพเกาหลีใต้ขอยืนยันว่า เกาหลีเหนือได้ทำการยิงขีปนาวุธลูกที่ 7 เป็นขีปนาวุธพิสัยปานกลาง โดยยิงขึ้นมาจากฐานยิงที่เมืองอันยอนจังหวัดกังวอน เมื่อเวลา 17.20 น. ของวันพุธตามเวลา ท้องถิ่น ตรงกับ 15.20 น. วันเดียวกันตามเวลาในประเทศไทย ขีปนาวุธลูกที่ 7 นี้ เชื่อว่า ขีปนาวุธสคัด หรือไม่ก็ขีปนาวุธแบบโรดองแบบเดียวกับที่ยิงไป 5 ลูกก่อนหน้านี้ แต่สำนักข่าวอินเตอร์แฟกซ์ของรัสเซีย อ้างรายงานการติดตาม ของกองทัพรัสเซียระบุว่า เกาหลีเหนือได้ทดลอง ยิงขีปนาวุธไป 10 ลูกด้วยกัน

สำหรับปฏิกิริยาของนานาชาติต่อการทดลองยิงขีปนาวุธแตโปดอง 2 ของเกาหลีเหนือในครั้งนี้ ได้ก่อให้เกิดกระแสการประณามเกาหลีเหนืออย่างรุนแรงจากนานาชาติ เริ่มที่ญี่ปุ่น โดยนาย ทาโร อาโซะ รมว.ต่างประเทศญี่ปุ่นได้เรียกร้องให้สหประชาชาติ (ยูเอ็น) หามาตรการเพื่อที่จะยับยั้งเกาหลีเหนือในเรื่องนี้ และยังกล่าวเตือนว่ามีความเป็นไปได้สูงที่ญี่ปุ่นจะนำมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจมาใช้กับเกาหลีเหนือ จึงได้ยื่นประท้วงรัฐบาลเกาหลีเหนือไปแล้วด้วย นอกจากนั้นยังได้สั่งห้ามเรือโดยสารข้ามฟากของเกาหลีเหนือเดินทางเข้ามาญี่ปุ่นเป็นเวลา 6 เดือน ต่อมานายจุนอิชิโร โคอิซุมิ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นกล่าวว่า ญี่ปุ่นยืนยันว่าจะต้องเดินหน้าเจรจากับเกาหลีเหนือต่อไป เพราะไม่มีอะไรที่จะแก้ปัญหาได้นอกเหนือจากการเจรจา ส่วนหุ้นและค่าเงินในตลาดซื้อขายหลักทรัพย์ และแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศทั่วเอเชียผันผวนไปหมดทุกตลาด เพราะเรื่องขีปนา วุธเกาหลีเหนือ

ขณะที่ทางคณะมนตรีความมั่นคงแห่ง สหประชาชาติก็ได้ตัดสินใจเรียกประชุมฉุกเฉินเรื่องนี้ในทันทีในช่วงเช้าวันพุธตามเวลาท้องถิ่นในสหรัฐ ส่วนเกาหลีใต้โดยนายบัน คี-มูน รมว. ต่างประเทศเกาหลีใต้ กล่าวว่า การทดสอบยิงขีปนาวุธของเกาหลีเหนือถือว่าเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงแห่งภูมิภาค และยังไปกระทบต่อ ความสัมพันธ์ระหว่างสองเกาหลีซึ่งอาจจะมีผลต่อการให้ความช่วยเหลือด้านอาหารของเกาหลี ใต้ที่มีต่อเกาหลีเหนือ ขณะที่นายซูห์ ชู-ซุค ที่ปรึกษานโยบายด้านความมั่นคงของประธานา ธิบดีเกาหลีใต้กล่าวว่า เกาหลีใต้ขอเรียกร้องให้เกาหลีเหนือยุติการกระทำที่ก้าวร้าวทั้งปวง และหันหน้ามาเจรจา 6 ฝ่ายร่วมกับนานาชาติในอันที่จะยุติการเผยแพร่นิวเคลียร์

ด้านสหรัฐโดยนายโทนี สโนว์ โฆษกทำเนียบขาวแถลงว่ารัฐบาลสหรัฐขอเตือนเกาหลีเหนือให้ยุติการใช้มาตรการยั่วยุอีกต่อไป เช่น การทดลองยิงขีปนาวุธดังกล่าว ซึ่งสหรัฐมีสิทธิในอันที่จะใช้มาตรการทุกวิถีทางที่จำเป็นเพื่อปกป้องตนเองและพันธมิตรของสหรัฐ นอกจากนั้นสหรัฐยังขอประณามเกาหลีเหนือในเรื่องนี้ด้วย ซึ่งตรงกับปฏิกิริยาของอีกหลายชาติ เช่น รัสเซีย โดยกระทรวงการต่างประเทศของรัสเซียได้ออกมาประณามเช่นกัน ขณะที่นายอเล็กซานเดอร์ ดาวเนอร์ รมว.ต่างประเทศของออสเตรเลียกล่าวเสริมด้วยว่า เกาหลีเหนืออาจวางแผนที่จะทดลองยิงขีปนาวุธอีกก็ได้ ซึ่งข้อมูลที่ได้มาระบุเช่นนั้น