ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [衛霄] เพลิงวิญญาณบรรพกาล

    ลำดับตอนที่ #10 : 十

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 14.98K
      1.13K
      1 ก.ย. 63




              “พี่สี่  ท่านเป็นบ้าไปแล้วหรือ!” เว่ยซูลี่เจ็บหนังศีรษะจนน้ำตาเล็ด  นางมองเว่ยจิ่นจี๋ด้วยสายตาอาฆาต  จากนั้นคนทั้งสองก็เริ่มยื้อยุดฉุดกันอย่างบ้าคลั่ง  


              ข้าอยู่เจ้าตาย  ข้าตาย... เจ้าก็ต้องตาย!

              แน่นอน  เพราะคุณหนูสี่และคุณหนูห้าต่างก็เป็นผู้ฝึกปราณ  การตบตีของพวกนางจึงรุนแรงมิใช่น้อย  ต่างฝ่ายต่างหน้าช้ำเลือดคั่งตาเขียว  ไม่เหลือเค้าสภาพของคุณหนูสูงศักดิ์เช่นเมื่อครู่

              อีกทั้งตอนนี้เปลวเพลิงสีชาดได้แผดเผากระโปรงสีชมพูไปกว่าครึ่ง  จึงเผยให้เห็นขาอ่อนขาวเนียนของเว่ยจิ่นจี๋ที่กำลังเชิดหน้าท้าทายแสงอาทิตย์

              “อุ๊บ!  ฮ่าๆๆเว่ยเซียวไม่อาจกลั้นหลุดขำออกมา  นอกจากส่งพลังบางเบาควบคุมเพลิงสีชาดให้ลุกไหม้  นางยังคงเฝ้ามองการวิวาทของเหล่าน้องสาว  ไม่กล้าละสายตาแม้เสี้ยวขณะ

              แรกเริ่มเว่ยเซียวเพียงต้องการกลั่นแกล้งเว่ยจิ่นจี๋เท่านั้น ไม่คาดว่าพวกนางจะหันมาตบตีกันเองเช่นนี้

              เอาล่ะ... น้องสาวทั้งหลาย  พี่สาวกำลังชมฉากสนุกของพวกเจ้าอย่างใจจดใจจ่อเชียวล่ะ



              ท่ามกลางความวุ่นวายขนาดย่อมแถวเรือนเก่าโทรม  เสียงฝีเท้ามากมายก็วิ่งกรูมาถึงจุดเกิดเหตุในชั่วครู่ให้หลัง

              ผู้มาเยือนครานี้คือฮูหยินใหญ่ฟ่านอวี่ มารดาบังเกิดเกล้าของเว่ยจิ่นจี๋และบ่าวรับใช้ประจำตัวทั้งสี่นาง

              “จี๋เอ๋อ!  เกิดสิ่งใดขะ ไฟไหม้  ว้าย!” อนิจจา  นอกจากจะไร้ประโยชน์แล้ว  การมาเยือนของฟ่านอวี่ก็ยิ่งสร้างความรำคาญหนักขึ้นไปอีก

              เว่ยจิ่นจี๋น้ำหูน้ำตาไหลพราก  ชี้นิ้วใส่เว่ยซูลี่พลางหันไปฟ้องมารดา ท่านแม่ ฮือนังสารเลวนี่มันคิดทำร้ายจี๋เอ๋อ  ท่านแม่ต้องช่วยจี๋เอ๋อตีมันให้ตายนะเจ้าคะ!”

              ฟ่านอวี่หน้านิ่วคิ้วขมวดมองใบหน้าม่วงช้ำเหมือนผีของเว่ยซูลี่  บุตรสาวนังเฝิงซวงอี๋รึ?  ทั้งแม่ทั้งลูกสารเลวเหมือนกันไม่มีผิดเพี้ยน! 

              ยิ่งเมื่อได้เห็นสภาพเละเทะของเว่ยจิ๋นจี๋ก็ให้เดือดดาลใจนัก  ฟ่านอวี่ขบกรามแน่น  

              บุตรสาวสุดที่รักของนางยามนี้กำลังอวดโชว์เรียวขาขาวเนียน  หากเรื่องนี้รู้ไปถึงหูองค์รัชทายาท… 

              ฟ่านอวี่ตวัดจ้องบ่าวรับใช้เขม็ง  สายตาของนางดุร้ายน่ากลัว

              “พวกบ่าวไม่เห็นสิ่งใดเลยเจ้าค่ะ!!” บ่าวรับใช้ที่รับรู้ถึงความนัยรีบก้มหน้ามองพื้นดินทันที

              อย่างไรก็ตาม  ไม่ทันให้ฟ่านอวี่ได้หันไปตำหนิบุตรสาวของศัตรูคู่แค้น  พลันรู้สึกถึงความอบอ้าวเหมือนโดนย่างสดที่ปลายเท้า

              “ฮะ ฮูหยินใหญ่เจ้าคะ!  ชายกระโปรงของท่าน…” บ่าวรับใช้ที่สังเกตเห็นเป็นคนแรกโพล่งขึ้นมา

              “กระโปรงของข้า?  ว้าย!  ไฟไหม้!!” สิ้นเสียงฟ่านอวี่  กลุ่มก้อนสตรีก็เริ่มชุลมุนวุ่นวายอีกครั้ง  พวกนางหมกมุ่นกับการพัดโหมเปลวเพลิงให้ลุกไหม้ยิ่งขึ้น

              ตัวการผู้ก่อสร้างเรื่องราวทั้งหมดเพียงยกยิ้มอยู่ในที่ลับตา  ช่างประจวบเหมาะเสียจริง  ฮูหยินใหญ่เอ๋ย... เดินเสนอหน้ามาให้นางตบถึงที่เลยทีเดียวเชียว



              เสียงโหวกเหวกโวยวายของเหล่าสตรีส่งผ่านปากบ่าวรับใช้  ลอยไปถึงหูคนฝั่งเรือนหลัก  สร้างความหงุดหงิดให้แม่ทัพเว่ยหลางที่อยู่ในห้องหนังสือเป็นอย่างยิ่ง  

              เขาที่กำลังหารือกับองค์รัชทายาททั้งโมโหทั้งอับอาย  แทบจะแทรกแผ่นดินหนีไปเสียเดี๋ยวนั้น  

              หากยังไม่ออกไปจัดการด้วยตนเอง  เกรงว่าเสียงน่ารำคาญของพวกนางคงทำให้แก้วหูพวกเขาพังพินาศในไม่ช้า

              รู้ทั้งรู้ว่าองค์รัชทายาทอุตส่าห์ให้เกียรติมาเยือนในครานี้  แล้วนี่... พวกนางเป็นบ้ากันไปหมดแล้วหรืออย่างไร!

              “เสียมารยาทแล้ว... ฝ่าบาทโปรดอภัย  กระหม่อมขอออกไปดูเสียหน่อยว่าเกิดเรื่องอันใดขึ้น เว่ยหลางผุดลุกจากที่นั่ง  ฝืนยิ้มให้องค์รัชทายาทก่อนจะรีบหมุนตัวเดินออกไป

              องค์รัชทายาทเลิกคิ้ว  ท่าทางสนอกสนใจ  เขาเองก็ลุกตามแม่ทัพเว่ยไปดูเรื่องสนุกด้วยเช่นกัน



              ฟ่านอวี่พร้อมบ่าวรับใช้ทั้งสี่วุ่นวายกับการดับไฟ  เช่นเดียวกับเด็กสาวทั้งสอง  เว่ยจิ่นจี๋และเว่ยซูลี่ก็กำลังจิกทึ้งศีรษะของอีกฝ่าย  หมายตบตีกันให้ตายไปข้างหนึ่ง

              เว่ยซูเม่ยเห็นพี่สาวทั้งสองผมเผ้ากระเซิงเหมือนภูตผี  ยามนั้นนางไม่รู้จริงๆว่าควรรับมืออย่างไรดี  

              ในตอนนั้นเอง  ดวงตาลนลานราวกระต่ายตื่นได้กวาดไปเห็นเงาบุรุษมากมายกำลังมุ่งตรงมา

              นัยน์ตาของเว่ยซูเม่ยทอประกายยินดีไม่ปิดบัง “ท่านพ่อ!  ท่านพ่อกำลังมาแล้ว  และยังมีองค์รัชทายาท... องค์รัชทายาทก็ทรงเสด็จมาด้วย!”

              เสียงเตือนของเว่ยซูเม่ยเปรียบเสมือนสายฟ้าฟาด  ยังผลให้ทุกชีวิตหยุดการกระทำของตนราวถูกแช่แข็ง  

              ภาพสตรีวัยกลางคนผู้หนึ่งและบุตรสาวกำลังยืนท้าประลองต้นขาขาวเรียวนี่มัน… เป็นภาพบัดสี  ภาพบัดสีโดยแท้จริง!

              หากองค์รัชทายาทได้มาเห็นสภาพไร้ยางอายเช่นนี้เว่ยจิ่นจี๋คงไม่พ้นต้องถูกครหาว่าเป็นหญิงด้อยค่าที่ไม่คู่ควรกับพระองค์อย่างแน่นอน!

              ฟ่านอวี่ตะลึงงัน   ยังดีที่นางกู้คืนสติกลับมาได้อย่างรวดเร็ว 

              นัยน์ตาคู่นั้นราวกับมีประกายไฟ  ตัดสินใจเด็ดขาดปราศจากความลังเล  นางยื่นมือผลักเว่ยจิ่นจี๋ตกทะเลสาบแล้วกระโดดตามลงไปทันที

              ตูม!  ผิวน้ำแตกกระจายเกิดเป็นระลอกคลื่น

              “พรวด!  แค่กๆท่านแม่!  ท่านจะบุ๋งๆๆเว่ยจิ่นจี๋ถูกมารดาผลักตกทะเลสาบโดยไม่ทันตั้งตัว  เพียงเผยอหน้าขึ้นมาก็โดนฟ่านอวี่กดหัวลงไปใต้น้ำอีกครั้ง

              ฟ่านอวี่ยกมือเขี่ยๆใบบัวแถวนั้นทับศีรษะบุตรสาวให้หลบซ่อนจากสายตาผู้คน  นางกล่าวลอดไรฟัน จี๋เอ๋อเงียบแม่กำลังช่วยเจ้าอยู่นะ!”

              ต่อให้วิ่งหนีก็คงไม่ทันแล้ว  ฉะนั้นด้วยสัญชาตญาณของมารดา  ฟ่านอวี่ยอมเสียหน้า  แต่ไม่ยอมให้บุตรสาวสุดที่รักต้องด่างพร้อยเป็นอันขาด

    ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×