ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Bloody Vampire:รักสุดใจเจ้าชายแวมไพร์ [Yaoi / NC.17]

    ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ..

    • อัปเดตล่าสุด 15 ก.ย. 50


    Bloody Vampire : รักสุดใจเจ้าชายแวมไพร์[Yaoi / NC.17] 

              บทนำ..

    หิมะสีขาวโพลนอ่อนนุ่มกำลังตกลงมาห่อหุ้มปราสาทลอยฟ้าอันเป็นที่พักอาศัยของราชาแห่งเผ่าแวมไพร์ อากาศในฤดูหนาวนี้หนาวกว่าทุกปีที่ผ่านมา แต่กับพวกปีศาจอย่างแวมไพร์แล้ว ความเย็นระดับนี้ถือได้ว่าธรรมดาเสียด้วยซ้ำไป สายธารรอบปราสาทที่เคยเป็นสีแดงสด เชื่อกันว่าเกิดจากเลือดของเหล่ามนุษย์ที่บุกล้ำเข้ามาในดินแดนอัน ศักดิ์สิทธิ์  แห่งนี้ บัดนี้กลับเป็นสีแดงอ่อนละโรยเริ่มที่จะแข็งตัวเพราะอากาศรอบๆบริเวณ ซึ่งในขณะนี้เป็นเวลาเย็นของฤดูหนาวที่จะมืดเร็วกว่าปกติผิดต่างจากฤดูอื่นๆ ทำให้ใกล้ถึงเวลาออกล่าเหยื่อของเหล่าปีศาจแต่ล่ะตนเสียแล้ว

    “เจ้าชายเพคะ!!!!” เสียงตะโกนเรียกจากอีกฝากของประตูบานใหญ่ลอดผ่านมายังห้องนอนที่ถูกประดับตกแต่งอย่างหรูหราร่าของเจ้าชายแวมไพร์องค์เล็กนามว่ารีเฟล ที่บัดนี้พระองค์ทรงกำลังหลับใหลในห้วงนิทราอันแสนสั้นของเวลากลางวันในฤดูหนาวเมืองนี้

    “เจ้าชายรีเฟล ทรงตื่นจากพระบรรทมได้แล้วเพคะ นี้ฟ้าก็มืดลงทุกทีแล้วนะเพคะ” เสียงนั้นยังราวีไม่เลิก ในวันนี้เจ้าชายรีเฟลได้มีนัดกับพระพี่ชายว่าพระองค์จะทรงเสด็จออกตรวจตราดูรอบๆอณาเขตพื้นที่ของชนเผ่าเพื่อหาสิ่งแปลกปลอมหรือผู้บุกรุก หากแต่เจ้าชายตัวน้อยที่ไม่อยากออกนอกปราสาทเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แถมยังเจออากาศเย็นน่านอนเสียขนาดนี้ ก็ไม่แปลกเลยที่พระองค์จะทรงอู้ไม่ยอมตื่นจากพระบรรทม

    “เจ้าชายรีเฟลเพคะ วันนี้พระองค์ทรงมีนัดนะเพคะ หากเจ้าชายทรงช้าหม่อมฉันว่าเจ้าชายจะโดนเจ้าชายเซเอลทรงพิโรธเอานะเพคะ” นางสนองพระโอษฐ์ยังคงเคาะประตูสลับกับเรียกปลุกเจ้าชายรีเฟลต่อไปโดยไม่มีทีท่าว่าเจ้าชายรีเฟลจะทรงขานรับคำขอของอีกฝ่ายเลยแม้แต่น้อย  

    เป็นเช่นนี้อยู่ราวๆ 15 นาที ก่อนที่นางสนองพระโอษฐ์ของเจ้าชาย จะเหน็ดเหนื่อยจนจำใจต้องเลือกวิธีอื่นที่จะสามารถปลุกเจ้าชายน้อยอย่างรีเฟลได้ แต่เปล่าเลยไม่มีวิธีใดอีกแล้ว เด็กรับใช้ทั้งหลายต่างพากันวิตกกังวลว่าตนจะทำอย่างไรถึงจะปลุกเจ้าชายน้อยได้ทันเวลานัดกับเจ้าชายองค์โตของราชาแวมไพร์ ไม่นานนักชายผู้หนึ่งก็มายังหน้าห้องบรรทมของเจ้าชายรีเฟลอย่างไม่พูดไม่จา 

    “ว้าย” เหล่าเด็กรับใช้ 4-5คนในบริเวณนั้นต่างถอยหลังหลบให้กับร่างสูงที่เดินตัดวงล้อมมายังหน้าประตูไม้บานใหญ่อย่างไม่รอช้าพร้อมกับลูกกุญแจสีทองห่วงใหญ่ 

    .....เจ้าชายเซเอลนั้นเอง องค์พระพี่เทอทรงโยนกุญแจที่ตนนำมานั้นกับสาวใช้เพื่อไขบานประตูตรงหน้าซึ่งก็คือห้องขององค์ชายรีเฟลในทันที ผมสีเงินที่ยาวถึงสะโพกกระเพื่อมเป็นจังหวะการกระดิกเท้ารอสาวใช้ไขกุญแจอย่างโมโหโทสะ นัยน์ตาสีแดงเลือดดูเย็นชา อ่อนโยนแต่ก็แฝงไปด้วยความโกรธเคืองที่รีเฟลสัญญาเอาไว้เองแท้ๆไว้แต่กลับทำเสียงานเช่นนี้

                    “รีเฟล!!!!!!!!!!!!”  ประตูไม้บานใหญ่ถูกผลักออกด้วยแรงมหาศาลของเจ้าชายเซเอล พระองค์ทรงตะโกนเรียกองค์น้องชายขณะเดียวกันกับที่สาวเท้าเข้ามาในห้องของน้องชายอย่างถือวิสาสะ

     

                    “..........” ไม่มีเสียงตอบรับขององค์น้องแม้แต่น้อย.....เจ้าชายองค์โตเริ่มจะทนไม่ไหวกับความขี้เซาของน้องชายคนนี้เต็มที จนพระองค์ทรงสาวเท้าจ้ำอ้าวตรงไปยังเตียงของเจ้าชายรีเฟลอย่างไม่รีรอเวลาให้ผ่านล่วงเลยไปอีก

                    “รีเฟล” องค์ชายผู้เป็นพี่กระชากผ้าห่มออกจากเรือนร่างของน้องชาย เผยให้เห็นร่างกายเพรียวบางและขาวเนียน นอนขดอยู่บนเตียงนอนอันแสนนุ่มสบาย เปลือยท่อนบนทั้งที่อากาศหนาวเย็นเช่นนี้ เหลือเพียงแต่กางเกงนอนตัวสีเทาตัวเดียวเท่านั้นบนร่างกาย

                    “พี่เซ........ขออีกห้านาทีนะครับ” รีเฟลบ่ายเบี่ยงขอต่อเวลานอนต่ออีกซักห้านาที แต่มีรึที่เซเอลจะยอมให้น้องชายเอาแต่ใจคนนี้ ขอยึดเวลาต่อไปอีก

                    “ไม่ต้องมาห้านาทีเลย นายทำพี่เลทไปครึ่งช.ม.แล้วนะรีฟ” เซเอลพูดอย่างเคืองๆ นัยน์ตาสีแดงเลือดมองจดจ้องไปยังร่างกายอันบอบบางของรีเฟล “ทั้งที่หนาวขนาดนี้แท้ๆ ไปติดนิสัยไม่ใส่เสื้อนอนมาจากใครกัน”

                    “อืม.....ไม่รู้สิครับ.....ผมว่าแบบนี้สบายซะกว่า” รีเฟลตอบอย่างงัวเงียแล้วยันตัวเองลุกขึ้นจากเตียงนอน  นัยน์ตาสีแดงเพลิงยังคงปรืออยู่ นิ้วเรียวยาวถูกยกขึ้นมาเพื่อขยี้ตาให้สร่างจากความง่วง ก่อนที่เจ้าตัวจะบิดขี้เกียดอีกทีเผยให้เห็นแผ่นอกสีขาวเนียนอย่างชัดเจน

                    “นายนี้นับวันยิ่งเหมือนแม่นะรีฟ” เซเอลมองร่างของรีเฟลบนที่นอนตั้งแต่หัวไล้ลงจรดเท้า ทั้งร่างกายที่บอบบางอ้อนแอ้นราวกับสตรีเพศ  ทั้งผิวที่ขาวเนียนเสียยิ่งกว่าสาวเจ้าบางราย เส้นผมสีเงินยาวประบ่าที่ทอประกายราวเส้นไหมก็ไม่ปราน แล้วยังนัยน์ตาสีแดงเพลิงที่ดูโชติช่วง นั้นอีกด้วย ราวกับว่าเป็นเจ้าหญิงงามแห่งดินแดนน้ำแข็งอันไกลโพ้น ซะมากกว่าเจ้าชายองค์เล็กแห่งดินแดนแวมไพร์

                    “พี่เซพูดอะไรไม่คิด ผมเป็นผู้ชายนะครับ แล้วพี่ก็เลิกมองผมด้วยสายตาพิจารณาแบบนั้นซะที ผมไม่ใช่น้องสาวนะครับ น้องชายครับ น้องชาย” รีเฟลพูดติดขำเตือนสติพี่ชายตัวเอง ทั้งที่เขาก็รู้ตัวเองดีว่าตนร่างกายงดงามราวกับหญิงสาว ไม่ว่าใครก็พูดเช่นนั้น จนเจ้าตัวชินไปเสียแล้ว

    “ผมจะอาบน้ำซักแป็บพี่รอที่โถงใหญ่ก็แล้วกันนะครับ”

                    “ถ้านายช้าฉันจะขึ้นมาลากนายอีกรอบ รีฟ” เซเอลทิ้งท้ายก่อนจะเดินออกจากห้องบรรทมขององค์น้องลงไปยังห้องโถงชั้นล่างของปราสาทลอยฟ้า

                    “เฮ้อเบื่อจริงๆ........ทั้งที่หน้าที่ปกครองเมืองนี้ก็ต้องเป็นของพี่อยู่แล้วทำไมเราถึงต้องมาคอยตรวจตราเมืองด้วยนะ” รีเฟลบ่นอุบอิบกับตัวเองแล้วบิดขี้เกียดอีกทีเพื่อให้หายเมื่อยและส่างจากความง่วง

                    “ท่านรีฟเพคะน้ำอุ่นเตรียมเรียบร้อยแล้วเพคะ” เด็กสาวรับใช้ส่วนตัวเดินออกมาจากห้องน้ำแล้วโค้งให้รีเฟลเพื่อเป็นการทำความเคารพต้อนรับวันใหม่

                    “ขอบคุณครับยูลดร้า” รีเฟลยิ้มให้สาวใช้ส่วนตัวก่อนที่เด็กสาวจะหน้าแดงเป็นลูกมะเขือเทศแล้วขอตัวออกจากห้องบรรทมของรีเฟลไป

                    15 นาทีผ่านไปรีเฟลเดินออกมาจากห้องน้ำโดยนุ่งผ้าเช็ดตัวสั้นๆผืนหนึ่งกับผ้าขนหนูสำหรับเช็ดผมอีกผืนเท่านั้น เขาเดินไปเปิดประตูตู้เสื้อผ้าเลือกชุดที่เหมาะสมใส่ และในขณะนั้นเอง....

                    “รีฟ!!!!” ประตูห้องโดนรุกรานอีกครั้งด้วยฝีมือพี่ชายคนเดิม มันเปิดออกกว้าง พร้อมกับร่างของพระพี่เทอที่เดินตรงเข้ามายังตัวห้อง รีเฟลหันขวับไปยังประตูห้องของตัวเอง ด้วยสีหน้าไม่พอใจ

                    “ผมกำลังแต่งตัว” รีเฟลท้วงเมื่อพี่ชายรุกรานเวลาส่วนตัวของเขาแบบนี้แทบทุกครั้ง “อย่างน้อยก็หัดเคาะประตูซะบ้าง”

                    “นายช้า.....” เซเอลเสนอเหตุผล ที่เขาเข้ามาที่นี้โดยไม่เคาะประตูเสียก่อน

                    “โอเคแต่ผมจะเสร็จแล้ว มันจะเร็วกว่านี้ถ้าพี่จะออกไปข้างนอก” รีเฟลโต้แย้งก่อนจะชี้ไปที่ประตูห้อง เป็นสัญญาณว่าให้พี่ชายออกไปก่อน

                   “ฉันเป็นพี่นายนะรีฟ” เซเอลเดินเข้ามาขยี้หัวรีเฟลในระยะประชั้นชิด “นายจะมาองมาอายอะไร ผู้ชายด้วยกัน ทำตัวเป็นสตรีไปได้เมื่อครู่เจ้ายังบอกอยู่เลยว่าเจ้าเป็นผู้ชาย”

                    “........../////” ถูกของเซเอล รีเฟลเถียงไม่ได้ เขาก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมตัวเองถึงไม่ชอบให้มีคนเข้ามาในห้องเวลาเปลี่ยนเสื้อผ้า อาจจะเป็นเพียงแค่เพราะไม่ชินละมั่ง

                    “พี่ว่าน่าจะใส่ตัวนี้นะ” เซเอลหยิบเสื้อสูทตัวสีดำที่มีเฟอร์ต้นคอสีเดียวกันจากในตู้ให้รีเฟลดู

                    “อะ....อืม” มั่วแต่คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยจนไม่ได้ฝังที่พี่ชายพูดเลยแม้แต่น้อย แต่ทว่ามือของเขาก็รับชุดจากพี่ชายมาแต่โดยดี

                    “นายเป็นอะไรรึเปล่าน่ะรีฟ ทำไมหน้าแดงๆ หรือว่ามีไข้” เซเอลเอาหน้าผากของตนแตะกับหน้าผากของน้องชายเป็นการวัดไข้ แต่เขาก็ไม่รู้สึกถึงความร้อนจากตัวของน้องชายเลย

                    “อ๊ะ” ด้วยความตกใจรีเฟลจึงผงะถอยหลังไปจนแทบตั้งหลักไม่อยู่

                    “ก็ไม่มีไข้นี่หน่า เอ้า!!ใส่ชุดซะถ้าไม่ไหวก็บอกนะ” เซเอลขยี้หัวรีเฟลอีกคร่า ก่อนจะเดินสวนกับร่างบางๆออกจากห้องไป

                    “.......” รีเฟลมองชุดที่พี่ชายหยิบให้แล้วหน้าแดงขึ้นมากะทันหัน

    เมื่อก่อนนี้....... ความทรงจำช่วงนั้นกลับมาได้ยังไงกันนะ คนที่ขโมยเอาจูบแรกของเขาไปไม่ใช่ใครที่ไหนแต่ก็คือพี่ชายตัวดีคนนี้เองนั้นแหละ ทั้งที่เขาเองก็รู้ว่าพี่แค่แกล้งเล่นๆ และเขาก็พยายามจะลืมเรื่องนั้น มันเป็นความผิดที่พี่-น้องจะรักกันเองและที่สำคัญยังเป็นเพศเดียวกันอีกด้วย แต่ถึงจะเป็นไปได้ก็ไม่มีประโยชน์ เพราะเขาเองรักผู้เป็นพี่ชายฝ่ายเดียวอยู่ดี

                    “เฮ้อออ” องค์ชายตัวน้อยถอนหายใจยาวๆกับความคิดบ้าๆของตัวเอง แล้วใส่ชุดที่เซเอลเลือกให้เมื่อครู่อย่างรวดเร็วก่อนที่พี่ชายจะมาโวยเขาอีกรอบ

                    “เสร็จได้ซักทีพ่อคุณ” เซเอลเอ่ยแซวน้องชายที่เพิ่งเดินลงมาถึงห้องโถง ในชุดสูท เฟอร์สีดำที่เขาเป็นคนเลือกเองกับมือ “เฮ้เหมาะหนิ ใช้ได้”

                    “รีบไปเถอะพี่เซ เดี่ยวก็มาบ่นช้าๆ เป็นตาแก่ไฮเปอร์อีก” รีเฟลแซวคืนก่อนจะเดินไปตามพรมกำมหยี่สีแดงที่พาดยาวเป็นทางตรงไปยังบานทวารหน้าปราสาทอย่างรวดเร็ว

                    “นี้เจ้า” เซเอลเข้ามาล็อคคอรีเฟลเบาๆที่เจ้าน้องชายตัวดีมาหาว่าเขาแก่แล้ว ก่อนจะลากน้องชายออกจากปราสาทกลางเวหาไป

                    “โชคดีนะเจ้าค่ะท่านเซ ท่านรีฟ” ยูลดร้าสาวใช้คนงามโบกมือให้กับนายน้อยทั้งสองอย่างรักใคร่ “แล้วก็อย่าทำอะไรแผลงๆมากนักนะเจ้าค่ะ เดี่ยวจะเป็นอะไรไป”

    +------------------------------------------------------------------------------+

                    ไม่นานนักสองพี่-น้องโอรสราชาแวมไพร์ก็บินมาถึงยังหอนาฬิกาสูงกลางหมู่บ้าน จากมุมบนของหอนาฬิกาทำให้เห็นเมืองนี้ได้แทบจะทั้งหมด เมืองที่ปกคลุมไปด้วยสีขาวโพลนของหิมะในฤดูหนาวที่แสนสวยงาม มีประชากรเผ่าแวมไพร์เดินวนเวียนทำงานกันราวกับเมืองของพวกมนุษย์ปกติ

                    “รีฟเรามาโยนหัว-ก้อยกัน” เซเอลเสนอความเห็นกับน้องชาย

                    “ทำไมรึ” รีเฟลถามอย่างสงสัย ทั้งที่สายตายังจ้องอยู่ที่เมืองสีขาวโพลนนั้นดั่งถูกต้องสาป เขาชอบหิมะมาก มันทั้งเย็นและสวยงามเกินกว่าที่จะหาสิ่งใดมาเปรียบเทียบความงามของมันได้

                    “ถ้าได้หัวเจ้าไปตะวันออกส่วนพี่จะไปทางตะวันตก ถ้าได้ก้อยเจ้าต้องไปทางตะวันตกส่วนพี่จะไปทางตะวันออก แล้วกลับมาเจอกันที่หอนาฬิกาแห่งนี้ในตอนตี4ครึ่ง” เซเอลอธิบายสั้นๆ ก่อนที่เขาหยิบเหรียญขึ้นมาให้รีเฟลตัดสินใจ

                    “ก็เอาสิครับ” รีเฟลละสายตาจากภาพตัวเมืองสีขาวโพลนมายังพี่ชายที่กำลังจะโยนเหรียญแทน

                    “เอาล่ะนะ........ฮึบ”.......

                    เหรียญโลหะสีเงินลอยขึ้นสูงจากพื้นไปเกือบหนึ่งเมตร ก่อนที่มันจะตกลงมาตามแรงโน้มถ่วงของโลกในไม่ช้า

     

                     กึก!!!!

    เหรียญสีเงินตกถึงพื้นแล้วก็จริงแต่ทว่ามันกำลังหมุน.....

                    แล้วก็เริ่มที่จะหมุนเบาลงทุกที ทุกที

                   “หัว หัว หัว หัว หัว หัว”

                    “ก้อย ก้อย ก้อย ก้อย ก้อย”

                    เสียงขององค์ชายทั้งสอง ลุ้นเหรียญที่กำลังจะหยุดหมุน.....แล้วสุดท้ายมันก็หยุด......

     

                    ......................................

     

                    ........................

     

                    .............

     

                    “เย้!!!!” เซเอลร้องขึ้น เมื่อด้านที่ออกเป็นก้อย “ฮ่าๆ ออกก้อยเพราะฉะนั้น นายต้องไปทิศตะวันตกนะรีฟ”

                    “คร้าบๆ” รีเฟลลากเสียงยาวๆประชดประชันก่อนจะเชิดสะบัดผมใส่เซเอลแล้วออกบินไปยังทางทิศตะวันตกอย่างงอนๆ

                    เขตในพื้นที่ฝั่งตะวันตกนี้ส่วนมากแล้วเป็นป่าไม้ลึกที่ไม่ค่อยมีใครเข้ามานัก จึงได้เวลาอู้ของรีเฟลทันที เขาบินถลาลงในส่วนหนึ่งของป่า แล้วเดินหาที่ที่พอที่จะไว้สำหรับนั่งพักได้ เขาว่าจะงีบหลับซักพักก่อนจะออกตรวจตราบริเวณรอบๆต่อ

                    “เฮ้ออ พื้นที่แถวนี้ก็ไม่เห็นจะมีพวกมอนสเตอร์เลวร้ายอย่างที่พี่บอกเลยซักนิด” รีเฟลหันมองดูรอบกายที่มีแต่เพียงต้นไม้และต้นไม้ อย่าว่าแต่สัตว์ร้ายเลย แม้แต่สิ่งมีชีวิตยังไม่มีวี่แววเลยซักชนิดว่าจะมี แม้แต่ดอกไม้ หรือผลไม้ยังไม่มีเลยด้วยซ้ำไป

                    เอ๊ะ........นี้เราเดินมาไกลไปรึเปล่านะ......’  เมื่อเริ่มเห็นสภาพรอบตัวเริ่มที่จะน่าสงสัยขึ้นทุกครา ลองบินขึ้นไปดูดีกว่า

    องค์ชายร่างบางจึงตัดสินใจที่จะบินขึ้นไปดูด้านบน แต่เมื่อคลายปีกเท่านั้นแหละ........... เหล่าต้นไม้หลากหลายชนิดที่ไม่หน้าจะขยับเองได้กลับพากันพ้นพิษใส่เขาอย่างไม่ทันตั้งตัว

                    “โอ๊ย!!!!” รีเฟลทรุดลงเพราะพิษที่โดนเริ่มแผ่ซ่านทั่วทุกอณูของร่างกาย ซ้ำร้ายเหล่าปีศาจที่ซุกซ้อนตัวอยู่ตามต้นไม้ใบหญ้าต่างพากันหันมามองรีเฟลเป็นสายตาเดียว องค์ชายรีเฟลพยายามทรงตัวยืนขึ้นแล้วเตรียมท่าตั้งรับอย่างอิดโรย หมาป่าสีน้ำเงินหนึ่งฝูงกับหมาในอีกพอสมควรต่างพากันแยกเขี้ยวโชว์ฟันอันคมกริบที่เต็มไปด้วยน้ำลายสีเหลืองใสยืดระหว่างไรฟัน เตรียมพร้อมจะฉีกเนื้อของอีกฝ่ายเป็นชิ้นๆ

                    หนึ่งในหมาป่าที่เป็นหัวหน้าฝูงกระโดดเข้าจู่โจมรีเฟลก่อน เขาสามารถเปลี่ยนอากาศเป็นดาบอันพอเหมาะกับมือปัดหมาป่าตัวนั้นออกไปได้ แล้วหมาป่าที่เหลือจึงกรูกันเข้าทำร้ายรีเฟลในทันที

                    “เฮือก โอ๊ย” รีเฟลทรุดลงอีกครั้ง หมาป่าตัวหนึ่งกำลังจะกระโจนเข้ามาทางเขา......... หลบไม่พ้นแน่ๆในระยะประชั้นชิดแบบนี้ความเร็วขนาดนี้แล้วไหนยังสภาพร่างกายที่ทรุดลงมากกว่าเดิมแบบนี้อีก

                    ฟรืบ!!!!!!!ครืดดดดดดดดดด

                    เสียงแหวกอากาศของกระเล็บตรงเข้ามายังร่างของเจ้าชายน้อยที่ล้มพับอยู่กับพื้นบวกกับเสียงกรงเล็บขูดเข้ากับเนื้อหนัง ในขณะที่รีเฟลหลับตาปี๋เพื่อหลบตา แต่กลับเขาไม่รู้สึกเจ็บแม้แต่น้อย รีเฟลช้อนสายตาขึ้นมองไปยังเงาดำของบุรุษเบื้องหน้า ชายคนหนึ่งเข้ามากันให้เขาและกำลังสู้อยู่กับปีศาจพวกนั้นอย่างดุเดือด ทั้งที่อยากจะช่วย.......

    อยากจะขอบคุณ แต่ในขณะนี้.... 

                    ภาพทุกอย่างในทัศนะของรีเฟลวูบหายไป คงเป็นเพราะพิษจากต้นไม้ที่ทำให้เขาหลับลงไป

     

    TBC………

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×