คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #131 : 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก ยุคใหม่!?
7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก ยุคใหม่!?
"โหวต 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่"
7 กรกฎาคม ค.ศ.2007 หรือพ.ศ.2550 (07/07/07) นี้ จะเป็นวันที่ "มูลนิธิ 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่" (New 7 Wonders Foundation : N7W) ซึ่งดำเนินการมายาวนาน 7 ปีเต็ม แถลงความสำเร็จโครงการระดับโลก
ประกาศผลการเปิดให้พลเมืองโลกทั่วทุกมุมโลก
ลงคะแนนเสียงผ่านทางเว็บไซต์ www.new7wonders.com และทางโทรศัพท์ เพื่อลงมหาประชามติ ว่า สถานที่แห่งไหนในโลกใบนี้คู่ควรกับการยกย่องขึ้นเป็น "7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่" แทนที่ "7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคโบราณ" ซึ่งจนถึงปัจจุบันเสื่อมสลายไปหมดแล้ว คงเหลือ "มหาพีระมิดแห่งกิซา" อยู่เพียง 1 เดียว
มูลนิธิ "N7W" ก่อตั้งโดยนายเบอร์นาร์ด เวบเบอร์ ผู้สร้างภาพยนตร์ชาวสวิส/นาเดียน เมื่อปีพ.ศ.2543
วัตถุประสงค์เพื่อระดมทุนจัดหาเงินทุนอนุรักษ์-บูรณะมรดกวัฒนธรรมทางประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่อันเกิดจากการสรรค์สร้างของมนุษย์
ก่อนหน้านี้ เวบเบอร์กับคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิและผู้เชี่ยวชาญสถาปัตยกรรม นำโดย นายเฟเดอริโก เมเยอร์ อดีตผอ.องค์การยูเนสโก ได้คัดเลือกโบราณสถาน สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ รวมถึงสิ่งก่อสร้างที่มีความโดดเด่น 77 แห่งทั่วโลก
หลังจากนั้น ได้ทยอยเปิดให้ชาวโลกลงคะแนนคัดเลือกมาตามลำดับ กระทั่งขณะนี้เหลืออยู่ 21 แห่ง ซึ่งกำลังรอการลงคะแนนขั้นตอนสุดท้ายให้เหลือ 7 แห่ง
ข้อมูลจากเว็บวิกิพีเดีย ระบุว่า "7 สิ่งมหัศจรรย์ยุคโบราณ" ประกอบด้วย
1. มหาพีระมิดแห่งกิซ่า ของกษัตริย์คูฟู ริมฝั่งตะวันตกของแม่น้ำไนล์ในอียิปต์ มีอายุราว 2,690 ปีก่อนคริสต์กาล เป็นสิ่งมหัศจรรย์เก่าแก่ที่สุดที่ยังคงปรากฏให้เห็นอยู่จนถึงปัจจุบัน
2. สวนลอยบาบิโลน สร้างโดยพระเจ้าเนบูคัดเนสซาร์ที่ 2
3. เทวรูปเทพเซอุส ที่อารามโอลิมเปีย สูง
4. เทวาลัยอาร์เทมิส ที่เอเฟซุสในเขตเอเชียไมเนอร์
5. อนุสรณ์สถานเมาโซเลอุม ตั้งอยู่ในฮาลาคาร์นาสซุสในเอเชียไมเนอร์ สร้างโดยราชินีอาร์เทมิเซีย เพื่อเป็นอนุสรณ์แก่กษัตริย์เมาโซลุสแห่งคาเรีย
6. เทวรูปเฮลิออส แห่งโรเดสของกรีกในทะเลเอเจียน เป็นรูปสัมฤทธิ์ขนาดใหญ่ของพระอาทิตย์ หรือ เทพเฮลิออส ความสูง
7. ประภาคารฟาโรส แห่งอเล็กซานเดรีย ประเทศอียิปต์ สร้างในสมัยพระเจ้าปโตเลมี
มูลนิธิ "N7W" อ้างว่า 7 สิ่งมหัศจรรย์ข้างต้น คัดเลือกโดยนักประวัติศาสตร์ชาวกรีกยุคโบราณเพียงคนเดียว เพื่อนำมาจัดทำคู่มือท่องเที่ยวให้ชาวเอเธนส์
ดังนั้น จึงยุติธรรมกว่าถ้าครั้งนี้เปิดให้คนทั่วโลกลงมติพร้อมกันเป็นครั้งแรก และเปิดทางให้ความมหัศจรรย์จากเทคโนโลยีสมัยใหม่ เข้าไปมีส่วนร่วมผสมผสานเข้ากับมรดกโลกสมัยเก่าที่มีอายุนับพันปีอีกด้วย ซึ่งล่าสุดมีคนเข้ามาลงคะแนนแล้วทั้งสิ้นถึง 40 ล้านเสียง
รายได้ครึ่งหนึ่งจากสปอนเซอร์ของโครงการนี้จะใช้สำหรับการดูแลฟื้นฟูสิ่งมหัศจรรย์และมรดกสำคัญทางประวัติศาสตร์ของโลกต่อไป
อย่างไรก็ตาม มีเสียง "คัดค้าน" จากหน่วยราชการบางประเทศ ว่า "N7W" ไม่มีสิทธิ์เป็นตัวตั้งตัวตี ถือวิสาสะชี้นิ้วบอกว่า สิ่งไหนเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลกตามอำเภอใจ
โดยเมื่อเดือนเม.ย. กระทรวงวัฒนธรรมอียิปต์ ชาติที่ตั้งพีระมิดกิซา ก็เป็นหนึ่งในกลุ่มต่อต้าน เพราะมองว่าเป็นการทำเพื่อสร้างประโยชน์ทางการค้า เอื้อประโยชน์ให้อุตสาหกรรมทัวร์บางกลุ่ม ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนโครงการล้วนๆ ขณะที่บางชาติแสดงความยินดี เพราะเชื่อว่าจะช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศ
แม้จะมีมีเสียงต้านออกมาบ้าง แต่ในที่สุดรายชื่อ
- เมืองโบราณอาโครโปลิส กรุงเอเธนส์ กรีซ (Acropolis)
- ปราสาทและป้อมปราการอัลฮัมบรา เมืองเกรดานา สเปน (Alhambra)
- นครวัด กัมพูชา (Angkor)
- เมืองซีเชน อิตซา เขตยูคาทาน เม็กซิโก (Chichen Itza)
- รูปปั้นพระเยซูคริสต์ บนยอดเขาเมืองริโอ เดอ จานิโร บราซิล (Christ Redeemer)
- สนามโคลอสเซียม กรุงโรม อิตาเลียน (Colosseum)
- รูปปั้นหินโมอาย เกาะอีสเตอร์ ชิลี (Easter Island Statutes)
- หอไอเฟล กรุงปารีส ฝรั่งเศส (Eiffel Tower)
- กำแพงเมืองจีน (Great Wall)
- สุเหร่า โซเฟีย นครอิสตันบุล ตุรกี (Hagia Sophia)
- วัดคิโยมิสุ เมืองเกียวโต ญี่ปุ่น (Kiyamizu Temple)
- พระราชวังเครมลิน/ วิหารเซนต์เบซิล กรุงมองโก รัสเซีย (Kremlin/St. Basil)
- เมืองสาบสูญแห่งอินคา "มาชูปิกชู" (Machu Picchu)
- ปราสาทนอยชวานสไตน์ เยอรมนี (Neuschwanstein Castle)
- "เปตรา" เมืองนครหินสีชมพู จอร์แดน
- มหาพีระมิดกิซา อียิปต์ (Pyramids of Giza) ซึ่งตอนแรกไม่ติดโผ แต่ทางมูลนิธินำชื่อเข้ามาใหม่เพื่อให้เกียรติในฐานะ 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกที่ยังเหลืออยู่
- เทพีเสรีภาพ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา (Statue of Liberty)
- กองหินประหลาด "สโตนเฮนจ์" เมืองเอเมสบิวรี่ อังกฤษ (Stonehenge)
- โรงอุปรากร "โอเปร่า เฮาส์" นครซิดนีย์ ออสเตรเลีย (Sydney Opera House)
- ทัชมาฮาล เมืองอักรา อินเดีย (Tal Mahal)
- เมืองโบราณ "ทิมบัคตู" มาลี (Timbuktu)
สำหรับผู้สนใจศึกษารายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับเรื่องราวการจัดอันดับ 7 สิ่งมหัศจรรย์ยุคใหม่ยังคงติดตามได้จากเว็บ www.new7wonders.com
ที่มา : http://variety.teenee.com/foodforbrain/3042.html
จากความคิดเห็นของท่าน some_one - -
| ||||
| ||||
|
Name : some_one< My.iD > [ IP : 58.136.96.148 ] |
อยากจะเพิ่มเมื่อไปเก็บมา - -
Neuschwanstein Castle
ในบรรดากษัตริย์ของยุโรปทั้งหลาย เมื่อกว่าหนึ่งร้อยปีล่วงมา ชื่อของกษัตริย์ ลุดวิกที่ 2 แห่งแคว้นบาวาเรีย ดูจะเป็นที่คุ้นหูเรา มากกว่าพระองค์อื่นๆ เนื่องเพราะพระองค์ เป็นผู้มีความหลงไหลใฝ่ฝันที่จะสร้างสรร ปราสาทราชวังที่ประทับ อันสมบูรณ์แบบที่สุดขึ้นมา โดยในเขตแคว้นอัลไพน์ พระองค์ทรงสร้าง ปราสาทนอยชวานสไตน์ ส่วนความคลั่งไคล้ของ พระองค์ ต่อโลกยุคบูร์บองแห่งฝรั่งเศส ก็ได้แสดง ออกมาเป็น พระราชวังลินเดอร์โฮฟ และ พระราชวังแฮเรนคีมเซ รวมทั้งหมดเป็นสามแห่งด้วยกัน
ปราสาทหลังใหญ่สีขาวดั่งรูปเงาของกษัตริย์ลุดวิกที่ 2 แห่งบาวาเรีย ประกอบด้วยยอดแหลมสะโอดสะอง ของหลังคาปราสาทต่างๆ มองดูไปแล้ว ก็ไม่น่าเชื่อว่า จะมีสิ่งก่อสร้างใหญ่โตสวยงามอย่างนี้ ตั้งอยู่กลางป่าเขาลำเนาไพร ที่ซึ่งมีสีสันแปลกแปลง แตกต่างไปในแต่ละฤดูกาลได้
ปราสาทนอยชวานสไตน์ หนึ่งในปราสาทราชวัง ที่มีชื่อเสียงเป็นที่เลื่องลือ ของกษัตริย์ลุดวิกที่ 2 ถูกสร้างขึ้นด้วยเงินทุนมหาศาล เริ่มตั้งแต่ปี 1868 ถึงปี 1892 แต่ทว่า ปราสาทหลังนี้ เพิ่งได้รับขนานนามว่า "นอยชวานสไตน์" ก็เพียงภายหลังจากที่ กษัตริย์ลุดวิกที่ 2 ได้เสด็จสวรรคตแล้วในปี 1886
ปราสาทสวยอันเป็นที่อนุสรณ์ให้รำลึกถึงเจ้าของแห่งนี้ ได้รับการออกแบบจัดสร้าง โดยนักออกแบบ ฉากละคร ที่เลื่องชื่อ คริสเตียน จังค์ โดยเขาใช้โครงร่างจาก ปราสาทวาร์ทบวร์ก ในแคว้นธูริงเกีย แล้วนำมาปรับแปลงให้สอดคล้อง รับเข้ากับกับแรงบันดาลใจอย่างแรงกล้า ขององค์กษัตริย์ลุดวิกที่ 2 ที่มีต่ออุปรากรของ ริชาร์ด วากเนอร์ 2 เรื่อง คือ โลเฮนกริน และ ทานน์ฮอยเซอร์ การตกแต่งภายในห้องหับต่างๆ ของตัวปราสาท ทำโดย ยูลิอุส เฮฟฟ์มานน์ ในปี 1880
ตัวปราสาทมีที่ตั้งอันน่าทึ่งบนหินผาขนาดใหญ่ยักษ์ สูงกว่า 200 เมตร เหนือออบแก่งของแม่น้ำพอลลัท นอกจากนี้ ยังมีภาพธรรมชาติและทิวทัศน์ ที่สวยงามมาก เมื่อมองจาก สะพานมาเรียน ที่ซึ่งทอดข้ามสายน้ำเชี่ยวกรากในลำธารเบื้องล่าง
ที่มา : http://www.triwit.com/lohengrin.htm
พอหอมปากหอมคอขอรับ - -
ความคิดเห็น