Encyclopedia Earth

ลำดับตอนที่ #99 : การล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวและ Schindler's List (สรุป : ทำไมคนถึงฆ่ากันเหมือนผักปลา)

การล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวและ Schindler's List (ภาคสรุป : ทำไมคนถึงฆ่ากันเหมือนผักเหมือนปลา)

ถ้าจำไม่ผิดเคยอ่านเจอว่า ในเรื่องจริง ตอนOskar Schindler ลูกผู้ชายตัวจริงของเราหนีจากการจับกุมของพวกรัสเซีย ชินด์เลอร์หนีไปพร้อมเงินเต็มประเป๋า ไม่รู้เหมือนกันว่าจะร้องไห้ฟูมฟายเหมือนในหนังหรือเปล่า (อย่างไรก็ตามมีคนตำหนิตอนจบว่ามันช่าง Fake หรือจอมปลอม อะไรเช่นนี้แถมยังมีโฆษณาให้ชาวยิวเป็นสาระคดีสั้นๆตอนจบเรื่องอีกต่างหาก) คงจะกลับมาใช้คำพูดเดิมๆ ของใครหลายคนที่ว่า ความจริงก็คือความจริง หนังก็คือหนัง อย่าไปซีเรียสสิ

......แต่ทานโทษหนังก็ทำให้คนเข้าใจผิดต่อความจริงในประวัติศาสตร์และกลายเป็นตัวทำลายประวัติศาสตร์มานักต่อนักแล้ว........

แต่บทสรุปนี้ไม่ได้จะบอกว่าหนังเรื่อง Schindler's List แตกต่างจากความจริงอย่างไร มีข้อด้อย ข้อดีอย่างไร เพียงแต่อยากจะวิเคราะห์สักเล็กน้อยว่า ทำไมคนถึงฆ่ากันราวกับว่าอีกฝ่ายไม่มีตัวตนหรือมีค่าก็ประมาณผักหรือปลา

ตามทฤษฎีของ Sigmund Freud บิดาแห่งจิตวิเคราะห์ แบ่งจิตมนุษย์ออกเป็นสามส่วนคือ Superego/Ego/ Id Id คือส่วนสัญชาติของมนุษย์และอยู่ในจิตใต้สำนึกถูกผลักดันโดยพลังสองอย่างคือ พลังแห่งการทำลายล้าง (Thanatos) และ พลังแห่งการตักตวงความสุข (Eros) ถึงแม้ในส่วน Superego มนุษย์จะถูกสอนให้รักชีวิตตัวเองและผู้อื่นแต่ว่ามนุษย์ก็ถูกผลักดันโดย Thanatos ให้ทำลายตัวเองและคนอื่นเช่นกัน (ดังนั้นจึงไม่น่าประหลาดใจว่ามีทหารเป็นจำนวนมากรีบชิงฆ่าตัวตายก่อนจะถูกจับตายหรือฆ่าโดยข้าศึก)

สงครามเป็นภาพสะท้อนของการผลักดันจากแรงทั้งสองแรงนี้อย่างชัดเจน ทั้งนี้เพราะ ความสำเร็จของรัฐบาลนาซีในการโฆษณาชวนเชื่อ (Propaganda)ให้ชาวเยอรมันเชื่อจนสนิทใจ ว่าชาวยิวและเชื้อชาติอื่น เป็นพวกเศษมนุษย์ (Untermensch) อย่าว่าแต่พลเรือนที่จงเกลียดจงชังพวกยิวเลย พวกทหารที่ถูกฝึกมาให้รับแต่คำสั่งและใช้คำรุนแรงเมื่อมีโอกาส เขาก็จะใช้Thanatos ในการทำลายพวกเศษมนุษย์เหล่านั้นอย่างทารุณ เพื่อเป็นการระบายออกจากความกดดันของสงครามและที่สำคัญ สภาวะที่สิ้นหวัง เพราะรู้ว่าประเทศกำลังจะแพ้สงคราม

ดังจะดูได้จากตั้งแต่แพ้สงครามที่สมรภูมิสตาลินการ์ด(Battle of Stalingrad) ในปี 1943 ฮิตเลอร์ต้องการหาแพะรับบาปในการที่ตัวเองต้องพ่ายแพ้อย่างเสียหน้าซึ่งก็เป็นพวกยิวอีกเหมือนเดิม ดังนั้นเยอรมันจึงเร่งในการฆ่าพวกยิวให้เร็วยิ่งขึ้นยิ่งตอนที่กองทัพแดงของโซเวียตใกล้เข้ามา พวกเยอรมันต้องกำจัดพวกยิวให้หมด ตอนนี้ยิ่งโหดขึ้นเรื่อยๆ เตาเผาศพของชาวยิวที่ตายจากห้องรมแก๊สพิษ น่าจะแตกวันละหลายๆ ครั้งไม่ต่างจากวัดทางสระบุรีที่เผาคนที่ตายจากเอดส์ (จากการเปรียบเทียบนี้แสดงให้เห็นว่าเอดส์ไม่เอดส์ก็ตายเหมือนกันทั้งคู่)

สุดท้ายนี้ไม่รู้จะพูดว่าอะไรดี ขอให้สันติภาพและความรักจงบังเกิดและอยู่กับชาวโลกให้นานที่สุด (คำอธิษฐานนี้เป็นความเป็นไปได้เท่ากับขอให้พรุ่งนี้ผมได้แฟนเป็นนางงามจักรวาลคนปัจจุบัน แต่ยังดีกว่าไม่ขอเอาเสียเลย)

สาธุ

(การสังหารหมู่ในรวันดาและ การล้างเผ่าพันธุ์ของพวกเขมรแดงในช่วงทศวรรษที่ เจ็ดสิบปลายๆ แสดงให้เห็นว่า เชื้อชั่วนาซีไม่ยอมตายและยังจะผลิตดอกออกผลอีกในอนาคต)



เครดิต

Johann sebastian Bach