ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    *~Timeless Love~* [Fic TVXQ]

    ลำดับตอนที่ #9 : >>> 09

    • อัปเดตล่าสุด 26 เม.ย. 50



    *~Timeless Love~*

    ...Symbol & Question...


    ทำไมทั้งชีวิตถึงมีแต่คำถาม

    แล้วส่วนใหญ่ก็เป็นคำถามที่ยากแก่การหาคำตอบ

    แม้ว่าเราจะได้คำตอบ...

    เราก็ยังไม่มั่นใจว่าคำตอบนั้นถูก...




    [
    เช้าวันต่อมา]


    ณ คอนโดขนาดใหญ่แห่งหนึ่งกลางเมือง



    แสงสว่างสาดส่องเข้ามาในห้องปลุกร่างเล็กที่นอนอยู่ในอ้อมกอดของชายหนุ่ม แพขนตาขยับไปมาเพื่อปรับแสง พลางมองเจ้าของวงแขนแกร่งที่แสนอบอุ่นและอ่อนโยน ใบหน้าคมที่ยังคงมีเสน่ห์แม้ในยามหลับใหลอยู่ห่างกันไม่ถึงหนึ่งนิ้ว จนลมหายใจอุ่นๆของร่างสูงปะทะผิวแก้มใสเบาๆ


    จุนซูนอนนิ่งอยู่ในอ้อมกอดนั้น แก้มเนียนใสอมยิ้มอย่างมีความสุข หากแต่รอยยิ้มนั้นก็อยู่ได้ไม่นาน... ภาพข้อความบนหน้าจอโทรศัพท์เมื่อคืนนี้ เรียกให้ร่างเล็กคิ้วขมวดด้วยหลากหลายความรู้สึก พลางนึกถึงเจ้าของข้อความนั้น


    ใบหน้าสวยที่เต็มไปด้วยความตกใจปนงุนงงในตอนแรกที่เจอกันในงานเลี้ยง มันทำให้ร่างเล็กรู้สึกแปลกๆ... ความรู้สึกที่เจ้าตัวเองก็บอกไม่ได้ว่าคืออะไร...หวาดกลัว...ตกใจ...เกลียดชัง หรืออะไรก็ตาม จุนซูไม่สามารถหาคำตอบให้ตัวเองได้เลย และแล้วห้วงความคิดของร่างเล็กก็ต้องหยุดลงเมื่อร่างสูงเจ้าของอ้อมกอดยื่นหน้าเข้ามาใกล้กว่าเดิมตามด้วยสัมผัสเบาๆที่แก้มและริมฝีปาก...



    "
    จุนซู ตื่นนานแล้วเหรอครับ? ทำไมไม่ปลุกผมล่ะ หือ?" น้ำเสียงทุ้มเต็มเปี่ยมไปด้วยความอ่อนโยนถามพลางขยี้เส้นผมสีทองของร่างเล็กเบาๆ  จุนซูยิ้มตอบคนรัก



    "
    ก็เห็นท่าทางยุนนี่หลับสบายเลยยังไม่อยากปลุกนี่นา~" เสียงใสว่าอย่างอ้อนๆเป็นภาพที่น่ารักที่สุดในสายตาของชายหนุ่มเลยก็ว่าได้



    "
    ไม่เห็นจะเป็นไรเลยนี่ครับ  ถ้าตื่นมาแล้วพบนางฟ้าน่ารักๆแบบจุนซู ผมก็ยินดี..." หนุ่มร่างสูงตอบพลางใช้แขนข้างหนึ่งรั้งร่างเล็กเข้ามาแนบแผ่นอกกว้างก่อนจะขโมยหอมแก้มใสๆนั้นไปอีกหนึ่งที



    "
    อ๊า!!~ ยุนอ่ะ ฉวยโอกาสอีกแล้วนะ ไปอาบน้ำเลยวันนี้มีงานไม่ใช่เหรอ? รีบไปสิ..." มือเรียวแกล้งตีแขนร่างสูงที่ไม่ยอมปล่อยตนเองเบาๆพร้อมกับทำตาดุใส่ แต่ชายหนุ่มกลับยิ้มระรื่นไม่สำนึกในความผิดเมื่อกี้



    "
    โอ๊ย!!~ จุนซูอ่า ไม่เอาหรอกก็อยากอยู่กับแมวน้อยนานๆนี่นา...นะ?"



    "
    ไม่ต้องมาอ้อนเลย รีบๆไปอาบน้ำได้แล้ว ไปสิ เดี๋ยวก็สายหรอก..." ร่างสูงทำแก้มป่องเมื่อได้ยินคำพูดของร่างเล็ก... ท่าทางที่บอกได้ว่าร่างสูงนั้นคงกำลังจะงอนเป็นแน่นั้น  ทำให้จุนซูเลื่อนใบหน้าเข้าไปใกล้ก่อนจะแตะผิวหน้าของร่างสูงด้วยสันจมูกแผ่วเบา  แต่แล้วแก้มใสก็ขึ้นสีแดงเรื่อเป็นลูกมะเขือเทศซะเอง... 


    ชายหนุ่มยิ้มให้กับการกระทำของร่างเล็กก่อนจะยอมคลายวงแขนออกและเดินไปอาบน้ำแต่โดยดี จุนซูมองตามแผ่นหลังกว้างไป



    เสียงปิดประตูห้องอาบน้ำดังพร้อมรอยยิ้มน่ารักจางหายไปจากใบหน้าเรียวเล็กเหลือเพียงสายตาแข็งกร้าวเพราะตัดสินใจจะทำเรื่องบางอย่าง  เรื่องที่อาจจะดูว่าเขาใจร้ายไปบ้าง...



    แต่ว่า...



    ขอเพียงแค่ให้เจ้าของอ้อมแขนอันแสนอบอุ่นและอ่อนโยนนั้นยังเป็นของเขาแค่นั้นก็พอแล้ว  ไม่มีวันที่เขาจะปล่อยให้ยุนโฮจากเขาไป  ไม่มีทางที่ใครจะแย่งยุนโฮไปจากเขาได้ ไม่เว้นแม้กระทั่งอดีตคนรักของยุนโฮอย่างแจจุงก็ตาม... 


    เขาคนนี้จะขัดขวางทุกวิถีทาง

    อย่าหวังเลยแจจุง...ว่าเขาจะเลือกนาย

    แต่ในเมื่อนายร้ายมา...ฉันก็จะร้ายตอบให้ดู

    แล้วนายจะหาว่าฉันใจร้าย...ใจดำ...กับนายไม่ได้หรอกนะ

    เพราะคนที่ทำให้เรื่องทั้งหมดแบบนี้...มันก็ตัวนายเองนั่นแหละ

    เพราะฉันคนนี้จะไม่มีวันปล่อยให้ยุนโอต้องเจ็บปวดเพราะนายอีก...ไม่มีวัน!!~


    ร่างเล็กลุกขึ้นจากเตียงไปจัดเตรียมเสื้อผ้าของร่างสูงมาวางไว้บนเตียงเพื่อรอชายหนุ่มออกมาจากห้องน้ำ... วันนี้ก็ยังเป็นวันดีมีความสุขเหมือนปกติของคิมจุนซู  แต่หลังจากนี้ไม่มีใครรู้ว่าจะเป็นเช่นไร?



    ว่าแต่...

    ลืมอะไรไปรึเปล่าคิมจุนซู?

    ความจริงแล้วใครกันแน่ที่ใจร้าย?

    คนที่แย่งเขามา คือ ตัวนายเองไม่ใช่เหรอ?

    แล้วอย่างนี้ นายจะโทษว่าเป็นความผิดของคนอื่นได้เหรอ?

    ว่าไงล่ะ...จุนซู

    ตอบได้รึเปล่า?





    [
    ในขณะเดียวกัน]


    ณ คฤหาสน์ตระกูลคิม

    แสงอาทิตย์สาดส่องหน้าต่างบานใหญ่และม่านสีนวลตาผ่านเข้ามาในห้องเพียงเล็กน้อย แต่ความอบอุ่นของแสงอาทิตย์ก็ส่งผลให้แพขนตาหนาขยับ ก่อนจะเผยให้เห็นนัยน์ตาสีนิลดำขลับ ร่างบางลุกขึ้นจากเตียงแล้วจัดการพับผ้านวมสีขาวที่ให้ความอบอุ่นเขามาตลอดทั้งคืน... ถึงร่างกายจะอบอุ่นผ้าแต่ภายในใจกลับเย็นยะเยือก...ม่านสีครีมนวลถูกแหวกออกโดยเจ้าของมือเรียวเพื่อให้แสงอาทิตย์ส่องผ่านเข้ามาให้ความสว่างแก่ห้องได้มากขึ้น พอดีกับเสียงเคาะประตูที่ดังขึ้นและ



    "
    คุณหนูครับตื่นรึยังครับ?"



    "
    อืม...ตื่นแล้วล่ะ ขอบใจนะฮันกยอง..." เสียงหวานตอบชายหนุ่มที่ขึ้นมาปลุกก่อนจะไปอาบน้ำแต่งตัวแล้วลงมาด้านล่าง ขณะลงบันไดมานัยน์ตาคู่สวยก็สังเกตเห็นบางสิ่งที่ผิดปกติไป... 



    รถยนต์สีบรอนซ์เงินคันงามจอดอยู่หน้าบ้าน พาหนะที่ทำให้เด็กหนุ่มต้องหยุดจ้องมันด้วยความแปลกใจว่าใครกันที่เป็นเจ้าของ... ทางด้านฮันกยองเห็นว่าเจ้านายของตนนั้นยังไม่ลงมาเสียที พอเดินไปเรียกอีกครั้งก็พบร่างบางนั้นกำลังมองอะไรบางอย่างอยู่ ชายหนุ่มยักยิ้มน้อยๆก่อนจะเคลื่อนตัวไปใกล้แจจุง...



    "
    คุณหนูครับมองอะไรอยู่เหรอครับ?" เสียงทุ้มเอ่ยถามทั้งที่รู้ดีอยู่แล้ว...



    "
    ฮันกยอง...รถคันนั้นของใคร?" เด็กหนุ่มหันตามเสียงถามของชายหนุ่ม



    "
    ของคุณหนูนั่นแหละครับ..."



    "
    ของฉัน???"



    "
    ใช่ครับ... คุณชางมินเรียกให้ผมไปหาแต่เช้าเพื่อรับมันมาพร้อมกับจดหมายนี่ครับ" ชายหนุ่มล้วงลงไปในกระเป๋าเสื้อตรงหน้าอก หยิบแผ่นกระดาษสีขาวที่เด็กหนุ่มจำได้ดีว่าเป็นลายมือของพ่อเทวดาเจ้าเล่ห์อย่างแน่นอน




    === === === === === === === === === === === === === === === === === ===

    แจจุง รถคันนี้ฉันให้นายเป็นของขวัญ... ในโอกาสที่ฉันจะอยากให้

    นายต้องรับเอาไว้ห้ามเอามาคืนฉันโดยเด็ดขาด เพราะฉันไม่ยอมอย่างแน่นอน!!!~

    อย่าแม้แต่จะคิด... หวังว่านายคงเข้าใจ

    แต่ถ้านายไม่อยากได้จริงๆ ก็ยกรถคันนี้ให้ฮันกยองละกัน เขารู้ว่าควรทำยังไง

    แค่นี้แหละตอนบ่ายเจอกันนะ...

    ปล.อย่าลืมว่าฉันอยู่ข้างนายเสมอ


    ชางมิน

    === === === === === === === === === === === === === === === === === ===



    เมื่ออ่านจบร่างบางพับจดหมายลงด้วยรอยยิ้มน้อยๆ  จดหมายที่เหมือนเอาแต่ใจและสั่งให้เขาทำอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้แต่แฝงด้วยความห่วงใยเสมอ แม้จะไม่ได้พูดหรือเขียนออกมาตรงๆแต่แจจุงก็รู้สึกได้อยู่เสมอ นัยน์ตาคู่สวยมองรถคันนั้นอีกครั้งก่อนจะหันไปหาฮันกยอง...



    "
    นี่ถ้าฉันยกให้นายอยากที่ชางมินบอก รถคันนั้นก็จะกลายเป็นของนาย แล้วยังไงนายก็ต้องบังคับให้ฉันไปไหนต่อไหนด้วยรถของนายอยู่แล้วใช่มั้ย?" เด็กหนุ่มว่ารอให้ชายหนุ่มตอบ ฮันกยองพยักหน้าตอบเบาๆด้วยรอยยิ้มเช่นกัน...



    "
    เอาเถอะ ถ้าจะให้มันยุ่งยากแบบนั้น  ฉันรับไว้ก็ได้ ชางมินนี่นา แผนสูงเหมือนเดิมเลยกะจะไม่ให้ฉันได้ปฏิเสธจริงๆเลยใช่มั้ยเนี่ย?"



    "
    เอ่อ..คุณหนูครับยังมีสิ่งนี้ด้วยครับ.." ชายหนุ่มล้วงลงไปในกระเป๋าหยิบกล่องผ้าสีแดงสดขึ้นมาแล้วส่งให้แจจุง แล้วพูดต่อว่า " คุณชางมินฝากบอกว่าสิ่งนี้อาจจะทำให้คุณหนูมีความสุขขึ้นครับ..." เด็กหนุ่มรับมาด้วยความแปลกใจอีกครั้งแต่พอเปิดดูสิ่งที่อยู่ข้างในความสงสัยนั้นก็มลายหายไปทันที...



    สร้อยคอสีเงินยวงสวยส่องสะท้อนแสงเป็นประกายระยิบระยับ  มีหัวใจอันเล็กๆห้อยอยู่สองอัน ตรงกลางหัวใจแต่ละดวงที่อยู่ติดกันนั้น มีตัวอักษรสลักไว้อย่างละดวงคือ
    Y กับ  J สิ่งที่อาจดูเหมือนไม่มีค่าแต่สำหรับเด็กหนุ่มแล้วมันเป็นยิ่งกว่าของสำคัญ...



    "
    ฮันกยองใส่ให้ฉันหน่อยได้มั้ย?" คำขอที่ไม่ต้องรอคำตอบชายหนุ่มเลื่อนตัวเข้ามารับสร้อยก่อนจะวางโลหะสีเงินแนบไปที่เรียวคอขาว  สีเงินของสร้อยยิ่งขับให้ผิวที่ขาวอยู่แล้วดูขาวผ่องยิ่งขึ้นไปอีก  ร่างบางหันมองกระจกที่อยู่ข้างบันได...



    นัยน์ตาสีนิลมองภาพสะท้อนของตัวเองอย่างเศร้าสร้อย มือเรียวยกขึ้นมาเพื่อลูบสิ่งที่อยู่บนคอตัวเองไปมา ของที่เขาฝากให้ชางมินนำเอามันไปซ่อมเพราะชำรุดเสียหายมาตั้งแต่เมื่อวันนั้นของ 5 ปีก่อน... บัดนี้มันกลับมามีสภาพดีเหมือนก่อนแล้ว... แต่ทำไมสัญญาของคนคนนั้นถึงไม่เหมือนเดิมนะ?


    สิ่งเดียวที่ยังเหลืออยู่... สร้อยคอเพียงเส้นเดียวที่ยุนโฮเคยซื้อให้เขา... ความจริงจะต้องมีอีกเส้นคู่กันที่อยู่กับยุนโฮ แต่เขาไม่รู้หรอกว่ายุนโฮลืม หรือ ทิ้งมันไปรึยัง?


    ร่างบางเกือบจะจมอยู่กับอดีตแบบนั้นถ้าไม่มีเสียงเรียกของฮันกยองดึงไว้เสียก่อน  เมื่อรู้สึกตัวจึงได้มองความเรียบร้อยของตัวเองในกระจกอีกครั้ง... ก่อนจะออกจากบ้านไปพร้อมกับฮันกยอง...

    .......................................................

    ..............................................

    ................................

     

     [ณ บริษัทชอยกรุ๊ป]


    ร่างสูงใหญ่ของชายหนุ่มเดินมาตามทางเดินของตึกใหญ่จนมาหยุดอยู่หน้าสถานที่ที่ต้องการโดยไม่รู้ตัว ห้องสตูดิโอ
    A ห้องที่ใช้สำหรับการถ่ายภาพโฆษณา ขนาดใหญ่ และมันยังเป็นที่ใช้ในการถ่ายทำวันนี้ด้วย  เนื่องจากประธานบริษัทอย่างจองซูอยู่ในฐานะประธานบริษัทคนใหม่ที่มักจะมีงานยุ่งอยู่เสมอๆ ครั้งนี้ก็เช่นกันยูชอนในฐานะตัวแทนของบริษัทจึงเป็นฝ่ายมาแทน  มือหนาเคาะประตูเบาๆตามมารยาทก่อนขาคู่ยาวจะก้าวเข้าไปในห้อง...



    "
    สวัสดีครับคุณซีวอน พี่จองซูให้ผมมาแทนต้องขอโทษด้วยนะครับที่เขาติดธุระมาไม่ได้... ฝากตัวด้วยนะครับ" ยูชอนก้มตัวลงทักทาย เมื่อเจอซีวอนที่ห้องสตูดิโอที่ใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำ



    "
    ไม่เป็นไรหรอก ไม่ต้องกังวลเรื่องนั้น  เชิญคุณตามสบาย ยินดีที่ได้ร่วมงานกันนะครับ" ซีวอนบอกชายหนุ่ม ก่อนเสียงเปิดประตูจะเรียกให้ชายหนุ่มทั้งสองหันไปมอง...



    คนสองคนที่ยูชอนรู้จักดี... ดียิ่งกว่าใครๆในที่นี้...ยุนโฮกับจุนซู มือหนาที่กุมมือเล็กเดินเข้ามาด้วยกันนั้นทำเอายูชอนปวดใจอย่างบอกไม่ถูก แต่ก็ตีสีหน้าให้เป็นปกติก่อนจะทักทายตามประสาคนรู้จักกัน...
      แต่สิ่งที่ซีวอนพูดมันเกือบทำให้ชายหนุ่มปกปิดอารมณไว้เกือบไม่มิด...



    "
    แหม่!!~ หวีทหวานกันมาแต่เช้าเลยนะคู่นี้ ยุนโฮนายก็เพลาๆลงหน่อยเถอะ ฉันไม่อยากให้มีข่าวออกไปข้างนอกมากนักนะ เดี๋ยวจะเสียภาพพจน์ของตัวเองโดยไม่รู้ตัว..."  ประธานบริษัท ชอย พูดแซวดารานักแสดงในสังกัดราวกับเป็นเรื่องปกติ 



    ....ก็แน่ละเรื่องที่นักร้องหนุ่มผู้โด่งดังคับประเทศอย่าง...ยูโน...กับนักแสดงดาวรุ่งหน้าหวานอย่าง...ไอ...คบกันนั้นจะประกาศให้คนภายนอกรู้นั้นคงเป็นไปไม่ได้ แต่กับในบริษัทที่เห็นกันอยู่ทุกวี่ทุกวันจะปิดยังไงก็คงไม่มิดหรอก แต่กลับไม่มีใครไม่เห็นด้วยหรือรังเกียจเลยสักคน ยิ่งทั้งคู่ออกจะดูแลกันมากมายสมกับเป็นคนรักกันแล้วยิ่งทำให้พนักงานในบริษัทเอ็นดูเสียมากว่าจะมาต่อต้านการคบกันของทั้งคู่  แม้จะมีหญิงสาวในบริษัทหลายๆคนทีเดียวที่ออกจะเศร้าใจปนเสียดายกับการที่ดาราหนุ่มหล่ออย่างยูโนจะหันไปมีคนรักเป็นตัวเป็นตน แต่ก็ไม่มีใครไม่ชอบความรักของทั้งคู่เลย...



    "
    โธ่!!~ ไม่หรอกครับคุณซีวอนก็ ยุนโฮคนนี้รับรองว่าจะไม่ทำให้คุณผิดหวังครับ..." ชายหนุ่มยิ้มตอบพลางหันไปทักทายเพื่อนเก่าโดยที่มือของทั้งคู่นั้นยังไม่ปล่อยออกจากกัน... "ไงยูชอนมาเร็วจังนะ...แล้วท่านประธานหน้าหวานของนายล่ะ?"

    ถึงตอนนี้ซีวอนปลีกตัวออกไปจัดการคุยกับช่างกล้องชินดงและทีมงานด้านต่างๆที่มาร่วมกันในวันนี้เพื่อให้ได้รูปภาพตามแบบที่เจ้าตัวต้องการ ปล่อยให้ยูชอนกับยุนโฮและจุนซูมีเวลาคุยกันตามลำพัง...



    "
    เขาไม่ว่างน่ะ  ว่าแต่นายเถอะอารมณ์ดีมาแต่เช้าเลยนะ... ไอ้หมีเกาหลี~" สรรพนามที่ไม่ได้ใช้เรียกซะนานได้ถูกยกขึ้นมาอีกครั้ง... ชายหนุ่มเรียกโดยเก็บซ่อนความเจ็บปวดของตัวเองไว้  พลางมองหน้ายุนโฮแทนมือของทั้งคู่...



    "
    โห!!~ ไอ้ไก่นึ่ง แกจะเรียกฉันอย่างนั้นไม่ได้แล้วนะโว้ย!!~ " ยุนโฮแกล้งทำโวยวายอย่างที่เคยทำเมื่อก่อนเสมอๆ แต่ไม่รู้เลยว่าคำพูดของตัวเองนั้นทำร้ายเพื่อนรักตรงหน้ามากขนาดไหน



    "
    มันต้องเปลี่ยนเป็น  ชายหนุ่มรูปงามนามยุนโฮกับนางฟ้าจุนซูต่างหากจริงมั้ยครับจุนซู..." ประโยคหลังนั้นร่างสูงหันไปถามเจ้าของมือเรียวที่ตัวเองกุมเอาไว้อยู่...



    ยังไม่ทันที่จุนซูจะได้ตอบอะไร บทสนทนาของคนทั้งสามต้องหยุดลงเมื่อเสียงประตูที่เปิดขึ้นอีกครั้งปรากฏร่างของเด็กหนุ่มพร้อมร่างสูงในชุดสูทสีดำเดินเข้ามา ร่างเล็กที่มองคนทั้งคู่อยู่พยายามหาทางบ่ายเบี่ยงหนี พอดีกับที่คังอินเรียกหาทั้งคู่อยู่ ร่างเล็กจึงรีบรีบลากให้ยุนโฮตามไปด้วย...



    "
    ยุนนี่!~ ไปเถอะ พี่คังอินเรียกแล้ว" จุนซูพูดพลางโอบแขนยุนโฮไว้ข้างหนึ่ง โดยไม่รู้ตัวว่าทำให้ให้ยูชอนแอบมองด้วยสายตาเช่นไร  เมื่อคนทั้งคู่จากไป เด็กหนุ่มจึงเดินเข้ามาหายูชอนโดยปล่อยให้ฮันกยองยืนรออยู่ที่ประตู...



    "
    ไง ยูชอนแล้วพี่จองซูไม่มาเหรอ?" เสียงหวานถามอย่างไม่ได้คิดอะไรผิดกับชายหนุ่มที่พยายามค้นหาความผิดปกติในน้ำเสียงนั้น



    "
    อืม...ติดงานที่อื่นนะ เลยให้ฉันมาดูแทน..."



    "
    งั้นเหรอ?" แล้วร่างบางก็เงียบไปคราวนี้เป็นชายหนุ่มที่ถามขึ้นก่อน...



    "
    นาย...คงไม่ได้คิดจะทำอะไรใช่มั้ย?" คำถามที่เรียกให้แจจุงหันกลับมามองหน้ายูชอน  นัยน์ตาสีนิลมีแวววูบไหว หากแต่ชายหนุ่มไม่อาจรู้สึกถึงมันได้เลย...



    "
    ไม่รู้สิ...เดี๋ยวนายก็เห็นเองนั่นแหละ" เด็กหนุ่มบอกปัดอย่างไม่ใส่ใจ



    "
    แจจุง!!!!" น้ำเสียงทุ้มมีแววตำหนิคำพูดของคนตรงหน้า



     
    "
    นายไม่ต้องจับผิดฉันขนาดนั้นก็ได้ ยูชอน...ที่ฉันต้องการมีเพียงแค่ยุนโฮเท่านั้น ฉันไม่ได้จะทำร้ายอะไรจุนซูสักหน่อยนี่นา..." แจจุงว่าเมื่อรู้สึกถึงสายตาที่ชายหนุ่มกำลังมองตนอย่างสงสัยและหวาดระแวง...



    "
    ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ถ้านายได้ยุนโฮคืนไปแล้วจุนซูก็ต้องเสียใจอยู่ดี มันก็ไม่ต่างกับการทำร้ายเขาโดยตรงหรอก..."



    "
    แล้วไง...มีจุนซูคนเดียวใช่มั้ยที่เสียใจ...? มีจุนซูคนเดียวใช่มั้ยที่ต้องเจ็บปวด...? แล้วฉันจะเป็นยังไงในสายตานายก็ไม่สนใจใช่มั้ย?"



    "
    แจจุง...มันไม่ใช่อย่างนั้น…" ชายหนุ่มพูดได้แค่นั้น เพราะมันก็เป็นอย่างที่แจจุงว่าจริงๆ เขามัวแต่คิดถึงความรู้สึกของคนทางนั้นอยู่ฝ่ายเดียวจนลืมนึกถึงความรู้สึกของคนตรงหน้าเขาไปเสียสนิทเลย...



    "
    ไม่ใช่? ไม่ใช่แล้วนายจะเอายังไงกับฉันล่ะ?"



    "
    ได้โปรดเถอะ แจจุง... ฉันขอร้อง... หยุดเถอะ... หยุดทุกอย่างที่นายคิดจะทำ... มันไม่ได้ทำให้ใครมีความสุขเลยนะ... " แต่น้ำเสียงเว้าวอนจากชายหนุ่มไม่ได้ทำให้แจจุงเปลี่ยนใจเลย นัยน์สีดำขลับมองตายูชอนแล้วพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆที่ไม่บ่งบอกการตอบรับคำขอร้องของยูชอนเลยสักนิด...



    "
    ฉันบอกแล้วยูชอนอย่าลืม...สัญญาของเรา"



    "
    แต่แจจุงนายก็เห็นไม่ใช่เหรอว่า เขาสองคนรักกันมากขนาดไหน?  แล้วอย่างนี้นายยังจะกล้าไปทำลายความรักนั้นอีกหรือไง... เมื่อก่อนนายไม่ใช่คนแบบนี้นี่นา..." เสียงตะโกนถามของยูชอนทำให้นัยน์ตาสีนิลวูบไหวด้วยความเจ็บปวด ในขณะที่ยูชอนเองก็มีแววตาไม่ต่างจากเด็กหนุ่มมากนัก...



    "
    ขอโทษนะยูชอน แต่แจจุงคนเดิมที่นายเคยรู้จักตายไปแล้ว..." ร่างบางตอบกลับเรียบๆแล้วเดินหันหลังให้ชายหนุ่มไปที่ประตูซึ่งมีฮันกยองรออยู่แล้ว



    "
    ไม่หรอก ฉันเชื่อว่านายยังเหมือนเดิม…" แม้คำพูดนั้นจะทำให้แจจุงชะงักไป แต่เด็กหนุ่มก็ไม่ได้หันมาตอบอะไรอีก


    ......................................
    ........................
    ............


    การถ่ายภาพก็เริ่มขึ้นหลังจากแจจุงออกไปไม่นาน ยุนโฮถ่ายคู่กับจุนซูก่อนด้วยความชอบส่วนตัวของทีมงานหรือไม่ก็ตามแต่ดูเหมือนว่า ทุกคนในบริษัทออกจะชื่นชอบเวลาที่ทั้งยุนโฮและจุนซูถ่ายคู่กันมากเป็นพิเศษ....


     

    สักพักแจจุงก็กลับมาที่ห้องสตูดิโออีกครั้งด้วยชุดของภูตดอกไม้ซึ่งดอกไม้ที่เขาได้รับคือดอกลิลลี่ เด็กหนุ่มสวมเสื้อสีขาวทั้งชุด คอเสื้อไม่กว้างนักแต่ก็ทำให้เห็นสร้อยของเจ้าตัวได้ชัดเจน พร้อมติดดอกไม้ที่เรือนผมสีดำข้างใบหูซึ่งรับกับต่างหูสีเงินที่สไตลิสต์สาวเลือกให้เข้ากับสร้อยสีเงินเส้นนั้นได้เป็นอย่างดี... เรียกได้ว่าทันทีที่ปรากฏตัวก็แทบสะกดสายตาทุกคู่ให้หันมามองเป็นทางเดียวกันได้อย่างไม่น่าเชื่อ...


    และต่อจากนั้นก็ได้เวลาที่ทั้งสามคนจะได้ถ่ายพร้อมๆกัน  ช่างภาพจัดให้ยุนโฮอยู่ตรงกลางโดยมีจุนซูอยู่ทางด้านขวาและแจจุงอยู่ทางด้านซ้าย ระหว่างที่ถ่ายรูปอยู่นั้น สายตาคมของชายหนุ่มก็เหลือบไปเห็นอะไรบางอย่างที่ทำให้ชายหนุ่มถึงกับตาค้างด้วยความสับสน เขายังจำมันได้ดี ของขวัญวันเกิดชิ้นแรกและชิ้นสุดท้ายที่เขาได้ซื้อให้แจจุง


    ในขณะที่จุนซูเองก็สังเกตเห็นความผิดปกติของคนรักจึงหันไปมองตาม ไม่ใช่แค่ยุนโฮคนเดียวหรอกที่จำมันได้ จุนซูก็ยังจำมันได้ดี สร้อยที่ยุนโฮพาเขาไปเป็นเพื่อนเลือกซื้อให้แจจุงในวันเกิดตอนที่ทั้งคู่ยังคบกันอยู่... แต่อย่างน้อยร่างเล็กก็โล่งใจว่ายุนโฮไม่ได้เก็บสร้อยเส้นนั้นไว้แล้ว...


    ตลอดการถ่ายทำแม้จะไม่มีใครสังเกตเห็นสายตาของยุนโฮและจุนซูที่มองอยู่ที่สร้อยนั้นได้เลย แต่กับยูชอนที่มองอยู่ไกลออกมาย่อมรู้ดี ชายหนุ่มส่ายศีรษะไปมาเบาๆ รู้ดีว่าแจจุงกำลังยั่วให้จุนซูโกรธ
    แม้มันอาจจะไม่มีผลอะไรก็ตาม เพราะยุนโฮได้ทิ้งอีกเส้นที่อยู่คู่กันไปแล้ว... เขาเห็นกับตาตัวเองว่าวันที่เขาไปหายุนโฮที่โรงพยาบาลก่อนตัวเขาจะจากไปอเมริกานั้น... เขาเห็นยุนโฮถอดสร้อยเส้นนี้ออกและเกือบจะทิ้งมันไปอยู่แล้ว ถ้าเขาไม่เข้าไปขัดไว้เสียก่อน...  แต่ยูชอนไม่รู้เลยว่าหลังจากนั้นยุนโฮไม่ได้ทิ้งมันไปอย่างที่ชายหนุ่มคิด...


    แต่ยุนโฮทิ้งมันไปแล้วจริงๆนะเหรอ??? 


    ทั้งที่จุนซูพยายามบอกกับตัวเองแล้วว่ายุนโฮทิ้งมันไปแล้วแต่ก็ยังอดห่วงไม่ได้ว่ายุนโฮจะหวั่นไหวไปกับความรู้สึกแบบเดิมๆในอดีตหรือเปล่า... ไม่รู้ว่าเพราะอะไรแต่แสงสีเงินจากสร้อยเส้นนั้นมันทำให้จุนซูรู้สึกหวั่นวิตกอย่างบอกไม่ถูก ส่วนแจจุงเองก็แอบยิ้มอย่างพอใจอยู่ลึกๆ ที่ยุนโฮมองโลหะสีเงินนี้ตลอดเวลา พลางนึกกับตัวเองอยู่ในใจว่า

     

    ....ต่อให้วันนี้ นายยังไม่ได้กลับมาเป็นของฉัน แต่อย่างน้อยฉันก็ได้รู้ว่านายยังจำสร้อยเส้นนี้ได้ ยังจำความทรงจำระหว่างเราได้... ไม่นานหรอกยุนโฮ ฉันจะแย่งนายกลับคืนมา...




    To Be Con…


     


    ฮาโหล...กลับมาแล้วน้า~

    กลับมาแล้วขอประทานอภัยหากช้าไปหน่อย(ไม่หน่อยล่ะ 555+)
    ปล.แฟนคลับโลมาอย่าว่ากันน้า
    ~
    เพราะเรื่องนี้นี้เธอจะร้ายลึกและน่าสงสาร(ตกลงเอาไงแน่)
    - - + +-b g-น่า รัก

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×