ลำดับตอนที่ #82
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #82 : ชั้นที่ 5 ชั้นราชันแห่งเทพและปีศาจ
ชั้นที่ 1 ชั้นราชันแห่งเทพและปีศาจ
สวัสดีเหล่า "ราชันแห่งเทพและปีศาจ"
หากเจ้าต้องการเป็นจอมเทพหรือจอมปีศาจแล้วไซร้
ที่ห้องเรียนนี้ เจ้าจะต้องเรียนรู้ผ่านทักษะครอบงำมนุษย์
สร้างลิทธิ เสกสรรค์ปราสาท มนตราและอาณาจักรป
ในชั้นเรียนนี้ หากเจ้าไม่เข้าใจอันใด สามารถถามได้ที่กล่องคอมเม้นด้านล่าง
ภารกิจ
ภารกิจ คือ สถานการณ์จำลอง เพื่อทดสอบทักษะของท่าน
ในชั้นนี้ มีภารกิจทั้งหมด 4 ภารกิจ ท่านจะต้องทำภารกิจเหล่านี้ให้หมด
สวัสดีเหล่า "ราชันแห่งเทพและปีศาจ"
หากเจ้าต้องการเป็นจอมเทพหรือจอมปีศาจแล้วไซร้
ที่ห้องเรียนนี้ เจ้าจะต้องเรียนรู้ผ่านทักษะครอบงำมนุษย์
สร้างลิทธิ เสกสรรค์ปราสาท มนตราและอาณาจักรป
ในชั้นเรียนนี้ หากเจ้าไม่เข้าใจอันใด สามารถถามได้ที่กล่องคอมเม้นด้านล่าง
ภารกิจ
ภารกิจ คือ สถานการณ์จำลอง เพื่อทดสอบทักษะของท่าน
ในชั้นนี้ มีภารกิจทั้งหมด 4 ภารกิจ ท่านจะต้องทำภารกิจเหล่านี้ให้หมด
โดยคะเเนนจากภารกิจที่ท่านทำ จะช่วยในการสอบเพิ่มระดับของท่าน
และเมื่อทำภารกิจเสร็จสิ้น ท่านจะได้รับรางวัล
ท่านสามารถเลือกทำ "ภารกิจ" ต่าง ๆ ดังนี้
ภารกิจที่ 1
ภารกิจที่ 2
และเมื่อทำภารกิจเสร็จสิ้น ท่านจะได้รับรางวัล
ท่านสามารถเลือกทำ "ภารกิจ" ต่าง ๆ ดังนี้
ภารกิจที่ 1
ภารกิจที่ 2
ภารกิจที่ 4
ข้อควรระวัง
อนึ่ง ระว่างการเดินทางทำภารกิจของท่าน
ท่านอาจจะต้องแวะตามสถานที่ต่างๆ และจำเป็นต้องโพสคอมเม้น
เมื่อท่านโพสคอมเม้น ไม่ว่าที่ใดก็ตามในดาร์คแลนด์
ให้แนบบัตรประนักเรียนศาสตร์มืดแห่งดาร์คแลนด์ด้วยเสมอ
และผลการทำภารกิจของท่าน จะปรากฏที่หอพักของท่าน ทุกวันศุกร์
การสอบครั้งสุดท้าย
หากท่านศึกษาบทเรียนในชั้นนี้จนถ่องแท้แล้ว กรุณาทำข้อสอบ
หากท่านสอบผ่าน จะได้รับเหรียญตราราชันแห่งเทพปีศาจ
คลิกเพื่อทำข้อสอบ
บทเรียนที่ 1 การครอบงำมนุษย์
ในช่วงที่จิตใจมนุษย์อ่อนแอเป็นช่วงที่สามารถครอบงำ ได้มากที่สุด ยิ่งผู้ที่จะถูกครอบงำ มีจิตใจที่ออ่นแอมากเท่าไรก็มีผลได้มากขึ้นเท่านั้น การครอบงำอาจจะใช้สิ่งของล้อใจ เช่น เงินตรา อำนาจ พลัง หรือราคะ ลอกล่อให้จนอยู่กับสิ่งของเหล่านั้น การครอบงำมนุษย์มีหลายแบบ เพียงแต่ว่าจะเลือกไปในทางไหน จะดีหรือชั่วอยู่ที่ตัวผู้กระทำ
ครอบงำผู้อื่น เพื่อที่จะยืนอยู่ข้างหน้า
ครอบงำผู้อื่น เพื่อผลประโยชน์ของตน
ครอบงำผู้อื่น เพื่อแสดงตนเป็น "ผู้นำทางความคิด"
ครอบงำผู้อื่น เพื่อทำลายผู้อื่น
[หนังสืออ่านเพิ่มเติม]
บทเรียนที่ 2 ว่าด้วยการสร้างลัทธิ
ลัทธิ (Doctrine) คือคำสั่งสอน ที่มีผู้เชื่อถือและมีอิทธิพลต่อการดำเนินชีวิตของมนุษย์ เช่น ลัทธิบูชาจอมมาร ลิทธิบูชาแมวเมี๊ยว เป็นต้น แต่ ลัทธิ มิใช้ศาสนา!
เอาง่าย ๆ การสร้าง ลัทธิ ก็คือการครอบงำ ให้เชื่อในสิ่งนั้น ๆ หรือบูชา เคารพ นับถือและทำตาม
การสร้างลัทธิ คือ การ สร้างความเชื่อ ความคิดและทัศนะส่วนตัว ปลุกฝังความเชื่อให้กับบุคคลกลุ่มหนึ่ง มีการประกอบพิธีกรรมต่าง ๆ ตามความเชื่อ
ลัทธิ อาจไม่มีคำสั่งสอนเกี่ยวกับศีลธรรมจรรยาเหมือนอย่างศาสนาก็ได้ คำสอนของลัทธิ เกิดจากความคิดและทัศนะส่วนตัวของเจ้าลัทธิเอง แต่สำหรับศาสนา คำสอนเกิดจากพระบัญชาของพระเจ้า โดยมีโองการผ่านทางศาสดา
บทเรียนที่ 3 การเสกสรรค์ปราสาทและอาณาจักร
การเสกสรรค์ปราสาทและอาณาจักรจะต้องใช้จินตนาการของเราในการออกแบบและใช้พลังในการสร้างมันขึ้นมา ผลที่ออกมาจะแตกต่างกัน ตามสิ่งที่เรานำมาประกอบพิธีกรรม จินตนาการ หรือ พลังของเราเองก็ตาม
[ ในขั้นตอนการเสกสรรค์ ]
เราต้องรวบรวมสติ สมาธิ ให้อยู่กับการสร้าง นำส่วนประกอบทุกอย่าง มาใส่ลงไปในทะเลสาปเพลิง จากแคว้นในตำนาน ละลายทุกอย่างให้เป็นหนึ่งเดียวกัน ก่อนจะสาดลงไปที่พื้น หรือที่ที่เราเลือกจะเสกสรรค์ปราสาทและอาณาจักร แล้วกล่าว
“ จงปรากฏ... ปราสาท/อาณาจักรของข้า จงแสดงออกมาต่อหน้าข้าให้ประจักรแก่สายตาสรรพสิ่ง...”
แต่ตอนประกอบพิธีเราต้องอยู่ในที่ ๆ สามารถรับแสงจากดวงอาทิยต์และดวงจันทร์ให้ได้มากที่สุด
[ สิ่งที่ต้องเตรียมในการในการเสกสรรค์ ]
เลือดและนามของเรา สิ่งที่บ่งบอกว่าเป็นตัวเรา เส้นผม อัญมณีทั้ง 10 น้ำในทะเลสาปเพลิง
[ อันประกอบด้วย ]
พลอยโกเมน อัญมณีแห่งความมั่นคง ความน่าเชื่อถือและ ความงดงาม
อเมทีสต์ อัญมณีแห่งความจริงใจ และความมีสติ
อะควอมารีน อัญมณีแห่งท้องทะเลและความกล้าหาญ
ซีทริน อัญมณีแห่งการปกป้องและการรักษา
แซฟไฟร์ อัญมณีแห่งความจริงใจ และมั่นคง
เพริดอต อัญมณีแห่งดวงตะวัน
มรกต อัญมณีแห่งความชุ่มชื่น และ ความสมบูรณ์ของมวลพฤกษาในฤดูใบไม้ผลิ
เพชร อัญมณีแห่ง ความบริสุทธิ์ ความสมบูรณ์แบบ
โอปอล อัญมณีแห่งความหวัง
ไข่มุก อัญมณีแห่งความมั่งคั่งสมบูรณ
บทเรียนที่ 4 ว่าด้วยมนตราเทพปีศาจ
มนตรามีหลายรูปแบบ ส่งผลแตกต่างกันออกไป เช่น มนต์ไล่ผี มนต์อัญเชิญ มนต์ป้องกัน มนต์สาปแช่ง มนต์คุ้มครอง มนต์แห่งการรักษา
สิ่งที่ต้องรู้ มนต์ไล่ผี มนต์ขับผี มันไม่กลัว มนต์ป้องกันมันก็ไม่กลัว มันกลัวแต่ คนผู้ทำความดี พลังอำนาจจากการทำความดี จะทำให้เรามีบารมี เมื่อภูตผี รับรู้ได้หรือสัมผัสได้ มันถึงรู้สึกเกรงกลัว การกระทำและจิตใจของเรา จะยิ่งช่วยให้มนตราสำเร็จได้มากขึ้น อย่าคิดแต่จะทำร้าย หรือใช้มนต์ในการ ทำร้ายใคร ขับไล่ใคร แต่จงใช้เพื่อปกป้อง และปลดปล่อย
[ มนต์อัญเชิญ ]
มนต์อัญเชิญสัตว์เทพ/ปีศาจ ประจำตัว
สิ่งที่ต้องใช้ คือ เลือดของตัวเอง แท่งคริสตัล
วิธีอัญเชิญ
ตั้งจิตให้มั่น มีสมาธิอยู่ตลอดเวลาในการประกอบพิธี วาดวงเวทย์เป็นรูปดาวห้าแฉก มีรูปดวงอาทิตย์และดวงจันทร์อยู่ด้านใน โดยแท่งคริสตัส ก่อนที่จะนำแท่งคริสตัสกรีดลงบนข้อมือ ให้เลือดหยดลงบน วงเวทย์ที่วาดไว้ พร้อมกับกล่าว
“ในนามของข้า[ชื่อผู้อัญเชิญ] ขออัญเชิญมิตรผู้สัตย์และภักดี ผู้ที่ผูกใจและร่ายไว้กับข้า จงออกมา
[ชื่อของสัตว์ที่จะเรียก]”
เมื่อเรียกออกมาแล้ว จะพบกับสัตว์ประจำตัวของแต่ละคน... อันหนึ่ง สัตว์ คือ สัตว์ใต้อาณัติของเรา เมื่อเรียกเสร็จอาจจะรู้สึกเหนื่อยบางเล็กน้อย ขึ้นอยู่กับสัตว์และจำนวนที่เรียกออกมาในแต่ละครั้ง ปริมาตเลือดที่ใช้เรียกในแต่ละครั้งจะอยู่ที่ 250-300 CC ต่อ 1-2 ตัวเท่านั้น ถ้าเสียเลือดมากไปอาจทำให้หมดสติได้
มนต์อัญเชิญเทพ
เทพแต่ละองค์จะอัญเชิญออกมาแต่ต่างกันออกไป สิ่งที่ต้องเตรียมก็แตกต่างกัน... แต่สิ่งที่เทพชอบ คือจิตใจที่บริสุทธิ์
สิ่งที่ต้องใช้ คือ เพริดอต อัญมณีแห่งดวงตะวัน แท่งคริสตัส เลือดของตัวเอง
วิธีอัญเชิญ
ตั้งจิตให้มั่น มีสมาธิอยู่ตลอดเวลาในการประกอบพิธี ตอนวาดวงเวทย์ต้องมีทำจิตใจให้บริสุทธิ์ คิดแต่สิ่งที่ดีๆ วาดเป็นรูปดาวหกแฉกมีไม้กางเขน ดวงอาทิตย์และดวงจันทร์อยู่ด้านใน โดยแท่งคริสตัส แล้ววางเพริดอตไว้ตรงกลางไม้กางเขน ก่อนที่จะนำแท่งคริสตัสกรีดลงบนข้อมือ ให้เลือดหยดลงบน วงเวทย์ที่วาดไว้ พร้อมกับกล่าว
“ข้าขอวิงวอนต่อทวยเทพ ผู้สถิตอยู่กลางใจแห่งข้า... ข้า[ชื่อผู้อัญเชิญ] ผู้ศรัธาในตัวท่าน ขอจงปรากฏกายต่อหน้าข้า จงปกป้องและคุ้มครองข้า [ชื่อที่จะอัญเชิญ]”
เลือดเป็นสื่อกลางของพลัง ที่ออกมาจากร่างกาย...
เมื่อเรียกออกมาแล้ว จะรู้สึกอ่อนแรงลงไปเยอะกว่าการเรียกสัวต์
บางครั้งการเรียกก็ไม่ประสบความสำเร็จเช่นกัน..
นี้เป็นพิธีอัญเชิญเทพแบบทั่วไปที่ใช้กันอย่างแผ่หลาย โดยจะมีเทพบางองค์ที่เราต้องใช้สิ่งของอื่นๆเข้ามาเพื่ออัญเชิญด้วย เช่น
อัญเชิญเทพแห่งไฟ ไฟร์ไอนิส
สิ่งที่ต้องใช้ คือ ดวงไฟแห่งความเป็นนิรันดร์ แท่งคริสตัส เลือดของตัวเอง
วิธีอัญเชิญ
ตั้งจิตให้มั่น มีสมาธิอยู่ตลอดเวลาในการประกอบพิธี ตอนวาดวงเวทย์ต้องมีทำจิตใจให้บริสุทธิ์ คิดแต่สิ่งที่ดีๆ วาดเป็นรูปดาวหกแฉกมีไม้กางเขน ดวงอาทิตย์และดวงจันทร์อยู่ด้านใน โดยแท่งคริสตัส แล้ววางดวงไฟแห่งความเป็นนิรันดร์ไว้ตรงกลางไม้กางเขน ก่อนที่จะนำแท่งคริสตัสกรีดลงบนข้อมือ ให้เลือดหยดลงบน วงเวทย์ที่วาดไว้ พร้อมกับกล่าว
“ข้าขอวิงวอนต่อทวยเทพ ผู้สถิตอยู่กลางใจแห่งข้า... ข้า[ชื่อผู้อัญเชิญ] ผู้ศรัธาในตัวท่าน ขอจงปรากฏกายต่อหน้าข้า จงปกป้องและคุ้มครองข้า [ชื่อที่จะอัญเชิญ]”
มนต์อัญเชิญปีศาจ
ปีศาจก็มีหลายแบบเช่นกัน อย่างที่เคยบอกไปในบทเรียนแต่ก่อนแล้ว สิ่งที่จะนำมาสังเวยปีศาจก็เหมือนกันเทพ สิ่งที่ปีศาจชอบ คือพลังมืด หรือพลังด้านลบ
สิ่งที่ต้องใช้ คือ มณีนิลกาฬที่คมเหมือนมีด หยกดำ เลือดของตัวเอง
วิธีอัญเชิญ
ตั้งจิตให้มั่น มีสมาธิอยู่ตลอดเวลาในการประกอบพิธี วาดวงเวทย์เป็นรูปดาวห้าแฉกกลับหัว มีรูปดวงตาอยู่ด้านใน โดยแท่งมณีนิลกาฬ แล้ววางหยกสีดำที่มีพลังของความตายและความมืดอยู่ ก่อนที่จะนำแท่งมณีนิลกาฬกรีดลงบนข้อมือ ให้เลือดหยดลงบนวงเวทย์ผ่านหยกดำที่วางไว้ พร้อมกับกล่าว
“ข้าขอวิงวอนต่อจ้าวแห่งปีศาจและความมืด ผู้ที่สถิงในจิตใจและร่ายข้า ข้า[ชื่อผู้อัญเชิญ] ผู้บูชาท่าน จงปรากฏต่อหน้าข้า จงทำร้ายอริแห่งข้า จงกลืนกินมันด้วยพลังของท่าน [ชื่อที่จะอัญเชิญ] จงออกมาตามความปรารถนาของข้า!!”
เมื่อเรียกออกมาแล้ว จะรู้สึกอ่อนแรงลงไปเยอะกว่าการเรียกสัวต์ บางครั้งการเรียกก็ไม่ประสบความสำเร็จเช่นกัน..
นี้เป็นพิธีอัญเชิญปีศาจแบบทั่วไปที่ใช้กันอย่างแผ่หลาย โดยจะมีปีศาจบางตนที่เราต้องใช้สิ่งของอื่นๆเข้ามาเพื่ออัญเชิญด้วย เช่น
อัญเชิญบลูโรส ปีศาจผีเสื้อกุหลาบ
สิ่งที่ต้องใช้ คือ กุหลาบสีน้ำเงินในอุทยานเหมันต์ เลือดแมว แคว้นในตำนาน แท่งมณีนิลกาฬที่คมเหมือนมีด เลือดของตัวเอง
วิธีอัญเชิญ
ตั้งจิตให้มั่น มีสมาธิอยู่ตลอดเวลาในการประกอบพิธี ตอนวาดวงเวทย์ต้องมีทำจิตใจให้สงบ คิดแต่เรื่องสนุก ตื่นเต้น วาดวงเวทย์เป็นรูปดาวห้าแฉกกลับหัว มีรูปดวงตาอยู่ด้านใน โดยแท่งมณีนิลกาฬ แล้ววางกุหลาบน้ำเงินและเทเลือดแมว ก่อนที่จะนำแท่งมณีนิลกาฬกรีดลงบนข้อมือ ให้เลือดหยดลงบนวงเวทย์ผ่านกุหลาบน้ำเงินและเลือดแมวที่วางไว้ พร้อมกับกล่าว
“ข้าขอวิงวอนต่อจ้าวแห่งปีศาจและความมืด ผู้ที่สถิงในจิตใจและร่ายข้า ข้า[ชื่อผู้อัญเชิญ] ผู้บูชาท่าน จงปรากฏต่อหน้าข้า จงทำร้ายอริแห่งข้า จงกลืนกินมันด้วยพลังของท่าน [ชื่อที่จะอัญเชิญ] จงออกมาตามความปรารถนาของข้า!!”
[มนต์สาปแช่ง]
ขอเตือนไว้ก่อนว่า มนต์สาปแช่ง อาจเข้าตัวเองได้... ไม่ว่าจะกรณีใดๆ ก็ตาม การสาปแช่งก็มีหลายรูปแบบด้วยเช่นกัน
คำสาปกรีดแทง
สิ่งที่ต้องใช้ คือ นาม เส้นผม ของผู้ที่เราจะสาป
ต้องประกอบพิธีกรรมกลางแสงจันทร์ ตั้งสติให้มั่น มีสมาธิกับสิ่งที่ทำ คิดถึงผู้ที่จะร่ายมนต์ใส่ แล้วหยิบนามกับเส้นผมของคนผู้นั้นขึ้นมา เผาให้เป็นจุณ เสร็จแล้วนำเถ้าพวกนั้นไปโปยลงในเปลวไฟอีกครั้งแต่ครั้งนี้โปยไปก็ร่ายมนต์ไปด้วย
“ข้าขอบูชาแด่เทพมรณาผู้น่าเกรงขาม ขอจงกรีดแทงอริแห่งข้า ให้มันทุกข์ทรมาร เจ็บเจียนตาย... ให้สนกับที่ข้าได้บูชาท่าน”
คำสาปเจ็ดทิวา
สิ่งที่ต้องใช้ คือ นาม เส้นผม เลือด และของที่อยู่ใกล้ตัวของผู้ที่เราจะสาป หนามกุหลาบ เจ็ดอัน เข็มเจ็ดเล่ม
ต้องประกอบพิธีกรรมกลางแสงจันทร์ ในคืนพระจันทร์สีเลือด วาดวงเวทย์ด้วยเลือดของเราเป็นรูปทรงกลมมีดวงดาว ดวงจันทร์และดวงตะวันทับซ่อนกัน นำเส้้นผม นามและขอใกล้ตัวของผู้ที่จะสาปวางลงตรงกลางวง นำหนามกุหลาบเจ็ดอัน มาเผา แล้วนำเถ้าของหนามมาใส่ลงไปในเลือดของผู้ถูกสาปผสมให้เข้ากัน เสร็จแล้วให้นำเข็มทั้งเจ็ดปักลงไปที่กลางวงเวทย์ ตอนที่ปักให้ร่ายมนต์ไปด้วย เมื่อปักเสร็จก็สาดเลือดที่ผสมเถ้าหนามกุหลาบลงไปอีกครั้ง
"จงทุกข์ทรมาณไปเจ็ดทิวา เมื่อผ่านพ้นเจ็ดราตรีจงมอดไหม้สู่ธุลี"
[มนต์ป้องกัน]
คือการสร้างบาเรีย หรือโล่ขึ้นมาป้องกันตัวเราเองและคนอื่น ๆ เอาไว้ หรือ อาจจะเรียกอีกอย่างว่า "เขตอาคม”
เขตอาคมมหาเทพ
เมื่อร่ายมนต์บทนี้แล้วใต้ร่างจะมีวงแหวงเวทย์ทรงกลมมีรูปดวงตะวันอยู่ตรงกลางสีทอง ค่อยๆกางขยายตัวออกเป็นวงกว้างมากพอเท่าที่ผู้ร่ายต้องการ ปรากฏขึ้นมาพร้อมกับบาเรียสีทองใส แต่มนต์บทนี้จะกินพลังของผู้ร่ายสูง
“เหล่าทวยเทพผู้สถิตอยู่เหนือจิตใจ จงปกป้อง คุ้มครองเหล่าลูกหลานแห่งท่าน จงปกปักรักษาให้พ้นภัย ซีทริน!”
จะมีอีกบทที่คล้ายกันแต่จะใช้พลังน้อยกว่า คือ
บาเรียแห่งแสง
ข้อแตกต่างระหว่างบาเรียแห่งแสง คือเขตอานุภาพกับพลัง บาเรียแห่งแสงจะน้อยกว่า แต่ใช้พลังไม่มากเท่าเขตอาคมมหาเทพ ที่ต้องเสียพลังเยอะ เมื่อร่ายมนต์บทนี้แล้วใต้ร่างจะมีวงแหวงเวทย์ทรงกลมมีรูปดวงตะวันอยู่ตรงกลางสีขาว ค่อยๆ กางขยายตัวออกเป็นวงกว้างมากพอเท่าที่ผู้ร่ายต้องการ ปรากฏขึ้นมาพร้อมกับบาเรียสีขาวใสไม่มีสีอื่นปน
“ข้าผู้เป็นดังลูกหลานของท่าน จงปกปักพวกข้า ด้วยแสงที่อบอุ่นของท่าน เพริดอต!”
เขตอาคมคำสาปซาตาน
เมื่อร่ายมนต์บทนี้แล้วใต้ร่างจะมีวงแหวงเวทย์ทรงกลมมีรูปดาวห้าแฉกกลับหัวอยู่ตรงกลางสีเงิน ค่อยๆกางขยายตัวออกเป็นวงกว้างมากพอเท่าที่ผู้ร่ายต้องการ ปรากฏขึ้นมาพร้อมกับบาเรียสีเงินใส แต่มนต์บทนี้จะคิดพลังของผู้ร่ายสูง
“พลังแห่งความมืดอันเป็นนิรันดร์ขอจงปกป้องข้าและเหล่าพวกพ้อง จงกลืนกินมันเหล่าศัตรูแห่งข้า ข้าในนามของบุตรแห่งท่าน รีอาโต!”
จะมีอีกบทที่คล้ายกันแต่จะใช้พลังน้อยกว่า คือ
บาเรียแห่งความมืด
มนต์บทนี้ก็คล้ายกับบาเรียแห่งแสง ที่ขะมีพลังน้อยกว่า เขตอาคมคำสาปซาตาน และกินพลังน้อยกว่า เมื่อร่ายมนต์บทนี้แล้วใต้ร่างจะมีวงแหวงเวทย์ทรงกลมมีรูปดวงดาวอยู่ตรงกลางสีดำ ค่อย ๆ กางขยายตัวออกเป็นวงกว้างมากพอเท่าที่ผู้ร่ายต้องการ ปรากฏขึ้นมาพร้อมกับบาเรียสีดำใสไม่มีสีอื่นปน
“ความมืดกลืนกินแสงสว่าง จากขาวเป็นดำ จากสว่างเป็นความมืด ความมืดจงดูดซับทุกสิ่ง จงปกป้องข้าผู้เป็นนายแห่งเจ้า ลูเฟอร์!”
[มนต์รักษา]
แสงแห่งการเยียวยา
สิ่งที่ต้องเตรียม ซีทริน อัญมณีแห่งการปกป้องและการรักษา
ก่อนจะร่ายเวทย์ใส่เลือดของเราหยุดลงไปที่ซีทรินเพื่อปลุกพลังแห่งการรักษาออกมาแล้ว เริ่มร่าย เมื่อร่ายมนต์บทนี้แล้วบนมือสองข้างจะมีวงแหวงเวทย์ทรงกลมมีรูปดวงตะวันอยู่ตรงกลาง ส่องแสงสีทองอบอุ่น ละอองแห่งการเยียวยาจะโปรยทั่วร่างกาย
“ข้าผู้เป็นดังบุตรแห่งท่าน จงประทานแสง แห่งความอบอุ่นลงมาเพื่อให้ข้าได้มีชีวิตต่อไป...”
แสงแห่งการปลดปล่อย
สิ่งที่ต้องเตรียม ซีทริน อัญมณีแห่งการปกป้องและการรักษา
นำซีทรินวางลงบนร่างของผู้บาดเจ็บ ตรงตำแหน่งหัวใจ แล้วหยดเลือดลงไปกลางซีทริน แล้วร่ายมนต์ เมื่อร่ายมนต์จะมีวงเวทย์ปรากฏออกมาทั้งจากใต้ร่างและเหนือร่างของผู้บาดเจ็บ เมื่อร่ายเสร็จซีทรินและเลือดจะรวมกันเป็นหนึ่งเดียวหายเข้าไปในร่างของผู้บาดเจ็บ พลังของอัญมณีจะค่อย ๆ รักษาและฟื้นฟูจากภายใน ความเจ็บปวดก็จะหายไปด้วยเช่นกัน...
"พระองค์โปรดปรากฏร่าง ข้าถูกความเศร้าโศกกัดกินกระดูกและวิญญาณเริมอ่อนแอลง จงปลดปล่อยข้าจากความเจ็บปวดนี้"
มนต์บทนี้จะใช้กับผู้ที่ โดยคำสาป หรือ ผู้ที่เยียนตาย... เพราะมันจะเสียพลังเยอะ
ข้อควรระวัง
อนึ่ง ระว่างการเดินทางทำภารกิจของท่าน
ท่านอาจจะต้องแวะตามสถานที่ต่างๆ และจำเป็นต้องโพสคอมเม้น
เมื่อท่านโพสคอมเม้น ไม่ว่าที่ใดก็ตามในดาร์คแลนด์
ให้แนบบัตรประนักเรียนศาสตร์มืดแห่งดาร์คแลนด์ด้วยเสมอ
และผลการทำภารกิจของท่าน จะปรากฏที่หอพักของท่าน ทุกวันศุกร์
การสอบครั้งสุดท้าย
หากท่านศึกษาบทเรียนในชั้นนี้จนถ่องแท้แล้ว กรุณาทำข้อสอบ
หากท่านสอบผ่าน จะได้รับเหรียญตราราชันแห่งเทพปีศาจ
คลิกเพื่อทำข้อสอบ
บทเรียนที่ 1 การครอบงำมนุษย์
ในช่วงที่จิตใจมนุษย์อ่อนแอเป็นช่วงที่สามารถครอบงำ ได้มากที่สุด ยิ่งผู้ที่จะถูกครอบงำ มีจิตใจที่ออ่นแอมากเท่าไรก็มีผลได้มากขึ้นเท่านั้น การครอบงำอาจจะใช้สิ่งของล้อใจ เช่น เงินตรา อำนาจ พลัง หรือราคะ ลอกล่อให้จนอยู่กับสิ่งของเหล่านั้น การครอบงำมนุษย์มีหลายแบบ เพียงแต่ว่าจะเลือกไปในทางไหน จะดีหรือชั่วอยู่ที่ตัวผู้กระทำ
ครอบงำผู้อื่น เพื่อที่จะยืนอยู่ข้างหน้า
ครอบงำผู้อื่น เพื่อผลประโยชน์ของตน
ครอบงำผู้อื่น เพื่อแสดงตนเป็น "ผู้นำทางความคิด"
ครอบงำผู้อื่น เพื่อทำลายผู้อื่น
[หนังสืออ่านเพิ่มเติม]
บทเรียนที่ 2 ว่าด้วยการสร้างลัทธิ
ลัทธิ (Doctrine) คือคำสั่งสอน ที่มีผู้เชื่อถือและมีอิทธิพลต่อการดำเนินชีวิตของมนุษย์ เช่น ลัทธิบูชาจอมมาร ลิทธิบูชาแมวเมี๊ยว เป็นต้น แต่ ลัทธิ มิใช้ศาสนา!
เอาง่าย ๆ การสร้าง ลัทธิ ก็คือการครอบงำ ให้เชื่อในสิ่งนั้น ๆ หรือบูชา เคารพ นับถือและทำตาม
การสร้างลัทธิ คือ การ สร้างความเชื่อ ความคิดและทัศนะส่วนตัว ปลุกฝังความเชื่อให้กับบุคคลกลุ่มหนึ่ง มีการประกอบพิธีกรรมต่าง ๆ ตามความเชื่อ
ลัทธิ อาจไม่มีคำสั่งสอนเกี่ยวกับศีลธรรมจรรยาเหมือนอย่างศาสนาก็ได้ คำสอนของลัทธิ เกิดจากความคิดและทัศนะส่วนตัวของเจ้าลัทธิเอง แต่สำหรับศาสนา คำสอนเกิดจากพระบัญชาของพระเจ้า โดยมีโองการผ่านทางศาสดา
บทเรียนที่ 3 การเสกสรรค์ปราสาทและอาณาจักร
การเสกสรรค์ปราสาทและอาณาจักรจะต้องใช้จินตนาการของเราในการออกแบบและใช้พลังในการสร้างมันขึ้นมา ผลที่ออกมาจะแตกต่างกัน ตามสิ่งที่เรานำมาประกอบพิธีกรรม จินตนาการ หรือ พลังของเราเองก็ตาม
[ ในขั้นตอนการเสกสรรค์ ]
เราต้องรวบรวมสติ สมาธิ ให้อยู่กับการสร้าง นำส่วนประกอบทุกอย่าง มาใส่ลงไปในทะเลสาปเพลิง จากแคว้นในตำนาน ละลายทุกอย่างให้เป็นหนึ่งเดียวกัน ก่อนจะสาดลงไปที่พื้น หรือที่ที่เราเลือกจะเสกสรรค์ปราสาทและอาณาจักร แล้วกล่าว
“ จงปรากฏ... ปราสาท/อาณาจักรของข้า จงแสดงออกมาต่อหน้าข้าให้ประจักรแก่สายตาสรรพสิ่ง...”
แต่ตอนประกอบพิธีเราต้องอยู่ในที่ ๆ สามารถรับแสงจากดวงอาทิยต์และดวงจันทร์ให้ได้มากที่สุด
[ สิ่งที่ต้องเตรียมในการในการเสกสรรค์ ]
เลือดและนามของเรา สิ่งที่บ่งบอกว่าเป็นตัวเรา เส้นผม อัญมณีทั้ง 10 น้ำในทะเลสาปเพลิง
[ อันประกอบด้วย ]
พลอยโกเมน อัญมณีแห่งความมั่นคง ความน่าเชื่อถือและ ความงดงาม
อเมทีสต์ อัญมณีแห่งความจริงใจ และความมีสติ
อะควอมารีน อัญมณีแห่งท้องทะเลและความกล้าหาญ
ซีทริน อัญมณีแห่งการปกป้องและการรักษา
แซฟไฟร์ อัญมณีแห่งความจริงใจ และมั่นคง
เพริดอต อัญมณีแห่งดวงตะวัน
มรกต อัญมณีแห่งความชุ่มชื่น และ ความสมบูรณ์ของมวลพฤกษาในฤดูใบไม้ผลิ
เพชร อัญมณีแห่ง ความบริสุทธิ์ ความสมบูรณ์แบบ
โอปอล อัญมณีแห่งความหวัง
ไข่มุก อัญมณีแห่งความมั่งคั่งสมบูรณ
บทเรียนที่ 4 ว่าด้วยมนตราเทพปีศาจ
มนตรามีหลายรูปแบบ ส่งผลแตกต่างกันออกไป เช่น มนต์ไล่ผี มนต์อัญเชิญ มนต์ป้องกัน มนต์สาปแช่ง มนต์คุ้มครอง มนต์แห่งการรักษา
สิ่งที่ต้องรู้ มนต์ไล่ผี มนต์ขับผี มันไม่กลัว มนต์ป้องกันมันก็ไม่กลัว มันกลัวแต่ คนผู้ทำความดี พลังอำนาจจากการทำความดี จะทำให้เรามีบารมี เมื่อภูตผี รับรู้ได้หรือสัมผัสได้ มันถึงรู้สึกเกรงกลัว การกระทำและจิตใจของเรา จะยิ่งช่วยให้มนตราสำเร็จได้มากขึ้น อย่าคิดแต่จะทำร้าย หรือใช้มนต์ในการ ทำร้ายใคร ขับไล่ใคร แต่จงใช้เพื่อปกป้อง และปลดปล่อย
[ มนต์อัญเชิญ ]
มนต์อัญเชิญสัตว์เทพ/ปีศาจ ประจำตัว
สิ่งที่ต้องใช้ คือ เลือดของตัวเอง แท่งคริสตัล
วิธีอัญเชิญ
ตั้งจิตให้มั่น มีสมาธิอยู่ตลอดเวลาในการประกอบพิธี วาดวงเวทย์เป็นรูปดาวห้าแฉก มีรูปดวงอาทิตย์และดวงจันทร์อยู่ด้านใน โดยแท่งคริสตัส ก่อนที่จะนำแท่งคริสตัสกรีดลงบนข้อมือ ให้เลือดหยดลงบน วงเวทย์ที่วาดไว้ พร้อมกับกล่าว
“ในนามของข้า[ชื่อผู้อัญเชิญ] ขออัญเชิญมิตรผู้สัตย์และภักดี ผู้ที่ผูกใจและร่ายไว้กับข้า จงออกมา
[ชื่อของสัตว์ที่จะเรียก]”
เมื่อเรียกออกมาแล้ว จะพบกับสัตว์ประจำตัวของแต่ละคน... อันหนึ่ง สัตว์ คือ สัตว์ใต้อาณัติของเรา เมื่อเรียกเสร็จอาจจะรู้สึกเหนื่อยบางเล็กน้อย ขึ้นอยู่กับสัตว์และจำนวนที่เรียกออกมาในแต่ละครั้ง ปริมาตเลือดที่ใช้เรียกในแต่ละครั้งจะอยู่ที่ 250-300 CC ต่อ 1-2 ตัวเท่านั้น ถ้าเสียเลือดมากไปอาจทำให้หมดสติได้
มนต์อัญเชิญเทพ
เทพแต่ละองค์จะอัญเชิญออกมาแต่ต่างกันออกไป สิ่งที่ต้องเตรียมก็แตกต่างกัน... แต่สิ่งที่เทพชอบ คือจิตใจที่บริสุทธิ์
สิ่งที่ต้องใช้ คือ เพริดอต อัญมณีแห่งดวงตะวัน แท่งคริสตัส เลือดของตัวเอง
วิธีอัญเชิญ
ตั้งจิตให้มั่น มีสมาธิอยู่ตลอดเวลาในการประกอบพิธี ตอนวาดวงเวทย์ต้องมีทำจิตใจให้บริสุทธิ์ คิดแต่สิ่งที่ดีๆ วาดเป็นรูปดาวหกแฉกมีไม้กางเขน ดวงอาทิตย์และดวงจันทร์อยู่ด้านใน โดยแท่งคริสตัส แล้ววางเพริดอตไว้ตรงกลางไม้กางเขน ก่อนที่จะนำแท่งคริสตัสกรีดลงบนข้อมือ ให้เลือดหยดลงบน วงเวทย์ที่วาดไว้ พร้อมกับกล่าว
“ข้าขอวิงวอนต่อทวยเทพ ผู้สถิตอยู่กลางใจแห่งข้า... ข้า[ชื่อผู้อัญเชิญ] ผู้ศรัธาในตัวท่าน ขอจงปรากฏกายต่อหน้าข้า จงปกป้องและคุ้มครองข้า [ชื่อที่จะอัญเชิญ]”
เลือดเป็นสื่อกลางของพลัง ที่ออกมาจากร่างกาย...
เมื่อเรียกออกมาแล้ว จะรู้สึกอ่อนแรงลงไปเยอะกว่าการเรียกสัวต์
บางครั้งการเรียกก็ไม่ประสบความสำเร็จเช่นกัน..
นี้เป็นพิธีอัญเชิญเทพแบบทั่วไปที่ใช้กันอย่างแผ่หลาย โดยจะมีเทพบางองค์ที่เราต้องใช้สิ่งของอื่นๆเข้ามาเพื่ออัญเชิญด้วย เช่น
อัญเชิญเทพแห่งไฟ ไฟร์ไอนิส
สิ่งที่ต้องใช้ คือ ดวงไฟแห่งความเป็นนิรันดร์ แท่งคริสตัส เลือดของตัวเอง
วิธีอัญเชิญ
ตั้งจิตให้มั่น มีสมาธิอยู่ตลอดเวลาในการประกอบพิธี ตอนวาดวงเวทย์ต้องมีทำจิตใจให้บริสุทธิ์ คิดแต่สิ่งที่ดีๆ วาดเป็นรูปดาวหกแฉกมีไม้กางเขน ดวงอาทิตย์และดวงจันทร์อยู่ด้านใน โดยแท่งคริสตัส แล้ววางดวงไฟแห่งความเป็นนิรันดร์ไว้ตรงกลางไม้กางเขน ก่อนที่จะนำแท่งคริสตัสกรีดลงบนข้อมือ ให้เลือดหยดลงบน วงเวทย์ที่วาดไว้ พร้อมกับกล่าว
“ข้าขอวิงวอนต่อทวยเทพ ผู้สถิตอยู่กลางใจแห่งข้า... ข้า[ชื่อผู้อัญเชิญ] ผู้ศรัธาในตัวท่าน ขอจงปรากฏกายต่อหน้าข้า จงปกป้องและคุ้มครองข้า [ชื่อที่จะอัญเชิญ]”
มนต์อัญเชิญปีศาจ
ปีศาจก็มีหลายแบบเช่นกัน อย่างที่เคยบอกไปในบทเรียนแต่ก่อนแล้ว สิ่งที่จะนำมาสังเวยปีศาจก็เหมือนกันเทพ สิ่งที่ปีศาจชอบ คือพลังมืด หรือพลังด้านลบ
สิ่งที่ต้องใช้ คือ มณีนิลกาฬที่คมเหมือนมีด หยกดำ เลือดของตัวเอง
วิธีอัญเชิญ
ตั้งจิตให้มั่น มีสมาธิอยู่ตลอดเวลาในการประกอบพิธี วาดวงเวทย์เป็นรูปดาวห้าแฉกกลับหัว มีรูปดวงตาอยู่ด้านใน โดยแท่งมณีนิลกาฬ แล้ววางหยกสีดำที่มีพลังของความตายและความมืดอยู่ ก่อนที่จะนำแท่งมณีนิลกาฬกรีดลงบนข้อมือ ให้เลือดหยดลงบนวงเวทย์ผ่านหยกดำที่วางไว้ พร้อมกับกล่าว
“ข้าขอวิงวอนต่อจ้าวแห่งปีศาจและความมืด ผู้ที่สถิงในจิตใจและร่ายข้า ข้า[ชื่อผู้อัญเชิญ] ผู้บูชาท่าน จงปรากฏต่อหน้าข้า จงทำร้ายอริแห่งข้า จงกลืนกินมันด้วยพลังของท่าน [ชื่อที่จะอัญเชิญ] จงออกมาตามความปรารถนาของข้า!!”
เมื่อเรียกออกมาแล้ว จะรู้สึกอ่อนแรงลงไปเยอะกว่าการเรียกสัวต์ บางครั้งการเรียกก็ไม่ประสบความสำเร็จเช่นกัน..
นี้เป็นพิธีอัญเชิญปีศาจแบบทั่วไปที่ใช้กันอย่างแผ่หลาย โดยจะมีปีศาจบางตนที่เราต้องใช้สิ่งของอื่นๆเข้ามาเพื่ออัญเชิญด้วย เช่น
อัญเชิญบลูโรส ปีศาจผีเสื้อกุหลาบ
สิ่งที่ต้องใช้ คือ กุหลาบสีน้ำเงินในอุทยานเหมันต์ เลือดแมว แคว้นในตำนาน แท่งมณีนิลกาฬที่คมเหมือนมีด เลือดของตัวเอง
วิธีอัญเชิญ
ตั้งจิตให้มั่น มีสมาธิอยู่ตลอดเวลาในการประกอบพิธี ตอนวาดวงเวทย์ต้องมีทำจิตใจให้สงบ คิดแต่เรื่องสนุก ตื่นเต้น วาดวงเวทย์เป็นรูปดาวห้าแฉกกลับหัว มีรูปดวงตาอยู่ด้านใน โดยแท่งมณีนิลกาฬ แล้ววางกุหลาบน้ำเงินและเทเลือดแมว ก่อนที่จะนำแท่งมณีนิลกาฬกรีดลงบนข้อมือ ให้เลือดหยดลงบนวงเวทย์ผ่านกุหลาบน้ำเงินและเลือดแมวที่วางไว้ พร้อมกับกล่าว
“ข้าขอวิงวอนต่อจ้าวแห่งปีศาจและความมืด ผู้ที่สถิงในจิตใจและร่ายข้า ข้า[ชื่อผู้อัญเชิญ] ผู้บูชาท่าน จงปรากฏต่อหน้าข้า จงทำร้ายอริแห่งข้า จงกลืนกินมันด้วยพลังของท่าน [ชื่อที่จะอัญเชิญ] จงออกมาตามความปรารถนาของข้า!!”
[มนต์สาปแช่ง]
ขอเตือนไว้ก่อนว่า มนต์สาปแช่ง อาจเข้าตัวเองได้... ไม่ว่าจะกรณีใดๆ ก็ตาม การสาปแช่งก็มีหลายรูปแบบด้วยเช่นกัน
คำสาปกรีดแทง
สิ่งที่ต้องใช้ คือ นาม เส้นผม ของผู้ที่เราจะสาป
ต้องประกอบพิธีกรรมกลางแสงจันทร์ ตั้งสติให้มั่น มีสมาธิกับสิ่งที่ทำ คิดถึงผู้ที่จะร่ายมนต์ใส่ แล้วหยิบนามกับเส้นผมของคนผู้นั้นขึ้นมา เผาให้เป็นจุณ เสร็จแล้วนำเถ้าพวกนั้นไปโปยลงในเปลวไฟอีกครั้งแต่ครั้งนี้โปยไปก็ร่ายมนต์ไปด้วย
“ข้าขอบูชาแด่เทพมรณาผู้น่าเกรงขาม ขอจงกรีดแทงอริแห่งข้า ให้มันทุกข์ทรมาร เจ็บเจียนตาย... ให้สนกับที่ข้าได้บูชาท่าน”
คำสาปเจ็ดทิวา
สิ่งที่ต้องใช้ คือ นาม เส้นผม เลือด และของที่อยู่ใกล้ตัวของผู้ที่เราจะสาป หนามกุหลาบ เจ็ดอัน เข็มเจ็ดเล่ม
ต้องประกอบพิธีกรรมกลางแสงจันทร์ ในคืนพระจันทร์สีเลือด วาดวงเวทย์ด้วยเลือดของเราเป็นรูปทรงกลมมีดวงดาว ดวงจันทร์และดวงตะวันทับซ่อนกัน นำเส้้นผม นามและขอใกล้ตัวของผู้ที่จะสาปวางลงตรงกลางวง นำหนามกุหลาบเจ็ดอัน มาเผา แล้วนำเถ้าของหนามมาใส่ลงไปในเลือดของผู้ถูกสาปผสมให้เข้ากัน เสร็จแล้วให้นำเข็มทั้งเจ็ดปักลงไปที่กลางวงเวทย์ ตอนที่ปักให้ร่ายมนต์ไปด้วย เมื่อปักเสร็จก็สาดเลือดที่ผสมเถ้าหนามกุหลาบลงไปอีกครั้ง
"จงทุกข์ทรมาณไปเจ็ดทิวา เมื่อผ่านพ้นเจ็ดราตรีจงมอดไหม้สู่ธุลี"
[มนต์ป้องกัน]
คือการสร้างบาเรีย หรือโล่ขึ้นมาป้องกันตัวเราเองและคนอื่น ๆ เอาไว้ หรือ อาจจะเรียกอีกอย่างว่า "เขตอาคม”
เขตอาคมมหาเทพ
เมื่อร่ายมนต์บทนี้แล้วใต้ร่างจะมีวงแหวงเวทย์ทรงกลมมีรูปดวงตะวันอยู่ตรงกลางสีทอง ค่อยๆกางขยายตัวออกเป็นวงกว้างมากพอเท่าที่ผู้ร่ายต้องการ ปรากฏขึ้นมาพร้อมกับบาเรียสีทองใส แต่มนต์บทนี้จะกินพลังของผู้ร่ายสูง
“เหล่าทวยเทพผู้สถิตอยู่เหนือจิตใจ จงปกป้อง คุ้มครองเหล่าลูกหลานแห่งท่าน จงปกปักรักษาให้พ้นภัย ซีทริน!”
จะมีอีกบทที่คล้ายกันแต่จะใช้พลังน้อยกว่า คือ
บาเรียแห่งแสง
ข้อแตกต่างระหว่างบาเรียแห่งแสง คือเขตอานุภาพกับพลัง บาเรียแห่งแสงจะน้อยกว่า แต่ใช้พลังไม่มากเท่าเขตอาคมมหาเทพ ที่ต้องเสียพลังเยอะ เมื่อร่ายมนต์บทนี้แล้วใต้ร่างจะมีวงแหวงเวทย์ทรงกลมมีรูปดวงตะวันอยู่ตรงกลางสีขาว ค่อยๆ กางขยายตัวออกเป็นวงกว้างมากพอเท่าที่ผู้ร่ายต้องการ ปรากฏขึ้นมาพร้อมกับบาเรียสีขาวใสไม่มีสีอื่นปน
“ข้าผู้เป็นดังลูกหลานของท่าน จงปกปักพวกข้า ด้วยแสงที่อบอุ่นของท่าน เพริดอต!”
เขตอาคมคำสาปซาตาน
เมื่อร่ายมนต์บทนี้แล้วใต้ร่างจะมีวงแหวงเวทย์ทรงกลมมีรูปดาวห้าแฉกกลับหัวอยู่ตรงกลางสีเงิน ค่อยๆกางขยายตัวออกเป็นวงกว้างมากพอเท่าที่ผู้ร่ายต้องการ ปรากฏขึ้นมาพร้อมกับบาเรียสีเงินใส แต่มนต์บทนี้จะคิดพลังของผู้ร่ายสูง
“พลังแห่งความมืดอันเป็นนิรันดร์ขอจงปกป้องข้าและเหล่าพวกพ้อง จงกลืนกินมันเหล่าศัตรูแห่งข้า ข้าในนามของบุตรแห่งท่าน รีอาโต!”
จะมีอีกบทที่คล้ายกันแต่จะใช้พลังน้อยกว่า คือ
บาเรียแห่งความมืด
มนต์บทนี้ก็คล้ายกับบาเรียแห่งแสง ที่ขะมีพลังน้อยกว่า เขตอาคมคำสาปซาตาน และกินพลังน้อยกว่า เมื่อร่ายมนต์บทนี้แล้วใต้ร่างจะมีวงแหวงเวทย์ทรงกลมมีรูปดวงดาวอยู่ตรงกลางสีดำ ค่อย ๆ กางขยายตัวออกเป็นวงกว้างมากพอเท่าที่ผู้ร่ายต้องการ ปรากฏขึ้นมาพร้อมกับบาเรียสีดำใสไม่มีสีอื่นปน
“ความมืดกลืนกินแสงสว่าง จากขาวเป็นดำ จากสว่างเป็นความมืด ความมืดจงดูดซับทุกสิ่ง จงปกป้องข้าผู้เป็นนายแห่งเจ้า ลูเฟอร์!”
[มนต์รักษา]
แสงแห่งการเยียวยา
สิ่งที่ต้องเตรียม ซีทริน อัญมณีแห่งการปกป้องและการรักษา
ก่อนจะร่ายเวทย์ใส่เลือดของเราหยุดลงไปที่ซีทรินเพื่อปลุกพลังแห่งการรักษาออกมาแล้ว เริ่มร่าย เมื่อร่ายมนต์บทนี้แล้วบนมือสองข้างจะมีวงแหวงเวทย์ทรงกลมมีรูปดวงตะวันอยู่ตรงกลาง ส่องแสงสีทองอบอุ่น ละอองแห่งการเยียวยาจะโปรยทั่วร่างกาย
“ข้าผู้เป็นดังบุตรแห่งท่าน จงประทานแสง แห่งความอบอุ่นลงมาเพื่อให้ข้าได้มีชีวิตต่อไป...”
แสงแห่งการปลดปล่อย
สิ่งที่ต้องเตรียม ซีทริน อัญมณีแห่งการปกป้องและการรักษา
นำซีทรินวางลงบนร่างของผู้บาดเจ็บ ตรงตำแหน่งหัวใจ แล้วหยดเลือดลงไปกลางซีทริน แล้วร่ายมนต์ เมื่อร่ายมนต์จะมีวงเวทย์ปรากฏออกมาทั้งจากใต้ร่างและเหนือร่างของผู้บาดเจ็บ เมื่อร่ายเสร็จซีทรินและเลือดจะรวมกันเป็นหนึ่งเดียวหายเข้าไปในร่างของผู้บาดเจ็บ พลังของอัญมณีจะค่อย ๆ รักษาและฟื้นฟูจากภายใน ความเจ็บปวดก็จะหายไปด้วยเช่นกัน...
"พระองค์โปรดปรากฏร่าง ข้าถูกความเศร้าโศกกัดกินกระดูกและวิญญาณเริมอ่อนแอลง จงปลดปล่อยข้าจากความเจ็บปวดนี้"
มนต์บทนี้จะใช้กับผู้ที่ โดยคำสาป หรือ ผู้ที่เยียนตาย... เพราะมันจะเสียพลังเยอะ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น