ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    *~Timeless Love~* [Fic TVXQ]

    ลำดับตอนที่ #8 : >>> 08

    • อัปเดตล่าสุด 19 เม.ย. 50



    *~Timeless Love~*

    ...He’s mine...

     


    ณ ห้องประชุม

     

    เสียงเคาะประตูดังขึ้นเบาๆก่อนเสียงอนุญาตจากคนข้างในจะเรียกให้เด็กหนุ่มทั้งสองเดินเข้าไป โดยชางมินเดินเข้ามาก่อนตามด้วยแจจุงและฮันกยอง...

    ทันทีที่เห็นจุนซูนั้นถึงกับหน้าซีดไปเลยทีเดียว มือเรียวเผลอบีบมือยุนโฮแน่น ในขณะที่ผู้ถูกกุมมือนั้นก็อยู่ในอาการไม่ต่างกัน ดวงตาคมเบิกกว้างด้วยความตกใจ  ไม่รู้เพราะความสวยบริสุทธิ์ของคนตรงหน้า หรือว่าเป็นเพราะการพบกันอีกครั้งกันแน่ ถึงได้ทำให้ชายหนุ่มจ้องคนตรงหน้าอย่างไม่วางตาเลยสักนิด


    ส่วนยูชอนนั้นถึงกับทำหน้าไม่ถูก แค่ต้องเจอกับจุนซูมันก็ทำให้เขารู้สึกแย่มากพออยู่แล้ว แต่นี่เขาต้องเจอกับคนที่ไม่อยากเจอที่สุด
    ไม่ใช่เพราะเกลียดชังแต่เป็นเพราะรู้สึกผิดจนไม่กล้ามองหน้าเลยต่างหาก...

     


     
    แจจุง,ชางมินมานั่งนี่สิ ซีวอนเรียกให้เด็กหนุ่มทั้งสองมานั่งข้างๆ เด็กหนุ่มในชุดขาวนั่งลงบนเก้าอี้ข้างๆชางมินโดยมีฮันกยองเป็นคนเลื่อนเก้าอี้ให้ซึ่งตัวที่เด็กหนุ่มนั่งนั้นตรงกันข้ามกับยูชอนพอดี  


    นัยน์ตาสีนิลมองไปยังเพื่อนเก่าทั้งสองก่อนกลับมาหาคนตรงหน้าที่พยายามจะไม่มองหน้าเขาแต่การนั่งตรงข้ามกันโดยไม่มองหน้ากันมันเป็นไปไม่ได้หรอก... ถึงอย่างนั้นก็ไม่มีใครสังเกตเห็นเลยสักคนว่าแจจุงกับยูชอนมีสายตาแบบไหนต่อกัน...



    จองซูครับ นี่คิมแจจุงคนใหม่ที่ผมว่า ส่วนชื่อที่ใช้ก็... ชายหนุ่มหยุดเงียบไปซะเฉยเมื่อรู้ตัวว่ายังไม่ได้ตั้งชื่อใหม่ให้แจจุงเลย ยังดีที่ชางมินเป็นคนตอบแทนคนรักตัวเองซะก่อน...



    ลูเซียครับ ชื่อของเขาคือลูเซีย... แล้วชางมินก็ปล่อยให้เด็กหนุ่มได้แนะนำตัวต่อ



     
    ผมคิมแจจุงครับ หรือที่เรียกกันว่าลูเซียนั่นแหละฮะ... แจจุงเริ่มแนะนำตัวพลางมองไปยังจองซูที่ยิ้มรับเหมือนพึ่งเจอกันเป็นครั้งแรกอย่างไม่เข้าใจ



    ลูเซียเหรอ? ชื่อเพราะมากเลยนะ ยินดีที่ได้ร่วมงานกัน...ประธานหน้าหวานตอบรับด้วยรอยยิ้มพลางยื่นมือมาให้จับ



    ขอบคุณฮะ...พี่จองซู แจจุงลองแกล้งเรียกดูอีกรอบแต่ดูท่าทางคนตรงหน้าจะจำเขาไม่ได้เลยสักนิด... ถึงแม้สรรพนามที่แจจุงใช้เรียกจองซูจะไม่ใช่เหมือนคนที่เจอกันครั้งแรก แต่กลับไม่มีใครรู้สึกได้เลย  แจจุงหันมองยูชอนอย่างมีความหมาย  ทว่าชายหนุ่มกลับหลบสายตาของเจ้าตัวไป...



     
    เอ่อใช่...นี่ดงแฮกับซองมิน ทักทายเขาหน่อยสิจองซูแนะนำคู่หูจอมแสบให้แจจุงรู้จัก ก่อนท้ายประโยคจะสั่งให้สองแสบแนะนำตัวเองบ้าง



    ยินดีที่ได้รู้จักนะคร๊าบบบ  ผมดงแฮ ส่วนนี่ซองมิน พี่แจจุงสวยมากเลยครับ เพราะความที่เดาอายุคนตรงหน้าไม่ถูกจะเรียกน้องก็กลัวจะหน้าแตก ถึงลองหยั่งเชิงด้วยการเรียกพี่ไปก่อน ริมฝีปากบางแย้มยิ้มรับน้อยๆ



    ขอบใจนะว่าแต่เรียกแจจุงเฉยๆเถอะ พวกนายกับฉันอายุคงไม่ต่างกันเท่าไหร่หรอก เสียงหวานเอ่ยอย่างไม่ถือตัว แต่หารู้ไม่ว่าทำให้เด็กหนุ่มสองคนถึงกับหลงในน้ำเสียงเพราะๆนั้นไปเลยทีเดียว หลังการแนะนำตัวจบลง การประชุมคร่าวๆเกี่ยวกับสินค้าตัวใหม่ของ Aneal ก็เริ่มขึ้น

     

    จากการตกลงกันของทั้ง 2 ฝ่าย คือบริษัทชอยและปาร์ค ทั้ง 2 มีความเห็นตรงกันในการที่จะมีงานโฆษณาชิ้นใหญ่ร่วมกัน และสินค้าที่ที่ซีวอนเลือกก็คือ  โฆษณาน้ำหอมของ Aneal  โดยมีบริษัทปาร์คเป็นฝ่ายคิดรูปแบบโฆษณาและการโปรโมตให้ ซึ่งรูปแบบที่จองซูนำเสนอมาให้คือการแบ่งโฆษณาตัวนี้ออกเป็นสองภาค

    โดยภาคแรกจะเป็นการเปิดตัวน้ำหอมทุกกลิ่นที่มี โดยเนื้อเรื่องจะเริ่มจากเจ้าชายองค์หนึ่งจากดินแดนอันไกลโพ้นออกตามหาเจ้าสาวของตัวเอง และได้พลัดหลงไปในดินแดนของพวกภูตต่างๆ และที่นั่นเองเจ้าชายก็จะได้พบรักกับสาวภูตดอกไม้ เพียงแต่ว่าภูตที่ว่าไม่ได้มีเพียงตนเดียวแต่มีถึง 4 แทนน้ำหอมกลิ่นต่างๆแล้วเจ้าชายจะเลือกใครนั่นต้องไปตามลุ้นเอาในภาคที่สอง

    โดยจองซูวางตัวนักแสดงให้นักแสดงทั้ง 4 เป็นเหล่าบรรดาภูตต่างๆ และให้ยุนโฮเป็นเจ้าชาย ซึ่งซีวอนก็เห็นดีด้วยจึงเริ่มงานโฆษณานี้จึงเกิดขึ้นมา  แม้จะมีการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกลางคัน  แต่ก็ไม่มีผลอะไรอยู่แล้ว หลังจากการประชุมจบลงก็ใกล้เวลาของการแถลงข่าวเปิดตัวแล้วต่างคนแยกย้ายกันไปทำตามหน้าที่ของตนเอง...

     

     

    ระหว่างทางที่เดินไปก็ยังมีพวกนักข่าวที่ดักรอสัมภาษณ์ก่อนที่ชายหนุ่มกับคนรักจะไปถึงห้องแถลงข่าวเสียก่อน  ชายหนุ่มเลยต้องจำใจอยู่ตอบคำถามของนักข่าว พลางนึกในใจว่าดีแล้วที่ให้คนอื่นๆเข้าประตูด้านข้าง ถ้ามาประตูหน้าแบบเขากับชางมินละก็ คงต้องเลื่อนเวลาแถลงข่าวออกไปอีกแน่ๆ



    คุณชอยครับ บอกได้มั้ยครับว่าโฆษณาที่ร่วมทำกับบริษัทปาร์คเป็นยังไง แล้วมีใครแสดงบ้างครับ และคุณหวังผลกับความนิยมในสินค้าตัวใหม่ของ
    Aneal ขนาดไหนครับ? นักข่าวหนุ่มยิงคำถามใส่ซีวอนเป็นชุดจนชางมินที่เดินมาด้วยกันถึงกับปวดหัว... แต่ชายหนุ่มกลับตอบได้ทุกคำถามโดยไม่ตกหล่นเลยแม้แต่นิดเดียว ทำเอาชางมินทึ่งในความจำของคนรักเหลือเกิน (ซะงั้น...)



    ผมขอเก็บไว้เป็นความลับก่อนนะครับ แล้วพวกคุณจะได้เห็นมันพร้อมๆกับประชาชนทั่วประเทศในอีกไม่นานนี้แน่นอนครับ เรื่องคนแสดงผมว่าพวกคุณคงได้เห็นในงานอยู่แล้ว ส่วนเรื่องของยอดขายผมคิดว่าโฆษณาชิ้นนี้จะสามารถเพิ่มยอดขายได้อย่างน้อย 20% ครับ...



    คุณชอยค่ะ ไม่คิดว่ามันมากเกินไปเหรอค่ะ แสดงว่าคุณก็หวังไว้กับงานชิ้นนี้มากเลยสินะค่ะ?หญิงสาวจากรายการบันเทิงแห่งหนึ่งถามด้วยน้ำเสียงออกจะเป็นการดูถูกสักหน่อยในสายตาของชางมิน

    ไม่รู้สิครับ ซีวอนบอกยิ้มๆ ก่อนจะพูดประโยคสุดท้าย

    คิดว่าที่ผมพูดเป็นจริงแค่ไหนลองดูผลงานที่ออกมาก็แล้วกันนะครับ...คุณผู้หญิง ไม่แน่ว่าหลังจากเห็นแล้ว คุณอาจจะอยากเป็นลูกค้าของเราด้วยก็ได้ แล้วเดินเข้าไปในห้องแถลงข่าวพร้อมกับชางมิน

     

     


    ณ ห้องแถลงข่าว


    ภายในห้องโถงใหญ่สีครีม ซึ่งใช้เป็นที่รับรองเวลามีงานเลี้ยงหรืองานเปิดตัวสินค้าใหม่ๆ และตอนนี้ภายในห้องมีนักข่าวจากสถานีโทรทัศน์หลายช่องและสื่อมวลชนจากนิตยสารต่างๆเข้ามารออยู่แล้ว... สักพักเสียงคุยกันก็ดังขึ้นเมื่อร่างสูงของประธานบริษัทชอยกรุ๊ป...ซีวอนขึ้นมาบนเวที


    ตามด้วยร่างบางของประธานหน้าหวานของจองซู ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นครั้งแรกที่เขาออกมาปรากฏตัวต่อหน้าสาธารณะชนจำนวนมากขนาดนี้ เล่นเอาเจ้าตัวประหม่าไปเหมือนกันยังดีที่ยูชอนจับมือของพี่ชายไว้ไม่ให้เจ้าตัวเผลอทำอะไรเปิ่นๆออกไป ตามด้วยเหล่านักแสดงทั้งที่พากันมาหยุดลมหายใจของบรรดานักข่าวที่พากันตกตะลึงมองกันจนลืมกดชัตเตอร์...

     


     
    เริ่มคำถามได้เลยครับ... เสียงคังอินเอ่ยขึ้นเรียกสติที่หลุดลอยของบรรดานักข่าวให้กลับมาทำหน้าที่ของตนอีกครั้ง...



    เอ่อครับ... ไม่ทราบว่าจะช่วยแนะนำคุณหนูคนสวยตรงนั้นให้พวกเรารู้จักหน่อยได้มั้ยครับ เสียงทุ้มของนักข่าวหนุ่มดังขึ้นพร้อมกับสายตาของทุกคนที่มองไปที่แจจุงเป็นทางเดียวกัน เล่นเอาดวงหน้าสวยแดงเรื่อ 


    ไม่แปลกที่นักข่าวคนนี้จะถามซีวอนเรื่องแจจุง เพราะคนอื่นๆนั้นไม่ว่าจะเป็นไอ , ยูโน หรือคู่หูพัม&พีต่างก็เป็นที่รู้จักกันดีอยู่แล้วทั้งชื่อเสียงและความโด่งดังไม่มีใครเป็นรองกันเลย  เพียงแต่เจ้าของใบหน้าสวยที่งดงามจนทำให้คนธรรมดาเกือบลืมหายใจกลับเป็นเพียงแค่เด็กคนหนึ่งที่ไม่มีใครรู้จัก...


    ได้สิครับ นี่คือ ลูเซีย ต่อจากนี้ไปเขาเป็นพรีเซ็นเตอร์คนใหม่ของชอยกรุ๊ป............เสียงซีวอนพูดแนะนำก่อนการสัมภาษณ์จะผ่านไปเรื่อยๆ

     

    หลังการแถลงข่าวสิ้นสุดลงยุนโฮกับยูชอยแยกไปเพราะมีเรื่องที่ต้องคุยกัน  ส่วนจุนซูนั้นต้องการหลบหน้าแจจุงจึงรีบเดินกลับ แต่หารู้ไม่ว่าแจจุงไปดักรอเขาที่หน้าห้องแต่งตัวอยู่แล้ว  



    เด็กหนุ่มมองร่างเล็กที่มาหยุดชะงักเมื่อเห็นเขารออยู่ที่ห้องแต่งตัว แจจุงรู้อยู่แล้วว่าจุนซูต้องพยายามหนีหน้าเขาแน่ๆ จึงมาดักรอที่ห้องแต่งตัวและทุกอย่างก็เป็นอย่างที่เขาคิดไว้ จุนซูรีบเหมือนกำลังหนีใครมา
     และถ้าเดาไม่ผิดก็คงจะเป็นตัวแจจุงเองนั่นแหละ


    เด็กหนุ่มรู้สึกยินดีที่พบจุนซูก่อนที่เจ้าตัวจะหนีหน้าเขาไป แต่สำหรับจุนซูแล้วการเจอกับแจจุงเป็นครั้งที่สามในรอบสองวันมันทำให้จุนซูรู้สึกไม่ดีเลยจริงๆ...


     

    ไงจุนซู  ไม่เจอกันตั้งนานนะ นาย...เปลี่ยนไปเยอะเลยนะ...ไม่คิดจะทักทายเพื่อนเก่าคนนี้หน่อยเลยเหรอ?  เด็กหนุ่มเริ่มทักด้วยน้ำเสียงปกติ ในขณะที่อีกคนเอาแต่เงียบ



    ฮึ...ฉันไม่คิดเลยนะว่าอยู่ๆนายอยากจะทำงานแบบนี้ขึ้นมาน่ะ...คนหน้าสวยพูดขึ้นอีกครั้ง คราวนี้เจ้าตัวเดินไปหาจุนซูใกล้เลยทีเดียว



    แล้วไง ฉันจะเป็นยังไงมันก็เรื่องของฉันไม่เกี่ยวกับนาย... บางทีฉันควรจะถามนายมากกว่า... นายจะกลับมาทำไม จะกลับมาทำไมตอนนี้ จะมาเอาเขากลับไปอย่างนั้นเหรอ? บอกไว้เลยนะ ฉันได้เขามาแล้วฉันจะไม่มีวันปล่อยให้เขาหลุดมือไปได้ง่ายๆเด็ดขาด...



    เหรอ? แล้วสนุกดีมั้ยล่ะ? ได้เขาไปน่ะ? นัยน์ตาสีนิลมีแววเยาะเย้ยพลางพูดประชดจุนซูด้วยอารมณ์ ในขณะที่อีกฝ่ายหนึ่งก็ไม่ต่างกันเพียงแต่ดูเหมือนว่าจุนซูจะโมโหมากกว่า...



    ใช่สิ...ฉันมันไม่เหมือนนายนี่ ที่อยู่ๆก็ทิ้งเขาไป!!!! รู้บ้างมั้ยว่าตัวเองทำให้ยุนโฮต้องเจ็บปวดแค่ไหน...? รู้บ้างมั้ยว่าเขาตามหานายมาตลอดตั้งแต่สามปีที่นายหายตัวไปจนเกือบต้องตาบอด มองไม่เห็นไปตลอดชีวิต ทั้งที่เป็นแบบนั้นเขาก็ยังดันทุรังจะตามหานายต่อไป แต่นายล่ะ... นายที่ทิ้งเขาไปแล้วจะกลับมาทำไมอีกตอนนี้ แค่นี้ยังทำร้ายเขาไม่พออีกหรือไง...? จุนซูระเบิดอารมณ์ใส่แจจุงพร้อมกับร้องไห้ออกมาอย่างหนัก เด็กหนุ่มได้แต่ยืนนิ่งเพราะความช็อก...



    แล้วนายไม่อยากรู้รึไงว่า ฉันไปไหนมา? น้ำเสียงหวานและสีหน้าอ่อนลงอย่างเห็นชัดเจน แต่กับจุนซูที่กำลังมีอารมณ์โกรธอยู่อย่างนี้ละก็ ไม่มีจะยอมฟังหรอกได้หรอก...



    ไม่!!~ ฉันไม่อยากรู้แล้วก็ไม่อยากจะฟังอะไรทั้งนั้น... จุนซูแว้ดใส่เด็กหนุ่มพร้อมกับเสียงทุ้มที่คุ้นเคยดังพร้อมกัน



    "จุนซู!!~"



    ยูชอน... แจจุงและจุนซูหันมองผู้มาใหม่พร้อมๆกัน ชายหนุ่มร่างสูงเพื่อนสนิทที่หายหน้าไปนานมาปรากฏตัวตรงหน้าอีกครั้ง... ร่างบางทั้งสองต่างไม่รู้หรอกว่าร่างสูงจะมาเพื่ออะไร แต่คนหนึ่งนั้นไม่อยากอยู่เถียงต่อจึงหาเรื่องปลีกตัวออกไป...



    ฉันจะไปหายุนนี่... ลาก่อนแล้วร่างเล็กก็รีบเดินหนีไป ปล่อยให้คนสองคนยืนอยู่ โดยคนหนึ่งเอาหลังพิงฝาผนัง... มองอีกคนหนึ่งด้วยแววตาแข็งกร้าว ในขณะที่คนถูกมองเอาแต่ก้มหน้ามองพื้นไม่ยอมพูดอะไรเลย...



    ไม่เจอกันนานนะ ยูชอนน้ำเสียงหวานที่ได้ยินในห้องประชุมเมื่อกี้เปลี่ยนเป็นเย็นชาจนยูชอนต้องเงยหน้าขึ้นมา



    แจจุง นายจริงๆนะเหรอ?ยูชอนพูดอย่างไม่แน่ใจ แจจุงที่เป็นแบบนี้เขาไม่รู้จัก



    ถ้าไม่ใช่ฉันแล้วจะเป็นใครล่ะ? แววตาที่บ่งบอกความโกรธของผู้พูดได้เป็นอย่างดี



    แจจุง...ฉันขอโทษ...ยูชอนพูดอย่างรู้สึกผิดเบาๆ แม้เขาจะรู้ดีว่าสักวันหนึ่ง... วันนี้ต้องมาถึง... วันที่เขากับแจจุงได้พบกันอีกครั้ง วันที่ความรู้สึกผิดจะเข้ามาเต็มหัวใจอีกครั้ง...



    ขอโทษเหรอ? นายอธิบายให้ฉันฟังได้แค่นี้เหรอ?น้ำเสียงเย้ยหยันจากริมฝีปากบางตรงหน้าเรียกอารมณ์ของร่างสูงให้พุ่งพรวดขึ้นมา



    แจจุง!!~ ถึงฉันจะรู้ว่ามันไม่ดีต่อนาย แต่นายรู้บ้างมั้ยว่าตลอดเวลาที่นายไม่อยู่ยุนโฮต้องเจ็บปวดแค่ไหน หมอนั่นออกตามหานายทั้งวันทั้งคืนจนเกือบต้องมองไม่เห็นไปตลอดชีวิต ฉันไม่อยากให้หมอนั่นเจ็บปวดไปมากกว่านี้...



    นายก็เลยยอมงั้นสิ... ยอมให้จุนซูดูแลยุนโฮแทนฉัน... นี่น่ะเหรอที่นายบอกฉัน ว่านายรักจุนซู!!!~”



    ก็เพราะฉันรักจุนซู ฉันถึงต้องทำแบบนี้ เพราะฉันรักเขาฉันไม่อยากเห็นเขาต้องเจ็บปวด



    นั่นเป็นคำแก้ตัวของนายใช่มั้ย? คนขี้แพ้!!!~”  เพราะคำพูดของร่างบางไปสะกิดต่อมความอดทนของชายหนุ่มเข้า ยูชอนจึงทนไม่ได้ 



    ความจริงมันเป็นเพราะนายหายไปจากยุนโฮเองไม่ใช่เหรอแจจุง? นายเองไม่ใช่เหรอที่เป็นคนทิ้งยุนโฮไป? แล้วนายจะกลับมาทำไมตอนนี้ ทั้งที่นายจากไปแล้ว จะกลับมาอีกทำไม...? จะกลับมาทำลายความสัมพันธ์ของสองนั้นอีกทำไม ชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราดปนตะคอกใส่แจจุง



    นายถามว่าฉันกลับมาทำไมงั้นเหรอ? แจจุงเอ่ยทวนคำถามอย่างเจ็บปวด แต่ยูชอนที่กำลังโมโหเลือดขึ้นหน้าอยู่นั้นไม่ได้สังเกตหรอก



    แจจุง...นายกลายเป็นคนที่หายไปจากความทรงจำของพวกเราแล้วล่ะ



    ใช่สิ!!! สำหรับพวกนาย ฉันเป็นไม่มีตัวตน ไม่มีหัวใจใช่มั้ย? ถึงได้ทำอะไรแบบนี้...เคยคิดบ้างมั้ย?ว่า ถ้าฉันกลับมาพบกับเรื่องแบบนี้ฉันจะรู้สึกยังไง มีใครเคยคิดถึงใจฉันบ้างมั้ย? ไม่มีใครคิดจะถามฉันสักคนว่าทำไมฉันถึงหายไป ไม่มีใครอยากรู้เหตุผลของฉันเลยสักคน? ทั้งยุนโฮ ทั้งจุนซู แม้กระทั่งนาย... แจจุงโพล่งออกมาอย่างอัดอั้น น้ำเสียงเย็นชาที่พูดใส่ยูชอนเมื่อกี้หายไปหมดแล้ว กลับมาเป็นแจจุงคนเก่าอย่างที่ยูชอนเคยรู้จัก



    แจจุง...ฉันขอโทษ อย่าร้องไห้เลยนะ ฉันขอโทษ... น้ำเสียงยูชอนอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด เขาไม่ชอบเห็นน้ำตาของแจจุงมาตั้งแต่เด็กๆแล้ว...ยูชอนกับแจจุงทั้งคู่เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็กเพราะบ้านอยู่ใกล้กัน ทุกครั้งที่เห็นน้ำตาของแจจุงเขาก็ทำอะไรไม่ถูกทุกที เขารู้ว่าการกระทำทุกอย่างของแจจุงมีเหตุผล... แต่ก็เผลอพูดอะไรทำร้ายแจจุงไปซะแล้ว...



    ทำไมล่ะ? ทั้งที่ฉันไม่ได้อยากหายตัวไปแบบนี้สักหน่อย?แจจุงทรุดตัวลงกับพื้นมือเรียวยกปิดใบหน้าตัวเองเอาไว้ ยูชอนค่อยๆนั่งลงข้างตัวเด็กหนุ่ม เสียงสะอึกสะอื้นที่ทำเอายูชอนทำตัวไม่ถูก


    แจจุงบอกฉันได้มั้ยว่านายไปไหนมา...?



    อย่าเลยยูชอน ตอนนี้ฉันไม่อยากให้นายรู้แล้ว บางทีการที่ไม่รู้อะไรเลย อาจจะดีกับนายมากกว่า



    โอเคๆ นายจะไม่บอกฉันก็ได้ แต่ให้ฉันช่วยอะไรนายบ้างได้มั้ย?



    ยูชอน ถ้านายอยากจะทำอย่างนั้นจริงๆละก็ ฉันจะขอนายอย่างเดียว อย่าขวางฉัน ไม่ว่าหลังจากนี้...ฉันจะทำอะไรก็ตาม  ถือซะว่าเป็นคำขอร้องจากเพื่อนเก่าได้มั้ย?



    แจจุง...นาย... ยูชอนอึ้งในคำขอร้องของเพื่อนเก่า เขาก้มหน้าลงไปมองพื้นอีกครั้งโดยไม่ตอบอะไร ไม่รู้ว่าพื้นมันมีอะไรดีนักหนา เขาถึงได้มองมันนัก แต่ก็ยังดีกว่าจะต้องมองใบหน้าเรียวที่เปื้อนคราบน้ำตาอยู่ตอนนี้ก็แล้วกัน



    เอาเถอะ ฉันสัญญาว่าฉันจะไม่ขวาง ถ้ามันไม่มากเกินไปในสายตาของฉันนะ เสียงถอนหายใจตามด้วยคำพูดตอบรับอย่างยอมแพ้



    มากเกินไปของนาย มันรวมจุนซูรึเปล่าล่ะ?” แจจุงพูดยิ้มๆแม้จะหาความสุขจากรอยยิ้มนั้นไม่ได้เลยก็ตาม...



    แจจุง...



    ยูชอน นายจะบอกเรื่องที่คุยกับฉันวันนี้ให้ยุนโฮฟังรึเปล่า...?



    ไม่หรอก...ฉันกับหมอนั่นไม่ได้เจอกันมา 2 ปีแล้ว เจอกันครั้งแรกก็ที่ห้องประชุมเมื่อกี้...



    2 ปี ? หมายความว่าไง... นายกลับมาตั้งแต่ปีที่แล้วแล้วไม่ใช่เหรอ?



    มันก็ใช่... แต่นายคงรู้เรื่องทุกอย่างจากป้าซอฮุนแล้ว



    ก็ใช่แต่ไม่ทั้งหมด...



    โอเคๆ ฉันจะเล่าให้นายฟัง  หลังจากนายหายไปได้สามปี ยุนโฮต้องเข้าโรงพยาบาล หมอนั่นไม่ยอมผ่าตัดเพราะต้องการตามหานายให้พบก่อน... พอมาถึงตอนนี้ยูชอนเงียบไปเล็กน้อยเพื่อสังเกตสีหน้าของแจจุงซึ่งยังเรียบเฉยไม่แสดงอาการใดๆ  


    ฉันขอให้หมอนั่นเลิกคิดถึงนาย และหันมาสนใจจุนซูแทน แล้วหมอนั่นก็ยอม หลังจากยุนโฮผ่าตัดเสร็จ  พ่อมาขอร้องให้ฉันไปหาแม่เพื่อเรียนต่อที่อเมริกาเป็นเพื่อนพี่จองซู และดูแลพี่เขาด้วย…”



    ดูแล?พี่จองซูเป็นอะไร?ทำไมต้องดูแล?



    รู้ใช่มั้ย? ว่าพี่เขาจำนายไม่ได้... แจจุงพยักหน้ารับ เขารู้สึกแปลกใจมาตั้งแต่ที่นั่งประชุมด้วยกันแล้ว... ว่าทำไมคนที่ความจำดีอย่างพี่จองซูถึงจำเขาไม่ได้...



    พี่จองซูโดนรถชน...เขาลืมทุกสิ่งทุกอย่างแม้กระทั่งชื่อตัวเอง...พ่ออยากให้พี่จองซูไปฟื้นความทรงจำที่นู่นเลยขอให้ฉันไปด้วย



    แล้วนายก็ไป?



    ใช่...ฉันไปแต่ตอนไปฉันบอกสองคนนั้นเพียงแต่ไม่ได้ไปพบหน้า เพราะฉันไม่อยากเจอจุนซูอีก... ยูชอนถอนหายใจอีกครั้ง...



    หลังจากนั้นไปได้เพียงปีเดียวฉันก็ต้องกลับมาที่นี่พร้อมกับพี่จองซู... เพราะคุณพ่อเสียพี่จองซูเลยต้องมาดูแลบริษัทแทน แล้วเราสองคนพี่น้องก็ย้ายมาอยู่ที่คอนโดใกล้ๆบริษัท ไม่ได้กลับไปที่บ้านป้าซอฮุนเลยไม่รู้ว่าพวกฉันกลับมาแล้ว ตอนกลับมาฉันรู้ว่ายุนโฮกลายเป็นดาราดังที่เกาหลีนี่ แต่ฉันก็ไม่เคยไปหาหมอนั่นเลยตลอด 1 ปี... ฉันไม่อยากเจอหมอนั่นรวมทั้งจุนซูด้วย...



    ยูชอน... ฉันรู้นะว่าเรื่องพี่จองซูโดนรถชนมันมีอะไรมากกว่านั้น แต่เมื่อนายไม่อยากเล่าฉันก็จะไม่ถาม...แจจุงว่าพลางหันหลังให้โดยไม่ลืมที่จะหันมาย้ำกับชายหนุ่มอีกครั้ง



    อย่าลืมสัญญาของเราล่ะ...แต่ยังไม่ทันที่เด็กหนุ่มจะได้เดินไปไหนเสียงทุ้มต่ำของคนรักก็เรียกให้ขาสองข้างต้องหยุดชะงัก

     



     
    เฮ้...ยูชอน!!~” ยุนโฮเดินมาพร้อมจุนซู เรียกชายหนุ่มที่ยืนอยู่หน้าห้องแต่งตัว ก่อนจะเดินเข้ามาหาใกล้ๆ แต่แกล้งทำเป็นไม่เห็นแจจุงที่ยืนอยู่ข้างๆ



    นายนี่น้า~ กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่ยอมบอก  ตอนคิดจะไปก็ไปไม่ให้ได้ตั้งตัว...แถมข่าวก็ไม่ยอมส่งมาเลยนะ ไอ้หนูผี กลับมาอีกทีก็เป็นเลขาของบริษัทยักษ์ใหญ่ไปซะแล้ว แถมมีประธานหน้าตาน่ารักน่าทนุถนอมอีกต่างหาก...ยุนโฮไม่รู้หรอกว่าคนที่เจ้าตัวพูดถึงคือพี่ชายของยูชอน

    เพราะยูชอนไม่เคยบอกเพื่อนทั้งสองเลยว่าเขามีพี่ชายและตระกูลเขาทำธุรกิจเกี่ยวกับอะไร...  แต่ชายหนุ่มก็เลือกที่จะไม่บอกความจริงออกไป ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเหมือนกัน  แต่เลือกที่จะตอบบทสนทนาที่คนตรงหน้าส่งมาให้มากกว่า...



    ยุนโฮ...นายเล่นถามมาเป็นชุดแบบนี้แล้วจะให้ฉันตอบคำถามไหนก่อนล่ะเจ้าบ้า…”



    ทุกคำแหละ ไอ้หนูปัญญานิ่ม กลับมาก็ไม่บอกให้ฉันนั่งดื่มคนเดียวตั้งนานสองนาน



    โฮ...กลับมาแทนที่จะยินดีต้อนรับกันสักหน่อย เอาแต่บ่นอยู่ได้ไอ้หน้าหมี...ร่างสูงสองคนหยอกล้อกันเหมือนเมื่อก่อนโดยมีแจจุงและจุนซูมองอยู่ด้วยความรู้สึกที่แตกต่าง...




    สำหรับจุนซู ที่รู้สึกยินดีในการพบกันอีกครั้งของเพื่อนเก่า ยิ่งได้รู้ว่ายูชอนมาร่วมงานครั้งนี้ด้วยเจ้าตัวก็ยิ่งดีใจใหญ่
    โดยไม่รู้เลยว่าใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มของยูชอนเก็บความรู้สึกที่มีต่อเขาไว้มากแค่ไหน...



    สำหรับแจจุงเสียงตอบรับและใบหน้าของยุนโฮต่างจากที่เขาเคยได้รับโดยสิ้นเชิง
      บรรยากาศระหว่างยูชอนกับยุนโฮที่ยังคงเต็มไปด้วยมิตรภาพระหว่างเพื่อน แต่คำๆนั้นไม่ได้มีไว้ใช้กับ...คิมแจจุง...

     


    สุดท้ายเด็กหนุ่มก็เป็นฝ่ายทนไม่ไหวซะเอง  เลือกที่จะปลีกตัวออกมาก่อนจะต้องเจ็บปวดไปมากกว่านี้ ดวงหน้าสวยมีแววเศร้าแต่ไร้น้ำตา  แจจุงกลับไปหาฮันกยองกับชางมินที่รออยู่ไกลจากห้องแต่งตัวไม่มาก เด็กหนุ่มตัดสินใจยิ้มเพื่อไม่ให้ทั้งสองเป็นกังวล แต่ภายใต้รอยยิ้มนั้นการตัดสินใจทำอะไรบางอย่างของแจจุงเริ่มขึ้นแล้ว
    แม้สิ่งที่คิดทำจะไม่ได้ทำให้ใครหลายคนมีความสุขเลยก็ตาม...

     






    [
    คืนวันนั้น]


    ณ คอนโดขนาดใหญ่แห่งหนึ่งกลางเมือง


    ติ๊ด~...ติ๊ด~


    เสียงเตือนข้อความของโทรศัพท์ดังขึ้น มือเรียวเล็กเอื้อมหยิบเจ้าตัวต้นเสียงที่วางอยู่บนโต๊ะมามองด้วยใบหน้างุนงง พลางเปิดอ่านของความที่พออ่านแล้วจุนซูแทบอยากคว้างโทรศัพท์ทิ้ง ชื่อลงท้ายที่คนทั่วไปคงไม่รู้ แต่คนอย่างเขารู้ดีว่าใครเป็นคนส่งมา

     

    ===  ===  ===  ===  ===  ===

    เขาจะต้องเป็นของฉัน  

    From… Forgotten Angel

    ===  ===  ===  ===  ===  ===



     

    Forgotten Angel นางฟ้าที่ถูกลืมจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากคิมแจจุง!!!~ 


    จุนซูได้แต่กดลบข้อความทิ้งและคว้างโทรศัพท์ลงบนเตียงระบายอารมณ์  ท่าทางชีวิตของคิมจุนซูคงจะไม่ได้สุขสบายเหมือนอย่างที่ผ่านมาซะแล้ว...

     







    ในอีกด้านหนึ่ง

    ณ คฤหาสน์ตระกูลคิม


    มือเรียวปิดโทรศัพท์เครื่องบางลงพลางใช้ความคิด ข้อความที่ส่งไปเด็กหนุ่มรู้ดีว่าคงจะทำให้คนร่างเล็กที่ได้รับนั่นร้อนรนขนาดไหน  และก็แน่ใจว่าจุนซูต้องเดาออกว่าใครเป็นเจ้าของข้อความนั้น ถึงจะรู้ว่าไม่ดีแต่เขาก็ตัดสินใจทำไปแล้ว



    ...เพราะความเป็นจริงวันนี้ทุกอย่างมันทำให้เขาเจ็บ...


    ...การที่เขากลายเป็นคนโง่ที่สุด มันเจ็บลึก ปวดร้าวเสียจนไม่อาจทำใจได้... 


    ...ทั้งที่เคยเป็นเพื่อนกัน แต่กลับทำกันได้ถึงขนาดนี้ เคยคิดถึงใจกันบ้างมั้ยว่าเขาจะรู้สึกอย่างไร...


    ...เคยคิดอยากจะรู้บ้างมั้ยว่าเขารู้สึกยังไง ที่ได้ออกมาจากนรกนั่น แต่กลับเจอคำถามว่า  จะกลับมาทำไม...


    ...ได้  ในเมื่อเกลียดเขา และไม่เห็นเขาเป็นเพื่อนอีกแล้ว ต่อจากนี้ไปหากเขาจะทำอะไร จะหาว่าเขาใจร้ายไม่ได้นะ...  

     


    ไม่นานหรอกยุนโฮ ฉันจะแย่งนายกลับคืนมา...
    เสียงหวานเอ่ยพึมพำกับตัวเอง  ดวงตาคู่สวยเหลือบมองกรอบรูปที่เป็นรูปของพวกเขา 4 คนถ่ายด้วยกัน... อดีตที่คงไม่มีวันหวนกลับมาอีกแล้ว...

     

     

    To Be Con…



    เย้!!~ มาต่อแล้วน้า
    ในที่สุดก็เกือบจะรีไรท์เสร็จแล้ว อีกไม่นานก็จะได้ลงตอนใหม่สักทีสุขใจจริงเรา 55+ 
    ไปปั่นต่อดีกว่า

    ปล. ถ้ามีตรงไหนไม่เข้าใจ หรืออ่านแล้ว งง
    เม้นต์ถามได้เพราะรีบมากๆอาจจะพิมพ์อะไรตกหล่นไปเลยไม่เข้าใจก็ได้
    แค่นี้แหละจ้า บ๊าย
    ~
    - - + +-b g-น่า รัก

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×