ลำดับตอนที่ #79
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #79 : ชั้นที่ 2 ชั้นนักเลี้ยงสัตว์วิเศษ
ชั้นที่ 2 ชั้นนักเลี้ยงสัตว์วิเศษ
สวัสดีเหล่า "นักเลี้ยงสัตว์วิเศษ"
หากเจ้าต้องการเป็นจอมเทพหรือจอมปีศาจแล้วไซร้
ที่ห้องเรียนนี้ เจ้าจะต้องเรียนรู้ทักษะการกลายร่าง ล่องหน หายตัว
อำพราง โบยบิน หลบหลีก สื่อสารกับสิ่งมีชีวิตชนิดอื่น
ในชั้นเรียนนี้ หากเจ้าไม่เข้าใจอันใด สามารถถามได้ที่กล่องคอมเม้นด้านล่าง
ภารกิจ
ภารกิจ คือ สถานการณ์จำลอง เพื่อทดสอบทักษะของท่าน
ในชั้นนี้ มีภารกิจทั้งหมด 4 ภารกิจ ท่านจะภารกิจเหล่านี้หรือไม่ก็ได้
และเลือกทำกี่ภารกิจก็ได้
โดยคะเเนนจากภารกิจที่ท่านทำ จะช่วยในการสอบเพิ่มระดับของท่าน
และเมื่อทำภารกิจเสร็จสิ้น ท่านจะไ้ด้รับรางวัล
ท่านสามารถเลือกทำ "ภารกิจ" ต่างๆดังนี้
ข้อควรระวัง
อนึ่ง ระว่างการเดินทางทำภารกิจของท่าน
ท่านอาจจะต้องแวะตามสถานที่ต่าง ๆ และจำเป็นต้องโพสคอมเม้น
เมื่อท่านโพสคอมเม้น ไม่ว่าที่ใดก็ตามในดาร์คแลนด์
ให้แนบบัตรประนักเรียนศาสตร์มืดแห่งดาร์คแลนด์ด้้วยเสมอ
และผลการทำภารกิจของท่าน จะปรากฏที่หอพักของท่าน ทุกวันศุกร์
การสอบเลื่อนระดับ
หากท่านศึกษาบทเรียนในชั้นนี้จนถ่องแท้แล้ว กรุณาทำข้อสอบ
เพื่อสอบเพิ่มระดับ...เข้าสู่ ชั้นที่ 3 ชั้น "เทพปีศาจฝึกหัด"
หากท่านสอบผ่าน จะได้รับเหรียญตราให้เข้าเรียนในชั้นต่อไป
คลิกเพื่อทำข้อสอบเลื่อนระดับสู่ชั้นต่อไป
บทเรียนที่ 1 ว่าด้วยการกลายร่าง
การกลายร่างนั้นเป็นอีก 1 วิธี
ที่ทำให้เทพและปีศาจใช้ชีวิตปะปนอยู่ในสังคมของมนุษย์ได้
การกลายร่างนั้นทำได้ไม่ยากแต่ก็ไม่ง่ายเช่นกัน
ก่อนที่เราจะเริ่มพิธีกลายร่างนั้น เราควรที่จะทำให้จิตใจสงบก่อน
และควรเลือกให้แน่ชัดว่าเราอยากจะกลายเป็นอะไร แบบไหน
วิธีในการกลายร่างนั้น เริ่มจาก ตั้งสมาธิให้มั่นคง ทำสิ่งใจให้ว่างเปล่า
กำหนดลมหายใจให้คงที่ แล้วนึกถึงสิ่งต้องการจะกลายร่าง
รวบรวมพลังไว้ที่ใจกลางแห่งพลัง หรือ ให้คลุมร่างกายเอาไว้ ก่อนจะกล่าวคาถา
“ด้วยอำนานแห่งข้า..[นามที่แท้จริง].. จงเปลี่ยนให้ข้ากลายเป็น..[สิ่งที่ต้องการ].. ”
การกลายร่างให้ได้ดีและเร็วนั้นขึ้นอยู่กับการฝึกฝน และพลังที่ใส่ลงไป ต้องมีสมาธิที่มั่งคง
อย่างไรก็ตาม การกลายร่างเป็นบางสิ่ง อาจจะต้องมีอุปกรณ์หรือวัสดุเพิ่มเติม
ที่เกี่ยวข้องกับสิ่งมีชีวิตที่เราต้องการกลายร่างเป็น เช่น ขน เส้นผม เศษเล็บ เป็นต้น
เเละหากสมาธิไม่นิ่งพอ ก็อาจจะทำให้เกิดอันตรายแก่ผูพยายามกลายร่างเช่นกัน
บทเรียนที่ 2 ว่าด้วยการล่องหน หายตัว และอำพราง
การล่องหน นั้นจริง ๆ แล้วก็ไม่ยาก มันคล้าย ๆ กับการกลายร่าง
มีหลักการที่เหมือน ๆ กัน คือ การตั้งสมาธิให้มั่งคง ทำจิตใจให้สงบ
กำหนดพลังให้ไปอยู่ในส่วนที่จะล่องหน
หรือทำให้หายไปนั้นคือใช้ได้แต่กับสิ่งของเท่านั้น
การจะทำให้หายตัวได้ในระยะยาวต้องประกอบพีธีกรรมใต้แสงจันทร์
เพื่อรับพลังจากแสงจันทร์ในการอำพรางตัว
สิ่งที่ใช้ในการประกอบพิธีกรรม
เลือดของมังกร เส้นผมของนางเงือก มีดหรือดาบเงินแท้
ได้ของทุกอย่างมาแล้วก็เอาของทุกอย่างมาวางบนแท่นศิลามรกต
แล้วกรีดเลือดทาทั่วของที่เตรียมมาทั้งหมด ๆ แล้วปล่อยให้ของพวกนั้นอาบแสงจันทร์
ถ้าประสบความสำเร็จของที่เตรียมมาจะกลายเป็น อัญมณีสีแดงเลือด
เมื่อต้องการใช้ให้รวบรวมพลังมาที่อัญมณี มันจะทำให้หายตัวได้
อีกหนึ่งวิธีคือการ ดื่มตาน้ำแห่งเทียร์ดรอล่า
อนึ่งน้ำตาแห่งเทียร์ดรอล่าเกิดขึ้นได้จากการนำน้ำจากทะเลสาปดาร์คแลนด์
ผ่านแสงจันทร์และแสงอาทิตย์ 7 วัน 7 คืน
แต่ผลของมันจะอยู่ได้ในระยะเวลาสั้น ๆ เท่านั้น
แค่ถ้าผู้ใดฝึกฝนบำเพ็ญเพียรจนมีพลังที่แกร่งกล้าพอ
ก็จะสามารถหายตัวได้ทันทีโดยไม่ต้องพึ่งของที่กล่าวมา
บทเรียนที่ 3 ว่าด้วยการโบยบิน
การโบยบินนั้นมี อยู่ด้วยกัน 2 วิธีหลัก ๆ คือการ ใช้มนตรา และการใช้ปีกบิน
ในส่วนของมนตราเราจะไม่พูดถึงมัน เราจะมาพูดถึงการบินด้วยปีก
เทพและปีศาจ จะมีปีกติดตัวมาอยู่แล้ว
เพียงแต่ไม่ได้แสดงให้เห็นอยู่ตลอดเวลาเท่านั้น
ในการเรียกปีกครั้งแรกนั้น อาจจะเจ็บอยู่บ้าง แต่ครั้งต่อ ๆ ไปก็จะชินไปเอง
กำหนดพลังให้อยู่ที่หลัง แล้วคิดถึงปีก ตั้งสมาธิให้มั่ง
ส่งพลังไปกระตุ้นให้ปีกงอกออกมาเป็นครั้งแรก
กางปีกแล้วก็บินได้แล้ว ปลายกายให้ไปตามสัญชาตญาณ
“ถ้าอยากได้อิสระ บนน่านฟ้า จงบินให้ได้ซะ!”
ตัวอย่างการสร้างปีก สำหรับพวกที่ไม่มีปีก หรือ อยากได้ปีกสวย ๆ การประกอบพิธีกรรม
ในคืนพระจันทร์สีเลือด จงเตรียมเลือดบริสุทธิ์ กลีบกุหลาบสีขาว
นำมาผสมรวมกันแล้วดื่มเข้าไป จะได้ ผลลัพธ์ออกมา
เป็นปีกสีเลือดยาวมีกลิ่นหอมของกุหลาบอ่อน ๆ ปีกเหมือนกับกลีบกุหลาบซ้อนทับกัน
"สามารถใช้ส่วนผสมอะไรก็ได้ รูปแบบของปีกจะเปลี่ยนไปตามส่วนผสมที่นำมาใช้
เเต่ต้องดึงพลังจิตออกมาให้มากที่สุด และที่ขาดไม่ได้คือเเสงจันทร์"
บทเรียนที่ 4 ว่าด้วยการสื่อสารกับสิ่งมีชีวิตอื่น
ในอดีต
มนุษย์ ปีศาจ เทพ และธรรมชาติสามารถสื่อสารกันได้
แต่เพราะความเย่อหยิ่งของมนุษย์
ทำให้สรรพชีวิตต่าง ๆ เริ่มถอยห่างจากกัน จนเหมือนไม่รู้จักกัน
อย่างไรก็ตาม ยังมีอีกบางส่วนที่พยายามสื่อสารต่อกัน
การสื่อสารกับสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ ก็ต้องทำพิธีกรรมในการของรับพลังจากธรรมชาติ
เพื่อใช้ในการสื่อสาร สิ่งสำคัญก็ยังคงเป็นจิตใจ และสมาธิที่มั่งคงอีกเช่นกัน
ใช้จิตใจในการสัมผัสและการฟัง
สิ่งสำคัญในการประกอบพิธีคือ แหล่งรวมพลังแห่งธรรมชาติ
เลือดและเส้นผมของผู้ประกอบพิธี
น้ำจากทะเลสาปมายาที่อยู่ในแคว้นเนพีอา
เพื่อใช้เป็นสื่อกลางในการรับพลังจากธรรมชาติ
นำไปทำพิธีที่อุทยานมนตราในแคว้นไดซิเนส
นำเลือดและน้ำที่ได้จากทะเลสาปมาผสมกันแล้วนำเส้นผมมาเผาให้เป็นธุลี
มาผสมในน้ำที่ผสมเลือดกับน้ำจากทะเลสาป
แล้วกลั้นหายใจแล้วดื่มเข้าไปให้หมดในครั้งเดียว เป็นอันเสร็จพิธีกรรม
สวัสดีเหล่า "นักเลี้ยงสัตว์วิเศษ"
หากเจ้าต้องการเป็นจอมเทพหรือจอมปีศาจแล้วไซร้
ที่ห้องเรียนนี้ เจ้าจะต้องเรียนรู้ทักษะการกลายร่าง ล่องหน หายตัว
อำพราง โบยบิน หลบหลีก สื่อสารกับสิ่งมีชีวิตชนิดอื่น
ในชั้นเรียนนี้ หากเจ้าไม่เข้าใจอันใด สามารถถามได้ที่กล่องคอมเม้นด้านล่าง
ภารกิจ
ภารกิจ คือ สถานการณ์จำลอง เพื่อทดสอบทักษะของท่าน
ในชั้นนี้ มีภารกิจทั้งหมด 4 ภารกิจ ท่านจะภารกิจเหล่านี้หรือไม่ก็ได้
และเลือกทำกี่ภารกิจก็ได้
โดยคะเเนนจากภารกิจที่ท่านทำ จะช่วยในการสอบเพิ่มระดับของท่าน
และเมื่อทำภารกิจเสร็จสิ้น ท่านจะไ้ด้รับรางวัล
ท่านสามารถเลือกทำ "ภารกิจ" ต่างๆดังนี้
ข้อควรระวัง
อนึ่ง ระว่างการเดินทางทำภารกิจของท่าน
ท่านอาจจะต้องแวะตามสถานที่ต่าง ๆ และจำเป็นต้องโพสคอมเม้น
เมื่อท่านโพสคอมเม้น ไม่ว่าที่ใดก็ตามในดาร์คแลนด์
ให้แนบบัตรประนักเรียนศาสตร์มืดแห่งดาร์คแลนด์ด้้วยเสมอ
และผลการทำภารกิจของท่าน จะปรากฏที่หอพักของท่าน ทุกวันศุกร์
การสอบเลื่อนระดับ
หากท่านศึกษาบทเรียนในชั้นนี้จนถ่องแท้แล้ว กรุณาทำข้อสอบ
เพื่อสอบเพิ่มระดับ...เข้าสู่ ชั้นที่ 3 ชั้น "เทพปีศาจฝึกหัด"
หากท่านสอบผ่าน จะได้รับเหรียญตราให้เข้าเรียนในชั้นต่อไป
คลิกเพื่อทำข้อสอบเลื่อนระดับสู่ชั้นต่อไป
บทเรียนที่ 1 ว่าด้วยการกลายร่าง
การกลายร่างนั้นเป็นอีก 1 วิธี
ที่ทำให้เทพและปีศาจใช้ชีวิตปะปนอยู่ในสังคมของมนุษย์ได้
การกลายร่างนั้นทำได้ไม่ยากแต่ก็ไม่ง่ายเช่นกัน
ก่อนที่เราจะเริ่มพิธีกลายร่างนั้น เราควรที่จะทำให้จิตใจสงบก่อน
และควรเลือกให้แน่ชัดว่าเราอยากจะกลายเป็นอะไร แบบไหน
วิธีในการกลายร่างนั้น เริ่มจาก ตั้งสมาธิให้มั่นคง ทำสิ่งใจให้ว่างเปล่า
กำหนดลมหายใจให้คงที่ แล้วนึกถึงสิ่งต้องการจะกลายร่าง
รวบรวมพลังไว้ที่ใจกลางแห่งพลัง หรือ ให้คลุมร่างกายเอาไว้ ก่อนจะกล่าวคาถา
“ด้วยอำนานแห่งข้า..[นามที่แท้จริง].. จงเปลี่ยนให้ข้ากลายเป็น..[สิ่งที่ต้องการ].. ”
การกลายร่างให้ได้ดีและเร็วนั้นขึ้นอยู่กับการฝึกฝน และพลังที่ใส่ลงไป ต้องมีสมาธิที่มั่งคง
อย่างไรก็ตาม การกลายร่างเป็นบางสิ่ง อาจจะต้องมีอุปกรณ์หรือวัสดุเพิ่มเติม
ที่เกี่ยวข้องกับสิ่งมีชีวิตที่เราต้องการกลายร่างเป็น เช่น ขน เส้นผม เศษเล็บ เป็นต้น
เเละหากสมาธิไม่นิ่งพอ ก็อาจจะทำให้เกิดอันตรายแก่ผูพยายามกลายร่างเช่นกัน
บทเรียนที่ 2 ว่าด้วยการล่องหน หายตัว และอำพราง
การล่องหน นั้นจริง ๆ แล้วก็ไม่ยาก มันคล้าย ๆ กับการกลายร่าง
มีหลักการที่เหมือน ๆ กัน คือ การตั้งสมาธิให้มั่งคง ทำจิตใจให้สงบ
กำหนดพลังให้ไปอยู่ในส่วนที่จะล่องหน
หรือทำให้หายไปนั้นคือใช้ได้แต่กับสิ่งของเท่านั้น
การจะทำให้หายตัวได้ในระยะยาวต้องประกอบพีธีกรรมใต้แสงจันทร์
เพื่อรับพลังจากแสงจันทร์ในการอำพรางตัว
สิ่งที่ใช้ในการประกอบพิธีกรรม
เลือดของมังกร เส้นผมของนางเงือก มีดหรือดาบเงินแท้
ได้ของทุกอย่างมาแล้วก็เอาของทุกอย่างมาวางบนแท่นศิลามรกต
แล้วกรีดเลือดทาทั่วของที่เตรียมมาทั้งหมด ๆ แล้วปล่อยให้ของพวกนั้นอาบแสงจันทร์
ถ้าประสบความสำเร็จของที่เตรียมมาจะกลายเป็น อัญมณีสีแดงเลือด
เมื่อต้องการใช้ให้รวบรวมพลังมาที่อัญมณี มันจะทำให้หายตัวได้
อีกหนึ่งวิธีคือการ ดื่มตาน้ำแห่งเทียร์ดรอล่า
อนึ่งน้ำตาแห่งเทียร์ดรอล่าเกิดขึ้นได้จากการนำน้ำจากทะเลสาปดาร์คแลนด์
ผ่านแสงจันทร์และแสงอาทิตย์ 7 วัน 7 คืน
แต่ผลของมันจะอยู่ได้ในระยะเวลาสั้น ๆ เท่านั้น
แค่ถ้าผู้ใดฝึกฝนบำเพ็ญเพียรจนมีพลังที่แกร่งกล้าพอ
ก็จะสามารถหายตัวได้ทันทีโดยไม่ต้องพึ่งของที่กล่าวมา
บทเรียนที่ 3 ว่าด้วยการโบยบิน
การโบยบินนั้นมี อยู่ด้วยกัน 2 วิธีหลัก ๆ คือการ ใช้มนตรา และการใช้ปีกบิน
ในส่วนของมนตราเราจะไม่พูดถึงมัน เราจะมาพูดถึงการบินด้วยปีก
เทพและปีศาจ จะมีปีกติดตัวมาอยู่แล้ว
เพียงแต่ไม่ได้แสดงให้เห็นอยู่ตลอดเวลาเท่านั้น
ในการเรียกปีกครั้งแรกนั้น อาจจะเจ็บอยู่บ้าง แต่ครั้งต่อ ๆ ไปก็จะชินไปเอง
กำหนดพลังให้อยู่ที่หลัง แล้วคิดถึงปีก ตั้งสมาธิให้มั่ง
ส่งพลังไปกระตุ้นให้ปีกงอกออกมาเป็นครั้งแรก
กางปีกแล้วก็บินได้แล้ว ปลายกายให้ไปตามสัญชาตญาณ
“ถ้าอยากได้อิสระ บนน่านฟ้า จงบินให้ได้ซะ!”
ตัวอย่างการสร้างปีก สำหรับพวกที่ไม่มีปีก หรือ อยากได้ปีกสวย ๆ การประกอบพิธีกรรม
ในคืนพระจันทร์สีเลือด จงเตรียมเลือดบริสุทธิ์ กลีบกุหลาบสีขาว
นำมาผสมรวมกันแล้วดื่มเข้าไป จะได้ ผลลัพธ์ออกมา
เป็นปีกสีเลือดยาวมีกลิ่นหอมของกุหลาบอ่อน ๆ ปีกเหมือนกับกลีบกุหลาบซ้อนทับกัน
"สามารถใช้ส่วนผสมอะไรก็ได้ รูปแบบของปีกจะเปลี่ยนไปตามส่วนผสมที่นำมาใช้
เเต่ต้องดึงพลังจิตออกมาให้มากที่สุด และที่ขาดไม่ได้คือเเสงจันทร์"
บทเรียนที่ 4 ว่าด้วยการสื่อสารกับสิ่งมีชีวิตอื่น
ในอดีต
มนุษย์ ปีศาจ เทพ และธรรมชาติสามารถสื่อสารกันได้
แต่เพราะความเย่อหยิ่งของมนุษย์
ทำให้สรรพชีวิตต่าง ๆ เริ่มถอยห่างจากกัน จนเหมือนไม่รู้จักกัน
อย่างไรก็ตาม ยังมีอีกบางส่วนที่พยายามสื่อสารต่อกัน
การสื่อสารกับสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ ก็ต้องทำพิธีกรรมในการของรับพลังจากธรรมชาติ
เพื่อใช้ในการสื่อสาร สิ่งสำคัญก็ยังคงเป็นจิตใจ และสมาธิที่มั่งคงอีกเช่นกัน
ใช้จิตใจในการสัมผัสและการฟัง
สิ่งสำคัญในการประกอบพิธีคือ แหล่งรวมพลังแห่งธรรมชาติ
เลือดและเส้นผมของผู้ประกอบพิธี
น้ำจากทะเลสาปมายาที่อยู่ในแคว้นเนพีอา
เพื่อใช้เป็นสื่อกลางในการรับพลังจากธรรมชาติ
นำไปทำพิธีที่อุทยานมนตราในแคว้นไดซิเนส
นำเลือดและน้ำที่ได้จากทะเลสาปมาผสมกันแล้วนำเส้นผมมาเผาให้เป็นธุลี
มาผสมในน้ำที่ผสมเลือดกับน้ำจากทะเลสาป
แล้วกลั้นหายใจแล้วดื่มเข้าไปให้หมดในครั้งเดียว เป็นอันเสร็จพิธีกรรม
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น