ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    โรงเรียนศาสตร์มืดแห่งดาร์คแลนด์ (เปิดเทอม)

    ลำดับตอนที่ #79 : ชั้นที่ 2 ชั้นนักเลี้ยงสัตว์วิเศษ

    • อัปเดตล่าสุด 6 ธ.ค. 59


    ชั้นที่ 2 ชั้นนักเลี้ยงสัตว์วิเศษ



    สวัสดีเหล่า "นักเลี้ยงสัตว์วิเศษ"
    หากเจ้าต้องการเป็นจอมเทพหรือจอมปีศาจแล้วไซร้
    ที่ห้องเรียนนี้ เจ้าจะต้องเรียนรู้ทักษะการกลายร่าง ล่องหน หายตัว
    อำพราง โบยบิน หลบหลีก สื่อสารกับสิ่งมีชีวิตชนิดอื่น
    ในชั้นเรียนนี้ หากเจ้าไม่เข้าใจอันใด สามารถถามได้ที่กล่องคอมเม้นด้านล่าง









    ภารกิจ


    ภารกิจ คือ สถานการณ์จำลอง เพื่อทดสอบทักษะของท่าน
    ในชั้นนี้ มีภารกิจทั้งหมด 4 ภารกิจ ท่านจะภารกิจเหล่านี้หรือไม่ก็ได้
    และเลือกทำกี่ภารกิจก็ได้
    โดยคะเเนนจากภารกิจที่ท่านทำ จะช่วยในการสอบเพิ่มระดับของท่าน
    และเมื่อทำภารกิจเสร็จสิ้น ท่านจะไ้ด้รับรางวัล
    ท่านสามารถเลือกทำ "ภารกิจ" ต่างๆดังนี้




    ข้อควรระวัง
    อนึ่ง ระว่างการเดินทางทำภารกิจของท่าน
    ท่านอาจจะต้องแวะตามสถานที่ต่าง ๆ และจำเป็นต้องโพสคอมเม้น
    เมื่อท่านโพสคอมเม้น  ไม่ว่าที่ใดก็ตามในดาร์คแลนด์
    ให้แนบบัตรประ
    นักเรียนศาสตร์มืดแห่งดาร์คแลนด์ด้้วยเสมอ
    และผลการทำภารกิจของท่าน จะปรากฏที่หอพักของท่าน ทุกวันศุกร์




    การสอบเลื่อนระดับ


    หากท่านศึกษาบทเรียนในชั้นนี้จนถ่องแท้แล้ว กรุณาทำข้อสอบ
    เพื่อสอบเพิ่มระดับ...เข้าสู่ ชั้นที่ 3 ชั้น "เทพปีศาจฝึกหัด"
    หากท่านสอบผ่าน จะได้รับเหรียญตราให้เข้าเรียนในชั้นต่อไป


    คลิกเพื่อทำข้อสอบเลื่อนระดับสู่ชั้นต่อไป



    บทเรียนที่ 1 ว่าด้วยการกลายร่าง


    การกลายร่างนั้นเป็นอีก 1 วิธี
    ที่ทำให้เทพและปีศาจใช้ชีวิตปะปนอยู่ในสังคมของมนุษย์ได้
    การกลายร่างนั้นทำได้ไม่ยากแต่ก็ไม่ง่ายเช่นกัน
    ก่อนที่เราจะเริ่มพิธีกลายร่างนั้น เราควรที่จะทำให้จิตใจสงบก่อน
    และควรเลือกให้แน่ชัดว่าเราอยากจะกลายเป็นอะไร แบบไหน
    วิธีในการกลายร่างนั้น เริ่มจาก ตั้งสมาธิให้มั่นคง ทำสิ่งใจให้ว่างเปล่า
    กำหนดลมหายใจให้คงที่ แล้วนึกถึงสิ่งต้องการจะกลายร่าง
    รวบรวมพลังไว้ที่ใจกลางแห่งพลัง หรือ ให้คลุมร่างกายเอาไว้ ก่อนจะกล่าวคาถา

    “ด้วยอำนานแห่งข้า..[นามที่แท้จริง].. จงเปลี่ยนให้ข้ากลายเป็น..[สิ่งที่ต้องการ].. ”

    การกลายร่างให้ได้ดีและเร็วนั้นขึ้นอยู่กับการฝึกฝน และพลังที่ใส่ลงไป ต้องมีสมาธิที่มั่งคง
    อย่างไรก็ตาม การกลายร่างเป็นบางสิ่ง อาจจะต้องมีอุปกรณ์หรือวัสดุเพิ่มเติม
    ที่เกี่ยวข้องกับสิ่งมีชีวิตที่เราต้องการกลายร่างเป็น เช่น ขน เส้นผม เศษเล็บ เป็นต้น
    เเละหากสมาธิไม่นิ่งพอ ก็อาจจะทำให้เกิดอันตรายแก่ผูพยายามกลายร่างเช่นกัน



    บทเรียนที่ 2 ว่าด้วยการล่องหน หายตัว และอำพราง

    การล่องหน นั้นจริง ๆ แล้วก็ไม่ยาก มันคล้าย ๆ กับการกลายร่าง
    มีหลักการที่เหมือน ๆ กัน คือ การตั้งสมาธิให้มั่งคง ทำจิตใจให้สงบ
    กำหนดพลังให้ไปอยู่ในส่วนที่จะล่องหน
    หรือทำให้หายไปนั้นคือใช้ได้แต่กับสิ่งของเท่านั้น
    การจะทำให้หายตัวได้ในระยะยาวต้องประกอบพีธีกรรมใต้แสงจันทร์
    เพื่อรับพลังจากแสงจันทร์ในการอำพรางตัว

    สิ่งที่ใช้ในการประกอบพิธีกรรม
    เลือดของมังกร เส้นผมของนางเงือก มีดหรือดาบเงินแท้

    ได้ของทุกอย่างมาแล้วก็เอาของทุกอย่างมาวางบนแท่นศิลามรกต
    แล้วกรีดเลือดทาทั่วของที่เตรียมมาทั้งหมด ๆ แล้วปล่อยให้ของพวกนั้นอาบแสงจันทร์
    ถ้าประสบความสำเร็จของที่เตรียมมาจะกลายเป็น อัญมณีสีแดงเลือด
    เมื่อต้องการใช้ให้รวบรวมพลังมาที่อัญมณี มันจะทำให้หายตัวได้

    อีกหนึ่งวิธีคือการ ดื่มตาน้ำแห่งเทียร์ดรอล่า
    อนึ่งน้ำตาแห่งเทียร์ดรอล่าเกิดขึ้นได้จากการนำน้ำจากทะเลสาปดาร์คแลนด์
    ผ่านแสงจันทร์และแสงอาทิตย์ 7 วัน 7 คืน
    แต่ผลของมันจะอยู่ได้ในระยะเวลาสั้น ๆ เท่านั้น
    แค่ถ้าผู้ใดฝึกฝนบำเพ็ญเพียรจนมีพลังที่แกร่งกล้าพอ
    ก็จะสามารถหายตัวได้ทันทีโดยไม่ต้องพึ่งของที่กล่าวมา



    บทเรียนที่ 3 ว่าด้วยการโบยบิน


    การโบยบินนั้นมี อยู่ด้วยกัน 2 วิธีหลัก ๆ คือการ ใช้มนตรา และการใช้ปีกบิน
    ในส่วนของมนตราเราจะไม่พูดถึงมัน เราจะมาพูดถึงการบินด้วยปีก
    เทพและปีศาจ จะมีปีกติดตัวมาอยู่แล้ว
    เพียงแต่ไม่ได้แสดงให้เห็นอยู่ตลอดเวลาเท่านั้น
    ในการเรียกปีกครั้งแรกนั้น อาจจะเจ็บอยู่บ้าง แต่ครั้งต่อ ๆ ไปก็จะชินไปเอง
    กำหนดพลังให้อยู่ที่หลัง แล้วคิดถึงปีก ตั้งสมาธิให้มั่ง
    ส่งพลังไปกระตุ้นให้ปีกงอกออกมาเป็นครั้งแรก
    กางปีกแล้วก็บินได้แล้ว ปลายกายให้ไปตามสัญชาตญาณ

    “ถ้าอยากได้อิสระ บนน่านฟ้า จงบินให้ได้ซะ!”

    ตัวอย่างการสร้างปีก สำหรับพวกที่ไม่มีปีก หรือ อยากได้ปีกสวย ๆ การประกอบพิธีกรรม
    ในคืนพระจันทร์สีเลือด จงเตรียมเลือดบริสุทธิ์ กลีบกุหลาบสีขาว
    นำมาผสมรวมกันแล้วดื่มเข้าไป จะได้ ผลลัพธ์ออกมา
    เป็นปีกสีเลือดยาวมีกลิ่นหอมของกุหลาบอ่อน ๆ ปีกเหมือนกับกลีบกุหลาบซ้อนทับกัน

    "สามารถใช้ส่วนผสมอะไรก็ได้ รูปแบบของปีกจะเปลี่ยนไปตามส่วนผสมที่นำมาใช้
    เเต่ต้องดึงพลังจิตออกมาให้มากที่สุด และที่ขาดไม่ได้คือเเสงจันทร์"




    บทเรียนที่ 4 ว่าด้วยการสื่อสารกับสิ่งมีชีวิตอื่น

    ในอดีต
    มนุษย์ ปีศาจ เทพ และธรรมชาติสามารถสื่อสารกันได้
    แต่เพราะความเย่อหยิ่งของมนุษย์
    ทำให้สรรพชีวิตต่าง ๆ เริ่มถอยห่างจากกัน จนเหมือนไม่รู้จักกัน
    อย่างไรก็ตาม ยังมีอีกบางส่วนที่พยายามสื่อสารต่อกัน
    การสื่อสารกับสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ ก็ต้องทำพิธีกรรมในการของรับพลังจากธรรมชาติ
    เพื่อใช้ในการสื่อสาร สิ่งสำคัญก็ยังคงเป็นจิตใจ และสมาธิที่มั่งคงอีกเช่นกัน
    ใช้จิตใจในการสัมผัสและการฟัง
    สิ่งสำคัญในการประกอบพิธีคือ แหล่งรวมพลังแห่งธรรมชาติ
    เลือดและเส้นผมของผู้ประกอบพิธี
    น้ำจากทะเลสาปมายาที่อยู่ในแคว้นเนพีอา
    เพื่อใช้เป็นสื่อกลางในการรับพลังจากธรรมชาติ
    นำไปทำพิธีที่อุทยานมนตราในแคว้นไดซิเนส
    นำเลือดและน้ำที่ได้จากทะเลสาปมาผสมกันแล้วนำเส้นผมมาเผาให้เป็นธุลี
    มาผสมในน้ำที่ผสมเลือดกับน้ำจากทะเลสาป
    แล้วกลั้นหายใจแล้วดื่มเข้าไปให้หมดในครั้งเดียว เป็นอันเสร็จพิธีกรรม




     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×