ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ Fic SJ ] Love Memories in Shanghai...[HanHyuk] (yaoi)

    ลำดับตอนที่ #7 : Chapter 7 ::: อุบัติเหตุ

    • อัปเดตล่าสุด 21 ต.ค. 51


    Chapter7

     

     

    ท้องฟ้าสีครามที่ตัดกับพระอาทิตย์สีส้มในตอนสายของวัน ...ทำให้ใครหลายคนคิดถึงบรรยากาศที่แสนจะโรแมนติก

    แม้ผมจะรู้จักเค้าเพียงไม่นานนัก...ผมก็รู้สึกชอบเค้าคนนั้นขึ้นมาแล้วสิ่....

    มันคืออะไรกันแน่นะ...ความรู้สึกที่อยากจะโอบกอดร่างนี้ อยากอยู่ใกล้ อยากให้เค้าคนนั้นอยู่กับผมที่นี่ ตลอดไป...

    มันไม่สำคัญหรอกว่า จะรู้จักกันนานแค่ไหน ...แค่เพียงหัวใจของเราบอกว่านี่แหละ...คือคนที่ใช่สำหรับเรา..

    ร่างกายของเราก็พร้อมที่จะตอบสนองไปตามที่หัวใจมันเรียกร้อง....

     

    ....ผมชักจะชอบคุณขึ้นมาแล้วล่ะ....ปาร์คจองซู....

    ................................................

    ...................................

    ........................

    ................

    ......

     

    "นายอยู่ที่นี่มานานเท่าไหร่แล้วหรอ?"อีทึกเอ่ยถามฮยอนจุงที่ขี่จักรยานมาพร้อมๆกับตนเอง พยายามบังคับจักรยานไม่ให้เซไปมา เพราะเนื่องจากไม่ได้ขี่มานานแล้ว

     

     

    "ห้าปีแล้วล่ะครับ ที่ผมมาอยู่ที่นี่" ฮยอนจุงหันไปตอบ

     

     

    "อื้ม  งั้นนายก็คงพูดภาษาจีนได้คล่องเลยล่ะสิ่" ร่างบางเอ่ยถามขึ้น 

     

     

    “ใช่ครับ ผมว่าภาษาจีนน่ะยากนะ...ตอนที่ผมมาแรกๆก็ไม่รู้เรื่องเลยเหมือนกัน...ไปไหนมาไหนมาถูกด้วย" ฮยอนจุงบอกก่อนจะหันไปมองอีกฝ่ายที่กำลังตั้งใจปั่นจักรยานมาก

     

     

    "แต่ก็ถือว่าทำได้ดีนะ "ร่างบางกล่าวชม พร้อมกัยส่งยิ้มหวานให้โดยไม่รู้ตัวเลยว่า รอยยิ้มหวานนั้น ทำเอาหัวใจของคนที่ได้รับนั้นเกือบหลุดออกมาเต้นข้างนอก 

     

     

    อีทึกตั้งใจปั่นจักรยานต่อ ด้วยความที่ตนไม่ได้ขี่จักรยานนานแล้ว จึงทำให้ตนเองต้องพยายามอย่างมากในการทรงตัวเวลาขี่ ไม่ให้จักรยานล้ม จนกระทั่งร่างสูงสังเกตได้จึงอาสาเป็นคนขี่จักรยานให้อีทึกนั่งแทน ร่างบางจึงซ้อนจักรยานของฮยอนจุงแทน แล้วก็เอาจักรยานที่ตนเองขี่มาพิงไว้กับต้นไม้ ตามที่ฮยอนจุงบอก เพราะว่าอีกไม่นานพนักงานของโรงแรมก็คงจะมาเก็บเอง

     

     

    "ฉันไม่ได้ขี่จักรยานไม่แข็งนะ แต่มันไม่ได้ขี่มานานแล้วต่างหาก พอมาจับอีกที มันก็เลยเกร็งๆน่ะ"  ร่างบางพยายามอธิบาย แก้เขิน เพราะกลัวว่าร่างสูงจะแอบขำว่าตนเองนั้นขี่จักรยานไม่เป็น

     

     

    "ผมก็ยังไม่ได้ว่ะอะไรคุณซักหน่อยนิ่ ฮ่ะๆ " ฮยอนจุงมองอีกฝ่ายที่กำลังหน้าแดง ก่อนจะแกล้งหัวเราะอีทึกเสียยกใหญ่

     

     

    "ขี่ดีๆล่ะ..." ลีทึกบอก ก่อนจะค่อยๆโอบเอวอีกฝ่ายเอาไว้เพื่อไม้ให้ตนเองตกจากรถ

     

     

    "คร๊าบบบบบ" ฮยอนจุงขานรับอย่างมีความสุข

    ....ถ้าเป็นไปได้ นายช่วยกอดชั้นไว้อย่างนี้ตลอดไปได้มั้ย?? แล้วผมจะทำให้คุณมีความสุขเอง  อีทึก

     

     

     

     

     

    โครม!!!!!. เสียงดังขึ้น เนื่องจากจักรยานที่ฮยอนจุงขี่นั้นไปสะดุดกับขอนไม้ที่อยู่บนหาด ก่อนที่รถของทั้งคู่จะล้มลงทำให้ร่างบางตกลงมากระแทกพื้นอย่างจัง จนแขนขาวนั้นครูดไปกับพื้นจึงเกิดแผล

     

     

    "อีทึก  คุณไม่เป็นไรใช่มั้ยครับ " ฮยอนจุงถามอีทึกที่นั่งอยู่บนพื้น ด้วยความเป็นห่วง แต่ร่างบางกลับส่ายหน้าปฏิเสธแล้วรีบเอามือบังบาดแผลที่แขนเพื่อไม่ให้ตนเห็น

     

     

    "แต่คุณเลือดออกนิ่" ฮยอนจุงสังเกตบาดแผลที่ร่างบางพยายามปิดบังตน

     

     

    "ฉันไม่เป็นไรจริงๆนะ   ดูขานายสิ่ เลือดออกใหญ่เลย" อีทึกบอกพร้อมกับชี้ไปที่ขาของอีกฝ่าย ฮยอนจุงทำหน้าเหยๆ เพราะเพิ่งจะรู้สึกว่าเจ็บก็ตอนที่เห็นแผลของตนเองเนี่ยแหละ

     

    "เดินไหวมั้ย" อีทึกพยายามลุกขึ้น ก่อนจะหันไปถามฮยอนจุง ดูท่าว่าอีกฝ่ายนั้นคงจะเดินไม่ไหวแน่ๆ เลยตัดสินใจพยุงอีกฝ่ายเดินกลับ ด้วยความยากลำบาก

     

     

     

     

     

    "อีทึก  นี่นาย" คังอินที่นั่งอยู่ริมชายหาดเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นลีทึกพยุงฮยอนจุงมาด้วยกัน อย่างทุลักทุเล

     

     

    "จักรยานล้มนิดหน่อยน่ะ ไม่เป็นไรมากหรอก" ร่างบางรีบบอกเพราะกลัวว่าคังอินจะเป็นห่วง

     

     

    "เนี่ยนะนิดหน่อย ให้ตายสิ่แผลเหวอะหวะขนาดนี้ยังจะบอกว่าไม่เป็นไรอีก   ฉันว่าพวกนายสองคนไปทำแผลก่อนมั้ย "ฮีชอลที่เดินเข้ามาพร้อมกับซีวอนเอ่ยขึ้นบ้าง

     

     

    ".ฮยอนจุง  นายโอเครึเปล่าวะ" ซีวอนที่มองสภาพเพื่อนสนิทของตนอย่างสงสาร ก่อนจะช่วยพยุงฮยอนจุงแทนอีทึก แล้วก็พาเพื่อนของตนไปทำแผล 

     

     

     

    +++ภายในห้อง +++

     

     

    "โอ๊ย  แสบนะนายเบาๆสิ่" อีทึกโวยวายขึ้นเมื่อคังอินเอาสำลีชุบแอลกอฮอล์มาเช็ดให้ที่แขนของตน พยายามจะดึงแขนออก

     

     

    "ก็นี่มันแอลกอฮอล์นิ่ ไม่ใช่น้ำเปล่า จะไม่ให้แสบได้ไงล่ะ" คังอินตอบ ก่อนจะตั้งใจทำความสะอาดบาดแผลที่แขนให้กับร่างบางต่อ

     

     

    "ไม่เช็ดไม่ได้หรอไง...ก็มันแสบนิ่.." ร่างบางบ่น พร้อมกับมองคังอินที่กำลังเช็ดแผลให้ตนด้วยความตั้งใจ จนตนเองอดแอบยิ้มไม่ได้

    ....ต่อให้แผลมันมากกว่านี้...

    ....ต่อให้เป็นทิงเจอร์ที่แสบมากกว่านี้....

    ..ฉันยอม...ยอมที่จะให้นายเป็นคนเช็ดมันให้....เพียงคนเดียว

     

     

    "นายเข้าใจคำว่า'ฆ่าเชื้อโรค'มั้ย?  ถ้าไม่เช็ดแล้วถ้ามันอักเสบขึ้นมา  ต้องตัดแขนทิ้งจะทำไง" คังอินเริ่มหาเหตุผลมาขู่อีกฝ่ายที่กำลังโวยวายอยู่ แม้เหตุผลนั้นอาจจะฟังดูเวอร์ไปซักหน่อยก็เถอะ

     

     

    "ก็ได้....แต่นายก็เช็ดเบาๆหน่อยล่ะกัน..นี่ต่อไปถ้านายไปเป็นหมอนะรับรองคนไข้กระเจิง มือหนักขนาดนี้อ่ะ" ร่างบางบ่นแต่ก็ยังยื่นแขนไปให้คังอินเช็ดแผลตามเดิม

     

     

    "พูดมากจริง  อ๊ะเสร็จแล้ว" คังอินบอกหลังจากที่จัดการทำแผลให้อีทึกเรียบร้อยแล้ว

     

     

    "เฮ้อ~~~~" ร่างบางถอนหายใจยาวๆออกมา ด้วยความที่เป็นคนกลัวเลือดเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แม้บาดแผลจะไม่มาก แต่ก็ทำให้ตนถึงกับเหงื่อแตกเลยทีเดียว

     

     

    "ดูสิ่นายกลัวจนเหงื่อแตกเลย มาฉันเช็ดฝห้" คังอินที่เห็นอีกฝ่ายถึงกับเหงื่อตก เลยแกล้งแซวให้อีกฝ่ายหน้าเสียเล่น แล้วก็ก้มลงไปหยิบกระดาษทิชชูมาเช็ดเหงื่อให้

     

     

    "ไม่เป็นไร ชั้นเช็ดเอง" ร่างบางกล่าวขอบคุณพร้อมกับหยิบผ้าเช็ดหน้าเมื่อเช้าที่ฮยอนจุงให้เอามาเช็ดเหงื่อที่ใบหน้าหวาน

    ส่วนร่างสูงก็นิ่งเงียบไป ไม่กล้าแม้แต่จะมองหน้าอีกฝ่าย

     

    ...ผ้าเช็ดหน้านั่น คงสำคัญกับนายมากสิ่นะ..อีทึก...

    ...เค้าคนนั้น  คงสำคัญกับนายมากล่ะซิ  ใช่มั้ยล่ะ

    ...และคงอีกไม่นาน  นายก็คงจะลืมฉันแล้วใช่มั้ย   ปาร์ค จองซู

    เข้มแข็งเอาไว้คังอิน  ไม่ว่ายังไงนายก็ต้องอดทนไว้  เพราะว่าสำหรับเค้าแล้ว นายเป็นได้เพียงแค่เพื่อนเท่านั้น....

     

     

    +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++







    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×