ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    *~Timeless Love~* [Fic TVXQ]

    ลำดับตอนที่ #7 : >>> 07

    • อัปเดตล่าสุด 18 เม.ย. 50



    *~Timeless Love~*


    ...Lucia...

     

    เช้าวันรุ่งขึ้น.ในอีก 2 วันต่อมา


    [
    ณ คฤหาสน์ตระกูลชอย...]





    กริ๊งๆๆๆๆๆ
    ~~~~~



     

    เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้นอย่างต่อเนื่องสร้างความรำคาญให้กับร่างสูงที่กำลังหลับสบายนั้นอย่างมาก มือหนาเอื้อมไปมาคว้านหาต้นตอเสียงเพื่อจะปิดมัน แต่เพราะความง่วงหรืออะไรก็แล้วแต่แทนที่จะปิดกลายเป็นการปัดมันตกลงกับพื้นห้องไป... แต่ถ้ามันทำให้เสียงหนวกหูเงียบลงได้ แค่นั้นมันก็พอแล้วสำหรับคนบนเตียง...



    แต่
    !!!~



    นั้นไม่ใช่กับชางมินที่นอนอยู่ด้านข้างที่ลุกขึ้นมามองร่างสูงด้วยสายตาขุ่นมัว... มือเรียวผลักร่างสูงจากเบาๆแล้วแรงขึ้นเรื่อยๆเมื่อไม่มีทีท่าว่าร่างสูงจะรู้สึกตัวเลยสักนิด...



    "
    ซีวอน...ซีวอนตื่นได้แล้ว เช้าแล้วนะ...ไม่ไปทำงานเหรอ?" เสียงนุ่มเอ่ยถามแต่คนตื่นยากก็ยังไม่ยอมลุกอยู่ดี เด็กหนุ่มเริ่มหัวเสียมากขึ้น...


    "
    นี่!!~ ซีวอน!!~ ฉันบอกให้นายตื่นไง ตื่นเดี๋ยวนี้น้า!!~ " เสียงตะโกนความดังผนังห้องเกือบร้าว แต่ทว่าคนที่ถูกปลุกกลับไม่สะทกสะท้านอะไรทั้งนั้นยังนอนกรนต่อไปได้อย่างไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลย... หารู้ไม่ว่าระเบิดกำลังจะลง!!!~


    "
    ซีวอน!!!~ ตื่นเดี๋ยวนี้น้า~~~~~~" คราวนี้ไม่ใช่แค่เสียงแต่ชางมินถีบซีวอนจนตกเตียงลงไปเลย ตอนนี้ร่างสูงเองก็ไม่ต่างอะไรกับเจ้านาฬิกาเคราะห์ร้ายเมื่อกี้แล้วล่ะ


    "
    โอ๊ย~~~ มินจ๋าถีบผม ทำไมอ่ะ...?"


    มีใครเคยบอกมั้ยคุณไหมว่าคนตอนตื่นนอนใหม่ๆจะติ๊งต๊องเกือบทุกคน ถ้าไม่มี...ชิมชางมินคนนี้แหละจะบอกเองว่าคนหน้าหล่อตื่นนอนมาก็งี่เง่าได้เหมือนกัน
    !!!~


    "
    มามินจ๋าอะไรกันล่ะ? ไปเลยนะ ไปอาบน้ำเดี๋ยวนี้เลย?... เร็วๆสิ... " ชางมินไล่ให้ซีวอนกลับไปอาบน้ำ... คฤหาสน์หลังนี้ยังคงเต็มไปด้วยความรักและความสุขเหมือนปกติ แม้จะขาดบอดี้การ์ดคนสำคัญไปหนึ่งคนก็ตาม...






    ในขณะเดียวกันอีกด้านหนึ่ง 

    [ณ คฤหาสน์ตระกูลคิม]



    แสงอาทิตย์อ่อนๆยามเช้าส่องผ่านรอยแหวกของผ้าม่านเข้ามาในห้อง  แพขนตาหนาขยับช้าๆก่อนจะกระพริบถี่ขึ้นเพื่อปรับสายตาให้รับกับแสงยามเช้าได้ ร่างบางบนเตียงใช้มือยันร่างของตัวเองขึ้นนั่ง... พลางมองไปยังความมีชีวิตชีวาของโลกภายนอก เสียงนกร้องเพลงดังขึ้นให้ได้ยินอยู่เรื่อยๆ



    ก๊อก...ก๊อก...



    "
    คุณหนูค่ะ ตื่นรึยังเอ่ย...? เช้าแล้วนะค่ะ" เสียงที่เปี่ยมไปด้วยความอบอุ่นเรียกเด็กหนุ่มในห้องผ่านประตูไม้เนื้อดี ร่างบางด้านในยิ้มบางๆ แล้วส่งเสียงตอบกลับไป... ก่อนจะลุกจากเตียงไปแต่งตัวจนเรียบร้อยแล้วเดินตามบันไดลงไปชั้นล่าง...  มีใครคนหนึ่งที่มารอเขาอยู่แล้วหนุ่มแดนมังกรผมสีทองคุ้นตาเจ้าตัวดี



    "
    ฮันกยอง... อรุณสวัสดิ์..." เสียงหวานทักทายบอดี้การ์ดผมทองของตัวเองเบาๆ  ชายหนุ่มหันมาส่งยิ้มให้พร้อมกับก้มหัวให้เขา



    "
    อรุณสวัสดิ์ครับคุณหนู... " เสียงทุ้มตอบอย่างนอบน้อม ก่อนจะเงียบไปเพราะเสียงรถที่ดังขึ้นหน้าประตูทำให้ร่างบางหันไปมองโดยไม่ได้พูดอะไรต่อ... รถยนต์สีดำคันเดิมแล่นเข้ามาจอดในอาณาบริเวณอันกว้างขวางก่อนจะปรากฏร่างของเพื่อนที่สนิทที่สุดและคนรักของเขา



    "
    ไง...แจจุงรอนานแล้วเหรอ?" เสียงทักทายของเพื่อนรักที่เรียกรอยยิ้มบนใบหน้าสวยนั้นได้...



    "
    เปล่าหรอก... ฉันพึ่งลงมาเมื่อกี้นี้เอง" แจจุงยิ้มตอบก่อนจะชวนให้ทั้งสองคนอยู่ทานอาหารเช้าพร้อมกัน...



    หลังจากมื้ออาหารเช้าผ่านไป ก็ได้เวลาที่ท่านประธานคนเก่งจะต้องไปบริษัทแล้ว  ชางมินที่ถูกคุณชายร้อยล้านลากให้ไปด้วย แต่เจ้าตัวก็ไม่อยากทิ้งเพื่อนไว้ให้อยู่บ้านเหงาๆ
    เลยชวนแจจุงไปที่บริษัทด้วยกัน... แล้วเด็กหนุ่มก็ตอบตกลง



    แม้จะรู้ดีว่าถ้าไปคงต้องเจอ
    ยุนโฮกับจุนซูอย่างเลี่ยงไม่ได้  แต่ก็อยากไป...

    อยากจะเจอยุนโฮอีกสักครั้ง...

    อยากจะถามเหตุผล...

    ถึงแม้ว่าเหตุผลนั้นอาจจะทำให้เขาต้องเจ็บปวดก็ตามที...


    สาบานได้ว่าแค่แวบเดียวเท่านั้นที่ฮันกยองเห็นแววตาเจ็บปวดของผู้เป็นนาย... แต่มันก็มากพอจะทำให้ชายหนุ่มเป็นกังวลได้แล้ว... ความจริงที่ได้ฟังจากคำบอกเล่าของป้าซอฮุนมันทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดที่ตัวเองไม่สามารถทำหน้าที่อย่างที่เคยสาบานเอาไว้ได้...
    สาบานที่ว่าจะดูแลและปกป้องด้วยชีวิต...



    สำหรับฮันกยองแล้ว  แจจุงไม่ได้เป็นเพียงแค่เจ้านายเท่านั้นแต่ยังเป็นทั้งชีวิตและลมหายใจของเขาด้วย  เป็นคนที่เขาให้ความสำคัญยิ่งกว่าใคร... ชีวิตของเขายกให้เป็นของแจจุงตั้งแต่วันแรกที่พบกันแล้ว... และเขา
    จะไม่มีวันยอมให้ใครมาทำร้ายแจจุงได้อีกเป็นครั้งที่สอง…!!!!






    [ณ บริษัท Choi Group]




    รถสีดำคันหรูเจ้าเก่าแล่นเข้าจอดบริเวณที่จอดรถ
    VIPของบริษัทชอยกรุ๊ป  ชายหนุ่มร่างสูงเดินลงจากรถด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ก่อนจะส่งยิ้มให้กับพนักงานสาวๆตลอดทางเดินไปห้องประธาน ไม่ได้รู้ถึงสายตาอาฆาตของบุคคลด้านหลังเลยแม้แต่น้อย แจจุงกับบรรดาบอดี้การ์ดทั้งหลายพากันยิ้มบางพลางหัวเราะอยู่ในใจ... ท่าทางวันนี้กลับไปซีวอนคงไม่รอด...


     

    "โฮ้...คุณเจ้านายกว่าจะมาได้นะครับ..." เสียงคังอินลูกน้องคนซื่อ ( แต่กวนตีนเล็กน้อย )ของซีวอนซึ่งเป็นรองประธานบริษัท



    "
    เอ่อน่า...ว่าแต่มีปัญหาอะไรทำไมดูมันวุ่นวายอย่างนี้?" เสียงทุ้มหมายถึงคนในบริษัทที่วิ่งไปมาเหมือนมีเรื่องด่วนเรื่องสำคัญ...



    "
    มีปัญหานะสิ...วันนี้เรามีงานแถลงข่าวเรื่องการร่วมงานกันของทั้งสองบริษัทคือ เรา กับ บริษัทปาร์ค ตามกำหนดการเดิมแล้วทางเราจะมียูโน,ไอ,แล้วก็จุนกิใช่มั้ย?"



    "
    อืม... ได้แล้วไง..."



    "
    ก็จุนกิเบี้ยวไม่มานะสิ นี่ล่ะปัญหาเราจะหาใครมาแทนได้ อีกอย่างประธานของฝ่ายนู้นก็มาแล้วด้วย ฉันไม่รู้จะทำยังไงดีแล้ว รอนายมานี่แหละ..."



    บริษัทนู้นที่คังอินว่าก็คือ บริษัทปาร์ค คอเปอเรชั่น ที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับการบันเทิงยักษ์ใหญ่อีกแห่งหนึ่งของเกาหลี เรียกได้ว่าชื่อเสียงสูสีกับ บริษัทชอย กรุ๊ป เลยทีเดียว



    "
    ใครล่ะที่จะมาแทนจุนกิได้ คิดสิคิดๆ..." ชายหนุ่มยืนหน้าเครียดอยู่เพียงครู่เดียวก็หาทางออกให้ได้... นัยน์ตาคมหันมองเพื่อนคนรัก รุ่นน้องของเขา...



    "
    แจจุงนายช่วยฉันได้มั้ย?" เสียงทุ้มถามเรียบๆแต่ไม่ได้มีแววบังคับเลยแม้แต่น้อย... เด็กหนุ่มเงียบคิดเล็กน้อยก่อนตอบออกไปอย่างมั่นใจ



    "
    ถ้าผมพอจะช่วยพี่ได้ก็ยินดีฮะ..." เด็กหนุ่มตอบด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มที่ซ่อนความเจ็บปวดไว้ข้างใน...



    "
    ยอดมากเลยแจจุง พี่ขอบใจเรามากนะ ถ้างั้นเฮเคียวพาแจจุงไปแต่งตัวด้วยนะ... ฉันคงต้องไปคุยกับประธานบริษัทนู้นเรื่องเปลี่ยนคนนิดหน่อย ชางมินตามฉันมา..."



    "
    แต่ว่า..." เด็กหนุ่มค้างไว้แค่นั้นพลางมองไปยังแจจุงอย่างสื่อความหมายแต่ซีวอนก็เข้าใจได้ในทันที



    "
    ไม่เป็นไรหรอก... แจจุงมีฮันกยองอยู่เป็นเพื่อนแล้วไม่ต้องห่วงนะ ฉันรับรองว่าเขาดูแลแจจุงได้ดีพอๆกับนายแน่นอน... ไปเถอะ..."



    "
    อืม...ก็ได้ งั้นแจจุงเดี๋ยวเจอกันนะ"



    "
    อืม..." ว่าแล้วทั้งคู่ก็แยกย้ายกันไป แจจุงตามเฮเคียวสไตลิสต์มือหนึ่งของบริษัทไปแต่งตัวโดยมีฮันกยองตามไปด้วย...

    ซีวอนเดินไปที่ห้องประชุม ก่อนจะพบกับชายหนุ่มคนหนึ่งผู้ที่กำลังยืนพิงฝาผนัง พลางมองออกไปยังนอกหน้าต่างอย่างหงอยเหงา แต่ท่าทางที่ดูน่าเกรงขามไปในตัวนั้นซีวอนจึงคิดว่าชายผู้นี้คงจะเป็นปาร์คจองซูเป็นแน่ เขาจึงเริ่มแนะนำตัว...


    "
    สวัสดีครับ ผมชอยซีวอน ประธานของชอยกรุ๊ปครับ... ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ...คุณปาร์คจอง..." ยังไม่ทันที่ซีวอนจะพูดจบ ชายหนุ่มตรงหน้าก็พูดสวนขึ้นมาแทนซะก่อน


    "
    ผมปาร์คยูชอน ยินดีที่ได้รู้จักครับ ผมเป็นน้องชายแล้วก็เลขาของพี่จองซูครับ ตอนนี้เขายังไม่มา ติดธุระที่ไหนสักแห่งอยู่นะครับ ต้องขอโทษจริงๆนะครับ " น้ำเสียงทุ้มพูดอย่างเป็นกันเอง แล้วเขาก็ก้มตัวลงให้ซีวอนอีกครั้ง...


    "
    ไม่เป็นไรครับผมไม่ถือ..." ซีวอนตอบรับพลางนั่งลงใช้ความคิดอย่างเงียบๆ



    ตามที่ซีวอนได้ยินมา ประธานของบริษัทปาร์คก็เป็นคนเก่งมากจบการบริหารธุรกิจจากอเมริกาด้วยวัยเพียง 19 ปีแล้วกลับมาบริหารแทนพ่อของตัวเองที่เสียชีวิตไปเพราะโรคหัวใจ เขาทำให้บริษัทปาร์คที่กำลังจะถูกเทคโอเว่อร์จากการถูกโกง ให้กลับมารุ่งเรืองและยิ่งใหญ่อีกครั้งภายในเวลาแค่ 1 ปี...

    ซีวอนจึงคิดว่าปาร์คจองซูน่าจะเป็นผู้ชายที่เก่ง,เข้มแข็ง,เด็ดขาด อาจจะหยิ่งๆ และดูเป็นลูกคุณหนูด้วย ยิ่งดูจากน้องชายอย่างยูชอนแล้วก็ไม่น่าพลาด แต่ความเป็นจริงที่เห็นกลับตรงข้ามกันโดยสิ้นเชิง... ปลายผมสีน้ำตาลอ่อนชี้ไปมาจากการวิ่งอย่างไม่ลืมหูลืมตาของเจ้าของร่าง ใบหน้าเรียวหวานรูปไข่  และนัยน์ตาคู่สวยทำเอาซีวอนชะงักไปในทันที...



    "
    พี่จองซู ทำไมมาช้าจังเลยล่ะฮะ?" เสียงยูชอนถามพี่ชายตัวเองที่ยืนโดยใช้มือค้ำยันกำแพงพยุงตัวเอาไว้...


    "
    โทษทีพอดีพี่มัวแต่...." ก่อนจองซูจะได้พูดจบยูชอนก็ยกมือขึ้นห้าม



    "
    ผมรู้แล้วสองคนข้างหลังใช่มั้ยฮะสาเหตุ?" ว่าแล้วซีวอนเองก็มองตามนิ้วที่ยูชอนชี้ไป... พบกับเด็กหนุ่มหน้าตาน่ารักสองคน ซึ่งซีวอนก็รู้จักดี คู่หูมหัศจรรย์แห่งวงการ  พัม & พี



    "
    ขอโทษคร๊าบบ..." สองคู่หูประสานเสียงกันพลางไปซ่อนอยู่หลังจองซู...



    "
    นี่ไม่ต้องไปหลบเลยนะ กลับไปนายหนีไม่พ้นหรอก " ยูชอนพูดเสียงดุ แล้วหันมาแนะนำซีวอนให้พี่ชายเขารู้จัก


    "
    พี่จองซูฮะ นี่คุณชอยซีวอน ประธานบริษัทชอย คอเปอเรชั่นฮะ..." จองซูพยักหน้าก่อนจะแนะนำตัวเองบ้าง...



    "
    สวัสดีครับ คุณชอย ผมปาร์คจองซู ยินดีที่ได้รู้จักครับ... ต้องขอโทษจริงๆที่ผมมาช้า...ดงแฮ ซองมิน " จองซูหันไปเรียกเด็กหนุ่มสองคนด้วยน้ำเสียงเข้มนิดๆ


    "
    ผม ลีซองมิน หรือ พัม ยินดีที่ได้รู้จังฮะ"


    "
    ลีดงแฮ หรือ พี ยินดีที่ได้รู้จักฮะ"



    ลีซองมิน หรือชื่อในวงการ พัม (
    Pum) มาจากคำว่าพัมคินซึ่งแปลว่าฟักทองเพราะเป็นคนที่ชอบทานฟักทองเอามากๆถึงมาที่สุด ถึงขนาดปลูกไว้ทานเองที่บ้านเลยทีเดียว... นิสัยก็สดใสร่าเริงสมวัย (อาจจะมากเกินไปด้วยซ้ำ) ด้วยความที่เป็นลูกคนเดียวจึงถูกตามใจมากเลยกลายเป็นคนที่เอาแต่ใจตัวเอง แต่ก็ไม่เคยทำให้คนอื่นเดือดร้อนเพราะนิสัยแบบนี้เลย... บางทีก็เพราะความเอาแต่ใจแบบน่ารักๆอย่างนี้ละทุกคนถึงได้เอ็นดูเขา

    ลีดงแฮ หรือชื่อในวงการ พี (Pi) มาจากคำว่า พิน็อคคิโอ ฉายาที่สนิทเพื่อนอย่างซองมินเป็นคนตั้งให้นั่นเอง... ซองมินกับดงแฮเป็นเพื่อนสนิทกันมาตั้งแต่เด็ก เรียกได้ว่าที่ไหนมีซองมินที่นั่นต้องมีดงแฮ และที่ไหนมีดงแฮที่นั้นก็ต้องมีซองมินเลยทีเดียว ทั้งสองคนไม่ได้เข้ามาสมัครเอง แต่เข้ามาได้จากการชักชวนแกมขอร้องของจองซู  ให้มาช่วยบริษัทที่กำลังจะล้มละลายเอาไว้ เพราะความที่เป็นลูกชายของเพื่อนพ่อและ ความน่าสนุกของงาน ทั้งสองคนจึงตบปากรับคำอย่างไม่ลังเลเลย และตั้งแต่นั้นมา คู่หูเพื่อนสนิทก็กลายเป็นไอดอลที่ถูกจับตามองเรียกได้ว่าเป็นนัมเบอร์วันของบริษัทเลยทีเดียว และยังได้สมญานามจากพวกนักข่าวว่าคู่หูมหัศจรรย์อีกด้วย



    "
    ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกัน เรียกผมว่าซีวอนก็ได้ครับ ตอนนี้ไอกับยูโนอยู่ที่ห้องพักรับรองผมให้คนไปเรียกแล้วคงจะมาครับ ส่วนคนใหม่นั้นไปแต่งตัวอยู่จะตามมาทีหลังครับ" ซีวอนว่าโดยไม่ได้สังเกตเลยว่ายูชอนมีสีหน้าลำบากใจที่ต้องเจอจุนซูกับยุนโฮตอนนี้  แต่ก็หารู้ไม่ว่าคนที่ตามมาทีหลังจะเป็นคนที่ไม่อยากเจอมากกว่านั้น...


    "
    ไม่เป็นไรหรอกครับ อีกอย่างเรียกผมว่าจองซูเฉยๆดีกว่านะครับ" เสียงหวานตอบพลางนั่งลงบนเก้าอี้ตัวหนึ่งในห้องประชุมรอเวลาที่อาจไม่มีใครบางคนต้องการให้มาถึง...



     





     

    ในขณะที่คังอินไปบอกนักข่าวและจัดให้พวกสื่อมวลชนทั้งหลายเข้าไปรอในห้องแถลงข่าวของบริษัทเรียบร้อย ก่อนปล่อยให้ลูกน้องจัดการต่อ แล้วปลีกตัวไปที่ห้องรับรองที่ชั้น  4 ของบริษัทซึ่งมียุนโฮกับจุนซูนั่งรออยู่แล้ว เมื่อเห็นคังอินเดินเข้ามาจุนซูจึงรีบลุกขึ้นถามทันที...



    "
    พี่คังอินฮะ แล้วตกลงจะเอายังไงฮะ จะเลิกหรือว่า..." เสียงหวานใสหยุดกึกเมื่อคังอินเอานิ้วชี้ปิดปากพร้อมยิ้มออกมา จุนซูถอนหายใจด้วยความโล่งอก



    "
    พี่จุนกิมาแล้วเหรอครับ... ค่อยยังชั่วหน่อย..."  ร่างเล็กนึกว่าคนที่เบี้ยวนัดยอมมาแล้วจึงโล่งใจ แต่แล้วการส่ายหัวไปมาของคังอินก็ทำเอาร่างเล็กสงสัยแต่กว่าจะได้ถาม ชายหนุ่มอีกคนก็แทรกขึ้นมาก่อน...



    "
    งั้นแสดงว่าหาคนมาแทนได้เหรอครับ?" เมื่อยุนโฮเห็นคังอินยิ้มออกก็รู้ได้ทันทีว่าความคิดของตนนั้นถูกต้อง กว่าจะได้ถามว่าคนๆนั้นเป็นใครคังอินก็พูดขัดขึ้นมาเสียก่อน



    "
    อย่าพึ่งมาถามอะไรตอนนี้เลย ไปเตรียมตัวกันได้แล้วตอน 11 โมงเราจะแถลงข่าวเปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว อีก 10 นาทีไปเจอกันที่ห้องประชุมชั้น 2 เข้าใจนะ ฉันไปก่อนล่ะ…" แล้วคังอินก็เดินจากไปอย่างรวดเร็วเสียจนทั้งคู่ไม่อาจถามอะไรได้อีก...



    "
    ยุนนี่...นายว่าใครจะมาแทนพี่จุนกิได้เหรอ? จะหน้าตาเป็นไงนะ? ว้า...อยากเจอเร็วๆซะแล้วสิ..." เสียงใสถามพร้อมกับใบหน้าอยากรู้อยากเห็น...ซึ่งทำเอาร่างสูงที่นั่งมองอยู่หัวเราะออกมาเบาๆ



    "
    ไม่รู้สิครับ แต่ว่ายังไงจุนซูของผมก็น่ารักที่สุดอยู่แล้ว "ยุนโฮว่าพลางเลื่อนใบหน้าเข้ามาใกล้แล้วหอมแก้มใสนั่นไปฟอดหนึ่ง...



    "
    อ้า...ยุนอ่ะ เดี๋ยวก็มีคนมาเห็นหรอก..." แก้มใสแดงเรื่อ พร้อมกับมือเล็กที่ยกขึ้นมาจับไว้...



    "
    ก็จุนซูอยากน่ารักมากเกินไปนี่นา ช่วยไม่ได้~" ยุนโฮว่าก่อนเดินออกไปด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม...



    "
    ยุน...นี่...ยุนนี่ กลับมาเดี๋ยวนี้เลยนะ~" แล้วจุนซูก็รีบวิ่งตามยุนโฮออกไป...




    จุง ยุนโฮ หรือชื่อในวงการ ยูโน (
    U-know) เข้ามาทำงานกับบริษัทชอยกรุ๊ปครั้งแรก ด้วยการเป็นนักร้อง เพียงซิงเกิ้ลแรกที่ออกมาก็สร้างปรากฏการณ์ของความนิยมในวัยรุ่นและวัยทำงาน  ด้วยรูปลักษณ์ที่มีเสน่ห์เพียงแค่มองก็ต้องหลงไปกับเสน่ห์ของชายหนุ่ม ลีลาการเต้นที่ไม่มีใครเหมือน  ไม่เหมือนใคร  และไม่มีใครเลียนแบบได้แค่นั้นก็ทำให้ชายหนุ่มผู้นี้โด่งดังไปทั่วแล้ว...



    ส่วนคิม จุนซู หรือ ชื่อในวงการ ไอ (
    Ai) ซึ่งแปลว่าความรัก เข้ามาทำงานกับบริษัทชอบกรุ๊ปได้ด้วยการแนะนำของยุนโฮ และถูกเปิดตัวด้วยโฆษณาเครื่องสำอางยี่ห้อ "เอเนล" เครื่องสำอางชื่อดังในเครือบริษัทชอยกรุ๊ป ด้วยใบหน้าที่งดงามราวกับลูกแมวน้อยๆ ดวงตาใสเป็นประกายแค่นั้นก็สะกดคนดูทุกคนให้ยิ้มได้โดยไม่รู้ตัว... และใบหน้าหวานที่จะเป็นผู้หญิงก็ไม่ใช่ ผู้ชายก็ไม่เชิงนั่นแหละที่ทำให้น่าหลงใหลยิ่งนัก... เรียกได้ว่าเขากลายเป็นนางฟ้าน่ารักในใจของใครหลายๆตนเลยทีเดียว







    ณ ห้องแต่งตัว



    "
    เชิญค่ะ คุณฮันกยอง พาคุณแจจุงไปที่ห้องประชุมที่ชั้น 2 ได้เลยนะค่ะ ทุกคนรออยู่ที่นั่นแล้วค่ะ เออ...ว่าแต่เห็นแล้วอย่ามัวแต่ยืนตะลึงนะค่ะ เมื่อกี้ฉันก็อึ้งไปรอบหนึ่งแล้วเลยอยากเตือนไว้ก่อน " เสียงของเฮเคียวสไตลิสต์มือหนึ่งของบริษัทที่เปิดประตูออกจากห้องเรียกให้ชายหนุ่มที่เฝ้าอยู่หน้าห้องเข้าไป พร้อมคำเตือนแปลกๆที่ฮันกยองไม่ได้สนใจอะไรมากนัก...


     

    ร่างบางเจ้าของนัยน์ตาสีนิลผู้นั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวหนึ่งในห้องแต่งตัวของบริษัท หันมามองผู้มาใหม่ที่ตอนนี้ตะลึงค้าง(ตามคำเตือน)ไปแล้วด้วยภาพของคนตรงหน้าราวกับเจ้าหญิงตัวน้อยๆก็ไม่ปาน...



    เรือนผมดำถูกรวบไว้อย่างเรียบร้อยประดับด้วยดอกกุหลาบสีแดงสด แต่ก็ยังมีปอยผมเล็กน้อยที่ปล่อยมาปรกใบหน้า ริมฝีปากแต่งแต้มด้วยสีชมพูอ่อน  ชุดกระโปรงยาวกร่อมส้นสีขาวบริสุทธิ์ คอกว้างที่เผยให้เห็นผิวขาวผ่องและถุงมือสีเดียวกันที่มองแล้วเข้ากันได้เป็นอย่างดี ใบหน้าที่แต่งแค่เพียงอ่อนๆก็ทำให้คนมองตะลึงได้แล้ว...



    "
    ฮะ...ฮันกยองมันแย่ขนาดนั้นเลยเหรอ?" นัยน์ตาสีนิลมีแวววูบไหวพลางก้มหน้าลงเมื่อชายหนุ่มเงียบไป แต่หารู้ไม่ว่าคำพูดของเจ้าตัวกลับเรียกรอยยิ้มให้ปรากฏบนใบหน้าของเสือยิ้มยากอย่างฮันกยองได้ง่ายๆอย่างที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน ร่างสูงก้าวเข้าไปใกล้ผู้เป็นนายของตนก่อนจะกุมมือไว้... ร่างบางเมื่อรู้สึกถึงสัมผัสก็เงยหน้าขึ้นมา มองฮันกยองที่กำลังยิ้มด้วยความงุนงง


    "
    ฮันกยอง?"



    "
    ขอโทษที่ผมทำให้เข้าใจผิดครับ แต่ว่าตอนนี้คุณหนูสวยมากๆ สวยจนผมชักไม่อยากให้ใครมามองคุณหนูของผมแล้วนะครับ..."



    "
    จริงๆนะ นายไม่โกหกฉันใช่มั้ย?"



    "
    โธ่!! คุณหนูครับ ผมบอกแล้วไงครับว่าผมจะซื่อสัตย์กับคุณหนูเพียงคนเดียว ได้โปรดอย่าสงสัยหรือคลางแคลงใจกับฮันกยองคนนี้เลยนะครับ" เพราะใบหน้าของชายหนุ่มที่ดูร้อนรนไม่ใช่น้อย เรียกให้กลีบปากบางแย้มยิ้มได้



    "
    ก็ได้ๆ ไม่ต้องพูดอย่างนั้นหรอก ฉันเชื่อนาย ไปกันได้แล้วหรือยังล่ะ..." คราวนี้กลับเป็นเสียงหวานซะเองที่รบเร้าให้ชายหนุ่มรีบไปด้วยกัน



    "
    ครับ ซีวอนบอกไปที่ห้องประชุมได้เลย ทุกคนกำลังรออยู่..."



    "
    ทุกคนเหรอ?"



    "
    ครับ คนจากบริษัทปาร์คคือคู่หูพัม&พีแล้วก็ประธานของฝ่ายโน้น  แล้วทางเราก็จะมีซีวอน,ชางมิน,คังอิน แล้วก็ไอกับยูโน... อืม...ดูเหมือนคุณหนูจะยังไม่รู้จักใครเลยนะครับ อาจจะแย่ไปหน่อยกับการต้องคุยกับคนที่ไม่รู้จักเยอะๆ แต่ถ้าคุณหนูรู้สึกอึดอัดก็บอกผมนะครับ แล้วผมจะพาคุณออกมาเอง ถึงจะต้องเสียมารยาทไปบ้างก็เถอะ... " ชายหนุ่มร่ายมาเสียยืดยาวโดยไม่ได้สังเกตสีหน้าของร่างบางเลยว่าเป็นอย่างไร



    "
    ไม่หรอก~  บางทีคนที่ต้องเป็นฝ่ายอึดอัดอาจจะเป็นทางนั้นมากกว่า..." เจ้าของเสียงหวานเอ่ยที่เอ่ยเพียงแผ่วก้มหน้าหลบสายตาที่มองด้วยความแปลกใจของฮันกยอง  ไม่นานคนทั้งคู่ก็มาถึงห้องประชุม เวลาแห่งการพบกันมาถึงแล้ว


    หากไม่มีร่างสูงเพรียวเจ้าของผิวสีน้ำผึ้งยืดเวลาออกไปเสียก่อน..



    "
    แจจุง!! อย่าพึ่งเข้าไปนายกับฉัน เรามีเรื่องต้องคุยกันก่อน..." แล้วชางมินก็ลากให้แจจุงเดินตามมาที่มุมตึกแห่งหนึ่งซึ่งไม่ไกลจากห้องประชุมนัก โดยปล่อยให้ฮันกยองยืนรออยู่ที่หน้าห้องประชุมนั้น...


     
    "
    นายมีอะไรชางมิน...?" เสียงหวานของแจจุงถามอย่างใจเย็น แม้จะรู้ดีอยู่แล้วว่าชางมินต้องการพูดเรื่องอะไร...



    "
    ทำไมนายไม่บอกฉันว่ายุนโฮกับยูโนเป็นคนๆเดียวกัน และถ้าฉันเดาไม่ผิดนี่ใช่มั้ยสาเหตุที่นายดูแปลกไปตั้งแต่งานเลี้ยงวันนั้น... ฉันจำได้ว่าวันนั้นยูโนไปด้วยไปกับไอ เพราะเขาทั้งคู่เป็น...เป็น..." น้ำเสียงของชางมินอ่อนลงเมื่อต้องพูดประโยคนี้



    "
    คนรักกัน..." เมื่อเห็นคนตรงหน้าลำบากใจที่จะพูดเด็กหนุ่มจึงเป็นฝ่ายพูดขึ้นมาเอง ก่อนจะเริ่มเล่าความสิ่งที่เขาได้พบมาในงานเลี้ยงวันนั้นให้ทั้งชางมินฟัง...



    ………………………………


    …………………….


    …………….



     

    เรื่องราวที่ได้ฟังทำเอาเด็กหนุ่มรู้สึกเจ็บปวดตามคนตรงหน้าไปด้วย



    "
    แจจุง..." เด็กหนุ่มนั่งลงข้างๆแล้วเรียกชื่อร่างเพรียวอย่างแผ่วเบา แจจุงเงยหน้าขึ้นมาแล้วแย้มรอยยิ้มบางๆ ที่บางเสียจนไม่คิดว่ากำลังยิ้มอยู่ด้วยซ้ำ...



    "
    แล้วทำไม...นายไม่บอกเขาไปล่ะว่า...ช่วงที่นายไม่อยู่มันเกิดอะไรขึ้น?"



    "
    ไม่...ฉันพูดไม่ได้ชางมิน... ขนาดเขาไม่รู้อะไรเลย แค่เห็นรอยนั่นเพียงนิดเดียว เขายังเกลียดฉันถึงขนาดนี้ แล้วถ้าเขารู้เรื่องทั้งหมดแล้วเขาจะไม่ยิ่งรังเกียจฉันเข้าไปใหญ่เหรอ?" น้ำเสียงที่บ่งบอกความเจ็บปวดของผู้พูดได้เป็นอย่างดี...



    "
    นั่นสินั้น...ร่างกายที่สกปรกโสมมอย่างนี้ เป็นใครเขาก็ไม่ต้องการกันทั้งนั้น..." แจจุงพูดเหมือนเป็นเรื่องธรรมดา แต่เพราะเสียงพูดแบบธรรมดาๆกับดวงตาที่มีน้ำใสๆมาคลออยู่นั้นแหละที่ทำให้ชางมินทนไม่ได้...



    "
    พอเถอะ แจจุง...ถ้าเขาคนนั้นทิ้งนายไป...ฉันก็จะอยู่เคียงข้างนายเอง...ฉันเคยสัญญาไว้แล้วนี่... อย่าเสียใจไปเลย... ตอนนี้ฉันก็อยู่กับนายไม่ใช่เหรอ?" ชางมินดึงตัวแจจุงเข้ามากอด... ถึงจะบอกแจจุงไปแบบนั้นแต่เขาก็รู้ดีว่ามันไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้นเลย

    เด็กหนุ่มไม่ได้ร้องเพียงแต่อดกลั้นอย่างหนักที่จะไม่ให้น้ำตาไหลออกมาจนหัวไหล่ขาวสั่นสะท้าน ชางมินรู้สึกสมเพสตัวเองที่ทำอะไรไม่ได้เลยนอกจากมือที่ใช้ลูบผมนุ่มปลอบอยู่อย่างนี้...


     

    ...เขาเป็นเพื่อนที่แย่ที่สุดเลย เขาไม่สามารถทำอะไรได้มากไปกว่าการกอดปลอบแจจุงไว้อย่างนี้เลย...




    เมื่อไหล่ขาวหยุดสั่น เจ้าตัวก็ผละออกจากอ้อมกอดของชางมิน
    ใบหน้าที่ไม่มีแม้น้ำตาสักหยด พาเอาชางมินรู้สึกเจ็บปวดอย่างบอกไม่ถูก


    "
    ไปเถอะ คนอื่นรอนานแล้วนะ..." เสียงหวานเอ่ยเรียบๆ



    "
    แจจุง..." ก่อนจะแจจุงจะได้ไปก็ถูกชางมินทักท้วงไว้ด้วยความเป็นห่วง

    "
    ไม่เป็นไรชางมิน ฉันคิดว่าฉันทำได้..."


    "
    แจจุงฉันถามอะไรนายหน่อยได้มั้ย? นายก็รู้ไม่ใช่เหรอว่าถ้ารับทำงานอย่างนี้แล้ว นายจะต้องเจอยุนโฮนะ?"

    "
    ฉันรู้..."

    "
    ถ้ารู้แล้วทำไมนายถึงยัง..." เสียงของชางมินขาดหายไปเมื่อมองใบหน้าของแจจุงแล้วพบเพียงความว่างเปล่าในสายตานั้น...

    "
    ไม่เป็นไร...ฉันไม่หวังให้นายเข้าใจสิ่งที่ฉันทำหรอก ความจริง...ฉันแค่อยากมองเห็นเขาอยู่ในสายตาตลอดเวลาก็เท่านั้นเอง... ฉันไม่อยากเป็นคนที่หายไปจากความทรงจำของเขาเร็วนัก..." คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันอย่างไม่เข้าใจคำพูดของคนตรงหน้า แต่เขาก็รู้ดีว่าถ้าไม่ได้อยู่ในสถานการณ์เดียวกับแจจุงเขาก็ไม่รู้หรอกว่าตัวเองนั้นจะเป็นเช่นไร สุดท้ายก็ได้แต่หาเปลี่ยนเรื่องระหว่างทางเดินกลับไปที่ห้องประชุม



    "
    ว่าแต่ชื่อในวงการนายจะเปลี่ยนเป็นอะไรดีล่ะแจจุง...?" ร่างเพรียวนิ่งคิดเล็กน้อยก่อนตอบออกไป



    "
    Lucia (ลูเซีย) "


    สิ่งที่แวบขึ้นมาในหัวมีเพียงคำๆนี้  ลูเซีย แปลว่ามหาสมุทรสีน้ำเงิน มองความหมายผิวเผินอาจจะไม่รู้สึกอะไร...


    แต่ชางมินรู้ดี มหาสมุทรที่หมายถึงความยิ่งใหญ่,มากมายและไม่สิ้นสุด และสีน้ำเงินที่หมายถึงความเศร้า... สำหรับเด็กหนุ่มแล้วลูเซียจึงหมายถึงความเศร้าที่ไม่สิ้นสุด


    To Be Con…





    55+ กลับมาแล้วจ้า~ พึ่งกลับจากกาญมา
    ร้อมมั่กมากๆๆๆๆ
    ไม่พูดพล่ามมากหรอกเพราะต้องไปปั่นฟิกอีกเยอะ ไปแระ

    ปล.ขออธิบายอะไรหน่อย เพื่อบางคนไม่เข้าใจ
    เรื่องนี้เราจะมีชื่อในวงการกับชื่อที่ใช้จริงๆเพราะฉะนั้นอย่าสับสนน่ะจ้ะ
    ไอก็คือจุนซู ส่วนยูโนคือยุนโฮ และลูเซียคือแจจ้า~

    ปล2. ถ้าอ่านแล้วไม่เข้าใจก็บอกนะ เพราะไม่รู้จะเขียนอธิบายในเนื้อเรื่องยังไงให้เข้าใจได้...
    จบข่าว...บาย!!!~
    - - + +-b g-น่า รัก

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×