ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Harry Potter] The Witchcraft Alphabet

    ลำดับตอนที่ #7 : { SS • I } บั น ทึ ก ห น้ า ที่ ๗ : รอยยิ้ม และ ข่าวลือที่แพร่สะพัด

    • อัปเดตล่าสุด 18 ม.ค. 66



     

    บั น ทึ ก ห น้ า ที่ ๗

    รอยยิ้ม และ ข่าวลือที่แพร่สะพัด

     


     

      

    " อัล! เธอมาพอดีเลย "

    นัตตี้ร้องทักทายเมื่อฉันเดินพ้นกรอบประตูเข้าไปในห้อง เธอกำลังนั่งอยู่บนเตียง ในมือของเธอถือกล่องกระดาษที่เพิ่งถูกเปิด ภายในกล่องมีลิปสติกหลากหลายสีสัน และเธอกำลังยิ้มด้วยใบหน้าที่สดใสชุ่มฉ่ำเหมือนดอกไม้แรกแย้ม

    "เธอว่าสีไหนจะเหมาะกับชุดของฉันเหรอ" ถึงเธอจะไม่ได้บอก แต่มันก็ชัดเจนว่าเธอหมายถึงชุดที่เธอจะใส่ไปงานเลี้ยงเต้นรำ

    " เธอทาสีไหนก็เหมาะทั้งนั้นแหละ " ฉันบอก

    " มานี่สิ่อัล นั่งลงๆ "

    ไม่พูดเปล่าเธอลุกขึ้นจากเตียงและตรงเข้ามาดึงแขนของฉันให้นั่งลงบนเตียงของเธอ หลังจากนั้นเธอหยิบลิปสติกในกล่องขึ้นมาเทียบกับริมฝีปากของฉัน

    " ถ้าเป็นชุดของอัลก็น่าจะต้องเป็นสีโทนนี้เนอะ เธอว่าแมทริวจะใส่ชุดสีอะไรเหรอ ฉันกังวลอยู่ว่าสีชุดของเราจะเข้ากันได้ไหนนะ " เธอพูดและดึงปลอกลิปสติกออกก่อนจะแตะปลายลิปสติกแท่งนั้นลงบนริมฝีปากของฉัน ฉันจับมือเธอเอาไว้และมองตาเธอ --- ให้ตาสิ่

    " นัตตี้ คือฉันมีเรื่องสำคัญจะบอกเธอ " ฉันพูด

    " มีอะไรเหรอ "

    เธอถามพรางถอนมือที่ถือลิปสติกออกไป  สายตาของเธอที่มองมายังฉันทำให้สิ่งที่ฉันกำลังจะพุดยากนั้นขึ้นอีกเป็นเท่าตัว เมื่อฉันเงียบไปนาน รอยยิ้มอ่อนหวานแต่งแต้มขึ้นบนใบหน้าของเธอ

    " มีอะไรเหรออัล หรือว่าเธอไม่ชอบสีนี้ " เธอถามพร้อมเสียงหัวเราะ

    ---  นัตตี้ --- ฉันขอโทษ ฉันไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรดี ฉันควรบอกเธอว่าแมททริวมีแฟนอยู่แล้ว และปล่อยให้เธอต้องรู้สึกแย่ๆที่หมอนั่นทำอย่างนี้ หรือบางทีฉันควรปล่อยให้เธอไปงานเต้นรำกับเขาถึงแม้ว่าเขาจะมีแฟนแล้ว

    " เปล่านัตตี้ --- สีนี้สวยมากเลย " ฉันตอบ

    " งั้นฉันลองทาให้นะ " เธอตอบฉันพร้อมเสียงหัวเราะ

    ฉันพยักหน้าให้เธอจากนั้นเธอทาลิปสติกให้กับฉัน และฉันไม่สามารถหยุดมองไปที่เธอได้ เนื้อครีมที่สัมผัสบนริมฝีปากทำใหฉันไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้อยู่พักใหญ่ พอรู้ตัวอีกที่ ฉันก็ไม่เหลือกความกล้าที่จะบอกเรื่องนี้กับเธออีกแล้ว 


     


     


     

     

    เมื่อมื้อเย็นเริ่มขึ้น ทุกคนมารวมกันที่ห้องอาหาร เหล่าผีประจำปราสาทเดินย่ำไปทั่วโต๊ะอาหาร 
     

    " อุ๊ปส์ ขอโทษที " คุณนิก หัวเกือบขาดพูดหลังจากเขาเหยีบถาดพายสับประรถของรอยส์

    " อี๋ --- ให้ตายสิ่ ผมไม่อยากกินพายเท้าผีหรอกนะ " รอยส์บ่นออกมาด้วยสีหน้าผะอืดผะอม

    ทุกอย่างวุ่นวายเหมือนเคย ฉันใช้ส้อมจิ้มมันฝรั่งทอดที่อยู่ในจานห่างออกไปนิดหน่อย วันนี้มีน้ำฟักทอง กับน้ำส้ม --- และเช่นเคย ฉันเลือกน้ำเปล่า ในขณะที่เคี้ยวอาหารอยู่นั้นฉันต้องคอยระวังพวกเด็กคนอื่นๆที่มักจะโยนขนมใส่กัน เพราะบางครั้งพวกเขาก็เขวี้ยงไม่แม่นเอาเสียเลย ครั้งหนึ่งฉันเคยถูกอีแวน มาครอสเขวี้ยงพุดดิ้งช็อกโกแลตใส่หัวด้วยอุบัติเหตุ เพราะเขาตั้งใจจะเขวี้ยงใส่คริสโตเฟอร์ที่นั่งห่างจากฉันไปอีก 5ที่นั่ง ย้ำว่า 5ที่นั่ง เห็นได้ชัดว่าเขาไม่มีพรสวรรค์ในการขว้างปาเอาเสียเลย
     

    " นี่ --- เธอมีอะไรกับพวกเรเวนคลอเหรอ " อัลเลย์สะกิดถาม

    ฉันมองหน้าเขาและเขาเหลือบสายตาไปยังโต๊ะของเรเวนคลอ ฉันจึงมองตามไป --- พวกนั้นหลายคนกำลังมองมาที่ฉัน และพวกเขาพูดบางอย่าง ซึ่งฉันไม่ได้ยินเพราะโต๊ะอยู่ห่างกันเกินไป ถึงแม้ว่าฉันจะยังไม่รู้แน่ชัดว่ามันเป็นเรื่องอะไร แต่ก็พอจะเดาได้อยู่

    " เปล่านี่ " ฉันตอบและหันกลับไปยังจานมันฝรั่งทอด

    " แน่ใจนะ " อัลเลย์ถามซ้ำ

    ไม่ --- ฉันไม่แน่ใจ และฉันคิดว่าบางทีแกรี่คงไปพูดอะไรเรื่องฉัน ไม่แน่หมอนั่นอาจสารภาพทุกอย่างกับแมททริว แล้วฉันก็กลายเป็นนักเรียนหญิงที่บุกเข้าไปทำร้ายนักเรียนชายเรเวลคลอถึงในหอพัก --- เยี่ยม

    " อาหะ --- ฉันไม่มีเพื่อนอยู่เรเวนคลอ ที่จริงฉันแทบไม่มีเพื่อนเลยด้วยซ้ำ " ฉันตอบ

    " ถ้าอย่าง "

    " นี้ซางงงงงงงง "

    ยังไม่ทันที่อัลเลย์จะพูดจบ เสียงหวานก็ดังแทรกเข้ามา ฉันหันไปมองก็เห็นคาริน่ากระโดดเกาะคออัลเลย์ เธอมักจะทำอย่างนี้เสมอ --- ถ้าหากว่าอัลเลย์ได้ความสดใสของเธอมาบ้าง เขาคงไม่ดูลึกลับและน่ากลัวขนาดนี้

    " จะกอดทำไมเนี่ย ไม่อายคนอื่นเขารึไง " เขาว่า แต่ฉันก็ไม่เห็นเขาจะปฏิเสทการกอดของเธอแม้แต่น้อย

    " ทำไมล่ะ ก็นี่ซังเป็นนี่ซังนี่ ไม่เห็นแปลกเลย "
     

    เธอพูดจบก็เดินมาที่เก้าอี้ ฉันมองหน้าเธอและเธอยิ้มรับด้วยใบหน้าแป้นแล้น ฉันจึงขยับช่องว่างเล็กๆให้เหมือนเคย เธอแทรกตัวนั่งลงตรงที่นั่งประจำ และตลอดเวลาฉันจะได้ยินเสียงหัวเราะคิกคักของเด็กสาววัยแรกแย้ม
     

    " พี่อัลคะ " เธอเรียก ฉันจึงหันไปมอง

    " คือว่า... หนูได้ยินมา... ข่าวลือนั่นจริงหรือเปล่าคะ " คาริน่าเอ่ยถาม สีหน้าเธอดูเป็นกังวลฉันมองไปที่เธอโดยที่ไม่ปริปาก และรอให้เธอพูดบางอย่างออกมา 
     

    " ข่าวลืออะไรเหรอ " อัลเลย์ถามแทรก

    " เอ่อ... เรื่องที่ว่า พี่เข้าไปในหอพักของนักเรียนชายเรเวลคลอ แล้วก็ "

    " ไปฟังมาจากไหนล่ะ " ฉันถามแทรก ก่อนที่เธอจะพูดจบ ใช่แล้ว ฉันบุกเข้าไปในหอพักเรเวนคลอแล้วรอบทำร้ายแมททริว เจนเนอร์ จากข้างหลังเสียด้วยสิ่

    " เอ่อ ... คือว่า ... " สีหน้าของเธอดูเป็นกังวลยิ่งกว่าเดิม เธอยื่นมือมาแตะมือของฉันและกุมไว้เบาๆ

    " พี่คะ ... ไม่เป็นไรนะ... " เธอบอก

    เธอมักจะอ่อนโยนอย่างนี้กับฉัน และกับใครก็ตามที่เธอห่วงใย และฉันรู้สึกขอบคุณมากๆ คาริน่า เพียงแต่ว่าในตอนนี้ฝ่ามืออุ่นๆของเธอไม่สามารถช่วยให้ฉันรู้สึกดีขึ้นได้ เพราะเรื่องนี้มันเกินความสามารถของเธอ --- ฉันส่งยิ้มให้กับเธอแค่เล็กน้อยก่อนจะลุกขึ้นจากโต๊ะอาหาร ทั้งอัลเลย์และคาริน่าไม่ได้ส่งเสียงห้ามฉัน นั่นคงเป็นเพราะเขารู้ดีว่าฉันต้องการเวลา

    ฉันเดินออกจากห้องอาหารไปยังโถงทางเดิน และได้ยินเสียงเรียกของนัตตี้และซีนดังอยู่ไกลๆ แต่ฉันไม่ได้หันไปตอบหรือแม้แต่หันไปมอง ฉันเพียงแค่เดินออกมาตามทางเดินโดยลำพัง ในสมองคิดแต่เรื่องของแมททริว เจนเนอร์ ถ้าหากว่าฉันพบเขาพรุ่งนี้ในวิชาปรุงยา เขาจะพูดกับฉันว่าอย่างไร เขาจะโกรธแค่ไหน หรือบางทีเขาอาจสาปคาถานั้นใส่ฉันคืนมาก็ได้ --- ก็ดี เพราะแบบนั้นเราจะได้หายกัน

    " อัลลี่ ! " เสียงใครบางคนดังไล่หลัง ฉันได้ยินเสียงรองเท้าดังก้องไปทั่วทางเดิน ใครคนนั้นคือฌองไม่ผิดแน่ เพราะฉันจำเสียงของเขาได้ เขากำลังวิ่งตามฉันมา

    " อัลลี่ รอเดี๋ยว ! "

    ฉันยิ่งเริ่งเท้าเดิน --- ให้ตายสิ่ฌอง นายไม่ยุ่งสักเรื่องจะได้ไหม !!

    " อัล ! "

    แขนของฉันถูกคว้า และฌองวิ่งขึ้นไปดักที่ข้างหน้าฉัน ขวางทางเดินของฉัน --- ไม่ว่าฉันจะหนีเท่าไหร่สุดท้ายเขาก็ตามมาทันทุกที --- ฉันไม่ได้เกลียดเขา แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่าอยากจะสลัดเขาออกไปไกลๆในบางครั้ง

    " อัลลี่ --- ฉันอยากรู้ว่ามัน "

    " อะไร ! " ฉันตวาดใส่เขา

    " ฉันไม่สนหรอกถ้าเธอจะด่า ฉันชินแล้ว ! ฉันแค่อยากรู้ว่ามันจริงไหม ! "

    ฉันไม่เคยถูกฌองขึ้นเสียงใส่มาก่อน อันที่จริงฉันไม่เคยเห็นเขาขึ้นเสียงใส่ใครมาก่อน --- มันคงเป็นเรื่องร้ายแรง แต่ก็ใช่มันร้ายแรง ถึงอย่างนั้นฉันก็ไม่เข้าใจว่ามันไปเกี่ยวอะไรกับเขาอยู่ดี

    " ใช่ ! แล้วยังไง " ฉันตอบ

    เขามองหน้าฉัน และเพียงแค่เงียบไป ฉันเบี่ยงตัวหลบเขาที่ยืนขวางทางอยู่และเริ่มเดิน และเขาก็รั้งฉันเอาไว้อีกครั้ง คราวนี้ฉันสะบัดมือเขาออกไปและบอกเขาด้วยสายตาว่าฉันไม่ต้องการคุยกับเขาในตอนนี้

    " ทำไมล่ะอัล --- ฉันไม่เข้าใจ แล้วเธอไปคบกับ แกรี่ ไรท์ ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน " ฌองถาม

    " ห๊ะ " ฉันถาม และนึกไม่ออกเลยว่าตัวเองกำลังทำหน้าอย่างไร

    " ฉันนึกว่าเธอชอบอัลเลย์เสียอีก  คือว่า ---- "

    " เดี๋ยวๆ นายพูดเรื่องอะไรน่ะ ฉันกับอัลเลย์เป็นเพื่อนกัน แล้วแกรี่กับฉันก็ไม่ได้คบกันด้วย "
     

    ฉันตอบ ด้วยความสัตย์จริง

    " ฮะ .... เธอจะบอกว่าเธอแค่ทำไปแค่สนุกรึไง --- ไม่เอาน่าอัล " เสียงหัวเราะเฝื่อนๆของณองแทงฉันจะทะลุ ถ้าหากคำพูดบาดคนได้เลือดฉันอาจหมดตัวไปแล้ว ในน้ำเสียงนั้นฉันรู้สึกว่าตัวเองทั้งน่าสมเพชและไม่น่าเชื่อ

    " ฌอง ---- นายไปได้ยินอะไรมา " ฉันตั้งสติก่อนจะถาม

    " ก็เธอไป --- อัลลี่ ไม่เอาน่า เธอจะให้ฉันพูดได้ยังไง " ฌองพูด คิ้วของเขาขมวดยุ่งและดูจริงจังกว่าทุกครั้ง

    " ก็แค่พูดมานั่นแหละ " ฉันบอก และฌองเริ่มหัวเราะห้วนๆพร้อมกับส่ายหน้า

    " อัล ! "

    เสียงอัลเลย์ดังมาจากด้านหลัง ฉันหันไปมองก็เห็นเขากึ่งเดินกึ่งวิ่งมาพร้อมกับคาริน่า สายตาของอัลเลยมองผ่านฉันไปยังฌอง และคาริน่าสบตาฉันก่อนที่จะมองพี่ชายของเธอด้วยสีหน้าเป็นกังวล --- ฉันหันกลับไปหาฌองอีกครั้งและจับแขนของเขาดันให้เขาหันหน้ากลับมาอมองที่ฉันดีๆ ฉันไม่ได้เอ่ยคำถามซ้ำ แต่มองเขาด้วยสายตาเดิมที่รอคอยคำตอบ

    " แกรี่บอกว่าเธอเข้าไปหาเขาถึงในห้อง แล้วก็มีอะไรกันด้วย --- จริงรึเปล่า " อัลเลย์พูด

    ฉันหันกลับไปมองยังเขาในทันที

    " ห๊ะ " ---- หน้าฉันร้อนผ่าว

    " ก็ว่าอยู่ " อัลเลย์บอกพลางยักไหล่

    ฉันเคยคิดว่าจะไม่ยุ่งกับ แกรี่ ไรท์ อีกเป็นครั้งที่สอง แต่ฉันคิดว่าตอนนี้ฉันควรจะต้องคิดใหม่ ฉันกัดฟันกรอดแล้วพ่นชื่อเขาออกมา --- ความโกรธเป็นสิ่งพิศวง ที่ทำให้ตัวเบาสมองหนัก หน้ามืด ร้อนรนเหมือนถูกเผา ฉันก้าวเท้าเดินกลับไปยังทางที่เดินมา ถึงสติจะไม่ค่อยมี แต่ร่างกายมันพาไปเอง เท้ามันพาฉันไปเอง ฉันได้ยินเสียงฌอง เสียงของคาริน่า และเสียงของอัลเลย์ แต่มันค่อนข้างจะเลือนลาง มือของฉันกำไม้กายสิทธิ์เอาไว้แน่น ที่ใบหูร้อนฉ่า

    มีคนพยายามดึงฉันไว้ อาจเป็นอัลเลย์ หรือไม่ก็ฌอง แต่คงไม่ใช่คาริน่าเพราะเธอตัวเล็กเกินไป

    " หยุดก่อน ! "  --- " นี่ เดี๋ยวสิ่ ใจเย็น "

    " ขอโทษทีแล้วกันนะ "

    คำพูดสุดท้ายเป็นของอัลเลย์ ' ขอโทษที ' แล้วแสงสีแดงก็สว่างจ้า ---

    หลังจากนั้นฉันก็จำอะไรไม่ได้เลย ...


     


     

     

    เช้ารุ่งขึ้นฉันตื่นจากเตียง นัตตี้และซีนพยายามบอกให้ฉันใจเย็นลง --- ฉันจำเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานไม่ได้ และนัตตี้กับซีนก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่พวกเธอรู้เรื่องข่าวลือ มันแพร่ไปไวเสียยิ่งกว่าเชื้อโรค

    ฉันเดินผ่านโถงทางเดินและแยกกับเพื่อนๆในวิชาปรุงยา เพราะพวกเขาอยากให้ฉันใจเย็น ดังนั้นการเลี่ยงวิชาที่จะต้องเห็นหน้าของแกรี่ในตอนนี้คงเป็นทางเลือกที่ดี ดังนั้นฉันจึงโดดเรียนวิชาปรุงยา ตลอดทางเดิน ฉันถูกมองด้วยสายตาแปลกๆ รอยยิ้มที่มองก็รู้ว่าคิดเรื่องชั่วๆกันอยู่ ---

    เอาเข้าจริงเรื่องที่ฉันห่วงไม่ใช่เรื่องสถานะหรือว่าฉันจะเป็นผู้หญิงรักสนุก แต่เป็นเรื่องนี้ต่างหาก

    " เฮ้ เบรเวอร์ --- เธอมีคู่ไปงานเต้นรำรึยัง " นักเรียนชายบ้านสลิธิรีนส่งเสียงทักทายพร้อมกับรอยยิ้ม --- รอยยิ้มที่ไม่ใช่เรื่องดี ฉันไม่รู้ว่าจะอธิบายมันอย่างไร แต่ถ้ามีใครสักคนยิ้มแบบนี้ พวกเขาจะต้องไม่คิดเรื่องดีอยู่แน่
     

    ฉันเดินเลี่ยง และเขาเริ่มเดินตาม ฉันจึงเร่งฝีเท้า --- แต่ผู้ชาย ขอย้ำว่าผู้ชายทุกคน ถ้าผู้หญิงคนใดก็ตามพยายามหลีกเลี่ยงที่จะคุยหรือเดินหนี มันแปลว่า 'อย่ายุ่งกับฉัน'

    นักเรียนคนนั้นคว้าไหล่ฉันไว้ และฉันถูกดึงเข้าไปในระยะที่ทำให้รู้สึกอึดอัด ฉันใช้สองมือผลักเขาออกไป จากนั้นเสียงหัวเราะก็ดังขึ้น มันคงดูเป็นเรื่องตลก และฉันก็เป็นตัวตลกที่ถูกเหวี่ยงไปมาในกลุ่มนักเรียนชาย เมื่อฉันผละออกจากคนหนึ่งได้สำเร็จ คนใหม่ก็จะเดินเข้ามาขวางทาง

    และทั้งหมดนี่เป็นเพราะ แกรี่ ไรท์ ---

    " อัลลี่ ! " เสียงฌอง

    ฉันหันไปมองก็เห็นเขากำลังวิ่งตรงมา ในมือของเขาถือตำราวอนด์วู้ดของคุณโอลิแวนเดอร์ และที่หัวของเขามีผ้าพันแผลพันที่หน้าผาก --- เมื่อเขาวิ่งมาจนถึงจุดที่ฉันยืนอยู่ เขามองไปยังกลุ่มนักเรียนชายที่ล้อมฉันอยู่ แบบเรียงคน
     

    " แล้วพวกนายทำอะไรกันอยู่เหรอ " เขาถาม

    " แล้วมันเกี่ยวอะไรกับนายล่ะอาติล " ชายคนหนึ่งพูด

    " มันก็ไม่เกี่ยว --- แต่ดูเหมือนว่าลูกแก้วนำโชคที่หายไปของวิเวียนจะเกี่ยวกับพวกนายใช่ไหม " ฌองถาม

    และพวกเขามองหน้ากัน ก่อนที่ชายคนหนึ่งจะสบถออกมา และชายอีกคนพยายามห้ามไม่ให้พวกของเขาใช้กำลังกับฌอง --- เหตุการณ์ตึงเครียดอยู่ครู่หนึ่งพวกเขาก็ยอมถอยออกไปแต่โดยดี

    ถึงฉันจะไม่รู้เรื่องลูกแก้วนำโชคของวิเวียน แต่ฉันรู้วิธีของฌอง --- ปฏิเสทไม่ได้ว่าฌองเป็นพวกแส่ไปเสียทุกเรื่อง และน่ารำคาญไปเสียทุกเรื่อง แต่กระนั้นเขาก็เป็นแหล่งข้อมูลชั้นดี และแน่นอน ผู้ถือข้อมูลคือผู้กุมความลับ และผู้กุมความลับ คือผู้ควบคุมที่แท้จริง

    " ไม่เข้าท่าเลย --- พวกรู้มากมักจะโดนเก็บนะรู้ไหม " ฉัยบอกอย่างแซวๆ แต่ก็มีความจริงปนราวๆ 90%

    " --- เอาน่า --- อีกอย่างฉันก็แค่ขู่ไปงั้นเอง ไม่ได้คิดจะเอาไปพูดจริงๆหรอก " เขาตอบ

    " แล้วหัวนายไปโดนอะไรมา " ฉันถาม จ้องผ้าพันแผลของเขาไปด้วย

    " ออ --- อัลเลย์ทำฉันหล่นน่ะ "

    " หล่น ? " ฉันพูดทวน

    " ก็เมื่อวานนี้ไง --- ตอนที่เธอเดือดขึ้นมาแล้วฉันกับอัลเลย์พยายามห้าม แต่เธอดูเหมือนจะไม่ฟัง ตอนนั้นฉันจับเธอไว้จากข้างหลังแล้วอัลเลย์ก็ใช้คาถาทำให้เธอหลับ แต่ฉันอยู่ข้างหลังเธอ จับเธออยู่ ก็เลยโดนไปด้วย --- แล้วหมอนั่นก็ปลุกฉันแล้วแต่ฉันไม่ตื่น มันว่ามางี้นะ --- แล้วมันก็แบกฉันกลับไปที่ห้อง แต่ดันมือลื่นทำฉันหล่นบันได ก็เลยเป็ยอย่างที่เห็นนี่แหละ " เขาเล่าพรางชี้ที่แผลบนหน้าผาก

    ฉันยิ้มขึ้นมานิดๆหลังจากได้ฟังที่เขาเล่า และเมื่อเขาเริ่มส่งเสียงหัวเราะเบาๆ ฉันก็เริ่มหัวเราะตาม

    " เบ็ธตี้ ! " ใครบางคนขัดจังหวะเสียงหัวเราะของฉันและฌอง

    เสียงของใครบาง คนที่ฉันไม่อยากได้ยินตอนนี้

    แกรี่ ไรท์ กำลังเดินจ้ำอ้าวมาทางฉัน ฉันมองหน้าเขา และมือไม้ก็เริ่มสั่นขึ้นมา ฌองแตะที่ไหล่ของฉันเบาๆ และฉันปัดมือเขาออกไปก่อนจะหันหลังเดินหนีไปอีกทาง ฉันไม่อยากเจอหน้าของแกรี่ ไรท์ ตอนนี้ อันที่จริงไม่อยากเจอไปตลอดชาตินั่นแหละ

    " เบ็ธตี้ เดี๋ยวก่อนสิ่ เรามีเรื่องต้องคุยกันนะ ! "

    เสียงเรียกดังใกล้เข้ามา ฉันได้ยินเสียงฌองพยายามห้ามไม่ให้แกรี่ตามฉันมา แต่ฉันไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเพราะฉันไม่ได้หันกลับไปมอง หนึ่ง สอง สาม มีคนเคยบอกฉันว่าถ้าเราโกรธจัดๆให้นับเลข หนึ่งถึงร้อย --- สี ห้า หก ฉันเร่งฝีเท้าเดิน เจ็ด แปด เก้า ไหล่ของฉันถูกจับอย่างแรง

    " เบ็ธตี้ รอก่อน "

    ฉันหันกลับไปมอง แกรี่ ไรท์ ยืนอยู่ตรงหน้าฉัน สิบ สิบเอ็ด สิบสอง
     

    ฉันขอโทษที ซีน นัตตี้ --- ถึงฉันจะรับปากว่าฉันจะใจเย็น และจะพยายามไม่ให้มันเกิดเรื่อง แต่ ---
     


     

    ฉันชกหน้าเขา ---  ชกหน้าเขาเต็มๆเลย
     


     


     


     

    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - >>>
     

    หมายเหตุ : มีการแก้ไขข้อมูลตัวละคร คาริน่า ไทป์ จากเด็กปี 2 บ้านฮัฟเฟิลพัฟ เปลี่ยนเป็น ปี 2 บ้านสลิธิรีนนะคะ

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×