โรงเรียนศาสตร์มืดแห่งดาร์คแลนด์ (เปิดเทอม)

ลำดับตอนที่ #63 : ชั้นที่ 1 ชั้นนักปรุงยาธรรมดา

ชั้นที่ 1 ชั้นนักปรุงยาธรรมดา


สวัสดีเหล่า "นักปรุงยาธรรมดา"
หากเจ้าต้องการเป็นนักเวทย์ผู้เปี่ยมพลังมนตราแล้วไซร้
ที่ห้องเรียนนี้ เจ้าจะต้องเรียนรู้การเก็บสมุนไพร
รู้จักอุทยาน ป่าสวนมหัศจรรย์ และปรุงยาประหลาด
ในชั้นเรียนนี้ หากเจ้าไม่เข้าใจอันใด สามารถถามได้ที่กล่องคอมเม้นด้านล่าง









ภารกิจ

ภารกิจ คือ สถานการณ์จำลอง เพื่อทดสอบทักษะของท่าน
ในชั้นนี้ มีภารกิจทั้งหมด 4 ภารกิจ ท่านจะภารกิจเหล่านี้หรือไม่ก็ได้
และเลือกทำกี่ภารกิจก็ได้
โดยคะเเนนจากภารกิจที่ท่านทำ จะช่วยในการสอบเพิ่มระดับของท่าน
และเมื่อทำภารกิจเสร็จสิ้น ท่านจะไ้ด้รับรางวัล
ท่านสามารถเลือกทำ "ภารกิจ" ต่างๆดังนี้

ภารกิจที่ 1
ภารกิจที่ 2

ภารกิจที่ 3

ภารกิจที่ 4

ข้อควรระวัง
อนึ่ง ระว่างการเดินทางทำภารกิจของท่าน
ท่านอาจจะต้องแวะตามสถานที่ต่างๆ และจำเป็นต้องโพสคอมเม้น
เมื่อท่านโพสคอมเม้น  ไม่ว่าที่ใดก็ตามในดาร์คแลนด์
ให้แนบบัตรประนักเรียนศาสตร์มืดแห่งดาร์คแลนด์ด้้วยเสมอ
และผลการทำภารกิจของท่าน จะปรากฏที่หอพักของท่าน ทุกวันศุกร์




การสอบเลื่อนระดับ

หากท่านศึกษาบทเรียนในชั้นนี้จนถ่องแท้แล้ว กรุณาทำข้อสอบ
เพื่อสอบเพิ่มระดับ...เข้าสู่ ชั้นที่ 2 ชั้น "นักพยากรณ์ข้างทาง"
หากท่านสอบผ่าน จะได้รับเหรียญตราให้เข้าเรียนในชั้นต่อไป

คลิกเพื่อทำข้อสอบเลื่อนระดับสู่ชั้นต่อไป





บทเรียนที่ 1 สมุนไพร

สมุนไพร หมายถึง "ผลิตผลธรรมชาติ ได้จาก พืช สัตว์ และ แร่ธาตุ ที่ใช้เป็นยา หรือผสมกับสารอื่นตามตํารับยา สมุนไพรกำเนิดมาจากธรรมชาติและมีความหมายต่อชีวิตมนุษย์โดยเฉพาะ ในทางสุขภาพ อันหมายถึงทั้งการส่งเสริมสุขภาพและการรักษาโรค  หรือใช้เป็นยาพิษ

ทุกสิ่งรอบตัวล้วนมีคุณสมบัติเป็นสมุนไพรได้ ขื้นอยู่กับว่า เรารู้จักมันมั้ย และจะใช้มันยังไง มีคำกล่าววา วัชพืช คือพืชที่เรายังหาประโยชน์ไม่ได้ สิ่งที่เราไม่รู้จัก จื่งไม่ได้หมายความว่ามันไร้ค่า หากนำเอาสมุนไพรตั้งแต่สองชนิดขึ้นไปมาผสมรวมกันซึ่งจะเรียกว่า ยา ในตำรับยา นอกจากพืชสมุนไพรแล้วยังอาจประกอบด้วยสัตว์และแร่ธาตุอีกด้วย เราเรียกพืช สัตว์ หรือแร่ธาตุที่เป็นส่วนประกอบของยานี้ว่า เภสัชวัตถุ พืชสมุนไพรบางชนิด เช่น เร่ว กระวาน กานพลู และจันทน์เทศ เป็นต้น พืชเหล่านี้ถ้านำมาปรุงอาหารเราจะเรียกว่า เครื่องเทศ


ยาสมุนไพร หมายความว่า ยาที่ได้จากพฤกษาชาติสัตว์หรือแร่ธาตุ ซึ่งมิได้ผสมปรุงหรือแปรสภาพ เช่น พืชก็ยังเป็นส่วนของราก ลำต้น ใบ ดอก ผลฯลฯ ซึ่งมิได้ผ่านขั้นตอนการแปรรูปใด ๆ แต่ในทางการค้า สมุนไพรมักจะถูกดัดแปลงในรูปแบบต่าง ๆ เช่น ถูกหั่นให้เป็นชิ้นเล็กลง บดเป็นผงละเอียด หรืออัดเป็นแท่งแต่ในความรู้สึกของคนทั่วไปเมื่อกล่าวถึงสมุนไพร มักนึกถึงเฉพาะต้นไม้ที่นำมาใช้เป็นยาเท่านั้น


สมุนไพรแต่ละชนิด ก็จะมีริษต่างกันไป ทั้งการบำรุง รักษา หรือเป็นพิษ หรือเป็นได้ทั้งสองแบบ ชั่น หากสมุนไพรนั้นๆไม่ถูกโรคกับผู้ใช้ จากยารักษาก็อาจกลายเป็นยาพิษได้ ยกตัวอย่างเช่น มะเกลือ (มะเกลือเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง) เป็นที่ทราบกันมานานแล้วว่าผลมะเกลือมีสารเคมีที่สำคัญหลายชนิดที่มีสรรพคุณ ในการขับถ่ายพยาธิ์ ตำรับยากลางบ้านได้แนะนำให้ใช้ผลมะเกลือสดตำคั้นผสมกระทิ ได้มีรายงานผู้ป่วยหลายรายที่ได้รับพิษจากมะเกลือ ผู้ป่วยมีอาการไข้ อาเจียน ท้องเดิน หลังจากนั้นจะมีอาการตามัว ตามองไม่เห็น ตาบอดได้ จากการศึกษาวิจัยพบว่า ผลมะเกลือที่แก่เต็มที่จนมีสีดำนั้น อาจจะมีสาร nepthalene ซึ่งเป็นพิษต่อประสาทตาโดยตรง


ดั่งนั้นในการใช้ สมุนไพรนั้น นักเรียนต้องศึกษาให้รู้ถึงข้อดีข้อเสีย วิธีการใช้ และใช้ให้ถูกตามจุดประสงด้วย ตัวอย่าง หากนักเรียนแค่อยากให้คนๆหนื่งหลับสบาย อาจแค่ชงชาคาโมมายให้คนๆนั้นดื่ม แต่ถ้าอยากให้เขาหลับยาว ก็ใช้ Asphodel (อัลโฟเดล)ปรุงยานอนหลับที่รู้จักกันในชื่อของยาตายทั้งเป็นให้เขากินจ๊ะ

สมุนไพร นั้นมีมากมายหลายชนิดเหลือเกีน ถ้าจะให้อาจารย์ร่ายรายชื่ให้ฟังก็คงยาว ให้นักเรียนหาข้อมูลจากหนังสือเหล่านี้ หรือหาข้อมูลเพี่มเตีมเองได้

พืช/สมุนไพร ในโลกเวทย์มนต์
พืชสมุนไพร

ขอให้สนุก




บทเรียนที่ 2 อุทยานและป่าสวนมหัศจรรย์


ดาร์คแลนด์มีอุทยานและป่าสวนมหัศจรรย์อยู่มากมายกระจายตามที่ต่างๆดั่งนี้
ที่แรกใกล้สุดก็ในขอบเขตโรงเรียนสาตร์มืดก็นี่เองนั่นก็คือ อุทยานต้องสาปที่เต็มไปด้วยความลึกลับเเละมักมีสิ่งประหลาดน่าพิศวงเเอบซ่อนอยู่
 
อุทยานมนตราแห่งแค้วนรัตติกาลธรรมชาติอันลึกลับทรงเสน่ห์ บางครามีเสียงหัวเราะของสายลม ดอกไม้เคลื่อนไหวได้เองราวมีชีวิต คือที่รวมของพืช สัตว์ ในโลกมืด ที่ทุกท่านจะต้องตะลึง
 
อุทยาน-จุดชมวิวเฟรย่า และอุทยานกุหลาบ ที่แคว้นพลังอำนาจที่มีความสวยงาม และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ขื้นชื่อ
 
ป่ามืดมิด และ อุทยานรัตติกาลที่ปราสาตร์มืดแห่งดาร์คแลนด์ ที่นี่เป็นที่พำนักของท่านหญิงนัวร์แห่งดาร์คแลนด์ จัดว่าเป็นเขตหวงห้าม ทางที่ดีนักเรียนอย่า ได้คิด เข้าไปใกล้ดีกว่านะจ๊ะ ^ ^
 
ป่าสน และป่ามายาที่แค้วนเนพีอา มองเผีนๆอาจดูเป็นแค่ป่าดำมืดรกร้าง แต่ข้างในซ่อนความลับมากมายที่รอให้มีผู้ค้นพบ
 
อุทยานแห่งเวลา อุทยานวสัน อุทยานคิมหันต์ และ อุทยานเหมันต์ ที่แค้วนเนพีอา ชื่งสวยงามน่าหลงไหล ตรึงผู้ไปเยือนให้ไม่มีวันกลับออกมา






บทเรียนที่ 3 การปรุงยา

การปรุงยาก็คือการสกัดเอาตัวยาออกจากไม้ยาหรือสมุนไพรนั้นๆ เพื่อนำมาใช้ตามจุดประสงค์ของผู้ปรุงการปรุงยามีหลายวิธีด้วยกันบ้างก็ง่าย ดาย บ้างก็ซับซ้อนจนอยากจะโยนหม้อที้งกันเลยทีเดียว แต่ไม่ว่าจะเป็นการปรุงยาที่ซับซ้อนหลายขั้นตอน หรือ แบบที่ดูแล้วแสนจะธรรมดา แต่ถ้าทำให้ถูกต้องและแม่นยำแล้ว รับรองว่าสูตรยาสมุนไพรของทุกท่านจะเห็นผลจนน่าอัศจรรย์ใจ

จากบทเรียนแรกนักเรียนคงรู้จักสมุนไพรและสรรพคุณ ของมันไม่มากก็น้อย สมุนไพรพวกนั้นบางอย่างก็สามารถใช้ได้เลย แต่บางอย่างก็ต้องผ่านขั้นตอนในการสกัดพิษออกก่อนที่จะนำมาใช้ (แต่ถ้าเป้าหมายการใช้ไม่ใช่เพื่อการักษา ก็ไม่ต้องทำขั้นตอนนี้) สมุนไพรนอกจากมีคุณสมบัติในด้านการรักษา บำรุง และเป็นพิษแบบที่เรารู้กันทั่วไปแล้ว บางชนิดก็มีคุณสมบัติมากมาย ในทางเวทมนตร์ การปรุงยาเป็นแขนงเวทมนตร์ที่เกี่ยวข้องกับการใช้สมุนไพร และเลือกใช้ส่วนผสมสำหรับการปรุงยาอย่างชาญฉลาด เป็นวิชาที่แทบจะไม่ต้องใช้ไม้กายสิทธิ์ แต่ก็ให้ผลร้ายแรงไม่ต่างกับไม้กายสิทธิ์ดีๆ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการไปสู่สายทางแห่งผู้บำบัด

 การปรุงยาตัวหนื่งๆขื้นมาไม่ว่าจะเป็นการใช้สมุนไพรตัวเดียว หรือหลายตัวมาผสมกันเพื่อสร้างสูตยาต่างๆ ต้องเลือกสรรคำนึงภึงสรรพคุณ และ ผลของตัวสมุนไพร ตัวอย่าง การเลือกส่วนประกอบสมุนไพรที่ใช้ในการปรุงน้ำนาสรรพรส แต่ละอย่างล้วนถูกเลือกสรรอย่างระมัดระวัง แมลงวันปีกลูกไม้ (ส่วนแรกของชื่อ (ปีกลูกไม้) แสดงถึงการผสมผสานกันระหว่างสองตัวตน), ปลิง (เพื่อดูดเอาแก่นแท้ของสิ่งหนึ่งไปใส่อีกสิ่งหนึ่ง), เขาใบคอร์น (แนวคิดเกี่ยวกับความเป็นคู่กัน) หญ้าปม (เป็นอีกสิ่งที่เปรียบเกี่ยวกับการผูกมัดกับอีกสิ่งหนึ่ง), หญ้าน้ำประสาน (ความปรวนแปรของร่างกายในขณะเปลี่ยนไปเป็นอีกสิ่งหนึ่ง) และคราบงูเขียวพิษบูมซะแลง (หนังข้างนอกที่ถูกสลัดทิ้ง และสร้างขึ้นมาใหม่จากภายใน)
ต่อไปนี้จะเป็นตัวอย่างบางสูตยาเพื่อให้นักเรียนได้ลองทำกัน



น้ำยาสรรพรส (Polyjuice Potion)
ใช้เวลาในการปรุง 1 เดือน ใช้สำหรับการเปลี่ยนร่างเป็นเป้าหมายที่ต้องการ ให้รสชาติเหมือนกะหล่ำปลีที่ต้มนานเกินไป
ส่วนผสมทั้งหมด
1.    แมลงวันปีกลูกไม้ (เคี่ยวยี่สิบเอ็ดวัน)
2.    ปลิง
3.    หญ้าน้ำประสาน (ต้องเก็บคืนวันเพ็ญ)
4.    หญ้าปม
5.    เขาไบคอร์นบดเป็นผง
6.    คราบงูเขียวพิษบูมซะแลง
7.    อะไรนิดๆหน่อยๆจากคนที่เราต้องการเปลี่ยนร่าง

วิธีปรุงยา
การปรุงน้ำยาสรรพรส เป็นหนึ่งในน้ำยาที่ใช้ความยุ่งยากและเวลาในการปรุงสูง โดยจะแบ่งออกมาเป็น 2 ส่วน

ส่วนที่ 1

ส่วนผสมที่ต้องใช้:
- หญ้าน้ำประสาน (Fluxweed) - 3 ชิ้น
- หญ้าปม (Knotgrass) - 2 มัด
- แมลงวันปีกลูกไม้ (Lacewing Flies) - 2 ช้อนตวง
- ปลิง (Leeches) -

ขั้นตอนการปรุง
1.    นำหญ้าน้ำประสาน (Fluxweed) ใส่ลงไปในหม้อใหญ่จำนวน 3 ชิ้น
2.    ตามด้วยหญ้าปม (Knotgrass) 2 มัด
3.    คนส่วนผสมในหม้อใหญ่ตามเข็มนาฬิกา 3 ครั้ง
4.    โบก ไม้กายสิทธิ์เหนือหม้อใหญ่ จากนั้นจะใช้เวลาในการปรุงยาตามแต่ชนิดของหม้อใหญ่ที่ใช้ ปกติจะใช้เวลา 60-80 นาที (สำหรับหม้อใหญ่ ดีบุกผสมตะกั่ว (Pewter) ใช้เวลาในการพัก 80 นาที, หม้อใหญ่ทองเหลือง 68 นาที และหม้อใหญ่ทองแดง 60 นาที)
5.    หลังจากนั้นใส่ปลิงผสมลงไปในหม้อใหญ่ 4 ตัว
6.    นำแมลงวันปีกลูกไม้ (Lacewing Flies) จำนวน 2 ช้อนตวงลงบดจนละเอียด จากนั้นใส่ลงไปในหม้อใหญ่จำนวน 2 ส่วน
7.    ต้มยาด้วยกำลังไฟอ่อน 30 วินาที
8.    โบกไม้กายสิทธิ์อีกครั้งเพื่อเสร็จสิ้นการปรุงยาในขั้นแรก


ส่วนที่ 2 (ภายหลังจากเสร็จสิ้นส่วนแรกแล้ว)

ส่วนผสมที่ต้องใช้:
- เขาไบคอร์น (Horn of Bicorn) - 1 ชิ้น
- แมลงวันปึกลูกไม้ (Lacewing Flies) - 1 ช้อนตวง
- คราบงูเขียวพิษบูมซะแลง (Skin of Boomslang) - 3 ชิ้น
- ชิ้นส่วนของคนที่คุณอยากเปลี่ยนร่าง

ขั้นตอนในการปรุง
1.    ใส่คราบงูเขียวพิษบูมซะแลง (Skin of Boomslang) ลงในหม้อใหญ่ 3 ชิ้น
2.    ตามด้วย เขาไบคอร์น (Horn of Bicorn) 1 ชิ้นลงในทีบดยา บดจนละเอียดแล้วจึงใส่ลงในหม้อใหญ่ 1 ส่วน
3.    ต้มด้วยกำลังไฟแรง 20 วินาที
4.    โบก ไม้กายสิทธิ์เพื่อพักยา จะใช้เวลา 24 ชั่วโมง (สำหรับหม้อใหญ่ดีบุกผสมตะกั่ว (Pewter) จะใช้เวลา 24 ชั่วโมง, หม้อใหญ่ทองเหลือง 1224 นาที และหม้อใหญ่ทองแดง 18 ชั่วโมง
5.    เพิ่มแมลงวันปีกลูกไม้ (Lacewing Flies) อีก 1 ช้อนตวงลงในหม้อใหญ่
6.    คนส่วนผสมทวนเข็มนาฬิกา 3 ครั้ง
7.    ตักเอาตัวยาออกมา จากนั้นเพิ่มชิ้นส่วนของคนที่คุณต้องการจะเปลี่ยนร่างลงไป
8.    โบกไม้กายสิทธิ์เพื่อเสร็จสิ้นการปรุงยา
ข้อควนระวัง ห้ามใช้เปลี่ยนร่างเป็นสัตว์
 
น้ำยาหดตัว (สีเขียวสด)
เมื่อใช้จะมีผลให้สิ่งนั้นๆ มีขนาดหดเล็กลง หรือกลายสภาพเป็นอดีตเดิมของมัน เช่น หากใช้กับคางคก จะมีผลให้มันหดกลายสภาพเป็นลูกอ๊อด

ส่วนผสม
1.    รากเดซี่หั่นฝอย
2.    ชริฟเวลฟิก ปอกเปลือก
3.    กิ้งกือหั่น
4.    ม้ามหนู 1 อัน
5.    น้ำจากปลิง 1 หยด
วิธีการเตรียมส่วนผสม1. นำรากเดซี่มาซอยให้เป็นชิ้นที่เท่ากัน หากไม่เท่ากัน จะทำให้น้ำยาไม่ได้ผล
2. ปอกเปลือกลูกชรีฟเวลฟิก ขั้นตอนนี้ทำลวกๆก็ได้ เพียงแต่ต้องปอกเปลือกให้หมด
3. ม้ามหนูกับน้ำจากปลิงไม่จำเป็นต้องทำอะไร
4. หั่นกิ้งกือให้ออกมาเป็นส่วนที่พอเท่ากัน แต่ไม่จำเป็นต้องทำให้ละเอียดเหมือนรากเดซี่

วิธีการปรุงน้ำยา
1.นำของทุกอย่างใส่ลงไป รากเดซี่ซอย ลูกชรีฟเวลฟิกที่ปอกเปลือกแล้ว ม้ามหนู 1 อัน น้ำจากปลิง 1 หยด และ กิ้งกือหั่น
2. เคี่ยวด้วยไฟอ่อนๆซักพัก
3. เมื่อเสร็จออกมาน้ำยาหดตัวจะมีสีเขียวสด แต่หากทำไม่สำเร็จจะมีสีส้ม
ยาแก้พิษ
เป็นยาที่ใช้สำหรับแก้พิษของการถูกกัดหรือต่อยจากสัตว์
ส่วนผสม
1.    บีซัวร์ 1 ก้อน
2.    สมุนไพรที่ใช้ในการปรุงยามาตรฐาน 2 หยิบมือ
3.    เขายูนิคอร์น ชิ้นเล็ก 1 ชิ้น
4.    ผลมิสเซิลโท 2 ผล


วิธีปรุงยา
1.    นำหินบีซัวร์บดให้ละเอียด
2.    นำผงบีซัวร์ที่ได้ ใส่ลงในหม้อปรุงยา 4 ช้อน
3.    เติมสมุนไพรอีก 2 หยิบมือลงในหม้อ
4.    อุ่นด้วยอุณหภูมิปานกลาง 5 วินาที
5.    โบกไม้กายสิทธิ์หนึ่งครั้ง จากนั้นทิ้งไว้ 85 นาที
6.    นำเขายูนิคอร์นใส่ลงไปในหม้อ 1 ชิ้นเล็กๆ
7.    คนส่วนผสมตามเข็มนาฬิกา 2 ครั้ง
8.    เติมผลมิสเซิลโทลงไปในหม้อ 2 ผล
9.    คนส่วนผสมแบบทวนเข็มนาฬิกาอีก 2 รอบ
10.    โบกไม้กายสิทธิ์อีกครั้ง เป็นอันเสร็จเรียบร้อย


ทำยาพิษบิซัว

อุปกรณ์
1. หม้อ 1 ใบ
2. บิซัว 3 ก้อน
3. อุจระวิญญาณ 1 ก้อน
4. ปาฌี 80 ตัว
5. ช้อนทุบ 1 อัน

วิธีทำ
1. นำอุจรระวิญญาณใส่ลงไปในหม้อ ใช้ช้อนทุบจนละเอียด
2. ใส่บิซัว 3 ก้อนลงไปตีให้ละเอียด
3. คนไปเลื่อยๆจนกว่าน้ำยาที่ปรุงจะเป็นสีเขียวและมีกลิ่นซุป
4. ใส่ปาฌี 80 ตัวลงไป ปิดฝาหม้อทิ้งไว้ 3-4 สัปดาห์
เปิดดูจะเห็นว่าปาฌีลอยอืดนำปาฌีออกจากนั้นก็นำไปใช้ได้
ประโยชน์
ตามตำราได้กล่าวไว้ว่ากินยาพิษบิซัวแล้วจะนอนหลับไปชั่วขณะ
จนกว่าชายในฝันจะมาจุมพิษ

ยาเสน่ห์
สูตยานี้จะไม่ใช่แบบที่ให้ใครกินก็ตาม ก็จะหลงใหลผู้วางยาทันที แต่ยาเสน่ห์ชุดนี้ หากพกติดตัวไว้นานๆ ก็จะเป็นเหมือนเครื่องรางที่จะช่วยแผ่ขยายออร่าของผู้ใช้ให้เรียกเพศตรงข้ามให้มาสนใจได้


ส่วนประกอบ น้ำยาเสน่ห์ 1 ขวด
1) น้ำหอม 3 หยด  เลือกน้ำหอมกลิ่นที่ชอบก็เหมือนเลือกคนที่ชอบ
ไม้หอมอ่อนๆ=ต้อง การคนที่สดใส  
น้ำหอมกลิ่นลาเวนเดอร์ หรือ กุหลาบ=ต้องการคนที่โรแมนติก
น้ำหอมกลิ่นผู้หญิง=ต้องการคนที่อบอุ่น
น้ำหอมกลิ่นวัยรุ่น (โคโลญก็ได้ แต่ใช้8หยด) = ต้องการคนที่เท่ๆ บอยๆ เทพๆ
2)รสชาติของความรัก มากน้อยตามต้องการ (ต้องมากกว่า2ช้อนโต๊ะ)
น้ำผึ้ง=ความรักที่หวานฉ่ำ
น้ำมะนาวสด=ความรักที่สนุกสนาน
น้ำสตรอเบอร์รี่=ความรักที่หวานใส น่ารักกุ๊กกิ๊ก
น้ำตาลทรายแดง=ความรักที่เรียบง่าย  
ชากุหลาบ=ความรักที่โรแมนติก   
3)เกลือ  1/2 ช้อนชา
4)น้ำเชื่อม 8 ช้อนโต๊ะ
5)กลีบดอกกุหลาบสด 1 กลีบ (ควรเป็นสีแดงเข้ม)
6)สีผสมอาหารสีชมพู ครึ่งหยด หรือ 1 หยด

วิธีทำ
1)นำน้ำเชื่อมกับน้ำหอมมาผสมกันในถ้วยน้ำจิ้มสีชมพูหรือสีใส จนกระทั่งส่วนผสมเริ่มส่งกลิ่นหอม
2)โรยเกลือให้ทั่ว แล้ว คนให้เข้ากัน
3)เติมเต็ม รสชาติของความรัก ระหว่างที่ค่อยๆเท รสชาติของความรัก ให้คำนึงนึกถึงรักแรกของตน (หากส่วนผสมหนืดเกินไป ให้เติมน้ำเปล่า)
4)หยดสีผสมอาหารลงไป พยายามให้มือนิ่งมากที่สุดและใส่ให้น้อยที่สุด
5)ตักส่วนผสมใส่ขวดแก้วเปล่าหรือสีชมพูขวดเล็กๆ
6)ใส่กลีบกุหลาบลงไป เท่านี้ก็จะได้ยาเสน่ห์ทำเองแล้ว

 น้ำยาสัจจะเซรุ่ม

วัตถุดิบ
ปลิง 3 ตัว
ขนยูนิคอร์น 2 ขีด
ขนนกฟินิกส์ 3 ขีด
หญ้าน้ำประสาน 3 ขีด
คราบงูเขียวบูมสะแลง 2 อัน
ผงเขี้ยวมังกร 1 ขีด
ผงเขาไบคอร์น 1 ขีด
ตาปักเป้า 3 อัน
ใบแอนซิโรล์ 3 ขีด

อุปกรณ์
หม้อดีบุกผสมตะกั่ว
ไม้กวนยา

นำทุกอย่างใสหม้อดีบุกผสมตะกั่ว กวนจนเริ่มเป็นสีขาวใส นำมาใส่ขวดพร้อมที่จะใช้งานได้