คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : [เจ้าสาวของผม.?][100%]
'คู่แท้ไงลูก พ่อว่าลูกกับซีวอนน่ะ อาจจะเป็นคนที่เกิดมาเพื่อกันและกันก็ได้'
คำพูดของพ่อยังดังก้องอยู่ในหัวของคยูฮยอนไม่ไปไหน ร่างบางนั่งเหม่อไปเรื่อยเปื่อย สมองยังคงครุ่นคิดถึงเรื่องนี้
..คนที่เกิดมาเพื่อกันและกัน คู่แท้..บ้าน่า ผู้ชายกับผู้ชายเนี่ยนะ.............
“ลูกคยู ไม่ทานอะไรหน่อยเหรอคะ..”คุณชเวยองรินเอ่ยถามคุณลูกสะใภ้ที่นั่งซึมอยู่ข้างๆ คยูฮยอนส่ายหน้าน้อยๆก่อนจะกวาดสายตาไปรอบๆ
..ตอนนี้เขาอยู่งานเลี้ยงที่จัดขึ้นในช่วงค่ำ คยูฮยอนถูกจับให้แต่งชุดเจ้าสาวสีชมพูอ่อน เสื้อผ้าหน้าผมไม่พ้นแต่งหญิงอีกเหมือนเคย ไม่เข้าใจว่าทำไมไม่ได้แต่งชายเหมือนดงแฮในตอนแรก - -*
งานเลี้ยงที่ส่วนใหญ่แขกเหรื่อมีแต่ผู้หลักผู้ใหญ่ คนในแวดวงไฮโซเยอะแยะมากมาย เหตุจากตระกูลชเวเป็นตระกูลใหญ่จึงไม่แปลกที่ผู้คนจะให้ความสนใจมากมายขนาดนี้ แถมฝ่ายเจ้าสาวยังเป็นคนในตระกูลลีที่ยิ่งใหญ่ไม่แพ้กัน สองตระกูลที่เป็นคู่แข่งทางด้านธุรกิจ แต่กลับเป็นมิตรอยู่คู่กันมานมนาน
คยูฮยอนรู้มาจากพ่อและแม่ว่าบ้านชเวกับบ้านลีนั้นถูกสร้างอยู่ติดกันและเป็นเพื่อนรักกันมาตั้งแต่รุ่นปู่ทวด(?) จวบจนปัจจุบันรุ่นลูกรุ่นหลานก็ยังเป็นเพื่อนรักกัน ยกเว้นก็เสียแต่ฮันคยองกับฮีชอลที่จะดูผ่าเหล่าเป็นคู่แรก(เพราะหมากับแมวแท้ๆ)
ซีวอนนั้นเป็นลูกชายของคุณชเวซองวอน นักธุรกิจหนุ่มผู้มีชื่อเสียงโด่งดังที่ประสบความสำเร็จจนพาธุรกิจของตระกูลชเวก้าวขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่งได้ ส่วนฮีชอลและคิบอมเป็นลูกชายของชเวซูยอง พี่สาวของชเวซองวอน
ซีวอนถูกคาดหวังจากครอบครัวมาก เขาต้องเรียนอย่างหนักและเรียนให้เก่ง และต้องมาบริหารกิจการของครอบครัวให้ดีเทียบเท่าและต้องดีขึ้นกว่าที่ผู้เป็นบิดาเคยทำ ทั้งยังถูกกดดันและถูกจับตามองจากคนรอบข้าง และการแต่งงานครั้งนี้ส่วนนึงก็มาจากพ่อของซีวอนที่ต้องการตัดปัญหาเรื่องผู้หญิงที่จะเข้ามาพัวพันทำให้เกิดข่าววเสียๆหายๆกับซีวอนได้
เหตุที่ซีวอนกับคยูฮยอนไม่เคยเจอกันเลย เพราะคยูฮยอนนั้นอยู่คอนโด นานๆกลับมาที่บ้านลีที แต่ก็อยู่แค่ในบ้านไม่เคยออกไปไหน แม้แต่บ้านชเวก็ยังไม่เคยไป คนบ้านนั้นก็ไม่เคยเจอ นอกจากฮีชอลและคิบอม สองพี่น้องมักจะมาที่บ้านลีบ่อยๆ ส่วนซีวอนนั้นเขาเองก็ต้องทั้งเรียนและทำกิจกรรมด้วย กลับบ้านจึงได้แต่หมกตัวอยู่แต่ในห้องเพื่ออ่านหนังสือ แต่ก็ยังได้ออกมาเจอกับฮันคยองและดงแฮบ้าง แต่สำหรับคยูฮยอนส่วนใหญ่จะคลาดกันตลอด (นี่แหละน้าพรหมลิขิต -..- ~ไวท์)
พรึ่บ..
จู่ๆไฟก็พร้อมใจกันดับพรึ่บทั้งงาน ห้องโถงที่สว่างสไวมืดมิดลง ผู้คนต่างพากันตื่นตกใจ หันซ้ายทีขวาทีก็ไม่เจอใครสักคน เพราะมันมืดสนิทไปหมด.. เกิดอะไรขึ้น
~~30%~~
คือเด [สุดที่รักของผม]
(ขอบคุณเพลง To my Bride.. ของใครไม่รู้ เอามาจากจุนซูกับแจจุงโอปป้าร้องในงานแต่ง)
จบเพลงร่างสูงในชุดขาวหล่อเหลาราวกับเจ้าชายในเทพนิยาย ก็เดินลงมาจากเวที มุ่งมาหาเจ้าสาวคนสวยที่นั่งงงอยู่ ขายาวหยุดแวะจอดเอาช่อดอกไม้ที่เตรียมไว้ แล้วค่อยๆก้าวมายังที่หมาย
O_O~!!
คยูฮยอนยิ่งอึ้งเมื่อร่างสูงมาหยุดอยู่ต่อหน้า แถมยังคุกเข่าอีก
“To my Bride...ผมให้คุณครับ เจ้าสาวของผม..”
~~60%~~
ใบหน้าหล่อเหลายกยิ้มอย่างจริงใจ ช่อดอกกุหลาบกุหลาบสีขาวล้อมรอบกุหลาบสีแดงที่ถูกจัดเป็นรูปหัวใจถูกยื่นมาตรงหน้า คยูฮยอนมองซ้ายมองขวาก็เห็นสายตาทุกคู่กำลังจับจ้องมาที่เขาก็เริ่มรู้สึกเขิน เอื้อมมือไปรับช่อดอกไม้มาจากร่างสูงแล้วก็ก้มหน้างุด
ซีวอนเห็นดังนั้นก็ยิ้มและลุกขึ้นหันไปมองบรรดาแขกเหรื่อก็เขินแล้วเกาหัวอย่างอายๆ
~สงสัยมั้ยว่าทำไมต้องกุหลาบขาวกับกุหลาบแดง มันมีความหมายอย่างลึกซึ้งนะว่า
'เรามาสานหัวใจให้เป็นดวงเดียวกันเถอะ'
มันไม่ยากไปใช่ไหม ที่เราจะมาสานหัวใจของเราให้เป็นดวงเดียวกัน
..My Bride...My Kyuhyun..~
คยูฮยอนอ่านการ์ดนั้นแล้วหันมองหน้าคุณเจ้าบ่าวของตัวเอง ส่วนลึกปฏิเสธไม่ได้หรอกว่ารู้สึกดี แต่ใจยังกลัว ถ้ามีเวลามากกว่านี้ ให้ได้รู้จักคนคนนี้มากขึ้น เขาเองอาจจะเปิดใจรับได้ไม่ยากนัก..
ร่างบางหยิบกระดาษทิชชู่ แล้วคว้าปากกาที่เหน็บ(ใช้ภาษาไม่ถูก - -)อยู่ตรงกระเป๋าเสื้อสูทของซีวอนมาก้มลงเขียนอะไรยิกๆ โดยอยู่ในสายตาของร่างสูงตลอด กระดาษทิชชู่แผ่นบางถูกพันกับปากกาด้ามแพง แล้วยัดใส่มือหนาเอาไว้ ก่อนคนทำจะเนียนก้มหน้าก้มตาทานอาหาร
มือหนาแกะกระดาษออกอ่านแล้วก็ยิ้มกริ่ม..
~ผมจะบอกคุณว่ามันไม่ง่ายนักหรอกนะพิชิตใจผมเนี่ย
แต่ถ้าคุณพยายามมันก็ไม่แน่หรอก สู้ๆนะครับ คุณเจ้าบ่าว(ของผม)~
สองคนที่นั่งเงียบแต่ใบหน้าแดงเรื่อแถมยังฉาบไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสุขทำให้คนที่ร่วมโต๊ะอยู่ด้วยอดสงสัยไม่ได้ว่าสองคนยิ้มกริ่มอะไรกัน
ไม่ไกลกันนัก ดงแฮและฮีชอลที่นั่งสังเกตการณ์สองบ่าวสาวก็เกิดอาการงงแตกว่าทำไมสองคนนั้นถึงยิ้มหวานหยดกันแบบนั้น
“พี่ครับ สปาร์กกันติดแล้วเหรออ่ะ..”ดงแฮสะกิดฮีชอลยิกๆ
“คงงั้นแหละ หึหึหึ..”
“พี่หัวเราะแบบนี้หมายความว่ายังไง รู้อะไรมา บอกผมมานะ..”ดงแฮเปลี่ยนจากการสะกิดเป็นเขย่าจนฮีชอลหัวสั่นหัวคลอน
“เออ เอาหูมา.....ซุบซิบๆๆๆ..”
“เห้ย จริงดิ่ สุดยอดเลยครับพี่..”
“สนุกแน่ว่ะด๊องงานนี้..”
“มันส์ๆๆ ฮ่าๆๆๆ..”
ภาพซุบซิบแล้วหัวเราะคิกคักของฮีชอลกับดงแฮ ทำเอาหนุ่มจีนขี้หวงน้องชายอย่างฮันคยองตาโต ต่อมหวงน้องกระตุกขึ้นมาทันที
“อาตงไห่..!!”
เสียงเรียกอย่างขุ่นเคืองพร้อมกับเสื้อสูทตัวแพงถูกดึงให้ออกห่างจากคนใกล้ตัว
“เฮีย..”ดงแฮเบ้หน้าเคืองๆ แล้วกลับมานั่งที่เดิมที่ห่างจากฮีชอลประมาณสองสามที่นั่ง
“อั้วบอกเลี้ยวว่าอย่าไปใกล้อาฮีชอลอี..”
“ใกล้ฉันแล้วมันทำไมไอ้เจ๊ก..!”ฮีชอลแหวเสียงแหวกอากาศมาเถียงกลับ ถึงเวลาอาเจ๊กับอาเฮียเปิดศึกกันอีกแล้ว =w='
“ก็ม่ายทามมาย อั้วแค่กลัวแมวบ้าไม่ล่ายฉีดยาอย่างลื้อจะมาข่วงหน้าน้องอั้วน่าสิ..”
“กล้าดียังไงมาว่าฉันเป็นแมวบ้าห๊ะ ไอ้เจ๊ก ฉันไม่ข่วนหรอกด๊องน่ะถ้าเป็นแกล่ะว่าไปอย่าง จะข่วนให้เละทั้งคนทั้งหมาเลย..”
“ไอ้หยา.. มังอันทะพางกังทั้งคงทั้งแมวเลยวุ๊ย ไม่ไหวๆ น่ากลัวแท้ๆน่อ..”
“ไอ้เจ๊ก!!..”
ฮีชอลเริ่มเสียงดังจนคนอื่นๆเริ่มหันมามอง ดงแฮที่กำลังทำตัวเป็นนีโม่ล่องหน(ประมาณว่ากุไม่อยู่ตรงนี้ กุไม่รู้เรื่อง) แทบจะเอาหน้ามุดโต๊ะ จะหาใครช่วยสักคนก็คงไม่มีเพราะนอกจากเขาก็มีแค่คิบอมเท่านั้น
“พี่ๆครับ เดี๋ยวค่อยไปทะเลาะกันที่บ้านเถอะครับ คนอื่นเค้ามองกันหมดแล้วไม่อายบ้างหรือไง..”บทแรกของคิมคิบอม =[]=~
TBC>>>>
...............................................
........................................
...................................
..............................
.........................
....................
................
............
........
.....
..
.
.
.
คิบอมมีบทแล้ว ปรบมือแปะๆ - -.
เหมือนไรท์เตอร์จะจงใจลืมบอม 555 ไม่เชิงนะ แต่ไม่รู้จะให้เธอพูดอะไร เอาแบบมาดนิ่งๆดีกว่า
ป๊าวอนทำเขินอ้ะ ใครอยากได้เจ้าบ่าวแบบนี้บ้างยกมือขึ้น ตามหาๆ 5555
เหมือนตอนนี้ไรท์เตอร์จะตันๆ แต่มันก็ยังพอหวานใช้ได้อยู่ใช่มั้ยคะ
จากนี้ไปจะเริ่มบทแห่งการพิชิตใจนางเอก(?)แล้ว เป็นกำลังใจให้ป๊าวอนต่อไปด้วยนะคะ
ไปนอนละค่ะ ไว้เจอกันใหม่รีดเดอร์ที่น่ารักทุกคน ^O^~
ความคิดเห็น