ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SF] Be my HEE [... x Heechul]

    ลำดับตอนที่ #5 : [SF] Everybody is mine (?) [45%]

    • อัปเดตล่าสุด 7 ธ.ค. 53


    [SF] Everybody is mine (?)

    Couple : ... X Heechul

    Rate : ตาม ใจ ฉัน

    Talk : อย่าหวังอะไรกับมันเลยคะTT


    PART 1 : 50% (เอามาหยอดไว้ก่อน เคี๊ยกกกก)

    = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = =



    ... รักเดียวใจเดียว ไม่มีอยู่ในพจนานุกรมของคนที่ชื่อว่า ‘ คิม ฮีชอล ’ หรอกนะ ...


    ......


    ...


    ..



    “ใช่สิ!! จะไปไหนก็ไปเลยนะ จะไปมั่วที่ไหนก็เชิญ!!!” ร่างท้วมของเดฟคอนตวาดใส่คนรักของตนอย่างเหลืออด ทำไมกัน ทั้งทีเขาก็ดูแลคนตรงหน้ามาอย่างดี แต่ทำไมต้องมาคิดมีเล็กมีน้อยให้เขาต้องปวดหัวอยู่เรื่อยไป

    “ก็ที่กูต้องไปหาน้องเขาไม่ใช่เพราะมึงรึไง แม่งเห็นเด็กใหม่ดีกว่าตลอดอะ!”

    ‘ปัง!!!!!!!!!’

    ...คนรักของเขาจากไปแล้ว คงจะไปหาผู้หญิงคนนั้นอีกสินะ ‘เจสสิก้า’ เธอมันแน่มากที่มาทำให้คนรักของชั้นกล้าทิ้งชั้นไป แล้วเราจะเห็นดีกัน...

    มือหนาหยิบโทรศัพท์มือถือก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าเขายังเหลือคนอีกคนที่พร้อมจะอยู่ข้างๆ
    คน คนที่เขาคิดว่ารักเขาเพียงคนเดียว

    “ว่าไงพี่” เสียงใสขานรับเจื้อยแจ้วแต่ก็ยังไม่เว้นจะหยิบขนมเข้าปากแล้วเคี้ยวตุ้ยๆ มืออีกข้างก็กดเม้าส์เล่นเกมอย่างเมามัน..สรุปแล้วก็ดูเหมือนจะไม่ได้ใส่ที่จะคุยโทร
    ศัพท์เลยสินะ

    “คืนนี้ว่างมั้ย ไปดื่มกันเดี๋ยวพี่ไปรับ” ร่างหนาเอ่ยชวน เขารู้ดีต่อให้ไม่ชวนยังไงซะถ้าไปรับเลยฮีชอลก็ไม่เคยจะปฏิเสธเขาได้อยู่แล้ว

    “ดื่มหรอครับ พรุ่งนี้ผมมีงานตอนเช้าซะด้วยสิ แต่ไปก็ไปครับ”

    "คืนนี้สี่ทุ่มพี่ไปรับนะ”

    “แล้วเจอกันครับ”

    เดฟคอนลูบหนวดเคราของตัวเอง ร่างหนายกยิ้มขึ้นก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ...ชั้นจะทำให้นายกลับมาหาชั้นเองที่รัก เขารู้ดีว่าจะมีคนเจ็บปวดกับการที่เขาทำแบบนี้





    ‘แต่เขาไม่รู้หรอกว่าเขาอาจคิดผิดไปก็ได้’









    “ฮีชอลยังไม่นอนหรอ” เพื่อนรักของฮีชอลเปิดประตูห้องเข้ามาดูทั้งที่ดึกแล้วก็จริงแต่ฮีชอลก็ยังไม่เลิกที่จะสนใจกับเกมคอมพิวเตอร์ตรงหน้า เขาล่ะไม่รู้จริงๆนะว่ามันสนุกตกไหนไอ้ตีๆฟันๆกันเนี่ย เห็นแล้วคนแก่ล่ะปวดหัว

    “อื้ม ยังหรอกเดี๋ยววันนี้ไปกับพี่เดฟว่ะ เพิ่งกลับมาจากฟิตเนสหรอ” ฮีชอลเอ่ยถามไปแต่ก็ยังคงสนใจเกมมากกว่าเหมือนเดิมทุกที เล่นเอาคนที่พยายามจะคุยด้วยต้องเดินเข้ามานั่งรอให้ฮีชอลเล่นจนจบก่อน

    “เล่นเสร็จแล้วก็หันมาสนใจชั้นบ้างนะ”


    5นาที

    10นาที

    15นาที

    20นาที


    “เหี้ยฮี กูบอกว่ากูรอเมิงเล่นอยู่เกมห่าอะไรแต่ละรอบครึ่งชั่วโมงเลยหรอวะแม่ง!!!” ไอ้ฉายงฉายานางฟ้านะมันในจอ นอกจอมันก็มารพอๆกับอิเพื่อนเวรตรงหน้าเนี่ยล่ะ รู้มั้ยกูห่วงเมิงเลยจะคุยด้วย เสือกสนใจเกม!! มันน่าทีบให้หน้าแหกมั้ยเล่า

    “เออ รอกูเดี๋ยวขอก่อนด่านนี้กูตายมาจะห้ารอบแล้ว ไอ้เด็กเวรคยูก็ไม่เคยจะช่วยกูเล่นอะ”

    กว่าที่ฮีชอลจะยอมหันหน้าสวยๆออกมาจากคอมได้ก็ปาไปเกือบครึ่งชั่วโมง แล้วไอสี้หน้ายิ้มแย้มนั่นมันอะไร เคยมั้ยจะรู้สึกผิดที่คนเขามารอเนี่ย จองซูส่ายหน้าไปมาก่อนจะพูดเข้าประเด็น

    “เมื่อไหร่จะหยุดสักที...”

    “หยุดไรว่ะ เล่นเกมหรอ ไม่ได้อะมันอยู่ในจิตวิญญาณ”

    “หมายถึงเรื่องที่มึงคบคนไม่เลือกต่างหากเล่า แค่โดนมันหักอกเลยมั่วขนาดนี้เลยรึไง”

    จองซูไม่รู้เลยสินะว่าไอ้ประโยคที่บอกว่าโดนมันหักอกนั้นมันแทงใจดำกันชัดๆ ฮีชอลก้มหน้าลงก่อนจะเชิ่ดขึ้นอีกครั้ง ริมฝีปากอวบอิ่มนั้นพยายามจะปฏิเสธแม้ในใจก็รู้ว่ามันยังลืมไม่ได้...

    “กูไม่ได้มั่วนะ แล้วก็ ก็..กูน่ะนะ ไม่ได้อยากจะจำมันสักหน่อย แต่มึงก็รู้กูยังทำใจไม่ได้”

    “แล้วมันมีวิธีเดียวให้แกลืมมันหรอ...”

    “แล้วจะให้กูทำไงล่ะ ไม่หาคนใหม่กูก็ลืมมันไม่ได้ มึงรู้มั้ยกูรู้สึกแย่แค่ไหนที่ในหัวยังเห็นภาพมัน ภาพที่มันเคยอยู่ที่นี้ กูเจ็บ” ฮีชอลเบือนหน้าหนี กี่ครั้งแล้วที่จองซูพยายามขุดคุ้ยเรื่องพวกนี้มาตอกย้ำ แล้วเราก็จะทะเลาะกันเพราะเรื่องเดิมๆ

    “ทำไมไม่มองมาที่กูบ้างละ กูก็รักมึงไม่แพ้กับมันหรอกนะ กูรัก รักมึงมากกว่ามันกูมั่นใจ” จองซูคว้าเอวบางของฮีชอลเข้ามากอด เหมือนกับสติของฮีชอลนั่นหลุดไปชั่วขณะไม่ทันที่จะได้คิดอะไร ริมฝีปากบางๆของจองซูก็ทาบทับลงมาที่เรียวปากอิ่มลิ้นเรียวของทั้งคู่เกี่ยวกระหวัดกันไปมา


    ...หัวใจของฮีชอล เต้นแรงขนาดนี้เชียวหรอ?...


    ‘Rrrrr Rrrrr Rrrrr’


    ทั้งคู่ผละออกจากกันทันที ฮีชอลหอบน้อยๆก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูไม่รู้ว่าจะขอบคุณเสียงโทรศัพท์ของตนเองดีห
    รือไม่ที่ดันดังขึ้นมาตอนนี้

    “กูขอโทษ กูไม่รู้ว่ากูคิดไงกับมึง...กูไปก่อนนะ”



    ......



    “ขอโทษที่ให้รอนานครับ ไปกันเถอะ” ไม่ทันได้ทักทายก็รีบเอ่ยขอโทษขอโพยไว้ก่อน ขาเรียวก้าวขึ้นมอช้อปเปอร์ของร่างหนา มือเรียวก็โอบเอวแล้วเอาหน้าแนบกับแผ่นหลังกว้าง

    “อื้อ นั่งดีดีล่ะ”

    ความเร็วของช้อปเปอร์คันหรูยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆสายลมอ่อนๆในฤดูหนาวพัดผ่านรอบๆกาย
    จนฮีชอลต้องกระชับอ้อมแขนให้แน่นขึ้นไปอีก อยู่ดีดีภาพที่ตนเองนั้นกำลังจูบกับเพื่อนรักก็แว๊บผ่านเข้ามาในหัว… ฮีชอลยอมรับว่าหัวใจมันเต้นแรง แต่เพราะ ‘จูบ’ หรือ ‘ความรู้สึก’ กันแน่ล่ะ?

    กว่าจะรู้สึกตัวอีกทีก็คงเป็นตอนที่ร่างหนานั้นหันมาโอบเอวตนเองเดินเข้าไปในร้านเหล้าร้านประจำของทั้งคู่ เดิมทีฮีชอลกะจะดื่มแค่เบาๆแต่สงสัยวันนี้คงจะยาวซะแล้วสิ

    “ดื่มไรล่ะ วันนี้พี่เลี้ยงเอง”

    “แล้วแต่พี่สิ อยากหาอะไรกระหนวมเฟิ้มๆอีกสิท่า..” ฮีชอลตอบไปเบาๆ แล้วหันมองรอบๆร้าน ดวงตากลมโตนั้นดันไปสะดุดกับคนคนนึง…เหมือนจะไม่ได้เจอกันนานแล้วสินะครับ สงสัยต้องแวะเวียนไปเยี่ยมสักหน่อยแล้วสิ

    “งั้นก็เอาออนเดอะร็อคแล้วกันนะ”

    “อื้มม ม พี่ครับนั่นมันพี่มยองซูกับยัยสิก้าหนิ” ฮีชอลเปรยออกมาหลังจากที่เลิกสนใจกับอดีตกิ๊กเก่าของตนแล้วหันไปมองมุมมืดๆของร้านตรงนั้นแทน

    “อย่าพูดถึงชื่อมัน...” ร่างหนากำหมัดแน่น ในใจก็อยากจะเดินไปกระชากสองคนเลวนั่นขึ้นมา แต่เรื่องแบบนี้ยังเป็นความลับอยู่ใครจะอยากทำให้มันแดงขึ้นมากันล่ะ


    “อะไรกันเนี่ย พี่ไม่ชอบยัยสิก้าหรือว่ามีปัญหากับพี่มยองซูกันแน่”

    “ออนเดอะร็อคได้แล้วครับ” บาร์เทนเดอร์หนุ่มหน้าหวานยื่นแก้ววิสกี้สีอำพันให้กับทั้งคู่ก่อนที่จะส่งยิ้มหวานๆ
    ให้กับร่างหนาข้างๆฮีชอล

    “มยองซูมันก็งี้ละ มั่วไปทั่วนายก็เตือนน้องรักหน่อยแล้วกันนะว่าอย่าไปยุ่งกับมันให้มากไป”

    “บ้าหน่าพี่! นี่ขนาดไม่ดื่มยังฟุ้งซ่านขนาดนี้ เฮ้อ! ตอนนี้อยู่กับผมก็สนใจแต่ผมสิ” พูดจบก็กระดกออนเดอะร็อคกระแทกปาก ใบหน้าหวานขึ้นสีอ่อนๆจากวิสกี้ชั้นดี สงสัยคืนนี้เขาคงงานงอกแน่ๆ

    แก้วสุราเมรัยที่ว่างเปล่าใบแล้วใบเล่าก็ไม่ได้ทำให้ทั้งคู่นั่นมึนเมาจนขาดสติขนาดนั้น พอทั้งคู่รู้สึกรึ่มๆก็เริ่มที่จะพูดไม่รู้เรื่องพาลจนถึงฮีชอลต้องโทรเรียกให้เมเนที่รักขับรถมารับกลับ

    “อะอ๋า..~ พี่แทบิ้นน ขอบคุณมากคร้าบผมที่มาส้งงง” ฮีชอลโบกมือบ้ายบาย ผิดกับคุณเมเนเจอร์ที่นั่งหน้าหงิก ก็รู้นะว่าตอนนั้นเขากับฮีชอลพลาดด้วยกันทั้งคู่ แต่พอคนมันได้ชื่อว่าเคยๆกันแล้วมันก็อดหวงไม่ได้

    “ไปกันเถอะฮีชอล ” ร่างหนาหอมแก้มนวลใสของร่างบางเบาๆก่อนที่จะพากันขึ้นคอนโดไป เหลือไว้ก็ได้คนที่นั่งอยู่ในรถให้เจ็บใจเล่นๆ

    ........



    .....



    ....

    ร่างบางของฮีชอลนอนหายใจเหนื่อยหอบอยู่บนเตียงกว้างภายใต้อ้อมกอดอุ่นๆของรุ่นพี่คนส
    นิท หนวดเคราเฟิ้มคอยที่จะซุกโซร้ซอกคอขาวให้จักจี้เล่นนั้นทำเอาฮีชอลดิ้นดุ๊กดิ๊กตลอดเวลา

    “อ๊า!! หยุดเล่นก่อนสิ โทรศัพท์ผมดังน่ะ” ฮีชอลดันตัวร่างหนาออกไปก่อนจะคว้าไอโฟนสี่ขึ้นมาเตรียมจะกดรับสาย...

    ‘Park Jungsu ^_^~’

    เมื่อเห็นว่าใครเป็นคนโทรเข้าฮีชอลก็ถอนหายใจเบาๆ เหลือบไปตูนาฬิกาข้างเตียงที่กำลังตีบอกเวลาตีสาม ถ้าเดาไม่ผิดคงโทรมาตามให้กลับหอตามเคยสินะ

    “ว่าไง มีอะไรอีกล่ะ”

    “ทำไมยังไม่กลับหออีกล่ะ จะเช้าแล้วนะ” จองซูเอ่ยถามออกไปทั้งทีอีกใจนึงอยากจะตบหัวตัวเองแรงๆซักที เผลอไปจูบฮีชอลซะแบบนั้นแล้วยังมีหน้ามาขอให้เขากลับมาเจอตัวเองเนี่ยนะ แกบ้าไปแล้วปาร์ค จองซู

    “นายนอนไปเถอะ วันนี้จะข้างบ้านพี่เดฟไม่ต้องรอหรอก แค่นี้นะ ฝันดีล่ะ” ฮีชอลกดตัดสายแล้วล้มตัวลงนอนแล้วเข้าไปซุกหาไออุ่นจากอกกว้างทันที

    ความสัมพันธ์ของฮีชอลกับทุกคนนั้นคือการไม่ผูกมัดกันและกันเอาไว้ ก็แค่ให้รู้ว่ายังมีกันก็พอ… ฮีชอลเข็ดแล้วจริงๆ พอกันทีกับคำว่า‘คนรัก’ ที่สุดท้ายแล้วก็รักแต่ตัวเอง…

    ..


    ..


    ..

    แสงตะวันสาดส่องเข้ามาผ่านกระจกบานกว้างกระทบกับผิวนวลเนียนของฮีชอลที่กำลังรีบใส่เ
    สื้อผ้าอย่างลวกๆแล้วออกไปที่บริษัท เช้านี้ฮีชอลต้องรีบเข้าไปคุยงานเรื่องการที่จะเป็นเอ็มซีเพิ่มอีกรายการ..

    ‘แน่ล่ะไม่มีอะไรได้มาฟรีๆ อยากจะได้งานก็ต้องอดทน ยอมที่จะทำ..ทุกอย่าง..’


    “ทางนี้ชอลลี่!!”

    “พี่แทบิน ผมบอกแล้วไงอย่าเรียกแบบนี้ ถ้าใครได้ยินเข้ามีเรื่องแน่!” ทันทีที่ฮีชอลเปิดประตูขึ้นนั่งก็หันไปโวยคุณเมเนตัวดีพร้อมกับค้อนแรงๆอีกด้วย

    “นายไม่ควรทำแบบนี้…”

    “หยุดเลย ถ้าจะขอให้ผมหยุดละก็ไม่มีทาง!! พี่รีบๆขับรถเข้าเลยนะ ถ้าอาจารย์อีว่าผมผมจะโทษพี่จริงๆด้วย”

    ‘คิม ฮีชอลก็เป็นแบบนี้ประจำสินะ…ไม่เคยที่จะแคร์ความรู้สึกใครบ้างเลย’


    “ขอบคุณมากนะครับ แล้วผมเสร็จธุระเมื่อไหร่จะโทรเรียก” ฮีชอลก้มหัวขอบคุณแล้วลงจากรถทันที เล่นเอาคนที่กำลังจะชวนไปทานข้าวด้วยกันตอนเย็นนั้นหน้าบูดทันที ขนาดเจอเพื่อนรักอย่างซึงฮวานชวนไปสูบบุหรี่ด้วยกันยังเมิน!!!

    ขาเรียวยาวรีบก้าวเดินไปยังห้องอาจารย์ของตนทันที… งานพิธีกรรายการใหม่มีให้เลือกตั้งมาก ความจริงฮีชอลอาจจะได้ทำงานมากกว่านี้ถ้าไม่ติดซะว่าท่านอาจารย์ของเขานั้นหวงตัวฮีช
    อลยิ่งกว่าไข่ในหินเสียอีก… ช่างไม่รู้เลยสินะคุณอี ซูมาน… ฮีชอลน่ะรักทุกคน ไม่ใช่เพียงแค่คุณหรอกนะ^^

    ‘ก๊อก ก๊อก ก๊อก’

    “สวัสดีครับอาจารย์อี ซู มาน … อ๊ะ!!! เล่นแบบนี้ก็ตกใจแย่สิครับ!!” มือบางลูบแก้มตัวเองที่เพิ่งจะโดนแอบหอมแก้มเบาๆ แกล้งทำดูเหมือนเขิน… นี่ล่ะ มารยาขั้นแรกของฮีชอล…
    “นั่งก่อนสิ เดี๋ยวเราค่อยคุยเรื่อง ‘ของเรา’ กันอีกทีนะ”
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×