ลำดับตอนที่ #5
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : [SF] Everybody is mine (?) [45%]
[SF] Everybody is mine (?)
Couple : ... X Heechul
Rate : ตาม ใจ ฉัน
Talk : อย่าหวังอะไรกับมันเลยคะTT
PART 1 : 50% (เอามาหยอดไว้ก่อน เคี๊ยกกกก)
= = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = =
... รักเดียวใจเดียว ไม่มีอยู่ในพจนานุกรมของคนที่ชื่อว่า ‘ คิม ฮีชอล ’ หรอกนะ ...
......
...
..
“ใช่สิ!! จะไปไหนก็ไปเลยนะ จะไปมั่วที่ไหนก็เชิญ!!!” ร่างท้วมของเดฟคอนตวาดใส่คนรักของตนอย่างเหลืออด ทำไมกัน ทั้งทีเขาก็ดูแลคนตรงหน้ามาอย่างดี แต่ทำไมต้องมาคิดมีเล็กมีน้อยให้เขาต้องปวดหัวอยู่เรื่อยไป
“ก็ที่กูต้องไปหาน้องเขาไม่ใช่เพราะมึงรึไง แม่งเห็นเด็กใหม่ดีกว่าตลอดอะ!”
‘ปัง!!!!!!!!!’
...คนรักของเขาจากไปแล้ว คงจะไปหาผู้หญิงคนนั้นอีกสินะ ‘เจสสิก้า’ เธอมันแน่มากที่มาทำให้คนรักของชั้นกล้าทิ้งชั้นไป แล้วเราจะเห็นดีกัน...
มือหนาหยิบโทรศัพท์มือถือก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าเขายังเหลือคนอีกคนที่พร้อมจะอยู่ข้างๆ
คน คนที่เขาคิดว่ารักเขาเพียงคนเดียว
“ว่าไงพี่” เสียงใสขานรับเจื้อยแจ้วแต่ก็ยังไม่เว้นจะหยิบขนมเข้าปากแล้วเคี้ยวตุ้ยๆ มืออีกข้างก็กดเม้าส์เล่นเกมอย่างเมามัน..สรุปแล้วก็ดูเหมือนจะไม่ได้ใส่ที่จะคุยโทร
ศัพท์เลยสินะ
“คืนนี้ว่างมั้ย ไปดื่มกันเดี๋ยวพี่ไปรับ” ร่างหนาเอ่ยชวน เขารู้ดีต่อให้ไม่ชวนยังไงซะถ้าไปรับเลยฮีชอลก็ไม่เคยจะปฏิเสธเขาได้อยู่แล้ว
“ดื่มหรอครับ พรุ่งนี้ผมมีงานตอนเช้าซะด้วยสิ แต่ไปก็ไปครับ”
"คืนนี้สี่ทุ่มพี่ไปรับนะ”
“แล้วเจอกันครับ”
เดฟคอนลูบหนวดเคราของตัวเอง ร่างหนายกยิ้มขึ้นก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ...ชั้นจะทำให้นายกลับมาหาชั้นเองที่รัก เขารู้ดีว่าจะมีคนเจ็บปวดกับการที่เขาทำแบบนี้
‘แต่เขาไม่รู้หรอกว่าเขาอาจคิดผิดไปก็ได้’
“ฮีชอลยังไม่นอนหรอ” เพื่อนรักของฮีชอลเปิดประตูห้องเข้ามาดูทั้งที่ดึกแล้วก็จริงแต่ฮีชอลก็ยังไม่เลิกที่จะสนใจกับเกมคอมพิวเตอร์ตรงหน้า เขาล่ะไม่รู้จริงๆนะว่ามันสนุกตกไหนไอ้ตีๆฟันๆกันเนี่ย เห็นแล้วคนแก่ล่ะปวดหัว
“อื้ม ยังหรอกเดี๋ยววันนี้ไปกับพี่เดฟว่ะ เพิ่งกลับมาจากฟิตเนสหรอ” ฮีชอลเอ่ยถามไปแต่ก็ยังคงสนใจเกมมากกว่าเหมือนเดิมทุกที เล่นเอาคนที่พยายามจะคุยด้วยต้องเดินเข้ามานั่งรอให้ฮีชอลเล่นจนจบก่อน
“เล่นเสร็จแล้วก็หันมาสนใจชั้นบ้างนะ”
5นาที
10นาที
15นาที
20นาที
“เหี้ยฮี กูบอกว่ากูรอเมิงเล่นอยู่เกมห่าอะไรแต่ละรอบครึ่งชั่วโมงเลยหรอวะแม่ง!!!” ไอ้ฉายงฉายานางฟ้านะมันในจอ นอกจอมันก็มารพอๆกับอิเพื่อนเวรตรงหน้าเนี่ยล่ะ รู้มั้ยกูห่วงเมิงเลยจะคุยด้วย เสือกสนใจเกม!! มันน่าทีบให้หน้าแหกมั้ยเล่า
“เออ รอกูเดี๋ยวขอก่อนด่านนี้กูตายมาจะห้ารอบแล้ว ไอ้เด็กเวรคยูก็ไม่เคยจะช่วยกูเล่นอะ”
กว่าที่ฮีชอลจะยอมหันหน้าสวยๆออกมาจากคอมได้ก็ปาไปเกือบครึ่งชั่วโมง แล้วไอสี้หน้ายิ้มแย้มนั่นมันอะไร เคยมั้ยจะรู้สึกผิดที่คนเขามารอเนี่ย จองซูส่ายหน้าไปมาก่อนจะพูดเข้าประเด็น
“เมื่อไหร่จะหยุดสักที...”
“หยุดไรว่ะ เล่นเกมหรอ ไม่ได้อะมันอยู่ในจิตวิญญาณ”
“หมายถึงเรื่องที่มึงคบคนไม่เลือกต่างหากเล่า แค่โดนมันหักอกเลยมั่วขนาดนี้เลยรึไง”
จองซูไม่รู้เลยสินะว่าไอ้ประโยคที่บอกว่าโดนมันหักอกนั้นมันแทงใจดำกันชัดๆ ฮีชอลก้มหน้าลงก่อนจะเชิ่ดขึ้นอีกครั้ง ริมฝีปากอวบอิ่มนั้นพยายามจะปฏิเสธแม้ในใจก็รู้ว่ามันยังลืมไม่ได้...
“กูไม่ได้มั่วนะ แล้วก็ ก็..กูน่ะนะ ไม่ได้อยากจะจำมันสักหน่อย แต่มึงก็รู้กูยังทำใจไม่ได้”
“แล้วมันมีวิธีเดียวให้แกลืมมันหรอ...”
“แล้วจะให้กูทำไงล่ะ ไม่หาคนใหม่กูก็ลืมมันไม่ได้ มึงรู้มั้ยกูรู้สึกแย่แค่ไหนที่ในหัวยังเห็นภาพมัน ภาพที่มันเคยอยู่ที่นี้ กูเจ็บ” ฮีชอลเบือนหน้าหนี กี่ครั้งแล้วที่จองซูพยายามขุดคุ้ยเรื่องพวกนี้มาตอกย้ำ แล้วเราก็จะทะเลาะกันเพราะเรื่องเดิมๆ
“ทำไมไม่มองมาที่กูบ้างละ กูก็รักมึงไม่แพ้กับมันหรอกนะ กูรัก รักมึงมากกว่ามันกูมั่นใจ” จองซูคว้าเอวบางของฮีชอลเข้ามากอด เหมือนกับสติของฮีชอลนั่นหลุดไปชั่วขณะไม่ทันที่จะได้คิดอะไร ริมฝีปากบางๆของจองซูก็ทาบทับลงมาที่เรียวปากอิ่มลิ้นเรียวของทั้งคู่เกี่ยวกระหวัดกันไปมา
...หัวใจของฮีชอล เต้นแรงขนาดนี้เชียวหรอ?...
‘Rrrrr Rrrrr Rrrrr’
ทั้งคู่ผละออกจากกันทันที ฮีชอลหอบน้อยๆก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูไม่รู้ว่าจะขอบคุณเสียงโทรศัพท์ของตนเองดีห
รือไม่ที่ดันดังขึ้นมาตอนนี้
“กูขอโทษ กูไม่รู้ว่ากูคิดไงกับมึง...กูไปก่อนนะ”
......
“ขอโทษที่ให้รอนานครับ ไปกันเถอะ” ไม่ทันได้ทักทายก็รีบเอ่ยขอโทษขอโพยไว้ก่อน ขาเรียวก้าวขึ้นมอช้อปเปอร์ของร่างหนา มือเรียวก็โอบเอวแล้วเอาหน้าแนบกับแผ่นหลังกว้าง
“อื้อ นั่งดีดีล่ะ”
ความเร็วของช้อปเปอร์คันหรูยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆสายลมอ่อนๆในฤดูหนาวพัดผ่านรอบๆกาย
จนฮีชอลต้องกระชับอ้อมแขนให้แน่นขึ้นไปอีก อยู่ดีดีภาพที่ตนเองนั้นกำลังจูบกับเพื่อนรักก็แว๊บผ่านเข้ามาในหัว ฮีชอลยอมรับว่าหัวใจมันเต้นแรง แต่เพราะ ‘จูบ’ หรือ ‘ความรู้สึก’ กันแน่ล่ะ?
กว่าจะรู้สึกตัวอีกทีก็คงเป็นตอนที่ร่างหนานั้นหันมาโอบเอวตนเองเดินเข้าไปในร้านเหล้าร้านประจำของทั้งคู่ เดิมทีฮีชอลกะจะดื่มแค่เบาๆแต่สงสัยวันนี้คงจะยาวซะแล้วสิ
“ดื่มไรล่ะ วันนี้พี่เลี้ยงเอง”
“แล้วแต่พี่สิ อยากหาอะไรกระหนวมเฟิ้มๆอีกสิท่า..” ฮีชอลตอบไปเบาๆ แล้วหันมองรอบๆร้าน ดวงตากลมโตนั้นดันไปสะดุดกับคนคนนึง เหมือนจะไม่ได้เจอกันนานแล้วสินะครับ สงสัยต้องแวะเวียนไปเยี่ยมสักหน่อยแล้วสิ
“งั้นก็เอาออนเดอะร็อคแล้วกันนะ”
“อื้มม ม พี่ครับนั่นมันพี่มยองซูกับยัยสิก้าหนิ” ฮีชอลเปรยออกมาหลังจากที่เลิกสนใจกับอดีตกิ๊กเก่าของตนแล้วหันไปมองมุมมืดๆของร้านตรงนั้นแทน
“อย่าพูดถึงชื่อมัน...” ร่างหนากำหมัดแน่น ในใจก็อยากจะเดินไปกระชากสองคนเลวนั่นขึ้นมา แต่เรื่องแบบนี้ยังเป็นความลับอยู่ใครจะอยากทำให้มันแดงขึ้นมากันล่ะ
“อะไรกันเนี่ย พี่ไม่ชอบยัยสิก้าหรือว่ามีปัญหากับพี่มยองซูกันแน่”
“ออนเดอะร็อคได้แล้วครับ” บาร์เทนเดอร์หนุ่มหน้าหวานยื่นแก้ววิสกี้สีอำพันให้กับทั้งคู่ก่อนที่จะส่งยิ้มหวานๆ
ให้กับร่างหนาข้างๆฮีชอล
“มยองซูมันก็งี้ละ มั่วไปทั่วนายก็เตือนน้องรักหน่อยแล้วกันนะว่าอย่าไปยุ่งกับมันให้มากไป”
“บ้าหน่าพี่! นี่ขนาดไม่ดื่มยังฟุ้งซ่านขนาดนี้ เฮ้อ! ตอนนี้อยู่กับผมก็สนใจแต่ผมสิ” พูดจบก็กระดกออนเดอะร็อคกระแทกปาก ใบหน้าหวานขึ้นสีอ่อนๆจากวิสกี้ชั้นดี สงสัยคืนนี้เขาคงงานงอกแน่ๆ
แก้วสุราเมรัยที่ว่างเปล่าใบแล้วใบเล่าก็ไม่ได้ทำให้ทั้งคู่นั่นมึนเมาจนขาดสติขนาดนั้น พอทั้งคู่รู้สึกรึ่มๆก็เริ่มที่จะพูดไม่รู้เรื่องพาลจนถึงฮีชอลต้องโทรเรียกให้เมเนที่รักขับรถมารับกลับ
“อะอ๋า..~ พี่แทบิ้นน ขอบคุณมากคร้าบผมที่มาส้งงง” ฮีชอลโบกมือบ้ายบาย ผิดกับคุณเมเนเจอร์ที่นั่งหน้าหงิก ก็รู้นะว่าตอนนั้นเขากับฮีชอลพลาดด้วยกันทั้งคู่ แต่พอคนมันได้ชื่อว่าเคยๆกันแล้วมันก็อดหวงไม่ได้
“ไปกันเถอะฮีชอล ” ร่างหนาหอมแก้มนวลใสของร่างบางเบาๆก่อนที่จะพากันขึ้นคอนโดไป เหลือไว้ก็ได้คนที่นั่งอยู่ในรถให้เจ็บใจเล่นๆ
........
.....
....
ร่างบางของฮีชอลนอนหายใจเหนื่อยหอบอยู่บนเตียงกว้างภายใต้อ้อมกอดอุ่นๆของรุ่นพี่คนส
นิท หนวดเคราเฟิ้มคอยที่จะซุกโซร้ซอกคอขาวให้จักจี้เล่นนั้นทำเอาฮีชอลดิ้นดุ๊กดิ๊กตลอดเวลา
“อ๊า!! หยุดเล่นก่อนสิ โทรศัพท์ผมดังน่ะ” ฮีชอลดันตัวร่างหนาออกไปก่อนจะคว้าไอโฟนสี่ขึ้นมาเตรียมจะกดรับสาย...
‘Park Jungsu ^_^~’
เมื่อเห็นว่าใครเป็นคนโทรเข้าฮีชอลก็ถอนหายใจเบาๆ เหลือบไปตูนาฬิกาข้างเตียงที่กำลังตีบอกเวลาตีสาม ถ้าเดาไม่ผิดคงโทรมาตามให้กลับหอตามเคยสินะ
“ว่าไง มีอะไรอีกล่ะ”
“ทำไมยังไม่กลับหออีกล่ะ จะเช้าแล้วนะ” จองซูเอ่ยถามออกไปทั้งทีอีกใจนึงอยากจะตบหัวตัวเองแรงๆซักที เผลอไปจูบฮีชอลซะแบบนั้นแล้วยังมีหน้ามาขอให้เขากลับมาเจอตัวเองเนี่ยนะ แกบ้าไปแล้วปาร์ค จองซู
“นายนอนไปเถอะ วันนี้จะข้างบ้านพี่เดฟไม่ต้องรอหรอก แค่นี้นะ ฝันดีล่ะ” ฮีชอลกดตัดสายแล้วล้มตัวลงนอนแล้วเข้าไปซุกหาไออุ่นจากอกกว้างทันที
ความสัมพันธ์ของฮีชอลกับทุกคนนั้นคือการไม่ผูกมัดกันและกันเอาไว้ ก็แค่ให้รู้ว่ายังมีกันก็พอ ฮีชอลเข็ดแล้วจริงๆ พอกันทีกับคำว่า‘คนรัก’ ที่สุดท้ายแล้วก็รักแต่ตัวเอง
..
..
..
แสงตะวันสาดส่องเข้ามาผ่านกระจกบานกว้างกระทบกับผิวนวลเนียนของฮีชอลที่กำลังรีบใส่เ
สื้อผ้าอย่างลวกๆแล้วออกไปที่บริษัท เช้านี้ฮีชอลต้องรีบเข้าไปคุยงานเรื่องการที่จะเป็นเอ็มซีเพิ่มอีกรายการ..
‘แน่ล่ะไม่มีอะไรได้มาฟรีๆ อยากจะได้งานก็ต้องอดทน ยอมที่จะทำ..ทุกอย่าง..’
“ทางนี้ชอลลี่!!”
“พี่แทบิน ผมบอกแล้วไงอย่าเรียกแบบนี้ ถ้าใครได้ยินเข้ามีเรื่องแน่!” ทันทีที่ฮีชอลเปิดประตูขึ้นนั่งก็หันไปโวยคุณเมเนตัวดีพร้อมกับค้อนแรงๆอีกด้วย
“นายไม่ควรทำแบบนี้ ”
“หยุดเลย ถ้าจะขอให้ผมหยุดละก็ไม่มีทาง!! พี่รีบๆขับรถเข้าเลยนะ ถ้าอาจารย์อีว่าผมผมจะโทษพี่จริงๆด้วย”
‘คิม ฮีชอลก็เป็นแบบนี้ประจำสินะ ไม่เคยที่จะแคร์ความรู้สึกใครบ้างเลย’
“ขอบคุณมากนะครับ แล้วผมเสร็จธุระเมื่อไหร่จะโทรเรียก” ฮีชอลก้มหัวขอบคุณแล้วลงจากรถทันที เล่นเอาคนที่กำลังจะชวนไปทานข้าวด้วยกันตอนเย็นนั้นหน้าบูดทันที ขนาดเจอเพื่อนรักอย่างซึงฮวานชวนไปสูบบุหรี่ด้วยกันยังเมิน!!!
ขาเรียวยาวรีบก้าวเดินไปยังห้องอาจารย์ของตนทันที งานพิธีกรรายการใหม่มีให้เลือกตั้งมาก ความจริงฮีชอลอาจจะได้ทำงานมากกว่านี้ถ้าไม่ติดซะว่าท่านอาจารย์ของเขานั้นหวงตัวฮีช
อลยิ่งกว่าไข่ในหินเสียอีก ช่างไม่รู้เลยสินะคุณอี ซูมาน ฮีชอลน่ะรักทุกคน ไม่ใช่เพียงแค่คุณหรอกนะ^^
‘ก๊อก ก๊อก ก๊อก’
“สวัสดีครับอาจารย์อี ซู มาน อ๊ะ!!! เล่นแบบนี้ก็ตกใจแย่สิครับ!!” มือบางลูบแก้มตัวเองที่เพิ่งจะโดนแอบหอมแก้มเบาๆ แกล้งทำดูเหมือนเขิน นี่ล่ะ มารยาขั้นแรกของฮีชอล
“นั่งก่อนสิ เดี๋ยวเราค่อยคุยเรื่อง ‘ของเรา’ กันอีกทีนะ”
Couple : ... X Heechul
Rate : ตาม ใจ ฉัน
Talk : อย่าหวังอะไรกับมันเลยคะTT
PART 1 : 50% (เอามาหยอดไว้ก่อน เคี๊ยกกกก)
= = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = =
... รักเดียวใจเดียว ไม่มีอยู่ในพจนานุกรมของคนที่ชื่อว่า ‘ คิม ฮีชอล ’ หรอกนะ ...
......
...
..
“ใช่สิ!! จะไปไหนก็ไปเลยนะ จะไปมั่วที่ไหนก็เชิญ!!!” ร่างท้วมของเดฟคอนตวาดใส่คนรักของตนอย่างเหลืออด ทำไมกัน ทั้งทีเขาก็ดูแลคนตรงหน้ามาอย่างดี แต่ทำไมต้องมาคิดมีเล็กมีน้อยให้เขาต้องปวดหัวอยู่เรื่อยไป
“ก็ที่กูต้องไปหาน้องเขาไม่ใช่เพราะมึงรึไง แม่งเห็นเด็กใหม่ดีกว่าตลอดอะ!”
‘ปัง!!!!!!!!!’
...คนรักของเขาจากไปแล้ว คงจะไปหาผู้หญิงคนนั้นอีกสินะ ‘เจสสิก้า’ เธอมันแน่มากที่มาทำให้คนรักของชั้นกล้าทิ้งชั้นไป แล้วเราจะเห็นดีกัน...
มือหนาหยิบโทรศัพท์มือถือก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าเขายังเหลือคนอีกคนที่พร้อมจะอยู่ข้างๆ
คน คนที่เขาคิดว่ารักเขาเพียงคนเดียว
“ว่าไงพี่” เสียงใสขานรับเจื้อยแจ้วแต่ก็ยังไม่เว้นจะหยิบขนมเข้าปากแล้วเคี้ยวตุ้ยๆ มืออีกข้างก็กดเม้าส์เล่นเกมอย่างเมามัน..สรุปแล้วก็ดูเหมือนจะไม่ได้ใส่ที่จะคุยโทร
ศัพท์เลยสินะ
“คืนนี้ว่างมั้ย ไปดื่มกันเดี๋ยวพี่ไปรับ” ร่างหนาเอ่ยชวน เขารู้ดีต่อให้ไม่ชวนยังไงซะถ้าไปรับเลยฮีชอลก็ไม่เคยจะปฏิเสธเขาได้อยู่แล้ว
“ดื่มหรอครับ พรุ่งนี้ผมมีงานตอนเช้าซะด้วยสิ แต่ไปก็ไปครับ”
"คืนนี้สี่ทุ่มพี่ไปรับนะ”
“แล้วเจอกันครับ”
เดฟคอนลูบหนวดเคราของตัวเอง ร่างหนายกยิ้มขึ้นก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ...ชั้นจะทำให้นายกลับมาหาชั้นเองที่รัก เขารู้ดีว่าจะมีคนเจ็บปวดกับการที่เขาทำแบบนี้
‘แต่เขาไม่รู้หรอกว่าเขาอาจคิดผิดไปก็ได้’
“ฮีชอลยังไม่นอนหรอ” เพื่อนรักของฮีชอลเปิดประตูห้องเข้ามาดูทั้งที่ดึกแล้วก็จริงแต่ฮีชอลก็ยังไม่เลิกที่จะสนใจกับเกมคอมพิวเตอร์ตรงหน้า เขาล่ะไม่รู้จริงๆนะว่ามันสนุกตกไหนไอ้ตีๆฟันๆกันเนี่ย เห็นแล้วคนแก่ล่ะปวดหัว
“อื้ม ยังหรอกเดี๋ยววันนี้ไปกับพี่เดฟว่ะ เพิ่งกลับมาจากฟิตเนสหรอ” ฮีชอลเอ่ยถามไปแต่ก็ยังคงสนใจเกมมากกว่าเหมือนเดิมทุกที เล่นเอาคนที่พยายามจะคุยด้วยต้องเดินเข้ามานั่งรอให้ฮีชอลเล่นจนจบก่อน
“เล่นเสร็จแล้วก็หันมาสนใจชั้นบ้างนะ”
5นาที
10นาที
15นาที
20นาที
“เหี้ยฮี กูบอกว่ากูรอเมิงเล่นอยู่เกมห่าอะไรแต่ละรอบครึ่งชั่วโมงเลยหรอวะแม่ง!!!” ไอ้ฉายงฉายานางฟ้านะมันในจอ นอกจอมันก็มารพอๆกับอิเพื่อนเวรตรงหน้าเนี่ยล่ะ รู้มั้ยกูห่วงเมิงเลยจะคุยด้วย เสือกสนใจเกม!! มันน่าทีบให้หน้าแหกมั้ยเล่า
“เออ รอกูเดี๋ยวขอก่อนด่านนี้กูตายมาจะห้ารอบแล้ว ไอ้เด็กเวรคยูก็ไม่เคยจะช่วยกูเล่นอะ”
กว่าที่ฮีชอลจะยอมหันหน้าสวยๆออกมาจากคอมได้ก็ปาไปเกือบครึ่งชั่วโมง แล้วไอสี้หน้ายิ้มแย้มนั่นมันอะไร เคยมั้ยจะรู้สึกผิดที่คนเขามารอเนี่ย จองซูส่ายหน้าไปมาก่อนจะพูดเข้าประเด็น
“เมื่อไหร่จะหยุดสักที...”
“หยุดไรว่ะ เล่นเกมหรอ ไม่ได้อะมันอยู่ในจิตวิญญาณ”
“หมายถึงเรื่องที่มึงคบคนไม่เลือกต่างหากเล่า แค่โดนมันหักอกเลยมั่วขนาดนี้เลยรึไง”
จองซูไม่รู้เลยสินะว่าไอ้ประโยคที่บอกว่าโดนมันหักอกนั้นมันแทงใจดำกันชัดๆ ฮีชอลก้มหน้าลงก่อนจะเชิ่ดขึ้นอีกครั้ง ริมฝีปากอวบอิ่มนั้นพยายามจะปฏิเสธแม้ในใจก็รู้ว่ามันยังลืมไม่ได้...
“กูไม่ได้มั่วนะ แล้วก็ ก็..กูน่ะนะ ไม่ได้อยากจะจำมันสักหน่อย แต่มึงก็รู้กูยังทำใจไม่ได้”
“แล้วมันมีวิธีเดียวให้แกลืมมันหรอ...”
“แล้วจะให้กูทำไงล่ะ ไม่หาคนใหม่กูก็ลืมมันไม่ได้ มึงรู้มั้ยกูรู้สึกแย่แค่ไหนที่ในหัวยังเห็นภาพมัน ภาพที่มันเคยอยู่ที่นี้ กูเจ็บ” ฮีชอลเบือนหน้าหนี กี่ครั้งแล้วที่จองซูพยายามขุดคุ้ยเรื่องพวกนี้มาตอกย้ำ แล้วเราก็จะทะเลาะกันเพราะเรื่องเดิมๆ
“ทำไมไม่มองมาที่กูบ้างละ กูก็รักมึงไม่แพ้กับมันหรอกนะ กูรัก รักมึงมากกว่ามันกูมั่นใจ” จองซูคว้าเอวบางของฮีชอลเข้ามากอด เหมือนกับสติของฮีชอลนั่นหลุดไปชั่วขณะไม่ทันที่จะได้คิดอะไร ริมฝีปากบางๆของจองซูก็ทาบทับลงมาที่เรียวปากอิ่มลิ้นเรียวของทั้งคู่เกี่ยวกระหวัดกันไปมา
...หัวใจของฮีชอล เต้นแรงขนาดนี้เชียวหรอ?...
‘Rrrrr Rrrrr Rrrrr’
ทั้งคู่ผละออกจากกันทันที ฮีชอลหอบน้อยๆก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูไม่รู้ว่าจะขอบคุณเสียงโทรศัพท์ของตนเองดีห
รือไม่ที่ดันดังขึ้นมาตอนนี้
“กูขอโทษ กูไม่รู้ว่ากูคิดไงกับมึง...กูไปก่อนนะ”
......
“ขอโทษที่ให้รอนานครับ ไปกันเถอะ” ไม่ทันได้ทักทายก็รีบเอ่ยขอโทษขอโพยไว้ก่อน ขาเรียวก้าวขึ้นมอช้อปเปอร์ของร่างหนา มือเรียวก็โอบเอวแล้วเอาหน้าแนบกับแผ่นหลังกว้าง
“อื้อ นั่งดีดีล่ะ”
ความเร็วของช้อปเปอร์คันหรูยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆสายลมอ่อนๆในฤดูหนาวพัดผ่านรอบๆกาย
จนฮีชอลต้องกระชับอ้อมแขนให้แน่นขึ้นไปอีก อยู่ดีดีภาพที่ตนเองนั้นกำลังจูบกับเพื่อนรักก็แว๊บผ่านเข้ามาในหัว ฮีชอลยอมรับว่าหัวใจมันเต้นแรง แต่เพราะ ‘จูบ’ หรือ ‘ความรู้สึก’ กันแน่ล่ะ?
กว่าจะรู้สึกตัวอีกทีก็คงเป็นตอนที่ร่างหนานั้นหันมาโอบเอวตนเองเดินเข้าไปในร้านเหล้าร้านประจำของทั้งคู่ เดิมทีฮีชอลกะจะดื่มแค่เบาๆแต่สงสัยวันนี้คงจะยาวซะแล้วสิ
“ดื่มไรล่ะ วันนี้พี่เลี้ยงเอง”
“แล้วแต่พี่สิ อยากหาอะไรกระหนวมเฟิ้มๆอีกสิท่า..” ฮีชอลตอบไปเบาๆ แล้วหันมองรอบๆร้าน ดวงตากลมโตนั้นดันไปสะดุดกับคนคนนึง เหมือนจะไม่ได้เจอกันนานแล้วสินะครับ สงสัยต้องแวะเวียนไปเยี่ยมสักหน่อยแล้วสิ
“งั้นก็เอาออนเดอะร็อคแล้วกันนะ”
“อื้มม ม พี่ครับนั่นมันพี่มยองซูกับยัยสิก้าหนิ” ฮีชอลเปรยออกมาหลังจากที่เลิกสนใจกับอดีตกิ๊กเก่าของตนแล้วหันไปมองมุมมืดๆของร้านตรงนั้นแทน
“อย่าพูดถึงชื่อมัน...” ร่างหนากำหมัดแน่น ในใจก็อยากจะเดินไปกระชากสองคนเลวนั่นขึ้นมา แต่เรื่องแบบนี้ยังเป็นความลับอยู่ใครจะอยากทำให้มันแดงขึ้นมากันล่ะ
“อะไรกันเนี่ย พี่ไม่ชอบยัยสิก้าหรือว่ามีปัญหากับพี่มยองซูกันแน่”
“ออนเดอะร็อคได้แล้วครับ” บาร์เทนเดอร์หนุ่มหน้าหวานยื่นแก้ววิสกี้สีอำพันให้กับทั้งคู่ก่อนที่จะส่งยิ้มหวานๆ
ให้กับร่างหนาข้างๆฮีชอล
“มยองซูมันก็งี้ละ มั่วไปทั่วนายก็เตือนน้องรักหน่อยแล้วกันนะว่าอย่าไปยุ่งกับมันให้มากไป”
“บ้าหน่าพี่! นี่ขนาดไม่ดื่มยังฟุ้งซ่านขนาดนี้ เฮ้อ! ตอนนี้อยู่กับผมก็สนใจแต่ผมสิ” พูดจบก็กระดกออนเดอะร็อคกระแทกปาก ใบหน้าหวานขึ้นสีอ่อนๆจากวิสกี้ชั้นดี สงสัยคืนนี้เขาคงงานงอกแน่ๆ
แก้วสุราเมรัยที่ว่างเปล่าใบแล้วใบเล่าก็ไม่ได้ทำให้ทั้งคู่นั่นมึนเมาจนขาดสติขนาดนั้น พอทั้งคู่รู้สึกรึ่มๆก็เริ่มที่จะพูดไม่รู้เรื่องพาลจนถึงฮีชอลต้องโทรเรียกให้เมเนที่รักขับรถมารับกลับ
“อะอ๋า..~ พี่แทบิ้นน ขอบคุณมากคร้าบผมที่มาส้งงง” ฮีชอลโบกมือบ้ายบาย ผิดกับคุณเมเนเจอร์ที่นั่งหน้าหงิก ก็รู้นะว่าตอนนั้นเขากับฮีชอลพลาดด้วยกันทั้งคู่ แต่พอคนมันได้ชื่อว่าเคยๆกันแล้วมันก็อดหวงไม่ได้
“ไปกันเถอะฮีชอล ” ร่างหนาหอมแก้มนวลใสของร่างบางเบาๆก่อนที่จะพากันขึ้นคอนโดไป เหลือไว้ก็ได้คนที่นั่งอยู่ในรถให้เจ็บใจเล่นๆ
........
.....
....
ร่างบางของฮีชอลนอนหายใจเหนื่อยหอบอยู่บนเตียงกว้างภายใต้อ้อมกอดอุ่นๆของรุ่นพี่คนส
นิท หนวดเคราเฟิ้มคอยที่จะซุกโซร้ซอกคอขาวให้จักจี้เล่นนั้นทำเอาฮีชอลดิ้นดุ๊กดิ๊กตลอดเวลา
“อ๊า!! หยุดเล่นก่อนสิ โทรศัพท์ผมดังน่ะ” ฮีชอลดันตัวร่างหนาออกไปก่อนจะคว้าไอโฟนสี่ขึ้นมาเตรียมจะกดรับสาย...
‘Park Jungsu ^_^~’
เมื่อเห็นว่าใครเป็นคนโทรเข้าฮีชอลก็ถอนหายใจเบาๆ เหลือบไปตูนาฬิกาข้างเตียงที่กำลังตีบอกเวลาตีสาม ถ้าเดาไม่ผิดคงโทรมาตามให้กลับหอตามเคยสินะ
“ว่าไง มีอะไรอีกล่ะ”
“ทำไมยังไม่กลับหออีกล่ะ จะเช้าแล้วนะ” จองซูเอ่ยถามออกไปทั้งทีอีกใจนึงอยากจะตบหัวตัวเองแรงๆซักที เผลอไปจูบฮีชอลซะแบบนั้นแล้วยังมีหน้ามาขอให้เขากลับมาเจอตัวเองเนี่ยนะ แกบ้าไปแล้วปาร์ค จองซู
“นายนอนไปเถอะ วันนี้จะข้างบ้านพี่เดฟไม่ต้องรอหรอก แค่นี้นะ ฝันดีล่ะ” ฮีชอลกดตัดสายแล้วล้มตัวลงนอนแล้วเข้าไปซุกหาไออุ่นจากอกกว้างทันที
ความสัมพันธ์ของฮีชอลกับทุกคนนั้นคือการไม่ผูกมัดกันและกันเอาไว้ ก็แค่ให้รู้ว่ายังมีกันก็พอ ฮีชอลเข็ดแล้วจริงๆ พอกันทีกับคำว่า‘คนรัก’ ที่สุดท้ายแล้วก็รักแต่ตัวเอง
..
..
..
แสงตะวันสาดส่องเข้ามาผ่านกระจกบานกว้างกระทบกับผิวนวลเนียนของฮีชอลที่กำลังรีบใส่เ
สื้อผ้าอย่างลวกๆแล้วออกไปที่บริษัท เช้านี้ฮีชอลต้องรีบเข้าไปคุยงานเรื่องการที่จะเป็นเอ็มซีเพิ่มอีกรายการ..
‘แน่ล่ะไม่มีอะไรได้มาฟรีๆ อยากจะได้งานก็ต้องอดทน ยอมที่จะทำ..ทุกอย่าง..’
“ทางนี้ชอลลี่!!”
“พี่แทบิน ผมบอกแล้วไงอย่าเรียกแบบนี้ ถ้าใครได้ยินเข้ามีเรื่องแน่!” ทันทีที่ฮีชอลเปิดประตูขึ้นนั่งก็หันไปโวยคุณเมเนตัวดีพร้อมกับค้อนแรงๆอีกด้วย
“นายไม่ควรทำแบบนี้ ”
“หยุดเลย ถ้าจะขอให้ผมหยุดละก็ไม่มีทาง!! พี่รีบๆขับรถเข้าเลยนะ ถ้าอาจารย์อีว่าผมผมจะโทษพี่จริงๆด้วย”
‘คิม ฮีชอลก็เป็นแบบนี้ประจำสินะ ไม่เคยที่จะแคร์ความรู้สึกใครบ้างเลย’
“ขอบคุณมากนะครับ แล้วผมเสร็จธุระเมื่อไหร่จะโทรเรียก” ฮีชอลก้มหัวขอบคุณแล้วลงจากรถทันที เล่นเอาคนที่กำลังจะชวนไปทานข้าวด้วยกันตอนเย็นนั้นหน้าบูดทันที ขนาดเจอเพื่อนรักอย่างซึงฮวานชวนไปสูบบุหรี่ด้วยกันยังเมิน!!!
ขาเรียวยาวรีบก้าวเดินไปยังห้องอาจารย์ของตนทันที งานพิธีกรรายการใหม่มีให้เลือกตั้งมาก ความจริงฮีชอลอาจจะได้ทำงานมากกว่านี้ถ้าไม่ติดซะว่าท่านอาจารย์ของเขานั้นหวงตัวฮีช
อลยิ่งกว่าไข่ในหินเสียอีก ช่างไม่รู้เลยสินะคุณอี ซูมาน ฮีชอลน่ะรักทุกคน ไม่ใช่เพียงแค่คุณหรอกนะ^^
‘ก๊อก ก๊อก ก๊อก’
“สวัสดีครับอาจารย์อี ซู มาน อ๊ะ!!! เล่นแบบนี้ก็ตกใจแย่สิครับ!!” มือบางลูบแก้มตัวเองที่เพิ่งจะโดนแอบหอมแก้มเบาๆ แกล้งทำดูเหมือนเขิน นี่ล่ะ มารยาขั้นแรกของฮีชอล
“นั่งก่อนสิ เดี๋ยวเราค่อยคุยเรื่อง ‘ของเรา’ กันอีกทีนะ”
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น