คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : มารู้จักคำศัพท์ภาษาตามโพรกันเถอะ ! (หมวด ข)
หมายเหตุ : |
ขนพอง (ก.) ขนลุก (ภาษาไทยถิ่นใต้จะใช้คำว่า ขนพอง ในความหมายแสดง
อาการหวาดกลัว)
"บ่าวไข เดินหลบบ้านผ่านเปรว ปากบอกว่า ไม่กลัวผี แต่ขนพอง"
ขบ (ออกเสียงเป็น ข็อบ) (ก.) 1. กัด " หมาขบ " = หมากัด
2. การใช้คำพูดหยอกล้อกันอย่างแรง ในกลุ่มเพื่อนที่สนิมสนม
( ความหมายเดียวกับคำว่า ทับ )
"วันนี้ โถกพี่หลวง ขบเรื่องแม่หม้าย แกแหลงยาวเป็นเรื่องเลย อิโต้แก สักคำ
กะทำไม่ได้"
วันนี้ ถูกพี่หลวง แหย่เล่นเรื่องแม่หม้าย แกพูดยาวเป็นเรื่องเลย จะโต้กลับแก
สักคำก็ยังทำไม่ได้
ข่มเห็ง ( ก) แดกดัน, ประชด
"ตายข่มเห็งเปรว" = ตายประชดป่าช้า ความหมายคือ แดกดันผู้อื่น แต่
ตัวเองเดือดร้อน
ขวฺน หา แก้ว (น.) ฝนห่าแก้ว คำนี้ ภาษาไทยถิ่นใต้ใช้ในความหมาย ลูกเห็บ :
ฝนที่ตกลงมาเป็นเม็ดแก็ว
( ในภาษาไทยถิ่นใต้จะไม่มีเสียง ฝ แต่จะใช้ เสียง ควฺ หรือ ขวฺ แทน )
ข้องใจ (ก.) เป็นห่วง ด้วยความรักและคิดถึง
"ข้องใจลูกจัง มืดปานี้แล้วยังไม่หลบบ้าน" = เป็นห่วงลูกจัง มืดป่านนี้แล้ว
ยังไม่กลับบ้านเลย ( ห่วงใยด้วยความรัก เกรงว่าจะเกิดอันตราย ไม่ได้
หมายถึง สงสัยระแวง เหมือนในภาษาบางกอก )
ข้องเชิง (ว.) พันขาตัวเอง
( เชิง มาจากภาษาเขมรแปลว่า ตีน, เท้า )มักใช้กับวัวควายที่เชือกล่ามพันขา
จนต้องยืนอยู่กับที่ ไปไหนไม่ได้ กินหญ้าก็ไม่ได้
ขอย 1. (ก.) (ออกเสียงเป็น ค้อย ) สอย
"ขอยโหลกม่วง" = สอยมะม่วง
ไม้ที่ใช้สอย จะเรียกว่า ไม้ขอย หรือ ไม้ฉอย
2. (น.) (ออกเสียงเป็น ค้อย ) หมายถึง ข่อย (ต้นไม้)
ข้างตีน , ประตีน (น.) ด้านทิศเหนือ, ทิศเหนือ
คำๆนี้มีรากศัพท์มาจากภาษาเขมรว่า คางเจิง เจิง, เชิง = ตีน ในภาษาเขมร
คางเจิง มีความหมายถึง ทิศเหนือ
ข้างเริ่น (ว.) ข้างเรือน เริ่น ก็คือ เรือน ความหมายคำนี้ คือ ข้างบ้าน ใกล้ๆบ้าน
ข้างหัวนอน , ประหัวนอน (น.) ทิศใต้
คำๆ นี้มีรากศัพท์มาจากภาษาเขมรว่า ทะโบง = หัวนอน, คางทะโบง= ข้างหัว
นอน หมายถึง ทิศใต้
หมายเหตุ : 1. คำว่า เวียตนามใต้ ในภาษาเขมรจะใช้ว่า เวียตนามคางทะโบง ( แปลเป็น ภาษาไทยถิ่นใต้ คือ เวียตนามข้างหัวนอน) และ เวียตนามเหนือ เขมรจะใช้ว่า เวียตนามคางเชิง ( แปลเป็นภาษาไทยถิ่นใต้ ก็คือ เวียตนามข้างตีน) คำว่า ข้าง ตีน,ข้างหัวนอน จึงเป็นคำใต้ที่รับอิทธิพลความหมาย มาจากภาษาเขมร แต่ดัด แปลงมาใช้คำไทยแทน 2. ในภาษาไทยถิ่นใต้ จะมีคำที่รับมาจากภาษาเขมรอีกหลายคำ เช่น " ระโนด " (ชื่ออำเภอหนึ่งของสงขลา ) มาจาก"เดิมระโนด" ในภาษาเขมร ความหมายคือ ต้นตาล " สะทิงพระ " คำว่า สะทิง ในภาษาเขมร หมายถึง คลอง " หญ้าขี้เตรย " มาจากคำว่า บันเตรย ในภาษาเขมร ความหมายคือ หญ้าเจ้าชู้ " ดอ " มาจากคำว่า กะฎอ ในภาษาเขมร ความหมายคือ อวัยวะเพศชาย ฯลฯ |
ขาดหุ้น (ว.) มีสติปัญญาไม่ครบสมบูรณ์ ไม่เต็มเต็ง
ข้าวต้ม (น.) ข้าวต้มมัด ( คนสงขลาเรียกข้าวต้มมัดว่า ข้าวต้ม ขณะที่ คน
นครศรีธรรมราช จะเรียกว่า เหนียวห่อกล้วย )
ข้าวต้มโจ้ก (น.) ข้าวต้ม หรือ โจ้ก (หมู,ไก่)
( เพื่อไม่ให้สับสนกับ ข้าวต้ม - ข้าวต้มมัด จึงมักจะใช้คำว่า โจ้ก ต่อท้าย หรือ
ใช้คำว่าโจ้ก เพียงคำเดียว )
ข้าวนะ อาหาร หรือสำรับกับข้าวที่เตรียมไว้ใส่บาตรพระ หรือนำไปถวายพระที่วัดใน
งานบุญ
ข้าวเปียก (น.) ข้าวที่ต้มให้เละๆ ข้นๆ ใส่น้ำตาลให้หวานหรือไม่ใส่ก็ได้ มักทำให้
คนไข้ หรือ เด็กทาน
ขาวเหยียก, ขาวเหงียก (ว.) ขาวโพลน, ขาวอย่างชัดเจน, ขาวจนซีด
ขี้กรา, ขี้กลา (น.) น้ำครำใต้ถุนครัว ที่มีตะไคร่น้ำขึ้น
ขี้ใก่มวนเทียน (น.)ขี้ไก่ที่มีลักษณะสีดำเหนียว เหลวและมีกลิ่นเหม็นมาก
( ภาษาไทยถิ่นใต้บางแห่ง จะใช้เป็น ขี้ใก่มนเทียน )
ขี้ไก่, ต้นขี้ไก่ดอกขาว (น.) ต้นสาบเสือ
ขี้ไก่, ต้นขี้ไก่ดอกแดง (น.) ต้นผกากรอง
ขี้ชิด , ขี้เรียด (ว.) ตระหนี่ ขี้เหนียว
ขี้โดก (ว.)(ผลไม้)ที่มีเมล็ดมาก เนื้อน้อย หรือใช้เรียกคนผอมว่า" คนขี้โดก "ก็ได้
ขี้เตรย (ข.) (น.) หญ้าเจ้าชู้ ไทยถิ่นใต้เรียกว่า หญ้าขี้เตรย ( คำนี้เลือนมาจาก
บันเตรย / ก็อนเตฺรย ในภาษาเขมร )
ขี้แตระ (น.)พื้นที่บริเวณในป่าพรุที่น้ำท่วมไม่ถึง แต่มีน้ำล้อมรอบในหน้าแล้ง หากมี
ไฟไหม้ป่าจะคงเหลือแต่ "หัวขี้แตระ" ที่มองไกลจะเห็นตะปุ่มตะป่ำไปทั่วทุ่ง
ขี้นก (น.) ชื่อพริกขี้หนูที่งอกขึ้นเองตามไร่ชายป่า ไม่มีใครปลูก เม็ดเล็กและเผ็ด
มากกว่า ไทยถิ่นใต้ เรียกว่า ดีปลีขี้นก
ขี้พร้า 1.(น.) ฟักเขียว (พืช)
ขี้พร้า = ฟักเขียว, ขี้พร้าไฟ = ฟักข้าว
2.(ว.) (หมู)ขี้พร้า ใช้เรียกหมูพันธุ์พื้นเมืองของปักษ์ใต้ตัวเล็กสีดำ ลำตัวแอ่น
จนท้องเกือบติดพื้น
ขี้เม็งเชา ( น.) ขี้เทา ( ขี้ที่ค้างอยู่ในลำไส้ของเด็กแรกคลอด )
ขี้รั่ว (ออกเสียงเป็น ขี้หรั่ว) (ว.) ท้องร่วง
ขี้ร้อง (ออกเสียงเป็น ขี้หร่อง) (ว.) ขี้แย
ขี้ลม (น.) ก้อนเมฆ
ขี้หก , ขี้เท็จ (ออกเสียงเป็น ขี้ฮ็อก, ขี้แท๊ด) (ว.) โกหก พูดไม่จริง
ขี้หนอน (ออกเสียงเป็น ขี้น้อน) (น.) 1. "นางขี้หนอน" ในภาษาไทยถิ่นใต้ หมาย
ถึง นางกินนร (ครึ่งคนครึ่งสัตว์ในป่าหิมพานต์) 2. "ต้นขี้หนอน" พันธุ์ไม้ชนิด
หนึ่งใช้เป็นสมุนไพรใบอ่อน/ยอดอ่อน ใช้เป็น ผักเหนาะ (ผักเคียง ทานคู่กับ
น้ำพริก)
ขี้เหล็กขัดหม้อ ( น.) ฝอยเหล็กขัดหม้อ
ขึ้นขี้ (ก.) ตั้งเค้า คำนี้ใช้กับ ฝน
"ฝนขึ้นขี้" จะหมายถึง ฝนตั้งเค้า
เข (ออกเสียงเป็น เค้) (ก.) ขี่ (สำเนียงสงขลา เสียงสระ อี จะออกเสียงเป็นสระ
เอ) ดังนั้น "เข หรด" ก็คือ ขี่รถ , "เข ฮัว" ก็คือ ขี่วัว
เขน (ออกเสียงเป็น เค้น) (น.) พระจันทร์เสี้ยว ( ในภาษาเขมร : แข = พระจันทร์ )
คนไทยถิ่นใต้ดั้งเดิม จะเรียกพระจันทร์ว่า เดือน เรียกพระจันทร์เสี้ยวว่า เขน
แต่ถ้า พระจันทร์เต็มดวง จะเรียกว่า เดือนเพ็ง
ในบทกลอนที่ เด็กๆแถวอำเภอคลองหอยโข่ง สงขลา ใช้ขับโต้กันในงานรื่นเริง
เมื่อประมาณปี พ.ศ. 2510 ปรากฏคำว่า เขน อยู่ด้วย ดังนี้
" เขน เหวฺน หวัน ยายทองจัน ทิ่มข้าวปุกๆ ............." ความหมายคือ
พระจันทร์เสี้ยว ตระเวน แดนสวรรค์ ยายทองจัน ตำข้าว (เสียงดัง)ปุกๆ....
( เหวฺน = ตระเวน, หวัน = สวรรค์ , ทิ่มข้าว = ตำข้าว)
( ปัจจุบัน พ.ศ.2550 เราจะหาคนที่เรียกพระจันทร์เสี้ยวว่า เขน นี้ ได้น้อยมาก)
เขลอะ (ก.) ซุกซน, เล่นเกินไป จนผิดกาละเทศะ
" มึงอย่าเขลอะ กูเป็นกำนันแล้วนะ " ความหมายประโยคนี้
คือ มึงอย่าทำเป็นเล่น กูเป็นกำนันแล้วนะ (ให้เกียรติกูหน่อย ในทำนองนี้ )
(เขลอะ มีความหมายใกล้เคียงกับคำว่า เหลิ่น สามารถใช้แทนกันได้)
เข้าโหม้ง( ว.) นิสัยเข้ากันได้ดี, ทำงานร่วมกันได้ดี (เหมือนกับการขับบทกลอนของ
นายหนังตะลุงที่เสียงขับเข้ากับเสียงโหม่งได้อย่างกลมกลืน เพราะพริ้ง )
เขี่ย ( ออกเสียงเป็น เคี้ย ) (ก.) แคะ "เขี่ยฟัน" = แคะฟัน
เขือช่อ, เขือตูน, เขือก้อย ( เขือ ออกเสียงเป็น เคื้อ ) (น.) มะเขือพวง
คนไทยถิ่นใต้ ในเขตอำเภอคลองหอยโข่ง สงขลา จะใช้คำว่า เขือช่อ แต่เมื่อ
ข้ามเนินเขาเล็กๆ(บริเวณสนามบินหาดใหญ่)เข้าไปในเขตตำบลควนลังหาดใหญ่
จะใช้คำว่า เขือตูน, คนพัทลุง ใช้ว่า เขือก้อย,
( คนฉวาง, พิปูน นครศรีธรรมราช จะเรียกมะเขือพวง ว่า แว้ง และเรียก แว้ง ที่
เป็นสมุนไพร ว่า แว้งขม )
เขื่อน (ออกเสียงเป็น เคื้อน) (น.) 1. คันดินที่สร้างขึ้นเพื่อเก็บกักน้ำ (ความหมาย
เดียวกันกับความหมายในภาษาไทยมาตรฐาน ) 2. สถูป ที่จัดสร้างขึ้น เพื่อ
เก็บอัฐิ หรือจัดสร้างเพื่อเป็นที่ระลึกถึงพระภิกษุสงฆ์ที่มรณะภาพ ในภาษาไทย
ถิ่นใต้(สงขลา) จะเรียกว่า เขื่อน เช่น
" พ่อท่านในเขื่อน " = เจ้าอาวาสที่มรณภาพแล้ว (อัฐิอยู่ในสถูป)
" เขื่อนหลวงพ่อทวด " = คำที่ใช้เรียกสถานที่ จุดพักศพของ หลวงพ่อทวด
ตามคำเล่าลือที่ชาวบ้านในเขต เปรัค,เคดาห์(มาเลเซีย)สะบ้าย้อยและโคกโพธิ์
(ประเทศไทย)เชื่อกันว่า เมื่อครั้งที่หลวงพ่อทวดมรณภาพในเขตเปรัค ได้มีการ
เคลื่อนย้ายศพของหลวงพ่อทวด กลับมาวัดช้างไห้ ปัตตานี จุดที่พักศพของ
หลวงพ่อทวดตลอดเส้นทาง จะมีการสร้างสถูป หรือมีไม้แก่นรูปบัวตูม ปักไว้
เรียกว่า" เขื่อนหลวงพ่อทวด "
( ดูรายละเอียดเรื่อง"เขื่อนหลวงพ่อทวด" ในเวบสงขลาทูเดย์ดอทคอม )
หมายเหตุ : สถูปหรือที่เก็บอัฐิของพระภิกษุสงฆ์ที่มรณะภาพ เรียกว่า "เขื่อน"
แต่ถ้าเป็นที่เก็บกระดูกของฆราวาส ภาษาไทยถิ่นใต้(สงขลา) จะเรียกว่า" บัว "
แข็ง (ออกเสียงเป็น แค้ง) (ว.) 1. แข็ง, ไม่อ่อน 2. สู้งาน, ขยัน
" ลูกสาวบ้านนี้ ทำงานแข็งจัง ทำทั้งวัน ไม่หยุดเลย" = ลูกสาวบ้านนี้เป็นคน
ขยัน สู้งาน
แข็งหัว (ก.) เขกหัว
แข็ด หมูน, แจ็ด หมูน (น.) บอระเพ็ด
แขบ ( ออกเสียงเป็น แคบ ) (ว.) เร่ง, รีบ "อย่าแขบ" = อย่ารีบ
แต่คำว่า "ไฟแขบ" จะหมายถึง ไฟฉาย
โขก ( ออกเสียงเป็น โค้ก ) (ส.) ในภาษาไทยถิ่นใต้(สงขลา) จะใช้คำนี้แทน
จำนวน 50 สตางค์
"ซื้อกะปิ 1 โขก" = ซื้อกะปิราคา 50 สตางค์
"ซื้อทอง 1 โขก" = ซื้อทองหนัก 50 สตางค์
( ปัจจุบันคำว่า "โขก" นี้ มีคนพูดน้อยมากคงมีอยู่เฉพาะในภาษามลายูปัตตานี
แต่ใช้ในความหมาย "เงินบาท" เช่น ซอโก๊ะ จะหมายถึง 1 บาท ถ้า ลีมอโก๊ะ
จะหมายถึง เงิน 5 บาท เป็นต้น )
โขก เขก (ว.) ขรุขระ ไม่เรียบ
คำนี้ มักใช้กับทาง หรือ ถนน เช่น "ทางนี้โขกเขกจัง" = ทางนี้ขรุขระจัง
ไข (ออกเสียงเป็น ไค้ ) 1.ไข (ก.) หมุน , ทำให้เดิน, ทำให้หลุดออก, แก้ออก
เช่น ไขลาน ไขกุญแจ ไขปัญหา ..
2. สิ่งของที่เป็นมัน เช่น ไขมัน, เทียนไข
(ความหมายตรงกัน กับความหมายในภาษาไทยมาตรฐาน)
ไข่ (ออกเสียงเป็น ไค้ ) (น.) 1. ไข่ หรือสิ่งของที่มีรูปกลม เช่น ไข่เป็ด, ไข่ไก่,
ไข่นก, ไข่คน(ลูกอัณฑะ) (ความหมายทั่วไป)
" ไข่ขาง " (ออกเสียงเป็น ไค้ค้าง) (น.) ไข่ของแมลงวัน
" ไข่อุ้ง " (ออกเสียงเป็น ไค้อุ้ง) (น.) โรคใส้เลื่อน ( ถุงอัณฑะโต )
2. อวัยวะเพศชาย (ความหมายแฝง)
" ไข่ตาย " (ออกเสียงเป็น ไค้ต๋าย) (ว.) (ผู้ชาย) ที่หมดสมรรถภาพทางเพศ
" ไข่แลน " (ออกเสียงเป็นไค้แลน)(น.) อวัยวะเพศชายที่หนังหุ้มปลายไม่มิด
"ไข่พอแตกปากจาบ" (น.) อวัยวะเพศชายที่หนังหุ้มปลายองคชาติ เริ่มขยาย
เริ่มปริ เป็นสำนวนถิ่นใต้ที่ใช้ในความหมาย เด็กชายที่เริ่มเข้าสู่วัยหนุ่ม ขาด
ประสพการณ์ จึงไม่พร้อมที่จะทำการใดๆ.... ตัวอย่างประโยคต่อไปนี้
" ไอ้แด็กแรกวาซือ ไข่พอแตกปากจาบ ทำเป็นด็อน "
ไอ้เด็กเมื่อวานซืน ไข่ยัง ....... ทำเป็นดุ ทำเป็นนักเลง
ความคิดเห็น