ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Nor like(yaoi)

    ลำดับตอนที่ #39 : [Nor Like Special]Destiny or Deathiny? 1

    • อัปเดตล่าสุด 30 ต.ค. 53


    หลายคนอาจสงสัยว่า Deathiny นี่มันมีอยู่ในโลกด้วยเหรอ คือมันก็ไม่มีหรอกค่ะแต่ว่าตั้งให้คล้องกับ Destiny ที่แปลว่าพรหมลิขิตแทน แล้วก็เอา or ให้คล้องกับ nor ของเรื่องหลัก

    ฟังดูเหมือนมีความรู้แต่สิ้นคิดค่ะ

    เรื่องนี้เป็นเรื่องสั้นค่ะ แต่ตอนแรกเอามาให้อ่านแบบสั้นสุดๆ ยั่วให้อยาก
    ก่อน 555+ เอาแค่ตอนที่หลายคนสงสัยว่า

    ไอ้สองคนนี้มันไปรู้จักกันตอนไหน? ยังไง?

    ส่วนจะเป็นคู่ไหนนั้นลุ้นเองค่ะ ใบ้ให้นิด พระเอกคือตัวละครที่ออกน้อยนิดแต่กระชากเรทติ้งถล่มทลาย ฮ่าๆๆๆ

    เชิญอ่านได้เลยค่า



    1

    Destiny or Deathiny?






    ปลายนิ้วเหี่ยวแห้งบรรจงกรีดไพ่คลี่วางบนโต๊ะ ใบหน้าขาวซีดยิ้มแสยะเมื่อเปิดไพ่ยิปซีแผ่นแรก แสงไฟสลัวๆ เพิ่มความขลังให้กับบรรยากาศ ขณะเดียวกันก็ทำให้ใบหน้าของหญิงชราน่ากลัวขึ้นอีกเท่าตัว

    “การเดินทาง...เจ้าจะได้พบกับบุคคลที่ทำให้ชีวิตเจ้ายุ่งเหยิง”

    ใบหน้าใต้ผ้าคลุมของเด็กหนุ่มเผือดซีดลงเล็กน้อย ไพ่ใบต่อไปเปิดตามมาติดๆ

    “บุคคลผู้นั้นจะนำความเดือดร้อนมาให้เจ้า จะเปลี่ยนชีวิตของเจ้า...”

    “สิ่งที่เจ้าพยายามปิดบังจะถูกเปิดโปง...เจ้าไม่อาจทำอะไรได้...”

    “โอ้...คนผู้นั้นช่างร้ายกาจนัก เขาจะได้รับกาสนับสนุนจากคนรอบตัวเจ้า และทำให้เจ้าเสียพวกเขาไป...น่ากลัวเหลือเกิน...”

    “แล้วต้องจัดการกับเขายังไง?” มือที่ค้างอยู่ยังไพ่ใบสุดท้ายชะงักกับคำถาม ใบหน้าเหี่ยวย่นมุ่นลงอย่างใช้ความคิด

    “ข้าไม่อาจเปิดเผยชะตาฟ้าลิขิตได้...แต่ว่า...” รอยยิ้มมีเลศนัยขณะเขยิบเข้าไปใกล้เด็กหนุ่มซึ่งซ่อนใบหน้าอยู่ใต้ผ้าคลุม หญิงชราเลื่อนเข้าไปจนชิดก่อนจะค่อยๆ วางของห่อเล็กๆ ในมือของเด็กหนุ่ม “เอานี่ไป มันจะช่วยเจ้าได้ ข้าไม่เคยให้แผนที่สถานที่นี้กับใครมาก่อน เห็นแก่เจ้าที่เป็นลูกค้ามาหลายปี...”

    “ขอบคุณมากแม่หมอ” เขาหัวเราะเสียงแหบต่ำขณะยันกายลุกขึ้น ร่างสูงโปร่งก้มลงโค้งคำนับอย่างนอบน้อม “ขอให้เวทมนตร์อวยพร”

    “เช่นเดียวกันมิสึกิที่รัก”

    เธอเฝ้ามองร่างในชุดคลุมเดินผ่านผ้าโปร่งสีทึมออกไปเบื้องนอก รอยยิ้มหวานจุดที่เรียวปากแต่ก็เพียงครู่เดียวเท่านั้น สัมผัสเย็นๆ ที่ปลายนิ้วเตือนให้เธอนึกถึงสิ่งที่หยุดไว้กลางคันเสียก่อน

    “ไพ่สุดท้าย...” หญิงชราพึมพำ คลี่เปิดด้วยความฉงนแล้วก็ต้องเบิกตาค้าง

    Lover...

    ชะตาเล่นตลกเสียแล้ว...




    ~~~ Death + Destiny ~~~




    ร่างสูงนั่งเท้าคางมองออกไปนอกอาคาร ปล่อยใจให้ลอยไปกับหมู่เมฆ นัยน์ตาสีน้ำตาลปรายมองคนร่วมห้องอีกคนเล็กน้อย และตัดสินใจได้อีกครั้งว่าเมฆเบื้องนอกยังดูน่าสนใจกว่าพี่ชายตนเอง...

    “อากิจัง นารุจัง!” เสียงหวานคุ้นหูเรียกรอยยิ้มกว้างจากเด็กหนุ่ม เขาหันไปมองหญิงสาวในชุดแขนกุดกางเกงยีนส์ซึ่งดูอายุไม่น่าจะเกิน 16 ปี ร่างนั้นโผเข้าออมกอดเขาด้วยความคิดถึง

    “มิอุ สวยขึ้นอีกแล้วนะเนี่ย” เขาเอ่ยเย้าคนที่ใบหน้าขาวใสนั่นขึ้นสีชมพูจางๆ มือเล็กเอื้อมหยิกแก้มเขาอย่างมันเขี้ยว

    “อากิจังก็หล่อขึ้นอีกแล้ว หน้าเหมือนนารุจังหยั่งกับแกะแหนะ!”

    “อยากเหมือนมิอุมากกว่า” อากิระหัวเราะร่าขณะตวัดมองอีกคนซึ่งเพียงเงยหน้าขึ้นฟังบทสนทนาเล็กน้อย รอยยิ้มบางๆ บนเรียวปากนั้นบอกว่านารุมิก็อยู่ในอาการยินดีเช่นกัน

    “ยิ้มซะบ้างสินารุจัง เนี่ยๆๆ หน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่นั่นล่ะ” มิอุเปลี่ยนเป้าหมายไปยังร่างสูงอีกคนซึ่งยังนั่งนิ่ง นัยน์ตาเย็นชาเป็นประกายอ่อนโยนวูบหนึ่ง “พี่ยังไม่ได้เอาเรื่องที่ปีนี้มาช้ากันเลยนะ! อากิจังฟ้องมาแล้วว่านารุจังทำสาย สารภาพมาเลย!”

    “ต้องไปค่ายกับชมรม...”คำแก้ตัวง่าย และสั้นกลับเรียกให้มิอุหน้างอเป็นจวัก

    “สำคัญกว่าพี่สาวคนนี้หรือไง?”

    “น่า...มิอุ พี่นารุมิเขาไม่ได้ตั้งใจหรอก” น้องคนเล็กรีบห้ามทำแม้จะรู้สึกขำไม่ใช่น้อย

    คาวามูระ มิอุ พี่สาวคนโตแห่งตระกูลคาวามูระที่อายุก็ปาเข้าไป 23 แล้วยังดูเหมือนสาว 16 ไม่เปลี่ยน ใบหน้าสวยได้รูปนั้นถอดแบบมาจากมารดา ท่าทางช่างงอน ออดอ้อนน่ารัก จนให้ความรู้สึกเหมือนเป็นน้องเล็กมากกว่าพี่สาว แต่ว่า...อย่าทำให้แม่เจ้าประคุณโกรธขึ้นมาเชียว นางฟ้าตัวน้อยจะแปลงร่างเป็นนางมารทันควันแม้แต่นารุมิก็ยังเอาไม่อยู่!

    “พรีเซนเตอร์น้ำหอมตัวใหม่?” อากิระทวนคำ จับจ้องไปยังใบหน้าพี่สาวคนโตซึ่งคลี่ยิ้มละมุนรับ

    “ใช่จ้ะ ปกติน้ำหอมเขาจะใช้โปสเตอร์ใช่ไหม แต่คราวนี้พี่กับแม่คุยกันว่าอยากให้ทำเป็นโฆษณา แล้วใช้อากิจังกับนารุจังเป็นพรีเซนเตอร์ด้วยกัน”
    “ผมขอปฎิเสธ” นารุมิสวนขวับ เด็กหนุ่มผุดลุกขึ้นเตรียมเดินหนีแต่ร่างเล็กรีบไปดักทางไว้เสียก่อน

    “นารุจัง! เล่นให้หน่อยเดียวเอง...ไม่มีใครเหมาะไปกว่านารุจังกับอากิจังแล้วนะ! นี่! ไปไหนน่ะ! นารุจัง!”

    มิอุได้แต่กัดริมฝีปากเมื่อเจ้าคนดื้อดึงเดินหนีไป นัยน์ตากลมโตเป็นประกายวับ ตวัดกลับมามองเด็กหนุ่มอีกคนในห้องซึ่งยังยิ้มกว้าง

    “ผมเล่นก็ได้”

    “รักอากิจังที่สุดในโลกเลย” เธอโผเข้ากอดน้องเล็กอย่างแสนรัก ใบหน้าสวยกระเง้ากระงอด “นารุจังใจร้ายมาก! ไม่รู้จะไปหาพรีเซนเตอร์ได้จากไหนอีกแล้วเนี่ย!”

    “อย่าเครียดสิมิอุ ค่อยๆหาไปนะ...”

    “แต่มันยากนะ...คอนเซปต์น่ะคือ ‘ความแตกต่างที่ลงตัว’ ตอนแรกก็จะให้นารุจังแทนความเย็นชา แทนน้ำหอมหน้าหนาวเพราะคอลเลคชั่นนี้จะมี 2 ตัว คือน้ำหอมสำหรับหน้าหนาวและหน้าร้อน แงๆๆๆๆ”

    “มิอุจัง...”

    อากิระได้แต่กอดปลอบพี่สาวในอ้อมแขนพลางถอนหายใจเฮือกใหญ่ อย่างพี่นารุมิน่ะต่อให้เอาช้างมาฉุดก็ไม่สำเร็จ...แล้วเขาจะไปช่วยพี่หาคนแบบนั้นได้จากที่ไหนกันล่ะ?




    ~~~ Death + Destiny ~~~



    “ไปโอซาก้า?” มิสึรุเงยหน้ามองพี่ชายที่ดูมืดมนกว่าเคยอย่างยากจะบรรยาย เขากระพริบตาปริบๆ ขณะมองไปยัง ‘ของเล่นชิ้นใหม่’ ซึ่งเป็นตุ๊กตาซาตานมีหัวเป็นแพะในมือของมิสึกิ

    ไปเข้าลัทธิอะไรแปลกๆ มาอีกแล้วแหง...

    “พี่จะไปทำไมอ่ะ?”

    มิสึรุสะดุ้งเฮือกเมื่อเจอสายตาพิฆาตมาร รอยยิ้มแสยะบอกให้รู้ชัดว่าคำตอบของเขาจะเป็นอื่นไม่ได้นอกจากตกลงสถานเดียว

    “เราจะเดินทางกันพรุ่งนี้...” พูดเสร็จมิสึกิก็ออกหมุนตัวเดินจากไปทิ้งให้น้องชายยืนรากงอกอย่างอับจนถ้อยคำ

    มิสึกิก้มลงมองรูปปั้นในมือด้วยรอยยิ้มเย็นเยือก ภาพของบัลลังก์ซาตานและของศักดิ์สิทธิ์แห่งแดนปิศาจในห้องลับที่แม่หมอให้มายังตราตรึงอยู่ในความทรงจำ ไม่ใช่มีแค่เขาเพียงคนเดียวที่หลงใหลสิ่งนี้... วันนี้เขาได้พบเหล่าเพื่อนร่วมอุดมการณ์นับสิบคน พวกเขาเหล่านั้นสัญญาว่าจะช่วยเขาทำพิธีทำลายเจ้าศัตรูตามคำทำนายนั่น...และจะได้ผลดีที่สุดต้องไปโอซาก้า...

    รอก่อนเถอะ...ฉันจะกำจัดแกแน่เจ้าคนที่ไม่รู้จัก!



    TBC นะจ้ะ^^
    หลายคนอาจสงสัยว่า Deathiny นี่มันมีอยู่ในโลกด้วยเหรอ คือมันก็ไม่มีหรอกค่ะแต่ว่าตั้งให้คล้องกับ Destiny ที่แปลว่าพรหมลิขิตแทน แล้วก็เอา or ให้คล้องกับ nor ของเรื่องหลัก

    ฟังดูเหมือนมีความรู้แต่สิ้นคิดค่ะ

    เรื่องนี้เป็นเรื่องสั้นค่ะ แต่ตอนแรกเอามาให้อ่านแบบสั้นสุดๆ ยั่วให้อยาก
    ก่อน 555+ เอาแค่ตอนที่หลายคนสงสัยว่า

    ไอ้สองคนนี้มันไปรู้จักกันตอนไหน? ยังไง?

    ส่วนจะเป็นคู่ไหนนั้นลุ้นเองค่ะ ใบ้ให้นิด พระเอกคือตัวละครที่ออกน้อยนิดแต่กระชากเรทติ้งถล่มทลาย ฮ่าๆๆๆ

    เชิญอ่านได้เลยค่า






    Destiny or Deathiny?






    ปลายนิ้วเหี่ยวแห้งบรรจงกรีดไพ่คลี่วางบนโต๊ะ ใบหน้าขาวซีดยิ้มแสยะเมื่อเปิดไพ่ยิปซีแผ่นแรก แสงไฟสลัวๆ เพิ่มความขลังให้กับบรรยากาศ ขณะเดียวกันก็ทำให้ใบหน้าของหญิงชราน่ากลัวขึ้นอีกเท่าตัว

    “การเดินทาง...เจ้าจะได้พบกับบุคคลที่ทำให้ชีวิตเจ้ายุ่งเหยิง”

    ใบหน้าใต้ผ้าคลุมของเด็กหนุ่มเผือดซีดลงเล็กน้อย ไพ่ใบต่อไปเปิดตามมาติดๆ

    “บุคคลผู้นั้นจะนำความเดือดร้อนมาให้เจ้า จะเปลี่ยนชีวิตของเจ้า...”

    “สิ่งที่เจ้าพยายามปิดบังจะถูกเปิดโปง...เจ้าไม่อาจทำอะไรได้...”

    “โอ้...คนผู้นั้นช่างร้ายกาจนัก เขาจะได้รับกาสนับสนุนจากคนรอบตัวเจ้า และทำให้เจ้าเสียพวกเขาไป...น่ากลัวเหลือเกิน...”

    “แล้วต้องจัดการกับเขายังไง?” มือที่ค้างอยู่ยังไพ่ใบสุดท้ายชะงักกับคำถาม ใบหน้าเหี่ยวย่นมุ่นลงอย่างใช้ความคิด

    “ข้าไม่อาจเปิดเผยชะตาฟ้าลิขิตได้...แต่ว่า...” รอยยิ้มมีเลศนัยขณะเขยิบเข้าไปใกล้เด็กหนุ่มซึ่งซ่อนใบหน้าอยู่ใต้ผ้าคลุม หญิงชราเลื่อนเข้าไปจนชิดก่อนจะค่อยๆ วางของห่อเล็กๆ ในมือของเด็กหนุ่ม “เอานี่ไป มันจะช่วยเจ้าได้ ข้าไม่เคยให้แผนที่สถานที่นี้กับใครมาก่อน เห็นแก่เจ้าที่เป็นลูกค้ามาหลายปี...”

    “ขอบคุณมากแม่หมอ” เขาหัวเราะเสียงแหบต่ำขณะยันกายลุกขึ้น ร่างสูงโปร่งก้มลงโค้งคำนับอย่างนอบน้อม “ขอให้เวทมนตร์อวยพร”

    “เช่นเดียวกันมิสึกิที่รัก”

    เธอเฝ้ามองร่างในชุดคลุมเดินผ่านผ้าโปร่งสีทึมออกไปเบื้องนอก รอยยิ้มหวานจุดที่เรียวปากแต่ก็เพียงครู่เดียวเท่านั้น สัมผัสเย็นๆ ที่ปลายนิ้วเตือนให้เธอนึกถึงสิ่งที่หยุดไว้กลางคันเสียก่อน

    “ไพ่สุดท้าย...” หญิงชราพึมพำ คลี่เปิดด้วยความฉงนแล้วก็ต้องเบิกตาค้าง

    Lover...

    ชะตาเล่นตลกเสียแล้ว...



    ~~~ Death + Destiny ~~~



    ร่างสูงนั่งเท้าคางมองออกไปนอกอาคาร ปล่อยใจให้ลอยไปกับหมู่เมฆ นัยน์ตาสีน้ำตาลปรายมองคนร่วมห้องอีกคนเล็กน้อย และตัดสินใจได้อีกครั้งว่าเมฆเบื้องนอกยังดูน่าสนใจกว่าพี่ชายตนเอง...

    “อากิจัง นารุจัง!” เสียงหวานคุ้นหูเรียกรอยยิ้มกว้างจากเด็กหนุ่ม เขาหันไปมองหญิงสาวในชุดแขนกุดกางเกงยีนส์ซึ่งดูอายุไม่น่าจะเกิน 16 ปี ร่างนั้นโผเข้าออมกอดเขาด้วยความคิดถึง

    “มิอุ สวยขึ้นอีกแล้วนะเนี่ย” เขาเอ่ยเย้าคนที่ใบหน้าขาวใสนั่นขึ้นสีชมพูจางๆ มือเล็กเอื้อมหยิกแก้มเขาอย่างมันเขี้ยว

    “อากิจังก็หล่อขึ้นอีกแล้ว หน้าเหมือนนารุจังหยั่งกับแกะแหนะ!”

    “อยากเหมือนมิอุมากกว่า” อากิระหัวเราะร่าขณะตวัดมองอีกคนซึ่งเพียงเงยหน้าขึ้นฟังบทสนทนาเล็กน้อย รอยยิ้มบางๆ บนเรียวปากนั้นบอกว่านารุมิก็อยู่ในอาการยินดีเช่นกัน

    “ยิ้มซะบ้างสินารุจัง เนี่ยๆๆ หน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่นั่นล่ะ” มิอุเปลี่ยนเป้าหมายไปยังร่างสูงอีกคนซึ่งยังนั่งนิ่ง นัยน์ตาเย็นชาเป็นประกายอ่อนโยนวูบหนึ่ง “พี่ยังไม่ได้เอาเรื่องที่ปีนี้มาช้ากันเลยนะ! อากิจังฟ้องมาแล้วว่านารุจังทำสาย สารภาพมาเลย!”

    “ต้องไปค่ายกับชมรม...”คำแก้ตัวง่าย และสั้นกลับเรียกให้มิอุหน้างอเป็นจวัก

    “สำคัญกว่าพี่สาวคนนี้หรือไง?”

    “น่า...มิอุ พี่นารุมิเขาไม่ได้ตั้งใจหรอก” น้องคนเล็กรีบห้ามทำแม้จะรู้สึกขำไม่ใช่น้อย

    คาวามูระ มิอุ พี่สาวคนโตแห่งตระกูลคาวามูระที่อายุก็ปาเข้าไป 23 แล้วยังดูเหมือนสาว 16 ไม่เปลี่ยน ใบหน้าสวยได้รูปนั้นถอดแบบมาจากมารดา ท่าทางช่างงอน ออดอ้อนน่ารัก จนให้ความรู้สึกเหมือนเป็นน้องเล็กมากกว่าพี่สาว แต่ว่า...อย่าทำให้แม่เจ้าประคุณโกรธขึ้นมาเชียว นางฟ้าตัวน้อยจะแปลงร่างเป็นนางมารทันควันแม้แต่นารุมิก็ยังเอาไม่อยู่!

    “พรีเซนเตอร์น้ำหอมตัวใหม่?” อากิระทวนคำ จับจ้องไปยังใบหน้าพี่สาวคนโตซึ่งคลี่ยิ้มละมุนรับ

    “ใช่จ้ะ ปกติน้ำหอมเขาจะใช้โปสเตอร์ใช่ไหม แต่คราวนี้พี่กับแม่คุยกันว่าอยากให้ทำเป็นโฆษณา แล้วใช้อากิจังกับนารุจังเป็นพรีเซนเตอร์ด้วยกัน”
    “ผมขอปฎิเสธ” นารุมิสวนขวับ เด็กหนุ่มผุดลุกขึ้นเตรียมเดินหนีแต่ร่างเล็กรีบไปดักทางไว้เสียก่อน

    “นารุจัง! เล่นให้หน่อยเดียวเอง...ไม่มีใครเหมาะไปกว่านารุจังกับอากิจังแล้วนะ! นี่! ไปไหนน่ะ! นารุจัง!”

    มิอุได้แต่กัดริมฝีปากเมื่อเจ้าคนดื้อดึงเดินหนีไป นัยน์ตากลมโตเป็นประกายวับ ตวัดกลับมามองเด็กหนุ่มอีกคนในห้องซึ่งยังยิ้มกว้าง

    “ผมเล่นก็ได้”

    “รักอากิจังที่สุดในโลกเลย” เธอโผเข้ากอดน้องเล็กอย่างแสนรัก ใบหน้าสวยกระเง้ากระงอด “นารุจังใจร้ายมาก! ไม่รู้จะไปหาพรีเซนเตอร์ได้จากไหนอีกแล้วเนี่ย!”

    “อย่าเครียดสิมิอุ ค่อยๆหาไปนะ...”

    “แต่มันยากนะ...คอนเซปต์น่ะคือ ‘ความแตกต่างที่ลงตัว’ ตอนแรกก็จะให้นารุจังแทนความเย็นชา แทนน้ำหอมหน้าหนาวเพราะคอลเลคชั่นนี้จะมี 2 ตัว คือน้ำหอมสำหรับหน้าหนาวและหน้าร้อน แงๆๆๆๆ”

    “มิอุจัง...”

    อากิระได้แต่กอดปลอบพี่สาวในอ้อมแขนพลางถอนหายใจเฮือกใหญ่ อย่างพี่นารุมิน่ะต่อให้เอาช้างมาฉุดก็ไม่สำเร็จ...แล้วเขาจะไปช่วยพี่หาคนแบบนั้นได้จากที่ไหนกันล่ะ?




    ~~~ Death + Destiny ~~~



    “ไปโอซาก้า?” มิสึรุเงยหน้ามองพี่ชายที่ดูมืดมนกว่าเคยอย่างยากจะบรรยาย เขากระพริบตาปริบๆ ขณะมองไปยัง ‘ของเล่นชิ้นใหม่’ ซึ่งเป็นตุ๊กตาซาตานมีหัวเป็นแพะในมือของมิสึกิ

    ไปเข้าลัทธิอะไรแปลกๆ มาอีกแล้วแหง...

    “พี่จะไปทำไมอ่ะ?”

    มิสึรุสะดุ้งเฮือกเมื่อเจอสายตาพิฆาตมาร รอยยิ้มแสยะบอกให้รู้ชัดว่าคำตอบของเขาจะเป็นอื่นไม่ได้นอกจากตกลงสถานเดียว

    “เราจะเดินทางกันพรุ่งนี้...” พูดเสร็จมิสึกิก็ออกหมุนตัวเดินจากไปทิ้งให้น้องชายยืนรากงอกอย่างอับจนถ้อยคำ

    มิสึกิก้มลงมองรูปปั้นในมือด้วยรอยยิ้มเย็นเยือก ภาพของบัลลังก์ซาตานและของศักดิ์สิทธิ์แห่งแดนปิศาจในห้องลับที่แม่หมอให้มายังตราตรึงอยู่ในความทรงจำ ไม่ใช่มีแค่เขาเพียงคนเดียวที่หลงใหลสิ่งนี้... วันนี้เขาได้พบเหล่าเพื่อนร่วมอุดมการณ์นับสิบคน พวกเขาเหล่านั้นสัญญาว่าจะช่วยเขาทำพิธีทำลายเจ้าศัตรูตามคำทำนายนั่น...และจะได้ผลดีที่สุดต้องไปโอซาก้า...

    รอก่อนเถอะ...ฉันจะกำจัดแกแน่เจ้าคนที่ไม่รู้จัก!
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×