ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ♂♂Will Love , So I Love [Kihae,etc.]

    ลำดับตอนที่ #30 : Will Love , So I love[Part 26]=คืนวันหลังภารกิจ

    • อัปเดตล่าสุด 5 ก.ค. 53













    26

    คืนวันหลังภารกิจ

     

     

     

     

    “หิวข้าวแล้วล่ะยองอุน”

     

    “งั้นจะไปกินข้าวยัง?”

     

    “เดินต่ออีกซักพักนะ บรรยากาศตอนเช้าดี๊ดี” คนพูดว่าพลางชี้โบ๊ชี้เบ๊ไปเรื่อยพลางคล้องแขนอีกฝ่ายพลางลากเดินชายหาดเหมือนเดิมก่อนที่คังอินจะพาเขาไปยังห้องอาหาร ร่างสูงยิ้มกับภาพตรงหน้าก่อนจะเดินตามแรงลากของอีกฝ่ายไปแต่โดยดี

     

    “ไม่คิดว่าเมืองไทยจะสวยได้ขนาดนี้”

     

    “หืม? นายก็สวย”

     

    “บ้าหรอยองอุน! ฉันรุกนายรับ ชมฉันแบบนี้ไม่ได้นะ เสียภาพพจน์หมด”

     

    ร่างบางยู่ปากเล็กน้อย ส่วนคนฟังก็ขมวดคิ้วเล็กๆก่อนจะหลุดขำพรืดใหญ่เมื่อได้ยินว่าอีทึกจะรุก รู้อยู่แล้วว่ายังไงสัญชาตญาณของการเป็นผู้นำของผู้ชาย อีทึกมีอยู่ล้นหลามหากแต่ว่าใช้ได้เฉพาะกับผู้หญิง แสดงว่าเจ้าตัวคงจะยังไม่รู้ตัวว่าท่าทางไม่ได้เหมาะกับจะเป็นรุกเลยซักนิด คังอินไม่ได้พยักหน้ารับหากแต่ว่าเดินยิ้มต่อไปจนคนข้างๆสงสัยจึงหันมาถาม

     

    “เป็นอะไร? ยิ้มคนเดียวอยู่ได้”

     

    “เปล่า แค่อารมณ์ดีเฉยๆ”

     

    “นายเนี่ยนะ? สงสัยจะหิวข้าว ไปกินข้าวเหอะ” ว่าจบร่างบางก็ลากเขาไปยังห้องอาหาร คังอินมองมือที่วางอยู่บนท่อนแขนของตัวเองแล้วก็อดยิ้มออกมาอีกรอบไม่ได้

     

    ไม่ว่าจะเป็นจริงหรือความฝัน....เท่านี้ผมก็มีความสุขแล้ว

     

    “ยองอุน พวกนั้นหายไปไหนหมดอ่ะ?”

     

    “หือ? สงสัยยังไม่ตื่นกันมั้ง”

     

    “เฮ้ยยย ถ้าอย่างนั้นเราไปปลุกกันก่อนเหอะ เดี๋ยวห้องอาหารปิดล่ะยุ่งเลย” อีทึกบ่นอุบก่อนจะลากร่างหนา(อีกครั้ง)ให้เดินตามมา โดยที่คังอินก็ทำเพียงแค่เดินตามโดยไม่ทักท้วงอะไรทั้งนั้น ทั้งคู่เดินมาหยุดอยู่ที่หน้าบ้านหลังแรกซึ่งเป็นบ้านพักที่คิบอมและทงเฮพักอยู่ เมื่อเดินไปหยุดอยู่ที่บานประตูมือเรียวก็ยกขึ้นกดออด กดไปได้สามครั้งก็รอให้ใครซักคนมาเปิดประตูก่อนจะพบว่าเป็นคิบอม

     

    “ยังไม่อาบน้ำอีกหรอ? แล้วนี่คิดจะไปกินข้าวกันรึเปล่า??”

     

    คนถูกถามเอี้ยวตัวหันกลับไปมองอีกคนที่ยังนอนซมอยู่ในห้องก็ต้องส่ายหน้าปฏิเสธรุ่นพี่หน้าสวยทันที เพราะดูเหมือนว่าร่างบางที่นอนอยู่บนเตียงคงจะไม่สบาย อีทึกถอดหายใจพรืดใหญ่ก่อนจะชะโงกหน้าเข้าไปดูบ้าง

     

    “ผมคงสั่งอาหารมากิน พี่ไปกินเถอะ ทงเฮไม่ไหว”

     

    “เห็นสภาพก็พอเข้าใจ= = นายทำอะไรอย่ารุนแรงนักซิ้”

     

    “พี่ไปเถอะน่ะ” ว่าจบเจ้าคนแก้มป่องก็ปิดประตูใส่หน้าทันทีทำเอาคนถูกไล่สบถด่าเล็กน้อยก่อนจะหันไปยิ้มให้กับคนที่เดินมาด้วยกันแล้วไปที่บ้านหลังถัดมาเป็นหลังของฮันคยองกับฮยอกแจ คราวนี้คังอินเป็นคนกดออดหากแต่ว่าคนที่เจรจาคือคนสวยเช่นเดิม

     

    “ว่าไงฮะเรา ทำไมตื่นสายปกติหกโมงเช้าต้องเด้งตัวขึ้นมาแล้วไม่ใช่หรอ”

     

    “คงไม่ใช่หลังเสร็จกิจกรรมบนเตียงไปห้ารอบหรอกครับพี่อีทึก”

     

    “นี่พวกนาย=o=/// อ่า! เจ้าบ้า ใครใช้ให้มาพูดเรื่องแบบนี้กันโต้งๆวะ”

     

    “พี่คังอินยังไม่รู้สึกอะไรเลย พี่จะโวยวายทำไมกัน- -

     

    ร่างบางเอี้ยวตัวไปมองคนข้างๆที่ทำหน้าไม่รู้สึกรู้สาอะไรทำเอาเจ้าตัวต้องกระแอมไอเพื่อกลบเกลื่อนการกระทำเมื่อครู่เพราะกลัวเสียภาพลักษณ์เมะที่เจ้าตัวประกาศอย่างไม่เป็นทางการกับคังอินเมื่อเช้า

     

    “แล้วนี่ จะไปกินข้าวรึเปล่า”

     

    ถามพลางชะโงกหน้าลอดใต้ช่องแขนที่เท้ากับขอบประตูไว้ เห็นฮยอกแจนอนซมอยู่บนเตียงแล้วอดที่จะส่ายหัวเล็กๆไม่ได้ เพราะที่เจ้าตัวลุกไม่ไหวแบบนี้ก็คงจะเป็นเพราะฮยอกแจเองก็แรงไม่แพ้กัน ไม่อย่างนั้นคงไม่จบลงด้วยรอบที่ 5 หรอก ไม่ทันจะได้วิจารณ์อะไรต่อก็ถูกมือหนาผลักหัวออกมาก็อดยู่ปากไม่ได้

     

    “ยุ่งน่ะพี่”

     

    “เหอะ! เดี๋ยวนี้ฉันทำอะไรก็ยุ่งไปหมดแหละ แล้วตกลงว่าไงจะไปกินข้าวรึเปล่า”

     

    “ผมน่ะไหว สบายอยู่แล้ว แต่คนเก่งนั่นคงไม่ไหว”

     

    ระหว่างที่พูดรอยยิ้มก็แต่งแต้มอยู่บนใบหน้าของคนพูด ฮันคยองหันไปมองคนที่นอนซมอยู่บนเตียง พลันรอยยิ้มก็กว้างมากขึ้นไปอีก ทำเอาคนยืนมองอยู่ด้านหลังอย่างอีทึกทำหน้าล้อเลียนอยู่ด้านหลัง คังอินที่ยืนอยู่เฉยๆเลยหลุดหัวเราะเบาๆ เรียกให้ฮันคยองหันมามองด้วยความไม่เข้าใจ เพราะนานๆทีจะเห็นรุ่นพี่ของเขาหลุดหัวเราะออกมาแบบนี้

     

    “แล้วพี่ล่ะพี่อีทึก มายืนยิ้มแป้นกับพี่คังอินได้อย่างนี้ หายโกรธกันแล้วหรอ”

     

    “อะไร ใครว่าโกรธกัน เขาเรียกว่าไม่เข้าใจกันนิดหน่อยต่างหากล่ะ”

     

    “โอเค้ ไม่เข้าใจกันก็ได้ แล้วเคลียร์กันได้แล้วหรอครับ”

     

    “ไม่มีเรื่องอะไรต้องเคลียร์เลยต่างหาก ฉันไปละ อย่าลืมสั่งอาหารมาล่ะ!

     

    เพื่อไม่ให้รุ่นน้องแซวไปมากกว่านี้เจ้าตัวเลยตัดบทลากร่างหนาให้ออกมาจากบ้านหลังนั้น ใบหน้าสวยที่ขึ้นสีระเรื่อทำให้คนมองถึงกับดีใจ อีทึกหันมามองคนข้างๆเมื่อพบว่าคังอินกำลังยิ้มก็อดที่จะแหวเบาๆไม่ได้

     

    “ยิ้มอะไรของนาย”

     

    “วันนี้นายน่ารัก” คนถูกชมหน้าแดงขึ้นเข้าไปอีกก่อนจะสบถพึมพำเบาๆ เมื่อมาถึงหน้าบ้านพักของซีวอน คนเขินก็เลือกที่จะเคาะประตูแทนการกดออดจนกระทั่งเจ้าของบ้านพักออกมาเปิดประตูก็ดูเหมือนกับว่าจะไม่รู้ตัวเพราะเอาแต่เคาะประตูจนซีวอนต้องจับมือของอีกคนไว้

     

    “พี่ครับ กะจะเอาให้ผมดั้งแหมบเลยใช่มั้ย?”

     

    “อ๊ะ...ขอ..ขอโทษที” คนถามถามด้วยน้ำเสียงขุ่นๆทำเอาคนเคาะหลุดออกจากภวังค์หากแต่ว่ายังไม่รู้สึกว่ากำลังถูกคว้าแขนเอาไว้  คังอินคิ้วกระตุกเล็กน้อยก่อนจะเดินเข้ามาปัดมือของซีวอนให้หลุดจากข้อมือบอบบางก่อนที่จะเป็นฝ่ายคว้ามากุมไว้แทน

     

    “หือ?? อะไรของพี่เนี่ยคังอิน”

     

    “ของฉัน”

     

    “อ้อ พอเข้าใจ” คนถูกดุทางสายตาพยักหน้ายิ้มรับก่อนจะก้มหัวเป็นเชิงขอโทษ อีทึกยังคงทำหน้าไม่เข้าใจแต่สุดท้ายก็ถอนหายใจพรืดใหญ่ก่อนจะเอ่ยปากถาม

     

    “นายจะไปกินข้าวรึเปล่า”

     

    “ผมหรอ? ผมก็ต้องไปกินสิ เดี๋ยวไปปลุกพี่ฮีชอลก่อนนะ”

     

    ซีวอนเดินหายเข้าไปในตัวบ้านพร้อมกับที่ทั้งสองคนเดินไปหยุดอยู่หน้าประตู มือหนาเขย่าตัวร่างบางที่กำลังนอนอยู่บนเตียง คนถูกปลุกสะลึมสะลือค่อยๆลืมตาตื่นก่อนที่ความรู้สึกเจ็บจะแล่นริ้วเข้าที่บริเวณสะโพก

     

    “พี่ไปอาบน้ำเถอะ เดี๋ยวไปกินข้าวกัน”

     

    “ไปกินบ้าอะไรล่ะ....ลุกไม่ไหว” เสียงที่เคยมีพลังกลายเป็นว่าแหบแห้งเพราะเพิ่งตื่นบวกกับเพราะเมื่อคืนเจ้าตัวโตที่มาปลุกเขานี่สูบพลังไปเสียหมดสุดท้ายเลยสารภาพออกไปตรงๆว่าไม่สามารถขยับตัวไปไหนได้เพราะไม่อย่างนั้น ซีวอนคงจะต้องลากเขาไปที่ห้องอาหารแน่ๆ

     

    “พี่เป็นอะไรมากรึเปล่า?”

     

    “เมื่อคืนใครล่ะมันเล่นไม่หยุดน่ะ อ๊า ไปไกลๆฉันเลยนะไอ้บ้าฉ่อย!

     

    คนที่ยืนฟังอยู่หน้าห้องเลยเข้าใจทันทีคู่นี้คงไม่ไปไหนเป็นแน่แท้ จึงพากันจูงมือเดินออกจากบ้านดดยไม่ลืมที่จะล็อคประตูให้ ส่วนบ้านหลังสุดท้าย คนสวยก็หันไปหน้าไปปรึกษากับหวานใจอีกรอบก่อนจะตัดสินใจได้ว่าไหนๆก็เดินมาแล้ว จึงเดินไปหยุดอยู่ที่หน้าบ้านพักหลังสุดท้าย

     

    นิ้วเรียวกดออดย้ำซ้ำแล้วซ้ำเล่าอยู่นาน กว่าจะมีคนมาเปิดก็ทำเอาทั้งสองคนเกือบจะเดินกลับไปที่ห้องอาหารอยู่แล้ว อีทึกมีสีหน้าประหลาดใจนิดหน่อยเมื่อพบว่าคนที่มาเปิดประตูนั้นเป็นซองมินแทนที่จะเป็นคยูฮยอน มือบางเกาะอยู่ที่ขอบประตูอย่างเหนื่อยๆราวกับว่าจะไม่สามารถพยุงตัวเองได้ ด้วยความหวังดีเลยจะยื่นมือเข้าไปประคองหากแต่ว่ารุ่นน้องกลับส่ายหน้าเบาๆราวกับจะบอกว่าไม่เป็นไร

     

    “....มีอะไรรึเปล่าฮะรุ่นพี่”

     

    “อะ...เอ่อ...พี่จะมาถามว่าพวกนายจะไปกินข้าวกันรึเปล่า แต่ดูท่าทางนายแล้ว....”

     

    “คยูฮยอนยังไม่ตื่นเลยฮะ ขอบคุณมากนะครับที่มาตาม”

     

    “ไม่เป็นไรๆ นายกลับไปนอนต่อเถอะ ยังไงก็โทรสั่งอาหารเอานะ”

     

    “ฮะรุ่นพี่” ใบหน้าเซียวๆหายไปจากสายตาของเขาแล้วเมื่อร่างเล็กด้านในปิดประตู อีทึกหันไปยิ้มให้คังอินก่อนจะคว้ามือหนามากอบกุมไว้แล้วพากันเดินไปยังห้องอาหาร ความเงียบเข้าปกคลุมทั้งคู่หลังจากพบเจอเหตุการณ์ที่ดูเหมือนจะคล้ายๆกันทำเอาคนสวยชักอึดอัด เหลือบให้ไปมองคนข้างตัวเล็กน้อยว่าจะมีอาการเหมือนกันรึเปล่า กลายเป็นว่ามีเขาเพียงคนเดียวเท่านั้นที่รู้สึกแปลกๆ

     

    “นาย....ไม่รู้สึกอะไรเลยหรอ”

     

    “หือ? รู้สึก? รู้สึกอะไรล่ะ??”

     

    “...ก็....ช่างมันเถอะ!~ ฉันหิวข้าวแล้ว” ร่างบางไม่ยอมพูดต่อเมื่อเจอรอยยิ้มเล็กๆของคังอินก่อนจะตัดบทแล้วปล่อยให้ความเงียบเข้าปกคลุมต่อไป เมื่อมาถึงยังห้องอาหารก็เจอยัยตัวแสบที่หาว่าจะให้เขารับเข้ามาทักทาย

     

    “พี่อีทึก...มากันสองคนหรอคะ? หายไปไหนกันหมด”

     

    “หึหึ จะเหลือหรอ หมดแรงเลยสี่คู่”

     

    “ห๊ะ?! จริงดิ แล้วคู่ของพี่ล่ะ ไม่หมดแรงกับเขาบ้างหรอ” ประโยคหลังกระแซะเข้าที่ไหล่ของร่างบางก่อนจะยิ้มกรุ้มกริ่มเล็กน้อย เมื่อเห็นว่าดวงหน้าสวยขึ้นสีระเรื่อเด็กสาวก็หัวเราะออกมาแล้วเลิกแซว คังอินเห็นอย่างนั้นก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ถามอะไร

     

    “แล้ว....วันนี้จะไปเที่ยวกันไหวหรอ วันนี้จะไปสระมรกตนะ ส๊วยสวย”

     

    “คงไม่ไปแล้วแหละ วันนี้คงเล่นอยู่แถวๆนี้”

     

    “อ่า...น่าเสียดายจัง  งั้นตังค์ไปกินข้าวก่อนนะ” เมื่ออีกคนขอตัวไปกินข้าวอีทึกก็พยักหน้ารับก่อนจะยิ้มให้แล้วทำท่าจะไปตักอาหารบ้างหากแต่ว่ามือหนารั้งเอวบางเข้ามาแนบชิดแล้วกระซิบถามราวกับหึงหวงเล็กๆกับคนสวย

     

    “เมื่อกี้กระแซะกับตังค์ ฉันหวงนะ คุยอะไรกัน”

     

    “อ๊ะ...ยองอุน ไม่..ไม่มีอะไร”

     

    “ทำไมฉันถึงหวงนายขึ้นมาเสียดื้อๆนะ” ร่างสูงว่าอย่างตัดเพ้อก่อนจะฉวยเอาความหอมจากแก้มของร่างบางไปเสียดื้อๆแล้วยอมปล่อยคนในอ้อมกอด คนถูกกระทำจึงทำได้เพียงแค่หน้าแดงแล้วตีเบาๆที่ต้นแขนแกร่งของอีกฝ่ายก่อนจะก้มหน้างุดๆไปตักอาหาร

     

     

     

     

     

     

     

    เปลือกตาบางค่อยๆขยับเปิดขึ้นก่อนจะค่อยๆกระพริบตาเพื่อปรับแสง ความรู้สึกจี๊ดแล่นเข้ามาที่หัวทั้งๆที่ยังไม่ทันจะได้ทำอะไร เสียงครางหลุดออกมาอย่างไม่ได้ตั้งใจทำเอาคนที่กำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ต้องรีบทิ้งของในมือเข้ามาดูร่างบางทันที

     

    “ตื่นแล้วหรอ”

     

    “อือ....คิบอม ทำไมมันไม่ดีขึ้นอ่ะ”

     

    “ปลาดื้อ....บอกว่าจะหยิบยาให้ก็ไม่ฟัง”

     

    “ทำไมอ่ะ ผมก็กินถูกไม่ใช่หรอ”

     

    “ถ้าถูกแล้วอาการจะหนักขึ้นอย่างนั้นหรอฮึ?” ขึ้นเสียงสูงเป็นเชิงคำถามก่อนจะก้มหน้าลงไปใกล้เพื่อเอาหน้าผากแตะกับหน้าผากของอีกฝ่ายเพื่อวัดอุณหภูมิ หวนมองใบหน้าหวานอีกทีก็ต้องขมวดคิ้วเพราะไม่รู้ว่าที่หน้าแดงเป็นเพราะเขินกับการกระทำของเขาเมื่อครู่หรือเป็นเพราะพิษไข้ที่ขึ้นสูงอย่างไม่น่าเชื่อ

     

    “แล้ว...แล้วผมกินยาอะไร ทำไมถึงแย่ลงขนาดนี้”

     

    “ยาปลุกเซ็กส์ = =;;

     

    “ยาปลุก.....อ๊า!! คิบอมเอามาทำไม”

     

    “กะ....ก็....ซีวอนบอกให้เอา มันบอกว่ามันอาจจะได้ใช้แต่ไม่กล้าเก็บไว้กับตัวเอง”

     

    “.....ไอคุณชายสามสลึง ไอ....คนไม่เต็มเต็ง ขอให้มันถูกพี่ฮีชอลถีบ สาธุๆ”

     

    “ไม่ต้องไปแช่งเขาหรอกน่า นอนพักเถอะ ฉันสั่งอาหารมาแล้ว อีกเดี๋ยวคงมา”

     

    มือหนาลูบลงที่ศรีษะของร่างเล็กช้าๆก่อนจะดึงผ้าห่มขึ้นมาปิดให้ถึงลำคอของอีกฝ่าย เสียงออดที่หน้าห้องดังขึ้นทำให้ร่างสูงต้องลุกขึ้นเดินไปเปิดประตูเพราะคาดว่าน่าจะเป็นอาหารที่เขาสั่งมา

     

    “อาหารที่สั่งได้แล้วค่ะ^^

     

    “เธอ....อีกแล้วหรอ”

     

    “เฮ้~ ทำไมพี่ต้องทำเสียงรำคาญฉันแบบนั้นเต็มทนด้วยล่ะ ฉันเอาอาหารมาส่งนะ”

    เด็กสาวคนเดิมใช้เวลาที่เจ้าของห้องกำลังทำหน้ารำคาญเข้ามาในห้องก่อนจะวางอาหารไว้ที่โต๊ะเขียนหนังสือแล้วเดินเข้าไปหาร่างบางที่นอนซมอยู่บนเตียง โดยไม่ลืมที่จะหันไปต่อว่าคนหน้าบูดที่เพิ่งปิดประตูแล้วเดินเข้ามา

     

    “พี่ทำรุนแรงงแบบนี้ได้ยังไงกัน ดูสิ! ทำไมพี่ทงเฮตัวร้อนแบบนี้”

     

    “ไม่ใช่เรื่องของเธอ” ไม่ได้คำตอบกลับมาแถมยังโดนคนหล่อผลักไสหัวให้หลบพ้นจากเตียง ทงเฮหัวเราะเบาๆก่อนจะเอ่ยขอบคุณตังค์ที่เข้ามาเสิร์ฟอาหารให้

     

    “ไม่เป็นไรค่ะ ถ้าอย่างนั้นตังค์ไปก่อนดีกว่า มาป่วนเฉยๆ” ว่าจบก็หันไปแลบลิ้นให้คนอารมณ์บูดก่อนจะวิ่งออกจากห้องไปเพราะกลัวว่าจะโดนผลักหัวอีกรอบ

     

     

     

     

     

     

     

     

    พลั่ก!

     

    “โอ๊ยยย พี่จะถีบผมทำไมเนี่ย” เมื่อเท้าสวยยันโครมเข้าที่ตัวของอีกฝ่าย เสียงโครมครามก็ตามมาก่อนจะมีเสียงโอดครวญของคนโดนถีบมาตบท้าย ฮีชอลเอามือกุมสะโพกตัวเองเล็กน้อยเพราะเมื่อครู่ใช้แรงช่วงล่างเยอะพอสมควรแต่ก็สามารถควบคุมอารมณ์ทางสีหน้าได้ดีจนไม่แสดงออกมาว่ายังคงเจ็บอยู่ คนถูกถีบลุกขึ้นมานั่งอีกเตียงก่อนจะเอามือจับผ้าขนหนูที่นุ่งอยู่ให้ดีเกรงว่าจะหลุด

     

    “ถ้าผ้ามันหลุดขึ้นมานะ ผมกดพี่ไม่ปล่อยแน่!

     

    “หุบปากหมาๆของนายไปเลยนะ”

     

    “อะไรกันเนี่ย! เมื่อคืนพี่ยังน่ารักกว่านี้เลย เสียงหวานๆของพี่ยังห้องอยู่ในหูของผมอยู่เลยนะ ทำไมเช้านี้ถึงทำตัวเหมือนกับยัยเจ๊วัยหมดประจำเดือนวะเนี่ย”

     

    “ชิ! ทำอย่างกับว่าเช้านี้นายทำตัวดีนักแหละ เมื่อคืนดีกว่าเป็นไหนๆ” คนสวยบ่นอุบแต่ก็พยายามไม่ให้อีกฝ่ายได้ยิน แต่ทว่าซีวอนกลับหูใช้การได้ดีขึ้นมาเสียดื้อๆ รีบย้ายฐานของตัวเองไปนั่งอยู่ที่เตียงของอีกคนที่กำลังหน้าแดงทันที

     

    “ผมรักพี่นะ”

     

    “ไอ้บ้า!” เมื่อถูกบอกรักโต้งๆแบบนี้ มือเรียวก็คว้าหมอนปาเข้าใส่เพื่อแก้เขิน ซีวอนเอามือปัดหมอนออกมาก่อนจะรวบตัวอีกฝ่ายเข้ามาแนบอก แล้วถามถึงเรื่องของนิชคุณ

     

    “ไอ้...คุณบ้าอะไรนั่น...เป็นอะไรกับพี่”

     

    “ก็แค่เพื่อนกัน...อะไรนักหนากับคุณวะเนี่ย จะไปรักกันหรอ”

     

    “ให้แน่นะ แค่เพื่อนเท่านั้นนะ”

     

    “อือ แค่เพื่อน” เมื่อได้ยินคำย้ำแบบหนักแน่น ซีวอนจึงโน้มหน้าลงไปใกล้ก่อนจะทาบริมฝีปากลงที่ริมฝีปากของอีกฝ่ายช้าๆ ฮีชอลตกใจเพียงชั่วครู่และพยายามจะผลักอีกฝ่ายออกหากแต่ว่าสัมผัสที่วาบหวิวทำเอาเรี่ยวแรงที่มีอยู่น้อยเหือดหายไปเสียดื้อๆ ความอบอุ่นถูกส่งมาทางลิ้นร้อนที่สอดเข้ามาในโพรงปากเล็กทำร่างบางตัวสั่นขึ้นมาเสียดื้อๆ สัมผัสที่เย็นเยียบแตะลงบนที่หน้าท้องแบนราบช้าๆหากแต่ว่าคนโดนรุกรานไม่รู้ตัวแถมยังเคลิ้มไปกับสัมผัสที่ได้รับ

     

    ออดดดดดด  ออดดดดด

     

    พลั่ก!!!

     

    เท้าสวยถีบโครมเข้าที่หน้าท้องของอีกฝ่าย เจ้าของเท้าชะโงกมองคนที่ตกเตียงไปอีกครั้งก่อนจะนั่งจับหน้าอกของตัวเองที่กำลังเต้นรัวเร็วราวกับจะหลุดกระเด็นออกมาเสียให้ได้ เสียงออดที่ดังไม่หยุดทำเอาคนที่กระเด็นไปนั่งบนพื้นต้องเดินกระเพลกๆไปเปิดประตูด้วยอารมณ์ที่คุกกรุ่นพอสมควร ระหว่างทางที่เดินไปเปิดประตูก็คิดคำด่าไว้ยาวเหยียดเป็นกิโล คำด่าที่คิดไว้เมื่อครู่เลยต้องปรับให้ซอฟท์กว่าเดิมเมื่อเห็นว่าเป็นใคร

     

    “อะไรของเธอเนี่ยห๊ะ! มาทำไมตอนนี้วะเนี่ย”

     

    “แหน่ๆ พี่พูดกับผู้มีพระคุณของพี่อย่างนี้หรอ ไอ้รอยแดงๆจ้ำๆตรงคอเนี่ย เสร็จไปแล้วอ่ะดิ”

     

     

    “เดี๋ยวเหอะ มาแค่ป่วนใช่มั้ยเนี่ย”

    “เปล่า ฉันมาทวงสัญญา ให้เร็ว เดี๋ยววันมะรืนฉันก็ต้องกลับแล้ว”

     

    “เออๆ รออยู่หน้าห้องนะ” คนถูกสั่งหน้ามุ่ยก่อนจะเดินกลับเข้าไปในห้อง ฮีชอลที่ยังคงนั่งนิ่งอยู่บนเตียงก็ต้องสติกลับมาอีกครั้งเมื่อจู่ๆร่างสูงก็แนบริมฝีปากแผ่วเบาลงที่ริมฝีปากของตัวเอง ไม่นานนักก็ถอยออกไปไม่ได้วาบหวิวเหมือนเมื่อครู่ ดวงตากลมโตมองตามแผ่นหลังกว้างที่เปลือยเปล่าที่มีจุดหมายปลายทางไปยังหน้าห้อง เมื่อได้ยินประโยคสนทนาระหว่างทั้งคู่ก็อดขมวดคิ้วแปลกๆไม่ได้

     

    “ฉันทำตามสัญญาแล้วนะ ไปได้แล้วไป!

     

    “เออๆ ไปก็ได้ นึกว่าจะวาบหวิวกว่านี้ซะอีก”

     

    ซีวอนปิดประตูห้องก่อนจะเดินกลับเข้ามาแล้วนั่งลงที่เตียงของคนสวยอีกครั้ง ฮีชอลลอบมอบคนข้างตัวก่อนจะเอ่ยปากถามถึงประโยคเมื่อครู่ด้วยความสงสัย

     

    “สัญญาอะไรไว้กับน้องตังค์”

     

    “หือ? หึงหรอ”

     

    “เดี๋ยวก็ยันอีกรอบ บอกมาเร็วๆ สัญญาอะไรกับน้องตังค์ โกหกนายไม่ต้องมาแตะฉันอีกนะ”

     

    “....ก็แค่....ทำตามสัญญาเรื่องพิชิตจิ้นพี่ได้ก็เท่านั้นเอง”

     

    “สัญญาว่าอะไรล่ะ”

     

    “ถ้าน้องเขาทำให้ผมเอาเวอร์จิ้นพี่มาได้ ผมจะยอมให้น้องเขาดูฉากจูบของผมกับพี่ก็เท่านั้นเอง”

     

    พลั่ก!!

     

    “พี่ถีบผมอีกแล้วนะTT

     

     

     

     

     

     

    ความรู้สึกปวดร้าวบริเวณสะโพกทำเอาร่างเล็กอยากจะลุกขึ้นมากระทืบคนที่ไม่ยอมรู้จักพอเมื่อคืนนี้ แถมยังต้องให้เขาไปเปิดประตูห้องแทนอีกเพราะมันยังหลับไม่ตื่นเลยทำให้ระบมหนักยิ่งกว่าเก่า แถมการนอนอยู่นิ่งๆก็ยังไม่ช่วยอะไรเขาอีกด้วย

     

    “ตัวเล็ก....ตัวเล็ก” คนที่กำลังถูกบ่นถึงในใจตอนนี้กำลังย้ายตัวเองจากอีกเตียงมายังที่นอนของซองมินที่กำลังโอดครวญอยู่ในใจ คยูฮยอนเอามือสะกิดเบาๆที่ต้นแขนของคนอวบเล็กน้อยก่อนจะจูบเบาๆลงที่ตัวเองสะกิด ซองมินลืมตาขึ้นมาน้อยๆก่อนจะค่อยๆขยับตัวเพราะกลัวว่าคยูฮยอนจะไม่ยอมหยุดเหมือนเมื่อคืน

     

    “หือ?”

     

    “เจ็บมากมั้ย”

     

    “มาก มาลองโดนบ้างมั้ยล่ะ”

     

    “ตัวเล็ก~ เค้าขอโทษ เจ็บตรงไหนมั่งอ่ะ” มือหนาเลื่อนไปทั่วร่างเล็กที่กำลังนอนก่อนจะแตะลงเบาๆที่สะโพก ซองมินเอามือตีทันทีก่อนจะพลิกตัวหนีมือนั่นหากแต่ว่าหนีได้ไม่ไกลเพราะความเจ็บที่สะโพกแล่นร้าวเข้ามา คยูฮยอนจับร่างเล็กไว้ก่อนจะทำเสียงดุ

     

    “นอนนิ่งๆสิ อย่าขยับไปขยับมา ตัวเล็กเจ็บไม่ใช่หรอ”

     

    “อือ~ ตัวใหญ่อย่าจับนู่นจับนี่ได้มั้ย มันสะเทือน เจ็บ”

     

    “เค้าไม่ทำอะไรตัวเล็กหรอกน่า ถึงเค้าจะชอบแบบเมื่อคืนก็เถอะ”

     

     อยากจะยกเท้าถีบคนข้างตัวให้หงายหลังลงจากเตียงไปยิ่งนักหากแต่ว่าสภาพที่เป็นอยู่ในตอนนี้ไม่เอื้ออำนวย เสียงออดหน้าห้องดังขึ้นทำเอาร่างสูงที่กำลังก่อกวนคนตัวเล็กต้องเดินไปเปิดประตู คยูฮยอนขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยปากถามคนที่มาเยือน

     

    “อ้าว....น้องตังค์ มาทำอะไร”

     

    “มาดูผลงานของตัวเอง ฮั่นแหน่~ สำเร็จล่ะสิ”

     

    “อ๊ะแน่นอน ฝีมือของพี่ล้วนๆ”

     

    “ขอโทษแรงๆสามที แผนใครๆ” เมื่อเห็นใบหน้ายับๆของเด็กหญิงก็อดเอื้อมมือไปขยี้เสียมิได้ ตังค์โยกหัวหลบก่อนจะบุ้ยปากไปยังคนที่นอนอยู่ในห้องที่ตอนนี้เริ่มจะพยุงตัวเองขึ้นมานั่ง คยูฮยอนโบกมือลาก่อนจะปิดประตูห้องแล้วเดินไปนั่งข้างเตียงของคนที่กำลังทำหน้าง้ำพลางถามอย่างอ้อนๆ

     

    “ทำไมตัวเล็กทำหน้าแบบนั้นล่ะ ไม่สวยเลย”

     

    “เออ! ฉันไม่ใช่ผู้หญิงนี่~

     

    “ตัวเล็ก~ ตัวเล็กอย่าพูดแบบนั้นสิ เมื่อคืนเราโอเคกันแล้วไม่ใช่หรอ?”

     

    “หึ! ฉันก็ว่าอย่างนั้นแหละ แต่คนบางคนมันยังเดินหน้าสลอนไปลูบหัวผู้หญิงเล่นอยู่เลย อ้อ~ นี่คงจะนัดกันมาสินะ!

     

    “ถ้านัดเค้าก็ไม่นัดที่ห้องหรอก ตัวเล็ก...น้องเค้ามาเยี่ยมเฉยๆ”

     

    “เรื่องอะไรทำไมต้องมาเยี่ยมด้วย! ถึงห้องเนี่ยนะ!? ถ้าฉันไม่ได้อยู่ในห้องป่านนี้คงพาเข้ามาแล้วมั้งเนี่ย”

     

    “อ๊า>O< ไม่เอาๆ ไม่พูดอย่างนั้น จริงๆแล้วน้องเขามาเยี่ยมเฉยๆจริงๆนะ มาดูว่าที่พูดกันไว้น่ะจริงรึเปล่า”

     

    “เรื่องอะไร.......”

     

    “อะ....เอ่อ.....ก็เมื่อวานตัวเล็กโกรธเค้าไง เค้าเลยไปถามน้องเขาว่าต้องทำยังไง น้องเขาบอกว่าให้ค่อยๆพูดแล้วกดเลย”

     

    “แล้วนายก็ทำ”

     

    “อื้อ~

     

    “ไปนอนเตียงนู้นนะ คืนนี้ไม่ต้องมาแตะฉัน”

     

     ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------



    Talk ก่อนจากในตอนนี้= =
    มาลงแล้วๆๆๆ วันเดียวกับวันที่รีตอนที่แล้วเลย 55+ เพราไม่คิดว่าจะแต่งเสร็จ พอดีว่าเมื่อวานนั่งรอดูไลฟ์แรกของพี่ๆในอัลบั้ม 4 ตั้งเลยไม่ได้แต่งฟิคแต่(แฮ่-.-V) แต่วันนี้ก็มาลงเรียบร้อยแล้วนะคะ พล็อตนี่เขียนไว้ตั้งแต่เดือนที่แล้ว 55+ ส่วนในตอนนี้มันยาวนะรู้สึก- - ยัดตอนของฮันฮยอกไปลง ต้องขอโทษด้วยจริงๆค่ะ ตอนหน้ากะว่าจะให้กลับเกาหลีละถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด และแน่นอนว่าตัวประกอบอย่างตังค์ต้องโผล่มาแน่นอน ก๊ากกกก
    ผ่านไปอย่างสบายๆ ชิวๆ ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นแต่บอกตามตรงว่าชอบคู่วอนซิน คือเป็นอะไรที่ชอบมากสุดๆอาจจด้วยคาแรกเตอร์ห่ามๆของเจ๊ที่เอะอะอะไรก็โวยวาย โวยวาย หรือไม่ก็ถีบพลั่ก ถีบพลั่ก ทั้งๆที่ระบมซะขนาดดดด สะใจตังค์ดีนะ-.,- คิเฮเลยเป็นแบบน่ารักๆชิวๆ เพราะเฮไม่สบายซะงั้น ก๊ากกกก เป็นไงล่ะอีหนูอวดดีนักนะ เอาเป็นว่าตอนนี้ตังค์สะใจทุกคู่ แต่ฮันฮยอกรอตอนหน้าค่ะ><



    *050710 :; อัพเดตล่าสุด

     

     

     

     

     

     

     

     



     

     


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×