คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : [Short Fic] กักขัง... [ WonHyuk ] 1
CUT *
แสงแดดที่ส่องเข้ามากระทบกับใบหน้าหวานที่นอนนิ่งอยู่บนเตียงนั้น ทำให้อึนฮยอกพยายามจะพลิกตัวหลบแดดเพื่อที่ตนจะได้นอนต่อ
“โอ๊ยยยย” แต่ก็ต้องร้องลั่น เพราะเมื่อตนขยับร่างกายเพียงเล็กน้อย ความเจ็บปวดที่ช่วงล่างก็แล่นแปล๊บขึ้นมาทันที ร่างบางทรุดกลับไปนอนที่เดิม
“ทำไมไม่รู้จักจำเลยนะว่าตื่นมาแล้วมันจะปวด ตื่นมาแล้วก็ร้องแบบนี้ได้ถูกวัน เฮ้อ....” ร่างสูงที่อาบน้ำเสร็จเรียบร้อยแล้ว กำลังยืนแต่งตัวอยู่ที่หน้ากระจก ซีวอนเอ่ยบ่นคนร่างบางที่พอตื่นมาปุ๊บก็ต้องร้องปั๊บแบบนี้ทุกวัน ไม่รู้จักจำเอาซะเลย
“ก็ไม่ใช่เพราะนายหรือไงละที่ทำให้ชั้นเป็นแบบนี้ เมื่อไรจะปล่อยชั้นไปสักที ” ร่างบางว่าพลางสะบัดข้อมือที่ถูกโซ่อันใหญ่รัดไว้ไปมา
“เอ่า..ขยับเข้าไปสิน่ะ เดี่ยวข้อมือมันก็ขาดก่อนได้กลับบ้านหรอกน่ะ” ซีวอนเอ่ยเตือน เมื่อเห็นว่าข้อมือที่มีเลือดแห้งเกรอะกรังนั้นเริ่มจะมีเลือดสีสดไหลซึมออกมาอีกแล้ว
“นายก็ปล่อยชั้นกลับไปสักทีสิ จะจับชั้นมาทำไม” ร่างบางถามอย่างไม่เข้าใจ น้ำตาที่เคยแห้งไปแล้วนั้นกลับไหลออกมาอีกครั้งอย่างไม่มีวันหมด
“ก็รอจนกว่าน้ำตานายจะไหลเป็นสายเลือดก็แล้วกันนะ ชั้นไปงานก่อนละ อ่อ เดี๋ยวจะให้คนมาทำความสะอาดให้นะ แล้วก็กินข้าวเยอะๆด้วยล่ะ ท่าชั้นกลับมาแล้วรู้ว่านายไม่กินข้าว ชั้นจะจัดการป้อนมันด้วยตัวชั้นเองเลยคอยดู ” ร่างสูงสั่งก่อนจะคว้ากระเป๋าสีดำใบหรูออกจากห้องไป
“ฮึก...ฮือๆๆ นี่มันเวรกรรมอะไรของชั้น ถึงต้องมาเจอคนชั่วๆอย่างไอบ้านี่ด้วยนะ ฮือๆๆ” ร่างบางสะอื้นไห้จนตัวโยน มือบางที่ไม่ได้ถูกล็อกนั้นพยายามปาดน้ำตาของตนเองออกจากใบหน้า
ย้อนกลับไปเมื่อ 3 วันที่แล้ว.....
ณ คลับหรูใจกลางกรุงโซล
“ฮีก...ฮือๆ ช้านมานนนนม่ายยดีตรงหนายยย ฮือๆ” ร่างบางที่กระดกเหล้าตรงหน้าราวกับน้ำเปล่านั่งคร่ำครวญอยู่ที่เคาร์เตอร์บาร์อยู่คนเดียว
“ฮึก...พี่ครับ เอาเหล้ามาอีก...ฮึกๆ” ร่างบางพูดไปก็สะอื้นไป
“เอ่อ...พี่ว่าน้องเมามากแล้วนะครับ กลับบ้านดีกว่านะพี่ว่า” บาร์เทนเดอร์รูปหล่อเอ่ยเตือนคนร่างบางที่นั่งกินเหล้าอยู่ที่นี่มาตั้งแต่ 4 ทุ่มจนนี่เวลาล่วงเลยมาจนถึงเที่ยงคืนแล้วร่างบางตรงหน้าก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดกินมันเสียที คนตัวบางตรงหน้าร้องไห้มาเป็นเวลาหลายชม. ใบหน้าหวานแดงก่ำเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ เรียวปากสีแดงสดนั้นคร่ำครวญแต่เรื่องเดิมๆซ้ำไปซ้ำมา
“ฮึก ฮือๆทำไมต้องทิ้งพี่ไปด้วย พี่มันไม่แมนตรงหนายยยอ่า” เหตุที่ร่างบางคนนี้ร้องไห้ไม่หยุดก็เป็นเพราะว่าแฟนสาวที่คบมาได้เพียงแค่ 3 เดือนอยู่ๆก็เดินเข้ามาบอกเลิกเค้าด้วยเหตุผลที่ว่าเค้าดูไม่แมน แถมยังควงแฟนหนุ่มกล้ามใหญ่คนใหม่มาเยาะเย้ยกันถึงที่อีกต่างหาก
“น้องๆ คนนั้นเค้าเป็นอะไรน่ะ” ซีวอนที่นั่งมองร่างบางมาตั้งแต่คนตัวบางเดินเข้ามาในร้าน เอ่ยเรียกบริกรหนุ่มมาถามไถ่
“อ่อ...พี่เค้าอกหักน่ะครับ ก็เลยมานั่งกินเหล้าย้อมใจ” บริกรหนุ่มเอ่ยตอบกลับมาเท่าที่ตนเองรู้
“ท่างั้นพี่ขอเหล้าที่แรงที่สุดเลยนะแก้วนึง ”ซีวอนสั่งชายหนุ่มตรงหน้า รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏบนใบหน้า ร่างสูงจดจ้องคนร่างบางอย่างถูกใจ
“มาคนเดียวหรอครับ ขอผมนั่งเป็นเพื่อนด้วยคนนะ” ไม่รอให้อีกคนอนุญาต ซีวอนก็ถือวิสาสะลงนั่งเองเสียเลย
“ท่าทางจะกำลังเสียใจอยู่นะครับ อืม...ท่างั้นผมเลี้ยงเหล้าคุณแล้วกันเนอะ มีคนนั่งดื่มเป็นเพื่อนดีกว่านั่งร้องไห้เงียบๆคนเดียวแบบนี้นะครับ” ซีวอนส่งยิ้มที่แสนดีไปให้คนร่างบาง ก่อนจะยื่นแก้วเหล้าที่สั่งให้ชงมาเป็นพิเศษนั้นให้ร่างบาง
“ดื่มครับ เศร้าให้มันสุดๆแล้วพรุ่งนี้จะได้เริ่มต้นใหม่นะ” ร่างสูงบอกพลางยื่นแก้วของตนเองไปตรงหน้าร่างบาง อึนฮยอกมองอยู่สักพักก็หยิบแก้วที่ร่างสูงส่งให้ขึ้นมา ก่อนจะชนกับแก้วของซีวอน
“เชียร์!! แด่ชีวิตใหม่ที่กำลังจะเริ่มต้นขึ้น...” ร่างสูงเอ่ยบอก ก่อนจะจิบเหล้าในแก้วตนเพียงเล็กน้อย ผิดกับคนตัวบางที่กระดกมันทีเดียวหมดแก้วเลย คนทั้งคู่นั่งคุยกันไปคุยกันมาอยู่สักพัก ฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ที่ร่างบางดื่มเข้าไปก็เริ่มออก
“อาววว อีก แก้ววววมา....” ร่างบางบอกบาร์เทนเดอร์ ก่อนจะคอพับคออ่อนหลับปุ๋ยไปในที่สุด
“อึนฮยอกครับๆ” มือหนาเขย่าแขนคนร่างบางไปมาเพื่อเช็คสติ เมื่อไม่เห็นการตอบรับใดๆกลับมา ร่างสูงก็ยิ้มกริ่มทันที คนร่างสูงหันไปจ่ายค่าเหล้าของตนและคนร่างบางนี้ ก่อนจะช้อนตัวอุ้มอึนฮยอกไปยังรถของตนเอง
“เดี๋ยวเราไปสนุกกันดีกว่า” ร่างสูงบอกคนตัวบาง ก่อนจะขับรถมุ่งหน้าไปยังคอนโดหรูของตนเอง
เมื่อมาถึงที่คอนโด ซีวอนก็จัดการอุ้มอึนฮยอกไปวางไว้บนเตียงนุ่มทันที ร่างสูงไม่รอช้าก้มลงซุกไซร้คนตัวบางด้วยความอยากทันที
“อื้มมมม...” ร่างบางครางออกมาทั้งๆที่ตายังปิดอยู่แบบนั้น แม้สติจะไม่มีแต่อารมณ์ที่ถูกปลุกขึ้นมานั้นก็ยากที่จะห้ามไหว
“ชั้นถูกใจนายซะแล้วสิ อึนฮยอก” ร่างสูงว่าพลางลูบไล้ใบหน้าหวานตรงหน้าอย่างหลงใหล เพียงแค่เห็นคนตรงหน้าก้าวเข้ามาในผับ เค้าก็แทบจะละสายตาออกจากคนตัวบางไม่ได้เลย ยิ่งมองก็ยิ่งหลงใหล ยิ่งอยากที่จะครองครอง กิจกรรมรักดำเนินไปโดยมีคนร่างสูงเป็นคนคุมเกม ส่วนคนตัวบางก็ปล่อยตัวไปตามความรู้สึกและอารมณ์ที่ถูกปลุกเร้าขึ้นมา ถึงแม้ว่าจะไม่มีสติหลงเหลืออยู่เลยก็ตามที
“ชั้นไม่ผิดหวังจริงๆ ที่ได้นายมาเป็นของเล่นชิ้นใหม่ของชั้น ความบริสุทธิ์ของนายที่ชั้นได้มา มันแทบจะทำให้ชั้นเป็นบ้า เมื่อชั้นได้เข้าไปอยู่ในตัวของนาย ร่างกายของนายมันชวนให้ชั้นหลงใหลแบบโงหัวไม่ขึ้นเลยจริงๆ จากวันนี้เป็นต้นไปนายจะต้องอยู่กับชั้นที่นี่ จนกว่าชั้นจะเบื่อกับการเล่นของขวัญชิ้นนี้นะ” มือหนาลูบไล้ไปตามเรือนร่างขาวนวลอย่างหลงใหล ริมฝีปากได้รูปนั้นเอ่ยบอกคนร่างบางที่นอนนิ่งไม่ได้รู้สึกตัวเลยแม้แต่น้อย
เช้าวันใหม่มาถึงพร้อมกับความเจ็บปวดที่ช่องทางด้านหลัง มันรู้สึกร้าวระบมจนเหมือนร่างกายจะหลุดออกมาเป็นชิ้นๆ มือบางกุมขมับของตัวเองแน่นด้วยความปวดหัวจากฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ที่ยังไม่จางหายไป
‘แกร๊งๆ’ เสียงของแข็งบางอย่างกระทบกับหัวเตียงอย่างแรง ร่างบางเงยหน้าขึ้นมาก็พบโซ่อันใหญ่ที่คล้องอยู่ที่หัวเตียง สายตาคู่สวยไล่มองไปตามโซ่ว่ามันถูกผูกติดไว้กับอะไร จนมาหยุดลงที่ข้อมือบางของตนเอง
“นี่มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย” อึนฮยอกมองโซ่ในมือตนเองอย่างไม่เข้าใจ
“ตื่นแล้วหรอ ปวดหัวล่ะสิ เดี๋ยวชั้นให้คนชงชามาให้แล้วกัน อ่อ เดี๋ยวจะมีคนมาเปลี่ยนผ้าปูที่นอนด้วยนะ มันเลอะแบบนั้นชั้นคงนอนไม่ได้หรอก แล้วอย่าลืมกินข้าวด้วยล่ะ ท่าผอมไปคงจะสู้แรงของชั้นไม่ไหวแน่ๆเลย” ร่างสูงสั่งพลางจะก้าวเดินออกไปจากห้อง
“เดี๋ยว...นายเป็นใคร” อึนฮยอกถามอย่างสงสัย นี่เค้าอยู่ที่ไหน แล้วมาที่นี่ได้ยังไง มันเกิดอะไรขึ้น แล้ว....คนตรงหน้าเป็นใคร
“อะไร...นายจำสามีหมาดๆของตัวเองไม่ได้หรอ” ซีวอนถามพลางยิ้มกรุ้มกริ่ม
“นายพูดอะไร ชั้นไม่เห็นรู้เรื่องเลย แล้วชั้นอยู่ที่ไหน แล้วมาที่นี่ได้ยังไง” ร่างบางเอ่ยถามออกมาเป็นชุด ในหัวกำลังพยายามประมวลภาพต่างๆที่เกิดขึ้น แต่มันก็ตื้อไปหมด
“ที่นี่คือรังรักของเราไงล่ะ เมื่อคืนเรามาสนุกกันที่นี่ไง นายจำมันไม่ได้หรอ หืม...แค่นี้ทำเป็นจำ ‘ผัว’ ตัวเองไม่ได้ ทั้งที่เมื่อคืนน่ะครางเรียกชื่อชั้นซะเสียงหวานแบบนั้นน่ะอึนฮยอก” ร่างสูงเอ่ยบอกคนตัวบาง ยิ่งทำให้อึนฮยอกรู้สึกสับสนเป็นเท่าตัว
“เอาล่ะๆ ชั้นไม่มีเวลาว่างมาคุยกับนายนักหรอกนะ วันนี้ชั้นมีประชุมใหญ่ ขอตัวก่อนนะเมียที่รัก ไว้คืนนี้จะกลับมาเล่นด้วยใหม่นะ” ทิ้งท้ายไว้แค่นั้น ร่างสูงก็เดินจากไป อึนฮยอกที่กำลังสับสนนั้นมองไปยังโซ่เหล็กที่คล้องมือของตัวเองไว้ ก่อนที่มืออีกข้างที่ไม่ได้ถูกรัดจะเปิดผ้าห่มออกดูว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง ทำไมเค้าถึงได้เจ็บช่วงล่างมากมายขนาดนี้
เมื่อผ้าห่มถูกเปิดออกให้เห็นอย่างชัดเจน ร่างบางก็แทบกลั้นน้ำตาของตนเองไว้ไม่อยู่ คนตัวบางปล่อยโฮทันทีเมื่อรู้ว่าตนเองเสียความบริสุทธิ์ให้กับคนที่ตนเองไม่เคยรู้จักมากก่อน คราบเลือดสีแดงฉานที่เปรอะเต็มที่นอนนั้นเป็นหลักฐานที่บ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าตอนนี้ชีวิตของตนไม่เหลืออะไรแล้วจริงๆ มือบางลูบไปตามเรือนร่างของตนเองที่ปรากฏเป็นรอยแดงเสียทั่วตัวอย่างขยะแขยง ร่างบางพยายามใช้มือขัดรอยแดงนั้นให้เรือนหายไปจากร่างกายที่โสมมของเค้าในตอนนี้
“ฮึก...ฮือๆๆๆ ...” ไร้ซึ่งคำพูดใดๆจะเอ่ยออกมา ตอนนี้เค้าเสียใจจนแทบบ้า มือบางยังคงถูไถไปตามรอยแดงนั้นแรงๆเพื่อลบความสกปรกออกจากตัว น้ำตาที่ไหลรินออกมาไม่ขาดสายนั้นไม่ได้ช่วยรักษาความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นทั้งร่ายกายและจิตใจได้เลย
“ก๊อกๆๆ” เสียงเคาะประตูดังขึ้น อึนฮยอกรีบดึงผ้าห่มขึ้นมาปิดร่างกายของตนไว้ทันที หญิงสาววัยกลางคนเดินเข้ามาพร้อมกับถาดอาหาร
“คุณหนูทานอะไรสักหน่อยนะคะ” หญิงสาวพูดกับอึนฮยอกด้วยความสุภาพ แววตาที่เศร้าหม่นนั้นเหมือนจะร้องไห้เมื่อเห็นสภาพของคนที่นอนอยู่บนเตียง
“ป้าเป็นใครครับ แล้วที่นี่ที่ไหน” อึนฮยอกเอ่ยถามทั้งน้ำตา
“ที่นี่คือคอนโดของคุณซีวอนน่ะจ้ะ ป้าเป็นคนดูแลที่นี่น่ะ” ว่าพลางพยุงอึนฮยอกให้ลุกขึ้นนั่ง
“ท่างั้นป้าช่วยปล่อยผมไปได้มั้ยครับ ฮึก ช่วยปลดไอ้โซ่บ้าๆนี่ออกไปที ฮือ... ผมอยากจะหนีออกไปจากที่นี่ ฮืออๆๆๆ” อึนฮยอกว่าพลางปล่อยโฮออกมาอีกครั้ง หญิงสาวอยากจะเข้าไปกอดปลอบคนตรงหน้าที่ดูบอบบางคนนี้ซะเหลือเกิน
“ป้าช่วยคุณหนูไม่ได้จริงๆค่ะ คนที่จะปลดโซ่ได้มีเพียงคุณซีวอนคนเดียวเท่านั้นน่ะค่ะ ป้าขอโทษนะจ้ะหนู” ป้าเอ่ยปลอบประโลมคนร่างบาง ก่อนจะตักข้าวป้อนให้คนตัวบางทาน
“ป้าชื่อจางลี่อินนะจ้ะ เรียกป้าลี่อินก็ได้นะ เดี๋ยวคุณหนูทานข้าวก่อนนะแล้วป้าจะมาเช็ดตัวให้” ว่าพลางส่งช้อนให้คนร่างบาง
“ฮยอกทานไม่ลงหรอกฮะ ป้าช่วยพาฮยอกหนีทีได้มั้ย นะ ฮยอกขอร้อง” ร่างบางส่งสายตาเว้าวอนไปให้ ลี่อินรู้สึกลำบากใจเป็นอย่างมาก ท่าเค้าช่วยได้ เค้าจะพยายามช่วยร่างบางให้ถึงที่สุดเลยจริงๆ
“ป้าขอโทษนะคะคุณหนู ไม่ร้องนะคะ” ว่าแล้วก็กอดปลอบคนร่างบางตรงหน้า มือเหี่ยวย่นนั้นปาดน้ำตาออกจากใบหน้าหวานเบาๆ ความบอบบางของอึนฮยอกนั้นเหมือนกับแก้วบางๆที่พร้อมจะแตกได้ทุกเมื่อ ตอนนี้รอยร้าวของแก้วนั้นมีมากกว่าครึ่งแล้ว เหลือเพียงแค่ว่ามันจะแตกเมื่อไหร่ก็แค่นั้นเอง
“ป้าป้อนนะคะ ทานเยอะๆนะจะได้มีแรง เชื่อป้านะคะคนดี” ป้าลี่อินพยายามปลอบประโลมอึนฮยอกให้มากที่สุด หญิงวัยกลางคนนั้นค่อยๆป้อนข้าวร่างบางทีละนิดๆ จนข้าวในจานนั้นลดลงเรื่อยจนหมดจาน
“เดี๋ยวป้าเช็ดตัวให้นะคะ” ว่าแล้วก็เดินเก็บถาดอาหารออกไป ทิ้งให้อึนฮยอกนอนอยู่บนเตียงเช่นเดิม ร่างบางจมอยู่กับความคิดของตนเองอีกครั้ง เสียงสะอึกสะอื้นยังคงดังออกมาไม่ขาดสาย
ลี่อินกลับเข้ามาในห้องอีกครั้ง ก่อนจะใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นเช็ดตามเนื้อตัวให้คนตัวบาง ผ้าผืนนุ่มบวกกับน้ำอุ่นๆนั้นช่วยให้ร่างกายของร่างบางผ่อนคลายขึ้นเล็กน้อย ใบหน้าหวานที่เลอะเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตานั้น ตอนนี้กลับมาสะอาดสะอ้านอีกครั้งหนึ่ง ลี่อินยิ้มอึนฮยอกบางๆ ก่อนจะเปลี่ยนผ้าปูที่นอนตามที่ซีวอนสั่งเอาไว้
“ป้าจะพยายามช่วยคุณหนูนะคะ อย่าร้องไห้บ่อยนะ คุณหนูไม่เหมาะกับน้ำตาหรอก” ลี่อินให้กำลังใจอึนฮยอก ก่อนจะเดินออกจากห้องไป
“ขอบคุณนะครับป้า ผมจะพยายามหนีออกไปจากที่นี่ให้ได้ครับ” ร่างบางมองตามคุณป้าที่แสนใจดีออกไป พลางตั้งมั่นในใจว่าตนเองจะต้องรอด
ตกเย็นซีวอนกลับมาด้วยสีหน้าเหนื่อยอ่อนจากการทำงาน ร่างสูงปลดเนคไทลงเพื่อคลายความอึดอัด มือหนาวางกระเป๋าที่โต๊ะทำงาน ก่อนจะทิ้งตัวลงนอนบนเตียงข้างๆคนตัวบางที่นอนหลับไปเพราะความเหนื่อยอ่อนจากการร้องไห้เช่นกัน
“นายนี่เวลาหลับก็หน้าตาน่ารักดีนะ” ซีวอนว่าลางลูบแก้มเนียนใสของอึนฮยอกเบาๆ
“อื้มมม จะนอน” ร่างบางเอ่ยออกมาเบาๆ พลางปัดมือคนตรงหน้าออก
“จับนิดจับหน่อยก็ไม่ได้ จับเยอะกว่านี้ชั้นก็ทำมาแล้วเหอะ ว่าแล้วก็ขอสักหน่อยเถอะนะ เห็นหน้านายแล้วชั้นอดใจไม่ได้จริงๆ” ว่าพลางก้มลงซุกไซร้ที่ซอกคอขาวเนียน เมื่อรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างกำลังรุกรานตนเองอยู่นั้น อึนฮยอกก็ลืมตาโพลงขึ้นมาทันที
ภาพของคนร่างสูงที่กำลังสนุกสนานกับร่างกายของเค้าอยู่นั้นปรากฏให้เห็นแก่สายตา
อึนฮยอกใช้มืออีกข้างที่ว่างอยู่นั้นพยายามผลักอกร่างสูงให้ห่างจากตัว ขาเรียวยาวพยายามดิ้นไปมามาแต่ก็ทำได้ไม่มากนักเนื่องจากความเจ็บปวดที่ยังคงหลงเหลืออยู่
“อย่าขัดขืนน่า...ทำตัวดีๆแล้วชั้นจะนิ่มนวลนะ” ร่างสูงเอ่ยบอกคนร่างบางก่อนจะก้มลงเชยชิมเรือนร่างตรงหน้าต่อ
“ม่ายยยยย....อย่าทำชั้น. ฮือๆๆ ได้โปรดชั้นขอร้อง ฮึก อย่าทำชั้นเลยนะ ฮือๆๆ ชั้นขอร้องงง”ร่างบางร้องขอทั้งน้ำตา อีกครั้งที่น้ำใสไหลรินอาบแก้ม
“ขอร้องหรอ งั้นร้องเลย ร้องเสียงหวานๆด้วยนะ ชั้นชอบบบบบ” ซีวอนบอกด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ไม่ได้สนใจแม้แต่น้อยว่าคนตรงหน้านั้นจะขัดขืนตนเองมากแค่ไหน ร่างสูงยังคงสนุกอยู่กับการเล่นของเล่นชิ้นใหม่อยู่อย่างนั้น
เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นวนเวียนซ้ำไปซ้ำมา จนเวลาล่วงเลยมาเป็นเวลา 3 วันแล้วที่ร่างบางได้แต่นอนนิ่งๆอยุ่บนเตียง และปล่อยให้น้ำตาไหลรินเหมือนเช่นทุกวันที่ผ่านมา ร่างกายที่บอบช้ำระบมยังคงเป็นเครื่องสนองกามรมณ์ของคนร่างสูงในทุกๆคืน
“ก๊อกๆ คุณหนูคะ ป้าเอาข้าวมาให้ค่ะ” ป้าลี่อินเปิดประตูเข้ามาพร้อมถาดข้าวถาดใหญ่
“ผมไม่หิวครับป้า” ร่างบางบอกปฏิเสธพลางหันหน้าหนีไปอีกทางหนึ่ง
“ทานเถอะนะคะ วันๆหนึ่งคุณหนูก็ได้ทานอยู่แค่มื้อเดียว ท่าไม่ทานแบบนี้จะเอาสารอาหารที่ไหนไปเลี้ยงร่างกายตัวเองล่ะจ้ะ” ป้าลี่อินเอ่ยถามพลางลูบผมคนตัวบางเบาๆ
“ป้าครับ.....” อึนฮยอกเอ่ยเรียกคนตรงหน้าเสียงแผ่ว มือบางจับมือเหี่ยวย่นนั้นเบาๆ
“เมื่อไหร่คนใจร้ายคนนั้นเค้าจะปล่อยฮยอกไปสักทีครับ ฮยอกต้องทรมานแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหนครับ ....” อึนฮยอกเอ่ยถามออกมาด้วยเสียงสั่นเครือ แววตาคู่สวยนั้นสั่นระริกไปมาอย่างท้อแท้และหมดหวัง
“ป้าไม่รู้ ป้าขอโทษนะจ้ะที่ไม่สามารถช่วยอะไรคุณหนูได้เลย คุณซีวอนเป็นคนที่ขาดความอบอุ่นจากครอบครัว พ่อแม่ของเค้าวันๆก็เอาแต่ทำงานหามรุ่งหามค่ำ ออกงานสังคมบ้าง ไปทำกิจกรรมเพื่อช่วยเหลือเด็กๆสังคมบ้าง โดยลืมนึกถึงใครอีกคนที่ยังเป็นเด็กน้อยตาดำๆที่ต้องการความรักจากคนเป็นพ่อเป็นแม่อยู่ที่บ้าน ป้าเลี้ยงเค้ามาตั้งแต่เด็ก ป้ารู้ดีว่ามันเจ็บปวดแค่ไหนกับการที่พ่อแม่ไม่เคยสนใจในตัวลูกชายคนเดียวแบบนี้ แววตาของคุณซีวอนมักจะแสดงความเหงาและความโดดเดี่ยวออกมาอยู่เสมอ คุณซีวอนพยายามตั้งใจศึกษาเล่าเรียนจนได้ที่หนึ่งของชั้นเรียนมาโดยตลอด แต่เค้าก็ไม่เคยได้รับคำชมจากคนเป็นพ่อเป็นแม่เลยแม้แต่ครั้งเดียว จนในที่สุดเมื่อเค้าโต พ่อของเค้าก็ยกบริษัทนี้ให้เค้าได้ดูแล ก่อนที่คุณพ่อคุณแม่ของเค้าจะบินไปเที่ยวรอบโลกกันอย่างมีความสุข โดยไม่ได้นึกถึงหัวอกลูกชายของตนเองแม้แต่น้อย บางทีการที่คุณซีวอนพาคุณหนูมาที่นี่ คงเป็นเพราะเค้าถูกใจคุณหนู เค้าอาจจะกำลังหลงรักคุณหนูอยู่ก็เป็นได้นะคะป้าว่า ” ลี่อินเล่าประวัติความเป็นมาของซีวอนให้อึนฮยอกได้ฟัง ร่างบางนั่งฟังอย่างตั้งใจ ก่อนจะเอ่ยถามหญิงสาวออกมาอย่าไม่เห็นด้วย
“ท่าเค้ารักฮยอกจริง เค้าคงไม่ทำร้ายคนรักของเค้าแบบนี้หรอกมั้งครับป้า” อึนฮยอกบอกด้วยสีหน้าที่เจ็บปวด
“เพราะเค้าไม่เคยได้รับความรักไงคะคุณหนู เมื่อเค้ามีความรัก เค้าจึงไม่รู้ว่าจะต้องแสดงความรักเหล่านั้นออกยังไง ในเมื่อชีวิตของเค้าได้พบเจอแต่ความเหงาและความเศร้าแบบนี้ จิตใจของเค้าก็คงอยากจะระบายกับใครสักคน โดยไม่รู้ว่าการกระทำของตนนั้นถูกหรือผิด ป้าว่าบางทีท่าคุณหนูอาจจะสามารถทำให้คุณซีวอนเปิดใจและรับรู้ถึงความรักที่ถูกต้องได้ อะไรๆมันอาจจะดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่นี้ก็ได้นะคะคุณหนู
” ลี่อินเอ่ยบอกคนร่างบาง ก่อนจะเช็ดตัวให้อย่างที่เคยทำในทุกๆวัน อึนฮยอกนิ่งเงียบไปสักพัก ร่างบางครุ่นคิดถึงคำที่ป้าลี่อินได้บอกไว้ พลางคิดหาหนทางให้ตนได้ออกไปจากนรกแห่งนี้สักที
..
*ปล. เนื่องจากมีเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม ดังนั้นตอนต้นเรื่องขอความกรุณาคลิกตามลิ้งค์ไปอ่านกันก่อนนะคะ แล้วอย่าลืมกลับมาเม้นตอนนี้ที่นี่นะคะ
talk : ในที่สุดก็เปิดตัวสักที ฟิคเรื่องนี้เป็นเรื่องสั้นจบเป็นตอนๆไป ฉลองคู่แรกโดยคู่วอนฮยอก เนื่องด้วยวันนี้เป็นวันเกิดของพ่อเมะสุดหล่อของเรา เลยฉลองด้วยเอ็นซีกระจายแบบนี้เสียเลย 555+ อีกเหตุผลหนึ่งที่เปิดฟิคเรื่องนี้ขึ้นมา คือ คอมเม้นของฟิคเรื่อง marry u นั้น ครบ 2000 คอมเม้นแล้ว เย้ๆ ยังไงก็ฝากฟิคเรื่องนี้ให้ทุกคนอ่านกันด้วยนะคะ ถึงแม้ว่ามันจะขัดกับเรื่องก่อนมากๆก็ตาม 555+ อ่านแล้วก็คอมเม้นกันบ้างนะคะ รักรีดเดอร์ทุกคนค่ะ ^^ ยินดีต้อนรับสู่ครอบครัวฟิคของเรา อิอิ
ปล. HBD พ่อปลัดตัดอ้อยสุดหล่อ ...ขอให้พี่มีความสุขมากๆนะคะ เป็นกำลังใจให้เสมอ
ความคิดเห็น