คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Chapter 2 ::: บทสนทนา (ที่ทำให้น้ำตาไหล)
Chapter 2
( “นี่คยู...นายรู้รึเปล่าเรื่องพี่อีทึกชอบพี่คังอินน่ะ?”)
( “เฮ้ย แกพูดบ้าไรเนี่ยเยซอง...พี่อีทึกเนี่ยนะชอบพี่คังอิน...ไม่จริงหรอกน่า”)
(“จริงอ่ะดิ่ ..พี่อีทึกน่ะชอบพี่คังอินมาตั้งนานแล้ว ตั้งแต่ตอนเริ่มเข้าชมรมแล้ว แกไม่สังเกตบ้างรึไงวะ”)
(“เฮ้ย..จริง...แล้วเรื่องนี้ฮยอกแจรู้รึเปลาล่ะ?”)
(“ไม่รู้....แต่ฉันไม่กล้าบอกมันว่ะ สงสารฮยอกแจ กลัวมันเสียใจ..นายก็รู้นิ่ ว่าฮยอกแจน่ะชอบพี่คังอินมากแค่ไหน “)
(“ อืม...แล้วนายเล่าเรื่องนี้ให้ใครฟังมั่งรึยัง?”)
(“ ก็มีแค่เรียวอุค แล้วก็นายเนี่ยแหละ”)
ถ้าวันนี้เขาและคิบอมไม่เข้าเรียนแต่เช้าคงไม่ได้ยินเรื่องแบบนี้สิ่น่ะ พยายามกลั้นไม่ให้น้ำตา ที่แสดงความอ่อนแอของตัวเองไหล คิบอมที่ยืนอยู่ข้างๆ ตบบ่าเพื่อเรียกสติ ไม่ต้องการเห็นเพื่อนรักตัวเองเป็นคนที่อ่อนแอ
“นายไม่เป็นไรนะ..ฮยอกแจ ที่สองคนพูดนั่นน่ะ ไม่ใช่เรื่องจริงหรอก” คิบอมพยายามปลอบโยนเพื่อนรัก ทั้งๆที่ตนเองก็รู้มาตั้งนานแล้ว แต่ก็ไม่กล้าพูดมันออกไปเพราะกลัวว่าเพื่อนรักของตนจะเสียใจ...
.....ฉันควรจะทำอย่างไรดีกันนะฮยอกแจ...ระหว่างพูดความจริงแล้วทำให้นายเสียใจ กับการพยายามปกป้องนายต่อไปเรื่อยๆจนกระทั่งวันนึงถ้านายได้รู้ความจริง นายก็คงจะเสียใจมากใช่ไหม ฮยอกแจ...
“อื้ม...” ฮยอกแจ พยักหน้าก่อนจะเดินตามคิบอมเข้าห้องเรียนไป
“นินทาไรกันเยซอง คยู “ ฮยอกแจพยายามพูดให้เสียงเป็นปกติที่สุด
“..นินทาไรกัน เราสองคนกำลังคุยเรื่องซองมินอยู่ต่างหาก” เยซองเหลือบหันมามองอย่างตกใจ พร้อมกับพูดเปลี่ยนเรื่อง
“...ช่ายๆๆ ซองมินอ่าน๊า..ชอบทำตัวเป็นเด็กอยู่เรื่อย” คยูฮยอนพูดเสริม
“อ๋อหรอ? ” คิบอมพูดเซ็งๆ ก่อนจะเดินเข้ามานั่งพร้อมกับฮยอกแจ แล้วสักพักดงแฮก็เดินตามเข้ามา
“นี่ๆๆบอม ฮยอกแจ วันนี้เราสามคนไปดูหนังกันมั้ย มีเรื่องใหม่เข้ามา ท่าทางสนุกมากเลยอ่า ไปน๊าๆๆ” ดงแฮชวน พลางเขย่าแขนฮยอกแจที่ส่ายหน้าหงึกหงัก
“ไม่เอา ชั้นไม่อยากไปเป็นก้างขวางคอ นายสองคน ไปกันเถอะ” ฮยอกแจพูดอย่างรู้ทัน คิบอมแอบยิ้ม ส่วนดงแฮก็หน้าแดงไปตามระเบียบ
.................
...........
..........
.
“กลับคนเดียวอีกแล้วซิเรา” ฮยอกแจพูดอย่างเซ็งๆ ก่อนจะหยิบกระเป๋าสะพายเตรียมกลับบ้าน แค่หันหลังไปพริบตาเดียวทั้งคิบอมและดงแฮ ก็หายออกไปจากห้องเรียน ร่างบางเดินไปตามทางเดินของโรงเรียนเรื่อยๆ ผ่านหน้าโรงยิมจึงหยุดดู บทสนทนาของเยซองกับคยู เหมือนเทปที่เล่นกลับไปกลับมาซ้ำๆ ฮยอกแจมองภาพข้างหน้าที่เห็นคนที่ตัวเองรักกำลังนั่งคุยกับรุ่นพี่อีทึกอย่างสนิทสนม
( “นี่คยู...นายรู้รึเปล่าเรื่องพี่อีทึกชอบพี่คังอินน่ะ?”)
พยายามกลั้นความรู้สึกแบบนี้อีกครั้ง แล้วตัดสินใจวิ่งออกไป ส่ายหน้าเพื่อสะบัดให้ภาพเหล่านั้นมันจางหายไป
...you are my love, 또 나 역시 그대만의 오직 단 한 사람. 언제까지나 곁에 있어요
คุณคือความรักของผม และผมก็เป็นแค่หนึ่งเดียวของคุณผมจะอยู่เคียงข้างคุณตลอดไป...
พยายามนึกถึงแต่เพลงของเรา ....ผมทำได้ใช่มั้ย พี่คังอิน
ผมเป็นคนในเพลงที่พี่ร้องใช่รึเปล่า....ผมขอคิดแบบนั้นได้มั้ยฮะ...
ภายในอาคารผู้โดนสารของสนามบินโซล ผู้คนมากมายต่างเดินกันขวักไขว่ มีทั้งชาวเกาหลี และชาวต่างชาติที่เดินสวนกันไปมา อย่างวุ่นวาย
“พี่คังอิน....สู้ตายนะคร๊าบ เอาเหรียญทองมาฝากพวกเราด้วยน๊า” ซองมินกำหมัดเป็นกำลังใจ ให้กับรุ่นพี่ทั้งสองคน
“ใช่ๆๆ...พี่อีทึกเองก็ สู้ๆนะครับ” คยูฮยอนพูดขึ้น
“...ไปเก็บตัวที่จีนนานเลย ไอ้ฮยอกมันคงคิดถึงพี่คังอินแย่เลย หุๆ” คิบอมกระซิบคังอินแต่ฮยอกแจได้ยินเข้า จึงกระแทกศอกไปที่สีข้างของคิบอมด้วยความอาย คิบอมโวยวายใหญ่
“...นานที่ไหนกันเล่า...3 เดือนเอง “ คังอินพูดยิ้มๆ
“........” ฮยอกแจก้มหน้านิดๆ พร้อมกับหลบสายตาของคังอินที่มองมา
“ฮยอกแจไม่อยากได้ของฝากอะไรจากจีนหรอไงวะ บอกพี่คังอินเค้าไปดิ่ ” ดงแฮพูดขึ้น เมื่อเห็นฮยอกแจยังก้มหน้าอายอยู่ ใบหน้าหวานจึงเงยหน้าขึ้นมาแล้วก็เจอกับสายตาของคนที่ตัวเองชอบสบตาอยู่ คังอินจึงมองใบหน้าหวานนั้นเพื่อหาคำตอบ
“...เอ่อ....อะไรก็ได้ครับ” ยิ้มอายๆ ก่อนจะหันไปหลับสายตาอีกครั้ง พร้อมกับยื่นผ้าพันคอสีฟ้าที่ตนเองตั้งใจพยายามถัก
มันอยู่หลายคืนเป็นของขวัญให้กับคังอิน
“..ขอบคุณครับ.....ใส่ให้พี่หน่อยนะครับ” คังอินกล่าว มือเรียวของฮยอกแจค่อยๆคล้องผ้าพันคอสีสวยใส่ให้กับคังอินที่ก้มคอให้ฮยอกแจคล้องผ้าพันคอ ในขณะเดียวกันมือของคังอินก็จับมือเรียวนั่นไว้ แล้วมาวางที่หัวใจ
“...พี่จะเมลล์ไปหาบ่อยๆนะครับ” คังอินกล่าวยิ้ม ฮยอกแจค่อยๆดึงมือออกก่อนที่ทั้งคู่จะโบกมือลากันแล้วคังอินกับอีทึกก็เดินขึ้นเครื่องไป
“อีทึก...นายเป็นอะไรไปน่ะ?” คังอินหันมาถามอีทึกที่นั่งอยู่ด้านข้าง ซึ่งมีท่าทีซึมๆ
“เปล่าน่ะ..แค่ปวดหัวนิดหน่อย....งั้นชั้นนอนละกันนะ” อีทึกตอบ พร้อมกับหันหน้าไปทางกระจก เครื่องบินค่อยๆแล่นจากสนามบินโซลไปยังประเทศจีน ยิ่งมองลงมาจากหน้าต่างค่อยๆ เห็นพื้นดินเล็กขึ้นเรื่อยๆ
พยายามฝืนใจหลับตา เพื่อปิดกั้นความรู้สึกทางสายตา กลัวว่าคนข้างๆจะสังเกตได้
...พยายามทำใจเข้าไว้อีทึก....แม้นายจะอยู่ใกล้เค้ามากเพียงใด..
..ก็ต้องพยายามฝืนใจเอาไว้....ว่าเค้าไม่ใช่ของของเรา....บทของนายตอนนี้มันเป็นแค่เพียง เพื่อน...เท่านั้น
++++++++++++++++++++++++++++
ความคิดเห็น