คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : CHAP. I ϟ mistake
ความเอาแต่ใจในชั่วข้ามคืนของคนคนหนึ่ง
อาจนำพามาซึ่งการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่กว่าที่คิด
----------------------------------------------------
C H A P T E R 1
แสงแดดอ่อนๆ ที่เริ่มลอดผ่านผ้าม่านสีทึบเข้ามา เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าได้เริ่มต้นเข้าสู่วันใหม่กระทบเข้ากับเปลือกตา ปลุกคนตัวเล็กเจ้าของแพรขนตาที่ยังคงชื้นไปด้วยคราบน้ำตานอนร่างกายเปลือยเปล่าหลับตาอยู่บนเตียงผ้าปูที่นอนสีหม่นเข้ากับผ้าม่านให้ตื่นขึ้น
เจ็บ ..
นี่คือความรู้สึกเดียวที่ชายหนุ่มร่างบางบนเตียงสัมผัสได้เมื่อพยายามจะขยับตัวลุกขึ้น ความเจ็บนี้ส่งผลให้ความงัวเงียยามตื่นนอนหายไปแทบทั้งสิ้น ถึงกับเผลอซี๊ดปากด้วยความเจ็บแสบจากช่องทางหลังที่ถูกใช้งานอย่างหนักหน่วง สายตาที่เริ่มชินกับแสงยามเช้าก็เริ่มสำรวจห้องที่ไม่คุ้นเคย
เสื้อผ้าที่คนตัวเล็กยังคงจำได้ดีว่าเป็นของตนเองตกกองระเนระนาดวางอยู่บนพื้นใกล้ๆ สภาพถูกฉีกทึ้งไม่เหลือชิ้นดี กล่องถุงยางอนามัยสีดำอีกสองกล่องที่ถูกใช้แล้ววางระเกะระกะเหมือนถูกเจ้าของโยนทิ้งอย่างไม่ไยดี ไหนจะผ้าปูที่นอนที่เลอะไปด้วยคราบคาวจนเขาที่ยังอยู่บนเตียงสัมผัสได้ พลันสายตาเหลือบไปเห็นใบหน้าคมของอีกคนข้างกายที่สาบานกับตัวเองไว้แล้วว่า .. จะไม่มีวันลืมตลอดชีวิต
ร่างบางยังคงเพ่งพินิจใบหน้าของอีกฝ่ายก่อนจะเริ่มนึกย้อนไปถึงเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา ตัวสั่นเริ่มสั่นเทิ้มไปด้วยความหวาดกลัว หยาดน้ำตาคลอเบ้าดวงตาคู่สวยริมฝีปากเม้มแน่น
คนใจร้าย ..
การขยับขยุกขยิกบนเตียงส่งผลให้เตียงสั่นไหวเล็กน้อย ซึ่งนั่นก็ทำให้ใครอีกคนบนเตียงต้องตื่นขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ การตื่นเช้าเป็นเรื่องที่น่าหงุดหงิดใจสำหรับปาร์คชานยอลจริงๆ ยิ่งเมื่อคืนจัดหนักแล้วด้วย ..
“จะรีบตื่นไปไหน” ชายหนุ่มที่จำเป็นต้องตื่นเพราะคนตัวเล็ก ลุกขึ้นมาด้วยความหัวเสียบิดหัวไหล่ทั้งสองข้างจนได้ยินเสียงกระดูกดัง ก่อนจะใช้มือขยี้ผมสีดำสนิทของตัวเองอย่างรำคาญใจ
“..” ไม่มีเสียงตอบรับใดกลับมา เสียงสะอื้นไห้ราวกับจะขาดใจเหมือนนางเอกละครยามถูกขืนใจที่เขามักพบเจอก็ไม่มี
น่าแปลกทั้งที่ปกติคนเอเชียที่เขาบังเอิญนอนด้วยโดยที่ไม่ได้ตกลงกันมาก่อน ก็มักจะกรีดร้องโวยวายเรียกร้องค่าเสียหาย ไม่ก็ทำเป็นร้องไห้เสียใจให้กับพรหมจรรย์ที่เสียไป บริสุทธิ์งั้นหรอ เหอะ น่าตลกสิ้นดี เชื่อก็โง่แล้วกี่คนต่อกี่คนที่คิดจะมาแหกตาคนอย่างเขา
แต่กับเด็กคนนี้ .. ชานยอลพิสูจน์ด้วยตัวเองมาแล้วเมื่อคืนว่าผุดผ่องมากแค่ไหนจนอดที่จะรู้สึกดีไม่ได้ เขาไม่ได้เจอคนเวอร์จิ้นมากี่ปีแล้วนะ คงจะตั้งแต่จบเกรดสิบสองที่ลอนดอนชานยอลคิดพลางส่ายหัวให้กับตัวเอง
แล้วจะมานั่งสนใจอะไรกับความสดเด็กที่เผลอหิ้วติดมือมาทำไมกันล่ะ?
“เจ็บมั้ย” ก่อนจะตัดสินใจเอ่ยถามคนตัวเล็กที่เงียบไม่พูดไม่จาอีกครั้งยังไงซะเขาก็ต้องแสดงความเป็นสุภาพบุรุษที่ไม่น่าจะมีตั้งแต่ลากเด็กคนนี้ติดมือมาจากผับห้าดาวชื่อดังมาจนถึงคอนโดแล้ว
เป็นคนไปพรากเยื่อเขามาแล้วยังไงก็ต้องถามเดี๋ยวจะหาว่าไม่มีความรับผิดชอบ
" .. " แต่ก็ยังคงมีเพียงความเงียบตอบกลับมาอีกครั้ง
ชานยอลถอนหายใจด้วยความหน่ายใจอีกครั้ง เด็กนี่จะอะไรกันนักกันหนานี่มันน่าหงุดหงิดจริงๆ หงุดหงิดซะยิ่งกว่าการตื่นตอนเช้าเสียอีก! พลางสายตาก็เริ่มสำรวจไปยังคนตัวเล็กให้เต็มตาอีกครั้งเมื่อคืนเขาจำได้เพียงว่าตาของร่างบางดึงดูดเขาเสียจนต้องเอ่ยปากขอซื้อพนักงานกับผู้จัดการ
ผู้จัดการคนนั้นบอกเขาเองว่าเป็นงานปกติของเด็กนี่แต่แค่ชอบเล่นตัวหน่อยนี่หว่า เขาไม่ผิดเสียหน่อย ..
เมื่อได้เห็นใบหน้าหวานใสและเยาว์วัยจนน่าตกใจ ตามรอยคอลงไปยันไหปลาร้าก็เต็มไปด้วยรอยแดงสดๆ ใหม่ๆ ที่เขาเป็นคนสร้างด้วยตัวเอง ชานยอลถึงกับต้องตั้งคำถามให้ตัวเอง
นี่เขาพรากผู้เยาว์เด็กรึเปล่า?
“นายน่ะอายุเท่าไหร่” ชานยอลแทบจะกลั้นใจถาม เขาไม่ชอบความวุ่นวายไม่จบไม่สิ้นไม่ชอบการเรียกร้องไร้สาระ บางทีมันอาจจะวุ่นวายถึงขั้นถึงศาลถึงโรงซึ่งเขาไม่ควรเสียเวลาไปกับเรื่องแบบนั้น
“..” คำตอบที่ได้จากอีกคนยังคงเป็นความเงียบซึ่งทำเอาความหงุดหงิดของชานยอลพุ่งขึ้นทะลุจุดศูนย์ ความรู้สึกผิดในใจหายไปแทบทั้งสิ้น
“เป็นใบ้รึไง ฉันถามทำไมไม่ตอบเมื่อวานเห็นยังร้องครวญคราง” แม้จะเจือไปด้วยเสียงห้ามปรามในตอนแรกก็เถอะ ชานยอลขึ้นเสียงจากตอนแรกเมื่อถามอะไรอีกฝ่ายไปก็ไม่ยอมตอบ
“..”
“จะพูดดีๆ หรือต้องให้ฉันทำให้พูด” เสียงทุ้มเริ่มข่มขู่หนักขึ้นจนร่างเล็กสั่นเทาเล็กน้อย
“วะ..วันนี้สิบเจ็ดครับ” เด็กน้อยตะกุกตะกักตอบด้วยความกลัว
นั่นปะไร! เวรละ พรากผู้เยาว์เด็กอายุไม่ถึงสิบแปดปี เมื่อวานผีห่าซาตานตัวไหนมันมาเข้าร่างเขาชานยอลล่ะอยากรู้จริงๆ ช่างน่าสงสารเด็กน้อยได้รับของขวัญเป็นการขืนใจต้อนรับวันเกิด .. แล้วผับบ้านี่ทำไมถึงรับพนักงานที่อายุไม่ถึงเกณฑ์เข้ามาทำงานถึงว่าทำไมถึงได้ขายมาง่ายๆ เพราะเด็กนี่คงไม่ได้พนักงานประจำน่ะสิ!!
ความเป็นจริงถ้าหากอีกฝ่ายจะเอาเรื่องแจ้งความมันก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะเคลียร์และปิดคดี เขามั่นใจในทีมงานกฎหมายระดับโลกของตัวเองว่าต้องดีกว่าเด็กที่ทำงานอย่างผิดกฎหมายแน่นอน แต่เพื่อกันความยุ่งยากที่จะเกิดขึ้นเอาให้มันจบๆ ไปเลยดีกว่า
“อยากได้เท่าไหร่” ชานยอลเอ่ยถามคำถามตรงๆ ด้วยเสียงเรียบนิ่ง
" .. " ร่างเล็กเหมือนไม่รู้ว่าควรจะต้องพูดยังไงเพื่อแสดงความต้องการของตัวเองว่าไมได้อยากได้ในสิ่งที่เขาหยิบยื่นให้จึงได้แต่นั่งเม้มปากอยู่ที่เดิมโดยไม่ปริปากพูดอะไร
“ให้ฟรีรึไง อย่ามาเล่นตัว” เสียงทุ้มยังคงเอ่ยต่อไปโดยไม่สนใจความรู้สึกผู้ฟังแม้แต่น้อย
ในใจคิดเพียงแต่ว่ามุกเดิมๆ ไม่ว่ารายไหนต่อรายไหน เพราะอย่างนี้เขาถึงไม่ชอบนอนกับพวกเอเชียซึ่งไม่ได้บึ้มเหมือนฝรั่งที่เขาโปรดปรานเอาซะเลย นี่มันเป็นเพราะสถานการณ์ฉุกเฉินหรอกน่า
“..” นอกจากความเงียบและปากที่เม้มแน่นนั้นก็ไม่มีคำตอบอะไรกลับมา
จะร้องก็ร้องไปสิวะจะกลั้นไว้ทำไมชานยอลคิดอย่างขัดใจเมื่อสีหน้าและดวงตาแดงๆ ของอีกฝ่าย เห็นแล้วความรู้สึกแปลกๆ ที่เรียกว่าความรู้สึกผิดก่อเกิดขึ้นในใจอีกครั้ง หลังจากที่ความเงียบของอีกฝ่ายทำเอาเขาฟิวส์ขาดพูดทำร้ายความรู้สึกเข้าไปจนลืมตัว
“เราจะคุยเรื่องนี้กันอีกทีหลังจากที่นายอาบน้ำแล้ว” ชานยอลจนใจจะพูดกับสิ่งมีชีวิตที่คล้ายตุ๊กตา นั่งเงียมู่ดจาอะไรก่อนจึงเอ่ยปากไล่ให้เจ้าตัวไปจัดการตัวเอง
- - - ♡ t r u s t m e ♡ - - -
ภายในคอนโดของชานยอลมีทั้งห้องนอนส่วนตัวสระว่ายน้ำและระเบียงรับอากาศ เขาให้คนตัวเล็กที่เดินอย่างทุลักทุเลใช้ห้องน้ำด้านนอกพร้อมแกะข้าวของเครื่องใช้สำรองอันใหม่ให้ ก่อนจะพาตัวเองออกไปยืนนอกระเบียงเพื่อติดต่อกับใครบางคน
ร่างบางค่อยๆ พยุงร่างกายตัวเองออกมาจากห้องน้ำ การทำความสะอาดช่องทางหลังมันไม่ง่ายนักกว่าจะกล้าล้วงเอาคราบน้ำรักที่อีกฝ่ายปลดปล่อยไว้ในที่ที่ระบมขนาดหนักก็ใช้เวลากว่าครึ่งชั่วโมงเลยทีเดียว ไม่ใช่ไม่มีคอนดอมหรอกแต่มันไม่พอ ..
“หลับคาห้องน้ำรึไง” เจ้าของร่างสูงที่ตอนนี้มีเพียงแค่ผ้าเช็ดตัวพันช่วงล่างนั่งไขว้ขาอย่างสบายๆ อยู่บนโซฟาพลางหยิบบุหรี่ขึ้นมาจากซองที่มองปราดเดียวก็รู้แล้วว่าราคาแพงขึ้นมาจุดสูบ
“ขอโทษครับ” คนตัวเล็กที่อยู่ในเสื้อเชิ้ตตัวใหญ่ของชานยอลกล่าวด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาก่อนจะก้มหน้าแทบติดพื้น
คำขอโทษแม้จะเบาแต่กลับส่งผลให้ชานยอลแทบจะสำลักควันที่สูบเข้าปอด คนโดนขืนใจมีใครที่ไหนขอโทษคนกระทำกันบ้าง นอกจากไม่เรียกร้องอะไรแล้วยังมีหน้ามาขอโทษอีก
หรือนี่จะเป็นลูกเล่นของเด็กสมัยนี้
ก็ไม่น่าใช่นะครั้งแรกไม่ใช่หรอ
“ฉันเพิ่งกลับมาเกาหลีมีเงินสดแค่นี้รับไปสิ” ไม่เอ่ยเท้าความอะไรทั้งนั้นก่อนจะพูดเข้าเรื่องสำคัญทันที
“ผมไม่ได้ขายตัว” คนที่ก้มหน้าเงยขึ้นมามองตาอีกฝ่ายก่อนจะแย้งด้วยน้ำเสียงที่แม้จะสั่นหากแต่กลับชัดเจน
“นายอยากหนีออกจากบ้านไม่ใช่หรอ” ชานยอลพูดขึ้นมาโดยไม่สนใจคำพูดก่อนหน้านี้ของอีกฝ่าย เขาไม่ได้สนใจว่าจะขายตัวหรือไม่หากแต่นี่คือความรับผิดชอบ
" .. " ร่างเล็กเงียบไปเมื่อโดนจับได้ถูกจุดร่างสูงเมื่อเห็นว่าตัวเองมาถูกทางแล้วจึงเริ่มพูดต่อจากข้อมูลที่เพิ่งให้เลขาหาให้เมื่อตอนร่างเล็กไปอาบน้ำ
เป็นโชคดีของเขาที่เลขามักจะทำงานไวเสมอ
“ในนั้นมีเงินอยู่ 50,000 ดอลล่าห์ ราวๆ ห้าสิบล้านวอนละมั้ง ถ้านายอยากเริ่มต้นชีวิตใหม่ก็รับไปซะ” ว่าพลางเคาะขี้บุหรี่ลงกับที่เขี่ยบุหรี่สีใสบนโต๊ะ
“..”
“แต่ถ้าอยากกลับไปอยู่ในสภาพแวดล้อมแบบนั้นก็แล้วแต่นะ ถือไว้เถอะทิฐิของนายฉันได้ฟรีไม่มายด์อยู่แล้ว” ยิ่งชานยอลพูดมือเล็กของคนที่ยืนฟังอยู่ก็ยิ่งกำแน่น ชานยอลตัดสินใจละสายตาจากลูกหมาตัวน้อยที่กำลังหลงทางก่อนจะพ่นควันออกอย่างต้องการผ่อนคลาย
คำพูดของชานยอลยังคงก้องอยู่ในหัวสมอง หนีออกจากบ้านหรอ ความฝันสูงสุดของเขาเลยแหล่ะ สิ่งที่โหยหายิ่งกว่าสิ่งไหนก็คือการหนีไปจากขุมนรกที่เรียกว่าบ้าน พ่อเลี้ยงโรคจิตหื่นกามกับแม่เลี้ยงที่จ้องจะรีดไถคอยทวงบุญคุณตลอดเวลาไม่นับรวมพี่เลี้ยงสาวที่จิกหัวใช้เหมือนเขาเป็นคนใช้คนนึง
ว่าแต่คนตรงหน้าเขารู้ได้ไง!?
" นายจะเอายังไง เลือกมาสักทีฉันจะไปนอนต่อละ " ว่าอีกครั้งก่อนจะบี้ก้นบุหรี่ลงในที่เขี่ยอันเดิม
" คะคุณ.. " เสียงสั่นเริ่มเอ่ยขึ้น
" ฉันชื่อชานยอล ปาร์คชานยอล "
" คุณปาร์ค .. ผม .. " เสียงที่ดูกล้ำกลืนมาพร้อมกับหยดน้ำตาหยดแรกที่เขาได้เห็นจากดวงตาใสของคนตรงหน้าซึ่งมันทำให้รู้สึกแย่ชะมัด
" เรียกฉันว่าชานยอล " ทั้งที่ก็มีคนตั้งมากมายเรียกเขาว่ามิสเตอร์ปาร์คแต่กลับเด็กคนนี้เขาเองก็ไม่รู้ทำไมเหมือนกันว่าถึงอยากให้เรียกแค่ชื่อไม่ใช่นามสกุล ..
เอาเถอะยังไงก็ไม่เจอไม่ได้เจออีกอยู่แล้ว
" จะเอายังไงก็เอา ฉันจะตั้งเงินไว้ตรงนี้อยากรับก็รับไปไม่รับก็กลับไปซะ " และในที่สุดก็เป็นเขาเองที่ทนไม่ได้ไม่อยากเห็นหยดน้ำตาที่กำลังหยดแหมะลงบนพรมราคาแพงจึงได้ตัดบทเดินเข้าห้องนอนไป
แต่แล้วกลับต้องชะงักหันกลับไปทางอีกคนที่พยายามกลั้นน้ำตาอย่างเต็มที่ ..
" นายชื่ออะไร "
ทั้งๆ ที่มันไม่ใช่เรื่องจำเป็นสำหรับเขาเลย แต่ก็ยังอยากรู้ ..
" บะ..บยอนแบคฮยอนครับ "
และทั้งๆ ที่รู้อยู่แล้วจากข้อมูลที่เลขาส่งมาแต่เขาก็ยังอยากรู้จากปากเจ้าตัวอยู่ดี ..
ช่วยคอมเม้นต์บอกหน่อยน้าเราอยากทำให้มันดีขึ้นจริงๆ
#ฟิคเชื่อใจ
ความคิดเห็น