ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Encyclopedia Earth

    ลำดับตอนที่ #188 : มีอะไรในยาสีฟัน

    • อัปเดตล่าสุด 22 พ.ย. 52


    มีอะไรในยาสีฟัน



    มนุษย์ เรารู้จักการทำความสะอาดช่องปากมาตั้งแต่สมัยอียิปต์โบราณ
    หรือเมื่อ ประมาณ 5,000-3,000 ปีก่อนคริสตกาลแล้ว

    โดยในยุคสมัยนั้น
    ชาวอียิปต์ทำผงขัดฟันขึ้นมาจากขี้เถ้าจากกีบเท้าของวัว ผงเมอร์ ( myrrh ซึ่งเป็นยางไม้ชนิด หนึ่ง)
    ผงเปลือกไข่เผาไฟและผงหินพัมมิช (pumice)
    ขณะเดียวกันนั้นก็ไม่ได้มี เพียงแค่ชาวอียิปต์เท่านั้นที่สนใจเกี่ยวกับอนามัยในช่องปาก
    ยังมีชาว จีน ชาวอินเดียโบราณและชาวเปอร์เซียน ที่รู้จักการทำผงขัดฟันขึ้นใช้ด้วย เหมือนกัน

    ในศตวรรษที่ 18 การพัฒนาและปรับปรุงผงขัดฟันยุคใหม่ได้เริ่มขึ้น ในประเทศอังกฤษ
    จากนั้นก็มีการพัฒนาขึ้นมาเรื่อยๆ จนมาถึงปี 2491
    บริษัทไลอ้อนประเทศญี่ปุ่น ก็ได้ผลิตยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ได้สำเร็จเป็น รายแรกของโลก

    โดยทั่วไป ยาสีฟัน ประกอบไปด้วยสารต่างๆดังต่อไปนี้

    1.สารรักษาความชื้น (humectant) มีอยู่ประมาณ 15-70 เปอร์เซ็นต์
    โดยสารนี้มี คุณสมบัติในการช่วยรักษาปริมาณน้ำในเนื้อยาสีฟัน ทำให้เนื้อยาสีฟันไม่แข็ง
    เมื่อต้องอยู่ภายในหลอดที่เก็บไว้เป็นเวลานาน
    สารที่นิยมนำมาใช้ คือ สารกลีเซอริน สารซอร์บิทอล สารไซลิทอล

    2.น้ำ มีประมาณ 0-50 เปอร์เซ็นต์
    เป็นส่วนประกอบสำคัญที่ช่วยให้เนื้อยาสีฟันไม่แห้งแข็ง ยกเว้นผงขัดฟัน (tooth powders)

    3.ผงขัดฟัน (Abrasive) มีประมาณ 10-50 เปอร์เซ็นต์
    โดยผงขัดฟันนี้มีหน้าที่ในการขจัดเศษอาหารที่ตกค้าง รวมถึงคราบจุลินทรีย์ที่ติดอยู่บนฟัน
    สารที่นิยมนำมาทำใช้ ได้แก่ อะลูมินา แคลเซียมฟอสเฟต แคลเซียมคาร์บอนเนต เกลือ หินพัมมิช
    โซเดียมไพโรฟอสเฟต โซเดียมคาร์บอเนต เป็นต้น

    4. สารลด แรงตึงผิวและสารแต่งกลิ่นรส (detergent and flavoragent)
    สารสองชนิดนี้มี รวมกันแล้วประมาณ 2 เปอร์เซ็นต์
    โดยมีคุณสมบัติช่วยขจัดคราบสกปรก ต่างๆ เช่น ไขมัน และทำให้เกิดเป็นฟองขณะแปรงฟัน
    เหตุผลต้องใช้สารสองชนิด ร่วมกันก็เพื่อให้สารแต่งกลิ่น ช่วยกลบกลิ่นและรสของสารลดแรงตึงผิวนั่นเอง
    ส่วนสารที่นิยมนำมาใช้ได้แก่ โซเดียมสเตียริลฟูมาเรต โซเดียมลอริ ลซัลเฟต โซเดียมสเตียริลแลกเทต

    5.สารให้ความ หวาน (sweeteners) มีประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์
    มีคุณสมบัติเพื่อช่วยทำให้ยาสีฟันมีรสชาติดีขึ้น สารที่นิยมนำมาใช้ได้แก่ สารแอสพาร์เทม

    6.สาร ทำให้ข้น (thickeners) มีอยู่ประมาณ 0.4-2 เปอร์เซ็นต์
    มีคุณสมบัติเพื่อ ช่วยให้เนื้อยาสีฟันเกาะติดกันได้ดี ไม่เหลวเละ
    สารที่นิยม นำมาใช้ คือ คาร์ราจีแนน ยางเซลลูโลส โซเดียมคาร์บอกซีเมทิลเซลลูโลส

    7.ฟลูออไรด์ (fluoride) มี ประมาณ 0.15-0.24 เปอร์เซ็นต์
    คุณสมบัติของสารชนิดนี้คือ เป็นสารที่ออกฤทธิ์ป้องกันฟันผุ ทำหน้าที่เคลือบชั้นเปลือกฟัน
    เพื่อทำให้ฟันทนต่อกรดที่ เกิดจากแบคทีเรียในช่องปาก
    สารที่นิยมนำมาใช้นั้นได้แค่ สแทนนัส ฟลูออไรด์ โซเดียมฟลูออไรด์ โซเดียมโมโนฟลูออไรด์


    ที่มา :http://www.vcharkarn.com/vblog/69473
    ภาพจาก :http://kostjatoldin.com/2009/06/

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×