คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #15 : >>> 15
*~Timeless Love~*
...Forgotten Angel ...
เจ้าของบริษัทยักษ์ใหญ่ทั้งสอง ชอยซีวอน และปาร์คจองซู ขึ้นไปบนเวทีเพื่อกล่าวเปิดงาน ทั้งสองคนบนเวทียืนคู่กันดูเหมาะสมกันมากๆ เรียกเอาใบหน้าหวานของเด็กหนุ่มผิวสีน้ำผึ้งเริ่มงุ้มงอโดยไม่มีสาเหตุ ในขณะที่แจจุงแอบหัวเราะกับฮันกยองเบาๆถึงอาการของชางมินที่ดูแล้วท่านประธานคนเก่งอย่างซีวอนคงจะไม่รอดเงื้อมมือของพ่อเทวดาคนน่ารักของเจ้าตัวไปได้หรอก...
โดยที่แจจุงไม่รู้ตัวเลยว่ามีนัยน์ตาคมของใครคนหนึ่งมองอยู่ ความรู้สึกของร่างสูงที่คงไม่ต่างจากชางมินนัก แต่ยังเก็บอาการได้มากกว่าจึงมีเพียงแค่ใบหน้าที่เฉยชา แต่สิ่งนี้ก็ไม่รอดพ้นสายตาของยูชอนไปได้หรอก... ชายหนุ่มแอมยิ้มกระหยิ่มในใจ อย่างน้อยสิ่งที่เขาหวังไว้มันก็เป็นจริง ยุนโฮยังรักแจจุงอยู่จริงๆ ถ้าไม่อย่างนั้นคงไม่มองฮันกยองด้วยสายตากินเลือดกินเนื้อแบบนี้หรอก...
ยูชอนเบนสายตาจากเพื่อนร่างสูงไปมองคนข้างๆที่เอาแต่มองบนเวทีจนไม่ได้สังเกตถึงท่าทีของยุนโฮที่มีต่อแจจุง... รอยยิ้มของร่างเล็กที่ทำให้ชายหนุ่มต้องหันหน้าหนี เขาจะต้องทำให้ได้... ต้องช่วยแจจุงให้ได้... ถึงจะต้องทำให้จุนซูต้องเสียใจ... ก็ไม่เป็นไร ยูชอนพยายามบอกกับตัวเอง ในเมื่อปมนี้เขาเป็นคนผูกมันขึ้นมาเอง เขาก็ต้องแก้มันด้วยตัวเอง!!!~
หลังจากนั้นก็เป็นการให้เหล่านักแสดงในโฆษณาชิ้นนี้ ขึ้นไปให้สัมภาษณ์และพูดถึงการทำงานในการถ่ายทำครั้งนี้... แสงแฟลชกระพริบถี่ตลอดเวลา นักข่าวที่รอช่วงเวลานี้มานานต่างพากันรุมถ่ายภาพของเหล่านักแสดง รวมทั้งลูเซียที่ดูจะได้รับความสนใจเป็นพิเศษ... โฟกัสของกล้องส่วนใหญ่จึงหันไปหาร่างบางเสียเป็นส่วนมาก แต่แสงแฟลชที่กระพริบสลับกันไปมาเริ่มทำให้แจจุงเวียนหัว แต่ร่างบางก็ยังทนยืนอยู่ได้จนการสัมภาษณ์จบลง...
เด็กหนุ่มเดินกลับมาอย่างช้าๆพยายามประคองสติอันน้อยนิดของตนให้กลับมาเป็นปกติ... แล้วกลับมายังโต๊ะตัวเดิมที่ตอนนี้เหล่าผู้ร่วมโต๊ะมานั่งกันครบ
แล้วงานเลี้ยงจะดำเนินต่อไป โดยมีเสียงเพลงเพราะๆ จากนักร้องดาวเด่นประจำค่าย The One ของบริษัทปาร์คอย่างคยูฮยอน น้ำเสียงมีเสน่ห์ที่แทบจะสะกดให้ทุกคนในงานเคลิบเคลิ้มไปกับน้ำเสียงทุ้มนุ่มๆ ของเจ้าตัว ในเพลง The One I Love เพลงที่ร้องแม้จะเศร้าแต่คนที่รู้สึกแบบนั้นไปกับเนื้อเพลงจริงๆคงมีเพียงแจจุงที่นิ่งฟังมันด้วยความรู้สึกเดียวกับเนื้อเพลงนั้น
ทางด้านค่าย Angel & Divine ค่ายเพลงของบริษัทชอยเองก็ไม่น้อยหน้าส่งโบอานักร้องสาวเสียงดีมากความสามารถ ศิลปินหญิงอันดับหนุ่งของค่ายมาในเพลงซึ้งๆอย่าง Everlasting และ Waiting ขับกล่อมผู้คนในงานด้วยน้ำเสียงหวานให้หลงใหลไปตามๆกัน...
หากแต่ความรู้สึกนั้นไม่ได้เกิดกับใครคนหนึ่ง... แจจุงรู้สึกว่าขอบตาของตัวเองร้อนผ่าว ภาพตรงหน้าเริ่มกลายเป็นม่านน้ำตา เด็กหนุ่มสะกิดเพื่อนสนิทให้ออกไปที่ข้างนอกด้วยกันก่อนจะทนไม่ไหว
ณ ห้องน้ำด้านนอกงานเลี้ยง...
"แจจุงนายกลับไปพักก่อนมั้ย?" ร่างสูงเพรียวเอ่ยอย่างเป็นห่วงเมื่อเห็นแจจุงท่าทางไม่ค่อยดีเท่าไหร่... ใบหน้าสวยซีดขาวราวกับกระดาษ ผิวอุ่นนุ่มกลับเย็นเฉียบ... ท่าทางเหนื่อยๆของคนตรงหน้าทำให้ชางมินเป็นกังวลเอามากๆ
"ไม่เป็นไรหรอก ฉันไม่ได้เป็นอะไร ไม่ต้องเป็นห่วง กลับไปที่ในงานเถอะ..."
"ก็ได้... แต่ว่าหลังทานอาหารเสร็จ นายต้องกลับทันทีได้มั้ย...?" ชางมินยอมตกลงทั้งที่ยังเป็นห่วงเพื่อนรักอยู่มาก ในขณะที่แจจุงพยักหน้าตกลง... แล้วเด็กหนุ่มทั้งคู่ก็กลับไปที่ในห้องจัดเลี้ยง
บนโต๊ะอาหารรูปวงกลมที่เคยว่างเปล่า บัดนี้เต็มไปด้วยอาหารมากหน้าหลายตาที่ถูกเลือกให้เป็นเมนูรสเลิศจากพ่อครัวของโรงแรม เรื่องรสชาติและฝีมือคงไม่ต้องพูดถึง กลิ่มหอมหวนของอาหารตรงหน้าย่อมเรียกให้ใครหลายคนต้องลิ้มลอง แต่นั่นคงใช้ไม่ใช่กับแจจุงที่รู้สึกว่ากลิ่นพวกนี้มันทำให้คลื่นไส้เสียมากกว่า...
และคนที่รู้ดีว่าอาหารตรงหน้านั้นไม่ได้ทำให้เจ้าของดวงหน้าสวยเกิดความอยากรับประทานขึ้นได้เลยนั้นก็คงเป็นฮันกยองที่คอยดูแลมาตลอด ชายหนุ่มถึงได้เอาแต่อาหารเบาๆมาให้เจ้านายคนสวยและน้ำผลไม้...
เด็กหนุ่มเองก็หันไปขอบคุณบอดี้การ์ดหนุ่มผมทองของตนด้วยรอยยิ้ม ยุนโฮยังคงภาพเหล่านี้ด้วยความรู้สึกไม่ต่างจากครั้งแรก ความวุ่นวายใจเข้ามาเยือนหัวใจของชายหนุ่มอีกครั้ง...
...ทำไมเขาจะต้องโมโห...ที่เห็นแจจุงยิ้มให้คนอื่นที่ไม่ใช่เขา...
...แจจุงที่กำลังมีความสุขกับคนอื่น...
...แจจุงที่ไม่ยอมมองหน้าเขา...
...นายไม่ได้รักแจจุงแล้วนี่ ทำไมอยู่ๆถึงได้สนใจขึ้นมานะ...
...แจจุงจะทำอะไรมันก็ไม่ใช่เรื่องของนายไม่ใช่เหรอ?
...จุงยุนโฮ... หยุดบ้าได้แล้ว...!!~
ชายหนุ่มละสายตาจากภาพตรงหน้ามารับประทานของตน ถึงภายนอกที่แสดงออกมาจะสุขุมหรือนิ่งเฉยเพียงใด แต่ภายในนั้นกลับต่างกันยิ่งนัก ความโมโหโกรธาแผดเผาจิตใจให้ร้อนเป็นไฟ...
เคยมีคนบอกไว้ว่าคนโง่เท่านั้นที่ไม่ยอมเข้าใจอะไรเลย... แต่ความจริงแล้วคนเหล่านั้นเพียงแค่มองข้ามบางสิ่งบางอย่างไปโดยไม่คิดไตร่ตรองให้รอบคอบ ไม่ทบทวนการกระทำของตนเอง... และจุงยุนโฮก็เป็นหนึ่งในนั้น... หนึ่งในคนที่ไม่เข้าใจความรู้สึกจริงๆของตนเอง...
ในงานเลี้ยงค่ำคืนนี้ยังคงถูกบรรเลงไปด้วยเสียงเพลงแสนไพเราะของเหล่านักร้องจากวงต่างๆ อาการปวดศีรษะที่ทำให้เจ้าตัวเริ่มรู้สึกไม่ไหวจริงๆ เด็กหนุ่มจึงลาประธานบริษัททั้งสองกลับก่อน โดยมียูชอนที่จะไปส่งที่รถ ฮันกยองบอกให้แจจุงรออยู่กับยูชอนก่อนส่วนตัวเขานั้นจะไปเอารถมารับที่หน้าโรงแรม... แต่แล้วก็มีคนเรียกยูชอนให้ไปคุยด้วยเสียก่อนยูชอนจึงต้องปล่อยให้แจจุงอยู่ตามลำพังอย่างไม่มีทางเลือก...
"แจจุงเดี๋ยวฉันมานะ ถ้ามีอะไรรีบเรียกฉันเลยเข้าใจมั้ย?" เพราะความห่วงชายหนุ่มจึงไม่อยากไปสักนิด แต่นั่นก็งานจะปล่อยทิ้งไว้ก็ไม่ได้เสียด้วย
"รู้แล้วน่า... รีบไปสิเดี๋ยวเขาก็รอนานหรอก..." ดวงหน้าสวยส่ายหน้าปฏิเสธ แล้วเร่งให้ยูชอนรีบไป
นัยน์ตาสีนิลแอบมองไปทางยุนโฮที่กำลังคุยกับแขกในงานคนอื่นๆอยู่ แววตาห่วงหาที่ไม่เคยแสดงให้เห็นเมื่ออยู่ต่อหน้าชายหนุ่มกลับปรากฏขึ้นมา แม้ใกล้แค่เอื้อมแต่ไกลแสนไกล... หัวใจนายมันไม่มีเหลือแล้วใช่มั้ยความทรงจำของเราน่ะ
เพราะแจจุงมัวแต่มองยุนโฮอยู่จนไม่ได้สังเกตเลยว่ามีใครคนหนึ่งเดินมาข้างหลัง เมื่อเด็กหนุ่มหันกลับไปมองทางหน้าโรงแรมว่าฮันกยองมาหรือยัง ก็ทำให้เด็กหนุ่มชนกับคนข้างหลังจนล้มลงไปด้วยกันทั้งคู่ แต่คงเป็นโชคไม่ดีนัก เมื่อคนที่ร่างบางเซไปชนนั้นไม่ใช่ใครที่ไหนเลย...จุนซูนั่นเอง!!
จุนซูหันมาตั้งใจว่าจะขอโทษที่ตัวเองเดินไม่ดูทาง แต่พอเห็นว่าใครคืนคนที่เขาชน... ริมฝีปากสีเนื้อนั่นก็หุบลงทันที ใบหน้าที่คล้ายจะสำนึกผิดกลายเป็นเรียบเฉย ในขณะที่เสียงเรียกของคนข้างหลังต่างหากที่เรียกให้แจจุงต้องเงยหน้าขึ้นมอง...
"ไม่เป็นอะไรใช่มั้ยครับ?" ยุนโฮเอ่ยถามร่างเล็กพลางพยุงให้จุนซูลุก พอร่างเล็กส่ายหน้าเชิงไม่เป็นไร... ก็หันไปหาเรื่องอีกคนที่ใช้มือยันกายขึ้นจากพื้นเพียงลำพัง ร่างบางใช้โต๊ะวางเครื่องที่อยู่แถวนั้นช่วยพยุงตัวไว้...
"แจจุง...นายแกล้งชนจุนซูทำไม...?" ชายหนุ่มเอ่ยถามน้ำเสียงแข็งกระด้างไร้ความอ่อนโยน ทั้งที่ตอนถามจุนซูนั้นกลับเป็นน้ำเสียงที่อ่อนโยน
"ฉัน...เปล่านะ..."
"ก็ฉันเห็นอยู่กับตา...นายจะมาปฏิเสธฉันได้ยังไง..." จากมุมของชายหนุ่มที่มองมานั้นอาจจะเหมือนแจจุงแกล้งล้มไปชนจุนซู แต่ชายหนุ่มไม่ได้คิดเลยสักนิดว่าทำไมคนที่แกล้งชนถึงล้มไปด้วย...
"ฉัน...ฉัน..." ริมฝีปากสีกลีบกุหลาบสั่นน้อยๆ พูดอะไรไม่ออก ข้อกล่าวหาที่ทำให้เด็กหนุ่มรู้สึกเหมือนน้ำตาจะไหล ความน้อยเนื้อต่ำใจหลั่งไหลมาเต็มอก ทำไมยุนโฮถึงไม่เชื่อเขาสักนิดเลย ทำไม...
"พอเถอะยุนโฮ ฉันซุ่มซ่ามเองแหละ ไปเถอะอย่าสนเลย..." น้ำเสียงอ่อนโยนของร่างเล็กเอ่ยห้ามคนรักทั้งที่แววตาของเจ้าตัวนั้นไม่ได้เป็นไปตามน้ำเสียงพูดเลย ชายหนุ่มยอมสงบลงก่อนจะไปบอกอะไรข้างๆหูเด็กหนุ่ม...
"ถ้านายกล้าทำอะไรจุนซูของฉันอีก คราวหน้าฉันจะไม่ปล่อยนายไว้แน่!!!!~" น้ำเสียงทุ้มกลับเย็นชายิ่งกว่าเมื่อกี้นี้ น้ำเสียงที่เรียกให้ร่างทั้งร่างสั่นโดยไม่รู้ตัวได้แต่มองตามแผ่นหลังของอดีตคนรักไปอย่างเจ็บปวด...
...ทำไมน้ำตาถึงไม่ไหลนะ ทั้งที่รู้สึกเศร้าขนาดนี้...
...บางทีฉันคงชินกับมันแล้วล่ะมั้ง...
...ถึงจะขมขื่นเพียงใด เจ็บปวดแค่ไหน...
...แต่หากยังได้มองเห็นนายอยู่ในสายตา เห็นนายมีความสุขแล้วละก็
...ต่อให้เจ็บปวดแค่ไหน ฉันก็จะยอมรับมัน...
แจจุงกัดฟันแน่นอย่างกล้ำกลืนและอดทน ยูชอนที่พึ่งคุยเสร็จกลับมาทันเห็นตอนยุนโฮเดินไปกระซิบอะไรกับร่างบางพอดี แต่ก็ยังช้าเกินกว่าจะมาทันร่างสูงที่เดินจากไปพร้อมจุนซูมากนัก
"แฮ่ก...เมื่อกี้ยุนโฮ...แฮ่ก...กับจุนซูทำอะไร...นายหรือเปล่า...?" เสียงทุ้มปนเสียงลมหายใจหอบเหนื่อยถามด้วยความร้อนรน...
"เปล่าหรอก... ไม่มีอะไร... เขาไม่ได้ทำอะไรเลย... อ่ะ!!~ ฮันกยองมาแล้วนี่นา... ฉันไปก่อนนะยูชอนแล้วพรุ่งนี้เจอกัน..." ร่างบางรีบเอ่ยลา ไม่ยอมตอบตามความเป็นจริง ก่อนจะตรงไปที่รถสีบรอนซ์คันสวยของตนเอง...
หลายวันต่อมา ณ บริษัทชอย
เพราะคุณภาพของสินค้าและโฆษณาที่ออกไปนั้นทำกำไรดีเกินคาดจนของในคลังแทบจะหมดอยู่แล้ว เล่นเอาท่านประธานคนเก่งรีบสั่งของล็อตใหม่แทบไม่ทัน จึงทำให้การถ่ายทำภาคต่อของโฆษณานั้นเลื่อนมาเร็วขึ้นจากที่ตกลงกันไว้เป็น 2 เดือนก็เหลือเพียงเดือนเดียว
และวันที่ว่านั้นก็เป็นวันนี้พอดี... และจากเหตุผลข้างต้นจึงทำให้วันนี้ทั้งบริษัทออกจะตื่นเต้นกันเป็นพิเศษ... แล้วยังได้คยูฮยอนจากทางบริษัทปาร์คมาร้องเพลงประกอบโฆษณาให้อีกต่างหาก แม้จะเป็นแค่ช่วงสั้นๆแต่เสียงของเด็กหนุ่มที่แสนไพเราะน่าหลงใหล แม้จะได้ยินเพียงเสี้ยวนาทีมันก็มากเกินพอจะทำให้ต้องมนต์สะกดของน้ำเสียงนั้นได้แล้ว...
ในห้องแต่งตัวสีขาวสะอาดตาของบริษัทชอย นักแสดงทุกคนในโฆษณาชุดนี้มากันพร้อมหน้าพร้อมตารวมทั้งยูชอนที่ตามมาควบคุมสองลิงแสบของบริษัทตัวเอง เว้นก็แต่ชายหนุ่มร่างสูงผู้รับบทเจ้าชายที่ไม่ได้ปรากฏตัวอยู่ที่นี่เนื่องจากถูกเรียกไปพบกับท่านประธานทั้งสองที่ห้องประชุม ในเรื่องของการถ่ายโฆษณาวันนี้ ส่วนคนอื่นๆที่อยู่ในห้องมีท่าทางที่แตกต่างออกไป...
จุนซูมีท่าทีกระวนกระวายอย่างเห็นได้ชัด แม้เจ้าตัวจะพยายามไม่แสดงออกมากนัก บรรยากาศแห่งการรอคอยแบบนี้มันทำให้เขาอึดอัด ร่างเล็กไม่รู้เลยว่าที่ประธานทั้งสองเรียกยุนโฮให้ไปหานั้นจะบอกกับชายหนุ่มเรื่องโฆษณานี้อย่างไร แต่ร่างเล็กขอเพียงอย่างเดียว... ถึงจะไม่ใช่เขาก็ไม่เป็นไร... แต่อย่าให้คนที่ยุนโฮเลือกต้องเป็นแจจุงก็พอ!!!!~
ซองมินและดงแฮต่างพากันเล่นสนุกสนานแกล้งช่างแต่งหน้าบ้าง ช่างทำผมบ้าง เล่นเอาทั้งห้องวุ่นวายไปด้วยสองแสบนี่พอสมควร แต่หลังจากเล่นสนุกได้ไม่เท่าไหร่สองลิงก็ต้องสิ้นฤทธิ์ เมื่อถูกยูชอนลากให้มานั่งแต่งตัวดีๆ ก่อนที่บรรดาช่างที่ถูกแกล้งจะหนีกลับกันหมดเสียก่อน เด็กหนุ่มทั้งสองไม่ได้ทีท่าทางกระวนกระวายอย่างใครบางคนเพราะทั้งสองไม่ได้สนใจอยู่แล้วว่ายุนโฮจะเลือกใคร... ถึงยังไงพวกเขาก็แสดงไปตามบทที่ได้รับอยู่แล้ว...
ส่วนเด็กหนุ่มอีกคนในชุดสีขาวบริสุทธิ์นั่งมองวิวนอกหน้าต่างอย่างเหม่อลอย นัยน์คู่สวยที่มองดูว่างเปล่าไร้ความรู้สึก ยูชอนมองเพื่อนรักด้วยความเป็นห่วง เพราะเขาไม่รู้เลยว่าร่างบางที่กำลังเหม่อนั้นกำลังคิดอะไรอยู่ หลายวันแล้วที่เขาไม่เห็นรอยยิ้มของเด็กหนุ่มเลยตั้งแต่กลับมาจากงานเลี้ยงวันนั้น...
หญิงสาวหน้าตาสะสวยกวักมือเรียกเด็กหนุ่มให้เข้าไปหา คนที่แจจุงคิดว่าหากเธออยากจะเป็นดารา เธอก็เป็นได้เพียงแต่เธอไม่อยากเป็นก็เท่านั้น... สไตลิสล์คนสวยซองเฮเคียว หญิงสาวจัดเสื้อผ้าของเด็กหนุ่มให้เข้าที่พลางหันไปคว้าต่างหูสีเงินรูปไม้กางเกงที่เตรียมไว้มาให้แจจุง แต่พอกำลังจะใส่ให้คิ้วของหญิงสาวกลับขมวดขึ้นเล็กน้อย
“แจจุงจ้ะ... วันนี้ไม่ได้ใส่สร้อยมาเหรอ?”
“อ่า...พอดีผม...ลืมนะครับ ขอโทษนะครับ...” แจจุงมีอาการตกใจหน่อยเมื่อถูกถามถึงสร้อย ความจริงเขาไม่ได้ลืมหรอก สร้อยที่ถูกทำร้ายเสียยับเยินกลับมามีสภาพดีดังเดิมแล้วจากการที่ยูชอนเอาไปซ้อมให้... แต่ที่เขาไม่ใส่อาจจะเป็นเพราะว่ากลัวก็ได้...เขาไม่อยากเห็นสร้อยเส้นนี้ถูกจุนซูทำลายมันเหมือนกับวันนั้น เพราะอย่างนั้นเด็กหนุ่มถึงได้เก็บมันไว้ที่ลิ้นชักในห้องนอนของตน...
“ไม่เป็นไรจ้ะ ฉันแค่ถามดูเฉยๆ ไม่ต้องขอโทษหรอก แต่ฉันคิดว่าเธอเหมาะกับสร้อยเส้นนั้นมากๆเลยนะ...” หญิงสาวพูดพลางยิ้มให้เด็กหนุ่ม
เสียงประตูห้องแต่งตัวดังขึ้นพร้อมกับชายหนุ่มร่างสูงตัวเอกของโฆษณาเดินเข้ามาในห้องเพื่อเรียกทุกคนให้ไปที่ห้องสตูดิโอ A ซึ่งใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำวันนี้ แจจุงมองแผ่นหลังสูงที่หันให้เหมือนจงใจไม่อยากเห็นหน้า... เขาไม่รู้หรอกว่าวันนี้ยุนโฮจะเลือกใคร อาจจะเป็นจุนซูก็ได้... แต่...ถ้าเป็นไปได้เขาไม่อยากให้เป็นอย่างนั้นเลย...
หลังจากนั้นที่ห้องสตูดิโอ A ก็เต็มไปด้วยเหล่าสต๊าฟและนักแสดง ฉากหลังที่ถูกจัดโดยนักจัดมืออาชีพอย่างสวยงาม กลิ่นดอกไม้ทั้งสี่ชนิดลอยปะปนกันอย่างหอมหวานอบอวลราวกับอยู่ท่ามกลางสวนดอกไม้ของจริงก็ไม่ปาน... แจจุงและจุนซูต่างสูดลมหายใจเข้าลึกๆเพื่อเพิ่มความกล้าให้กับตัวเอง เวลาแห่งการตัดสินมาถึงแล้ว...
ไม่ต่างอะไรกับเจ้าชายหนุ่มที่ไม่อยากให้เวลานี้มาถึงมากที่สุด ประธานซีวอนและจองซูบอกให้เขาเลือกได้ตามสบายก็จริง แต่ผลโหวตมันก็ออกมาอยู่แล้วไม่ใช่เหรอว่าคนที่สมควรได้เป็นใครถ้าไม่ใช่แจจุง... แล้วให้เขามาเลือกเองแบบนี้มันลำบากใจนะ
ถ้าเลือกตามหัวใจตัวเองคงเป็น...จุนซู แต่นั่นใช่หัวใจตัวเองจริงๆน่ะเหรอ? หรือเขาควรจะเลือกซองมินกับดงแฮคนใดคนหนึ่งแทนไปเลยดี แต่ถ้าแบบนั้นจุนซูกับแจจุงก็คงต้องเสียใจ
ทำไมนายถึงได้ลังเลแบบนี้จุงยุนโฮ!!!~ นัยน์ตาสีรัตติกาลคู่นั้นไม่ควรทำให้นายใจอ่อนง่ายๆ แบบนี้นะ!!~ ลืมไปแล้วหรือไงว่าหมอนั่นทำอะไรไว้กับจุนซูบ้าง...
“ยุนโฮๆ” เสียงข้างหูที่ดังขึ้นเรียกให้ชายหนุ่มต้องยุติความคิดของตนไว้แค่นั้น ใบหน้าคมเงยขึ้นมองคนที่ทิ้งตัวลงนั่งข้างๆเขา ริมฝีปากหน้าเอ่ยเรียกนามของผู้มาใหม่เบาๆ
“ยูชอน...”
“คิดอะไรอยู่เหรอ? ฉันเรียกนายตั้งหลายครั้ง นายก็ไม่ได้ยินฉันเลย...”
“โทษๆ พอดีนึกอะไรเพลินๆอยู่น่ะ...” ยุนโฮเลี่ยงที่จะตอบความจริงออกไป ทั้งที่ยูชอนเองก็รู้อยู่ดีเพราะจากท่าทางของชายหนุ่มที่บอกหมดทุกอย่าง
“ตัดสินใจไว้หรือยังว่าจะเลือกใคร
”
“...” ไม่มีคำตอบจากร่างสูงผู้นั่งก้มหน้านิ่ง ยูชอนเหลือบมองเพื่อนตัวเองพลางถอนหายใจ ทำไมยุนโฮถึงไม่รู้ตัวสักทีนะว่าตัวเองรู้สึกยังไงกับทั้งจุนซูและแจจุงกันแน่
“ไม่รู้สิ...อยู่ๆก็ให้ฉันเลือกเองแบบนี้มันลำบากใจนะ ไม่เข้าใจคุณซีวอนกับคุณจองซูเลยจริงๆ”
“จะยากอะไรล่ะ นายก็เลือกไปตามที่นายอยากเลือกซิ เขาก็บอกให้นายเลือกตามใจตัวเองไม่ใช่เหรอ?”
“อือ...” แล้วทั้งสองคนก็เงียบไปอีกครั้ง
“ยุนโฮ...ฉันถามอะไรหน่อยได้มั้ย? นายกำลังฝืนใจตัวเองอยู่รึเปล่า? ถ้านายไม่...”
“พูดเป็นเล่น!!~ ฉันไม่เคยฝืนใจตัวเองเลยนะ!!!~” ไม่ทันที่ยูชอนจะพูดจบ ยุนโฮก็รีบแทรกขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราดที่แสดงถึงความโกรธ ไม่รู้ทำไมแต่ชายหนุ่มรู้สึกไม่อยากฟังยูชอนพูดต่อไปอีกแล้ว...
“ยุนโฮ...” ยังไม่ทันที่ทั้งสองคนจะได้คุยอะไรกันต่อเสียงเรียกจากด้านหลังก็ดังขึ้น...
“ยุนโฮ...ยุนโฮ~ เข้าฉากได้แล้ว
” เสียงของช่างกล้องเรียกให้เขาต้องรีบเข้าฉาก ไม่มีเวลาให้คิดอะไรอีกแล้ว... ไม่มีใครรู้ว่าชายหนุ่มตัดสินใจอย่างไร คำตอบที่ชายหนุ่มเลือกกำลังจะทำให้ใครบางคนต้องแตกสลายก็เป็นได้...
“ยูชอนฉันไปก่อนนะ...” ร่างสูงหันมาบอกเพื่อนตัวเองเบาๆ โดยมียูชอนมองตามแผ่นหลังนั้นไป ตัวเขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่ายุนโฮจะเลือกใคร แต่ถ้าเป็นไปได้อย่าเป็นจุนซูเลย...!!!~
To Be Con...
พิมพ์เสร็จแล้วก็ลงเลยไม่ได้อ่านตรวจทาน
ถ้ามีอะไรตรงไหนตกหล่นก็บอกกันหน่อยนะค่ะ
แล้วเดี๋ยวจะกลับมาแก้...
ปล.พรุ่งนี้ต่อแน่...ถ้ามีจำนวนเม้นที่น่าพอใจ!!!
ปล2. เหตผลของปล.ด้านบน = หาเรื่องดองไปงั้นแหละ
ไม่มีอะไรหรอก 55+
-
- +
+-b
g-น่า
รัก
ความคิดเห็น