คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : >>> 12
*~Timeless Love~*
...In Your Eye...
"ถ้านี่เป็นตัวแทนความรักของนายกับเขาละก็!!~ ฉันจะทำลายมันซะ!!" จุนซูเหยียบสร้อยอันเปราะบางขยี้ไปมาจนขาดสะบั้นลง แล้วขว้างมันออกไปในสวนดอกไม้ที่แสนกว้างใหญ่นี้
เหมือนโชคชะตากลั่นแกล้ง ชายหนุ่มที่ยืนอยู่บริเวณนั้นรู้สึกได้ถึงก้อนโลหะที่ตกลงมาปะทะกับศีรษะของชายหนุ่มตามแรงโน้มถ่วงของโลก มือใช้อุดปากตัวเองก่อนเสียงร้องเพราะแรงกระแทกบนศีรษะจะดังขึ้น... ยูชอนที่ตั้งใจจะกลับไปที่ห้องพักแต่เมื่อเห็นทั่งคู่กำลังคุยกันอยู่ที่สระน้ำใกล้กับห้องพักของเขา ชายหนุ่มจึงมาแอบฟังอยู่เงียบๆ และโดนลูกหลงไปตามระเบียบ...
ในขณะที่แจจุงได้แต่มองอย่างตกตะลึงปนตกใจจนร่างกายสั่นไปทั้งตัว นัยน์ตาสีนิลมีแววเจ็บปวด โดยที่ไม่รู้ตัวแจจุงเผลอยกมือขึ้นมาเตรียมปะทะเจ้าของแก้มใสที่กำลังมองหน้าเขาอย่างเยาะเย้ย
"จะทำอะไรน่ะ?" น้ำเสียงคุ้นหูบัดนี้เต็มไปด้วยความโกรธ มือหนาคว้าขอมือเล็กไว้แน่น แจจุงหันกลับไปสบตาผู้มาใหม่อย่างไม่เชื่อสายตา
"ยะ...ยุนโฮ" ริมฝีปากบางสั่นระริกเมื่อเห็นหน้าชายหนุ่ม ก่อนจะรีบสะบัดมือออก แต่ยุนโฮกลับบีบให้แน่นขึ้นจนเด็กหนุ่มไม่อาจหลุดออกไปได้
"ปล่อย!~ ปล่อยฉัน...!!!~" แจจุงพยายามดึงมือออกแต่แรงอันน้อยนิดของเจ้าตัวน่ะ หรือจะสู้กับแรงของชายหนุ่มได้ ยุนโฮคว้ามืออีกข้างที่ยังเป็นอิสระอยู่แล้วผลักหลังร่างบางติดกำแพงเถาวัลย์อย่างแรง โดยไม่ได้สังเกตเห็นรอยยิ้มบางๆของจุนซูเลย
"ฉันถามว่านายจะทำอะไรจุนซู?" น้ำเสียงแข็งกร้าวไร้ความอ่อนโยนตะคอกใส่ เด็กหนุ่มมองเข้าไปในแววตาของชายหนุ่มที่ภาพของตัวเขาเองฉายอยู่ข้างใน และสิ่งที่สัมผัสได้มีแต่ความเย็นชาไม่ได้เปี่ยมไปด้วยความอบอุ่นเช่นในเมื่อก่อน เพราะความอ่อนแอเด็กหนุ่มจึงอดไม่ได้ที่จะทวงถามสัญญาครั้งก่อนที่ดูเหมือนว่าจะมีเขาเพียงฝ่ายเดียวที่ยังรักษามันอยู่...
"ยุนโฮ... ฉันถามจริงๆเถอะ เรื่องของเรามันจบแล้วเหรอ? แล้วสัญญาของเราล่ะ? " เสียงหวานเอ่ยพร้อมกับน้ำตาที่คลออยู่รอบๆขอบตา แต่ยุนโฮที่ได้ยินคำถามนี้ถึงกับหันหน้าหนีอย่างรำคาญใจ
"
"
"มองตาสิฉันสิยุนโฮ! บอกฉัน...ว่านายแค่โกหกฉันเท่านั้น" ร่างบางตะโกนใส่ยุนโฮ ชายหนุ่มนิ่งเงียบไปก่อนจะปล่อยข้อมือทั้งสองข้างให้เป็นอิสระ แล้วเดินไปหาจุนซู พลางหันมาหาแจจุงที่มองการกระทำของร่างสูงอย่างไม่เข้าใจ...
"นายไม่เชื่อเหรอแจจุง?" ยุนโฮถามก่อนจะโอบร่างเล็กเข้ามาในวงแขนแกร่ง นัยน์ตาคมมองอดีตคนรัก ก่อนสองมือจะประคองใบหน้าของจุนซูให้เงยขึ้นแล้วประทับริมฝีปากของตัวเองลงกับเรียวปากสีเนื้ออ่อนของร่างในอ้อมแขน จูบกินเวลาเนิ่นนานกัดกร่อนใจใครบางคนอย่างเลือดเย็น ตอนนี้ยุนโฮปล่อยให้จุนซูได้มีโอกาสพักหายใจ ชายหนุ่มจ้องหน้าแจจุงอีกครั้ง...
"ฉันกับจุนซูเรารักกัน นายเข้าใจมั้ย? ถ้าเข้าใจละก็ช่วยออกไปจากชีวิตฉันสักทีสิ!!
ไปอย่างที่นายเคยกับฉันเมื่อห้าปีก่อน แค่นี้มันไม่ยากหรอกจริงมั้ย?" ชายหนุ่มเดินหันหลังกลับพร้อมจูงมือจุนซูไปด้วย ร่างสูงเดินผ่านแจจุงไปอย่างไม่ใส่ใจ ไม่คิดจะสนใจหัวใจดวงน้อยที่เพิ่งถูกเขาทำร้ายอย่างไม่ใยดีสักนิด ผิดกับจุนซูที่ไม่ได้เดินผ่านเฉยๆ เรียวปากสีเนื้อที่แดงช้ำจากแรงจูบอันหนักหน่วง ยังไม่สิ้นฤทธิ์แอบกระซิบแผ่วเบาข้างหูตอนเดินผ่านร่างบาง...
"ฉันบอกนายแล้ว เขาเป็นของฉัน..." แจจุงยืนนิ่งฟังอย่างกล้ำกลืน คำพูดที่คล้ายกรีดหัวใจที่บาดเจ็บให้ปวดร้าวหนักขึ้นไปอีก ร่างบางยังคงยืนนิ่งอยู่ริมขอบสระ ท่ามกลางละอองหิมะที่เริ่มโปรยปรายลงมาจากท้องฟ้าตามอุณหภูมิที่ลดลง ชายหนุ่มอีกคนที่เฝ้ามองมาตลอดเหตุการณ์ได้แต่ตกตะลึง... ไม่กล้าแม้แต่จะออกไปปลอบร่างบางที่นั่งซึมอยู่ที่ริมขอบสระนั่นสักนิด...
เด็กหนุ่มเงยหน้ามองละอองหิมะที่ค่อยๆตกลงมา ภาพตรงหน้างดงามแต่เขากลับมองเห็นมันไม่ชัดเลยเป็นเพราะน้ำที่กำลังคลออยู่ตรงขอบตานี่รึเปล่านะ? ทำไมเขาถึงมองอะไรไม่เห็นเลย... สายลมเย็นฉ่ำพัดมาพร้อมกับเศษละอองน้ำแข็ง
เด็กหนุ่มเอื้อมมือไปรับไว้ ทันทีที่หิมะนั้นได้แตะต้องผิวขาวซีดเกือบจะเป็นสีเดียวกันนั้น มันช่างเย็นจนถึงขั้วหัวใจ เสียงทุ้มหนักแน่นลอยตามลมมาไกลแสนไกล...
... ฉันกับจุนซูเรารักกัน นายเข้าใจมั้ย? ถ้าเข้าใจละก็ช่วยออกไปจากชีวิตฉันสักทีสิ!!!
ยูชอนเกือบจะปรากฏตัวออกไปเพราะหยดน้ำที่ไหลเป็นทางเปื้อนแก้มนั้น ถ้าไม่มีใครบางคนปรากฏตัวออกมาซะก่อน ชายหนุ่มผมทองที่ถือกระเป๋าเสื้อผ้าของเขาและของแจจุงเองมา แต่พอชายหนุ่มเห็นร่างบางที่นั่งอยู่ริมขอบสระที่ แม้จะอยู่ไกลแต่เขาก็ยังเห็นได้ชัดว่านัยน์ตาคู่สวยนั้นมีน้ำใสๆไหลอยู่...เท่านั้นแหละทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ในมือก็ถูกทิ้งไป พร้อมกับร่างสูงที่วิ่งเข้าไปหาเด็กหนุ่ม... พลางคุกเข่าลงแล้วจับมือแจจุงไว้
"คุณหนูครับ..!!!~ คุณหนูร้องไห้ทำไมครับ!!!?" ผมสีทองของชายหนุ่มชี้ฟูเล็กน้อยจากการเคลื่อนไหวร่างกายอย่างรวดเร็ว นัยน์ตาคู่สวยมองบอดี้การ์ดของตนด้วยนัยน์ที่เต็มไปด้วยน้ำ ก่อนจะโผกอดชายหนุ่มที่ไม่ทันได้ตั้งตัว เพียงแค่พักเดียวชายหนุ่มก็รู้สึกได้ถึงความชื้นบริเวณหน้าอกแกร่ง มือเรียวขย้ำเสื้อคนตรงหน้าเสียแน่น ราวกับเป็นการระบายความกดดันที่มีอยู่ในจิตใจ...
"ฉันไม่ได้อยากเป็นแบบนี้...ไม่ได้อยากจะทิ้งเขาไป...ไม่ได้อยากถูกจับไปไม่ได้อยากไปอยู่ในนรกนั่น...ฉันไม่ได้ตั้งใจจะทำให้เขาต้องเจ็บปวดแบบนี้
" คำพูดที่ออกมาจากริมฝีปากขาวซีดนั้น เจ็บปวดแค่ไหนฮันกยองรู้ดี ชายหนุ่มเลือกที่จะฟังอยู่อย่างเงียบๆช่วยแบ่งเบาความเจ็บปวดของคนคนนี้บ้าง แม้มันจะไม่ได้ช่วยอะไรเลยก็ตาม มือหนาเอื้อมกอดตอบส่วนอีกข้างนั้นลูบหลังแผ่วเบาเพื่อปลอบโยน จากคำพูดที่ได้ยินไม่ต้องบอกฮันกยองก็พอเดาเรื่องราวได้...
เหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ในสายตายูชอนตลอดเวลา แต่เขาเลือกที่จะไม่ปรากฏตัวออกไป ไม่รู้เพราะช็อกกับนิสัยที่เปลี่ยนไปของจุนซู หรือ เพราะอะไรก็ตามแม้แต่ตัวเขาเองยังไม่อาจทราบได้ ชายหนุ่มเดินกลับไปที่บ้านพักของตัวเอง ก่อนทิ้งตัวลงบนเตียง แขนข้างหนึ่งใช้ก่ายหน้าผาก ก่อนจะถอนหายใจอย่างกลัดกลุ้ม
"จุนซู...นายเปลี่ยนไปมาก... เวลาทำให้นายเปลี่ยนได้ขนาดนี้เชียวเหรอ? ถ้าฉันถามนายจะตอบฉันว่าไงนะ...จุนซู?"
สิ่งแรกที่ชายหนุ่มรู้สึกแปลกๆคือเรื่องนี้ เมื่อก่อนจุนซูเป็นคนที่มีเหตุผลเอามากๆ ขนาดที่ว่า ไม่มีใครสามารถเถียงจุนซูได้เลยสักคน และถ้าเจ้าตัวทำผิดก็มักจะยอมรับแต่โดยดี แล้วตอนนี้อะไร? มันไม่เหลือแล้วใช่มั้ย...เหตุผล? ทั้งที่เมื่อก่อนนายเป็นคนพูดเองแท้ๆว่าสิ่งที่ทำให้คนเราไม่มีเหตุผลอย่างแรกก็คือ ความรัก...ความโลภ...ความโกรธ และความลุ่มหลง แต่ทำไมตอนนี้นายถึงได้เป็นซะเองล่ะ...จุนซู
แต่นั่นก็หาใช่ปัญหาเพียงเรื่องเดียวที่ยูชอนติดใจไม่ เพราะคำพูดที่จับความแทบไม่ได้ของแจจุงมันสะกิดใจเขาอยู่แม้จะไม่เข้าใจความหมายของมันเลยก็ตาม แต่น้ำเสียงหวานที่เอื้อนเอ่ยออกมามันทำเอาเขาเจ็บปวดตามอย่างบอกไม่ถูก
"ถูกจับ...นรก...คนพวกนั้น...ช่วงที่นายหายตัวไปเกิดอะไรขึ้นกันแน่...เรื่องที่นายไม่บอกฉันคือเรื่องนี้ใช่มั้ย?" ยูชอนได้แต่จมอยู่กับความคิดตัวเองโดยไม่รู้เลยว่าอีกไม่นานสิ่งที่เขาอยากรู้ มันจะมาเร็วเสียจนตั้งตัวไม่ทันเลยด้วยซ้ำ
บ้านพักในรีสอร์ทของสวนสวรรค์แห่งนี้ แต่ละหลังนั้นไม่ได้ใหญ่หรือเล็กจนเกินไปนัก เป็นบ้านไม้สีน้ำตาลอ่อนขนาดกะทัดรัด และด้วยความที่เป็นบ้านพักชั้นเดียวจึงทำให้บริเวณรอบๆนั้นกว้างขวางเป็นพิเศษ ประกอบกับความสวยงามของสวนดอกไม้อันกว้างใหญ่ บรรยากาศรอบบ้านจึงค่อนข้างสบายตา เต็มไปด้วยกลิ่นอายธรรมชาติ
พื้นหญ้าสีเขียวชอุ่มเริ่มแปรเปลี่ยนไปเป็นสีขาวของหิมะ ขาคู่เรียวก้าวเดินบนพื้นจนเกิดเป็นรอยเท้าเล็กๆตามทางที่เดินไป โดยมีร่างสูงอีกคนเดินตามมาด้านหลัง แผ่นหลังของร่างบางตรงหน้ามันทำเอาชายหนุ่มเศร้าอย่างบอกไม่ถูก เพราะกลัวว่าหิมะที่กำลังโปรยปรายลงมานั้นจะทำให้เด็กหนุ่มไม่สบายเสียก่อน เขาจึงต้องบังคับให้แจจุงนั้นกลับไปพักผ่อนในบ้านพักที่ทีมงานจัดไว้ให้...
เมื่อร่างบางเข้าไปในบ้านพักก็เข้าไปในห้องน้ำเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าและล้างหน้าล้างตา แล้วออกมาล้มตัวลงนอนบนเตียงอ่อนนุ่มสีขาวที่รอผู้มาพักอยู่นานแล้ว... ชายหนุ่มเห็นเจ้านายของตนมีท่าทางที่ดูไม่ดีมาตั้งแต่อยู่ข้างนอกแล้ว จึงเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง...
"คุณหนู...ไม่เป็นไรแน่นะครับ?"
"อือ... แค่รู้สึกเหนื่อยนิดหน่อยก็แค่นั้นเ...อ....ง..." เสียงหวานพยายามพูดไม่ให้ชายหนุ่มต้องเป็นกังวล แต่แล้วจู่ๆจังหวะการหายใจของเด็กหนุ่มเปลี่ยนไป เสียงลมหายใจเร็วและและถี่ขึ้น ชายหนุ่มรุดไปนั่งข้างเตียงเพื่อดูอาการที่ไม่น่าไว้ใจของร่างบาง...
"คุณหนู!!!~"
"อืม...ไม่...ไม่เป็นไร ไม่....ต้องตกใจ ดะ...เดี๋ยว...ก็หายเมื่อก่อน...ก็...เป็นแบบนี้... อยู่บ่อยๆ แต่...มันก็...หายไปสักพักนึงแล้ว...นะ ยัง...กลับมาเป็นอีก...จนได้..." คำพูดขาดเป็นช่วงๆตามลมหายใจรวยรินที่คล้ายจะหยุดหายใจได้ทุกเมื่อ... ใต้ผ้าห่มสีขาวสะอาด มือเรียวแตะหน้าอกตัวเองแผ่วเบา...
...เจ็บ...เจ็บที่หัวใจ...รู้สึกเหมือนหัวใจจะแหละเป็นเสี่ยงๆอีกแล้ว...ปวดหน้าอกไปหมดเลย...
...ยุนโฮ... ฉันอยากให้นายอยู่ข้างๆฉันเหมือนก่อนมันเป็นไปไม่ได้เลยเหรอ?
...เจ็บ...ยุนโฮ...หัวใจของฉันมันเจ็บเพราะนาย มีนายคนเดียวที่รักษามันได้...ยุนโฮ
...นายจะไม่กลับมาหาฉันจริงๆใช่มั้ย?
...ฉันต้องตัดใจอย่างนั้นเหรอ?
...แล้วสัญญาของเรานายจะทิ้งมันจริงๆสินะ...
ยุนโฮ...
สภาพร่างกายที่ไม่น่าไว้ใจของร่างบางทำให้คิ้วของฮันกยองขมวดนิดๆ ชายหนุ่มยื่นมือไปแตะหน้าผากเจ้านายคนสวยอย่างเกรงๆ แต่เพียงแค่สัมผัสโดนเท่านั้นแหละ เขาก็ต้องชักมือกลับอย่างรวดเร็วราวกับถูกไฟช็อต ความร้อนที่มือหนาสัมผัสได้เร่งให้ขายาวก้าวไปหายาแก้ปวดที่พกไว้ในกระเป๋า...
แต่ชายหนุ่มก็ต้องหัวเสียเมื่อรู้ว่าไม่ได้พกมันมาด้วย ในขณะนั้นเสียงเพ้อของร่างบนเตียงทำให้ชายหนุ่มต้องรีบหาวิธีอื่นที่จะช่วยลดไข้ได้...
ผ้าขนหนูผืนนุ่มถูกลากผิวขาวเนียนที่ชุ่มไปด้วยเหงื่อจากอุณหภูมิของร่างกาย ทั้งที่พึ่งอาบน้ำเสร็จไปเพียงไม่นาน สัมผัสแผ่วเบาราวกับกลัวว่าผิดขาวซีดนั้นจะช้ำหากออกแรงมากไปเพียงเล็กน้อย... ความอ่อนโยนที่ไม่เคยมีให้ใครแม้กระทั่งคนในครอบครัว แต่กับเด็กหนุ่มตรงหน้านี่เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม...
แสงอาทิตย์อ่อนๆที่ทอลงมายังพื้นหญ้าเขียวชอุ่มเพียงเล็กน้อยนั้นไม่ได้ทำให้อากาศอบอุ่นขึ้นมาเลย ท่ามกลางหมอกสีขาว อากาศค่อนข้างเย็น กลีบดอกไม้หลากสีสันพลิ้วไปตามสายลมราวกับเป็นการต้อนรับวันใหม่...
แพขนตาหนาขยับขึ้นลงถี่ๆ ร่างบางใต้ผ้าห่มสีขาวผืนอุ่นปรือตาไปมาให้รับกับแสงสลัวๆ ก่อนจะรู้สึกได้ถึงความอบอุ่น นัยน์ตาสีนิลมองไปหาตัวต้นเหตุนั้น ซึ่งมือหนาของชายหนุ่มที่นอนฟุบอยู่ข้างเตียงเขานั่นเอง เด็กหนุ่มยันตัวลุกขึ้นมาแม้จะยังมีอาการปวดหัวอยู่บ้างก็ตาม มือเรียวเอื้อมเขย่าไหล่ปลุกร่างสูงที่หลับสนิทให้ตื่นขึ้นมา
"ฮันกยอง...ฮันกยอง...ทำไมมานอนแบบนี้ล่ะ เดี๋ยวก็ไม่สบายหรอกนะ
" น้ำเสียงหวานแกมดุเอ่ยอย่างเป็นห่วง เพราะเสื้อผ้าที่ชายหนุ่มใส่ดูจะไม่ได้หนาพอจะปกป้องร่างสูงจากอากาศเย็นได้มากมายนัก แต่ชายหนุ่มที่พึ่งตื่นไม่ได้สนใจน้ำเสียงดุของแจจุงเลย กลับสนใจอาการของคนตรงหน้ามากกว่า...
"คุณหนู... ตื่นแล้วเหรอครับ ยังปวดหัวอยู่รึเปล่าครับ...? เมื่อคืนคุณหนูไข้ขึ้นสูงมากเลยนะครับ... ผมเป็นห่วงแทบแย่..." ชายหนุ่มเอื้อมมือไปแตะหน้าผากเนียนขาวเบา เมื่อเห็นว่าไข้ลดลงแล้วจึงค่อยเบาใจได้หน่อย...
"ไม่เป็นไรหรอกน่า... " ร่างบางหน้ามุ่ยลงเล็กน้อย เมื่อชายหนุ่มทำเหมือนเขาเป็นเด็กๆ ในขณะที่ชายหนุ่มเปิดผ้าม่านสีน้ำตาลอ่อนให้แสงสว่างเข้ามาในห้องได้มากขึ้น ถึงจะไม่ได้ช่วยอะไรเลยก็ตาม...
แจจุงแตะไปที่เรียวคอด้วยความเคยชินแล้วก็ต้องตกใจเมื่อพบว่าสิ่งที่ควรอยู่มันไม่ได้อยู่ที่เดิมของมัน แล้วพลันใบหน้าสวยก็หมองเศร้าลงทันใด เมื่อเขาพึ่งนึกออกว่าเมื่อวานมันเกิดอะไรขึ้นบ้าง แต่กว่าจะได้คิดอะไรไปมากกว่านั้น...
ก๊อก...ก๊อก
เสียงเคาะประตูไม้ที่ไม่ดังจนเกินไปเรียกให้ร่างบางซึ่งจมอยู่ในภวังค์หันไปมอง ก่อนหันไปหาชายหนุ่มที่เดินออกจากห้องไปเปิดประตูให้แก่ผู้มาเยือน
"คุณยูชอน..." เสียงทุ้มที่เอ่ยชื่อของผู้มาใหม่จากหน้าประตูแว่วเข้ามาถึงในห้องนอน ก่อนจะปรากฏร่างของชายหนุ่มทั้งสอง เด็กหนุ่มมองไปที่ฮันกยองซึ่งเจ้าตัวก็รู้หน้าที่ดี ชายหนุ่มโค้งให้แจจุงครั้งหนึ่งก่อนจะเดินออกจากบ้านพักไป...
"ยูชอน..." เจ้าของนัยน์ตาสีนิลเรียกชายหนุ่มที่กำลังทิ้งตัวลงนั่งลงบนเตียงข้างๆเขาพร้อมกับถอนหายใจ...
"แจจุง...ฉันขอโทษ" น้ำเสียงทุ้มเอ่ยอย่างรู้สึกผิดทั้งที่ตัวเองก็ไม่รู้ว่าอยากขอโทษเรื่องอะไรกันแน่...
"นายจะขอโทษฉันเรื่องอะไร?"
"ไม่รู้สิ...ช่างมันเถอะ เอ่อ...เห็นฮันกยองบอกว่านายไม่สบายเหรอ?"
"อือ...แต่หายแล้วล่ะ แล้วตกลงที่นายมามีอะไร? คงไม่ได้แค่แวะมาทักแล้วก็ไปใช่มั้ย? " เสียงหวานเอ่ยอย่างรู้ทัน ในขณะที่ชายหนุ่มยิ้มรับ ก่อนจะล้วงลงไปในกระเป๋าเสื้อของตัวเองแล้วหยิบอะไรบางอย่างออกมาส่งให้ สิ่งที่ทำให้หยดน้ำคลอที่ขอบตาก่อนไหลลงมาเป็นทาง...
สายสร้อยโลหะที่ถลอกปอกเปิกแทบไม่เหลือสภาพเดิม จี้รูปหัวใจที่เกือบจะหลุดออกจากกัน หากแต่ของสิ่งนี้ก็ยังเป็นของที่สำคัญที่สุดในชีวิตของแจจุงอยู่ดี... มือเรียวทั้งประคองสร้อยที่อยู่ในมืออย่างระมัดระวัง
"ฉันเจอมันอยู่ที่ในสวนเลยเก็บมา แต่ฉันไม่รู้หรอกนะว่าทำไมมันถึงมีสภาพแบบนี้?" ยูชอนว่าพลางเอื้อมมือไปเช็ดน้ำตาของเด็กหนุ่มที่ไหลนองใบหน้าสวย ที่ร่างสูงไม่ยอมบอกว่าเมื่อวานเขาเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดนั้นก็เพราะอยากจะรู้ว่าแจจุงจะบอกเขาว่ายังไง จะพูดความจริงหรือว่า...
"ขอบใจนะ...ยูชอน ฉะ...ฉัน...ฮึก...นึกว่า.... ฮึก...มัน...หายไป....แล้วซะอีก " เสียงหวานสั่นเครือปนเสียงร้องไห้ ไหล่เรียวบางสั่นไหวไปตามแรงสะอื้น
"อย่าร้องไห้สิแจจุง นายก็รู้ว่าฉันแพ้น้ำตานี่นา~ " ชายหนุ่มนั่งมองใบหน้าสวยที่เปื้อนน้ำตาอยู่อย่างนั้น เพราะไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรถึงจะหยุดความเศร้าเสียใจของคนตรงหน้าได้ ทั้งรู้ดีว่าทำไมแจจุงถึงได้ร้องไห้มากมายขนาดนี้ แต่ตัวเขาก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้เลย จนกระทั่งความคิดหนึ่งผุดขึ้นมาในหัวสมอง...
"แจจุง...วันนี้นายว่างมั้ย?" เสียงทุ้มเอ่ยถามร่างบางที่กำลังปาดน้ำตาออกจากใบหน้าสวย นัยน์ตาสีนิลมีแววช้ำจากการร้องไห้มาหลายครั้งในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน...
"ก็ไม่ได้ไปไหน แต่...ฉันจะเอามันไปซ่อม..." เด็กหนุ่มหมายถึงโลหะสีเงินที่อยู่ในมือ สภาพที่ไม่รู้ว่าจะซ่อมได้หรือเปล่าแต่ก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไรเลย...
"โอเค... สรุปว่านายว่าง... งั้น...ไปกับฉันนะ" ร่างสูงลุกขึ้นพลางจัดเสื้อผ้าของตัวเองที่ยับยู่ยี่จากการนั่งให้เข้าที่ ในขณะที่เด็กหนุ่มได้แต่งง คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันอย่างไม่ไว้ใจ...
"ไปไหน..."
"เดี๋ยวก็รู้... อีกครึ่งชั่วโมงฉันจะมารับแต่งตัวให้เรียบร้อยล่ะ..." ว่าแล้วยูชอนก็เดินออกไป ปล่อยให้แจจุงได้แต่สงสัยอยู่อย่างนั้น จนฮันกยองกลับเข้ามา ริมฝีปากบางถึงได้เอ่ยปากพูด ก่อนจะรีบไปอาบน้ำแต่งตัว...
"ฮันกยอง... วันนี้ฉันจะไปกับยูชอนนะ นายจะไปไหนก็ได้ถือว่าวันนี้หยุดก็แล้วกัน อีกอย่างไม่ต้องเป็นห่วงนะ...ยังไงหมอนั่นก็ไปส่งฉันที่บ้านอยู่แล้วแน่นอน
" ร่างบางรั่วคำพูดอย่างรวดเร็วไม่รอให้ชายหนุ่มได้โต้แย้งอะไร ก่อนขาคู่เรียวจะก้าวยาวๆเข้าห้องน้ำไป ทิ้งให้ชายหนุ่มมึนงงกับอาการที่เปลี่ยนไปอย่างกะทันหันของเจ้านายคนสวยเสียเหลือเกิน
แต่เอาเถอะ...ความจริงเขาก็มีที่ๆอยากไปโดยไม่ให้แจจุงรู้อยู่เหมือนกัน ถือโอกาสไปซะตอนนี้เลยก็ดี จะได้ไม่ต้องหาทางไปทีหลังด้วย...
หลังจากแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้วเด็กหนุ่มแหงนมองนาฬิกาสีเนื้อเข้ากับผนังไม้สีเข้มที่ติดอยู่บนผนังในบ้านพัก บอกเวลาเก้าโมงห้าสิบ ซึ่งผ่านไปครึ่งชั่วโมงก่อนยูชอนจะไปพอดี แจจุงรู้ดีเรื่องความตรงเวลาของเพื่อนเก่าจึงรีบออกไปข้างนอกบ้านพัก และก็เป็นไปตามคาดร่างของชายหนุ่มในเสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อนสบายตากับกางเกงยีนส์สีเข้มยืนรออยู่แล้ว เสื้อผ้าธรรมดาในวันหยุดที่ทำให้ร่างสูงไม่เหลือคราบเลขาของประธานบริษัทปาร์คเลยสักนิด
"ฮันกยองฉันไปก่อนนะ... แล้วเอ่อ..." เสียงหวานหันมาสั่งบอดี้การ์ดหนุ่มก่อนจะชะงักไปเพราะไม่รู้ว่าพ่อเลขาหน้าไก่นั้นจะมาส่งเขากี่โมง แต่เจ้าตัวก็เหมือนรู้ดีถึงได้หันมาบอกฮันกยองหนุ่มแทนร่างบาง
"อาจจะกลับดึกหน่อยนะ ฉันว่าจะพาคุณหนูของนายไปดินเนอร์ด้วยน่ะ... ไปเถอะแจจุงสายมากแล้วนะ..." ว่าแล้วชายหนุ่มก็จูงมือร่างบางไปไม่ทันให้เด็กหนุ่มได้ตั้งตัว...
"ดะ...เดี๋ยวสิยูชอน ยังไม่ได้ลาพวกพี่ๆเขาเลยนะ..." พี่ๆที่แจจุงว่าก็คือเหล่าบรรดาทีมงานที่มาถ่ายทำและเข้าพักพร้อมกันเมื่อวาน แต่คนอย่างยูชอนไม่เคยสนใจเรื่องประเภทนั้นอยู่แล้วล่ะ
"เอาเถอะน่าแจจุง นายไม่ไปก็ไม่มีใครว่าอะไรนายสักหน่อยนิ เดี๋ยวฮันกยองเขาก็จัดการให้นายเองนั่นแหละน่า..." สุดท้ายเด็กหนุ่มเลยต้องยอมเดินตามร่างสูงแต่โดยดี ชายหนุ่มพาเดินออกมาข้างนอกสวนจนถึงรถนอกสีดำคันหรูที่ชายหนุ่มอุตส่าห์พกมันกลับมาจากอเมริกาด้วย ร่างสูงรีบไปเปิดประตุด้านที่นั่งข้างคนขับให้แจจุง... ก่อนจะทำท่าโค้งน้อยๆเลียนแบบพ่อบอดี้การ์ดหนุ่มผมทอง...
"เชิญครับเจ้าหญิง..." สรรพนามที่เคยใช้เรียกครั้งอดีตเมื่อยังเป็นเด็กกลับมาอีกครั้ง แจจุงได้แต่มองหน้าชายหนุ่มด้วยความแปลกใจกับการเปลี่ยนไปของยูชอนจากหน้ามือเป็นหลังมือ... แต่ก็ยอมขึ้นไปโดยดี แล้วชายหนุ่มก็อ้อมผ่านหน้ารถไปที่นั่งของคนขับ รถสีดำเคลื่อนที่ออกจาก Angel's Garden รีสอร์ทสุดหรูที่ไม่รู้ว่าจะได้มาเยือนอีกเมื่อไหร่...อาจจะไม่ได้มาอีกจนลมหายใจเฮือกสุดท้ายก็เป็นได้...
โดยที่ไม่ใครรู้... เด็กหนุ่มผมทองแอบมองการกระทำของทั้งสองคนอยู่ไกลๆจากบ้านพักของร่างเล็กสามารถเห็นทางออกของรีสอร์ทได้ชัดเจน ไม่รู้ทำไมแต่จุนซูกลับรู้สึกกระวนกระวายใจเหลือเกินที่เห็นยูชอนชวนแจจุงออกไปกันสองต่อสองแบบนั้น... ยุนโฮที่อยู่ด้วยกันเห็นจุนซูหายไปนานเลยเดินหาแล้วก็เจอร่างเล็กนั่งมองวิวอยู่นอกหน้าต่างทั้งที่จริงแล้วสิ่งที่ร่างเล็กมองอยู่คือ รถคันหรูของยูชอนที่ไปไกลแล้วต่างหาก...
"ทำอะไรอยู่ครับที่รัก~" น้ำเสียงทุ้มเอ่ยเรียกคนรักพลางก้มตัวลงไปเคล้าคลอใบหน้าหวานนั้นอย่างอ้อนๆ
"กะ..ก็มองไปเรื่อยๆอ่ะ วิวที่นี่สวยดีออกนี่นา~ ไว้วันหลังเรามากันอีกนะ..." ร่างเล็กตอบชายหนุ่มก่อนจะหันไปแตะใบหน้าคมที่โน้มลงมาด้วยจมูกเบาอย่างเขินอาย...
"เท่าที่จุนซูต้องการเลย... " ร่างสูงตอบก่อนจะเดินไปรับโทรศัพท์ที่ดังขึ้นมาขัดจังหวะบทสนทนาของเขากับคนรัก ปล่อยให้จุนซูนั่งเล่นอยู่ตรงนั้นต่อไป...
เชอะ!! ทำไมต้องรู้สึกโมโหด้วยนะ
แจจุงจะไปกับยูชอนมันเกี่ยวกับเราตรงไหนกัน
แต่ว่า...ทำไมมันหงุดหงิดอย่างนี้นะ
อิจฉาชะมัดเลย
เฮ้!!~ คิดอะไรบ้าๆ
โธ่เว่ย!!~ นี่นายเป็นบ้าอะไรของนายเนี่ย...!!!~
คิมจุนซู!!!~
To Be Con...
เฮ้!!~ ครบ 100 % สักที
ขอโทษที่ปล่อยให้รอนานน้า~
ปล.ตอนนี้ไก่จะกลับตัวเป็นคนดีแล้ว 55+
ตอนหน้ามี NC คู่ไหนก็รออ่านนะจ้ะ
เหอๆๆ แต่ไม่ถนัดฉากแบบนี้เลยแฮะ TT_TT
- - + +-b g-น่า รัก
ความคิดเห็น