ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic SJ] อลวนรัก หอพักสุดเพี้ยน (Super Junior Yaoi)

    ลำดับตอนที่ #30 : Chapter 27 : KISS

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.34K
      4
      12 มิ.ย. 54

     

    Chapter 27  :  KISS

     

     

     

     

     

                หลังจากหนีความวุ่นวายกลับมาหอซองมินก็จ้อเรื่องของลุงยามที่เข้าใจผิดคิดว่าตัวเองเป็นผู้หญิงให้คยู
    ฮยอนฟังไม่หยุดตลอดทางที่เดินมา ไม่ใช่เพราะว่าอยากเล่ามากมายอะไรนักหรอก แค่คิดว่าถ้าเดินกลับมาด้วยกันเงียบๆโดยไม่มีใครเอ่ยอะไรออกมาบ้างมันคงจะวังเวงน่าดู และอีกเหตุผลหนึ่งเขาไม่อยากนึกถึงคำพูดที่มันทำให้ใจหวั่นไหวเสียเหลือเกิน ยิ่งเจ้าตัวคนพูดยืนอยู่ข้างๆกันแล้วด้วย จิตใจมันจะพาลเตลิดไปกันใหญ่

     

                ถึงจะเมาก็เถอะ แต่น่าจะมีสติบ้างนะ ฉันน่ะผู้ชายไม่ใช่ผู้หญิงซะหน่อย เปิดประตูห้องเข้ามาซองมินเดินไปล้มตัวลงนอนบนเตียง ปากก็ยังพร่ำออกมาไม่หยุด

     

                คยูฮยอนลอบยิ้มกับพฤติกรรมพูดมากของรูมเมทก่อนจะเดินเข้ามาในห้องบ้าง แต่แล้วภาพที่ซองมินนอนแผ่หลาอยู่บนเตียงก็ทำให้คยูฮยอนต้องเบือนหน้าหนี รู้สึกอุณหภูมิในร่างกายมันพุ่งสูงขึ้นมากะทันหัน ก็ดูเจ้ากระต่ายยั่วสวาทตัวนี้นอนเข้าสิ แบบนี้มันยั่วเขาเห็นๆ

     

                ลืมไปหรือเปล่าว่าตัวเองใส่ชุดอะไรอยู่ คยูฮยอนเดินเฉียดไปที่เตียงซองมินก่อนจะโยนผ้าห่มผืนใหญ่ใส่รูมเมทตัวอวบเสียเลย ก็กระโปรงบันนี่แสนจะสั้นแทบปิดอะไรไม่มิดมันถกขึ้นมาจนโชว์เรียวขาขาวๆที่อยู่ภายใต้ถุงน่องบางๆคู่นั้น มองแล้วก็ได้แต่กลืนน้ำลายเหนียวๆลงคออย่างยากลำบาก ถ้าไม่รีบป้องกันไว้เสียก่อนเขาอาจจะต้องเสียใจกับการกระทำของตัวเองก็เป็นได้

     

                ถูกเตือนแบบนี้ซองมินเลยรีบเด้งตัวลุกขึ้นนั่งทันที พลางดึงมาห่มขึ้นมาคุมตัวเองเอาไว้ หน้าขาวๆเริ่มขึ้นสีจนแก้มแดงปิดไม่มิด เพราะไม่รู้ว่าประโยคที่คยูฮยอนพูดออกมาเมื่อสักครู่เจ้าตัวจะเห็นอะไรไปบ้าง คิดแล้วก็อยากกัดลิ้นตัวเองตาย ทำไมวันนี้ถึงมีแต่เรื่องให้อายขายหน้านักนะ

     

                ซองมินลอบมองเสี้ยวหน้าด้านข้างของคยูฮยอนที่กำลังดื่มน้ำอยู่ ใบหน้าคมเข้มยังคงเรียบเฉยไม่แสดงอาการใดๆ แต่หารู้ไหมว่าภายในตอนนี้มันปั่นป่วนแค่ไหน ส่วนคนลอบมองนั้นก็หน้าแดงแล้วแดงเล่า เพราะสมองเอาแต่ฉายภาพซ้ำๆที่ทำให้ตัวเองต้องรู้สึกอายได้ไม่หยุดหย่อนเสียที

     

                ฉันน้ำอาบก่อนนะ พูดจบซองมินก็เดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่มาพันตัวเองไว้ รีบอาบน้ำและเข้านอน จะได้เลิกคิดฟุ้งซ่านเสียที แต่คืนนี้จะนอนข่มตาหลับได้หรือเปล่าเขาเองก็ยังไม่รู้เหมือนกัน

     

                เอ่อ...ซองมิน เรื่องในงานน่ะ...

     

                อ๋อ เรื่องลุงยามเหรอ นายก็บอกเองหนิว่าแกเมา เดี๋ยวหายเมาก็จำได้เองแหละว่าฉันไม่ใช่ผู้หญิง ได้ฟัง
    คยูฮยอนเอ่ยออกมาแค่นี้ทำเอาหัวใจซองมินเต้นตุ๋มๆต่อมๆ จนต้องรีบตัดบทเปลี่ยนเรื่องแล้วหนีเข้าห้องน้ำไปเสียเลย

     

                แน่นอนว่าเรื่องในงานที่คยูฮยอนพูดถึงไม่ใช่เรื่องลุงยามที่ซองมินตอบ แต่เพราะกลัวเลยต้องขัดออกมาแบบนั้น อะไรกันนะกับรูมเมทหน้าหล่อของเขาคนนี้ คนกำลังพยายามลืม อุตส่าห์บ่ายเบี่ยงไม่พูดยังจะโยงเข้ามาอีกจนได้ รู้ไหมหัวใจซองมินคนนี้เต้นแรงจนจะกระเด็นออกมาจากอกอยู่แล้ว

     

                คยูฮยอนถอนหายใจออกมายาวยืดเมื่อประตูห้องน้ำปิดลง ก้อนเนื้อในอกด้านซ้ายเขาก็เต้นแรงไม่แพ้กัน อยากจะพูดอยากจะอธิบายให้เข้าใจเพราะว่าห่วงในความปลอดภัยเลยพูดออกไปแบบนั้น และเขาเองไม่ใช่ก้อนหิน ไม่ใช่ดินฟ้าอากาศย่อมเกิดอาการเขินอายเป็นธรรมดาเมื่อโดนแซว เป็นแบบนั้นแล้วใครมันจะไปยืนนิ่งไม่ปฏิเสธได้ล่ะ

     

                ยี่สิบนาทีกับความร้อนรุ่มของหัวใจที่ผ่านไปอย่างเชื่องช้า ซองมินแง้มประตูห้องน้ำมาก็เห็นคยูฮยอนถอนชุดแฟนซีออกเรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงเสื้อกล้ามสีขาว กางเกงขาสั้นกับผ้าขนหนูถืออยู่ในมือเพื่อเตรียมตัวอาบน้ำเช่นกัน

     

                เสร็จแล้วนะ เอ่ยบอกรูมเมทเสียงเบาหวิวพลางเหล่มองใบหน้าหล่อเหลาที่ยังคงเรียบนิ่ง

     

                คยูฮยอนขานรับงึมงำในลำคอก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไปโดยไม่ได้แลตามองซองมินเลยแม้แต่น้อย คนทีลอบมองพ่นลมออกจากจมูกก่อนจะรีบแต่งตัวแล้วกระโดดขึ้นเตียงดึงผ้าห่มมาคลุมตัวไว้ทันที

     

                โทรหาซันนี่ดีกว่าพึมพำกับตัวเองก่อนจะลุกนั่งเอื้อมมือไปคว้าโทรศัพท์เครื่องสวยมา กดแผงแป้นพิมพ์อยู่สองสามทีเบอร์ที่ต้องการก็ปรากฏอยู่หน้าจอ แต่จู่ๆพ่อคนจอมพูดมากก็กลับเปลี่ยนใจเสียอย่างนั้น

     

                จากที่จะโทรหาซองมินกลับกดเลือกส่งข้อความไปหาแทน นั่งเม้มปากนึกประโยคดีๆอยู่สักพักก่อนจะพิมพ์ยุกยิกลงไปและกดส่งออกเบอร์ดังกล่าวทันที

     

    ไปเที่ยวสวนสนุกกันนะซันนี่

     

                ส่งข้อความเสร็จก็วางมือถือลงที่เดิมพลางเอนตัวลงนอนแล้วหลับตาพริ้ม นอนนึกถึงหน้าแฟนสุดน่ารักของตัวเองเอาไว้ หน้าหล่อๆของคุณรูมเมทจะได้ไม่เข้ามาวุ่นวายให้ต้องสับสนกันอีก ความจริงเขาเองก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าสิ่งที่คยูฮยอนพูดออกมาจะมีความจริงเท็จแค่ไหนกัน ถ้าคยูฮยอนหวงเขาจริง การไปเดทกับซันนี่ครั้งนี้คงไม่ราบรื่นสงบสุขเป็นแน่

     

                นอนหลับตาจวนจะเคลิ้มหลับอยู่แล้วแต่ประตูห้องน้ำที่คยูฮยอนเปิดออกกลับดังกุกกักให้คนที่จิตใจกำลังจะสงบกลับมาวุ่นวายอีกครั้ง

     

                คยูฮยอนเดินกลับมาที่เตียงหลังแต่งตัวเสร็จ แต่แทนที่จะล้มตัวลงนอนกลับเอาแต่นั่งมองรูมเมทจอมพูดมากที่บัดนี้สิ้นฤทธิ์นอนหลับปุ๋ยอยู่บนเตียง นั่งสงบจิตสงบใจอยู่พักหนึ่งจนสุดท้ายก็ทนไม่ไหว คยูฮยอนลุกขึ้นเดินย้ายตัวเองไปนั่งอยู่ขอบเตียงของซองมินที่บัดนี้หัวใจเต้นตึกตักกับการบุกรุกพื้นที่ของรูมเมทตัวสูง

     

                นวลแก้มสีชมพูปลั่งเพราะอุณหภูมิของร่างกายที่พุ่งสูงลอยเด่นมันยั่วยวนใจยิ่งนัก คยูฮยอนเม้มปากอย่างข่มอารมณ์แต่สุดท้ายก็ห้ามใจไม่อยู่จนได้ ใบหน้าคมเข้มเลื่อนลงช้าๆจนปลายจมูกโด่งสัมผัสเข้ากับแก้มนวลใส จากนั้นลากผ่านโครงหน้าสวยมายังหน้าผากมนก่อนจะกดจูบลงอย่างบางเบา

     

                ฝันดีนะ เอ่ยเสียงเบาหวิวก่อนจะผละออกมา คยูฮยอนยกมือขึ้นเกาท้ายทอยอย่างเก้อเขิน ถึงแม้จะเข้าใจว่าซองมินยังหลับอยู่ไม่สามารถรับรู้พฤติกรรมน่าอายของตนเองได้ แต่สุดท้ายก็นึกตำหนิตัวเองไม่ได้อยู่ดี นายเผลอตัวเผลอใจขนาดนี้ได้ยังไงกันนะคยูฮยอน

     

                พร่ำเพ้อกับความบ้าบอของตัวเองอยู่ในใจได้ไม่นานคยูฮยอนก็ล้มตัวลงนอนบนเตียง ดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมโปงจนมิดก่อนจะหลับตาลงพร้อมรอยยิ้มกว้างที่ทำยังไงก็หุบไม่ลงสักที

     

                แต่ใครเล่าจะรู้ว่าคนที่กำลังจะเคลิ้มหลับกลับต้องตาสว่างหลับไม่ลง เพราะสัมผัสอันแสนนุ่มนวลของรูมเมทตัวเองเมื่อสักครู่ ซองมินนอนฮึดฮัดอยู่ในผ้าห่มผืนใหญ่ด้วยความขวยเขิน ยกมือขึ้นจับหน้าตัวเองที่ร้อนอย่างกับคนเป็นไข้ แล้วก็เอาแต่ร่ำร้องอยู่ภายในใจ ถ้าไม่ติดว่ากลัวคนที่เพิ่งมาลักหลับเขาตื่นล่ะก็ ลีซองมินคนนี้จะร้องดังๆ เป็นเพลงปาล์มมีเลย

     


     

     

                แสงตะวันเพิ่งสาดส่องผ่านหน้าต่างมาได้ไม่ถึงชั่วโมงมือถือเครื่องสวยของซองมินก็แผดเสียงดังลั่นห้อง แต่เจ้าตัวกลับไม่อยู่ในห้องเสียนี่ เดือดร้อนรูมเมทอย่างคยูฮยอนที่ยังคงนอนอุตุอยู่บนเตียงต้องตะเกียกตะกายมารับแทนเพราะรำคาญเสียงของมันเต็มทน แล้วรูมเมทจอมพูดมากไปไหนกันล่ะเนี่ย

     

                หายไปไหนแต่เช้า บ่นเสียงงัวเงียเมื่อมองดูนาฬิกา เวลาตอนนี้เพิ่งเจ็ดโมงเช้า แต่เตียงข้างๆกลับว่างเปล่า

     

                คยูฮยอนนั่งสะลึมสะลืออยู่บนเตียงมือถือเครื่องจ้อยเงียบไป เขาจึงเดินไปดูที่ห้องเผื่อว่าซองมินจะอยู่ในนั้น แต่กลับไม่มีแม้แต่เงา หรือว่าจะลงข้างล่างกัน

     

                นึกหาเพื่อนรูมเมทได้ไม่เท่าไหร่เสียงมือถือก็ดังขึ้นอีกรอบ คยูฮยอนเดินไปคว้ามันมารับโดยที่ยังไม่ได้ดูชื่อแต่เสียงปลายสายที่โต้ตอบกลับมาก็ทำให้เขารู้ทันทีว่าใคร

     

                (อ้าว! มินนี่ของซันนี่ไม่อยู่เหรอคะ) พอซันนี่รู้ว่าใครรับสายก็ถามกลับมาเสียงใส

     

                ไม่อยู่ มีอะไรมั้ย ถามกลับเสียงห้วน ไม่รู้ว่ารู้สึกไปเองหรือเปล่าว่าเสียงซันนี่มันสดใสเกินเหตุเหมือนกำลังล้อเขาอยู่

     

                (มีสิคะ สำคัญด้วย แต่รอมินนี่ของซันนี่กลับมาก่อนดีกว่า) ประโยคนี้ทำเอาคยูฮยอนทำหน้าเอียนเหมือนอยากจะอ้วก เกลียดจริงๆเลย มินนี่ของซันนี่ เลี่ยนสิ้นดี

     

                มีอะไรฝากบอกก็ได้นะ อีกนานซองมินกว่าจะกลับ ไปทำงานที่มหาลัย แล้วดันลืมเอาโทรศัพท์ไปด้วย คยูฮยอนโกหกหน้าตาย อยากรู้จริงๆ ว่าเรื่องอะไรมันถึงสำคัญหนักหนา

     

                (เหรอค่ะ อืม...งั้นฝากบอกมินนี่ด้วยนะคะว่า เรื่องที่จะเที่ยวสวนสนุก นัดเป็นวันอาทิตย์หน้าแล้วกันนะคะ ส่วนเรื่องเวลาซันนี่จะโทรมาบอกอีกที) ปลายสายคิดอยู่นานว่าจะบอกดีไหม จนสุดท้ายซันนี่ก็ยอมตอบ เพราะอยากจะยั่วพี่ชายตัวเองเล่นดูสักหน่อย เห็นหวงจังเลยรูมเมทคนนี้

     

                จะไปเที่ยวสวนสนุกเหรอ

     

                (ใช่ค่ะ ไปเดทน่ะค่ะ งั้นแค่นี้นะคะพี่คยูฮยอน) พูดจบซันนี่ก็ชิงตัดสายทิ้งไป ปล่อยให้คยูฮยอนนั่งมองมือถือที่อยู่ในมือด้วยความรู้สึกที่ยากจะบรรยาย

     

                ซันนี่วางไปไม่ถึงสิบวินาทีคนที่อยากคุยด้วยก็เปิดประตูเข้ามาพอดี ซองมินถือถุงกับข้าวไปวางที่โต๊ะ สายตาเหล่มองสิ่งที่อยู่ในมือรูมเมท นี่คยูฮยอนทำอะไรกับมือถือเขาล่ะเนี่ย

     

                เมื่อกี้ซันนี่โทรมาน่ะ เหมือนจะอ่านสายตาออกคยูฮยอนเลยชิงตอบก่อนจะโดนถามพลางวางมือถือเครื่องสวยไว้ที่เดิมของมัน

     

                ว่าอะไรบ้างเหรอ หันไปสบตากับคยูฮยอนได้เพียงแวบเดียวซองมินก็ต้องรีบหันกลับมา เรื่องเมื่อคืนมันผุดขึ้นมาในหัวเขาอีกแล้ว

     

                นายจะออกเดทกับซันนี่เหรอ คยูฮยอนเดินเข้าไปถามใกล้ๆ จนแผงอกกว้างของตนจะชนเข้ากับแผ่นหลังของซองมินอยู่มะรอมมะร่อ

     

                คนโดนถามสะดุ้งตัวโหยงเมื่อเสียงนุ่มๆดังอยู่ใกล้หูเสียเหลือเกิน ซองมินหันขวับมาหาจนหัวชนเข้ากับไหล่ของคยูฮยอนซึ่งทำหน้านิ่งรอคำตอบอยู่

     

                “อ่ะ เอ่อ ใช่ๆ ก็เรายังไม่เคยเดทกันเลย ซองมินกลับหลังหันไปยืนท่าเดิมพลางตอบเสียงอ้อมแอ้มในลำคอ สงสัยเมื่อกี้ซันนี่ต้องโทรมาถามเรื่องที่ส่งข้อความไปเที่ยวสวนสนุกแน่ๆ

     

                อืม ซันนี่โทรมานัดเป็นวันอาทิตย์หน้า ส่วนเรื่องเวลาจะโทรมาบอกอีกที บอกเสียงเรียบนิ่งก่อนจะไปค้นเสื้อผ้าที่จะใส่วันนี้และเตรียมตัวอาบน้ำ

     

                ขอบใจนะที่รับให้ ส่วนนายก็รีบอาบน้ำนะคยูฮยอน ฉันซื้อของอร่อยๆมาเพียบเลย ซองมินเอ่ยเสียงสดใส พยายามทำตัวให้เป็นปกติที่สุด เพราะดูเหมือนเช้านี้คยูฮยอนจะอารมณ์ไม่ค่อยดีนัก ไม่รู้เพราะว่าเขาลงไปข้างล่างโดยไม่บอกหรือเพราะรู้เรื่องที่เขาจะเดทกับซันนี่กัน

     

                 คยูฮยอนหายเข้าห้องน้ำไปแล้ว ส่วนซองมินกำลังแกะของกินใส่จานอย่างขะมักเขม้น ทำไปก็เหล่มองประตูห้องน้ำไปอย่างกับว่าจะมองทะลุให้เห็นคนข้างในเสียอย่างนั้น จริงๆแล้วเขาอยากจะลองใจกล้าดูสักครั้ง ถามคยูฮยอนให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลยว่าที่เมื่อคืนทำตัวเป็นขโมยมาลักหลับเขาน่ะคิดอะไรอยู่ แต่ก็อย่าดีกว่า ถ้าคำตอบออกมาผิดคาดแล้วจะยุ่งไปกันใหญ่ เขาไม่อยากมานั่งเสียใจเพราะความผิดพลาดของตัวเอง

     

     

     


                เช้าวันหยุดอันแสนสดใสของใครหลายๆคนในหอสิบสามซึ่งยังคงนอนอุตุอยู่บนเตียงไม่มีทีท่าว่าจะลุกขึ้นมาได้ง่ายๆ เพราะเมื่อคืนกว่างานจะเลิกก็ย่างเข้าช่วงเวลาของอีกวันเสียแล้ว แถมชุดแฟนซีที่ใส่ร่วมงานเมื่อคืนก็ยังไม่ได้ถูกเปลี่ยน นอนมันทั้งแบบนั้นแหละ ก็คนมันเหนื่อย

     

                เสียงนาฬิกาปลุกดังลั่นห้องก่อนเจ้าของมันจะเอื้อมมือไปกดปิด ฮันคยองเงยหัวขึ้นมาดูฟ้าดูตะวัน ก่อนจะเหลือบไปมองนาฬิกาที่เพิ่งกดปิดไปเมื่อสักครู่ เห็นเข็มสั้นชี้ที่เลขแปดศีรษะอันหนักอึ้งก็ซุกกลับหมอนใบใหญ่อีกครั้ง ก็มันยังเช้าอยู่เลยนี่นา

     

                โครก!!~

     

                แต่จะให้นอนต่อยังไงก็หลับไม่ลงเสียแล้วตอนนี้ เพราะเสียงโครกครากในกระเพาะมันร้องประท้วงขออาหาร ฮันคยองเลยจำต้องลุกขึ้นนั่งด้วยอาการงัวเงีย ง่วงก็ง่วง หิวก็หิว แต่เวลานี้คงต้องหาอะไรกินก่อนแล้วค่อยมานอนต่อ

     

                ฮันคยองเดินเข้าไปล้างหน้าในห้องน้ำแต่พอเห็นสภาพตัวเองแล้วก็อดตกใจไม่ได้ แป้งขาวๆที่ทาไว้เมื่อคืนจนติดแน่นทนนาน แถมชุดที่ใส่ยังเป็นชุดผีจีนขืนลงไปทั้งอย่างนี้หอคงแตกเป็นแน่แท้ คิดได้ดังนั้นฮันคยองจึงถอดชุดแฟนซีออกคว้าเอาเสื้อกล้ามกับกางเกงขาสั้นที่แขวนตากอยู่ตรงนอกระเบียงมาใส่ เดินออกไปหยิบกระเป๋าสตางค์เตรียมตัวลงไปหาของกินข้างล่าง

     

                ฮันคยองจะไปไหน ฮยอกแจที่เพิ่งสะลึมสะลือตื่นขึ้นมาเพราะเสียงนาฬิกาเอ่ยถาม ลืมตาขึ้นมามองรูมเมทได้แวบเดียวเปลือกตาก็ปิดลงอีกครั้ง

     

                ไปหาของกิน เอาอะไรมั้ย

     

                งั้นซื้อต๊อกโบกกีมา...โอ๊ะ!” ลุกขึ้นนั่งเพื่อจะสั่งของที่ตัวเองอยากกินแต่แล้วฮยอกแจกลับร้องออกมาซะเสียงดังลั่นห้องก่อนจะเงียบไปเฉยๆ ทำเอาฮันคยองต้องรีบถลาเข้ามาดู

     

                เป็นอะไร เอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง พลางจับนูนจับคลำนี่หาต้นเหตุของเสียงร้องนั้น

     

                ปวดคออ่ะ สงสัยเมื่อวานมันไปหน่อย ฮยอกแจส่งยิ้มแหยๆมาให้ ยกมือขึ้นลูบต้นคอโดยที่นั่งเอียงคอไว้ไม่กล้าขยับไปไหนเพราะกลัวว่ามันจะเจ็บขึ้นมาอีก

     

                ก็สะบัดมันเข้าไปสิหัวน่ะ สงสัยคงต้องรับยาแทนต๊อกแล้วล่ะมั้ง ฮันคยองว่าอย่างล้อๆ

     

                โอ๊ย! ปวดๆๆ พอขยับทีมันก็รู้สึกปวดแปลบจนไม่อยากจะขยับไปไหน ฮยอกแจเลยได้แต่ระบายออกมาทางคำพูด ทำเอาฮันคยองนั่งหัวเราะชอบใจ

     

                งั้นก็ไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดก่อนแล้วค่อยกลับมานอนจะได้สบายตัว ฮันคยองบอกพลางฉุดฮยอกแจให้ลุกขึ้นพาเดินไปที่ห้องน้ำพร้อมกับเตรียมชุดที่จะใส่ไว้ให้เสร็จสรรพ แต่พอเห็นชุดที่ฮยอกแจใส่อยู่สมองมันก็พากลับไปนึกถึงเรื่องเมื่อคืน นี่หรือสภาพนางยั่ว ถ้าผู้ชายพวกนั้นมาเห็นฮยอกแจตอนนี้ยังจะทำลายหกกันอีกมั้ยนะ แต่เขาบอกได้เลยว่าฮยอกแจตอนนี้ดูเซ็กซี่กว่าเมื่อคืนเสียอีก

     

                จะมีใครปวดเหมือนฉันมั้ยเนี่ย บ่นอุบอยู่คนเดียวก่อนจะปิดประตูห้องไป

     

                มีแน่ล่ะ ฮันคยองตะโกนตอบกลับไปก่อนจะย้ายตัวเองออกมาจากห้อง รอยยิ้มน่ามองฉาบอยู่บนใบหน้าตลอดเวลา ทำไมกันนะวันนี้ถึงรู้สึกอารมณ์ดีจัง

     


     

     

                “ซีวอน! ลงไปซื้อยาให้หน่อยดิ๊ ปวดคอ! เร็วๆ เสียงโวยวายของฮีชอลดังมาแต่ไกลเมื่อซีวอนก้าวออกมาจากห้องน้ำ แม่เลดี้ฮีฮีที่แฝงฤทธิ์อยู่เมื่อคืนบัดนี้นั่งทำหน้าหงิกอยู่บนเตียง

     

                จะใช้คนน่ะหัดพูดให้มันเพราะๆหน่อยดิ จิกหัวอย่างกับทาส ไม่ซื้อให้หรอก ไปซื้อเองเลยไป ซีวอนตอบกลับด้วยน้ำเสียงยียวน ก็อยากว่าถ้าขอร้องดีๆจะยอมใจอ่อนลงไปซื้อให้อยู่หรอก แต่นี่เล่นโวยวายซะ จากที่สงสารเพราะเห็นนั่งบ่นอยู่นานสองนานเลยจะกลายเป็นรำคาญซะแล้ว

     

                ได้ฟังแบบนี้ฮีชอลยิ่งทำหน้าหงิกไปกันใหญ่ อยากลงไปซื้อเองอยู่หรอกนะแต่ขี้เกียจลากสังขารลงไป แถมร้านยามันต้องออกไปซื้อนอกมหาวิทยาลัยอีกต่างหาก

     

                อ่า~ ฉันขอโทษนะซีวอน ไปซื้อให้หน่อยนะ ขอร้องล่ะ มันปวดจนไม่อยากขยับไปไหนเลย เพื่อความสบายของร่างกายเลยจำทนพูดออกไป ฮีชอลทำหน้าทำตาให้ดูน่าสงสาร มือลูบคลำอยู่บริเวณต้นคออย่างปวดเมื่อย นึกย้อนกลับไปเมื่อคืนไม่น่าสะบัดหัวแรงเลยจริงๆ

     

                ซีวอนทำเป็นไม่ได้ยินเดินลอยหน้าลอยตาอยู่ในห้อง เพราะอยากจะแกล้งคนอวดดี รอฟังประโยคหวานๆกว่านี้อีกสักหน่อยเขาอาจจะยอมใจอ่อนออกไปซื้อให้ก็ได้

     

                ไปซื้อยาให้ฮีชอลคนนี้หน่อยนะครับซีวอน ฮีชอลปวดไปหมดแล้วเนี่ย เดี๋ยวจะให้รางวัลหอมแก้มหนึ่งทีเลยเอา ฮีชอลบอกน้ำเสียงน่ารักเสนาะหูคนฟังจนซีวอนต้องหันมาเลิกคิ้วใส่ จะมาไม้ไหนกันอีกล่ะเนี่ย

     

                ช่วงขายาวๆเดินเข้ามาหาฮีชอลที่นั่งอยู่บนเตียง สีหน้าของซีวอนยังคงเรียบเฉย แต่ฮีชอลนี่สิลุ้นสุดโต่ง เพราะไม่รู้ว่าจะโดนตอกกลับมาว่าอะไร ก็เล่นเสนอไปแบบนั้นแล้วอย่างซีวอนน่ะเหรอจะตอบตกลง

     

                อย่างนายใครเค้าอยากได้แค่หอมกันเล่า พูดจบก็ก้มลงจูบที่ริมฝีปากบางเบาๆแล้วผละออกมา ซีวอนยกยิ้มทะเล้นให้กับใบหน้าเหวอรับประทานของฮีชอลก่อนจะเดินไปที่ประตู

     

                แล้วจะซื้อมาฝากแล้วกันนะ บอกด้วยใบหน้ามีความสุขราวกับถูกรางวัลที่หนึ่งก่อนจะเดินออกไป ทิ้งให้ฮีชอลยังนั่งเอ๋ออยู่อย่างนั้น จนกระทั่งประตูห้องปิดลงคนโดนขโมยจูบถึงรู้ตัว

     

                ไอ้บ้าซีวอน! ไอ้โรคจิต!” นั่งโวยวายอยู่คนเดียว คว้าหมอนที่อยู่ใกล้มือปาไปที่ประตูด้วยความเขิน แต่แล้วก็ต้องหยุดการสะดีดสะดิ้งลงแค่นั้นเมื่อความปวดมันแล่นฉิวมาที่คอจนต้องล้มตัวนอน

     

                เจ้าเล่ห์นักนะชเวซีวอน

     

     

     

     

                คู่หวานชื่นอย่างหน้ากากทักซิโด้กับเซเลอร์มูนก็ยังคงนอนกอดกันไม่ดูวันเวลา เพราะถึงแม้คิบอมจะตื่นขึ้นมาได้สักพักใหญ่แล้วแต่ก็ยังนอนนิ่งให้ดงแฮหนุนแขนอยู่อย่างนั้น ก็คนกำลังมีความสุขจะทำลายช่วงเวลาดีๆให้โง่ทำไม

     

                เมื่อคืนหลังจากกลับมาถึงห้องดงแฮก็คะยั้นคะยอให้คิบอมที่มาถึงไปอาบน้ำจะได้นอนหลับสบายๆ พอต่างคนต่างน้ำอาบเสร็จ เจ้าเด็กบ๊องขี้อ้อนก็ดื้อดึงจะลากคิบอมมานอนเตียงเดียวกับตนเองให้ได้ โดยให้เหตุผลว่าไม่อยากนอนคนเดียว แล้วมีหรือคิบอมคนนี้จะขัดได้ เพียงแค่มือเรียวสวยคว้าหมับเข้าที่ข้อมือร่างกายของคิบอมก็โอนอ่อนเดินตามไปอย่างง่ายดาย แพ้ตลอด คิมคิบอมคนนี้คงต้องยอมแพ้ให้กับลีดงแฮตลอดกาล

     


     

                ส่วนห้องของอีทึกกับคังอินนั้นดูบรรยากาศจะอบอุ่นเสียเหลือเกิน เพราะเมื่อย่างกรายเข้ามาในห้องได้คังอินก็คว้าอีทึกที่กำลังหมดแรงเข้าไปนอนกอดทันที เมดผู้อ่อนเพลียก็ไม่ได้ขัดขืนหรือต่อต้านอะไรปล่อยแวมไพร์ผู้หิวกระหายได้ครอบครองร่างกายของตนด้วยอ้อมกอดสมใจอยาก

     

    อ้อมกอดที่แสนอบอุ่นจนไม่อยากจะลืมตาตื่นขึ้นมา

     


     

    ลานด้านล่างที่เคยคึกคักดูเงียบเหงาไปถนัดตา เพราะนักศึกษาส่วนใหญ่ยังไม่ลืมตาตื่นขึ้นรับอากาศยามเช้าของวันหยุดสุดสบายแบบนี้ แต่ถึงอย่างนั้นเรียวอุกกลับลากเยซองให้ลงมาทานมื้อเช้าที่ร้านอาหารด้วยกันจนได้ ทั้งที่พ่อรูมเมทแก้มป่องยังเดินลืมตางัวเงียอยู่แท้ๆ ทรมานคนอยากนอนจริงๆ

     

    ชินดง แทมิน ตื่นเช้าจังเลยนะ เรียวอุกร้องทักเสียงใสพลางลากเยซองไปนั่งกับชินดงและแทมิน

     

    เช้าที่ไหน เก้าโมงแล้วชินดงตอบพลางยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดู

     

    พอดีชินดงเค้าหิวน่ะเลยต้องลงมาด้วย ที่จริงก็ไม่อยากตื่นหรอก แทมินตอบพลางยิ้มน่ารัก

     

    เดี๋ยวไปซื้อข้าวก่อนนะ เรียวอุกพูดจบก็ลากเยซองไปเดินซื้อข้าวด้วยกันก่อนจะกลับมานั่งเพื่อคุยต่อ

     

    เรื่องรางวัลของพวกเราเอาไงดีล่ะ ได้มาตั้งสิบสองที่เราจะไปเที่ยวไหนกันดี แทมินเริ่มชวนคุยเมื่อนึกถึงรางวัลที่พวกเขากวาดมาซะเรียบเมื่อวานนี้

     

    สงสัยเราต้องรวมกลุ่มประชุมกันแล้วล่ะ เรียวอุกเสนอก่อนจะตักข้าวเข้าปาก

     

    เย็นนี้ดีมั้ย อยากรู้เร็วๆจังว่าเราจะไปเที่ยวไหนกัน แทมินบอกอย่างตื่นเต้น

     

    แต่รางวัลของเรารวมกันมีแค่สิบสองที่นั่งเองนะ แต่เพื่อนพวกเรามีสิบสามคน เพื่อนร่างท้วมที่สุดในกลุ่มพูดขึ้น

     

    ก็ให้ซีวอนออกเองไงถ้าอยากไปเขารวยจะตาย ส่วนอีกคนเอาเยซองแล้วกัน เรียวอุกตอบก่อนจะหันไปยิ้มให้เยซองที่นั่งสะลึมสะลือกินข้าวของตัวเองไปเงียบๆ แต่พอได้ยินแบบนี้ถึงกับตื่นเลยทีเดียว

     

    ไม่เอานะ ใครจะออกเอง เสียเปรียบเห็นๆ เยซองว่าหน้างอพลางตักข้าวกินต่อ

     

    เอาเหอะๆ แล้วเดี๋ยวค่อยคุยกันอีกที ชินดงสรุปทุกคนก็หันไปสนใจอาหารตรงหน้าตัวเอง

     

    รีบกินให้เสร็จจะได้กลับขึ้นไปพักผ่อนกันต่อเสียที พอตอนเย็นจะได้มาปรึกษากันว่าจะเอายังไงกับเรื่องของรางวัลที่ได้มา ไม่ใครก็ใครสักคนที่ต้องยอมเป็นผู้เสียสละเพื่อคนผู้มากก็งานนี้แหละ

    -------------------------------------------



    kr...Talk
    สวัสดียามเช้าจ้าเพื่อนๆ มาอัพตอนที่27ให้แล้วนะ
    รีบตืนมาอ่านกันเร็วๆ
    คยูของพวกเรานับวันยิ่งห้ามใจตัวเองไม่อยู่ไปใหญ่แล้วนะ
    แต่ซองมินของพวกเราก็ไม่เคยจะปฏิเสธเลยนะ
    สำหรับสาวกคยูมินขอเตือน หลังจากตอนนี้คยูมินจะเริ่มจัดเต็มค่ะ
    เตรียมตัวเตรียมใจไว้นะ ฮ่าๆๆๆ

    วันที่15 มิ.ยอย่าลืมไปอุดหนุนสาหร่ายมาชิตะกันนะ
    แต่อย่ามาแย่งบัตรวีไอพีกับไรเตอร์นะ
    ผลงานการมาเป็นพรีเซนเตอร์เดี่ยวของคยูฮยอนสามีของซองมิน(หรือไรเตอร์)
    ก็ช่วยกันสนับสนุนด้วยนะจ๊ะ

    ตอนหน้าเจอกันใหม่นะจ๊ะ
    จะพยายามมาอัพ ไม่ให้หายไปนานนะ

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×